Share

บทที่ 77

Author: เบลล่า
"เธอดูดีมากเลยเพื่อนสาว" ฉันยิ้มให้เธอ

เธอหน้าแดงแล้วกอดฉันอีกครั้ง "ขอบคุณจ้ะ" เธอดึงตัวกลับ "เธอก็ไม่ได้แย่อะไรนี่"

“ซิดนีย์!”

ฉันกับเกรซสบตากันเมื่อได้ยินคนมาเรียกชื่อฉัน จากนั้นเราทั้งคู่กันหันไปตามเสียงนั้น

ฉันเลิกคิ้วมองคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเรา มาร์คกับเบลล่านั่นเอง ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ อันที่จริงฉันไม่เคยคาดคิดว่าจะมีโอกาสมาเจอพวกเขาที่นี่ได้

หลังจาก เกรซเดินทางไปปารีสแล้ว ฉันก็ได้รับมอบหมายให้เป็นคนดูแลกิจการของบริษัท ฉันยุ่งมากกับการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และไล่พนักงานที่ขัดขวางความก้าวหน้าของบริษัทออกไป จนไม่มีเวลาแม้แต่จะนึกถึงมาร์คหรือเบลล่าหรือใครก็ตาม หรือแม้แต่สิ่งใดก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของบริษัท

แม้แต่ตอนที่ฉันไปที่บริษัทจีที กรุป ฉันก็ไม่เคยเจอเขาเลย พอมานั่งคิดดูในตอนนี้ ฉันก็สงสัยจังว่าเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ฉันหมายความว่าฉันไปที่จีที กรุปตั้งหลายครั้ง แต่เราไม่เคยเจอกันเลย เขาคงหลบหน้าฉันใช่ไหม? แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก นับเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป เพราะฉันไม่ได้อยากจะเจอเขาเลย

การได้มาเห็นพวกเขาในตอนนี้ มาร์คกำลังยิ้มแฉ่งและเบลล่ากำลังแย้มยิ้มให้มา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Phongnapa Lamat
เนื้อเรื่องมันจะจบเมื่อไหร่เนี่ย มีแต่ทะเลกว้างใหญ่ เล่าแจ่ชีวิต เกรซ กะซิดนี้ ตกลงใครคือ พอ. นางเอก.
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 78

    มุมมองของมาร์คผมรู้สึกเป็นกังวลมากในช่วงนี้ จิตใจเต้นไม่เป็นส่ำทุกครั้งเหมือนพร้อมจะล่องลอยออกไป และก็นึกถึงการเตะที่ผมรู้สึกได้บนหน้าท้องของเบลล่า ผมรู้สึกได้ถึงการเตะนั้นบนฝ่าผมอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าเพิ่งเอามือคลำไปหยก ๆ นี่เอง มันเหมือนเป็นการย้ำเตือนเป็นประจำทุกวันว่าผมกำลังจะกลายเป็นพ่อในไม่ช้านี้ ผมกำลังจะกลายเป็นพ่อของเด็กที่ตนเองยังไม่รู้ว่าอยากจะได้หรือเปล่า ผู้หญิงคนที่ผมเริ่มจะมีความรู้สึกขัดแย้งกับเธอกำลังอุ้มท้องลูกของผมอยู่ แล้วผมไม่รู้ว่าจะต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ผมรู้สึกอับจนหนทางมากเคยคิดว่าผมรักเบลล่าและพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเธอ แล้วสุดท้ายผมก็ได้อยู่กับเธอ แต่ผมไม่แน่ใจว่ายังรักเธออยู่หรือเปล่า เวลาที่เห็นเธอหรือรอยยิ้มนั้น หัวใจก็ไม่ได้เต้นรัวอีกแล้ว ผมไม่รู้สึกสบายเหมือนอยู่ที่บ้านอีกต่อไป เวลาที่มีเธอเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ แต่กลับรู้สึก...อึดอัดจนหายใจไม่ออก แล้วจู่ ๆ ก็แค่อยากให้อยู่ห่างจากเธอช่วงเวลาดี ๆ ระหว่างเรามีเพียงชั่วเวลาเดียวเท่านั้น คือเวลาที่เรามีอะไรกัน ช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาทีที่ผมอยากสนองความต้องการทางเพศของตัวเอง คือช่วง

