“แม่งเอ้ย” เขาสบถแล้วเดินหันหลังเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง จัดการสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ก่อนที่หญิงสาวจะมาเคาะประตูให้เรียบร้อยเพราะไม่อยากให้ค้างคา แล้วอีกอย่างเขาเองก็ไม่รับประกันความปลอดภัยของหญิงสาวที่นอนเมาแอ๋อยู่ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน
“ปล่อยตัวขนาดนี้เลยเหรอ เขาเดินมานั่งข้างๆ หญิงสาวที่มีผ้าห่มคลุมตัวไว้อยู่อย่างมิดชิด ถ้าพี่ชายเธอมรู้ว่าเธอเมาแล้วมาที่นี่มีหวังคอขาดแน่ๆ “เดี๋ยวจะให้ไอ่สินมารับกลับแล้วกัน จะได้จบๆ ไป” เขาบ่นพึมพำพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พรวด! วาโยดีดตัวลุกขึ้นมานั่งทันทีเมื่อได้ยินชื่อพี่ชายของตัวเอง “ พี่สินเหรอ ไหนอ่าาาพี่สิน” หญิงสาวจับแขนชายหนุ่มไว้ “ผมจะโทรให้พี่ชายคุณมารับแล้วกัน อยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกถ้ามีใครมาเห็นเข้า เธอได้ดังแน่ๆ” “อย่าโทรนะคะ ถ้าพี่โทรหนูจะบอกว่าพี่ต้าปล้ำหนู เพราะถ้าพี่ชายหนูรู้ว่าหนูเมาแล้วมาหาพี่แบบนี้ มีหวังหนูตายแน่ๆ พ่อกับแม่หนูอีก” หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือไหว้ “แต่ไม่กลัวผมเลย…ว่างั้นเถอะ ฮึๆ” เขาหัวเราะในลำคอ “พี่ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก พี่น่ะต้องกลัวหนูมากกว่า” ร่างบางเอามือแตะใบหน้าของร่างใหญ่เบาๆ จนเขาเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่น “ผู้หญิงอะไรเมาแล้วอ่อยเก่งชมัด คงจะผ่านมาเยอะจนไม่กลัวอะไรแล้วสินะ” เขาเชยคางเธอขึ้นพร้อมกับเอามือลูบริมฝีปากล่างของเธออย่างลืมตัวก่อนจะรีบชักมือออกแล้วดันใบหน้าของเธอให้ออกห่างจากตัวของเขา “หนูไม่เคยมีใคร และไม่เคยมีแฟนด้วย เพราะหนูชอบพี่ต้าแค่คนเดียวตั้งแต่ม.ต้นจนถึงตอนนี้” “รู้อยู่ว่าชอบ ก็ตอนเรียนคุณเล่นมองผมจนผมทำตัวไม่ถูก บางทีก็อึดอัดแต่ก็เข้าใจแหละช่วงนั้นผมฮอตมากๆ” เขาพูดพร้อมกับยักไหล่ “พี่ต้าก็รู้นี่คะ ว่าหนูชอบแต่ทำไมยังเฉยชากับหนูค่ะ ตอนนั้นหนูอาจไม่สวยแต่ตอนนี้หนูสวยมากนะ มีคนมารุมจีบหนูเพียบ แต่หนูไม่สนใจใครเลยค่ะนอกจากพี่ต้าแค่คนเดียว” “เด็กบ้า” เขาพูดสบถพร้อมกับมองหญิงสาวด้วยสายตาคู่งามที่ดุดันและมีเสน่ห์ของเขา “ผมว่าคุณเมามากแล้ว เดี๋ยวผมจะส่งคุณกลับบ้านตอนนี้แหละ” เขาเดินไปหยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่มาสวมใส่ให้เธอพร้อมกับดึงฮู้ดขึ้นมาคลุมหัวให้ แล้วเขาก็ใส่หมวกแก๊ปพร้อมแมสปกปิดใบหน้าเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์แล้วพยุงเธอออกมา เมื่อมาถึงนลานจอดรถ เขาดันตัวเธอให้เข้าไปนั่งพร้อมกับปรับเบาะรถยนต์ให้เธอนอนราบไป “บ้านอยู่ไหน” เขาถาม “บ้านหนูเหรอ แป๊บนะ”เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมพิมพ์บางอย่างลงไปในแอปพลิเคชันที่เธอคิดว่าเป็นแอปแผนที่ “นี่มันแอปสั่งของ คุณจะสั่งอะไร ผมอยากจะบ้าตาย” ชายหนุ่มเริ่มหัวร้อนทันทีเพราะเธอทำให้เขาเสียเวลานอนมากๆ ปกติก็ไม่ค่อยได้นอนอยู่แล้ว “ทำไมถึงยังพูดผมกับหนูล่ะคะ แทนตัวเองว่าพี่ไม่ได้เหรอ” เธอเอียงคอมองเขาพร้อมสายหวานเยิ้ม “ไม่อยากสนิทด้วย…เอาโทรศัพท์มานี่ เดี๋ยวหาเอง” เขาดึงโทรศัพท์เธอมาพร้อมกับกดไปที่แอปสั่งของแล้วกดดูที่อยู่ของเธอ และจิ้มไปที่โลเคชั่นทันที เมื่อรถสปอร์ตหรูสีดำมาจอดที่หน้าคอนโดของวาโย เขาลงไปเปิดประตูรถให้วาโย “ถึงละ ห้องอยู่ไหน” เขาจับแขนเธอบีบเบาๆ “ขอบคุณพี่ต้าค่ะ” เธอยกมือไหว้เขาแล้วเดินโซเซนิดหน่อยเดินเข้าไปในคอนโด ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะเดินตามเข้าไปไม่ได้ เกิดไปเคาะประตูห้องของใครแล้วจะแย่ อาจจะทำให้เขาเสียชื่อเสียงไปด้วยหากเกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอ ยังไงเสียก็ต้องตามไปส่งเธอให้ถึงห้องอย่างปลอดภัย จนเธอกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบน เขาก็เข้าไปในลิฟต์กับเธอด้วย เดินมาสักหน่อยในที่สุดก็ถึงห้องของเธอทำให้เขาโล่งใจเป็นอย่างมาก “อ้าวววพี่ต้าาา ยางงงไม่กลับไปอีกเดี๋ยวก็ดึงเข้าห้องด้วยเลย” เธอไม่พูดเปล่ากลับดึงแขนของเขาให้ตามเธอเข้ามาในห้องด้วย “ทำอะไร คุณนี่มันสุดๆ เลยจริงๆ” เขาสลัดมือของเธอออกอย่างแรง จนมันทำให้เธอล้มลงพร้อมกับต้าที่สะดุดเชือกรองเท้าผ้าใบของตัวเองล้มไปทับตัวของเธออย่างรวดเร็ว พลั่ก! เขาล้มทับเธอไม่เป็นท่าแต่โชคดีที่เขายังเกร็งแขนตั้งฉากกับพื้นไว้ข้างหนึ่ง ไม่งั้นเธอได้กระดูกหักแน่ๆ ถ้าเขาล้มใส่เธอจังๆ เพราะต้าตัวใหญ่กว่าเธอมากโขเลยทีเดียว หญิงสาวเอื้อมมือมาจับใบหน้าของต้าแล้วลูบลงมาที่หนวดเขียวครึ้มตรงบริเวณแถวคางของเขา “แม้แต่ในฝันพี่ก็ยังหล่ออีกนะคะ“ วาโยที่นอนเงยหน้าอยู่นั้นพูดพร้อมทั้งหลับตาพริ้ม เขาคว้าหมับที่ข้อมือเล็กของเธอทันที “เมาแล้วอยากหรือไง มา..เดี๋ยวผมจะสนองให้คุณเอง” ชายหนุ่มอดทนมาจนถึงที่สุดแต่สาวเจ้ากลับยั่วยวนเขาไม่เลิก แถมยังใช้สายตาเชื้อเชิญเขาไม่หยุดแบบนี้ ใช่ว่าเธอจะไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย เขาเองก็มองเธอออกจะบ่อยเพราะเห็นว่าเธอก็น่ารักดี แต่สายตาของเขาไวกว่าเลยหลบตาเธอได้ทันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกันนั้นแล้ว แต่เพราะปัญหาครอบครัวและบวกกับที่เขาต้องไปเรียนต่อต่างประเทศเลยไม่ได้สนใจตัววาโยมากนัก จนเขากลับมาเจอเธออีกครั้งที่บาร์ที่เชียงใหม่ครั้งนั้น แล้วก็วันนี้รวมทั้งตอนนี้ด้วย เขาช้อนร่างของเธออุ้มขึ้นไปบนเตียงนอนที่อยู่ใกล้ๆ เขาวางเธอลงพร้อมกับถอดเสื้อคลุมและหมวกแก๊ปของตัวเองออกโยนไปข้างเตียงอย่างเร่งรีบเพราะอารมณ์ความต้องการของเขามันพลุ่งพล่านจนถึงขีดสุด เขาถอดเสื้อคลุมของเธอออก ทำให้เห็นสองเต้าที่ทะลักออกมาจนเกาะอกปิดแทบไม่มิด เขามีแววตาลุกวาวเปล่งประกายราวกับว่าถูกใจสิ่งสวยงามที่อยู่ตรงหน้านี้ ฝ่ามือหนาก้มลงจูบบดขยี้ริมฝีปากของหญิงสาวอย่างรุนแรงจนคนตัวเล็กดันอกของเขาออก เพราะหายใจไม่ออกเนื่องจากเขาจูบเธอนานจนเกินไป “ปล่อย” เธอเอามือดันใบหน้าของเขาออกมาเมื่อเขาโน้มลงมาหอมซอกคอของเธอลงไปจนถึงเนินอก กลิ่นกายหอมของเธอทำให้เขายิ่งเตลิดไปกันใหญ่ ในเมื่อเหยื่อสมยอมให้เขากินขนาดนี้มีหรือที่เขาจะปฏิเสธได้ ถ้าเธออยากนักเขาก็จะสนองให้เอง อารมณ์เขาคุกรุ่นเริ่มรุนแรงจนมันดันเป้ากางเกงออกมาจนตุง เขาแทบจะทนไม่ไหวเมื่อเห็นเนินสองเต้าของเธอเต็มตาขนาดนี้เลยก้มลงไปจูบและดูดริมฝีปากของเธออีกครั้ง แต่หญิงสาวก็ยังนอนไม่ได้สติ เสี้ยววินาทีที่เขาฉุกคิดขึ้นมา “แบบนี้มันเรียกว่าข่มขืนนี่หว่า” เขาดันตัวเองขึ้นจากร่างบางอย่างตัดใจ “แม่งเอ้ย เกือบงานเข้าแล้วกู” เขารีบดึงผ้าห่มมาคลุมให้เธอเพื่อปกปิดเนื้อนวลขาวที่ล่อสายตาของเขาอยู่ เขาเดินหาเสื้อคลุมและหมวกแก๊ป เพราะไม่รู้ว่าเขาโยนมันไปทางไหนบ้างบวกกับความสับสนที่ความคิดและความรู้สึกของตัวเองมันสวนทางกันจนมันเกิดการต่อสู้ภายในจิตใจของเขาอย่างหนัก เมื่อเขาคิดได้เช่นนั้นก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องของเธอไปอย่างรวดเร็วเสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าดังขึ้นภายในห้องของวาโย เธอรีบควานหาและปิดเสียงพร้อมกับเอาหน้าซุกไปใต้ผ้าห่มอุ่นๆ เพราะยังไม่อยากตื่น เธอค่อยๆ ลุกขึ้นมา “โอ๊ย ปวดหัวชะมัด เมื่อคืนดื่มไปเยอะด้วย” เธอหรี่ตามองสำรวจไปภายในห้องและสำรวจตัวเองก็เห็นเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ วางอยู่ที่ปลายเท้าของเธอ หน่วยประมวลผลในสมองของเธอก็ค่อยๆ ประมวลภาพทีละเหตุการณ์กับเรื่องเมื่อคืน “กรี๊ดดดดด” วาโยกรีดร้องลั่นจนสุดเสียง “เมื่อคืน เมื่อคืนนี้” เธอรีบลุกไปหยิบเสื้อคลุมสีดำตัวโคร่งมาดู พลิกไปมาเพื่อดูให้แน่ใจ “อร๊ายยยย เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไปต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ฝันไป! ฉันแค่ฝันไปเท่านั้น” เธอล้มตัวลงนอนต่อแต่ก็ต้องลุกดีดตัวขึ้นมาหยิบเสื้อตัวใหญ่มาดูอีกครั้ง “ตายแน่ๆ ฉัน ทำไมเมาแล้วเรื้อนแบบนี้” หญิงสาวนั่งกุมขมับ เพราะทั้งปวดหัวจะระเบิดแถมยังไปก่อเรื่องไว้เมื่อคืนอีก จะทำยังไงดี ไม่น่าเมาขนาดนั้นเลย วันนี้กับการเรียนเธอแทบไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนเลย สมาธิไม่มีแถมยังนั่งเหม่อลอยอีก เพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องนั้น เธอกล้ามากนะที่เมาแล้วไปหาผู้ชาย แล้วไม่ใช่ใครที่ไหนกลับเป็นไอดอลที่เธอชอบอีก ใครก็อยากดูดี ดูน่ารักในสายตาขอ
แม้ว่าร่างสูงใหญ่จะเดินขึ้นคอนโดไปแล้ว แต่ว่าเธอยังคงจอดรถอยู่ที่เดิมมาได้เกือบยี่สิบนาทีแล้ว เขาเคยจูบเธอ แล้วยังไงต่อเขาไม่พูดว่าขอโทษ หรือเอ่ยถามความรู้สึกของเธอเลยด้วยซ้ำว่าเธอจะยังชอบเขาอยู่ไหมที่ไม่ให้เกียรติเธอแบบนี้ หญิงสาวนึกถึงรสชาติจูบของเขาที่เหมือนคนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น แต่เธอก็จำได้ว่าเธอจูบโต้ตอบเขาไปเช่นเดียวกัน แล้วยังไงต่อนั่นมันจูบแรกของเธอนะ จูบแรกของเธอเป็นของพี่ต้าเหรอ เธอนึกหลายสิ่งหลายอย่างจนฟุ้งซ่าน แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาก็พอจะชอบเธออยู่บ้างเหมือนกัน พี่ต้ารู้ว่าแอคเคาท์นั่นเป็นของเธอ ทำไมถึงยังส่งอิโมจิรูปหัวใจมาให้เธอล่ะ เพราะเธอส่งข้อความไปบอกรักเขาเหรอ แต่เขาก็น่าจะส่งอิโมจิรูปยิ้มมาก็ได้นี่ ครั้งนี้ภาพมันชัดมาก นั่นเพราะเขาจูบเธอ เธอเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อกี้ที่เขาชวนเธอขึ้นไปข้างบนห้องของเขา เขาพูดจริงหรือพูดลองใจเธอกันแน่วาโยเอาหัวโขกกับพวงมาลัยเบาๆ เพื่อดึงสติ นี่เธอชอบเขามากจนเป็นขนาดเลยเหรอ‘ทำไมพี่ถึงจูบหนูคะ’ เธอพิมพ์ข้อความแชตถามเขาในรถยนต์ที่ยังไม่ได้ขยับไปไหนตั้งแต่ที่ต้าลงไป‘อยู่ไหน’
“อยากลองมั้ย” เขาถามพร้อมกับจับมือของเธอมาหอมอย่างอ่อนโยน“ลองจูบอีกเหรอคะ หนูไม่อยากลองแล้วค่ะ” เธอก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “อยากมีอะไรกับพี่มั้ย…คืนนี้” เขาถามเสียงต่ำแหบพร่า“พี่ต้า” เธอเรียกชื่อของเขาเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ“ถ้าไม่ยอม พี่ก็คงทำอะไรไม่ได้ก็พี่รับปากแล้วนี่เนอะว่าจะไม่ทำ” เขาเดินไปเปิดประตูให้เธอ พร้อมกับยื่นรอให้เธอเดินออกไป“พี่ต้าไล่หนูแล้วเหรอคะ หนูจะมีอะไรกับพี่ได้ไง เราไม่ใช่แฟนกันซะหน่อย” เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นเขาอารมณ์เปลี่ยนจากก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิง สายตาที่มองเธอนั้นนิ่งเรียบเแต่ซ่อนความดุดันไว้เหมือนกำลังตำหนิเธออยู่“พี่ถึงถามไง ว่าอยากลองกับพี่หน่อยไหม ถูกใจพี่หรือเปล่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน” เขากัดเม้มริมฝีปากของตัวเอง เรื่องนี้จะโทษเขาก็ไม่ได้ เธอเองก็เป็นฝ่ายจูบเขาเหมือนกัน เขาไม่ได้บังคับหรือทำให้เธอเจ็บเลยสักนิด แถมยังถามความสมัครใจจากเธออีก เขารู้ว่าเธอชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างนี่ก็เป็นครั้งแรกของเธอด้วย เธอจะทำยังไงดี หญิงสาวสลัดความคิดทั้งหมดที่มี เธอไม่น่าลังเลอะไรเลยด้วยซ้ำเขาอาจจะเป็นนายแบบไอดอลที่หล่ออย่างเดียว แต่นิสัยไม่ดีก็ได้
