เช้าวันต่อมา...
พลอยไพลินตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดในใจและรู้ว่าที่ข้างๆที่เป็นที่นอนประจำของอัศวินว่างเปล่า เขาคงจะไปหากับแฟนเก่าของเขา และปล่อยให้ตัวปลอมอย่างเธอนอนบนเตียงกว้างอย่างโดดเดี่ยวเช่นเคย พลอยไพลินรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่สามีเมินเฉย ถึงจะเจ็บปวดสักแค่ไหนก็รู้ตัวดีว่าเธอไม่สามารถทำอะไรได้ ร่างบางฝืนใจลุกขึ้นไปแต่งตัวแม้จะรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจ เมื่อพลอยไพลินเดินลงมายังชั้นล่างมาทำอาหารเช้าทานเองและทำไว้เผื่อสามีกลับมาทาน ถ้าเขาไม่มาทานอาหารที่เธอทำ เธอก็แค่เก็บไว้อุ่นกินในช่วงสายในช่วงเที่ยง ระหว่างที่พลอยไพลินกำลังทำอาหารอย่างตั้งใจ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เป็นสายจากแม่ของเธอเอง พลอยไพลินมองหน้าจอด้วยท่าทางลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะรับสาย เพราะเธอรู้ดีว่าแม่โทรมาหาเธอเพื่ออะไร "ค่ะแม่ " (ทำอะไรอยู่เหรอลูกทำไมรับสายช้าจัง) " หนูทำอาหารเช้าให้พี่วินอยู่ค่ะ " ( ดีนะลูกทำหน้าที่ภรรยาให้ดี ) ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีหมายถึงเอาใจสามีเพื่อให้ได้เงินมาเยอะๆมาทำให้ครอบครัวดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นั่นคือเป้าหมายของผู้เป็นแม่ที่ส่งลูกสาวไปแต่งงานกับชายหนุ่มที่ไม่ได้รักลูกสาวเลยแม้แต่น้อย แต่สมัยนี้ไม่มีใครสนใจเรื่องความรักหรอก สามีภรรยาแต่งงานกันไปนานๆเดี๋ยวก็รักกันไปเอง พลอยไพลินทั้งสวยและทำงานบ้านเก่ง เธอเชื่อว่าสักวันอัศวินก็คงจะตกหลุมรักลูกสาวเธอเป็นแน่ "ค่ะแม่ แล้วแม่มีธุระอะไรหรอคะ" พลอยไพลินเอยถามออกไป ทั้งๆที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว ( พอดีแม่ปรึกษากับเพื่อนว่าจะทำธุรกิจน่ะ ลูกช่วยขอเงินทุนจากสามีของลูกให้แม่หน่อยได้ไหม ) "ลงทุนอีกแล้วหรอคะ?" (ใช่ ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วแน่นอน ลูกต้องขอเงินจากอัศวินให้แม่หน่อย) พลอยไพลินรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธแม่ได้ ไม่ว่าแม่จะทำอะไรเธอก็ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แม่กับพ่อของเธอเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการและเด็ดขาดในทุกเรื่อง บางครั้งอาจจะบริหารหรือตัดสินใจผิดไปบ้างแต่ท่านก็ทำเพื่อครอบครัวและทำเพื่อลูกมาตลอด เธอเป็นลูกมีหน้าที่ตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ แม้กระทั่งตอนนี้ก็ทำหน้าที่ของลูกอย่างเต็มที่เลยไม่มีสิทธิ์รู้สึกอะไรทั้งนั้น "ได้ค่ะแม่ หนูจะลองคุยกับพี่วินดู" พลอยไพลินต่อไปด้วยท่าทางไม่ยินดีนัก เพราะรอบที่แล้วแม่ก็ขอเงินไปลงทุนแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หาครั้งนี้เธอไปขอเงินจากสามีอีกเขาคงต้องถามเรื่องเงินก้อนที่แล้วแน่นอน แล้วเธอจะตอบเขาว่าอย่างไร เฮ้อ..