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 79

    วันนั้นผมรู้สึกว้าวุ่นใจอยู่ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่ในขณะแต่งตัวเตรียมจะออกไปทำงาน… ในขณะเดินทางไปทำงาน จนถึงเวลาที่ผมหย่อนตัวนั่งในห้องทำงานดังนั้น เมื่อเธอเข้ามาหาผมในอีกสองเดือนต่อมา พร้อมกับผลอัลตร้าซาวนด์ และวางมือบนหน้าท้องอันแบนราบ ดวงตาเปล่งประกายไปด้วยความหวัง ความสุข และความหวาดกลัว ซึ่งผมไม่รู้สึกประหลาดใจอะไรเลย“มาร์ค ฉันท้องค่ะ" เธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือและเบาจนแทบจะไม่ได้ยินผมนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับจ้องมองเธอ ผมแอบคิดอยู่ในใจเอาไว้แล้ว ผมรู้อยู่แล้วว่าเธอท้องแต่ผมก็ยังคงตกตะลึง ใบหน้าแดงเหมือนห้อเลือด เมื่อตระหนักได้ว่าในที่สุดสิ่งที่ผมกลัวเหลือเกินได้เกิดขึ้นแล้ว "แต่ผมจำได้ว่าได้บอกให้คุณกินยาคุมกำเนิดแล้วนี่!” ผมโพล่งออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยวโดยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของเธอเลยเธอมองผมน้ำตาคลอเบ้าอย่างที่คาดเอาไว้ "ฉันกินยานั่นแล้ว" เสียงสั่นเครือ "แต่มันคงใช้ไม่ได้ผล" มันเป็นอุบัติเหตุ เข้าใจไหมคะ? ฉันไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเหมือนกัน แต่ฉันอยากเก็บเด็กคนนี้ไว้ มาร์ค" เธอขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น "แล้วหมอก็บอกว่าร่างกายของฉันอ่อนแอเกินไป ถ้าฉันไม่เก็บเด็กคนนี้เอาไว

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 80

    มุมมองของซิดนีย์ฉันกระแทกโน้ตบุ๊คปิดแล้วผู้เข้าประชุมบางคนก็เลิกคิ้วขึ้น ฉันยิ้มตอบคนคนนั้น แล้วหันกลับไปหาวิทยากรในวันนั้นวันนั้นวุ่นวายมากนับตั้งแต่ที่ฉันมาถึงที่ทำงานในตอนเช้า มีงานโน้นงานนี้ แล้วก็การประชุมแล้วประชุมเล่าเราเพิ่งทำการสัมมนาเรื่องการการออกแบบเครื่องประดับในช่วงแรกเสร็จ ซึ่งจัดขึ้นในบริษัทของเราเอง โชคดีที่ยังมีช่วงเบรคสั้น ๆ ก่อนจะเริ่มสัมมนากันในช่วงที่สองต่ออีกฉันเดินอย่างเหนื่อยอ่อนไปที่ห้องทำงานของฉัน วางโน้ตบุ๊คไว้บนโต๊ะ แล้วเดินออกจากอาคารด้วยความอ่อนล้าฉันแค่อยากอยู่คนเดียวในขณะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ หลังจากติดแหงกอยู่ในห้องประชุมเป็นเวลาหลายชั่วโมง!ฉันเดินไปยังร้านกาแฟข้าง ๆ บริษัทเพื่อดื่มกาแฟสักแก้ว ร้านกาแฟร้านนี้เป็นสถานที่หลบหนีสำหรับฉันได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ซึ่งพนักงานคนอื่น ๆ จะไม่มีทางเห็นฉัน แล้วพยายามพูดคุยอะไรที่ไม่อยู่ในความสนใจของฉันหลังจากสั่งกาแฟแล้ว ฉันก็เดินไปนั่งด้านในสุดของร้าน ซึ่งอยู่ติดกับผนังกระจกของร้านแกแฟ ตอนแรกฉันก็ครุ่นคิดถึงการสัมมนาที่เพิ่งจบลงไป จนเกือบจะขอปากกากับกระดาษจากพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งแล้ว แต่ก็หยุดยั้งเอาไว

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 81

    "ฉันขึ้นเสียงก็เพราะฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นน่ะสิ ฉันไม่อนุญาตให้เธอไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ในขณะที่ยังอุ้มท้องลูกฉันอยู่นะเว้ย!”“นายก็ทำได้แค่นั้นเอง รู้ไหม" เบลล่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวด "โอ้อวดซะจริงนะ พูดเหมือนนายเหมือนจะย้ายสวรรค์และโลกได้อย่างนั้นแหละ แต่ไม่มีปัญญาดูแลเด็กที่อ้างว่าเป็นลูกนายได้หรอก" ฉันเลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับเบิกตาโพลง ว้าว เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? เบลล่าน่าจะตั้งท้องลูกของมาร์คไม่ใช่เหรอ? นี่เบลล่ากำลังสวมเขาให้มาร์คอยู่เหรอ? ฉันเอามือปิดปากหัวเราะเบา ๆพวกเขายังคงโต้เถียงกันต่อไป ฉันแน่ใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมารวมทั้งลูกค้าในร้านกาแฟแห่งนี้ได้ยินที่พวกเขาพูดกันหมดฉันไม่อยากจะฟังอะไรมากไปกว่านี้แล้ว เพราะฉันรู้ดีว่าการล่วงรู้อะไรเกี่ยวกับเบลล่ามาก ๆ นั้น มักจะนำปัญหาเข้ามาอย่างไม่รู้จบเสมอ ไม่มีอะไรมากกว่านี้หรอกฉันเดินกลับไปยังที่นั่งเดิมและเตรียมตัวที่จะออกจากร้านไป ในขณะที่ฉันหมุนตัวที่จะเดินออกจากร้านไปนั้น ฉันก็สังเกตเห็นว่าเบลล่ากับผู้ชายคนนั้นขยับเข้ามาใกล้ทางออกมากขึ้น พวกเขายังคงโต้เถียงกันอยู่โดยต่างฝ่ายต่างสาดคำพูดใส่กัน แต่ฉันแน่ใจว่าถ้าฉันเดินผ่

