หยางฟานและคนอื่น ๆ มองลู่สือเยี่ยนด้วยความคาดหวัง“ท่านประธาน พวกเราไม่กล้าทำอีกแล้ว”“ท่านประธาน ขอร้องล่ะ ให้โอกาสพวกเราอีกครั้งเถอะ”“...”เมื่อเห็นลู่สือเยี่ยน ทุกคนก็เหมือนหนูเห็นแมว หางจุกตูด สุภาพนอบน้อมเซี่ยหว่านยิ้มหวาน มองลู่สือเยี่ยนโดยไม่กะพริบตาสีหน้าของลู่สือเยี่ยนเคร่งขรึม รอบตัวเต็มไปด้วยบรรยากาศเย็นชาและสูงส่ง เขามองคนเหล่านั้นอย่างไม่ใส่ใจ “พวกนายเป็นใคร?”หยางฟานและคนอื่น ๆ มองหน้ากันซ่งจั่วพูดขึ้น “ท่านประธาน พวกเขาเป็นคนที่ลวนลามคุณผู้หญิงเมื่อคืนนี้ครับ”เสียงของเขาเบามาก มีเพียงเซี่ยหว่านซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ที่ได้ยินดวงตาของเธอมีแววเย็นชาคุณผู้หญิง...ยังไม่หย่ากันอีกเหรอ?น่ารังเกียจจริง ๆลู่สือเยี่ยนยืนตัวตรง มองทุกคนด้วยดวงตาเย็นชา “ตอนหาเรื่องคนอื่น ทำไมถึงไม่คิดว่าตัวเองมีพ่อแม่ลูกเมียที่ต้องดูแล?”สีหน้าของหยางฟานและคนอื่น ๆ แข็งทื่อทันทีพวกเขามองไปที่เซี่ยหว่านรอยยิ้มของเซี่ยหว่านก็แข็งทื่อไปเช่นกัน เธออุตส่าห์ใช้ของของลู่จิ้นหนานมาข่มขู่เขา เขายังไม่สนใจอีก?ไหนว่าสิ่งที่เขาแคร์มากที่สุดคือลู่จิ้นหนานไงล่ะ?“สือเยี่ยน ไม่เห็นจะเป็
เดิมทีคนคนนั้นแค่คิดว่าหลินเซียงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับลู่สือเยี่ยนตอนนี้ได้ยินคำพูดของเซี่ยหว่าน ก็ยิ่งจับตัวหลินเซียงแน่นขึ้น“ลู่สือเยี่ยน แกกล้าตัดช่องทางทำกินของฉัน ฉันก็จะไม่ให้แกมีเมีย! ยังไงฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ลากคนอีกคนไปตายด้วยกัน ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสีย!”ดวงตาของคนคนนั้นแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าถูกบีบคั้นจนสิ้นหวังหลินเซียงมองเซี่ยหว่านผู้หญิงคนนี้จงใจสินะ?จงใจเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับลู่สือเยี่ยน เพื่อให้คนคนนี้ยิ่งอยากจับเธอเป็นตัวประกัน!แผลที่คอเจ็บแปลบขึ้นเรื่อย ๆหลินเซียงขมวดคิ้ว “ฉันไม่เอาเรื่องเมื่อคืนแล้ว ลู่สือเยี่ยนก็จะไม่แบนพวกคุณ พวกคุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้”“ฉันไม่เชื่อ!”แต่คนคนนั้นกลับพูดอย่างบ้าคลั่ง มีดกรีดคอของหลินเซียงเป็นแผลตื้นอยู่หลายแผลสีหน้าของลู่สือเยี่ยนดูแย่มาก “ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้! นายต้องการอะไร ฉันให้นายได้ทั้งนั้น”คนคนนั้นมองลู่สือเยี่ยน “แกพูดจริงเหรอ?”ลู่สือเยี่ยน “มีคนมากมายเป็นพยาน ฉันไม่หลอกนายแน่”คนคนนั้นพูดอย่างตื่นเต้น “ฉันอยาก...”เซี่ยหว่านเห็นภาพนี้ มือก็กำแน่น ถ้าเรื่องนี้จบลงง่าย ๆ แล้วเธอจะทำอย่างไร?