พลอยไพลินได้แต่ถอนหายใจด้วยท่าทางคิดหนัก เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในวงจรที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่รู้ว่าแม่จะเลิกขอเงินสามีของเธอเมื่อไหร่ เพราะการรบกวนเขาในแต่ละครั้งต้องแลกด้วยศักดิ์ศรีของตัวเธอเอง สายตาที่เขามองเธอนั้นน่าสมเพชเหลือเกิน เธอคงจะน่ารังเกียจมากในสายตาของเขา ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะมองเธอเป็นภรรยา หลังจากที่รับปากแม่ไปวันนั้น พลอยไพลินก็ยังไม่กล้าที่จะคุยเปิดใจกับสามีเรื่องเงิน เธอไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะขอเขาได้ง่ายๆ แค่มองหน้าสบสายตาของเขานานๆเธอยังไม่กล้าเลย พลอยไพลินยังคงทำหน้าที่ของตัวเองทำอาหารเย็นให้กับสามีที่ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว พอถึงเวลาเลิกงานอัศวินขับรถกลับเข้ามาบ้านอย่างตรงเวลา เขาขึ้นไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนที่จะลงมาทานข้าวฝีมือของภรรยา ไม่ใช่ว่าติดใจหรืออยากกินฝีมือเธอหรอกนะ แต่กินไปเพราะมันเป็นหน้าที่ของเธอ จะให้อยู่บ้านเฉยๆโดยไม่ทำอะไรก็จะสบายเกินไป แต่หน้าแปลกมากที่วันนี้เธอไม่ยิ้มแย้มเหมือนทุกวัน เธอตักข้าวให้เขาด้วยใบหน้าที่อึดอัดพอสมควร คิ้วของเธอขมวดเป็นปมแทบจะตลอดเวลา ดูก็รู้ว่าเธอกำลังมีเรื่องบางอย่างอยู่ภายในใจ "มีเรื่องอะไร?" เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบไม่ได้แสดงถึงความห่วงใยแต่อย่างใด เป็นการถามตามหน้าที่ซะมากกว่า ตอนนี้เขาเป็นสามีของเธอ หาภรรยามีเรื่องอะไรไม่สบายใจเขาก็ควรจะถาม "ไม่มีอะไรค่ะ" เธอตอบมาโดยที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยความลำบากใจ เธอน่าจะเก็บเรื่องราวอันหนักขึ้นไว้ภายในใจ เธอรู้ว่าสามีนั้นทำงานหนักมากแค่ไหนไม่อยากเอาภาระของที่บ้านไปให้กับสามีอีก ส่วนอัศวินนั้นก็ต้องมองและรอให้พลอยไพลินระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา เขาแค่อยากรู้ว่าเธอคิดอะไรเพียงเท่านั้น แต่ผ่านไปหลายวันเธอก็ยังไม่พูดเรื่องที่อยู่ในใจของเธอ จนเขาต้องคิดหาทางอื่นที่จะรู้เรื่องนี้ให้ได้#วันต่อมาหลังจากเลิกงานอัศวินก็กลับมาบ้านตามเวลาปกติ พลอยไพลินก็ยังคงทำหน้าที่จัดโต๊ะอาหารรอเขาเหมือนกับทุกวัน "พี่วินอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ เดี๋ยวพลอยทำเพิ่มให้" และเธอก็ถามคำถามเดิมๆเหมือนทุกวัน เขาฟังจนเบื่อ และตอนนี้เขาก็อยากจะฟังเรื่องอื่นมากกว่า "วันนี้ฉันกินมาแล้ว " เขาตอบแค่นั้นแต่ในใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่พลอยไพลินมีเรื่องปิดบังเขา ทั้งๆที่เขาคือสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีเรื่องอะไรก็ควรจะบอกเขาเป็นคนแรก "ค่ะ " แล้วเธอก็ตอบเพียงสั้นๆก่อนที่จะเดินหายกลับเข้าไปในห้องครัว นี่เป็นอาการผิดปกติของเธอ เพราะปกติเธอจะต้องถามว่าเขาจะอาบน้ำเลยไหม หรือจะนั่งพักผ่อนก่อน