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 82

    "นี่มันเรื่องอะไรกัน?!” ฉันชูมือขึ้นไปแล้วพูดออกมาในขณะคลายความตื่นเต้นลงแล้ว "ทำไมเธอถึงโผล่เข้ามาแบบนั้นล่ะ? ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้วนะ"เธอเบ้ปาก "หล่อนทำให้ฉันเกือบหัวใจวายเหมือนกันแหละตอนที่เห็นเธอนั่งอยู่ตรงนี้" เธอเลิกคิ้วที่สวยได้รูปขึ้นไป "หล่อนสะกดรอยตามฉันมาเหรอ? ฉันแน่ใจว่าการสะกดรอยตามในวันนี้คงประสบความสำเร็จสินะ เพราะได้ยินทุกอย่างแล้วใช่ไหม?”ฉันมองดูเธอ "เธอ… เธอ...”เธอยิ้มอย่างเย็นชา "เธออะไร? อย่าบอกนะว่าหล่อนไม่ได้ยินอะไรเลย" จากนั้นเธอก็ทำเสียงยียวนและขมวดคิ้วอย่างตั้งอกตั้งใจ "อย่าโกหกนะ ซิดนีย์"ฉันกลอกตา "ฉันหมายความว่าเธอไม่ควรดื่มกาแฟมากขนาดนั้นนะ เธอท้องอยู่"เบลล่าหัวเราะเบา ๆ แล้วฉันก็สงสัยว่าฉันพูดตลกตรงไหน จากนั้นเธอก็หยุดหัวเราะพร้อมกับกลอกตา แล้วพูดว่า "ใครใช้ให้หล่อนสั่งกาแฟล่ะ?”ฉันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก ฉันสั่งกาแฟมากินเองเถอะ! ไม่ได้เชิญเธอมานั่งดื่มกาแฟด้วยกันซะหน่อย แต่ฉันไม่อยากจะโต้เถียงกับผู้หญิงท้อง นอกจากนี้ การโต้เถียงกับเบลล่าก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก เสียเวลาเปล่า ๆ ฉันส่งสัญญาณให้พนักงานเสิร์ฟ "เอาน้ำผลไม้มาใ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 83

    ฉันพยายามหาเหตุผลกับเธออีกครั้ง "อย่างน้อย" ฉันชี้ไปที่โทรศัพท์ในมือเธอ "เธอก็คงเห็นแล้วนะว่าฉันไม่ได้ติดต่อกับ" ฉันเลิกคิ้วขึ้นในขณะกระดิกนิ้วเป็นเครื่องหมายคำพูด "ผู้ชายของเธอเลยนับตั้งแต่เราหย่ากัน ฉะนั้น ฉันก็ไม่เป็นภัยอันตรายกับเธออย่างแน่นอน"ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรออกไป เบลล่าก็ยังกำโทรศัพท์ไว้แน่น "นั่งลงดื่มกาแฟกับฉันก่อน แล้วฉันจะคืนให้"บ้าจริง!“ฉันไม่อยากนั่งดื่มกาแฟกับเธอ แค่ส่งโทรศัพท์นั้นมาก็พอ!” ฉันพูดออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยความหงุดหงิด และพยายามยับยั้งตัวเองไม่ให้พุ่งเข้าไปหาเธอ“งั้นก็โอเค" เธอเอนตัวพิงเก้าอี้แล้วเก็บโทรศัพท์เข้าไปไว้ในกระเป๋า เธอเงยหน้าขึ้นมองแล้วส่งยิ้มหวานให้ฉัน "เธอออกไปได้แล้ว"หน้าอกของฉันกระเพื่อมขึ้นลงด้วยความเดือดดาล เสียดายที่เธอตั้งท้องอยู่ ไม่งั้นฉันคงระบายความโกรธและความหงุดหงิดกับเธอไปแล้ว และฉันรู้ว่านั่นคือสิ่งที่เธอกำลังเดิมพันอยู่ เธอถึงได้กล้าทำอะไรแบบนั้น เธอรู้ว่าไม่ว่าจะทำอะไรลงไป ฉันจะไม่มีวันลงไม้ลงมือกับผู้หญิงท้อง และถึงแม้ทำอย่างนั้น ฉันก็ต้องเป็นฝ่ายผิด ตำรวจจะไม่เข้าข้างฉันอย่างแน่นอนเมื่อมาถึง เพราะท้ายที่สุดแล้วฉันกำ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 84

