Share

บทที่ 113

Author: เบลล่า
last update Last Updated: 2024-12-29 17:00:00
มุมมองของมาร์ค

"ท่านครับ คุณเบลล่ามาขอพบครับ เธอกำลังรอพบท่านอยู่ชั้นล่างตอนนี้ครับ" เสียงดังผ่านอินเตอร์คอมทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารบนโต๊ะ

ผมเอนตัวพิงเก้าอี้และครุ่นคิดว่าเธอมาที่นี่ทำไมอีก คราวนี้เธอจะกุเรื่องอะไรที่คิดว่าผมจะเชื่อขึ้นมาอีก? ถ้าเธอจะบอกว่าตัวเองเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวผมก็คงไม่แปลกใจ

ผมโน้มตัวไปข้างหน้าและกดปุ่มเรียก "ให้เธอเข้ามา!"

ลองฟังดูสิว่าเธอจะมีอะไรมาแสดงอีก

"ได้เลยครับท่าน" เสียงจากอีกฝั่งตอบกลับทันที

ไม่กี่วินาทีต่อมา ผมก็เห็นประตูค่อย ๆ ถูกเปิดออกพร้อมเสียงประตูที่กังขึ้น เบลล่าเดินเข้ามา

สายตาของผมกวาดมองเธอจากหัวจรดเท้า เธอสวมชุดเดรสคอเต่าสีดำที่แนบเนื้อโชว์รูปร่างที่สง่างาม ริมฝีปากสีพลัมถูกเคลือบด้วยสีแดงสด และแว่นกันแดดขอบดำขนาดใหญ่ที่ดูหรูหราวางอยู่บนสันจมูกที่ดูบอบบางของเธอ ปิดบังสีหน้าของเธอจากสายตาคน

"สวัสดีค่ะ มาร์ค" เธอกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา ขณะที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม มือที่เพิ่งทำเล็บมาใหม่อย่างเห็นได้ชัดจับอยู่บนพนักพิงของเก้าอี้

ผมสูดหายใจเข้าลึกแล้วพ่นลมหายใจออกมา "นั่งสิ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและผายมือไปยังเก้าอี้
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 114

    ผมเปิดลิ้นด้านล่างด้านทางขวาและหยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมา จากนั้นผมวางมันลงบนโต๊ะและเลื่อนมันไปยังอีกฝั่งของโต๊ะในตำแหน่งที่เธอจะเอื้อมถึงได้ ผมดึงมือกลับและพยักหน้าไปทางบัตรใบนั้น "ในบัตรนั้นมีเงินอยู่หนึ่งล้านดอลลาร์ หรืออาจจะมากกว่านั้น เอาไปให้หมดเลย มันน่าจะเพียงพอสำหรับการเริ่มต้นชีวิตอันหรูหราครั้งใหม่" ผมไม่พลาดที่จะสังเกตความเร็วที่เธอคว้าบัตรธนาคารจากโต๊ะ เธอหลบสายตาผมขณะที่เก็บมันลงไปในกระเป๋าของเธอ จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้น "นี่มันไม่พอหรอก คุณสัญญาว่าจะซื้อลักซ์ โว้คให้ฉันนี่ แต่คุณยังไม่ได้ทำเลยนะ" ผมแค่นหัวเราะเมื่อคิดถึงคำสัญญาที่ผมเคยให้กับเธอในขณะที่อยู่บนตัวเธอ ผู้หญิงคนนี้โง่ขนาดไหนกัน? "คุณเชื่อในที่ผู้ชายพูดบนเตียงงั้นเหรอ?" ผมหัวเราะเยาะอีกครั้ง "อย่าทำตัวไร้สาระไปหน่อยเลย เบลล่า" เธอตอบกลับทันที "จะว่าฉันไร้สาระก็ได้ ถ้ามันจะทำให้คุณทำตามสัญญา คุณสัญญาว่าจะซื้อลักซ์ โว้คให้ฉัน และตอนนี้ฉันก็ต้องการมันแล้ว" ผมจ้องเธอ ด้วยสายตาผมค้นหาความจริงในดวงตาของเธอ เธอจริงจังเหรอ? "ผมไม่สามารถซื้อลักซ์ โว้คให้คุณได้หรอก" ผมพูดหนักแน่น "และการที่ผมบอกว่าจะซื้

    Last Updated : 2024-12-29
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 115

    มุมมองของซิดนีย์ฉันอ้าปากค้าง จ้องมองชายที่เป็นผู้จัดซื้อผ้าฝ้ายของเรา ใบหน้าของเขาตึงเครียดและปฏิเสธที่จะสบตาฉัน ขณะยังยืนยันคำเดิมอย่างหนักแน่น “ทำไมคะ?!” ฉันถามซ้ำ ฉันถามคำถามนี้ไปเป็นพันครั้งแล้ว แต่สิ่งที่เขาพูดซ้ำไปซ้ำมาก็คือ เขาไม่อยากทำธุรกิจกับลักซ์ โว้คอีกต่อไป ปกติแค่ฝ่ายจัดซื้อเจ้าเดียวบอกเราว่าเขาไม่อยากส่งวัตถุดิบให้เราอีกต่อไปคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ฉันหมายถึง เราหาผู้จัดซื้อรายใหม่ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันได้ไม่ยาก แน่นอนว่ากระบวนการหาผู้จัดซื้อที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูงนับเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่เราก็ทำได้ แต่ปัญหาคือ ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้จัดซื้อของลักซ์ โว้คทุกเจ้าทยอยถอนตัวออกไป บางคน อย่างเช่นคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันนี้ ที่ยังสุภาพพอจะมาพบเราตัวต่อตัวเพื่อแจ้งยกเลิก แต่บางคนกลับไม่แม้แต่จะมาเจอกันต่อหน้า เพียงส่งอีเมลสั้น ๆ มาว่า “สวัสดีครับ เราจะไม่ดำเนินกิจการกับบริษัทของคุณอีกต่อไป ขอบคุณ” และจบแค่นั้น! ไม่ได้แจ้งเหตุผลอะไรเลย การพยายามติดต่อพวกเขาล้วนไร้ผล ในเมื่อชายตรงหน้ายอมมาพบฉัน ฉันจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาบอกเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่อยาก

    Last Updated : 2024-12-29
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 116

    ลมหายใจของเขาหอบหนักขณะที่พูด "ขอบคุณพระเจ้า ผมนึกว่าคุณจะไม่อยู่เสียอีก" "คราวนี้มีเรื่องอะไรอีก?" ฉันถามด้วยน้ำเสียงชืด ๆ ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว "หุ้นส่วนด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าของลักซ์ โว้คโทรมา" เขากล่าวขณะกางเอกสารบนโต๊ะฉัน "พวกเขาขึ้นค่าธรรมเนียม และต้องการค่าธรรมเนียมล่วงหน้าหนึ่งปี มิฉะนั้นเราต้องหาหุ้นส่วนรายใหม่" ฉันกับเกรซสบตากันทันที ก่อนที่เกรซจะลุกพรวดขึ้นยืน "ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว!" เธอระเบิดอารมณ์แล้วเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ฉันมองเธอจากไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นพวกนี้ มันบ้าบอสิ้นดี "บอกพวกเขาไปว่าเราจะจ่ายให้" ฉันบอกเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี "แต่ขอเวลาพวกเขาสักสองสามวันแล้วกัน" ก่อนฉันจะพึมพำเบา ๆ "นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะหาหุ้นส่วนรายใหม่ ลักซ์ โว้คกำลังพังทลายลงแล้ว" เมื่อถึงเวลาประชุม ฉันลากตัวเองไปที่ห้องประชุมด้วยความเหนื่อยล้า ภายในห้องมีเพียงผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้ถือหุ้นสองคน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี และเกรซกับฉันเท่านั้น ผู้ถือหุ้นที่เรียกประชุมเริ่มพูดทันที ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ "นี่มันเรื่องอะไรกัน ผมได้ยินว่

    Last Updated : 2024-12-29
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 117

    "ทำไมเราไม่ขายบริษัทให้พวกเขาไปเลยล่ะ? ขายมันไปตอนที่เรายังพอมีโอกาส ฉันไม่อยากจบลงด้วยการไม่เหลืออะไรเลย" น้ำเสียงของเธอสั่นเครือขณะที่พูด "ขอโทษนะ แต่ฉันกลัวจริง ๆ ว่าจะต้องกลับไปลำบากอีก ฉันไม่อยากนึกถึงช่วงเวลายากลำบากพวกนั้นอีก ฉันรับไม่ไหว" เธอส่ายหัวเหมือนคนสติหลุด มือของเธอที่กำชายกระโปรงฉันแน่นขึ้น "ฉันกลับไปยังวันเวลาเหล่านั้นไม่ได้" เธอเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ฉันปลอบเธอ "อย่ากลัวไปเลย ฉันอยู่ตรงนี้ เราอยู่ด้วยกันนะ เราจะยืนหยัดต่อไปให้ได้ ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้จะต้องเผยตัวออกมาแน่ แล้วเราจะรู้ว่าควรทำยังไง" ฉันจับหน้าเธอให้มองมาที่ฉัน แล้วสบสายตาเธออย่างแน่วแน่ "อย่ากังวลไปเลย นี่ไม่ใช่เวลาที่จะตื่นตระหนก แต่มันคือเวลาที่เราต้องเข้มแข็งและรักษาความหวังเอาไว้" เกรซสูดน้ำมูกและพยักหน้า พลางสะอื้น "ก็ได้" …… ผ่านมาหลายวันกับการรับแต่ข่าวร้าย ความวิตกและความกลัวเริ่มกัดกินฉันอย่างทรมาน ฉันอาจให้คำมั่นกับเกรซว่าทุกอย่างจะโอเค แต่ตัวฉันเองก็ไม่มั่นใจอีกต่อไป ฉันบอกเธอว่าอย่าตื่นตระหนก แต่จริง ๆ แล้วฉันกลับทำตรงกันข้าม ฉันกำแก้วในมือแน่นจนแปลกใจที่ยังไม

