# วันต่อมา
แม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาจะเร่าร้อนกับสามีจนร่างกายอ่อนเพลียไปหมด แต่พลอยไพลินก็ตื่นขึ้นแต่เช้าเพื่อทำอาหารเช้าให้กับสามี เธอตั้งใจทำอาหารอย่างเต็มที่และพยายามสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในบ้าน เมื่อสามีลงมาที่โต๊ะอาหารเธอก็บริการตักข้าวให้สามีอย่าเอาใจ ทุกอย่างบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของโปรดของเขาทั้งนั้น เธอจดจำและใคกทำโดยไม่ได้ถามเขา เธอสังเกตุการกินของเขา ว่าชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร เธอใส่ใจสามีในทุกรายละเอียด โดยที่เขานั้นไม่เคยรู้เรื่องอะไรของเธอเลย หลังจากทานอาหารเสร็จ สามีก็เตรียมตัวไปทำงานตามปกติ ไม่ได้มีการบอกกล่าวมีร่ำลาอะไรกับภรรยาเหมือนคู่รักทั่วไป พลอยไพลินที่เคยชินแล้วก็ได้แต่มองตามรถออกไปพร้อมรอยยิ้ม เธออยากอยู่ทำหน้าที่นี้ไปนานๆ อย่าอยู่เคียงข้างสามีแบบนี้แม้จะไร้ค่าในสายตาของเขาก็ตาม เมื่อพี่อัศวินออกไปทำงานแล้ว พลอยไพลินจึงกลับมาที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดแท็บเล็ตส่วนตัวและเริ่มเข้าคอร์สเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการทำอาหารและทำขนม เป็นความชอบมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะพลอยไพลินเคยทำอาหารช่วยคุณยายอยู่บ่อยๆ ฝีมือการทำอาหารถอดแบบมาจากผู้เป็นยายที่เคยเป็นเจ้าของร้านอาหารมาก่อน ทำให้พลอยไพลินมีความฝันที่จะอยากมีร้านเป็นของเธอเองเช่นกัน เธอใช้เวลาตลอดทั้งวันตั้งใจเรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ๆ เพื่อที่จะมีความสามารถเพิ่มขึ้นและเตรียมตัวสำหรับอนาคต สักวันเธอจะยืนได้ด้วยตัวเองไม่พึ่งเงินของสามี และเป็นการวางแผนอนาคตที่สักวันจะได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่มีสามีเคียงข้าง หลังจากทำอาหารตลอดทั้งวันพลอยไพลินก็ต้องวางมือเพราะถึงเวลาที่สามีจะเลิกงานแล้ว เธอลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้ดูสวย เพื่อสร้างความประทับใจให้สามีได้ชายตามองดูเธอบ้าง ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลยก็ตาม แต่เธอจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุดจนกว่าจะถึงวันนั้น อาหารที่เธอตั้งใจทำจนสุดฝีมือได้ถูกวางเรียงอยู่บนโต๊ะอย่างสวยงาม รอเวลาแค่สามีกลับมา แต่ผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ไร้วี่แววของสามีจนกระทั่งดึกๆเขาก็ยังไม่กลับมา และไม่มีแม้แต่สายเรียกเข้าที่จะโทรมาบอกว่าติดงานหรือติดประชุมอย่างที่สามีคนอื่นทำ พลอยไพลินลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความห่อเหี่ยวใจ ไม่เป็นไรเก็บไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้ เธอให้กำลังใจตัวเองและเก็บอาหารที่เธอเพิ่งทำไม่กี่ชั่วโมงเข้าไปในตู้ไว้อุ่นกินพรุ่งนี้ เธอรู้ดีว่าคืนนี้สามีไม่กลับมาแน่นอน และไม่ใช่คืนนี้ที่เขาหายไป อาการหายไปแต่ละครั้งอย่างต่ำก็ต้อง 2-3 วัน เธอไม่เคยชินกับการหายไปของเขาเลยสักครั้ง ยังคงเสียใจและเจ็บปวด ในทุกค่ำคืนที่ต้องนอนคนเดียวมันเหงาเหลือเกิน เธอโหยหาอ้อมกอดของสามีเรากับเด็กที่ต้องการผู้ปกครอง เธอเสพติดการมีคู่นอนจนรู้สึกอ้างว้างเวลาที่ไม่มีเขา