เธอจะได้ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขา เขาต้องดูให้ได้ว่าเธอมีเรื่องอะไร อัศวินเดินไปนั่งยังโซฟาที่ห้องรับแขก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาแม่ของพลอยไพลินในทันที เพราะแม่คือคนที่พลอยไพลินสนิทมากที่สุด (ว่าไงลูก น้องบอกลูกแล้วหรอ) "บอกเรื่องอะไรหรอครับ ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับน้องเลยครับ" ปลายสายเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะบอกออกมาด้วยท่าทางลำบากใจ (น้องโทรมาปรึกษาแม่ว่าอยากได้เงินไปลงทุนทำร้านเบเกอรี่กับเพื่อน แต่ไม่กล้าข
วันเวลาล่วงเลยไป...แต่อัศวินยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมที่ไม่มีพลอยไพลินอยู่ในสายตา เวลาส่วนมากของเขามักจะไปพบกับสุดาและใช้เวลาอยู่กับเธอ ส่วนพลอยไพลินต้องอยู่บ้านหลังใหญ่อย่างโดดเดี่ยว นับวันยิ่งรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ถูกละเลย รู้สึกไร้ตัวตนในสายตาของสามี ในขณะที่พลอยไพลินกำลังทำอาหารค่ำเพียงลำพัง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายจากเพชรลดาคุณแม่ของเธออีกเช่นเคย "ค่ะแม่" (แม่ได้รับเงินแล้วนะ ฝากขอบคุณวินด้วย) " แม่ขอเงินพี่วินอีกแล้วหรอคะ? " ( ใช่ ครั้งก่อนมันไม่พอ ) "ค่ะ ขอให้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จนะคะแม่"เพราะเธอไม่อยากรบกวนสามีอีกแล้ว แม่ของเธอคงได้เงินจากสามีไปจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธ แน่นอนว่าเขานั้นรวยมาก เงินที่ให้แม่ของเธอไปเป็นแค่เศษเงินของเขา หลังจากวางสาย พลอยไพลินก็มานั่งคิดทบทวนเรื่องราวในชีวิตของตัวเอง เธอร่ำเรียนมาก็สูงพอสมควร ไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาอยู่แบบนี้ เธอได้แต่หวังว่าสักวันชีวิตของเธอจะต้องดีขึ้น ในขณะเดียวกันอัศวินก็กลับมาบ้านหลังจากที่หายไปอยู่กับแฟนสาวหลายวัน เขาเดินผ่านเธอไปโดยไม่มีการทักทายหรือถามถึงความเป็นอยู่ของเธอเลยสักคำ ถึ
# วันต่อมาแม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาจะเร่าร้อนกับสามีจนร่างกายอ่อนเพลียไปหมด แต่พลอยไพลินก็ตื่นขึ้นแต่เช้าเพื่อทำอาหารเช้าให้กับสามี เธอตั้งใจทำอาหารอย่างเต็มที่และพยายามสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในบ้าน เมื่อสามีลงมาที่โต๊ะอาหารเธอก็บริการตักข้าวให้สามีอย่าเอาใจ ทุกอย่างบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของโปรดของเขาทั้งนั้น เธอจดจำและใคกทำโดยไม่ได้ถามเขา เธอสังเกตุการกินของเขา ว่าชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร เธอใส่ใจสามีในทุกรายละเอียด โดยที่เขานั้นไม่เคยรู้เรื่องอะไรของเธอเลย หลังจากทานอาหารเสร็จ สามีก็เตรียมตัวไปทำงานตามปกติ ไม่ได้มีการบอกกล่าวมีร่ำลาอะไรกับภรรยาเหมือนคู่รักทั่วไป พลอยไพลินที่เคยชินแล้วก็ได้แต่มองตามรถออกไปพร้อมรอยยิ้ม เธออยากอยู่ทำหน้าที่นี้ไปนานๆ อย่าอยู่เคียงข้างสามีแบบนี้แม้จะไร้ค่าในสายตาของเขาก็ตามเมื่อพี่อัศวินออกไปทำงานแล้ว พลอยไพลินจึงกลับมาที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดแท็บเล็ตส่วนตัวและเริ่มเข้าคอร์สเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการทำอาหารและทำขนม เป็นความชอบมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะพลอยไพลินเคยทำอาหารช่วยคุณยายอยู่บ่อยๆ ฝีมือการทำอาหารถอดแบบมาจากผู้เป็นยายที่เคยเป็นเจ้าของร้านอาหารมาก่อน ทำให้พลอยไพ
# บริษัทอัสวิน ทางด้านประธานหนุ่มที่เพิ่งจะออกมาจากห้องประชุมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงทั้งสองคนที่เป็นประเด็นกันอยู่ในตอนนี้ เขาเดินไปยังห้องทำงานตามปกติ แต่ก็ได้พบเห็นสุดาแฟนสาวมารอเซอร์ไพรส์อยู่ในห้อง "เซอร์ไพรส์ค่ะ" สุดาพุ่งเข้ามาสวมกอดเขาอย่างไม่อายว่าตรงนี้จะมีเลขาอยู่ด้วย เธอแสดงความรักอย่างเต็มที่ แตกต่างจากภรรยาที่อยู่บ้านไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ไม่ว่าสามีจะเหนื่อยหรือทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยเข้ามากอดมาอ้อน เอาแต่ก้มหน้าไม่สู้สายตาราวกับคนทำผิดตลอดเวลา พูดแล้วก็หงุดหงิด เธอคงจะเห็นเขาสำคัญแค่ตอนอยากได้เงินเพียงเท่านั้น"คิดอะไรอยู่คะ?"สุดาเอ่ยถามแฟนหนุ่มที่อยู่ๆก็เหม่อลอยราวกับคิดอะไรอยู่ แล้วเธอก็ถามไปหลายครั้งเขาก็เอาแต่เงียบจมอยู่กับความคิดของตัวเอง หรือว่าเขากำลังคิดถึงภรรยาที่รออยู่บ้าน สุดานึกถึงคำพูดที่แม่ของเธอบอกไว้ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่บ้านเดียวกันนอนเตียงเดียวกันทุกคืนทุกวันมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเขาจะไม่รู้สึกอะไรกัน ถ้าลูกมัวแต่ช้าอยู่ไม่ทำอะไรสักอย่าง สองคนนั้นคงได้มีลูกกันเต็มบ้านพอดี" พี่คุยเรื่องหย่ากับภรรยาหรือยังคะ พรุ่งนี้ดาต้องไปงานเลี้ยงกับค
พลอยไพลินยืนนิ่งอยู่ในห้องครัว เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดี ควรเก็บเสื้อผ้าเก็บของใช้ของตัวเองเตรียมตัวไว้เลยไหม หรือรอไปเซ็นใบหย่าก่อนแล้วค่อยเก็บ หรือควรจะบอกพ่อกับแม่ก่อนดี หัวใจที่ว้าวุ่นทำให้พลอยไพลินคิดอะไรไม่ออกเลย แพลนชีวิตที่เคยวางไว้พังไปหมด "เฮ้อ..ทำไงดี?" พลอยไพลินถอนหายใจออกมาเมื่อท่าทางเหนื่อยใจโดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังแล้ว"คิดจะทำอะไร? " เสียงของสามีทำให้พลอยไพลินตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอกลัวว่าเขาจะโกรธที่เธอไม่ตั้งโต๊ะอาหาร แต่เขาก็ไม่เคยเดินมาตามเธอถึงห้องครัวมาก่อนเลย " ไม่ได้ทำอะไรค่ะ พลอยกำลังเตรียมตัวตั้งโต๊ะอาหารให้พี่ค่ะ " พลอยไพลินรนลานราวกับคนมีความผิดนักหนา ทั้งที่ตัวเธอก็ทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างดีและสมบูรณ์แบบ " ให้พลอยตั้งโต๊ะเลยไหมคะ พี่หิวหรือยังคะ" " หิว!" คนตัวสูงตอบอย่างชัดเจนและค่อยๆเดินก้าวเข้ามาใกล้ จนร่างบางต้องถอยหลัง เธอมองหน้าสามีเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะหลบสายตา เธอไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเลย และยิ่งได้ยินประโยคก่อนหน้าของเขาก็ยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก"หิวอย่างอื่น วันนี้เธอไม่ทำหน้าที่ภรรยา" " เอ่อ..." ภ
ในค่ำคืนที่แสงไฟจางลงและเสียงดนตรีดังกระหึ่ม อัศวินประธานหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่หัวเราะและพูดคุยกับแฟนสาวของเขา หล่อนคือสุดา แฟนสาวของเขาที่รู้เรื่องราวเบื้องหลังของการแต่งงานคนถูกชนครั้งนี้เป็นอย่างดี เธอรู้ว่าเขาถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับพลอยไพลิน ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมเสียสละร่างกายเพื่อแลกกับการปลดหนี้ของครอบครัว เธออาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แสนดีที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว แต่สำหรับเขาเธอก็แค่ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง ยอมทำทุกอย่างได้เพื่อเงินโดยไม่รู้ถูกผิด ทั้งที่เขาก็บอกไปแล้วว่าเขานั้นมีคนรัก เธอก็ไม่สนใจและยอมที่จะตกลงแต่งงานกับเขาอยู่ดีอีกด้านหนึ่งของงาน พลอยไพลินที่ไม่รู้จักใครเลยในงานได้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนมองภาพสวีทหวานระหว่างสามีกับผู้หญิงคนอื่นด้วยความหนาวเหน็บในใจ ถึงจะรู้สึกเจ็บหัวใจมากสักแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือแฟนตัวจริงของสามีเธอ และเธอกับครอบครัวก็ยังต้องพึ่งพาเงินจากอัศวินเพื่อรักษาความอยู่รอด และดำเนินธุรกิจของครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตช่วงนี้ไปก่อนพลอยไพลินมองดูสามีตลอดเวลาจนเพื่อนของเขานั้นนึกสงสาร
พลอยไพลินยืนนิ่งอยู่ในห้องครัว เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดี ควรเก็บเสื้อผ้าเก็บของใช้ของตัวเองเตรียมตัวไว้เลยไหม หรือรอไปเซ็นใบหย่าก่อนแล้วค่อยเก็บ หรือควรจะบอกพ่อกับแม่ก่อนดี หัวใจที่ว้าวุ่นทำให้พลอยไพลินคิดอะไรไม่ออกเลย แพลนชีวิตที่เคยวางไว้พังไปหมด "เฮ้อ..ทำไงดี?" พลอยไพลินถอนหายใจออกมาเมื่อท่าทางเหนื่อยใจโดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังแล้ว"คิดจะทำอะไร? " เสียงของสามีทำให้พลอยไพลินตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอกลัวว่าเขาจะโกรธที่เธอไม่ตั้งโต๊ะอาหาร แต่เขาก็ไม่เคยเดินมาตามเธอถึงห้องครัวมาก่อนเลย " ไม่ได้ทำอะไรค่ะ พลอยกำลังเตรียมตัวตั้งโต๊ะอาหารให้พี่ค่ะ " พลอยไพลินรนลานราวกับคนมีความผิดนักหนา ทั้งที่ตัวเธอก็ทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างดีและสมบูรณ์แบบ " ให้พลอยตั้งโต๊ะเลยไหมคะ พี่หิวหรือยังคะ" " หิว!" คนตัวสูงตอบอย่างชัดเจนและค่อยๆเดินก้าวเข้ามาใกล้ จนร่างบางต้องถอยหลัง เธอมองหน้าสามีเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะหลบสายตา เธอไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเลย และยิ่งได้ยินประโยคก่อนหน้าของเขาก็ยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก"หิวอย่างอื่น วันนี้เธอไม่ทำหน้าที่ภรรยา" " เอ่อ..." ภ