    Last Updated : 2024-12-30
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 118

    มุมมองของมาร์คผมหันกลับทันทีเมื่อประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอย่างแรง ผู้ช่วยของผมก้าวเข้ามา คิ้วเขาขมวดมุ่น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัวและกังวล "นายพรวดพราดเข้ามาแบบนี้ได้ยังไง?!" ฉันลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ ลมหายใจเขาขาดห้วง พยายามหายใจให้สม่ำเสมอก่อนจะพูด ผมสงสัยว่าเขาวิ่งมาที่นี่หรือเปล่า "ซิดนีย์กำลังมา และด้วยสีหน้าท่าทางการเดินของเธอแล้ว ไม่มีใครกล้าขวางเธอเลย แม้แต่ทีมรักษาความปลอดภัย ผมแทบจะ..." สายตาของผมเลื่อนไปที่ประตูซึ่งถูกผลักเปิดออกอย่างแรงอีกครั้ง ผู้ช่วยของผมรีบกระโดดหลบทางเมื่อซิดนีย์พุ่งเข้ามา เธอตรงมาที่โต๊ะทำงานของผมและกระแทกกระเป๋าลงบนโต๊ะ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธพุ่งตรงมาที่ฉันพร้อมตะโกนว่า "มาร์ค คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? ทำไมนายต้องทำให้ทุกอย่างลำบากสำหรับฉันด้วย?" ผมเลิกคิ้วขึ้น มองรอยแตกเล็ก ๆ ที่เธอเพิ่งทำไว้บนโต๊ะด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปมองผู้ช่วยที่กำลังจ้องซิดนีย์ด้วยความระมัดระวัง ผมพยักหน้าให้เขา "ออกไปก่อนเถอะ" ริมฝีปากของเขาสั่นเทา สายตาสลับระหว่างซิดนีย์กับผม "ต้องการให้ผมเรียกทีมรักษาความปลอดภัยเพิ่มไหมครับ?" ผมมองเขาด้วยแววตาขบขัน ข

    Last Updated : 2024-12-30
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 119

    ผมพยักหน้าอย่างช้า ๆ ยอมรับข้อมูลนี้ “ทำไมคุณไม่อัปเดตข้อมูลในโปรไฟล์ของคุณเองล่ะ? แบบนั้นคงช่วยป้องกันความเข้าใจผิดครั้งใหญ่แบบนี้ได้” เธอกลอกตา “ฉันยุ่งมาก ทั้งเรื่องเรียนหนังสือ ทั้งการตามหาพ่อแม่ แล้วจู่ ๆ ก็กลายมาเป็นเมียคุณอีก จะเอาเวลาที่ไหนไปจัดการเรื่องนั้นล่ะ มาร์ค?” ผมมองเธออยู่ครู่หนึ่ง “คุณพูดถูก การอัปเดตโปรไฟล์ธุรกิจคงเป็นเรื่องสุดท้ายที่คุณจะกังวล” จากนั้นผมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปที่เครื่องทำกาแฟที่วางอยู่ตรงมุมห้อง พลางทบทวนทุกอย่างในหัวอีกครั้งตอนที่กำลังชงกาแฟสองแก้ว แม้ยืนอยู่ตรงนั้น ผมก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาอันร้อนแรงของเธอที่จ้องมองมาที่แผ่นหลังของผม ผมวางกาแฟหนึ่งแก้วลงตรงหน้าเธออย่างแผ่วเบา “นั่งลงแล้วใจเย็น ๆ ก่อน ผมรับรองได้ว่านี่เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน มาคุยกันดี ๆ แล้วแก้ปัญหานี้ไปด้วยกันเถอะ” เธอคว้ากาแฟขึ้นมาแล้วดื่มรวดเดียวหมด จากนั้นก็จ้องผมเขม็ง “เอาล่ะ มาแก้ปัญหากัน คุณมีแผนจะแก้ปัญหานี้ยังไง?” ผมยิ้มให้เธอแล้วกลับมานั่งที่เดิม ความคิดหนึ่งเริ่มก่อตัวขึ้นในหัว “คุณพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายของคุณไหม? ถ้าคุณเอามาด้วย ขอ