“จะกลับจริงๆ เหรอ” ต้าดึงมือของวาโยเอาไว้เมื่อเธอกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องของเขา“ค่ะ หนูต้องกลับแล้ว เพราะถ้าหนูอยู่ต่อพี่ต้องแกล้งหนูอีกแน่ๆ” เธอยืนก้มหน้าแดงเมื่อนึกถึง สิ่งที่เพิ่งทำกับเขาไปบนเตียงเมื่อกี้นี้“พี่ขอโทษ นะไม่คิดว่าจะปล่อยให้ตัวเองเลยเถิดขนาดนี้” เขาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง“แล้วหนูต้องทำยังไงต่อคะ” “ทำอะไร” เขาถามหน้างงๆ“หนูเป็นแฟนคลับของพี่ พี่เป็นคนแรกของหนูแต่เรา…ไม่ได้เป็นอะไรกัน” เธอพูดเว้นวรรคไว้ เพราะเขาบอกเธอเองว่าไม่อยากวาดฝันให้เธอ แล้วเธอก็เข้าหาและยอมเขาเอง ด้วยความเต็มใจ เพียงเพราะแค่ว่าอยากลองตามคำชวนของเขา“อืม เรื่องนั้นพี่ยังไม่แน่ใจ ถ้าพี่เปิดเผยเรื่องของเราตอนนี้มันคงไม่ดีแน่ๆ” นั่นน่ะสิ เขาเพิ่งเป็นนายแบบที่โด่งดังตอนมาอยู่ไทยสินะ ยังไงเขาก็ต้องโฟกัสเรื่องงานก่อนอยู่แล้ว“หนูก็ลองถามพี่ไปแบบนั้นแหละค่ะ” เธอหันไปยิ้มให้เขาอ่อนๆ ทั้งที่เพิ่งมีความสุขมาแท้ๆ แต่ทำไมถึงเศร้าแล้วล่ะ หรือเธอโลภมากเกินไปที่อยากเป็นแฟนกับพี่ต้าจริงๆ“พอรู้แบบนี้แล้วยังอยากมาหาพี่อยู่อีกไหม หรือว่าไม่อยากมาหาแล้ว” เขาจับไหล่ของเธอให้หันมาสบตากับเขา“อยากสิคะ” เธอเม้มปาก
ครืดดๆๆ เสียงโทรศัพท์ของพี่ต้าดังอยู่บนโต๊ะกระจกข้างโซฟาที่นั่งอยู่ เขาควานมือไปหยิบหาโดยไม่ได้มอง เพราะมัวแต่หมกมุ่นกับซอกคอของสาวน้อยอยู่ เขาชำเลืองมองชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอ ก็ทำเสียงชู่ปากใส่วาโยทันที“ครับพี่เบน” เขารับสายผู้จัดการสาวของเขาที่โทรเข้ามาตอนเกือบจะสองทุ่มครึ่งแล้ว วาโยนั่งอยู่นิ่งๆ และไม่กล้าขยับตัวไปไหน จึงทำให้ต้าเข้ามาจูบปากของเธอเบาๆ อีกครั้งด้วยความเอ็นดู“ครับพี่ เดี๋ยวผมจะลงไปเอาเดี๋ยวนี้แหละ” ชายหนุ่มกดวางสายแล้วหันมาพูดกับเธอที่นั่งนิ่งอยู่“พี่เบนผู้จัดการพี่โทรมา ให้ลงไปเอาเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งได้มา จะเอาไว้ถ่ายแบบพรุ่งนี้ เดี๋ยวพี่ลงไปเอาก่อนนะ ” “ทำไมพี่เขาไม่ขึ้นเอามาให้พี่ต้าที่ห้องคะ”“ผู้จัดการพี่เป็นผู้หญิงชื่อพี่เบน ส่วนผู้ชายชื่อพี่สิงห์ ปกติถ้าพี่สิงห์เอามาให้ เขาก็ขึ้นมาเลย แต่ถ้าเป็นพี่เบน ทางค่ายไม่อยากให้นายแบบอยู่กับผู้หญิงสองต่อสองไม่ว่าจะกับใคร พี่เลยต้องลงไปไงครับ”“อ๋อ ค่ะ แล้วหนูล่ะก็อยู่กันสองคนกับพี่ ค่ายจะไม่ว่าเหรอคะ”“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย โยเป็นแฟนพี่แล้วนะ” เขาลูบหัวของเธอขึ้นลงเพราะมันเขี้ยวในความไม่รู้ประสีประสาอะไรแบบนี้จนชายห
“โย เป็นยังไงบ้างเพลง” พี่สินวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น“หลับไปแล้วค่ะพี่ เดี๋ยวคืนนี้เพลงอยู่กับโยเองนะคะ”“ทำไมโย ถึงเป็นลมหมดสติล่ะ อย่าบอกนะ…ว่าพากันลดน้ำหนักไม่กินข้าวกินปลากันน่ะ” พี่สินขมวดคิ้วเข้าหากัน“ไม่ใช่หรอกค่ะพี่ โยไม่สบายด้วยก็เลยเป็นลม ดีนะที่เพลงมาเจอก่อน บอกให้ไปหาหมอตั้งแต่เช้าก็ไม่ไป”“พี่ล่ะเหนื่อยใจกับความดื้อของโยจริงๆ แล้วดูสิไม่สบายก็ไม่บอกพี่สักคำ คุณน้ายิ่งฝากให้พี่ดูแลลูกสาวเขาให้ดีๆ อยู่ด้วย” สินพูดถึงพ่อกับแม่ของวาโยที่ฝากฝั่งให้ดูน้องด้วยเพราะเธอออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว แถมสินยังเคยชวนให้ไปอยู่บ้านด้วยกันก็ไม่ไปอยู่ด้วย“แล้วเอาไงดีล่ะคะพี่สิน เพลงยังไม่โทรบอกพ่อกับแม่ของโยเลย” เพลงเงยหน้าถามผู้ชายที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีกรมที่ดูกระวนกระวายใจอย่างมาก เพราะเขาเองก็คงตกใจเหมือนเธอ วาโยเองไม่เคยเจ็บป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลย แทบจะไม่ค่อยป่วยเลยด้วยซ้ำ ถ้าเปรียบกับพี่สินเขายังป่วยบ่อยกว่าน้องสาวของตัวเองอีก“เดี๋ยวเรื่องนี้พี่จัดการเอง ยังไงก็ต้องบอกคุณน้า ลูกเขานอนโรงพยาบาลแท้ๆ เราปิดไม่ได้หรอก เผื่อคุณน้าจะได้ให้โยย้ายมาอยู่กับพี่เลย ต้องบังคับกันล่ะ”“งั้นเพ