# บริษัทอัสวิน ทางด้านประธานหนุ่มที่เพิ่งจะออกมาจากห้องประชุมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงทั้งสองคนที่เป็นประเด็นกันอยู่ในตอนนี้ เขาเดินไปยังห้องทำงานตามปกติ แต่ก็ได้พบเห็นสุดาแฟนสาวมารอเซอร์ไพรส์อยู่ในห้อง "เซอร์ไพรส์ค่ะ" สุดาพุ่งเข้ามาสวมกอดเขาอย่างไม่อายว่าตรงนี้จะมีเลขาอยู่ด้วย เธอแสดงความรักอย่างเต็มที่ แตกต่างจากภรรยาที่อยู่บ้านไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ไม่ว่าสามีจะเหนื่อยหรือทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยเข้ามากอดมาอ้อน เอาแต่ก้มหน้าไม่สู้สายตาราวกับคนทำผิดตลอดเวลา พูดแล้วก็หงุดหงิด เธอคงจะเห็นเขาสำคัญแค่ตอนอยากได้เงินเพียงเท่านั้น"คิดอะไรอยู่คะ?"สุดาเอ่ยถามแฟนหนุ่มที่อยู่ๆก็เหม่อลอยราวกับคิดอะไรอยู่ แล้วเธอก็ถามไปหลายครั้งเขาก็เอาแต่เงียบจมอยู่กับความคิดของตัวเอง หรือว่าเขากำลังคิดถึงภรรยาที่รออยู่บ้าน สุดานึกถึงคำพูดที่แม่ของเธอบอกไว้ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่บ้านเดียวกันนอนเตียงเดียวกันทุกคืนทุกวันมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเขาจะไม่รู้สึกอะไรกัน ถ้าลูกมัวแต่ช้าอยู่ไม่ทำอะไรสักอย่าง สองคนนั้นคงได้มีลูกกันเต็มบ้านพอดี" พี่คุยเรื่องหย่ากับภรรยาหรือยังคะ พรุ่งนี้ดาต้องไปงานเลี้ยงกับค
# วันต่อมาแม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาจะเร่าร้อนกับสามีจนร่างกายอ่อนเพลียไปหมด แต่พลอยไพลินก็ตื่นขึ้นแต่เช้าเพื่อทำอาหารเช้าให้กับสามี เธอตั้งใจทำอาหารอย่างเต็มที่และพยายามสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในบ้าน เมื่อสามีลงมาที่โต๊ะอาหารเธอก็บริการตักข้าวให้สามีอย่าเอาใจ ทุกอย่างบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของโปรดของเขาทั้งนั้น เธอจดจำและใคกทำโดยไม่ได้ถามเขา เธอสังเกตุการกินของเขา ว่าชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร เธอใส่ใจสามีในทุกรายละเอียด โดยที่เขานั้นไม่เคยรู้เรื่องอะไรของเธอเลย หลังจากทานอาหารเสร็จ สามีก็เตรียมตัวไปทำงานตามปกติ ไม่ได้มีการบอกกล่าวมีร่ำลาอะไรกับภรรยาเหมือนคู่รักทั่วไป พลอยไพลินที่เคยชินแล้วก็ได้แต่มองตามรถออกไปพร้อมรอยยิ้ม เธออยากอยู่ทำหน้าที่นี้ไปนานๆ อย่าอยู่เคียงข้างสามีแบบนี้แม้จะไร้ค่าในสายตาของเขาก็ตามเมื่อพี่อัศวินออกไปทำงานแล้ว พลอยไพลินจึงกลับมาที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดแท็บเล็ตส่วนตัวและเริ่มเข้าคอร์สเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการทำอาหารและทำขนม เป็นความชอบมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะพลอยไพลินเคยทำอาหารช่วยคุณยายอยู่บ่อยๆ ฝีมือการทำอาหารถอดแบบมาจากผู้เป็นยายที่เคยเป็นเจ้าของร้านอาหารมาก่อน ทำให้พลอยไพ
วันเวลาล่วงเลยไป...