    “เคยมีลูกเหรอ?” ฉันแอบคิดอยู่ในใจแล้วร่างกายก็เกร็งขึ้นเล็กน้อย แน่นอนว่าฉันไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องแบบนี้เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่นะ? เกิดในช่วงสามปีที่เธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหรือเปล่า? แต่ถึงแม้ฉันจะมีคำถามอยู่มากมาย แต่ฉันก็ยังพยามทำเป็นใจเย็นและแสดงสีหน้าเฉยเมยฉันจดจ่ออยู่กับริ้วคลื่นที่แทบมองไม่เห็น ซึ่งก่อตัวขึ้นบนพื้นผิวกาแฟในถ้วยในขณะคนกาแฟที่มีควันกรุ่นช้า ๆ“ไม่อยากรู้" ฉันพูดเรียบ ๆ อย่างไม่ใส่ใจพูดตามตรงนะ ฉันไม่สนใจที่จะได้ยินเรื่องราวใด ๆ เกี่ยวกับอดีตอันมืนมน ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนั้นฉันจะเคยสนใจในเรื่องนั้นมาก่อนก็ตาม เราจะขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออะไรกัน?ในขณะที่เรานั่งพูดคุยท่ามกลางเสียงกระทบกันของช้อนส้อมในร้าน แต่เสียงพวกนั้นก็ค่อย ๆ เงียบลงจนกลายเป็นเสียงพึมพำในระยะไกล ในขณะที่ดวงตาของเบลล่าจ้องมาที่ฉันราวกับตะปูที่กำลังตอกเข้ามาในตัวฉัน นิ้วมือโอบอยู่รอบถ้วยกาแฟ แล้วเธอยกขึ้นจิบอย่างช้า ๆ ก่อนจะกลอกตา“ถึงยังไงฉันก็จะเล่าให้เธอฟังอยู่ดี" เธอยักไหล่ฉันก็ยักไหล่เช่นกันในขณะจิบกาแฟแล้วหันไปมองวิวนอกหน้าต่างร้านกาแฟ ฉันพยายามปล่อยตัวปล่อยใจไปกับทัศ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 85

    "ฉันอุ้มลูกไปร้องไห้ไปเพราะความขมขื่นอยู่บนเตียงคลอด"ตอนนั้นฉันพูดอะไรไม่ออกไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี?ฉันควรจะพูดกับเธอยังไงดีล่ะ?เห็นได้ชัดว่าไม่มีคำพูดที่แสดงความสงสารออกมาจากใจจริง เพราะถึงแม้จะรู้สึกแย่กับเรื่องราว แต่ฉันกลับไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยฉันเอนหลังพิงเก้าอี้พร้อมกับแก้วกาแฟที่วางเปล่า“นับเป็นเรื่องราวที่ดีนะ" ฉันพูดพร้อมกับโบกมือ "แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้เราญาติดีกันได้นะ ยังไงผู้หญิงที่เข้าไปวุ่นวายในชีวิตแต่งงานของคนอื่นนั้นเป็นคนสารเลวอยู่ดี แล้วเธอเอง ก็เลือกที่จะเข้ามาวุ่นวายในชีวิตแต่งงานของฉัน ซึ่งก็หมายความว่าเธอก็เป็นผู้หญิงสารเลวเหมือนกัน เรื่องราวที่เธอเล่าให้ฉันฟังไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ ฉันก็ไม่ใช่คนที่ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาณ แต่ในทางกลับกัน ฉันต้องรับมือกับผลที่ตามมาจากความหุนหันพลันแล่นของเธอ ฉะนั้นฉันก็จะไม่เห็นอกเห็นใจเธอหรอกนะ"สีหน้าของเบลล่าแปรเปลี่ยนเป็นความเดือดดาล รูจมูกขยายกว้างขึ้นในขณะที่กำแก้วกาแฟแน่น เส้นเลือดบนหลังมือก็ดูปูดโปนขึ้นมา“ฉันไม่ต้องการความสงสารจากหล่อน" เธอพูดออกมาอย่างเร่าร้อน "ที่ฉันเล่าให้ฟังก็เพราะฉันต้องทนทุกข์ทรมาณมามาก

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status