การมองไปเห็นที่นอนว่างเปล่ามันเดียวดายและทรมานหัวใจ ถึงจะเจ็บปวดเพียงแค่ไหน พลอยไพลินก็ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ตัวเอง ยังคงทำอาหารไว้รอสามีเพียงเพราะคิดว่าสักวันเขาจะมา หากวันไหนที่เขาไม่มาก็ได้แต่ให้กำลังใจตัวเองและก้าวต่อไป เธอยังคงมุ่งมั่นเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการทำอาหารและขนมเพื่อเตรียมตัวสำหรับอนาคต เธอรู้ดีว่าการพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เธอสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองได้ และเพื่ออนาคตของใครสักคนที่กำลังจะเกิดมา ในห้องครัวของบ้านหลังใหญ่อบอวนไปด้วยกลิ่นหอมของขนมที่พลอยไพลินเพิ่งจะได้สูตรมาจากอินเทอร์เน็ต ขณะที่พลอยไพลินกำลังถือถาดขนมออกมาเพื่อจะถ่ายกับบรรยากาศสวนดอกไม้หน้าบ้านเพื่อเป็นการโปรโมทลงหน้าโซเชี่ยงของเธอ สายตาของเธอก็ไปสะดุดกับผู้หญิงที่กำลังก้าวเดินลงมาจากรถคันหรู คุณสุดา พลอยไพลินเอ่ยชื่อของผู้หญิงที่เป็นคนรักของสามีอย่างแผ่วเบา แต่หัวใจของเธอนั้นกลับเต้นแรงและเจ็บปวดเหลือเกิน สุดาเดินตรงเข้ามาหาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของแฟนหนุ่มด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและความไม่พอใจ หากเธอยอมตกลงแต่งงานกับเขาตั้งแต่วันนั้นผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็คงจะเป็นเธอ แต่ไม่เสียใจหรอกนะเพราะตอนนี้แฟนหนุ่มของเธอก็กำลังเสียค่ะแล้วมาใช้ชีวิตกับเธออย่างที่สัญญากันไว้ " ไม่คิดจะเชิญแขกเข้าบ้านหน่อยหรือไง?" สุดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร อยู่ต่อหน้าอัศวินเธอจะเป็นคนที่อ่อนหวานและเอาใจเก่ง แต่นิสัยจริงๆเธอเป็นคนขี้เหวี่ยงขี้วีนตามนิสัยของคุณหนูเอาแต่ใจ " เชิญค่ะ" พลอยไพลินผายมือฉันเป็นสาวของเจ้าของบ้านอย่างมีมารยาท พยายามที่จะแสดงความเป็นมิตรกับผู้หญิงตรงหน้าทั้งๆที่หัวใจไม่ได้อยากคุยด้วยเลยแม้แต่น้อย เพราะตัวเธออิจฉาสุดาเป็นอย่างมากที่ได้หัวใจของอัศวินผู้ที่เป็นสามีของเธอ แม้กระทั่งตัวเธอที่เป็นภรรยายังไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของสามีเลยสักครั้ง ไม่ว่าเธอจะปรนนิบัติเขาดีสักแค่ไหนเขาก็ไม่เคยเห็นเธอในสายตาเลย "คุณสุดามีธุระอะไรหรอคะ " พลอยไพลินเอ่ยถามทันทีที่มาถึงยังห้องรับแขก "ขอน้ำส้มคั้นสดหน่อย ฉันรู้สึกคอแห้ง" สุดาสั่งพลอยไพลินราวกับว่าเธอเป็นคนใช้ "ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ" พลอยไพลินยังคงให้เกียรติสุดาเพราะรู้ว่าสุดาเป็นแฟนสาวของอัศวิน และสักวันสุดาก็คงจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่แทนที่เธอ พลอยไพลินจัดการคั้นน้ำส้มสดไปให้กับสุดาตามที่เธอบอก เรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพลอยไพลินอยู่แล้ว การทำอาหารและเครื่องดื่มเป็นเรื่องที่เธอทำเป็นประจำ ทั้งทำให้สามี และทำให้พ่อกับแม่ที่บ้าน " เมื่อไหร่จะหย่า " แค่ประโยคแรกของสุดาก็ทำเอาพลอยไพลินรู้สึกเจ็บปวดจากคำพูดนั้น แต่เธอพยายามจะไม่แสดงความรู้สึกออกมา " เรื่องนั้นขึ้นอยู่กับคุณอัศวินค่ะ " " จะบอกว่าพี่วินไม่อยากหย่างั้นหรอ " "เปล่าค่ะ " " ยังไงเธอก็ต้องการแค่เงินของพี่วินอยู่แล้ว