ภายในห้องที่ดูสะอาดเรียบหรูโทนสไตล์โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์ถูกจัดเข้ากันเป็นอย่างดี บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของห้องว่าเป็นคนช่างเลือกช่างคัดสรรแค่ไหน ประตูตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนขนาดใหญ่ภายในห้องแต่งตัวถูกเปิดออก
ชายหนุ่มร่างสูงสง่าสมส่วนนุ่งผ้าขนหนูสีขาวพันเอวเอาไว้หลวมๆ ครืดๆๆ เสียงโทรศัพท์ของเขาสั่นบนโต๊ะ เขาเดินไปหยิบดูและรับสายในทันที “ครับพี่” “ต้า เดี๋ยววันนี้จะให้พี่เบนไปรับนะ ถ้ายังไงก็ไปเจอกันที่งานแล้วกัน พี่จะต้องไปเตรียมตัวคอยนายที่งานด้วย” พี่สิงห์ผู้จัดการส่วนตัวของเขาโทรมาบอกว่าจะมีผู้จัดการอีกคนมารับแทนเขา “ตกลงครับพี่เดี๋ยวเจอกันครับ” แล้วเขาจึงปลดผ้าขนหนูลงไปกองกับพื้น ด้วยกายเปลือยเปล่าเนื่องจากอยู่คนเดียวเลยไม่ต้องระวังอะไรมากนัก แล้วอีกอย่างเขาไม่เคยจ้างแม่บ้านให้เข้ามาทำความสะอาดในคอนโดของเขาเลย เพราะเขามักจะทำความสะอาดเองอยู่เสมอ ส่วนเสื้อผ้าเขาส่งซักรีดอีกทีหนึ่ง โดยมีคนที่บ้านแม่ของเขามารับไปทำให้ เหตุที่เขาย้ายมาอยู่ข้างนอก คนเดียวเพราะว่าเขาต้องการเป็นส่วนตัวมากกว่า เวลากลับดึกหรือทำงานดึกๆ จะได้ไม่ต้องมีใครมานั่งรอ แม่ของเขาเลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดี และฐานะทางบ้านของเขาก็รวยพอสมควร แม่กับพ่อของเขาแยกทางกันตั้งแต่ตอนที่เขาอายุสิบแปดก็คือตอนที่เขาย้ายมาเรียนม.6 โรงเรียนเดียวกับวาโยนั่นเอง หลังจากที่เขาเรียนจบก็ได้ย้ายตามไปอยู่กับแม่ของเขาที่ได้สามีใหม่เป็นฝรั่ง และพ่อของเขาก็ได้ภรรยาใหม่ก่อนหน้าแม่ของเขานั่นเอง แต่การเลิกราของทั้งสองไม่มีมือที่สาม แต่เกิดจากความรักที่อิ่มตัวของทั้งคู่ที่ไม่ได้หวือหวาหรือตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่นักพูดง่ายๆ หมดรักกันไปเอง ทั้งพ่อและแม่ของเขาจึงตัดสินใจแยกทางกันด้วยดี และแม่ของเขาก็ต้องการที่จะเอาต้าอยู่มาด้วย จนเธอเลิกกับสามีฝรั่งและก็ได้กลับมาอยู่ไทยตามหลังต้ามานี่เอง เสียงชัตเตอร์ของนักข่าวกดถ่ายภาพของนายแบบที่มาร่วมงานแบบรัวๆ ซึ่งต้ามักจะโดนรุมล้อมเยอะที่สุด เพราะอยากจะสัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับเรื่องหัวใจ ว่าช่วงนี้มีคนคุยหรือเปล่า เพราะเขาถูกถ่ายภาพจากบาร์ที่เขาเพิ่งไปเที่ยวมาแล้วเจอวาโย แต่โชคดีที่ภาพไม่ชัดและมุมที่ถูกถ่ายก็ไม่เห็นหน้าของทั้งสองด้วย เลยทำให้ข่าวทำอะไรเขาได้ไม่มากนัก เนื่องจากว่าเขาเป็นคนหูตาไวและช่างสังเกต แก้ไขสถานการณ์เก่งหรืออาจจะเรียกว่า คมในฝัก ก็ว่าได้ “เห็นคุณต้าดูแลตัวเองดีแบบนี้ ไม่รู้ว่ามีคนที่รู้ใจหรือยังคะ แบบคนคุยๆ ก็ได้ค่ะ เพราะช่วงนี้คุณต้าฮอตสุดๆ มีใครมาขายขนมจีบบ้างหรือเปล่าคะ” นักข่าวยื่นไมค์สัมภาษณ์เขาหลังจากที่เดินแบบงานอีเว้นท์เสร็จ “ไม่มีเลยนะครับ ไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนไปกินขนมจีบ ขนาดเวลานอนผมยังไม่มีเลย” เขาพูดยิ้มแย้มเชิงตลกขบขันทำให้นักข่าวพากันหัวเราะ จริงๆ เขาแค่ยืนยิ้มเฉยๆ ก็ทำให้คนเคลิ้มได้เลยนะ อีกฝั่งหนึ่งหญิงสาวที่อยู่ห้องพักของตัวเอง กำลังดูข่าวไลฟ์สดของต้า ก็เกิดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวที่เขาตอบฮาๆ เพราะภาพแบบนั้นเธอยังมองไม่รู้เลยว่าเป็นตัวของเธอเอง หลังจากที่วาโยแยกกับต้าที่โรงแรมวันนั้น เธอก็ลืมว่าเคยอายเขาสุดๆ แค่ไหน ที่ไปปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มแบบนั้น เพียงแค่เห็นหน้าของเขาหน้าก็ลืมความเจ็บปวดจนหมดสิ้น ช่วงค่ำ จู่ๆ ก็มีข้อความแจ้งเตือนจากอินสตาแกรมเข้ามาเป็นแอคเคาท์ที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี