หลินเซียงออกจากห้องน้ำ ตอนเดินผ่านลิฟต์ ฟู่จิ่นซิ่วที่เพิ่งออกมาจากลิฟต์ก็เห็นเข้าพอดีเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เมื่อเห็นร่างของเธอก็เลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วจึงพูดว่า “นายเดาซิ ฉันเห็นใครที่แมนชั่นหมายเลข 9?”คนที่คุยปลายสายคือลู่สือเยี่ยน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พ่อนายมั้ง?”“ถุย!”ฟู่จิ่นซิ่วสบถ แล้วจึงพูดว่า “พ่อนายมากกว่า! บรรพบุรุษนาย! แม่ยอดขมองอิ่มของนาย!”น้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนเย็นชาลงเล็กน้อย “แน่ใจนะว่าไม่ได้มองผิด?”ฟู่จิ่นซิ่วยิ้มเยาะ “ฉันไม่ได้ตาบอดนะเว้ย เธอเดินผ่านหน้าฉันไปโต้ง ๆ ดูแล้วเธอน่าจะเมาแล้วล่ะ แหม ๆ ชีวิตยามราตรีนี่มีสีสันจริง ๆ”ลู่สือเยี่ยนวางสายทันทีฟู่จิ่นซิ่วมองโทรศัพท์มือถือ “เป็นอะไรอีกล่ะ?”แต่เขาก็ยังอยากรู้ว่าหลินเซียงมาดื่มกับใคร จึงเดินไปยังห้องส่วนตัวที่เธอเพิ่งจะออกมาไปเมื่อมาถึงหน้าประตู เสียงเพลงในห้องไม่ได้ดังมาก สามารถมองเห็นเงาคนข้างในผ่านหน้าต่างที่พร่ามัว คนข้างในดูเหมือนไม่เยอะมากฟู่จิ่นซิ่วแง้มประตูเล็กน้อย คนข้างในก็ไม่ทันสังเกตเห็นเขา เขามองเข้าไปข้างในเห็นหลินเซียงนั่งอยู่ข้างชายคนหนึ่ง กำลังชนแก้วดื่มเหล้ากับเขาแหม!ชี
เธอยิ้มอย่างประจบประแจงดูเสแสร้งมากฟู่จิ่นซิ่วไม่สนใจ นั่งอยู่บนโซฟาอย่างเฉื่อยชา มองเธอใช้นิ้วจับแก้วเหล้า สองขายืนเซไปมา แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจ “ถ้าคุณทำเหล้าหกใส่ตัวผม ผมจะให้คุณเลียจนสะอาด”ซ่งซ่ง “...”น่ารังเกียจ!ไอ้บ้านี่เดาความคิดของเธอออก!เธอรีบจับแก้วเหล้าให้มั่น “จะหกได้ไง? ฉันอยากรินเหล้าให้คุณด้วยความจริงใจ ไม่มีเจตนาจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นซะหน่อย?”ฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะ ไม่ได้แกล้งเธออีก หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาชนกับเธอซ่งซ่งเห็นเขายกเหล้าขึ้นดื่ม จึงยกขึ้นดื่มบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดื่มมากไปก่อนหน้านี้หรือเปล่า ตอนที่เธอยกมือขึ้นก็รู้สึกเวียนหัว ทำให้จับแก้วเหล้าไม่มั่น เหล้าหกใส่กางเกงของฟู่จิ่นซิ่วจริง ๆซ่งซ่ง “...”เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ!”หน้าของฟู่จิ่นซิ่วมืดครึ้ม วางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะอย่างแรง “ซ่งซ่ง คุณนี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ!”แก้ตัวยังไม่ทันขาดคำ ก็ทำมันจริง ๆไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้แต่น้อย!ซ่งซ่งหยิบกระดาษทิชชูออกมาเช็ดให้เขา “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เดี๋ยวฉันเช็ดให้จนสะอาดเลย”ฟู่จิ่นซิ่วลุกขึ้นยืน “มาเช็ดตรงนี้!”เขาห