แม้ว่าจะผ่านมาแล้วหลายเดือน สินก็ยังไม่รู้ว่าคนที่ทำให้น้องสาวตัวเองเสียใจและซึมไปคือต้าเพื่อนสมัยมัธยมของเขาเอง วาโยเก็บเงียบมาตลอดและหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอเขาด้วยเวลาที่เธอรู้สึกเศร้า แม้แต่ที่เธอไปพบจิตแพทย์ เพลงก็ไม่รู้เพราะไม่อยากทำให้เพื่อนและพี่ชายต้องคอยกังวลกับเธอไปด้วยวันนี้สินชวนวาโยออกไปเที่ยวทะเลด้วยกันกับเพื่อนๆ เพราะเป็นวันหยุดของเขา เธอตอบตกลงไปเพราะก็อยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง เพื่อนของพี่สินมากันสามคน รวมทั้งเธอและพี่ชายก็เป็นห้าคนพอดี ส่วนเพลงก็ไปเชียงใหม่หาหวานใจของเธอตั้งแต่เมื่อวานตอนเลิกเรียนช่วงบ่ายแล้ว “เฮ้ย พวกเอ็งอย่าคิดมาจีบน้องข้านะเว้ย ถ้าจีบมีเตะแน่ๆ” สินพูดออกมาเพราะเห็นว่าพวกเพื่อนๆ ของเขากำลังมองน้องสาวของตนเองที่เดินเล่นอยู่ริมชายหาดคนเดียวเพราะตอนนี้มันก็เริ่มเย็นมากแล้ว ผู้คนเลยเริ่มทยอยกลับ ส่วนสินกับวาโยและเพื่อนของเขาค้างที่นี่นั่นเอง“จีบอะไรวะ ข้ามองเพราะเห็นว่าน้องเอ็งพอโตแล้ว ก็สวยเลยนี่หว่า” เพื่อนอีกคนของสินพูด“เออ สวยแล้วก็เลิกมองน้องมันได้แล้ว เดี๋ยวไอ่โยมันจะเที่ยวไม่สนุกพอดี” สินพูดพร้อมกับจิบเหล้าเข้าปาก เพราะพวกเขาตั้งโต๊ะกันตั้งแต่บ่า
“ใครไปเยาะเย้ยเธอ เพราะพี่เองก็ไม่ได้ตลกกับสิ่งที่เธอทำเอาไว้กับพี่เหมือนกัน”“ทำอะไรคะ มีแต่พี่ต้าแหละที่ทำ และหนูก็ไม่อยากยุ่งกับพี่อีกแล้ว” เธอรีบดันปิดประตูจนถาดข้าวแทบจะหล่นจากมือ แต่ต้าก็จับไว้ได้ทัน แล้วดันตัวเธอให้เข้าไปในห้องแล้วปิดประตูทันที“พี่จะทำอะไรหนูคะ หนูร้องให้คนช่วยจริงๆ นะ” เธอถอยหลังหนีเขาอย่างเร็ว “ร้องสิ พี่เองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะมาไม้ไหนอีก”“ทำตัวใสซื่อ โกหกเก่งแต่พอถูกจับได้ ก็บีบน้ำตา” เขาพูด“จับอะไรได้ มีแต่พี่แหละที่ทำร้ายหนู พี่มันคนห่วยแตก” นี่เธอด่าเขาทั้งที่ยังยืนร้องไห้อยู่เหรอ“วาโย!” เขาพูดดังลั่นแล้วรีบเข้าไปรวบตัวเธออยู่ในอ้อมแขนของเขาทันที และที่เขาสัมผัสได้คือเธอผอมลงไปมาก ถ้าเขาออกแรงกับเธออีกนิดกระดูกเธอคงแตกแน่ๆ จึงค่อยๆ คลายวงแขนไว้อย่างหลวมๆ“ปล่อย! คนมักง่ายแบบพี่ไม่เห็นความรักของใครหรอก ที่ผ่านมาหนูถือว่าทำทานให้หมามันแล้วกัน” เธอดันอกกว้างของเขาออกจากตัวเอง“ให้หมาเหรอ? ในกระดาษโน้ตที่เขียนเอาไว้ให้พี่ ว่าด่าเจ็บแล้วนะ มาเจอตัวจริงด่าเจ็บกว่าอีก มานี่เดี๋ยวหมาตัวนี้มันจะช่วยสงเคราะห์ให้” เขาทั้งซุกไซร้และบีบข้อมือของเธอรวบไว้ด
ตอนพิเศษที่1ที่โรงเรียนมัธยม“เฮ้ยต้า มานี่เร็วมัวมองอะไรอยู่” เพื่อนชายถามเด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่กำลังนั่งกินข้าวในโรงอาหารพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาอยู่หลายคน“เปล่า กูไม่ได้มองนี่” ต้าปฏิเสธ“มึงมองน้องวาโยเหรอ”“เออๆ กูมองน้องเขา กูสงสัยว่าทำไม น้องเขามองกูจังวะหรือกูหน้าแปลกวะ”“แปลกอะไร มึงน่ะหล่อ สาวๆก็อยากมองเป็นธรรมดา ไปเร็วไปนั่งใต้ร่มไม้นั่นกัน” เพื่อนของต้าดึงให้เขาลุกขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ ในขณะที่ต้าเองก็แอบมองวาโยที่นั่งคุยกับเพื่อนอยู่เรื่อยๆที่หน้าโรงเรียนหลังเลิกเรียนต้าเห็นว่าวาโยยืนคุยอยู่กับสินท่าทางสนิทสนมคงจะเป็นแฟนกันสินะเขาคิดในใจ“มีแฟนอยู่แล้วยังมามองผู้ชายคนอื่นอีก” ต้าบ่นลอยๆแล้วเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ ก็เห็นว่าสินเดินเข้ามาในร้านแล้วหยิบถุงยางอนามัยหนึ่งกล่องแล้วไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์และวิ่งออกไปส่งให้กับวาโยเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เอาแต่จ้องมองเขานั่นเองเช้าวันต่อมา เขาเห็นวาโยนั่งมอไซค์มากับสินก็เลยยิ่งเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน เขาเลยไม่อยากสุงสิงกับแฟนใครและเลือกที่จะทำตัวนิ่งๆ หยิ่งๆ ดีกว่าเพราะหลังจากเรียนจบม.6 ต้าก็จะไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใ
“เห็นรอยสักพี่แล้วดิ เขินจัง” ต้าเกาหัวแก้เขิน“เห็นแล้วค่ะ หนูชอบมากนะคะ” ต้าถึงกับเอามือของเธอไปหอมอย่างรักจนสุดใจ“แล้วเรื่องลูกเขยแบบพี่ล่ะครับจะทำไง” ต้าถามอีกครั้ง“หนูยังไม่พร้อมค่ะ หนูต้องไปเรียนต่อป.โทที่อังกฤษอีก” “ไปเรียนที่อังกฤษเหรอ ไปกับใครล่ะ”“หนูสอบได้ทุนค่ะ ไปเรียนคนเดียวยื่นเรื่องตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ”“ดีเลย บ้านพี่ก็อยู่ที่อังกฤษไว้รอโยเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ ก็ประมาณสองปีสินะ”“แต่งงานเหรอคะ พี่ยังไม่เคยบอกรักหนูเลยจะแต่งได้ไงคะ”“ใครบอก พี่บอกรักเธอตั้งนานแล้วนะ เธอไม่สังเกตเอง”“ตอนไหนคะ” “ก็อิโมจิรูปหัวใจไง ที่พี่บอกรักเธอ ขนาดพี่ยังไม่เคยส่งให้แม่พี่เลยนะ เธอเป็นคนเดียวที่พี่ส่งให้”“อิโมจิรูปหัวใจใครก็ส่งได้ค่ะ”“พี่รักโยนะ พี่อยากอยู่กับเธอคนเดียว” เมื่อได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็ยิ้มหน้าบาน“หนูก็รักพี่ต้าค่ะ รักมาตั้งนานแล้วด้วย”“อันนี้พี่รู้แล้ว อยากให้พี่บอกรักโยเยอะๆไหม ชอบฟังไหม”“ชอบค่ะ ชอบฟัง” หญิงสาวพยักหน้าใสซื่
“แฟนพี่ต้าไงคะ”“แฟนพี่เหรอ ไม่จริงมั้ง พี่ไม่มีแฟน พี่ยังบอกเธออยู่เลย” เขาหมุนเก้าอี้กลับมามองเธอที่ยืนถือไดร์เป่าผมอยู่“เค้าบอกว่าเป็นแฟนพี่ต้านี่คะ เป็นตัวจริงของพี่ต้า หนูก็เลยต้องออกมาโดยไม่ได้บอกพี่” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่มองหน้าของหญิงสาวแล้วสบตาที่สั่นไหวของเธอเหมือนคนจะร้องไห้“ใช่วันที่พี่บอกว่า...จะลงไปเอาชุดกับผู้จัดการที่รออยู่ข้างล่างใช่ป่ะ ใช่วันนั้นไหมเพราะวันนั้นแหละที่พี่เจอโน้ตที่เธอเขียนด่าพี่แล้วแปะไปที่กล่องถุงยาง วันนั้นพี่โมโหจนเลือดขึ้นหน้าเลยรู้ไหม”“ใช่ค่ะ วันที่พี่ลงไปเอาชุด แต่หนูไม่ได้เขียนนะคะหนูจะเขียนด่าพี่ทำไม ก็พี่บอกหนูแล้วว่าไม่อยากวาดฝันให้หนู” หญิงสาวพูดเหมือนน้อยใจ ต้าจึงลุกขึ้นสวมกอดเธอ แล้วเดินไปหยิบโน้ตที่อยู่ในลิ้นชักเครื่องประดับมาคลี่ออกแล้วส่งให้เธอดู“หนูไม่ได้เขียนซะหน่อยไม่ใช่ลายมือหนูเลย แต่ด่าแรงมากนะคะ ใครบังอาจมาด่าพี่ต้าของหนู อุ้ย” เธอรีบเอามือปิดปากเมื่อหลุดพูดว่าพี่ต้าของเธอต้าอดใจไม่ไหวจึงจุ๊บเบาๆไปที่ริมฝีปากของเธอเพราะถูกใจที่เธอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาแบบนี้
“สกปรก” เธอเอ่ยมาสั้นๆ“ใช่สกปรก เธอพูดถูกแล้ว” เขาพยักหน้าเห็นด้วย“อย่ามาดูถูกหนูนะพี่ต้า หนูไม่ชอบ ถ้าไม่อยากถ่ายแบบก็ไม่ต้องถ่ายไม่เห็นต้องพูดจาดูถูกกันเลย”“พี่ดูถูกอะไร พี่แค่จะให้เธอทำความสะอาดห้องที่มันสกปรกอยู่นี่ไง ไม่ได้อยู่มาหลายเดือน ฝุ่นมันก็เกาะหนาไปหมด เธอเข้าใจว่าอะไร” เขาพูดพร้อมกับเอามือลูบโต๊ะแล้วหงายมือมาดูฝุ่น ทำอย่างกับว่าฝุ่นหนาเตอะทั้งที่เมื่อวันก่อนแม่ของเขาเพิ่งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเองชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินเบียดดันเธอเข้าไปจนชนมุม“หนูก็คิดว่า… ช่างมันเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมกับดันอกกว้างของเขาออก“คิดเรื่องอย่างว่าเหรอ เธอนั่นแหละคิดทะลึ่ง ทำความสะอาดมันก็ต้องใช้ร่างกายใช้แรงทั้งนั้น ฟุ้งซ่านนะเราน่ะ” ชายหนุ่มดีดหน้าผากของเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู วินาทีนี้เองที่เขาเห็นวาโยมองเขาด้วยสายตาเป็นประกายมีความสุขซ่อนอยู่ในนั้นและเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ เพราะเธอหน้าแดง แถมยังหลบตาก้มหน้าอมยิ้มอยู่ แต่ชายหนุ่มก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นเพราะไม่อยากให้เธอเขินอายจนหนีเขาไปนั่นเอง“งั้นตกลงค่ะ แต่ช่วยลดราคาให้ถูกลงเยอะๆหน่อยนะคะ เพราะหนูจะทำความสะอาดให้สุด
วันนี้แม่มาหาวาโยที่คอนโดเพราะมีเรื่องให้ช่วย เนื่องจากแม่ของวาโยนั้นทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองและยังขาดนายแบบมาช่วยโฆษณาให้ ซึ่งแม่ของเธออยากให้ต้าที่เป็นนายแบบเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายรูปกับเสื้อผ้าของเธอนั่นเอง จึงมาหาวาโยก่อนที่เขาจะกลับไปเมืองนอก เพราะสินบอกให้เธอมาหาลูกสาวให้ช่วยพูดกับเขาให้น่าจะได้เรื่องกว่าที่ตัวสินพูดเอง“นะโยช่วยพูดกับพี่เขาหน่อย เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันไม่ใช่เหรอ”“แม่คะ หนูไม่ได้สนิทกับพี่ต้าแล้วนะคะ”“งั้นแสดงว่าเคยสนิทสิ ถ้าแบรนด์เสื้อเราดังขึ้นมาเรารวยเลยนะโย ลองคิดดูสินายแบบดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้เสื้อเราจะดังขนาดไหน คนก็ต้องให้ความสนใจแล้วมาซื้อกันเยอะๆ แน่เลยแล้วอีกอย่างผ้าที่แม่นำมาตัดเย็บก็อย่างดีเลยนะรับรองนายแบบคนนั้น ไม่อายแน่ๆ แม่เอาแบบเสื้อมาให้ดูแล้ว เขาชอบไม่ชอบยังไงค่อยว่ากันทีหลัง ดีไหมลูก” แม่พูดเกลี้ยกล่อมเธอ“งั้นก็ได้ค่ะ หนูจะถามพี่เขาให้” เธอตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักแต่จะทำยังไงได้ล่ะ นี่มันธุรกิจครอบครัวของเธอ อีกหน่อยเธอก็ต้องมาดูแลต่ออยู่ดี ศึกษาไว้หน่อยก็แล้วกัน“ดีแล้วลูก ยังไงซะมันก็ต้องตกเป็นของหนู ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะ แม่จะรอฟังข่าวด
เมื่อต้าทานข้าวเย็นกับแม่ของเขาเสร็จ ก็ขับรถสปอร์ตหรูที่เขาเอามาจอดไว้ที่บ้านแม่ขับตรงไปยังคอนโดของเขาทันที แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมานอนที่นี่นานแล้ว แต่ภาพหลายๆ อย่างยังชัดเจนเมื่อนึกถึงโซฟาตัวนี้ที่เขาร่วมรักกับวาโยครั้งสุดท้าย หรือแม้แต่กล่องถุงยางอนามัยจำนวนมากที่เขาเปิดใช้ไปเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นก็ยังอยู่ที่ชั้นวางเดิม“ฮึ หมดอายุแล้วเหรอ” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อพลิกดูฉลากข้างกล่องก็อดขำไม่ได้“แกนี่น่าสงสารกว่าฉันอีกนะ อยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้วก็หมดอายุไป” เขาหยิบมันทิ้งลงไปในถังขยะทันที แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เคยมีหญิงสาวมานอนข้างๆ“ป่านนี้ ไปเป็นแฟนคลับของใครอยู่นะ” เขาพูดบ่นลอยๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู กดไปยังแอปอินสตาแกรม แล้วเปลี่ยนแอคเคาท์หลุมเพื่อไปส่องโปรไฟล์ของวาโย“ก็ดูมีความสุขดีนี่” เขาเลื่อนจนไปเจอรูปหนึ่งที่ถ่ายกับเพื่อนๆ ของเธอมีทั้งหญิงและชายหลายคน แต่เขาสังเกตได้ว่าในภาพมีผู้ชายโอบเอวของวาโยอยู่“มันเป็นใครวะ ยิ้มหน้าระรื่นเชียว” เขาเลื่อนๆ ดูไปหลายภาพ บางภาพเขาก็เคยดูแล้ว แต่มือดันลั่นไปกดถูกใจในรูปภาพของเธอเข้าให้ งานเข้าแล้วแต่นี่มันเป็นแอคหลุมของเขา