หรือว่าแอคเคาท์แฟนคลับของพี่ต้าที่เข้ามาติดตามเธอ แต่พอเธอกดเข้าไปดู “กรี๊ด…นี่พี่ต้ากดติดตามฉันเหรอ” หญิงสาวกระโดดโลดเต้นนั่งอยู่ไม่สุข หรือว่าเขาเข้ามาส่องเธอแล้วมือลั่น แต่เขาก็ติดตามแฟนคลับของเขาหลายคนเหมือนกัน ตอนนี้เธอดีใจสุดๆ เธอกดเข้าไปในแชทเพื่อดู มันขึ้นว่า เห็นแล้วเมื่อ1นาทีที่แล้ว เขาเห็นข้อความของเธอแล้ว เธอส่งไปบอกรักเขาตั้งมากตั้งมายหลายเดือนที่ผ่านมา เขาเปิดอ่านมันแล้ว และที่แน่ๆ เขาไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นใครเพราะในแอคเคาท์ของเธอมีแต่รูปของเขาที่เธอโพสต์เอาไว้ ติ๊ง เสียงแจ้งเตือนข้อความแชทดังขึ้น เขาส่งอิโมจิรูปหัวใจสีแดงมาให้เธอหนึ่งดวง “ตายอย่างสงบแล้ววาโย” ต่อไปนี้ให้เธอไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนก็ยอมหมดแล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว “ดูสิ หนูเห็นจุดสีเขียวของพี่ต้าที่ออนอยู่ด้วย” เธอพูดพึมพำอยู่บนที่นอนยิ้มจนแก้มจะแตก แต่แล้วก็มีสายเรียกเข้าโทรมาหาเธอ “พี่สิน” เธอเรียกชื่อลูกพี่ลูกของตัวเอง “พรุ่งนี้ว่างไหมโย” หญิงสาวขมวดคิ้ว “พี่จะให้หนูทำอะไรคะ” วาโยพูดอย่างรู้ทัน “บอกมาก่อน ว่างหรือเปล่า” “ไม่ว่างค่ะ” “ให้มันได้อย่างนี้สิ พี่จะหวังพึ่งพาก็ไม่ได้เลยเหรอ” เสียงของสินที่อยู่ปลายสายพูดอย่างสิ้นหวัง “แหมๆ มีเสียงสั่นเครือด้วย มีอะไรให้น้องคนนี้รับใช้คะ โขกสับมาได้เลยค่ะ” เธอแกล้งพูดเย้าแหย่เขาเล่นๆ “เพื่อนพี่สมัยเรียน มันจ้างให้คนไปทำความสะอาดห้องให้พอดีช่วงนี้มันงานเยอะ ไม่มีเวลาทำ เลยอยากได้คนที่ไว้ใจได้ พี่ก็นึกถึงเธอเลยนะโย ไปทำความสะอาดให้พี่หน่อย” สินพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเพราะกลัวว่าน้องสาวจะไม่ไปให้ อาจทำให้บริษัททำความสะอาดที่เขาเปิดใหม่จะมีรีวิวที่ไม่ดี “แม่บ้านของพี่ก็มี ให้เค้าทำให้ สะอาดกว่าหนูทำอีก” เธอไม่เห็นด้วยเพราะเธอไม่เคยไปทำความสะอาดบ้านใครเลย ขนาดห้องของเธอยังรกแบบนี้ “แม่บ้านพี่ไม่ว่างสักคน พี่ไว้ใจเธอ ช่วยหน่อยทำๆ ไปเถอะ เพื่อนพี่คนนี้มันสะอาดห้องมันไม่รกหรอก” เขาอธิบายอีก “มันต้องมีอะไรแน่ๆ ไหนบอกหนูมาสิว่าเพื่อนของพี่มีข้อแลกเปลี่ยนอะไร” เธอพยักหน้าแบบรู้ทัน “ก็มันบอกว่าจะช่วยรีวิวบริษัทให้ พี่ก็อยากให้บริษัทดังๆ จะได้มีคนมาจ้างเยอะๆ พี่ก็อยากรวยเหมือนกันนะเว้ย” “ก็ได้ๆ ส่งโลเคชั่นมาเดี๋ยวไปทำให้ เพื่อนพี่ผู้หญิงหรือผู้ชาย” “ผู้ชาย” “อ้าว งั้นหนูไม่อยากไปอ่ะเกิดเขาปล้ำหนูจะทำยังไง” “มันอยู่ห้องที่ไหน ไปทำงานต่างจังหวัดแล้วไม่งั้นพี่จะให้เธอไปเหรอ” “โอเคๆ พี่เดี๋ยวหนูไปทำให้ ก็ได้” “มันฝากคีย์การ์ดไว้กับพี่แล้ว พรุ่งนี้มาก็แวะมาเอาอุปกรณ์ด้วย จะรอมาแต่เช้านะ พี่จะไปเที่ยวต่อ เอ๊ย พี่มีงานต่อ” “พี่สิน” เธอเรียกชื่อของเขาทันทีเมื่อรู้ว่าเขาโกหก ปล่อยให้น้องทำงานงกๆ แต่ตัวเองไปเที่ยวเนี่ยนะวาโยรีบขับรถยนต์สีขาวของตัวเองออกจากคอนโดของตัวเองไปหาพี่สินแต่เช้า ตามที่เขาบอกไว้ ทั้งที่วันนี้มันเป็นอาทิตย์แท้ๆ เธอควรจะนอนตื่นสายๆ ให้สบายใจตามที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ต้องออกมาทำงานแต่เช้าให้พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง โชคดีหน่อยที่เจ้าของห้องที่เธอจะไปทำความสะอาดนั้นไม่อยู่ เลยทำให้เธอไม่ต้องเกร็งมากนัก เธอหยิบผ้ากันเปื้อน พร้อมกับหมวกแก๊ปของบริษัททำความสะอาดของสินมาสวมใส่ เธอจัดระเบียบผมพร้อมกับหันโลโก้ของหมวกที่ปักคำว่า สินสะอาดไ ว้ข้างหน้าและหยิบถังไม้ถูพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดลงมาจากรถยนต์อย่างคล่องแคล่ว