หลินเซียงมองลู่สือเยี่ยนแต่กลับเห็นเขามีสีหน้าเย็นชา ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของลู่เจิ้งหรงเขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลลู่ แต่กลับได้รับการปฏิบัติแบบนี้ในตระกูลลู่เนี่ยนะ?ไฟในห้องฉุกเฉินดับลงอย่างรวดเร็ว หมอเดินออกมา อวิ๋นหลานก้าวไปข้างหน้าแล้วถามว่า “สวัสดีค่ะ คนไข้ข้างในเป็นยังไงบ้างคะ?”คุณหมอพูดว่า “โชคดีที่พาตัวส่งโรงพยาบาลทันเวลา ดึงมีดออกมาแล้ว ไม่โดนอวัยวะภายในค่ะ”อวิ๋นหลานโล่งอก หันไปมองลู่เจิ้งหรง “คุณไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ หว่านหว่านไม่เป็นไรแล้ว”ลู่เจิ้งหรงพยักหน้า จากนั้นก็มองลู่สือเยี่ยน “แก มานี่”ลู่สือเยี่ยนมีสีหน้าเย็นชา ไม่ยอมขยับเขาหันไปมองหลินเซียง ถามเสียงเบา “เหนื่อยหรือยัง?”บรรยากาศแปลกมากหลินเซียงรู้สึกถึงความเย็นชาแผ่ซ่านออกมา เธอมองใบหน้าบึ้งตึงของลู่เจิ้งหรง แล้วก็มองสีหน้าเฉยเมยของลู่สือเยี่ยน ใจของเธอเต้นตึกตักเธอควรตอบว่าหนื่อยไหม?ลู่สือเยี่ยนมองลู่เจิ้งหรง “เธอคงตกใจมาก ผมจะพาเธอกลับไปพักผ่อนก่อน”พูดจบก็หยิบของของหลินเซียงแล้วเดินออกไปข้างนอก“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธของลู่เจิ้งหรงดังขึ้นจากข้างหลังอวิ๋นหลานรีบพ
หลินเซียงชะงักมองเขา แล้วพูดอย่างใจเย็น “ถ้าฉันบอกว่าไม่ คุณจะร้องไห้ไหมล่ะ?”“หึ...”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะออกมา หมอกหนาในดวงตาจางหายไปเล็กน้อยเขาหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็โน้มตัวลงมา จับท้ายทอยของเธอไว้ แล้วจูบริมฝีปากอย่างรุนแรงลมหายใจของเขาทั้งเย็นชาและร้อนแรง ครอบครองลมหายใจของเธออย่างเอาแต่ใจหลินเซียงตั้งตัวไม่ทัน แอบดิ้นรนเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้บังคับ ยอมปล่อยเธอแต่โดยดีปลายจมูกเขาสัมผัสคลอเคลียปลายจมูกของเธอ ลมหายใจหนักหน่วง“หลินเซียง ยังไงผมก็ไม่หย่ากับคุณ”เขาพูดเสียงเบาขนตาของหลินเซียงสั่นไหว “คุณไม่กลัวว่าพ่อจะยึดอำนาจทั้งหมดของคุณคืนเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนยิ้ม ครั้งนี้รอยยิ้มของเขามีแววเย้ยหยัน “ถ้าเขาทำได้ คงไม่ทำแค่พูดหรอก”หลินเซียงเข้าใจ แต่ในใจกลับรู้สึกเย็นชาดูเหมือนว่าอำนาจของเขาไม่ได้มีแค่ดีเคกรุ๊ป ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากท่าทางของเขาแล้ว เขาไม่น่าจะสนใจลู่กรุ๊ปของตระกูลลู่ด้วยซ้ำถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องที่เธอจะหย่ากับเขาคงต้องยืดออกไปอีกนานสินะ?ลู่สือเยี่ยนเห็นเธอครุ่นคิด จึงถอยห่างออกไปเล็กน้อย จับคางเธอไว้แล้วมองสบตา “คิดอะไรอยู่?”หลินเซียงพู