ทำไมไม่ขอเงินสักก้อนไปตั้งตัวแล้วก็เซ็นใบหย่าซะล่ะ" ฉันไม่ได้ต้องการเงินของพี่วินสักนิด ฉันแค่ต้องการทำให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัวและตัวเอง พลอยไพลินได้แต่บอกภายในใจ ไม่แปลกใจหรอกที่สุดาจะคิดว่าเธอต้องการแค่เงินของอัศวิน เพราะสามีที่เธอแต่งงานด้วยยังคิดแบบนั้นเลย " ถ้าคุณสุดาต้องการทราบเวลาที่แท้จริงควรจะถามแฟนของคุณเองนะคะ เพราะฉันไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินใจในเรื่องนี้" "ทำเป็นพูดดี เธอเองต่างหากที่ไม่อยากหย่า พี่วินขอแค่สงสารครอบครัวของเธอก็เท่านั้น อย่าคิดว่าเขาจะรักเธอหรือมีใจให้เธอหรอกนะ" " ฉันรู้ค่ะ อย่าเสียเวลามาคุยเรื่องนี้กับฉันเลย เพราะฉันไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินใจจริงๆ หากสงสัยอะไรถามแฟนของคุณเถอะนะคะ ฉันขอตัวค่ะ" พลอยไพลินเดินออกมาอย่างไร้มารยาทเธอไม่อาจทนนั่งอยู่ตรงนั้นได้จริงๆ หัวใจของเธอมันเจ็บปวดน้ำตาก็พาลจะไหลออกมาตลอด เธอไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้กับแฟนตัวจริงของสามีได้เห็น แค่นี้สุดาก็สมเพชกับสถานะของเธอเต็มทน# บริษัทอัสวิน ทางด้านประธานหนุ่มที่เพิ่งจะออกมาจากห้องประชุมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงทั้งสองคนที่เป็นประเด็นกันอยู่ในตอนนี้ เขาเดินไปยังห้องทำงานตามปกติ แต่ก็ได้พบเห็นสุดาแฟนสาวมารอเซอร์ไพรส์อยู่ในห้อง "เซอร์ไพรส์ค่ะ" สุดาพุ่งเข้ามาสวมกอดเขาอย่างไม่อายว่าตรงนี้จะมีเลขาอยู่ด้วย เธอแสดงความรักอย่างเต็มที่ แตกต่างจากภรรยาที่อยู่บ้านไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ไม่ว่าสามีจะเหนื่อยหรือทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยเข้ามากอดมาอ้อน เอาแต่ก้มหน้าไม่สู้สายตาราวกับคนทำผิดตลอดเวลา พูดแล้วก็หงุดหงิด เธอคงจะเห็นเขาสำคัญแค่ตอนอยากได้เงินเพียงเท่านั้น"คิดอะไรอยู่คะ?"สุดาเอ่ยถามแฟนหนุ่มที่อยู่ๆก็เหม่อลอยราวกับคิดอะไรอยู่ แล้วเธอก็ถามไปหลายครั้งเขาก็เอาแต่เงียบจมอยู่กับความคิดของตัวเอง หรือว่าเขากำลังคิดถึงภรรยาที่รออยู่บ้าน สุดานึกถึงคำพูดที่แม่ของเธอบอกไว้ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่บ้านเดียวกันนอนเตียงเดียวกันทุกคืนทุกวันมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเขาจะไม่รู้สึกอะไรกัน ถ้าลูกมัวแต่ช้าอยู่ไม่ทำอะไรสักอย่าง สองคนนั้นคงได้มีลูกกันเต็มบ้านพอดี" พี่คุยเรื่องหย่ากับภรรยาหรือยังคะ พรุ่งนี้ดาต้องไปงานเลี้ยงกับค
พลอยไพลินยืนนิ่งอยู่ในห้องครัว เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดี ควรเก็บเสื้อผ้าเก็บของใช้ของตัวเองเตรียมตัวไว้เลยไหม หรือรอไปเซ็นใบหย่าก่อนแล้วค่อยเก็บ หรือควรจะบอกพ่อกับแม่ก่อนดี หัวใจที่ว้าวุ่นทำให้พลอยไพลินคิดอะไรไม่ออกเลย แพลนชีวิตที่เคยวางไว้พังไปหมด "เฮ้อ..