หลินเซียงชะงัก มองสวี่ซิงเย่ด้วยความสับสนเธออยากพูด แต่ในปากมีองุ่นอยู่ จึงได้แต่กินองุ่นก่อน แล้วค่อยพูดและในตอนนี้เอง ก็มีร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินเข้ามาหลินเซียงหรี่ตา เห็นว่าเป็นลู่สือเยี่ยนโดยไม่รู้ตัว เธอนั่งตัวตรงทันที รีบเคี้ยวองุ่นแล้วกลืนลงคอ ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้?อ้อ จริงสิ ฟู่จิ่นซิ่วก็อยู่ที่นี่ ลู่สือเยี่ยนตามมาก็ไม่แปลกรอบตัวของลู่สือเยี่ยนเต็มไปด้วยความเย็นชา ดวงตาเรียวจ้องมองหลินเซียงเขม็ง แล้วนั่งลงบนโซฟา“หวานไหม?”หลินเซียงชะงัก เธอดื่มเหล้าเข้าไป สมองมึนงง คิดคำตอบไม่ทัน จึงพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว “หวาน”สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเคร่งขรึมลงทันที มีเพียงมุมปากที่เผยรอยยิ้มแปลก ๆ “งั้นก็ดี นายก็เลือกให้ฉันลูกหนึ่งสิ”เขามองสวี่ซิงเย่สวี่ซิงเย่ชะงัก วางจานองุ่นไว้ตรงหน้าเขาโดยตรง “องุ่นพวกนี้รสชาติใช้ได้หมดครับ”สวี่ซิงเย่รู้สึกกดดัน สายตาที่ลู่สือเยี่ยนมองเขานั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า แต่ก็ไม่ได้ลงมือ ทำให้เขาค่อนข้างกระอักกระอ่วนในที่สุดหลินเซียงก็กลืนองุ่นลงคอ ถามว่า “ทำไมคุณมาที่นี่ล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนหยิบองุ่นขึ้นมาลูกหนึ่ง มองอย่างไม่ใส่ใจ “ผมมาไม่ได้หรื
“อื้อ!”หลินเซียงไม่ทันตั้งตัว ปากของเธอก็ถูกยัดองุ่นเข้าไปอีกเม็ด!ตอนที่สวี่ซิงเย่เอาองุ่นมาป้อนเธออย่างกะทันหัน เธอรู้สึกงงงวยและตกใจจนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่ตอนนี้ เธอรู้สึกถึงความอับอายขายหน้าอย่างรุนแรงลู่สือเยี่ยนกำลังทำให้เธออับอาย!เธอคายองุ่นออกมาทันที“ลู่สือเยี่ยน คุณบ้าหรือเปล่า!”เธอพยายามดิ้นรนลุกขึ้นจากตัวเขา ไม่อยากสัมผัสใกล้ชิดแบบนี้กับเขาเลยแต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอมให้เธอลุก เขาเหลือบมององุ่นที่เธอคายออกมา ดวงตาเย็นชาลงทันที “หลินเซียง คุณอยากตายหรือไง?”องุ่นที่ผู้ชายคนอื่นป้อน เธอยอมกิน แต่ที่เขา้อนเธอกลับไม่กินน่าโมโหจริง ๆ!สวี่ซิงเย่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว กำลังจะดึงหลินเซียงออกจากอ้อมแขนของลู่สือเยี่ยน“คุณชาย ไม่เห็นเหรอว่าเธอไม่เต็มใจ คุณไม่ควรบังคับเธอนะครับ!”ดวงตาของลู่สือเยี่ยนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาเหลือบมองมือของสวี่ซิงเย่ที่กำลังจับแขนของหลินเซียง แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “อยากมือขาดก็บอกสิ”เมื่อสายตาของเขาตกอยู่บนมือของสวี่ซิงเย่ สวี่ซิงเย่รู้สึกราวกับว่ามือของเขาหายไปแล้ว!ความโกรธแค้นแผ่กระจายไปทั่วห้องส่วนตัว!หลินเซียงหันไปมองเขา “