สักพักก็มีพนักงานผู้หญิงที่ดูแลคอนโดวิ่งมาหาเธอทันทีเมื่อเธอเดินเข้าไปด้านในห้องโถงของตึกชั้นล่าง เธอบอกจุดประสงค์ว่ามาทำความสะอาดห้องที่อยู่ชั้นสิบสอง พร้อมกับยื่นคีย์การ์ดให้เธอดู พนักงานดูแลพยักหน้ารับรู้และพาเธอไปยังห้องนั้นทันที “ต้องขออนุญาตคุณนะคะ พอดีเจ้าของห้องไม่ให้พนักงานทำความสะอาดพกโทรศัพท์เข้ามาภายในห้องนี้นะค่ะ เราจึงขอเก็บโทรศัพท์ของคุณไว้ก่อนไม่ทราบว่าคุณจะสะดวกหรือเปล่าคะ” หญิงวัยสามสิบปลายๆ เอ่ยด้วยท่าทางนอบน้อม “ทำไมล่ะคะ พี่สินไม่เห็นบอกเลยว่าไม่ให้ใช้
หลังจากที่วาโยกลับมาจากคอนโดของต้า เธอก็รีบขับรถไปหาพี่สินทันที เพราะเธออยากรู้ว่าทำไมเขาถึงสนิทกับพี่ต้าได้ แล้วทำไมก่อนหน้านั้นเธอไม่เคยเห็นเขาสองคนคุยกันที่โรงเรียนเลย“จะอยากรู้ไปทำไม สนใจต้ามันเหรอ” พี่สินถามน้องสาวที่กำลังคาดคั้นอยากรู้คำตอบ“แค่อยากรู้เฉยๆ ตอนเรียนไม่เห็นเคยไปมาหากัน มาสนิทกันได้ไง”“ก็ตอนเรียนคนละห้องกัน แล้วอีกอย่างมันก็ดูโลกส่วนตัวสูงเลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่พอสอบวันสุดท้าย พวกพี่ก็รวมตัวกัน พากันไปกินเหล้าเพื่อนใครต่อเพื่อนใครก็มารู้จักกัน ก็แค่นั้น”“อ๋อ ก็ยังว่าอยู่หนูตกใจจะตายที่เจอเขา พี่ต้าเขาดังมากนะพี่” หญิงสาวยิ้มหน้าระรื่น“ทำไม สนใจร่างทองของนายแบบคนนั้นอ่ะดิ บอกพี่มาซะดีๆ” พี่สินชี้หน้าแซวเธอที่กำลังนั่งหน้าแดงแทบหุบยิ้มไม่ทัน“ไม่สนใจหรอกพี่ เข้าถึงยากขนาดนั้นใครจะไปชอบ” หญิงสาวเดินไปหยิบนู้นหยิบนี่ดูแก้อาการประหม่า เพราะกลัวพี่สินจับได้ซะก่อนว่าเธอคลั่งไคล้เพื่อนของเขามากแค่ไหน เรื่องที่เธอชอบพี่ต้ามีคนรู้แค่คนเดียวคือเพลง เพราะวาโยมักจะเล่าให้เพื่อนสาวของเธอฟังเสมอๆ“ก็ดีแล้ว เห็นมันนิ่งๆ เงียบๆ แบบนั้น ก็เอาเรื่องอยู่นะ ใจมันได้ว่ะ” พี่สินพูด
“แม่งเอ้ย” เขาสบถแล้วเดินหันหลังเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง จัดการสิ่งที่เขาทำค้างไว้ ก่อนที่หญิงสาวจะมาเคาะประตูให้เรียบร้อยเพราะไม่อยากให้ค้างคา แล้วอีกอย่างเขาเองก็ไม่รับประกันความปลอดภัยของหญิงสาวที่นอนเมาแอ๋อยู่ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน“ปล่อยตัวขนาดนี้เลยเหรอ เขาเดินมานั่งข้างๆ หญิงสาวที่มีผ้าห่มคลุมตัวไว้อยู่อย่างมิดชิดถ้าพี่ชายเธอมรู้ว่าเธอเมาแล้วมาที่นี่มีหวังคอขาดแน่ๆ“เดี๋ยวจะให้ไอ่สินมารับกลับแล้วกัน จะได้จบๆ ไป” เขาบ่นพึมพำพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพรวด! วาโยดีดตัวลุกขึ้นมานั่งทันทีเมื่อได้ยินชื่อพี่ชายของตัวเอง“ พี่สินเหรอ ไหนอ่าาาพี่สิน” หญิงสาวจับแขนชายหนุ่มไว้“ผมจะโทรให้พี่ชายคุณมารับแล้วกัน อยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกถ้ามีใครมาเห็นเข้า เธอได้ดังแน่ๆ”“อย่าโทรนะคะ ถ้าพี่โทรหนูจะบอกว่าพี่ต้าปล้ำหนู เพราะถ้าพี่ชายหนูรู้ว่าหนูเมาแล้วมาหาพี่แบบนี้ มีหวังหนูตายแน่ๆ พ่อกับแม่หนูอีก” หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือไหว้“แต่ไม่กลัวผมเลย…ว่างั้นเถอะ ฮึๆ” เขาหัวเราะในลำคอ“พี่ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก พี่น่ะต้องกลัวหนูมากกว่า” ร่างบางเอามือแตะใบหน้าของร่างใหญ่เบาๆ จนเขาเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่น“ผู้หญิงอะไ
เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าดังขึ้นภายในห้องของวาโย เธอรีบควานหาและปิดเสียงพร้อมกับเอาหน้าซุกไปใต้ผ้าห่มอุ่นๆ เพราะยังไม่อยากตื่น เธอค่อยๆ ลุกขึ้นมา “โอ๊ย ปวดหัวชะมัด เมื่อคืนดื่มไปเยอะด้วย” เธอหรี่ตามองสำรวจไปภายในห้องและสำรวจตัวเองก็เห็นเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ วางอยู่ที่ปลายเท้าของเธอ หน่วยประมวลผลในสมองของเธอก็ค่อยๆ ประมวลภาพทีละเหตุการณ์กับเรื่องเมื่อคืน “กรี๊ดดดดด” วาโยกรีดร้องลั่นจนสุดเสียง “เมื่อคืน เมื่อคืนนี้” เธอรีบลุกไปหยิบเสื้อคลุมสีดำตัวโคร่งมาดู พลิกไปมาเพื่อดูให้แน่ใจ “อร๊ายยยย เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไปต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ฝันไป! ฉันแค่ฝันไปเท่านั้น” เธอล้มตัวลงนอนต่อแต่ก็ต้องลุกดีดตัวขึ้นมาหยิบเสื้อตัวใหญ่มาดูอีกครั้ง “ตายแน่ๆ ฉัน ทำไมเมาแล้วเรื้อนแบบนี้” หญิงสาวนั่งกุมขมับ เพราะทั้งปวดหัวจะระเบิดแถมยังไปก่อเรื่องไว้เมื่อคืนอีก จะทำยังไงดี ไม่น่าเมาขนาดนั้นเลย วันนี้กับการเรียนเธอแทบไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนเลย สมาธิไม่มีแถมยังนั่งเหม่อลอยอีก เพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องนั้น เธอกล้ามากนะที่เมาแล้วไปหาผู้ชาย แล้วไม่ใช่ใครที่ไหนกลับเป็นไอดอลที่เธอชอบอีก ใครก็อยากดูดี ดูน่ารักในสายตาขอ
แม้ว่าร่างสูงใหญ่จะเดินขึ้นคอนโดไปแล้ว แต่ว่าเธอยังคงจอดรถอยู่ที่เดิมมาได้เกือบยี่สิบนาทีแล้ว เขาเคยจูบเธอ แล้วยังไงต่อเขาไม่พูดว่าขอโทษ หรือเอ่ยถามความรู้สึกของเธอเลยด้วยซ้ำว่าเธอจะยังชอบเขาอยู่ไหมที่ไม่ให้เกียรติเธอแบบนี้ หญิงสาวนึกถึงรสชาติจูบของเขาที่เหมือนคนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น แต่เธอก็จำได้ว่าเธอจูบโต้ตอบเขาไปเช่นเดียวกัน แล้วยังไงต่อนั่นมันจูบแรกของเธอนะ จูบแรกของเธอเป็นของพี่ต้าเหรอ เธอนึกหลายสิ่งหลายอย่างจนฟุ้งซ่าน แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาก็พอจะชอบเธออยู่บ้างเหมือนกัน พี่ต้ารู้ว่าแอคเคาท์นั่นเป็นของเธอ ทำไมถึงยังส่งอิโมจิรูปหัวใจมาให้เธอล่ะ เพราะเธอส่งข้อความไปบอกรักเขาเหรอ แต่เขาก็น่าจะส่งอิโมจิรูปยิ้มมาก็ได้นี่ ครั้งนี้ภาพมันชัดมาก นั่นเพราะเขาจูบเธอ เธอเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อกี้ที่เขาชวนเธอขึ้นไปข้างบนห้องของเขา เขาพูดจริงหรือพูดลองใจเธอกันแน่วาโยเอาหัวโขกกับพวงมาลัยเบาๆ เพื่อดึงสติ นี่เธอชอบเขามากจนเป็นขนาดเลยเหรอ‘ทำไมพี่ถึงจูบหนูคะ’ เธอพิมพ์ข้อความแชตถามเขาในรถยนต์ที่ยังไม่ได้ขยับไปไหนตั้งแต่ที่ต้าลงไป‘อยู่ไหน’
“อยากลองมั้ย” เขาถามพร้อมกับจับมือของเธอมาหอมอย่างอ่อนโยน“ลองจูบอีกเหรอคะ หนูไม่อยากลองแล้วค่ะ” เธอก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “อยากมีอะไรกับพี่มั้ย…คืนนี้” เขาถามเสียงต่ำแหบพร่า“พี่ต้า” เธอเรียกชื่อของเขาเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ“ถ้าไม่ยอม พี่ก็คงทำอะไรไม่ได้ก็พี่รับปากแล้วนี่เนอะว่าจะไม่ทำ” เขาเดินไปเปิดประตูให้เธอ พร้อมกับยื่นรอให้เธอเดินออกไป“พี่ต้าไล่หนูแล้วเหรอคะ หนูจะมีอะไรกับพี่ได้ไง เราไม่ใช่แฟนกันซะหน่อย” เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นเขาอารมณ์เปลี่ยนจากก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิง สายตาที่มองเธอนั้นนิ่งเรียบเแต่ซ่อนความดุดันไว้เหมือนกำลังตำหนิเธออยู่“พี่ถึงถามไง ว่าอยากลองกับพี่หน่อยไหม ถูกใจพี่หรือเปล่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน” เขากัดเม้มริมฝีปากของตัวเอง เรื่องนี้จะโทษเขาก็ไม่ได้ เธอเองก็เป็นฝ่ายจูบเขาเหมือนกัน เขาไม่ได้บังคับหรือทำให้เธอเจ็บเลยสักนิด แถมยังถามความสมัครใจจากเธออีก เขารู้ว่าเธอชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างนี่ก็เป็นครั้งแรกของเธอด้วย เธอจะทำยังไงดี หญิงสาวสลัดความคิดทั้งหมดที่มี เธอไม่น่าลังเลอะไรเลยด้วยซ้ำเขาอาจจะเป็นนายแบบไอดอลที่หล่ออย่างเดียว แต่นิสัยไม่ดีก็ได้
