ความเย็นยะเยียบแผ่ซ่านไปทั่วร่าง หลินเซียงรู้สึกตัวช้าไป แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเย็นนั้น"คุณ... ใครเหรอ?"เธอพยายามดิ้นรน แต่แขนที่จับเธอไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก บีบแน่นจนเธอรู้สึกเจ็บ!"โอ๊ย! เจ็บ!"หลินเซียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พยายามดิ้นรนหนักกว่าเดิม"คุณเป็นใคร? ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ!"สวี่ซิงเย่เห็นเหตุการณ์ รีบเข้าไปผลักลู่สือเยี่ยนทันทีใบหน้าหล่อเหลาคมคายของลู่สือเยี่ยนเย็นชาจนถึงขีดสุด เขามองหลินเซียงที่อยู่ในสภาพมึนเมา ตาหวานเยิ้ม เสื้อผ้าเปียกครึ่งตัว ทั้งดูอ่อนแอและเย้ายวนใจ!เธอกล้ามาดื่มเหล้าที่นี่ได้ยังไง?แถมยังปล่อยตัวจนดูน่าสมเพชแบบนี้!แล้วไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้ชายคนอื่นอีก!เธอกล้ามาก!ลู่สือเยี่ยนจับหลินเซียงไว้แน่น เสียงทุ้มต่ำทรงเสน่ห์ไร้ซึ่งความอบอุ่นเอ่ยถามว่า "หลินเซียง ดูให้ดีสิ ผมเป็นใคร!"เขาบีบใบหน้าเธอ บังคับให้เธอเงยหน้ามองเขาสวี่ซิงเย่เห็นภาพนั้นยิ่งกังวลใจ มองลู่สือเยี่ยนด้วยความระแวง "คุณผู้ชายครับ เธอดูเหมือนจะจำคุณไม่ได้ อย่าทำแบบนี้กับเธอเลย ไม่งั้นผมจะแจ้งตำรวจ!"หลินเซียงพูดขึ้น "ใช่ ฉันไม่รู้จักคุณ ไอ้คนลามก ปล่อยฉันนะ!"เธอ
ตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารเป็นของจริง จึงพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า "รีบพาภรรยากลับบ้านเถอะ คราวหลังอย่าให้เธอดื่มเยอะแบบนี้อีก เหล้ามันทำลายสุขภาพ""ครับ"ลู่สือเยี่ยนตอบรับเบา ๆ ตำรวจทั้งสองนายเดินจากไป สวี่ซิงเย่ยืนอยู่ข้าง ๆ บนใบหน้าหล่อเหลาปรากฏร่องรอยความรู้สึกผิดเล็กน้อย "ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นสามีของเธอ ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็พาเธอกลับบ้านเถอะครับ" ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา ก่อนจะอุ้มหลินเซียงเข้าไปในลิฟต์หลินเซียงยังคงดิ้นรนไม่หยุด"ปล่อยนะ ปล่อยฉัน..."ลู่สือเยี่ยนมองใบหน้าแดงก่ำของเธอ อารมณ์ยิ่งแย่ลงไปอีก เขาตีเข้าที่สะโพกของเธออย่างแรง "หลินเซียง อยู่นิ่ง ๆ ทำตัวดี ๆ!" ตอนนี้หลินเซียงเมาจนไม่รู้สึกแล้วว่าถูกตบก้นประตูลิฟต์ค่อย ๆ ปิดลง หลินเซียงลืมตาขึ้นครึ่งหนึ่ง เมาจนไม่รู้เรื่องรู้ราว ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนบึ้งตึง ถ้าเขาไม่มาที่นี่ คืนนี้เธอคงไม่กลับบ้านสินะ?ไปติดใจหนุ่มน้อยคนไหนเข้าอีกล่ะสิ? เมื่อออกมาจากคลับหมายเลข 9 สายลมเย็นพัดผ่าน หลินเซียงตัวสั่นโดยอัตโนมัติ ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของเขาลู่สือเยี่ยนมองด้วยสายตาเย็นชา เยาะเย้ยในใจพอหนาวก็รู้จัก