เสื้อโค้ตสูทถูกคลุมอยู่บนตัวเธอ กลิ่นหอมที่เข้มข้นและสดชื่นปกคลุมเธอไว้ทั้งหมด“หลินเซียง นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ถ้าผมเจอเรื่องแบบนี้อีก อย่าหวังเลยว่าผมจะปล่อยไปง่าย ๆ”ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืน มองลงมาที่เธอ ดวงตาของเขาเย็นชาไร้ความอบอุ่นหลินเซียงถูกกลิ่นของเขาปกคลุมไว้ จึงยังไม่พูดอะไรลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินออกไปเขาไม่สนใจคำตอบของเธอสิ่งที่เขาพูด เธอต้องทำ มิฉะนั้นเขาจะไม่ปล่อยเธอไว้ส่วนผู้ชายคนนั้น ไม่ควรอยู่ในเมืองอวิ๋นเฉิงอีก!หลินเซียงเดินตามเขาออกจากห้องส่วนตัวอย่างเงียบ ๆ เมื่อเดินเข้าลิฟต์ เธอก็นึกถึงซ่งซ่งขึ้นมาได้ รีบกดปุ่มเปิดประตู“ทำอะไร?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างเย็นชาหลินเซียงพูดว่า “ฉันจะไปตามหาซ่งซ่ง”ลู่สือเยี่ยนพูดว่า “เหล่าฟู่ไปส่งเธอกลับบ้านได้”แต่หลินเซียงไม่เชื่อใจฟู่จิ่นซิ่ว เธอจึงดื้อดึงที่จะออกไปหาคนในขณะนั้น โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซ่งซ่ง“ฮัลโหล ซ่งซ่ง?”“เพื่อนรัก กลับบ้านก่อนเถอะ ฉันติดปัญหานิดหน่อย เลยกลับไปที่ห้องไม่ได้” เสียงของซ่งซ่งฟังดูไม่ค่อยดี เหมือนกับกำลังอดทนต่ออะไรบางอย่างหลินเซียงเริ่มก
หลินเซียงรีบพูดกับสวี่ซิงเย่ “นายไปทำงานต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจฉันแล้ว”สวี่ซิงเย่เห็นว่าเธอลำบากใจ จึงพยักหน้า “ครับ ถ้ามีอะไรก็ติดต่อผมได้”หลินเซียง “...”ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรทั้งนั้น นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ!สวี่ซิงเย่หันหลังกลับแล้วจากไป ภายใต้สายตาเย็นชาของลู่สือเยี่ยนหลินเซียงมองเขา “ไม่กลับบ้านเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาเย็นชา ดวงตาคู่นั้นน่ากลัวมาก ทำให้หลินเซียงตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวเขาหันหลังกลับแล้วเดินจากไป เธอจึงรีบตามไปติด ๆสายลมยามค่ำคืนพัดผ่าน ความมึนเมาหายไปเป็นปลิดทิ้ง...