ทำไงดี?" พลอยไพลินถอนหายใจออกมาเมื่อท่าทางเหนื่อยใจโดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังแล้ว"คิดจะทำอะไร? " เสียงของสามีทำให้พลอยไพลินตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอกลัวว่าเขาจะโกรธที่เธอไม่ตั้งโต๊ะอาหาร แต่เขาก็ไม่เคยเดินมาตามเธอถึงห้องครัวมาก่อนเลย " ไม่ได้ทำอะไรค่ะ พลอยกำลังเตรียมตัวตั้งโต๊ะอาหารให้พี่ค่ะ " พลอยไพลินรนลานราวกับคนมีความผิดนักหนา ทั้งที่ตัวเธอก็ทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างดีและสมบูรณ์แบบ " ให้พลอยตั้งโต๊ะเลยไหมคะ พี่หิวหรือยังคะ" " หิว!" คนตัวสูงตอบอย่างชัดเจนและค่อยๆเดินก้าวเข้ามาใกล้ จนร่างบางต้องถอยหลัง เธอมองหน้าสามีเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะหลบสายตา เธอไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเลย และยิ่งได้ยินประโยคก่อนหน้าของเขาก็ยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก"หิวอย่างอื่น วันนี้เธอไม่ทำหน้าที่ภรรยา" " เอ่อ..." ภ
ในค่ำคืนที่แสงไฟจางลงและเสียงดนตรีดังกระหึ่ม อัศวินประธานหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่หัวเราะและพูดคุยกับแฟนสาวของเขา หล่อนคือสุดา แฟนสาวของเขาที่รู้เรื่องราวเบื้องหลังของการแต่งงานคนถูกชนครั้งนี้เป็นอย่างดี เธอรู้ว่าเขาถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับพลอยไพลิน ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมเสียสละร่างกายเพื่อแลกกับการปลดหนี้ของครอบครัว เธออาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แสนดีที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว แต่สำหรับเขาเธอก็แค่ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง ยอมทำทุกอย่างได้เพื่อเงินโดยไม่รู้ถูกผิด ทั้งที่เขาก็บอกไปแล้วว่าเขานั้นมีคนรัก เธอก็ไม่สนใจและยอมที่จะตกลงแต่งงานกับเขาอยู่ดีอีกด้านหนึ่งของงาน พลอยไพลินที่ไม่รู้จักใครเลยในงานได้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนมองภาพสวีทหวานระหว่างสามีกับผู้หญิงคนอื่นด้วยความหนาวเหน็บในใจ ถึงจะรู้สึกเจ็บหัวใจมากสักแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือแฟนตัวจริงของสามีเธอ และเธอกับครอบครัวก็ยังต้องพึ่งพาเงินจากอัศวินเพื่อรักษาความอยู่รอด และดำเนินธุรกิจของครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตช่วงนี้ไปก่อนพลอยไพลินมองดูสามีตลอดเวลาจนเพื่อนของเขานั้นนึกสงสาร
เช้าวันต่อมา... พลอยไพลินตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดในใจและรู้ว่าที่ข้างๆที่เป็นที่นอนประจำของอัศวินว่างเปล่า เขาคงจะไปหากับแฟนเก่าของเขา และปล่อยให้ตัวปลอมอย่างเธอนอนบนเตียงกว้างอย่างโดดเดี่ยวเช่นเคย พลอยไพลินรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่สามีเมินเฉย ถึงจะเจ็บปวดสักแค่ไหนก็รู้ตัวดีว่าเธอไม่สามารถทำอะไรได้ ร่างบางฝืนใจลุกขึ้นไปแต่งตัวแม้จะรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจเมื่อพลอยไพลินเดินลงมายังชั้นล่างมาทำอาหารเช้าทานเองและทำไว้เผื่อสามีกลับมาทาน ถ้าเขาไม่มาทานอาหารที่เธอทำ เธอก็แค่เก็บไว้อุ่นกินในช่วงสายในช่วงเที่ยง ระหว่างที่พลอยไพลินกำลังทำอาหารอย่างตั้งใจ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เป็นสายจากแม่ของเธอเอง พลอยไพลินมองหน้าจอด้วยท่าทางลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะรับสาย เพราะเธอรู้ดีว่าแม่โทรมาหาเธอเพื่ออะไร "ค่ะแม่ " (ทำอะไรอยู่เหรอลูกทำไมรับสายช้าจัง)" หนูทำอาหารเช้าให้พี่วินอยู่ค่ะ " ( ดีนะลูกทำหน้าที่ภรรยาให้ดี )ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีหมายถึงเอาใจสามีเพื่อให้ได้เงินมาเยอะๆมาทำให้ครอบครัวดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นั่นคือเป้าหมายของผู้เป็นแม่ที่ส่งลูกสาวไปแต่งงานกับชายหนุ่มที่ไม่ได้รักลูกสาวเลยแม้แต่น
#วันต่อมาหลังจากเลิกงานอัศวินก็กลับมาบ้านตามเวลาปกติ พลอยไพลินก็ยังคงทำหน้าที่จัดโต๊ะอาหารรอเขาเหมือนกับทุกวัน "พี่วินอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ เดี๋ยวพลอยทำเพิ่มให้" และเธอก็ถามคำถามเดิมๆเหมือนทุกวัน เขาฟังจนเบื่อ และตอนนี้เขาก็อยากจะฟังเรื่องอื่นมากกว่า "วันนี้ฉันกินมาแล้ว " เขาตอบแค่นั้นแต่ในใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่พลอยไพลินมีเรื่องปิดบังเขา ทั้งๆที่เขาคือสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีเรื่องอะไรก็ควรจะบอกเขาเป็นคนแรก "ค่ะ " แล้วเธอก็ตอบเพียงสั้นๆก่อนที่จะเดินหายกลับเข้าไปในห้องครัว นี่เป็นอาการผิดปกติของเธอ เพราะปกติเธอจะต้องถามว่าเขาจะอาบน้ำเลยไหม หรือจะนั่งพักผ่อนก่อน เธอจะได้ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขา เขาต้องดูให้ได้ว่าเธอมีเรื่องอะไร อัศวินเดินไปนั่งยังโซฟาที่ห้องรับแขก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาแม่ของพลอยไพลินในทันที เพราะแม่คือคนที่พลอยไพลินสนิทมากที่สุด (ว่าไงลูก น้องบอกลูกแล้วหรอ) "บอกเรื่องอะไรหรอครับ ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับน้องเลยครับ" ปลายสายเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะบอกออกมาด้วยท่าทางลำบากใจ (น้องโทรมาปรึกษาแม่ว่าอยากได้เงินไปลงทุนทำร้านเบเกอรี่กับเพื่อน แต่ไม่กล้าข
วันเวลาล่วงเลยไป...แต่อัศวินยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมที่ไม่มีพลอยไพลินอยู่ในสายตา เวลาส่วนมากของเขามักจะไปพบกับสุดาและใช้เวลาอยู่กับเธอ ส่วนพลอยไพลินต้องอยู่บ้านหลังใหญ่อย่างโดดเดี่ยว นับวันยิ่งรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ถูกละเลย รู้สึกไร้ตัวตนในสายตาของสามี ในขณะที่พลอยไพลินกำลังทำอาหารค่ำเพียงลำพัง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายจากเพชรลดาคุณแม่ของเธออีกเช่นเคย "ค่ะแม่" (แม่ได้รับเงินแล้วนะ ฝากขอบคุณวินด้วย) " แม่ขอเงินพี่วินอีกแล้วหรอคะ? " ( ใช่ ครั้งก่อนมันไม่พอ ) "ค่ะ ขอให้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จนะคะแม่"เพราะเธอไม่อยากรบกวนสามีอีกแล้ว แม่ของเธอคงได้เงินจากสามีไปจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธ แน่นอนว่าเขานั้นรวยมาก เงินที่ให้แม่ของเธอไปเป็นแค่เศษเงินของเขา หลังจากวางสาย พลอยไพลินก็มานั่งคิดทบทวนเรื่องราวในชีวิตของตัวเอง เธอร่ำเรียนมาก็สูงพอสมควร ไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาอยู่แบบนี้ เธอได้แต่หวังว่าสักวันชีวิตของเธอจะต้องดีขึ้น ในขณะเดียวกันอัศวินก็กลับมาบ้านหลังจากที่หายไปอยู่กับแฟนสาวหลายวัน เขาเดินผ่านเธอไปโดยไม่มีการทักทายหรือถามถึงความเป็นอยู่ของเธอเลยสักคำ ถึ