หลินเซียงมีสติอยู่เพียงชั่วครู่ ไม่นานก็มึนงงอีกครั้งเธอหรี่ตาพิงไหล่ของลู่สือเยี่ยนอย่างอ่อนแรง นิ้วที่ร้อนผ่าวสัมผัสใบหน้าของเขา พึมพำว่า “อาเยี่ยน”ลูกกระเดือกของลู่สือเยี่ยนขยับขึ้นลงเล็กน้อย นิ้วขยับเบา ๆร่างกายของหลินเซียงสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ จากนั้นก็โผกอดเขาทันทีริมฝีปากนุ่มสัมผัสใบหน้าของเขา ก่อนจะจูบลงบนคอ ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นลงบนลำคอ กระตุ้นประสาทสัมผัสให้เพิ่มพูนเป็นเท่าทวี“หลินเซียง คุณยั่วผม”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเคร่งขรึม จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมา กดลงบนผนังร่างกายของเธอตอบสนองไวมาก ทันทีที่ถูกกดลงบนผนัง เนื้อตัวก็สั่นระริกแต่ไม่นาน อาการสั่นอย่างรุนแรงก็ตามมา เธอผวากอดคนที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว ร่างกายเหมือนกับสาหร่ายที่ไร้ราก ลอยไปตามเกลียวคลื่นฝ่ามือของลู่สือเยี่ยนจับเอวของเธอไว้แน่น ลมหายใจหนักหน่วงมาก ในหัวของเขายังคงมีภาพที่เธอกอดผู้ชายคนอื่นโดยไม่มีแรงวนเวียนไปมา ทำให้เขายิ่งออกแรงมากขึ้น“อาเยี่ยน… อาเยี่ยน...”เสียงร้องของหลินเซียงดังขึ้น เธอทนไม่ไหวแล้ว!ฝักบัวถูกเปิดทิ้งไว้ เสียงน้ำกระทบพื้นดังก้อง ไอน้ำลอยขึ้นปกคลุมภาพคลุมเครือในห้องน้ำ .
“ผู้ชายคนไหน?”หลินเซียงรู้สึกงงงวยอยู่ครู่หนึ่งลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา อุณหภูมิในห้องต่ำมาก ผ้าห่มบนเตียงยับยู่ยี่ ถึงแม้ว่ากลิ่นอายของพวกเขาขณะมีสัมพันธ์กันจะยังอยู่ แต่ในตอนนี้ ความหนาวเย็นนั้นกลับแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของหลินเซียงหลินเซียงพูดว่า “เมื่อคืนฉันเมามาก จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเยาะ “รู้ว่าตัวเองดื่มไม่เก่ง ยังกล้าไปดื่มคนเดียวอีก?”น้ำเสียงของเขาส่อการตำหนิอย่างชัดเจน ราวกับว่าเธอทำผิดมหันต์หลินเซียงรู้สึกน้อยใจ พูดว่า “ลู่สือเยี่ยน คุณสืบเรื่องนี้ให้แน่ชัดแล้วหรือยัง? ทำไมไม่ถามฉันสักคำว่าตกอยู่ในสภาพนี้เพราะอะไร? รู้มากแค่ไหนถึงมาต่อว่าฉัน?”ชั่วพริบตานั้น เธอแสดงท่าทีต่อต้านบรรยากาศในห้องนอนเย็นชาถึงขีดสุดในตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ เป็นเสียงเรียกเข้ามือถือของลู่สือเยี่ยนเขาเดินไปรับสาย “ว่ามา”ซ่งจั่วรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอันตราย จึงพูดอย่างระมัดระวัง “ท่านประธานครับ ผมสืบมาแล้ว ผู้รับผิดชอบโครงการอสังหาริมทรัพย์เหิงเฉิน ชื่อหยางฟาน บอกว่าต้องการแก้แบบร่าง จึงให้คุณผู้หญิงไปที่นั่น หลังจากพูดคุยก