แต่อัศวินยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมที่ไม่มีพลอยไพลินอยู่ในสายตา เวลาส่วนมากของเขามักจะไปพบกับสุดาและใช้เวลาอยู่กับเธอ ส่วนพลอยไพลินต้องอยู่บ้านหลังใหญ่อย่างโดดเดี่ยว นับวันยิ่งรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ถูกละเลย รู้สึกไร้ตัวตนในสายตาของสามี ในขณะที่พลอยไพลินกำลังทำอาหารค่ำเพียงลำพัง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายจากเพชรลดาคุณแม่ของเธออีกเช่นเคย "ค่ะแม่" (แม่ได้รับเงินแล้วนะ ฝากขอบคุณวินด้วย) " แม่ขอเงินพี่วินอีกแล้วหรอคะ? " ( ใช่ ครั้งก่อนมันไม่พอ ) "ค่ะ ขอให้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จนะคะแม่"เพราะเธอไม่อยากรบกวนสามีอีกแล้ว แม่ของเธอคงได้เงินจากสามีไปจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธ แน่นอนว่าเขานั้นรวยมาก เงินที่ให้แม่ของเธอไปเป็นแค่เศษเงินของเขา หลังจากวางสาย พลอยไพลินก็มานั่งคิดทบทวนเรื่องราวในชีวิตของตัวเอง เธอร่ำเรียนมาก็สูงพอสมควร ไม่คิดว่าชีวิตจะต้องมาอยู่แบบนี้ เธอได้แต่หวังว่าสักวันชีวิตของเธอจะต้องดีขึ้น ในขณะเดียวกันอัศวินก็กลับมาบ้านหลังจากที่หายไปอยู่กับแฟนสาวหลายวัน เขาเดินผ่านเธอไปโดยไม่มีการทักทายหรือถามถึงความเป็นอยู่ของเธอเลยสักคำ ถึ
#วันต่อมาหลังจากเลิกงานอัศวินก็กลับมาบ้านตามเวลาปกติ พลอยไพลินก็ยังคงทำหน้าที่จัดโต๊ะอาหารรอเขาเหมือนกับทุกวัน "พี่วินอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ เดี๋ยวพลอยทำเพิ่มให้" และเธอก็ถามคำถามเดิมๆเหมือนทุกวัน เขาฟังจนเบื่อ และตอนนี้เขาก็อยากจะฟังเรื่องอื่นมากกว่า "วันนี้ฉันกินมาแล้ว " เขาตอบแค่นั้นแต่ในใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่พลอยไพลินมีเรื่องปิดบังเขา ทั้งๆที่เขาคือสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีเรื่องอะไรก็ควรจะบอกเขาเป็นคนแรก "ค่ะ " แล้วเธอก็ตอบเพียงสั้นๆก่อนที่จะเดินหายกลับเข้าไปในห้องครัว นี่เป็นอาการผิดปกติของเธอ เพราะปกติเธอจะต้องถามว่าเขาจะอาบน้ำเลยไหม หรือจะนั่งพักผ่อนก่อน เธอจะได้ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขา เขาต้องดูให้ได้ว่าเธอมีเรื่องอะไร อัศวินเดินไปนั่งยังโซฟาที่ห้องรับแขก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาแม่ของพลอยไพลินในทันที เพราะแม่คือคนที่พลอยไพลินสนิทมากที่สุด (ว่าไงลูก น้องบอกลูกแล้วหรอ) "บอกเรื่องอะไรหรอครับ ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับน้องเลยครับ" ปลายสายเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะบอกออกมาด้วยท่าทางลำบากใจ (น้องโทรมาปรึกษาแม่ว่าอยากได้เงินไปลงทุนทำร้านเบเกอรี่กับเพื่อน แต่ไม่กล้าข