พลอยไพลินยืนนิ่งอยู่ในห้องครัว เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดี ควรเก็บเสื้อผ้าเก็บของใช้ของตัวเองเตรียมตัวไว้เลยไหม หรือรอไปเซ็นใบหย่าก่อนแล้วค่อยเก็บ หรือควรจะบอกพ่อกับแม่ก่อนดี หัวใจที่ว้าวุ่นทำให้พลอยไพลินคิดอะไรไม่ออกเลย แพลนชีวิตที่เคยวางไว้พังไปหมด "เฮ้อ..ทำไงดี?" พลอยไพลินถอนหายใจออกมาเมื่อท่าทางเหนื่อยใจโดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังแล้ว"คิดจะทำอะไร? " เสียงของสามีทำให้พลอยไพลินตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอกลัวว่าเขาจะโกรธที่เธอไม่ตั้งโต๊ะอาหาร แต่เขาก็ไม่เคยเดินมาตามเธอถึงห้องครัวมาก่อนเลย " ไม่ได้ทำอะไรค่ะ พลอยกำลังเตรียมตัวตั้งโต๊ะอาหารให้พี่ค่ะ " พลอยไพลินรนลานราวกับคนมีความผิดนักหนา ทั้งที่ตัวเธอก็ทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างดีและสมบูรณ์แบบ " ให้พลอยตั้งโต๊ะเลยไหมคะ พี่หิวหรือยังคะ" " หิว!" คนตัวสูงตอบอย่างชัดเจนและค่อยๆเดินก้าวเข้ามาใกล้ จนร่างบางต้องถอยหลัง เธอมองหน้าสามีเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะหลบสายตา เธอไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเลย และยิ่งได้ยินประโยคก่อนหน้าของเขาก็ยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก"หิวอย่างอื่น วันนี้เธอไม่ทำหน้าที่ภรรยา" " เอ่อ..." ภ
# บริษัทอัสวิน ทางด้านประธานหนุ่มที่เพิ่งจะออกมาจากห้องประชุมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงทั้งสองคนที่เป็นประเด็นกันอยู่ในตอนนี้ เขาเดินไปยังห้องทำงานตามปกติ แต่ก็ได้พบเห็นสุดาแฟนสาวมารอเซอร์ไพรส์อยู่ในห้อง "เซอร์ไพรส์ค่ะ" สุดาพุ่งเข้ามาสวมกอดเขาอย่างไม่อายว่าตรงนี้จะมีเลขาอยู่ด้วย เธอแสดงความรักอย่างเต็มที่ แตกต่างจากภรรยาที่อยู่บ้านไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ไม่ว่าสามีจะเหนื่อยหรือทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยเข้ามากอดมาอ้อน เอาแต่ก้มหน้าไม่สู้สายตาราวกับคนทำผิดตลอดเวลา พูดแล้วก็หงุดหงิด เธอคงจะเห็นเขาสำคัญแค่ตอนอยากได้เงินเพียงเท่านั้น"คิดอะไรอยู่คะ?"สุดาเอ่ยถามแฟนหนุ่มที่อยู่ๆก็เหม่อลอยราวกับคิดอะไรอยู่ แล้วเธอก็ถามไปหลายครั้งเขาก็เอาแต่เงียบจมอยู่กับความคิดของตัวเอง หรือว่าเขากำลังคิดถึงภรรยาที่รออยู่บ้าน สุดานึกถึงคำพูดที่แม่ของเธอบอกไว้ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่บ้านเดียวกันนอนเตียงเดียวกันทุกคืนทุกวันมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเขาจะไม่รู้สึกอะไรกัน ถ้าลูกมัวแต่ช้าอยู่ไม่ทำอะไรสักอย่าง สองคนนั้นคงได้มีลูกกันเต็มบ้านพอดี" พี่คุยเรื่องหย่ากับภรรยาหรือยังคะ พรุ่งนี้ดาต้องไปงานเลี้ยงกับค
# วันต่อมาแม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาจะเร่าร้อนกับสามีจนร่างกายอ่อนเพลียไปหมด แต่พลอยไพลินก็ตื่นขึ้นแต่เช้าเพื่อทำอาหารเช้าให้กับสามี เธอตั้งใจทำอาหารอย่างเต็มที่และพยายามสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในบ้าน เมื่อสามีลงมาที่โต๊ะอาหารเธอก็บริการตักข้าวให้สามีอย่าเอาใจ ทุกอย่างบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของโปรดของเขาทั้งนั้น เธอจดจำและใคกทำโดยไม่ได้ถามเขา เธอสังเกตุการกินของเขา ว่าชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร เธอใส่ใจสามีในทุกรายละเอียด