ฟู่จิ่นซิ่วเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก้มมองรอยเปื้อนบนกางเกงของตัวเอง แล้วหันไปมองซ่งซ่งที่เดินตามเข้ามาซ่งซ่งมีสีหน้าสำนึกผิด ก้มตัวลง “ฉันจะเช็ดให้คุณจนสะอาดนะ”เหล้าหกใส่ต้นขาของฟู่จิ่นซิ่ว เปียกเป็นวงกว้าง แถมวันนี้เขายังใส่กางเกงสีขาว ทำให้เห็นชัดเข้าไปใหญ่แต่เช็ดแบบนี้คงเช็ดไม่ออกง่าย ๆ กลับทำให้รอยเปื้อนขยายวงกว้างขึ้นสีหน้าของฟู่จิ่นซิ่วยิ่งแย่ลงแถมยังเกิดความรู้สึกแปลก ๆเธอกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าเขาแม้ว่าจะเช็ดผ่านเนื้อผ้า เขาก็รู้สึกถึงค
“วิ่งทำไม?”ฟู่จิ่นซิ่วมองเธออย่างมืดมน“คุณ คุณ คุณ… จับฉันทำไมเนี่ย?”ซ่งซ่งมองเขาด้วยความตกใจ “ปล่อยฉันนะ ไอ้พวกตัวเหม็นหึ่ง ฉันจะบอกให้ ฉันไม่ยอมทำเรื่องอย่างว่ากับคุณแน่ เลิกคิดไปได้เลย!”ฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะออกมา “คิดอะไรน่ะ? คิดว่าผมจะสนใจคุณเหรอ?”ซ่งซ่งหยุดดิ้นเธอบกพร่องอะไร?ทำไมเขาไม่สนใจเธอ?ซ่งซ่งหันไปมองเขา “ถ้าไม่สนใจ งั้นไอ้นั่นมันตื่นทำไม?”ดวงตาของฟู่จิ่นซิ่วแสดงความประหลาดใจ ราวกับไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนั้น “คุณ…”“ฉันทำไม?” ซ่งซ่งยกมือขึ้น จิ้มไปที่อกเขา พูดทีละคำว่า “ฟู่จิ่นซิ่ว ยอมรับเถอะ จริง ๆ แล้วคุณชอบฉันมาตั้งนานแล้วใช่ไหม? ไม่งั้นคุณจะพยายามเข้าหาฉันทำไม? แค่ครั้งสองครั้งอาจเป็นเรื่องบังเอิญ แต่หลัง ๆ มันชักจะมากเกินไปแล้ว คุณไม่เคยคิดไตร่ตรองตัวเองบ้างเหรอ?”เธอคิดว่าตัวเองพูดถูก ดวงตาสว่างวาบ เชิดคางขึ้น แล้วหัวเราะเบา ๆ “ดูสภาพที่น่าอายของคุณสิ บอกว่าไม่ชอบฉัน ใครจะเชื่อ?”“ผู้หญิงคนนี้…” ฟู่จิ่นซิ่วมองรอยยิ้มที่มั่นใจของเธอเขาพูดไม่ออก!ชอบเธอเหรอ?เว้นแต่เขาจะตาบอดเท่านั้นแหละ!ฟู่จิ่นซิ่วเยาะเย้ย “ทำไมผมต้องพยายามเข้าหาคุณ คุณรู้ดีแก่ใจ ถ
ซ่งซ่งรู้สึกว่าอากาศในปอดของเธอเริ่มน้อยลง แทบจะขาดอากาศหายใจ!ฟู่จิ่นซิ่วปล่อยเธอ กัดปากเธอเบา ๆ แล้วหัวเราะเยาะ “คิดจะเอาชนะผมเหรอ? คุณยังหายใจไม่ทั่วท้องเลย ก็แค่มือใหม่”ซ่งซ่ง “…”ลมหายใจของเธอไม่ทั่วท้อง ริมฝีปากแดงก่ำเพราะการจูบอย่างรุนแรง เธอพูดเสียงแข็งว่า “คิดว่าทักษะการจูบของคุณดีมากหรือไง? จูบกับคุณ เหมือนถูกหมาเลีย!”บรรยากาศโรแมนติกดูเหมือนจะแข็งทื่อไปชั่วขณะฟู่จิ่นซิ่วหรี่ตาลง จ้องมองเธอที่ยังไม่ทันสูดเอาอากาศเข้าไป แล้วก็จูบลงไปอีกครั้ง“วันนี้ผมต้องจูบจนคุณยอมแพ้!”กล้ามากังขาทักษะของเขา น่าโมโหจริง ๆ!ซ่งซ่งก็ไม่ยอมแพ้ ทั้งสองคนแลกจูบกันไปมา ลมหายใจเกี่ยวพันกัน ไม่เหมือนกับการจูบ แต่เหมือนกับการต่อสู้มากกว่าเมื่อออกมาจากห้องน้ำ ลิฟต์ก็มาพอดีพวกเขาเข้าไปในลิฟต์ซ่งซ่งผลักเขาออก “แป๊บหนึ่ง ฉันขอโทรศัพท์หน่อย”เธอนึกขึ้นได้ว่าหลินเซียงยังอยู่ในห้องส่วนตัวฟู่จิ่นซิ่วจ้องมองเธอ ซ่งซ่งก็จ้องมองเขากลับ ราวกับจะกินเขาเข้าไป!เมื่อเธอวางสาย จูบที่เต็มไปด้วยกระตือรือร้นก็เกิดขึ้นอีกครั้งทั้งสองคนต่างก็พยายาม จนกระทั่งเข้าไปในห้อง ราวกับไม่มีอะไรมาขัดขวาง การ