    Last Updated : 2024-12-30
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 120

    มุมมองของซิดนีย์ตามที่คาดไว้จากบริษัทใหญ่โตอย่างจีที กรุป สำนักงานฝ่ายบริหารจัดการได้เตรียมสัญญาและข้อเสนออย่างรวดเร็วและนำมาให้มาร์คตรวจสอบ ฉันมองชายคนหนึ่งที่นำเอกสารมายืนข้างมาร์คและอธิบายบางอย่างให้เขาฟัง “นี่คือเอกสารยกเลิกข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการ เราต้องการลายเซ็นของคุณตรงนี้” เขาชี้ไปที่จุดหนึ่งในเอกสาร “และตรงนี้” มาร์คพยักหน้าในขณะที่เขาอ่านเอกสารไปก่อนเป็นอันดับแรก เป็นบางครั้งที่เขาขมวดคิ้วและถามให้ช่วยอธิบายว่าทำไมถึงทำในลักษณะนั้น และชายคนนั้นก็จะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง จากนั้นมาร์คก็พยักหน้า ดูเหมือนเขาจะประทับใจ ฉันค่อนข้างแปลกใจเมื่อเขาบอกว่าเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นเจ้าของร่วมของลักซ์ โว้คแอนด์อาเตลิเย่ สตูดิโอกับเกรซ ถ้าฉันไม่ได้โกรธจัด ฉันคงหัวเราะออกมากับสีหน้าของเขาที่พยายามปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมด ฉันเพียงแค่บุกเข้ามาที่นี่ด้วยความคิดว่าเขากำลังทำทุกอย่างเพื่อทำลายบริษัทของเราและซื้อในราคาถูก เพราะเขารู้ว่าฉันเป็นเจ้าของร่วม แต่ปรากฏว่าเขาไม่รู้ ฉันยังคงสงสัยว่าทำไมเขาถึงอยากเข้าซื้อบริษัทนี้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในใจฉันมากที่สุด ฉันยังคงพยายามทำความเข

    Last Updated : 2024-12-30
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 121

    ฉันหัวเราะเบา ๆ "มีตั้งหลาย 'ทำไม' เธอหมายถึง 'ทำไม' ข้อไหนกันล่ะ?" ฉันได้ยินเกรซถอนหายใจลึก ๆ "ข้อแรก ทำไมเขาถึงลงทุนมากขนาดนี้? ตอนนี้ฉันกำลังดูข้อเสนออยู่ ข้อสอง ทำไมเขาถึงอยากเข้าซื้อบริษัทตั้งแต่แรกล่ะ?" "ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นเจ้าของร่วมบริษัทกับเธอ และฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงลงทุนมากขนาดนี้ ที่รัก ฉันเองก็ตกใจและที่สำคัญที่สุดคือฉันดีใจ! แล้วจะสนเหตุผลอะไรทำไม?" "อืม" เกรซส่งเสียงในลำคอ "อิทธิพลของอดีตภรรยายังแรงกล้านี่เอง!" เธอพูดติดตลก และฉันจินตนาการได้ว่าเธอคงยักคิ้วไปด้วย "พอเถอะน่า" ฉันพูดพลางกลอกตา "เอาล่ะ ในเมื่อเธอได้รับสำเนาเอกสารดิจิตอลของสัญญาและข้อเสนอแล้ว ตรวจสอบให้ละเอียดนะ ถ้ามีปัญหาแจ้งฉันทันที ฉันจะลงนามของตัวเองหลังจากได้รับการยืนยันจากทนายของฉัน แล้วเธอก็ลงนามส่วนของเธอในสำเนาเอกสารดิจิตอลก่อน ตกลงไหม? หลังจากนั้นเราจะเซ็นในสำเนาต้นฉบับที่หลัง" "โอเค ฉันกำลังดูคร่าว ๆ อยู่ แต่จะตรวจดูอย่างละเอียดเดี๋ยวนี้แหละ" เธอพูด "ฉันจะแจ้งเธอทันทีที่ตรวจสอบเสร็จแล้วนะ" "โอเค ฉันจะรอคำตอบจากเธอ" ฉันพูดก่อนจะวางสายและโทรหาทนายของฉันทันที ฉั

