สีหน้าของพ่อบ้านเปลี่ยนไปเล็กน้อย "คุณผู้หญิง ถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือ ผมมีสิทธิ์โดยชอบที่จะสงสัยว่าคุณขโมยต่างหูมุก ดังนั้น...""มีหลักฐานไหม?" หลินเซียงถามกลับพ่อบ้านบอกว่า "คุณเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากห้องของคุณหนู มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด...""มีหลักฐานไหม?"หลินเซียงพูดซ้ำอีกครั้ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชาผู้คนรอบข้างต่างมองไปที่หลินเซียง สายตาของพวกเขามีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม"นั่นภรรยาของลู่สือเยี่ยนไม่ใช่เหรอ?""จริงเหรอ? เธอก็แค่คนธรรมดาที่จับพลัดจับผลูได้มาแต่งงานกับลู่สือเยี่ยนตอนที่เขาสูญเสียความทรงจำ แล้วหลังจากที่รู้ว่าเขามีฐานะก็ไม่ยอมหย่า""ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอคิดจะขโมยต่างหูมุกของคุณหนู คนแบบนี้น่าขยะแขยงจริง ๆ""..."คิ้วของพ่อบ้านขมวดเข้าหากัน “ในเมื่อคุณไม่ยอมให้ความร่วมมือ งั้นอย่าโทษที่ผมไม่เกรงใจ ค้นตัว"คนรับใช้อีกหลายคนรีบเข้ามาหาหลินเซียง"จะทำอะไร?"ทันใดนั้น เสียงทุ้มต่ำน่าฟังก็ดังขึ้น เสียงซุบซิบของผู้คนจางหายไปทันทีร่างสูงสง่าของลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามา ดวงตาดำขลับคมกริบของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของพ่อบ้าน "
ในเวลานี้ ลู่สือเยี่ยนแผ่พลังอำนาจอันน่าเกรงขามออกมาอย่างฉับพลัน ดวงตาสีนิลของเขาเปล่งประกายวาววับราวกับมีคมมีดเย็นเยียบอยู่ภายใน จ้องมองไปที่พ่อบ้านราวกับว่ากำลังมองคนตาย!พ่อบ้านรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ปกคลุมอยู่เหนือตัวเขาเอง พลันเอื้อมมือไปเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของตัวเอง แล้วรีบหันไปมองหลินเซียง"คุณผู้หญิงลู่ ผมต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง เมื่อกี้นี้ผมใจร้อนเกินไปจนเผลอล่วงเกินคุณเข้า ได้โปรดอย่าถือโทษโกรธเคืองผมเลย ขอให้คุณอภัยให้ความผิดของผมในครั้งนี้ด้วย"เขาโค้งคำนับ ท่าทางของเขานอบน้อมอย่างที่สุด ต่างจากท่าทีหยิ่งผยองเมื่อครู่ราวกับคนละคนแต่ลู่สือเยี่ยนกลับไม่ยอมให้หลินเซียงได้พูดอะไรออกมา น้ำเสียงของเขายังคงเย็นชา "แค่ขอโทษสองคำ คิดว่าภรรยาผมจะยอมให้อภัยง่าย ๆ หรือไง? คุณคู่ควรเหรอ?"พ่อบ้านตกใจ จึบรีบถามกลับ "ถ้าอย่างนั้นท่านประธานลู่ต้องการอะไร บอกมาได้เลยครับ"ลู่สือเยี่ยน "แค่ขอโทษคนอื่น ยังต้องถามว่าจะต้องทำอะไรอีกงั้นเหรอ? ดูเหมือนคุณนี่ไม่มีความจริงใจเลยแม้แต่น้อย ขนาดพ่อบ้านยังทัศนคติแย่แบบนี้ งั้นคนอื่น ๆ ในตระกูลเจียงของคุณเป็นเหมือนกันด้วยหรือเปล่า?"เ
รถจอดรออยู่ข้างนอกแล้วเมื่อขึ้นรถ หลินเซียงก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย "ออกจากงานมมาดื้อ ๆ อย่างนี้เลยเหรอ?"ลู่สือเยี่ยน "หรือจะรออยู่กินอาหารเช้าแล้วค่อยกลับล่ะ?"หลินเซียง "..."พูดดีหน่อยไม่ได้เลยนะ!ในรถเงียบไปชั่วขณะเมื่อกลับมาถึงโรงแรม หลินเซียงก็รีบเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำเมื่อเธออาบน้ำเสร็จแล้ว และออกมาพร้อมกับผ้าคลุมอาบน้ำ ก็เห็นลู่สือเยี่ยนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน ในระหว่างนั้นเธอยังได้ยินเสียงเขาเรียกอีกฝ่ายว่า "หว่านหว่าน"หลินเซียงหันหลังกลับเข้าห้องทันทีน่ารังเกียจสิ้นดีเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถเล่นและนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมาแต่ก็ยังนอนไม่หลับในหัวของเธอมีภาพที่ลู่สือเยี่ยนยืนขวางหน้า จัดการกับพ่อบ้านของตระกูลเจียงเพื่อปกป้องเธอปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเท่ระเบิด!มีเสน่ห์น่าหลงใหลแต่ไม่นานนัก ภาพที่เขาคุยโทรศัพท์กับเซี่ยหว่านก็ฉายซ้อนทับในภวังค์ความคิดคนเฮงซวยอยากแทงเขาให้ตายจริง ๆหลินเซียงใช้หมอนปิดหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด อารมณ์ที่ขัดแย้งและซับซ้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างหลังจากทุรนทุรายกับความคิดอันสับสนของ