ลู่สือเยี่ยน: "..."พ่อบ้านเดินเข้ามาทักทายหลินเซียง หลินเซียงก็ยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน แล้วเดินจากไปพ่อบ้านหันไปมองลู่สือเยี่ยน เห็นสีหน้าของเขาดูแย่มาก บรรยากาศรอบตัวอึมครึม แม้แต่อุณหภูมิในห้องอาหารก็ยังลดลงไปหลายองศาเดิมทีพ่อบ้านตั้งใจจะทักทาย แต่พอเห็นสีหน้าของเขา ก็ปิดปากเงียบไปโดยปริยาย...หลินเซียงมาถึงสตูดิโอ เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูสิบกว่าคน ทุกคนมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ดูวิตกกังวลคนที่นำกลุ่มนั้นก็คือหยางฟานพอเห็นหลินเซียง หยางฟานก็รีบตรงเข้ามาหา ท่าทางรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก "คุณหลิน ผมขอโทษจริง ๆ เมื่อคืนผมเมาไปหน่อย ทำเรื่องไม่ถูกต้องลงไป ผมมาก็เพื่อขอโทษคุณ หวังว่าคุณจะยกโทษให้ผม ลืมเรื่องเมื่อคืนไปได้ไหมครับ?"คนอื่น ๆ ก็เดินตามเข้ามา สายตาที่มองหลินเซียงเต็มไปด้วยความวิงวอนหลินเซียงมีสีหน้าเรียบเฉย พูดว่า "เมื่อคืนผู้จัดการหยางไม่ได้พูดแบบนี้นี่คะ"หยางฟานยกมือขึ้นตบหน้าตัวเอง "ผมไม่ได้สติจริง ๆ ผมผิดเอง รับรองเลยว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก คุณหลิน ต่อไปนี้โปรเจกต์ของบริษัทเราจะยกให้คุณเป็นคนออกแบบทั้งหมด คุณว่ายังไงครับ?"ดวงตาใสซื่อของหลินเซียงมีแว
สีหน้าของหยางฟานดูแย่มาก "พวกนายเอะอะอะไรกัน? ตอนนี้ต้องรีบหาทางแก้ไขสิ!"ทุกคนเงียบเสียงลง จ้องมองหยางฟานด้วยสายตาไม่พอใจในตอนนั้นเองก็มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นไม่ไกล"ผู้จัดการหยาง?"เซี่ยหว่านเดินเข้ามา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอ่อนโยนหยางฟานเห็นเธอก็ยิ้มออกมาทันที "คุณเซี่ย ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ?"เซี่ยหว่านยิ้มแล้วพูดว่า "ฉันมาหาเพื่อนแถวนี้พอดี นี่พวกคุณ...?"หยางฟานถอนหายใจ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง "ผมแค่หยอกล้อกับคุณหลินนิดหน่อย ไม่คิดว่าเธอจะไม่ยอมจบเรื่องง่าย ๆ แถมยังให้ดีเคกรุ๊ปแบนพวกเราอีก พวกเราต่างก็มีครอบครัวต้องดูแล ถ้าโดนแบนจนตกงาน แล้วพวกเราจะอยู่กันยังไงล่ะครับ?"เซี่ยหว่านฟังจบ ดวงตาเป็นประกาย พูดว่า "ถ้าผู้จัดการหยางเชื่อใจฉัน ฉันจะลองไปคุยกับประธานลู่ของดีเคกรุ๊ปให้ดีไหมคะ?"หยางฟานได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ดีขึ้น "คุณเซี่ยรู้จักกับประธานลู่ด้วยเหรอครับ?"เซี่ยหว่านพยักหน้า "รู้จักสิ ฉันกับสือเยี่ยนเป็นเพื่อนกัน"การเรียกชื่อลู่สือเยี่ยนนั้นแฝงไปด้วยความสนิทสนมอย่างเป็นธรรมชาติหยางฟานมองเซี่ยหว่านด้วยความซาบซึ้งใจทันที "คุณเซี่ย ถ้าคุณช่วยแก้ไขเรื่องนี้ได้