“จะกลับจริงๆ เหรอ” ต้าดึงมือของวาโยเอาไว้เมื่อเธอกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องของเขา“ค่ะ หนูต้องกลับแล้ว เพราะถ้าหนูอยู่ต่อพี่ต้องแกล้งหนูอีกแน่ๆ” เธอยืนก้มหน้าแดงเมื่อนึกถึง สิ่งที่เพิ่งทำกับเขาไปบนเตียงเมื่อกี้นี้“พี่ขอโทษ นะไม่คิดว่าจะปล่อยให้ตัวเองเลยเถิดขนาดนี้” เขาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง“แล้วหนูต้องทำยังไงต่อคะ” “ทำอะไร” เขาถามหน้างงๆ“หนูเป็นแฟนคลับของพี่ พี่เป็นคนแรกของหนูแต่เรา…ไม่ได้เป็นอะไรกัน” เธอพูดเว้นวรรคไว้ เพราะเขาบอกเธอเองว่าไม่อยากวาดฝันให้เธอ แล้วเธอก็เข้าหาและยอมเขาเอง ด้วยความเต็มใจ เพียงเพราะแค่ว่าอยากลองตามคำชวนของเขา“อืม เรื่องนั้นพี่ยังไม่แน่ใจ ถ้าพี่เปิดเผยเรื่องของเราตอนนี้มันคงไม่ดีแน่ๆ” นั่นน่ะสิ เขาเพิ่งเป็นนายแบบที่โด่งดังตอนมาอยู่ไทยสินะ ยังไงเขาก็ต้องโฟกัสเรื่องงานก่อนอยู่แล้ว“หนูก็ลองถามพี่ไปแบบนั้นแหละค่ะ” เธอหันไปยิ้มให้เขาอ่อนๆ ทั้งที่เพิ่งมีความสุขมาแท้ๆ แต่ทำไมถึงเศร้าแล้วล่ะ หรือเธอโลภมากเกินไปที่อยากเป็นแฟนกับพี่ต้าจริงๆ“พอรู้แบบนี้แล้วยังอยากมาหาพี่อยู่อีกไหม หรือว่าไม่อยากมาหาแล้ว” เขาจับไหล่ของเธอให้หันมาสบตากับเขา“อยากสิคะ” เธอเม้มปาก
ครืดดๆๆ เสียงโทรศัพท์ของพี่ต้าดังอยู่บนโต๊ะกระจกข้างโซฟาที่นั่งอยู่ เขาควานมือไปหยิบหาโดยไม่ได้มอง เพราะมัวแต่หมกมุ่นกับซอกคอของสาวน้อยอยู่ เขาชำเลืองมองชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอ ก็ทำเสียงชู่ปากใส่วาโยทันที“ครับพี่เบน” เขารับสายผู้จัดการสาวของเขาที่โทรเข้ามาตอนเกือบจะสองทุ่มครึ่งแล้ว วาโยนั่งอยู่นิ่งๆ และไม่กล้าขยับตัวไปไหน จึงทำให้ต้าเข้ามาจูบปากของเธอเบาๆ อีกครั้งด้วยความเอ็นดู“ครับพี่ เดี๋ยวผมจะลงไปเอาเดี๋ยวนี้แหละ” ชายหนุ่มกดวางสายแล้วหันมาพูดกับเธอที่นั่งนิ่งอยู่“พี่เบนผู้จัดการพี่โทรมา ให้ลงไปเอาเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งได้มา จะเอาไว้ถ่ายแบบพรุ่งนี้ เดี๋ยวพี่ลงไปเอาก่อนนะ ” “ทำไมพี่เขาไม่ขึ้นเอามาให้พี่ต้าที่ห้องคะ”“ผู้จัดการพี่เป็นผู้หญิงชื่อพี่เบน ส่วนผู้ชายชื่อพี่สิงห์ ปกติถ้าพี่สิงห์เอามาให้ เขาก็ขึ้นมาเลย แต่ถ้าเป็นพี่เบน ทางค่ายไม่อยากให้นายแบบอยู่กับผู้หญิงสองต่อสองไม่ว่าจะกับใคร พี่เลยต้องลงไปไงครับ”“อ๋อ ค่ะ แล้วหนูล่ะก็อยู่กันสองคนกับพี่ ค่ายจะไม่ว่าเหรอคะ”“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย โยเป็นแฟนพี่แล้วนะ” เขาลูบหัวของเธอขึ้นลงเพราะมันเขี้ยวในความไม่รู้ประสีประสาอะไรแบบนี้จนชายห
ตอนพิเศษที่1ที่โรงเรียนมัธยม“เฮ้ยต้า มานี่เร็วมัวมองอะไรอยู่” เพื่อนชายถามเด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่กำลังนั่งกินข้าวในโรงอาหารพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาอยู่หลายคน“เปล่า กูไม่ได้มองนี่” ต้าปฏิเสธ“มึงมองน้องวาโยเหรอ”“เออๆ กูมองน้องเขา กูสงสัยว่าทำไม น้องเขามองกูจังวะหรือกูหน้าแปลกวะ”“แปลกอะไร มึงน่ะหล่อ สาวๆก็อยากมองเป็นธรรมดา ไปเร็วไปนั่งใต้ร่มไม้นั่นกัน” เพื่อนของต้าดึงให้เขาลุกขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จ ในขณะที่ต้าเองก็แอบมองวาโยที่นั่งคุยกับเพื่อนอยู่เรื่อยๆที่หน้าโรงเรียนหลังเลิกเรียนต้าเห็นว่าวาโยยืนคุยอยู่กับสินท่าทางสนิทสนมคงจะเป็นแฟนกันสินะเขาคิดในใจ“มีแฟนอยู่แล้วยังมามองผู้ชายคนอื่นอีก” ต้าบ่นลอยๆแล้วเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ ก็เห็นว่าสินเดินเข้ามาในร้านแล้วหยิบถุงยางอนามัยหนึ่งกล่องแล้วไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์และวิ่งออกไปส่งให้กับวาโยเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เอาแต่จ้องมองเขานั่นเองเช้าวันต่อมา เขาเห็นวาโยนั่งมอไซค์มากับสินก็เลยยิ่งเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน เขาเลยไม่อยากสุงสิงกับแฟนใครและเลือกที่จะทำตัวนิ่งๆ หยิ่งๆ ดีกว่าเพราะหลังจากเรียนจบม.6 ต้าก็จะไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใ
“เห็นรอยสักพี่แล้วดิ เขินจัง” ต้าเกาหัวแก้เขิน“เห็นแล้วค่ะ หนูชอบมากนะคะ” ต้าถึงกับเอามือของเธอไปหอมอย่างรักจนสุดใจ“แล้วเรื่องลูกเขยแบบพี่ล่ะครับจะทำไง” ต้าถามอีกครั้ง“หนูยังไม่พร้อมค่ะ หนูต้องไปเรียนต่อป.โทที่อังกฤษอีก” “ไปเรียนที่อังกฤษเหรอ ไปกับใครล่ะ”“หนูสอบได้ทุนค่ะ ไปเรียนคนเดียวยื่นเรื่องตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ”“ดีเลย บ้านพี่ก็อยู่ที่อังกฤษไว้รอโยเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ ก็ประมาณสองปีสินะ”“แต่งงานเหรอคะ พี่ยังไม่เคยบอกรักหนูเลยจะแต่งได้ไงคะ”“ใครบอก พี่บอกรักเธอตั้งนานแล้วนะ เธอไม่สังเกตเอง”“ตอนไหนคะ” “ก็อิโมจิรูปหัวใจไง ที่พี่บอกรักเธอ ขนาดพี่ยังไม่เคยส่งให้แม่พี่เลยนะ เธอเป็นคนเดียวที่พี่ส่งให้”“อิโมจิรูปหัวใจใครก็ส่งได้ค่ะ”“พี่รักโยนะ พี่อยากอยู่กับเธอคนเดียว” เมื่อได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็ยิ้มหน้าบาน“หนูก็รักพี่ต้าค่ะ รักมาตั้งนานแล้วด้วย”“อันนี้พี่รู้แล้ว อยากให้พี่บอกรักโยเยอะๆไหม ชอบฟังไหม”“ชอบค่ะ ชอบฟัง” หญิงสาวพยักหน้าใสซื่
“แฟนพี่ต้าไงคะ”“แฟนพี่เหรอ ไม่จริงมั้ง พี่ไม่มีแฟน พี่ยังบอกเธออยู่เลย” เขาหมุนเก้าอี้กลับมามองเธอที่ยืนถือไดร์เป่าผมอยู่“เค้าบอกว่าเป็นแฟนพี่ต้านี่คะ เป็นตัวจริงของพี่ต้า หนูก็เลยต้องออกมาโดยไม่ได้บอกพี่” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่มองหน้าของหญิงสาวแล้วสบตาที่สั่นไหวของเธอเหมือนคนจะร้องไห้“ใช่วันที่พี่บอกว่า...จะลงไปเอาชุดกับผู้จัดการที่รออยู่ข้างล่างใช่ป่ะ ใช่วันนั้นไหมเพราะวันนั้นแหละที่พี่เจอโน้ตที่เธอเขียนด่าพี่แล้วแปะไปที่กล่องถุงยาง วันนั้นพี่โมโหจนเลือดขึ้นหน้าเลยรู้ไหม”“ใช่ค่ะ วันที่พี่ลงไปเอาชุด แต่หนูไม่ได้เขียนนะคะหนูจะเขียนด่าพี่ทำไม ก็พี่บอกหนูแล้วว่าไม่อยากวาดฝันให้หนู” หญิงสาวพูดเหมือนน้อยใจ ต้าจึงลุกขึ้นสวมกอดเธอ แล้วเดินไปหยิบโน้ตที่อยู่ในลิ้นชักเครื่องประดับมาคลี่ออกแล้วส่งให้เธอดู“หนูไม่ได้เขียนซะหน่อยไม่ใช่ลายมือหนูเลย แต่ด่าแรงมากนะคะ ใครบังอาจมาด่าพี่ต้าของหนู อุ้ย” เธอรีบเอามือปิดปากเมื่อหลุดพูดว่าพี่ต้าของเธอต้าอดใจไม่ไหวจึงจุ๊บเบาๆไปที่ริมฝีปากของเธอเพราะถูกใจที่เธอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาแบบนี้
“สกปรก” เธอเอ่ยมาสั้นๆ“ใช่สกปรก เธอพูดถูกแล้ว” เขาพยักหน้าเห็นด้วย“อย่ามาดูถูกหนูนะพี่ต้า หนูไม่ชอบ ถ้าไม่อยากถ่ายแบบก็ไม่ต้องถ่ายไม่เห็นต้องพูดจาดูถูกกันเลย”“พี่ดูถูกอะไร พี่แค่จะให้เธอทำความสะอาดห้องที่มันสกปรกอยู่นี่ไง ไม่ได้อยู่มาหลายเดือน ฝุ่นมันก็เกาะหนาไปหมด เธอเข้าใจว่าอะไร” เขาพูดพร้อมกับเอามือลูบโต๊ะแล้วหงายมือมาดูฝุ่น ทำอย่างกับว่าฝุ่นหนาเตอะทั้งที่เมื่อวันก่อนแม่ของเขาเพิ่งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเองชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินเบียดดันเธอเข้าไปจนชนมุม“หนูก็คิดว่า… ช่างมันเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมกับดันอกกว้างของเขาออก“คิดเรื่องอย่างว่าเหรอ เธอนั่นแหละคิดทะลึ่ง ทำความสะอาดมันก็ต้องใช้ร่างกายใช้แรงทั้งนั้น ฟุ้งซ่านนะเราน่ะ” ชายหนุ่มดีดหน้าผากของเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู วินาทีนี้เองที่เขาเห็นวาโยมองเขาด้วยสายตาเป็นประกายมีความสุขซ่อนอยู่ในนั้นและเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ เพราะเธอหน้าแดง แถมยังหลบตาก้มหน้าอมยิ้มอยู่ แต่ชายหนุ่มก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นเพราะไม่อยากให้เธอเขินอายจนหนีเขาไปนั่นเอง“งั้นตกลงค่ะ แต่ช่วยลดราคาให้ถูกลงเยอะๆหน่อยนะคะ เพราะหนูจะทำความสะอาดให้สุด
วันนี้แม่มาหาวาโยที่คอนโดเพราะมีเรื่องให้ช่วย เนื่องจากแม่ของวาโยนั้นทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองและยังขาดนายแบบมาช่วยโฆษณาให้ ซึ่งแม่ของเธออยากให้ต้าที่เป็นนายแบบเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายรูปกับเสื้อผ้าของเธอนั่นเอง จึงมาหาวาโยก่อนที่เขาจะกลับไปเมืองนอก เพราะสินบอกให้เธอมาหาลูกสาวให้ช่วยพูดกับเขาให้น่าจะได้เรื่องกว่าที่ตัวสินพูดเอง“นะโยช่วยพูดกับพี่เขาหน่อย เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันไม่ใช่เหรอ”“แม่คะ หนูไม่ได้สนิทกับพี่ต้าแล้วนะคะ”“งั้นแสดงว่าเคยสนิทสิ ถ้าแบรนด์เสื้อเราดังขึ้นมาเรารวยเลยนะโย ลองคิดดูสินายแบบดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้เสื้อเราจะดังขนาดไหน คนก็ต้องให้ความสนใจแล้วมาซื้อกันเยอะๆ แน่เลยแล้วอีกอย่างผ้าที่แม่นำมาตัดเย็บก็อย่างดีเลยนะรับรองนายแบบคนนั้น ไม่อายแน่ๆ แม่เอาแบบเสื้อมาให้ดูแล้ว เขาชอบไม่ชอบยังไงค่อยว่ากันทีหลัง ดีไหมลูก” แม่พูดเกลี้ยกล่อมเธอ“งั้นก็ได้ค่ะ หนูจะถามพี่เขาให้” เธอตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักแต่จะทำยังไงได้ล่ะ นี่มันธุรกิจครอบครัวของเธอ อีกหน่อยเธอก็ต้องมาดูแลต่ออยู่ดี ศึกษาไว้หน่อยก็แล้วกัน“ดีแล้วลูก ยังไงซะมันก็ต้องตกเป็นของหนู ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะ แม่จะรอฟังข่าวด
เมื่อต้าทานข้าวเย็นกับแม่ของเขาเสร็จ ก็ขับรถสปอร์ตหรูที่เขาเอามาจอดไว้ที่บ้านแม่ขับตรงไปยังคอนโดของเขาทันที แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมานอนที่นี่นานแล้ว แต่ภาพหลายๆ อย่างยังชัดเจนเมื่อนึกถึงโซฟาตัวนี้ที่เขาร่วมรักกับวาโยครั้งสุดท้าย หรือแม้แต่กล่องถุงยางอนามัยจำนวนมากที่เขาเปิดใช้ไปเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นก็ยังอยู่ที่ชั้นวางเดิม“ฮึ หมดอายุแล้วเหรอ” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อพลิกดูฉลากข้างกล่องก็อดขำไม่ได้“แกนี่น่าสงสารกว่าฉันอีกนะ อยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้วก็หมดอายุไป” เขาหยิบมันทิ้งลงไปในถังขยะทันที แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เคยมีหญิงสาวมานอนข้างๆ“ป่านนี้ ไปเป็นแฟนคลับของใครอยู่นะ” เขาพูดบ่นลอยๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู กดไปยังแอปอินสตาแกรม แล้วเปลี่ยนแอคเคาท์หลุมเพื่อไปส่องโปรไฟล์ของวาโย“ก็ดูมีความสุขดีนี่” เขาเลื่อนจนไปเจอรูปหนึ่งที่ถ่ายกับเพื่อนๆ ของเธอมีทั้งหญิงและชายหลายคน แต่เขาสังเกตได้ว่าในภาพมีผู้ชายโอบเอวของวาโยอยู่“มันเป็นใครวะ ยิ้มหน้าระรื่นเชียว” เขาเลื่อนๆ ดูไปหลายภาพ บางภาพเขาก็เคยดูแล้ว แต่มือดันลั่นไปกดถูกใจในรูปภาพของเธอเข้าให้ งานเข้าแล้วแต่นี่มันเป็นแอคหลุมของเขา