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 124

    มุมมองของซิดนีย์ไม่กี่วันต่อมา“จีที กรุ๊ปมองลักซ์ โว้คในแง่ดีจริง ๆ” นักข่าวคนหนึ่งส่ายหัว ในขณะที่อีกคนกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของลักซ์ โว้ค“ดูเหมือนว่าบริษัทจะยังมีอนาคตที่สดใสนะ!”“แน่นอนอยู่แล้ว” อีกคนพูดอย่างกระตือรือร้น “จีที กรุ๊ปลงทุนเงินก้อนโตกับบริษัทนี้ และคุณก็เห็นแล้วนี่ว่ามาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วแค่ไหน? นี่มันบ้ามากจริง ๆ” พูดจบเขาก็หันไปยังหน้าจอ “เสื้อผ้าผู้ชายของลักซ์ โว้คกลายเป็นปลาตัวใหม่น่าจับตาไปแล้ว นักลงทุนแห่กันเข้ามา บริษัทต่าง ๆ ก็อยากร่วมงานด้วย และราคาหุ้นยังคงเพิ่มขึ้นทุกนาทีอีก!”สายตาของฉันละจากหน้าจอแล็ปท็อปไปที่ประตูสำนักงานที่เพิ่งถูกเปิดออกอย่างแรง เกรซพุ่งเข้ามาในห้อง ใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความดีใจ “ซิดนีย์! เธอเห็นนี่หรือยัง?” เธอถือไอแพดไว้ในมือ“ฉันกำลังดูอยู่พอดีเลย” ฉันหัวเราะ ความดีใจล้นอยู่ในอกเธอวางไอแพดบนโต๊ะทำงานของฉันขณะที่นั่งลงอีกฝั่ง “สาวน้อย! บริษัทของเราเป็นที่พูดถึงของทั้งเมืองแล้ว เราทำได้แล้ว พวกเราเจ๋งสุด ๆ ไปเลย”“ใช่ไหมล่ะ?” ฉันเลื่อนแล็ปท็อปออกไปและเอนตัวพิงเก้าอี้ “แต่ถ้าจีที กรุ๊ปไม

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 123

    ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างเกินจริงและเขาอ้าปากค้าง ก่อนจะตบมือเข้าที่หน้าผากตัวเอง "ให้ตายสิ! ผมลืมเรื่องนั้นไปได้ยังไงนะ? ผมนี่มันโง่จริง ๆ ผมคงต้องเริ่มระวังตัวเวลาที่อยู่ใกล้คุณแล้ว" ฉันกลั้นหัวเราะไม่อยู่จนหลุดหัวเราะออกมา "คุณนี่เล่นละครได้แย่มาก เด็กสองขวบก็ดูออกเลยว่าคุณไม่ได้กลัวจริง ๆ" เขายิ้มมุมปาก "คุณรู้เพราะผมอยากให้คุณรู้ คุณไม่มีทางจับได้หรอกถ้าผมกำลังแสดงอยู่จริง ๆ ฉันเก่งมากเลยนะ" เขาเชิดคางขึ้นเล็กน้อย ฉันกลอกตาใส่ จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างจริงใจจนความขี้เล่นหายไปจากสายตาของเขา "ฟังนะ ผมถือหุ้นของจีที กรุปอยู่สามสิบหกเปอร์เซ็นต์ รวมกับอีกห้าเปอร์เซ็นต์ในชื่อแม่ของผม ลองคำนวณดูสิ ผมก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ไม่ว่าคุณหรือใครจะทำอะไร ผมก็จะเป็นฝ่ายชนะในตอนจบเสมอ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส ฉันกลอกตา "คุณมั่นใจเกินไปแล้ว คุณควรระวังตัวไว้หน่อย เพราะทุกอย่างอาจกลับตาลปัตรได้ทุกเมื่อ" เขายิ้มอย่างมั่นใจพร้อมทั้งกอดอกและเลิกคิ้วอย่างเย้ยหยัน "ยังไงล่ะ?" ฉันจ้องเขากลับด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะยักไหล่ "ก็แค่...อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น" "จะไม่มีอะไรเกิดขึ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 122