"ฟู่จิ่นซิ่ว ทำอะไร? ปล่อยฉัน!"ซ่งซ่งดิ้นไม่หยุด เอื้อมมือไปข่วนหน้าฟู่จิ่นซิ่ว แต่ก็เอื้อมไม่ถึง!ฟู่จิ่นซิ่วหนีบเธอมาที่ชั้นล่าง จากนั้นก็มาที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง ใส่รหัสลายนิ้วมือ เปิดประตูแล้วเดินเข้าไป ก่อนจะโยนซ่งซ่งลงบนโซฟา!"อ๊ะ!"ซ่งซ่งอุทานออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ถูกเขากดลงกับเบาะ!เธอเบิกตาโต "ทำอะไร?"ฟู่จิ่นซิ่วมองเธอจากด้านบน "ครั้งหนึ่งก็แล้ว สองครั้งก็แล้ว นี่ครั้งที่สาม ซ่งซ่ง คิดว่าผมใจดีมากหรือไง?"ซ่งซ่งรู้สึกถึงอันตรายอย่างไม่มีเหตุผล กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่ดิ้นรนอีกต่อไป พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง และพยายามไม่ให้เขาอารมณ์เสียเพิ่ม"ฟู่จิ่นซิ่ว ฉันล้อเล่นเอง ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย?"ฟู่จิ่นซิ่วพูดอย่างเย็นชา "รู้ไหมว่าการล้อเล่นแบบนี้มีผลร้ายแรงแค่ไหน?"ซ่งซ่งเบะปาก "ถึงจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณมิทราบ? เซียงเซียงกับคนเลวอย่างลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้ว เธอจะอยู่กับใครมันก็เป็นอิสระของเธอ"ฟู่จิ่นซิ่วเกือบจะพูดออกไปว่าใบหย่าเป็นของปลอม แต่เมื่อคิดดูแล้ว เขาก็อดทนไว้ช่างเถอะหลอกได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นตอนนี้เขาต้องคิดบัญชีกับผู้หญ
ซ่งซ่งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ปกติเธอเป็นคนตื่นง่ายมาก เสียงเคาะประตูดังขนาดนั้นกลับปลุกเธอไม่ได้?หรือเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์?ซ่งซ่งไม่คิดมากอีกต่อไป หาวแล้วเดินออกไปมองผ่านตาแมวที่ประตู เมื่อเห็นคนข้างนอก เธอก็หรี่ตาลงเล็กน้อยทำไมถึงเป็นเขา?"ปัง ปัง ปัง!"ในขณะที่กำลังคิดอยู่ คนข้างนอกก็เริ่มเคาะประตูอีกครั้งซ่งซ่งเปิดประตูทันที เห็นฟู่จิ่นซิ่วที่ยังคงยกมือขึ้น ทำท่าทางจะเคาะประตูต่อไปถ้าเธอเปิดประตูช้ากว่านี้สองวินาที ฝ่ามือของเขาอาจจะโดนตัวเธอแล้ว"ดึกดื่นป่านนี้ มาเคาะประตูทำซากอะไร? เป็นอะไรมากหรือเปล่า!"ซ่งซ่งพูดอย่างไม่พอใจฟู่จิ่นซิ่วลดมือลง มองเธอ "มีแค่คุณเหรอที่อยู่ที่นี่?"ซ่งซ่งหาว "ไม่ใช่ฉัน แล้วจะเป็นใคร?"