สองปีต่อมาวาโยเรียนจบปริญญาตรี ในขณะที่ต้าเองก็กลับไปอยู่บ้านที่เมืองนอกของเขาที่เคยซื้อไว้ตอนอยู่กับแม่ที่ต่างประเทศหลังจากที่เลิกรากับวาโยวันนั้นประมาณหกเดือนน่าจะได้ เขาก็หันหลังให้วงการนายแบบทันที ใจจริงอยากจะเลิกตั้งแต่เดือนแรกด้วยซ้ำ แต่ติดที่เขายังมีสัญญาถ่ายแบบอยู่กับหลายบริษัทจึงไม่สามารถยกเลิกงานพวกนั้นได้ ต้ามีธุรกิจอสังหาอยู่หลายแห่งในเมืองนอกที่ทำกับเพื่อน และของเขาเองก็มีอยู่สองที่ น่าจะเป็นเวลาสองปีที่เขาถอยห่างจากวงการบันเทิงมา แต่ก็มีบ้างที่เขายังเดินแบบอยู่เพราะผู้ใหญ่ขอ เขาจึงบินไปมาอยู่ที่ไทยหลายครั้งปีนี้เขาอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความสำรวมมากขึ้น และเก็บอารมณ์เก่งกว่าเดิมด้วยซ้ำวันนี้ชายหนุ่มบินกลับมาไทยเพื่อมาเยี่ยมแม่ของเขาที่บ่นคิดถึงแต่ลูกชายตลอดเวลาชายหนุ่มร่างสูงที่ยังหุ่นดีเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมตรงที่เขากล้ามใหญ่ขึ้นเนื่องจากการออกกำลังกายอย่างหนักหลังเลิกงานและยามว่างที่เขาไม่ได้ออกไปดื่มกับเพื่อนๆทันทีที่ลูกชายเดินลากกระเป๋าเข้าบ้าน แม่ของเขาก็รีบวิ่งมารับและสวมกอดเขาจนแน่นราวกับว่ากลัวลูกชายของเขาจะหนีกลับไปอย่างไงอย่างงั้น
“อยากรู้จริงๆ เหรอ” เขาถามเธอ“อยากรู้อะไรคะ” เธอถามเขาให้แน่ใจอีกครั้ง“อยากรู้เหรอ ว่าทำไมพี่ถึงไม่อยากคุยตอนนั้น อ่านแล้วไม่ตอบ ก็นี่ไง!”“ขนาดเธอยืนต่อว่าพี่อยู่ ไอ้นี่ของพี่มันยังแข็งอยากเอาเธออยู่เลย” เขาไม่พูดเปล่ากับจับมือของเธอไปกำแท่งเนื้อของเขาที่มันแข็งจนพร้อมจะใช้งานแล้ว“ทะลึ่ง” เธอรีบชักมือออกอย่างเร็ว“พี่พูดจริงๆ ในหัวพี่มันคิดแต่เรื่องอย่างว่ากับเธอคิดแค่กับเธอแค่คนเดียวนะโย” เขาเดินมาสวมกอดเธอจากทางด้านหน้าโดยที่หญิงสาวไม่ได้ขัดขืนอะไร“พี่ยังไม่รู้เลย ว่าโยโกรธพี่เรื่องอะไรอีกบอกพี่ได้ไหม” เขาจับใบหน้าของหญิงสาวแล้วจะจูบลงไปที่ริมฝีปากนุ่ม แต่หญิงสาวกลับเบี่ยงหน้าหนี ไม่ยอมให้เขาจูบง่ายๆ“หนูเบื่อที่ต้องเห็นพี่เป็นข่าวกับคนอื่น หนูไม่อยากเสียใจอีก”“แล้วพี่เลือกได้เหรอโย งานพี่มันเป็นแบบนี้” เขาใช้สายตาเศร้าสร้อยมองมาที่หญิงสาวเผื่อว่าเธอจะเห็นใจเหมือนครั้งที่ผ่านมา“แต่หนูเลือกได้นี่คะ หนูว่าอยู่แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ต้องวุ่นวายต่อกัน สบายใจจะตาย” หญิงสาวพูดหัวเราะเชิงขบขันที่เหมือนว่าเธอกำลังจะบอกเลิกเขา แต่ทั้งสองก็ไม่เคยคบกันเลยด้วยซ้ำ“หนูเบื่อที่ต้องอยู่แต่ในห้อง
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาต้าคิดว่าครั้งนี้วาโยโกรธเขานานเกินไปแล้ว เธอไม่เห็นแถลงข่าวของเขาเหรอที่บอกว่าไม่ได้มีอะไรกับโรส ทำไมถึงยังนิ่งอยู่ เขาเห็นว่าเธอเงียบเขาเองก็เลยเงียบเหมือนกัน แต่ครั้งนี้กลับเป็นเขาที่ทนไม่ไหวซะเอง จึงกดโทรหาหญิงสาวในทันที“ของที่เอามาให้พี่น่ะ พี่ไม่อยากได้หรอกนะ มาเอาไปคืนด้วย” ชายหนุ่มร่างสูงพูดกับเธอผ่านโทรศัพท์และหวังว่าหญิงสาวจะง้อเขาแต่ทำไมคำพูดของเขามันฟังดูเหมือนหาเรื่องทะเลาะกันล่ะ“งั้นพี่ต้าทิ้งได้เลยค่ะ หนูเองก็ไม่อยากได้แล้วเหมือนกัน” ตื้ดๆๆ หญิงสาวกดวางสายทันที“ไม่อยากได้แล้วเหมือนกันเหรอ ใจร้ายมากนะโย ถ้าครั้งนี้เธอบล็อกเบอร์พี่อีก เราได้เห็นดีกันแน่” ต้าจึงกดโทรออกอีกครั้ง“มีอะไรอีกคะพี่ หนูเรียนอยู่” เธอรับสายพร้อมพูดกระแทกเสียงเข้ามาในโทรศัพท์ จนเขาเองแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวาโยจะตะคอกใส่เขาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวแบบนี้“แค่นี้ต้องตะคอกพี่ด้วยเหรอ ออกมาเจอกันหน่อยสิครับ” เขาพูดเสียงอ่อนลง“หนูไม่มีอะไรจะคุยกับพี่ต้าค่ะ” เธอพูดตัดบท“แต่พี่มี…เรื่องไอ่สินพี่ชายของเธอ” เขาพูดทิ้งท้ายไว้เพราะถึงยังไงหญิงสาวต้องอยากรู้แน่ๆ ถึงจะโดนไอ่สินตามมากระทื