    พวกเราทั้งสองยังคงอยู่ในท่านั้น ปล่อยให้คำพูดของเขาลอยอยู่ในอากาศ สายตาของเขาจ้องมองฉัน และฉันก็มองกลับไป เขาดูเหมือนกำลังเปิดเผยความรู้สึกขณะที่จ้องมองฉัน และปล่อยให้ฉันมองเขากลับ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เพราะยังมีแววลึกลับในดวงตาเขาที่ทำให้ขนบนร่างกายฉันลุกชัน...ราวกับว่าร่างกายฉันอาจทรยศฉันได้ทุกเมื่อ ฉันพยายามคิดว่าเขาหมายความตามที่พูดหรือเปล่า...เขาแค่ล้อเล่นแน่ ฉันบอกตัวเอง เขาต้องล้อเล่นแน่ ๆ เพราะสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำคือการนอนร่วมเตียงกับเขา ถึงฉันจะสิ้นหวังกับการปกป้องบริษัทของฉันไม่ให้ล่มสลายจนเหลือแต่ชื่อ แต่ฉันก็ไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น อย่างเลวร้ายที่สุด เราก็แค่ปิดลักซ์ โว้คและเดินหน้าต่อกับอาเตลิเย่ สตูดิโอ "คุณยังมีสติอยู่หรือเปล่า ซิดนีย์?" ลมหายใจของเขาปัดผ่านใบหน้าฉัน และนิ้วของเขาสัมผัสที่ข้อมือฉันในขณะที่พยายามดึงความสนใจของฉันกลับมา ฉันเลียริมฝีปาก "ฉันควรถามคุณมากกว่าว่าสติคุณยังดีอยู่ไหม?" ใบหน้าเขาเปล่งประกายขึ้นเมื่อเขาหัวเราะ "เชื่อผมเถอะ สติผมยังครบถ้วนดี ผมรู้ตัวดีว่าผมเพิ่งลงทุนด้วยเงินก้อนโตในบริษัทของคุณอย่างลักซ์ โว้คและ…" สายตาเขาเลื่อนไปด้านล่า

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 121

    ฉันหัวเราะเบา ๆ "มีตั้งหลาย 'ทำไม' เธอหมายถึง 'ทำไม' ข้อไหนกันล่ะ?" ฉันได้ยินเกรซถอนหายใจลึก ๆ "ข้อแรก ทำไมเขาถึงลงทุนมากขนาดนี้? ตอนนี้ฉันกำลังดูข้อเสนออยู่ ข้อสอง ทำไมเขาถึงอยากเข้าซื้อบริษัทตั้งแต่แรกล่ะ?" "ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นเจ้าของร่วมบริษัทกับเธอ และฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงลงทุนมากขนาดนี้ ที่รัก ฉันเองก็ตกใจและที่สำคัญที่สุดคือฉันดีใจ! แล้วจะสนเหตุผลอะไรทำไม?" "อืม" เกรซส่งเสียงในลำคอ "อิทธิพลของอดีตภรรยายังแรงกล้านี่เอง!" เธอพูดติดตลก และฉันจินตนาการได้ว่าเธอคงยักคิ้วไปด้วย "พอเถอะน่า" ฉันพูดพลางกลอกตา "เอาล่ะ ในเมื่อเธอได้รับสำเนาเอกสารดิจิตอลของสัญญาและข้อเสนอแล้ว ตรวจสอบให้ละเอียดนะ ถ้ามีปัญหาแจ้งฉันทันที ฉันจะลงนามของตัวเองหลังจากได้รับการยืนยันจากทนายของฉัน แล้วเธอก็ลงนามส่วนของเธอในสำเนาเอกสารดิจิตอลก่อน ตกลงไหม? หลังจากนั้นเราจะเซ็นในสำเนาต้นฉบับที่หลัง" "โอเค ฉันกำลังดูคร่าว ๆ อยู่ แต่จะตรวจดูอย่างละเอียดเดี๋ยวนี้แหละ" เธอพูด "ฉันจะแจ้งเธอทันทีที่ตรวจสอบเสร็จแล้วนะ" "โอเค ฉันจะรอคำตอบจากเธอ" ฉันพูดก่อนจะวางสายและโทรหาทนายของฉันทันที ฉั