เช้าวันต่อมา... พลอยไพลินตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดในใจและรู้ว่าที่ข้างๆที่เป็นที่นอนประจำของอัศวินว่างเปล่า เขาคงจะไปหากับแฟนเก่าของเขา และปล่อยให้ตัวปลอมอย่างเธอนอนบนเตียงกว้างอย่างโดดเดี่ยวเช่นเคย พลอยไพลินรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่สามีเมินเฉย ถึงจะเจ็บปวดสักแค่ไหนก็รู้ตัวดีว่าเธอไม่สามารถทำอะไรได้ ร่างบางฝืนใจลุกขึ้นไปแต่งตัวแม้จะรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจเมื่อพลอยไพลินเดินลงมายังชั้นล่างมาทำอาหารเช้าทานเองและทำไว้เผื่อสามีกลับมาทาน ถ้าเขาไม่มาทานอาหารที่เธอทำ เธอก็แค่เก็บไว้อุ่นกินในช่วงสายในช่วงเที่ยง ระหว่างที่พลอยไพลินกำลังทำอาหารอย่างตั้งใจ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เป็นสายจากแม่ของเธอเอง พลอยไพลินมองหน้าจอด้วยท่าทางลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะรับสาย เพราะเธอรู้ดีว่าแม่โทรมาหาเธอเพื่ออะไร "ค่ะแม่ " (ทำอะไรอยู่เหรอลูกทำไมรับสายช้าจัง)" หนูทำอาหารเช้าให้พี่วินอยู่ค่ะ " ( ดีนะลูกทำหน้าที่ภรรยาให้ดี )ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีหมายถึงเอาใจสามีเพื่อให้ได้เงินมาเยอะๆมาทำให้ครอบครัวดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นั่นคือเป้าหมายของผู้เป็นแม่ที่ส่งลูกสาวไปแต่งงานกับชายหนุ่มที่ไม่ได้รักลูกสาวเลยแม้แต่น
ในค่ำคืนที่แสงไฟจางลงและเสียงดนตรีดังกระหึ่ม อัศวินประธานหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่หัวเราะและพูดคุยกับแฟนสาวของเขา หล่อนคือสุดา แฟนสาวของเขาที่รู้เรื่องราวเบื้องหลังของการแต่งงานคนถูกชนครั้งนี้เป็นอย่างดี เธอรู้ว่าเขาถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับพลอยไพลิน ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมเสียสละร่างกายเพื่อแลกกับการปลดหนี้ของครอบครัว เธออาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แสนดีที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว แต่สำหรับเขาเธอก็แค่ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง ยอมทำทุกอย่างได้เพื่อเงินโดยไม่รู้ถูกผิด ทั้งที่เขาก็บอกไปแล้วว่าเขานั้นมีคนรัก เธอก็ไม่สนใจและยอมที่จะตกลงแต่งงานกับเขาอยู่ดีอีกด้านหนึ่งของงาน พลอยไพลินที่ไม่รู้จักใครเลยในงานได้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนมองภาพสวีทหวานระหว่างสามีกับผู้หญิงคนอื่นด้วยความหนาวเหน็บในใจ ถึงจะรู้สึกเจ็บหัวใจมากสักแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือแฟนตัวจริงของสามีเธอ และเธอกับครอบครัวก็ยังต้องพึ่งพาเงินจากอัศวินเพื่อรักษาความอยู่รอด และดำเนินธุรกิจของครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตช่วงนี้ไปก่อนพลอยไพลินมองดูสามีตลอดเวลาจนเพื่อนของเขานั้นนึกสงสาร