โดยที่เขานั้นไม่เคยรู้เรื่องอะไรของเธอเลย หลังจากทานอาหารเสร็จ สามีก็เตรียมตัวไปทำงานตามปกติ ไม่ได้มีการบอกกล่าวมีร่ำลาอะไรกับภรรยาเหมือนคู่รักทั่วไป พลอยไพลินที่เคยชินแล้วก็ได้แต่มองตามรถออกไปพร้อมรอยยิ้ม เธออยากอยู่ทำหน้าที่นี้ไปนานๆ อย่าอยู่เคียงข้างสามีแบบนี้แม้จะไร้ค่าในสายตาของเขาก็ตามเมื่อพี่อัศวินออกไปทำงานแล้ว พลอยไพลินจึงกลับมาที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดแท็บเล็ตส่วนตัวและเริ่มเข้าคอร์สเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการทำอาหารและทำขนม เป็นความชอบมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะพลอยไพลินเคยทำอาหารช่วยคุณยายอยู่บ่อยๆ ฝีมือการทำอาหารถอดแบบมาจากผู้เป็นยายที่เคยเป็นเจ้าของร้านอาหารมาก่อน ทำให้พลอยไพ
วันเวลาล่วงเลยไป...แต่อัศวินยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมที่ไม่มีพลอยไพลินอยู่ในสายตา เวลาส่วนมากของเขามักจะไปพบกับสุดาและใช้เวลาอยู่กับเธอ ส่วนพลอยไพลินต้องอยู่บ้านหลังใหญ่อย่างโดดเดี่ยว นับวันยิ่งรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ถูกละเลย รู้สึกไร้ตัวตนในสายตาของสามี ในขณะที่พลอยไพลินกำลังทำอาหารค่ำเพียงลำพัง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายจากเพชรลดาคุณแม่ของเธออีกเช่นเคย "ค่ะแม่" (แม่ได้รับเงินแล้วนะ ฝากขอบคุณวินด้วย) " แม่ขอเงินพี่วินอีกแล้วหรอคะ? " ( ใช่ ครั้งก่อนมันไม่พอ ) "ค่ะ ขอให้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จนะคะแม่"เพราะเธอไม่อยากรบกวนสามีอีกแล้ว แม่ของเธอคงได้เงินจากสามีไปจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธ แน่นอนว่าเขานั้นรวยมาก เงินที่ให้แม่ของเธอไปเป็นแค่เศษเงินของเขา หลังจากวางสาย พลอยไพลินก็มานั่งคิดทบทวนเรื่องราวในชีวิตของตัวเอง เธอร่ำเรียนมาก็สูงพอสมควร ไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาอยู่แบบนี้ เธอได้แต่หวังว่าสักวันชีวิตของเธอจะต้องดีขึ้น ในขณะเดียวกันอัศวินก็กลับมาบ้านหลังจากที่หายไปอยู่กับแฟนสาวหลายวัน เขาเดินผ่านเธอไปโดยไม่มีการทักทายหรือถามถึงความเป็นอยู่ของเธอเลยสักคำ ถึ
#วันต่อมาหลังจากเลิกงานอัศวินก็กลับมาบ้านตามเวลาปกติ พลอยไพลินก็ยังคงทำหน้าที่จัดโต๊ะอาหารรอเขาเหมือนกับทุกวัน "พี่วินอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ เดี๋ยวพลอยทำเพิ่มให้" และเธอก็ถามคำถามเดิมๆเหมือนทุกวัน เขาฟังจนเบื่อ และตอนนี้เขาก็อยากจะฟังเรื่องอื่นมากกว่า "วันนี้ฉันกินมาแล้ว " เขาตอบแค่นั้นแต่ในใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่พลอยไพลินมีเรื่องปิดบังเขา ทั้งๆที่เขาคือสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีเรื่องอะไรก็ควรจะบอกเขาเป็นคนแรก "ค่ะ " แล้วเธอก็ตอบเพียงสั้นๆก่อนที่จะเดินหายกลับเข้าไปในห้องครัว นี่เป็นอาการผิดปกติของเธอ เพราะปกติเธอจะต้องถามว่าเขาจะอาบน้ำเลยไหม หรือจะนั่งพักผ่อนก่อน เธอจะได้ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขา เขาต้องดูให้ได้ว่าเธอมีเรื่องอะไร อัศวินเดินไปนั่งยังโซฟาที่ห้องรับแขก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาแม่ของพลอยไพลินในทันที เพราะแม่คือคนที่พลอยไพลินสนิทมากที่สุด (ว่าไงลูก น้องบอกลูกแล้วหรอ) "บอกเรื่องอะไรหรอครับ ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับน้องเลยครับ" ปลายสายเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะบอกออกมาด้วยท่าทางลำบากใจ (น้องโทรมาปรึกษาแม่ว่าอยากได้เงินไปลงทุนทำร้านเบเกอรี่กับเพื่อน แต่ไม่กล้าข