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 120

    มุมมองของซิดนีย์ตามที่คาดไว้จากบริษัทใหญ่โตอย่างจีที กรุป สำนักงานฝ่ายบริหารจัดการได้เตรียมสัญญาและข้อเสนออย่างรวดเร็วและนำมาให้มาร์คตรวจสอบ ฉันมองชายคนหนึ่งที่นำเอกสารมายืนข้างมาร์คและอธิบายบางอย่างให้เขาฟัง “นี่คือเอกสารยกเลิกข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการ เราต้องการลายเซ็นของคุณตรงนี้” เขาชี้ไปที่จุดหนึ่งในเอกสาร “และตรงนี้” มาร์คพยักหน้าในขณะที่เขาอ่านเอกสารไปก่อนเป็นอันดับแรก เป็นบางครั้งที่เขาขมวดคิ้วและถามให้ช่วยอธิบายว่าทำไมถึงทำในลักษณะนั้น และชายคนนั้นก็จะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง จากนั้นมาร์คก็พยักหน้า ดูเหมือนเขาจะประทับใจ ฉันค่อนข้างแปลกใจเมื่อเขาบอกว่าเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นเจ้าของร่วมของลักซ์ โว้คแอนด์อาเตลิเย่ สตูดิโอกับเกรซ ถ้าฉันไม่ได้โกรธจัด ฉันคงหัวเราะออกมากับสีหน้าของเขาที่พยายามปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมด ฉันเพียงแค่บุกเข้ามาที่นี่ด้วยความคิดว่าเขากำลังทำทุกอย่างเพื่อทำลายบริษัทของเราและซื้อในราคาถูก เพราะเขารู้ว่าฉันเป็นเจ้าของร่วม แต่ปรากฏว่าเขาไม่รู้ ฉันยังคงสงสัยว่าทำไมเขาถึงอยากเข้าซื้อบริษัทนี้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในใจฉันมากที่สุด ฉันยังคงพยายามทำความเข

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 119

    ผมพยักหน้าอย่างช้า ๆ ยอมรับข้อมูลนี้ “ทำไมคุณไม่อัปเดตข้อมูลในโปรไฟล์ของคุณเองล่ะ? แบบนั้นคงช่วยป้องกันความเข้าใจผิดครั้งใหญ่แบบนี้ได้” เธอกลอกตา “ฉันยุ่งมาก ทั้งเรื่องเรียนหนังสือ ทั้งการตามหาพ่อแม่ แล้วจู่ ๆ ก็กลายมาเป็นเมียคุณอีก จะเอาเวลาที่ไหนไปจัดการเรื่องนั้นล่ะ มาร์ค?” ผมมองเธออยู่ครู่หนึ่ง “คุณพูดถูก การอัปเดตโปรไฟล์ธุรกิจคงเป็นเรื่องสุดท้ายที่คุณจะกังวล” จากนั้นผมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปที่เครื่องทำกาแฟที่วางอยู่ตรงมุมห้อง พลางทบทวนทุกอย่างในหัวอีกครั้งตอนที่กำลังชงกาแฟสองแก้ว แม้ยืนอยู่ตรงนั้น ผมก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาอันร้อนแรงของเธอที่จ้องมองมาที่แผ่นหลังของผม ผมวางกาแฟหนึ่งแก้วลงตรงหน้าเธออย่างแผ่วเบา “นั่งลงแล้วใจเย็น ๆ ก่อน ผมรับรองได้ว่านี่เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน มาคุยกันดี ๆ แล้วแก้ปัญหานี้ไปด้วยกันเถอะ” เธอคว้ากาแฟขึ้นมาแล้วดื่มรวดเดียวหมด จากนั้นก็จ้องผมเขม็ง “เอาล่ะ มาแก้ปัญหากัน คุณมีแผนจะแก้ปัญหานี้ยังไง?” ผมยิ้มให้เธอแล้วกลับมานั่งที่เดิม ความคิดหนึ่งเริ่มก่อตัวขึ้นในหัว “คุณพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายของคุณไหม? ถ้าคุณเอามาด้วย ขอ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 118

    มุมมองของมาร์คผมหันกลับทันทีเมื่อประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอย่างแรง ผู้ช่วยของผมก้าวเข้ามา คิ้วเขาขมวดมุ่น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัวและกังวล "นายพรวดพราดเข้ามาแบบนี้ได้ยังไง?!" ฉันลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ ลมหายใจเขาขาดห้วง พยายามหายใจให้สม่ำเสมอก่อนจะพูด ผมสงสัยว่าเขาวิ่งมาที่นี่หรือเปล่า "ซิดนีย์กำลังมา และด้วยสีหน้าท่าทางการเดินของเธอแล้ว ไม่มีใครกล้าขวางเธอเลย แม้แต่ทีมรักษาความปลอดภัย ผมแทบจะ..." สายตาของผมเลื่อนไปที่ประตูซึ่งถูกผลักเปิดออกอย่างแรงอีกครั้ง ผู้ช่วยของผมรีบกระโดดหลบทางเมื่อซิดนีย์พุ่งเข้ามา เธอตรงมาที่โต๊ะทำงานของผมและกระแทกกระเป๋าลงบนโต๊ะ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธพุ่งตรงมาที่ฉันพร้อมตะโกนว่า "มาร์ค คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? ทำไมนายต้องทำให้ทุกอย่างลำบากสำหรับฉันด้วย?" ผมเลิกคิ้วขึ้น มองรอยแตกเล็ก ๆ ที่เธอเพิ่งทำไว้บนโต๊ะด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปมองผู้ช่วยที่กำลังจ้องซิดนีย์ด้วยความระมัดระวัง ผมพยักหน้าให้เขา "ออกไปก่อนเถอะ" ริมฝีปากของเขาสั่นเทา สายตาสลับระหว่างซิดนีย์กับผม "ต้องการให้ผมเรียกทีมรักษาความปลอดภัยเพิ่มไหมครับ?" ผมมองเขาด้วยแววตาขบขัน ข