ลู่สือเยี่ยน "ถ้าไม่อยากออกไปเที่ยว งั้นก็อยู่ในห้องนี่แหละ"พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องของตัวเอง"ปัง!"หลินเซียงฟาดตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรงโมโหจนไม่อยากอาหารแล้ว!ทำไมไม่เคยพูดเรื่องนี้กันดี ๆ ได้เลยนะ?เขาทำให้เธอโกรธจนแทบคลั่งอยู่แล้ว!เวลานี้เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอสงบสติอารมณ์แล้วหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซ่งซ่ง"เซียงเซียง เธออยู่ไหนจ๊ะ?"เสียงเนือย ๆ ของซ่งซ่งดังขึ้นหลินเซียงตอบกลับ "เมืองหลานเฉิง"ซ่งซ่ง "เมืองหลานเฉิงก็ดี วัดที่นั่นขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มากเลย เธอพอมีเวลาแวะไปขอพรเรื่องเงินหรือเปล่า? อย่าลืมขอเผื่อฉันด้วยนะ ฮ่า ฮ่า"ดวงตาของหลินเซียงเป็นประกาย "ได้ งั้นฉันขอกลับช้ากว่าเดิมหนึ่งวันนะ"ซ่งซ่ง "ฉันคิดถึงเธอแล้ว เสร็จธุระก็รีบกลับมาเถอะ""ได้"หลินเซียงตอบรับครั้งนี้พวกเธอวางสายอย่างรวดเร็วลู่สือเยี่ยนรีบเดินออกมาจากห้องทันที หลินเซียงลุกขึ้นและบอกเขาว่า "ฉันอยากไปวัด"ลู่สือเยี่ยนมองเธอ ดวงตาปรากฏแววซับซ้อน "ให้ผมไปส่งไหม?""เอาสิ"หลินเซียงพยักหน้าลู่สือเยี่ยนตอบรับเรียบ ๆ แล้วเดินนำหน้าออกไปดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะไม
สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเย็นชา สายตาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ "เบรกแตก"หลินเซียงเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ รีบไขว่คว้าหาราวจับ"แล้ว… แล้วทำไงดีล่ะ?"ลู่สือเยี่ยนตอบ "เราอาจต้องตายด้วยกันจริง ๆ"หัวใจของหลินเซียงเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา รีบพูดฉับพลัน "ถ้าอย่างนั้น เซี่ยหว่านจะเสียใจไหม?"ลู่สือเยี่ยนมองเธอ "เวลาแบบนี้ ทำไมยังคิดถึงคนอื่นอยู่?""มองถนนสิ!"หลินเซียงพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเอง ไม่ให้รบกวนการขับรถของลู่สือเยี่ยน"แล้วจะให้ฉันทำยังไง? คุณยังคิดเรื่องจะกลับไปรับผิดชอบเธออยู่เลย ซึ่งเธอก็น่าสงสารจริง ๆ เพื่อช่วยชีวิตคุณ เธอถึงกับเสียขาไปหนึ่งข้าง เธอเฝ้ารอคุณมานานขนาดนี้ แต่สุดท้ายคุณกลับมาตายกับฉัน"หลินเซียงคิดภาพนั้น แล้วก็รู้สึกว่าถ้าเป็นเซี่ยหว่านคงหัวใจสลายเป็นแน่ "แล้วคุณเองล่ะ?"ลู่สือเยี่ยนกลับถามแทรกด้วยเสียงทุ้มต่ำเธอเองเหรอ?เธอเป็นยังไง?เธอไม่ได้ขาขาดแขนหัก สิ่งที่เธอสูญเสียไปก็แค่ความรักที่ฝังรากลึกอยู่ในหัวใจเท่านั้นหลินเซียงอยากหัวเราะออกมาจริง ๆ "ฉันไม่อยากเป็นตัวเอกในละครที่ต้องสูญเสียความรักไป"ยิ่งคิดถึงภาพนั้น เธอก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตั
รถฉุกเฉินมาถึงในเวลาไม่นาน แต่หลินเซียงไม่กล้าขยับตัวเลย กลัวว่าจะทำให้เขาบาดเจ็บซ้ำซ้อนเมื่อมองใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา เนื่องมาจากการเสียเลือดมาก เธอไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อน!ความกลัวโอบล้อมเธออย่างสมบูรณ์ เธอจับมือข้างที่ไร้ร่องรอยบาดเจ็บของเขาไว้แน่น"อาเยี่ยน คุณห้ามเป็นอะไรนะ ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด..."เธอสะอีกสะอื้นจนหน้ามืดตามัว "ถ้าคุณเป็นอะไรไป ฉันจะเกลียดคุณ ฉันจะเกลียดคุณไปจนตาย!"เธอโน้มตัวลง แนบใบหน้ากับมือของเขา สัมผัสความอบอุ่นที่ยังหลงเหลือในร่างของเขา "ลู่สือเยี่ยน... คุณห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด เอาหัวใจฉันไปก็พอ อย่าเอาชีวิตฉันไปด้วย อย่าเชียวนะ..."รถพยาบาลมาถึง หลินเซียงก็ขึ้นรถตามไปที่โรงพยาบาลด้วยเมื่อมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เธอตกอยู่ในอาการมึนงง จนกระทั่งประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก พยาบาลคนหนึ่งก็เดินออกมา"เป็น... เป็นยังไงบ้างคะ?"หลินเซียงรีบเดินเข้าไปถามพยาบาล "หมายถึงใครคะที่เป็นอะไร?"หลินเซียง "ฉัน... ฉันเป็นญาติของผู้บาดเจ็บที่เพิ่งถูกส่งตัวเข้ามาค่ะ เขาเป็นยังไงบ้าง"พยาบาลได้ยินดังนั้น สายตาก็แสดงความเห็นใจมากขึ้นเล็กน้อย"อาการไม่ค่อยดีค่ะ ญา
ลู่สือเยี่ยนพูดต่อ "ถ้าคุณยังไม่ลุกอีก คราวนี้ผมได้เป็นอะไรจริง ๆ แน่"หลินเซียงรีบลุกขึ้น ตอนนี้เธอเพิ่งสังเกตว่าแขนซ้ายของเขาถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล แล้วแขวนรั้งไว้ที่หน้าอก หน้าผากก็พันด้วยผ้า ดูแล้วพิลึกมากดู ๆ แล้วน่าจะเป็นแค่บาดแผลภายนอกหลินเซียงค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย จึงหันไปมองเขา "คุณไม่เป็นอะไรมาก ทำไมไม่รีบบอกตั้งแต่แรก?"ลู่สือเยี่ยนกะพริบตาปริบเหมือนไม่รู้เรื่องราว "ผมตื่นเพราะเสียงร้องไห้เลย"ตอนแรกเขายังสลบอยู่ แต่ก็พอจะรู้สึกตัวอยู่บ้าง แล้วก็ได้ยินเสียงเธอที่ร้องไห้จนแทบขาดใจในตอนนั้น หัวใจของเขาสั่นสะเทือนอย่างแรงเขาไม่ได้รบกวนเธอ มองภาพเธอร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดกับศพของคนแปลกหน้า ท่าทางตัวโยนเหมือนถ้าร้องหนักกว่านี้เครื่องในจะหลุดออกมาเขากลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป จึงฝืนลุกขึ้น แล้วเห็นว่าเธอกำลังจะล้มลงพอดี เลยรีบประคองเธอไว้หลินเซียง "..."เธอหันมองไปที่อื่นโดยตรง แล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาขณะนั้นเอง พยาบาลก็เดินเข้ามา เห็นพวกเขายืนอยู่ก็สงสัย "พวกคุณทำอะไรกันคะ?"หลินเซียงรีบพูด "คือฉันเป็นญาติของเขาค่ะ เลยเข้ามาเยี่ยมเขา เขาไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ?"
ช่วงเย็น บริษัทพันธมิตรของเมืองหลานเฉิงทราบข่าวเรื่องอุบัติเหตุของลู่สือเยี่ยน พวกเขาก็ต่างพากันมาเยี่ยมหลินเซียงเพียงแค่เฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ โดยไม่พูดอะไรจนกระทั่งทุกคนจากไปหมดแล้ว เธอจึงปิดประตูแล้วถามว่า "ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเบรกแตก มันเกิดจากฝีมือคนหรือเปล่า?"ลู่สือเยี่ยน "อาจเป็นอย่างนั้น"หลินเซียงขมวดคิ้ว "งั้นใครกันที่เป็นคนทำ แล้วทำไปเพื่ออะไร?"ลู่สือเยี่ยน "คนที่ทำอาจโดนขัดผลประโยชน์ มีเยอะแยะไป ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคนจากเมืองอวิ๋นเฉิงที่ลงมือในต่างถิ่นก็ได้ ถ้าผมตายไปสักคน ตระกูลลู่ก็ไม่มีทายาทสืบทอดอีก"ปัจจุบันตระกูลลู่เหลือเพียงลู่สือเยี่ยนที่เป็นทายาทเพียงคนเดียวถ้าเขาตายไป ตระกูลลู่ก็จะไม่มีผู้สืบทอดมรดกหรือกิจการ ผู้มาทีหลังจะต้องหาหนทางฉีกทึ้งบริษัทในเครือลู่กรุ๊ปให้ได้ ผู้คนในเมืองอื่น ๆ ถึงจะได้รับการแบ่งสันปันส่วนตระกูลลู่เป็นตระกูลใหญ่ มีทั้งรากฐานและผู้สนับสนุน แม้ทำได้แค่จิบน้ำซุปสักหนึ่งคำ ก็ทำให้คนก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นได้!สีหน้าของหลินเซียงเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเดินไปอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย แล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ในเมื่อเป็