สองปีต่อมาวาโยเรียนจบปริญญาตรี ในขณะที่ต้าเองก็กลับไปอยู่บ้านที่เมืองนอกของเขาที่เคยซื้อไว้ตอนอยู่กับแม่ที่ต่างประเทศหลังจากที่เลิกรากับวาโยวันนั้นประมาณหกเดือนน่าจะได้ เขาก็หันหลังให้วงการนายแบบทันที ใจจริงอยากจะเลิกตั้งแต่เดือนแรกด้วยซ้ำ แต่ติดที่เขายังมีสัญญาถ่ายแบบอยู่กับหลายบริษัทจึงไม่สามารถยกเลิกงานพวกนั้นได้ ต้ามีธุรกิจอสังหาอยู่หลายแห่งในเมืองนอกที่ทำกับเพื่อน และของเขาเองก็มีอยู่สองที่ น่าจะเป็นเวลาสองปีที่เขาถอยห่างจากวงการบันเทิงมา แต่ก็มีบ้างที่เขายังเดินแบบอยู่เพราะผู้ใหญ่ขอ เขาจึงบินไปมาอยู่ที่ไทยหลายครั้งปีนี้เขาอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความสำรวมมากขึ้น และเก็บอารมณ์เก่งกว่าเดิมด้วยซ้ำวันนี้ชายหนุ่มบินกลับมาไทยเพื่อมาเยี่ยมแม่ของเขาที่บ่นคิดถึงแต่ลูกชายตลอดเวลาชายหนุ่มร่างสูงที่ยังหุ่นดีเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมตรงที่เขากล้ามใหญ่ขึ้นเนื่องจากการออกกำลังกายอย่างหนักหลังเลิกงานและยามว่างที่เขาไม่ได้ออกไปดื่มกับเพื่อนๆทันทีที่ลูกชายเดินลากกระเป๋าเข้าบ้าน แม่ของเขาก็รีบวิ่งมารับและสวมกอดเขาจนแน่นราวกับว่ากลัวลูกชายของเขาจะหนีกลับไปอย่างไงอย่างงั้น
“อยากรู้จริงๆ เหรอ” เขาถามเธอ“อยากรู้อะไรคะ” เธอถามเขาให้แน่ใจอีกครั้ง“อยากรู้เหรอ ว่าทำไมพี่ถึงไม่อยากคุยตอนนั้น อ่านแล้วไม่ตอบ ก็นี่ไง!”“ขนาดเธอยืนต่อว่าพี่อยู่ ไอ้นี่ของพี่มันยังแข็งอยากเอาเธออยู่เลย” เขาไม่พูดเปล่ากับจับมือของเธอไปกำแท่งเนื้อของเขาที่มันแข็งจนพร้อมจะใช้งานแล้ว“ทะลึ่ง” เธอรีบชักมือออกอย่างเร็ว“พี่พูดจริงๆ ในหัวพี่มันคิดแต่เรื่องอย่างว่ากับเธอคิดแค่กับเธอแค่คนเดียวนะโย” เขาเดินมาสวมกอดเธอจากทางด้านหน้าโดยที่หญิงสาวไม่ได้ขัดขืนอะไร“พี่ยังไม่รู้เลย ว่าโยโกรธพี่เรื่องอะไรอีกบอกพี่ได้ไหม” เขาจับใบหน้าของหญิงสาวแล้วจะจูบลงไปที่ริมฝีปากนุ่ม แต่หญิงสาวกลับเบี่ยงหน้าหนี ไม่ยอมให้เขาจูบง่ายๆ“หนูเบื่อที่ต้องเห็นพี่เป็นข่าวกับคนอื่น หนูไม่อยากเสียใจอีก”“แล้วพี่เลือกได้เหรอโย งานพี่มันเป็นแบบนี้” เขาใช้สายตาเศร้าสร้อยมองมาที่หญิงสาวเผื่อว่าเธอจะเห็นใจเหมือนครั้งที่ผ่านมา“แต่หนูเลือกได้นี่คะ หนูว่าอยู่แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ต้องวุ่นวายต่อกัน สบายใจจะตาย” หญิงสาวพูดหัวเราะเชิงขบขันที่เหมือนว่าเธอกำลังจะบอกเลิกเขา แต่ทั้งสองก็ไม่เคยคบกันเลยด้วยซ้ำ“หนูเบื่อที่ต้องอยู่แต่ในห้อง
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาต้าคิดว่าครั้งนี้วาโยโกรธเขานานเกินไปแล้ว เธอไม่เห็นแถลงข่าวของเขาเหรอที่บอกว่าไม่ได้มีอะไรกับโรส ทำไมถึงยังนิ่งอยู่ เขาเห็นว่าเธอเงียบเขาเองก็เลยเงียบเหมือนกัน แต่ครั้งนี้กลับเป็นเขาที่ทนไม่ไหวซะเอง จึงกดโทรหาหญิงสาวในทันที“ของที่เอามาให้พี่น่ะ พี่ไม่อยากได้หรอกนะ มาเอาไปคืนด้วย” ชายหนุ่มร่างสูงพูดกับเธอผ่านโทรศัพท์และหวังว่าหญิงสาวจะง้อเขาแต่ทำไมคำพูดของเขามันฟังดูเหมือนหาเรื่องทะเลาะกันล่ะ“งั้นพี่ต้าทิ้งได้เลยค่ะ หนูเองก็ไม่อยากได้แล้วเหมือนกัน” ตื้ดๆๆ หญิงสาวกดวางสายทันที“ไม่อยากได้แล้วเหมือนกันเหรอ ใจร้ายมากนะโย ถ้าครั้งนี้เธอบล็อกเบอร์พี่อีก เราได้เห็นดีกันแน่” ต้าจึงกดโทรออกอีกครั้ง“มีอะไรอีกคะพี่ หนูเรียนอยู่” เธอรับสายพร้อมพูดกระแทกเสียงเข้ามาในโทรศัพท์ จนเขาเองแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวาโยจะตะคอกใส่เขาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวแบบนี้“แค่นี้ต้องตะคอกพี่ด้วยเหรอ ออกมาเจอกันหน่อยสิครับ” เขาพูดเสียงอ่อนลง“หนูไม่มีอะไรจะคุยกับพี่ต้าค่ะ” เธอพูดตัดบท“แต่พี่มี…เรื่องไอ่สินพี่ชายของเธอ” เขาพูดทิ้งท้ายไว้เพราะถึงยังไงหญิงสาวต้องอยากรู้แน่ๆ ถึงจะโดนไอ่สินตามมากระทื