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 117

    "ทำไมเราไม่ขายบริษัทให้พวกเขาไปเลยล่ะ? ขายมันไปตอนที่เรายังพอมีโอกาส ฉันไม่อยากจบลงด้วยการไม่เหลืออะไรเลย" น้ำเสียงของเธอสั่นเครือขณะที่พูด "ขอโทษนะ แต่ฉันกลัวจริง ๆ ว่าจะต้องกลับไปลำบากอีก ฉันไม่อยากนึกถึงช่วงเวลายากลำบากพวกนั้นอีก ฉันรับไม่ไหว" เธอส่ายหัวเหมือนคนสติหลุด มือของเธอที่กำชายกระโปรงฉันแน่นขึ้น "ฉันกลับไปยังวันเวลาเหล่านั้นไม่ได้" เธอเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ฉันปลอบเธอ "อย่ากลัวไปเลย ฉันอยู่ตรงนี้ เราอยู่ด้วยกันนะ เราจะยืนหยัดต่อไปให้ได้ ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้จะต้องเผยตัวออกมาแน่ แล้วเราจะรู้ว่าควรทำยังไง" ฉันจับหน้าเธอให้มองมาที่ฉัน แล้วสบสายตาเธออย่างแน่วแน่ "อย่ากังวลไปเลย นี่ไม่ใช่เวลาที่จะตื่นตระหนก แต่มันคือเวลาที่เราต้องเข้มแข็งและรักษาความหวังเอาไว้" เกรซสูดน้ำมูกและพยักหน้า พลางสะอื้น "ก็ได้" …… ผ่านมาหลายวันกับการรับแต่ข่าวร้าย ความวิตกและความกลัวเริ่มกัดกินฉันอย่างทรมาน ฉันอาจให้คำมั่นกับเกรซว่าทุกอย่างจะโอเค แต่ตัวฉันเองก็ไม่มั่นใจอีกต่อไป ฉันบอกเธอว่าอย่าตื่นตระหนก แต่จริง ๆ แล้วฉันกลับทำตรงกันข้าม ฉันกำแก้วในมือแน่นจนแปลกใจที่ยังไม

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 116

    ลมหายใจของเขาหอบหนักขณะที่พูด "ขอบคุณพระเจ้า ผมนึกว่าคุณจะไม่อยู่เสียอีก" "คราวนี้มีเรื่องอะไรอีก?" ฉันถามด้วยน้ำเสียงชืด ๆ ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว "หุ้นส่วนด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าของลักซ์ โว้คโทรมา" เขากล่าวขณะกางเอกสารบนโต๊ะฉัน "พวกเขาขึ้นค่าธรรมเนียม และต้องการค่าธรรมเนียมล่วงหน้าหนึ่งปี มิฉะนั้นเราต้องหาหุ้นส่วนรายใหม่" ฉันกับเกรซสบตากันทันที ก่อนที่เกรซจะลุกพรวดขึ้นยืน "ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว!" เธอระเบิดอารมณ์แล้วเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ฉันมองเธอจากไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นพวกนี้ มันบ้าบอสิ้นดี "บอกพวกเขาไปว่าเราจะจ่ายให้" ฉันบอกเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี "แต่ขอเวลาพวกเขาสักสองสามวันแล้วกัน" ก่อนฉันจะพึมพำเบา ๆ "นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะหาหุ้นส่วนรายใหม่ ลักซ์ โว้คกำลังพังทลายลงแล้ว" เมื่อถึงเวลาประชุม ฉันลากตัวเองไปที่ห้องประชุมด้วยความเหนื่อยล้า ภายในห้องมีเพียงผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้ถือหุ้นสองคน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี และเกรซกับฉันเท่านั้น ผู้ถือหุ้นที่เรียกประชุมเริ่มพูดทันที ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ "นี่มันเรื่องอะไรกัน ผมได้ยินว่

DMCA.com Protection Status