หยางฟานและคนอื่น ๆ มองลู่สือเยี่ยนด้วยความคาดหวัง“ท่านประธาน พวกเราไม่กล้าทำอีกแล้ว”“ท่านประธาน ขอร้องล่ะ ให้โอกาสพวกเราอีกครั้งเถอะ”“...”เมื่อเห็นลู่สือเยี่ยน ทุกคนก็เหมือนหนูเห็นแมว หางจุกตูด สุภาพนอบน้อมเซี่ยหว่านยิ้มหวาน มองลู่สือเยี่ยนโดยไม่กะพริบตาสีหน้าของลู่สือเยี่ยนเคร่งขรึม รอบตัวเต็มไปด้วยบรรยากาศเย็นชาและสูงส่ง เขามองคนเหล่านั้นอย่างไม่ใส่ใจ “พวกนายเป็นใคร?”หยางฟานและคนอื่น ๆ มองหน้ากันซ่งจั่วพูดขึ้น “ท่านประธาน พวกเขาเป็นคนที่ลวนลามคุณผู้หญิงเมื่อคืนนี้ครับ”เสียงของเขาเบามาก มีเพียงเซี่ยหว่านซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ที่ได้ยินดวงตาของเธอมีแววเย็นชาคุณผู้หญิง...ยังไม่หย่ากันอีกเหรอ?น่ารังเกียจจริง ๆลู่สือเยี่ยนยืนตัวตรง มองทุกคนด้วยดวงตาเย็นชา “ตอนหาเรื่องคนอื่น ทำไมถึงไม่คิดว่าตัวเองมีพ่อแม่ลูกเมียที่ต้องดูแล?”สีหน้าของหยางฟานและคนอื่น ๆ แข็งทื่อทันทีพวกเขามองไปที่เซี่ยหว่านรอยยิ้มของเซี่ยหว่านก็แข็งทื่อไปเช่นกัน เธออุตส่าห์ใช้ของของลู่จิ้นหนานมาข่มขู่เขา เขายังไม่สนใจอีก?ไหนว่าสิ่งที่เขาแคร์มากที่สุดคือลู่จิ้นหนานไงล่ะ?“สือเยี่ยน ไม่เห็นจะเป็
เดิมทีคนคนนั้นแค่คิดว่าหลินเซียงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับลู่สือเยี่ยนตอนนี้ได้ยินคำพูดของเซี่ยหว่าน ก็ยิ่งจับตัวหลินเซียงแน่นขึ้น“ลู่สือเยี่ยน แกกล้าตัดช่องทางทำกินของฉัน ฉันก็จะไม่ให้แกมีเมีย! ยังไงฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ลากคนอีกคนไปตายด้วยกัน ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสีย!”ดวงตาของคนคนนั้นแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าถูกบีบคั้นจนสิ้นหวังหลินเซียงมองเซี่ยหว่านผู้หญิงคนนี้จงใจสินะ?จงใจเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับลู่สือเยี่ยน เพื่อให้คนคนนี้ยิ่งอยากจับเธอเป็นตัวประกัน!แผลที่คอเจ็บแปลบขึ้นเรื่อย ๆหลินเซียงขมวดคิ้ว “ฉันไม่เอาเรื่องเมื่อคืนแล้ว ลู่สือเยี่ยนก็จะไม่แบนพวกคุณ พวกคุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”“ฉันไม่เชื่อ!”แต่คนคนนั้นกลับพูดอย่างบ้าคลั่ง มีดกรีดคอของหลินเซียงเป็นแผลตื้นอยู่หลายแผลสีหน้าของลู่สือเยี่ยนดูแย่มาก “ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้! นายต้องการอะไร ฉันให้นายได้ทั้งนั้น”คนคนนั้นมองลู่สือเยี่ยน “แกพูดจริงเหรอ?”ลู่สือเยี่ยน “มีคนมากมายเป็นพยาน ฉันไม่หลอกนายแน่”คนคนนั้นพูดอย่างตื่นเต้น “ฉันอยาก...”เซี่ยหว่านเห็นภาพนี้ มือก็กำแน่น ถ้าเรื่องนี้จบลงง่าย ๆ แล้วเธอจะทำอย่างไร?
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?