ในห้องพักผู้ป่วยลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามา ก็เห็นเซี่ยหว่านนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงคนไข้ ใบหน้าซีดเผือดลู่เจิ้งหรงกับอวิ๋นหลานนั่งอยู่ข้าง ๆ กำลังพูดอะไรบางอย่างกับเธออวิ๋นหลานเห็นลู่สือเยี่ยนก็พูดว่า “สือเยี่ยน มาได้สักที”เซี่ยหว่านก็มองลู่สือเยี่ยนเช่นกัน ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง ต้องการเห็นความห่วงใยจากสีหน้าของเขาแต่ไม่มีสีหน้าของลู่สือเยี่ยนเย็นชามากเขาดึงเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ พาดขาไขว่ห้าง “ของอยู่ไหน?”เซี่ยหว่านหน้าซีด “สือเยี่ยน จะไม่สนใจฉันหน่อยเหรอ?”ลู่สือเยี่ยน “ของอยู่ไหน?”น้ำเสียงของเขาเย็นชาลงกว่าเก่าเซี่ยหว่านได้ยินความไม่อดทนในน้ำเสียง รู้ว่าถ้าเธอยังไม่ยอมตอบอีก เขาจะต้องโกรธแน่“ฉันให้คนไปเอามาแล้ว”เซี่ยหว่านพูดอย่างอ่อนแรงลู่เจิ้งหรงพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “หว่านหว่านเจ็บหนักขนาดนี้ ทำไมแกไม่ถามไถ่อาการเธอสักคำ?”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ “พวกคุณนี่ไม่รู้สึกขายหน้าบ้างหรือไง?”หน้าของเซี่ยหว่านยิ่งซีดเผือดลู่เจิ้งหรงโกรธจนอยากจะฆ่าเขาซะแต่เมื่อนึกถึงว่าตัวเองเหลือลูกชายแค่คนเดียว เขาก็ได้แต่อดทนอวิ๋นหลานพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “สือเยี่ยน ไม่ว่า
ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา “เอาสิ งั้นก็ให้เขามาเอาเรื่องฉันเลย”เซี่ยหว่านหยุดร้องไห้ตอนนี้ลู่สือเยี่ยนไม่สนใจอะไรแล้วจริง ๆ!เซี่ยหว่านรู้สึกไม่อยากจะยอมแพ้ เธอเสียขาไปข้างหนึ่ง สุดท้ายทำไมกลับกลายเป็นแบบนี้?จะให้เธอยอมได้อย่างไร!ตอนนี้เอง ก็มีคนมาเคาะประตูห้องพักผู้ป่วย“คุณหนูใหญ่”เป็นพ่อบ้านของบ้านเซี่ยหว่าน เขาถือกล่องใบหนึ่งเดินเข้ามาเซี่ยหว่านพูดว่า “นี่คือของขวัญวันเกิดที่พี่รองให้ฉัน ฉันเก็บไว้อย่างดีมาโดยตลอด ไม่เคยแกะเลย”พ่อบ้านยื่นกล่องให้ลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนรับมาเปิดออกดู ก็พบว่าเป็นกล่องดนตรีดูสวยงามประณีต มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นสิ่งที่เด็กผู้หญิงชอบเขาลุกขึ้นแล้วเดินจากไปเซี่ยหว่านมองแผ่นหลังของเขาที่จากไป สีหน้าย่ำแย่ลงทันที เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรออก“ทำยังไงดีคะ? ตอนนี้ลู่สือเยี่ยนไม่อยากมองหน้า ไม่อยากสนใจฉัน ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันจะแต่งงานกับเขาได้ยังไง?”อีกฝ่ายพูดว่า “ปล่อยให้เขากินข้าวแล้วลืมเรื่องนี้ไป ไม่ดีกว่าเหรอ? เป้าหมายของเธอไม่ใช่การแต่งงานกับเขาซะหน่อย”เซี่ยหว่านกัดฟัน “แต่ฉันหาโอกาสแบบนั้นไม่ได้เลยค่ะ”