เช้าวันต่อมา... พลอยไพลินตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดในใจและรู้ว่าที่ข้างๆที่เป็นที่นอนประจำของอัศวินว่างเปล่า เขาคงจะไปหากับแฟนเก่าของเขา และปล่อยให้ตัวปลอมอย่างเธอนอนบนเตียงกว้างอย่างโดดเดี่ยวเช่นเคย พลอยไพลินรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่สามีเมินเฉย ถึงจะเจ็บปวดสักแค่ไหนก็รู้ตัวดีว่าเธอไม่สามารถทำอะไรได้ ร่างบางฝืนใจลุกขึ้นไปแต่งตัวแม้จะรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจเมื่อพลอยไพลินเดินลงมายังชั้นล่างมาทำอาหารเช้าทานเองและทำไว้เผื่อสามีกลับมาทาน ถ้าเขาไม่มาทานอาหารที่เธอทำ เธอก็แค่เก็บไว้อุ่นกินในช่วงสายในช่วงเที่ยง ระหว่างที่พลอยไพลินกำลังทำอาหารอย่างตั้งใจ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เป็นสายจากแม่ของเธอเอง พลอยไพลินมองหน้าจอด้วยท่าทางลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะรับสาย เพราะเธอรู้ดีว่าแม่โทรมาหาเธอเพื่ออะไร "ค่ะแม่ " (ทำอะไรอยู่เหรอลูกทำไมรับสายช้าจัง)" หนูทำอาหารเช้าให้พี่วินอยู่ค่ะ " ( ดีนะลูกทำหน้าที่ภรรยาให้ดี )ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีหมายถึงเอาใจสามีเพื่อให้ได้เงินมาเยอะๆมาทำให้ครอบครัวดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นั่นคือเป้าหมายของผู้เป็นแม่ที่ส่งลูกสาวไปแต่งงานกับชายหนุ่มที่ไม่ได้รักลูกสาวเลยแม้แต่น
ในค่ำคืนที่แสงไฟจางลงและเสียงดนตรีดังกระหึ่ม อัศวินประธานหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่หัวเราะและพูดคุยกับแฟนสาวของเขา หล่อนคือสุดา แฟนสาวของเขาที่รู้เรื่องราวเบื้องหลังของการแต่งงานคนถูกชนครั้งนี้เป็นอย่างดี เธอรู้ว่าเขาถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับพลอยไพลิน ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมเสียสละร่างกายเพื่อแลกกับการปลดหนี้ของครอบครัว เธออาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แสนดีที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว แต่สำหรับเขาเธอก็แค่ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง ยอมทำทุกอย่างได้เพื่อเงินโดยไม่รู้ถูกผิด ทั้งที่เขาก็บอกไปแล้วว่าเขานั้นมีคนรัก เธอก็ไม่สนใจและยอมที่จะตกลงแต่งงานกับเขาอยู่ดีอีกด้านหนึ่งของงาน พลอยไพลินที่ไม่รู้จักใครเลยในงานได้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนมองภาพสวีทหวานระหว่างสามีกับผู้หญิงคนอื่นด้วยความหนาวเหน็บในใจ ถึงจะรู้สึกเจ็บหัวใจมากสักแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือแฟนตัวจริงของสามีเธอ และเธอกับครอบครัวก็ยังต้องพึ่งพาเงินจากอัศวินเพื่อรักษาความอยู่รอด และดำเนินธุรกิจของครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตช่วงนี้ไปก่อนพลอยไพลินมองดูสามีตลอดเวลาจนเพื่อนของเขานั้นนึกสงสาร