หลินเซียง “...”เธอไม่สนใจซ่งซ่ง แต่หันไปมองเด็กหนุ่มคนนั้น “นายคือ?”สวี่ซิงเย่ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง จากนั้นก็เกาหัว “คุณจำผมไม่ได้เหรอ? ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นพนักงานเสิร์ฟที่นี่ ถ้าคุณต้องการอะไร ก็เรียกผมได้ตลอดครับ”เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ช่วยหลินเซียงหลินเซียงมองเด็กหนุ่มตรงหน้า รู้สึกว่าคุ้นหน้ามากแต่สวี่ซิงเย่ก็หันหลังกลับไปแล้วซ่งซ่งส่งเสียง “จุ๊ ๆ” อยู่ด้านข้าง “ทำไมทำหน้าอกหักแบบนั้นล่ะ อย่างกับโดนเธอหลอกให้รักแล้วลืมเลย เซียงเซียง เธอจำเขาไม่ได้จริง ๆ เหรอ?”หลินเซียงมองเธออย่างจนใจ “ระวังคำพูดหน่อย ฉันไม่รู้จักเขาซะหน่อย”ซ่งซ่งส่ายหน้า “ฉันไม่เชื่อ ไม่งั้นหนุ่มหล่อคนนั้นคงไม่มองเธอด้วยสายตาเศร้าแบบนั้นหรอก”หลินเซียง “...”เธอมองออกได้ยังไงว่าสายตาของสวี่ซิงเย่เศร้า?“ไปกันเถอะ ฉันนัดคนไว้แล้ว เราไปส่องเด็กฝึกงานพวกนั้นกัน บางทีอาจจะมีหนุ่มหล่อคนนี้อยู่ในกลุ่มด้วยก็ได้” ซ่งซ่งดึงเธอมุ่งหน้าไปยังห้องส่วนตัวหลินเซียงเข้าไปในห้องส่วนตัวกับเธอเธอนั่งลงบนโซฟา “ตอนนี้เธอจะบอกฉันได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?”ซ่งซ่ง “ฉันหางานใหม่น่ะ ตอนมหาลัยเรียนสาขาออกแบบภายใน ก
“ฉันนึกออกแล้ว! นายเป็นคนช่วยฉันไว้!” หลินเซียงมองสวี่ซิงเย่ด้วยสีหน้าดีใจสวี่ซิงเย่ยิ้มเขิน ๆ ก้มหน้าเล็กน้อย “นั่นเป็นสิ่งที่ผมควรทำครับ คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”“ที่ฉันไม่เป็นไรก็เพราะนายเลย” หลินเซียงลุกขึ้น เดินไปหาสวี่ซิงเย่ทันที “ขอเบอร์หน่อยสิ? นายเลิกงานตอนไหน? ฉันขอเลี้ยงข้าวนะ!”สวี่ซิงเย่ค่อนข้างประหลาดใจ ไม่นึกเลยว่าเธอจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ เขาส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่ดีกว่าครับ คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”ซ่งซ่งเดินเข้ามา มองเขาด้วยรอยยิ้ม “แค่กินข้าวด้วยกันเอง น้องชายไม่ต้องเขินหรอก อุตส่าห์ช่วยเซียงเซียงของพวกเราไว้ ถือเป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา นี่นามบัตรฉัน ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้”เธอยื่นนามบัตรให้สวี่ซิงเย่โดยตรงสวี่ซิงเย่จำใจรับ สีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูกซ่งซ่งมองคนอื่น ๆ “พวกนายออกไปได้แล้ว ให้เขาอยู่ต่อคนเดียวพอ”คนที่อยู่ในห้องนั้น นอกจากสวี่ซิงเย่แล้ว ผู้ชายคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันออกไปในห้องส่วนตัวเหลือเพียงสามคนซ่งซ่งเรียกสวี่ซิงเย่ให้นั่งลง “น้องชาย นั่งก่อน ไม่ต้องเกร็งนะ พวกเราไม่ใช่คนชอบฉวยโอกาสหรอก”หลินเซียง “...”สวี่ซิงเย่ “...”คนเลวมักจะบอกว่าตั
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด
เสียงของคุณย่าลู่ดังขึ้น ทุกคนในห้องนั่งเล่นต่างก็ตกตะลึง!สีหน้าของลู่สือเยี่ยนตึงเครียดขึ้น เขาคุกเข่าครึ่งตัวอยู่ข้างหน้าคุณย่าลู่แล้วถามว่า “คุณย่าครับ ตอนนี้คุณย่าจำอะไรได้แล้วเหรอครับ?”คุณย่าลู่เอามือลูบหัวเขา “ย่าต้องจำได้อยู่แล้วสิ ย่ายังไม่แก่จนความจำเลอะเลือนซะหน่อย ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่าน แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่พาเธอมาด้วย?”ลู่สือเยี่ยนรู้สึกถึงความผิดปกติอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่หลินเซียงแล้วถามว่า “แล้วคุณย่าจำเธอได้ไหมครับ?”คุณย่าลู่มองตามนิ้วมือของเขาไป แล้วส่ายหัว “ไม่รู้จัก เธอเป็นใคร? คนใช้ใหม่ของบ้านเราเหรอ?”หลินเซียงได้ยินคำพูดของเธอ เหมือนกับถูกตบหน้าอย่างแรง ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณย่าลู่ความจำเสื่อม เธอมักจะคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนใช้ของบ้านตระกูลลู่ และยังดีกับหลินเซียงเป็นพิเศษแต่ตอนนี้กลับกัน!ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมจะพาคุณย่าไปโรงพยาบาลครับ”คุณย่าลู่ขมวดคิ้ว ใบหน้าที่แก่ชราเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “ไปโรงพยาบาลทำไม? ย่ารู้สึกว่าย่าสบายดีนะ”ลู่สือเยี่ยน “ตรวจร่างกายคุณย่านิดหน่อย เชื่อผมเถอะครับ”คุณย่าลู่ก็ยังไม่ค่อยเต็มใจ
หลังจากที่ลู่สือเยี่ยนพูดจบ เขาก็ไม่ได้วางสาย ได้ยินเสียงเขาเปิดประตูรถลงจากรถ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบหลินเซียงกำโทรศัพท์แน่น ยื่นมือไปกดปุ่มปิดประตูอีกครั้งครั้งนี้ประตูลิฟต์ปิดลง หัวใจที่สั่นไหวก็ค่อยผ่อนคลายลงอย่างเฉียบพลัน"ประตูลิฟต์ปิดแล้ว" หลินเซียงพูด ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าขาของตัวเองอ่อนแรงแค่ไหน!ลู่สือเยี่ยนพูดว่า "อย่าออกจากลิฟต์ก่อนถึงชั้นหนึ่งนะ""อืม"หลินเซียงตอบ ยังไม่วางสายโชคดีที่ลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่มีใครทำงานล่วงเวลาในตึกแล้วเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก หลินเซียงก็เห็นลู่สือเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตู เธอวิ่งออกไปทันที!ลู่สือเยี่ยนกอดเธอไว้พลางปลอบเบา ๆ "ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน"ด้วยกลิ่นอายที่สดชื่นของเขา หลินเซียงจึงผ่อนคลายลง ตามมาด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง!จมูกของเธอรู้สึกแสบร้อน น้ำตาเกือบไหล แต่เธอก็อดทนไว้!ลู่สือเยี่ยนประกองกอดเธอแล้วออกจากอาคารพอก้าวขึ้นรถ ความอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนทำให้ร่างกายที่เย็นเยือกเริ่มอุ่นขึ้นลู่สือเยี่ยนจับมือเธอ ถามว่า "คุณเห็นใครหรือเปล่า?"หลินเซียงส่ายหัว "ไม่มีนะ"แล้วถา
หลินเซียงรู้สึกใจสั่นระรัวเสียงน้ำไหลในห้องน้ำดังขึ้น หลินเซียงจึงโล่งใจเล็กน้อยเธอค่อย ๆ ผ่อนคลายและกอดตัวเองขณะกำลังจะหลับ เตียงข้าง ๆ ก็ยุบลงไป ร่างกายของลู่สือเยี่ยนที่ยังเปียกชื้นจากน้ำ เข้ามากอดเธอแน่น หลินเซียงไม่ขยับหรือดิ้นรน ลู่สือเยี่ยนจูบที่ไหล่เธอเบา ๆ "ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก"ขนตาของหลินเซียงกระตุกเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ตอบสนองอะไร…วันรุ่งขึ้น หลินเซียงไปทำงานก็พบว่าสวี่ซิงเย่มาถึงแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ดูสดใสและมีเสน่ห์ เป็นหนุ่มน้อยที่สดใสสวี่ซินหรานกำลังคุยกับเขาอยู่และสวี่ซิงเย่ก็ตอบด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นเธอมาถึง สวี่ซิงเย่รีบลุกขึ้นยืนและเดินมาหาเธอ "คุณหลิน อรุณสวัสดิ์ครับ!"หลินเซียงยิ้มบาง "ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว นายเรียกฉันว่าหลินเซียงก็ได้"สวี่ซิงเย่เกาจมูกด้วยความเขินอายเล็กน้อย "หลินเซียง""อืม อรุณสวัสดิ์ค่ะ" หลินเซียงพยักหน้าเล็กน้อยสวี่ซินหรานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ถ้าไม่รู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว ฉันนึกว่าพวกเธอเป็นแฟนกันซะอีก"เมื่อได้ยินแบบนั้น สวี่ซิงเย่ขมวดคิ้ว พูดว่า "อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ผมกั
“ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรมากไหม?”หลินเซียงรู้สึกงงกับเขา!เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เขากลับจะยัดเยียดให้เธอไปเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่น?เขาเป็นบ้าหรือเปล่า?ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “หลินเซียง ห้ามรับของจากผู้ชายคนอื่น และห้ามชอบผู้ชายคนอื่นด้วย ถ้าผมรู้ คุณอาจไม่ตาย แต่ผู้ชายคนนั้นต้องตายแน่!”เขาเตือนอย่างจริงจังด้วยความเคร่งขรึม ดวงตาของเขาแสดงความต้องการครอบครองเธออย่างไม่มีปิดบังหลินเซียงกัดริมฝีปาก มองเขาด้วยสายตาซับซ้อนถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาแสดงออกแบบนี้เธอคงดีใจมาก!แต่หลังจากผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาแล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอกลับไม่รู้สึกอะไร!เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้ฉันไปอาบน้ำได้แล้วใช่ไหม? ทำงานมาทั้งวัน เหนื่อยมากจริง ๆ”ลู่สือเยี่ยนมองเธออีกสักพัก แล้วปล่อยเธอไปหลินเซียงเดินไปที่ห้องน้ำลู่สือเยี่ยนเรียกคนใช้มาเก็บเค้กเมื่อหลินเซียงออกมา เธอก็เห็นเขานั่งอยู่บนโซฟา บนโต๊ะมีขี้ผึ้งวางอยู่“ทายา”เมื่อเห็นเธอหันมามอง เขาพูดเสียงต่ำหลินเซียงกัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันทาเองได้”พูดจบ เธอก็เดินไปหยิบขี้ผึ้งแต่ลู่สือเยี่ยนมือไวกว่