เธอหรี่ตาลง เหมือนนึกอะไรออกแล้วพูดว่า "อ้อ แล้วก็มีฉินโหย่วหานอีกคน"ฟู่จิ่นซิ่วที่ถอนหายใจไปแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันที "คุณว่าฉินโหย่วหานนอนอยู่ที่นี่?"ซ่งซ่ง "เกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ?"ฟู่จิ่นซิ่วยกมือขึ้นนวดระหว่างคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องราวกำลังยุ่งยากมากถ้าฉินโหย่วหานมีความสัมพันธ์กับหลินเซียงจริง...ลู่สือเยี่ยนอาจจะอา
ฟู่จิ่นซิ่วรีบดึงเขาไว้ "สือเยี่ยน อย่าบ้าไปหน่อยเลย แผลนายยังไม่หาย แถมยังหย่ากับหลินเซียงแล้ว ในเมื่อตัดสินใจปล่อยมือแล้ว ก็มองไปข้างหน้าสิ!"ฟู่จิ่นซิ่วไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมลู่สือเยี่ยนถึงยึดติดกับหลินเซียงนักทั้งที่ตอนแรก ลู่สือเยี่ยนออกจะรังเกียจหลินเซียงมาก เพราะเธอได้เห็นด้านที่น่าอับอายที่สุดของเขาเธอได้เห็นเขาในตอนที่ความจำเสื่อม เป็นใบ้ หรือแม้กระทั่งเป็นคนปัญญาอ่อนนั่นคือสิ่งที่ลู่สือเยี่ยนไม่อยากหวนคิดถึงมากที่สุดหลังจากที่ฟื้นความทรงจำกลับมา!ดังนั้น ในตอนแรกเขาถึงได้ยืนกรานที่จะหย่ากับหลินเซียง!แต่ตอนนี้ เขากลับยืนกรานจะพัวพันกับเธอต่อไป!บ้าไปแล้ว!เส้นเลือดบนหน้าผากของลู่สือเยี่ยนปูดโปน เขาจ้องมองฟู่จิ่นซิ่วด้วยความโกรธถึงที่สุดแล้วพูดว่า "ฉันกับหลินเซียงไม่ได้หย่ากัน เธอยังเป็นภรรยาที่ถูกต้องของฉัน!"เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่จิ่นซิ่วก็ถึงกับอึ้งไป "นายว่า...อะไรนะ?"การดิ้นรนเมื่อครู่ทำให้แผลบนร่างกายของลู่สือเยี่ยนปริออก กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ฟุ้งกระจายในอากาศ เขาแสยะยิ้มแล้วพูดด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างที่สุดว่า "ถ้าฉันไม่ให้ใบหย่ากับเธอ เธอคงจะอาละวาดกับฉันไป
ไม่มีความจำเป็นต้องรับหลินเซียงวางโทรศัพท์ไว้ข้าง ๆ ดื่มน้ำอีกอึกหนึ่งแล้วกลับไปที่ห้องนอนเพื่ออาบน้ำและนอนหลับ…โรงพยาบาลภายในห้องพักผู้ป่วยสว่างไสวขณะมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของลู่สือเยี่ยนก็มืดครึ้มบรรยากาศที่มืดมิดและกดดันค่อย ๆ แผ่กระจายไปทั่วห้องทันใดนั้น ประตูห้องก็เปิดออกลู่สือเยี่ยนมองตามโดยสัญชาตญาณ เมื่อเห็นว่าเป็นฟู่จิ่นซิ่วที่เข้ามา เขาก็ขมวดคิ้วแล้วละสายตา"โอ้ พอเห็นว่าเป็นฉันเข้ามา ดูเหมือนว่านายจะผิดหวังมากเลยสินะ?" ฟู่จิ่นซิ่วเดินเข้ามา ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่ง เขายังมีกลิ่นเหล้าติดตัว เห็นได้ชัดว่าเพิ่งออกมาจากบาร์แห่งใดแห่งหนึ่งลู่สือเยี่ยนหลับตาลง สีหน้าของเขายังคงซีดเซียวบาดแผลจากแส้บนร่างกายได้รับการรักษาแล้ว ก่อนหน้านี้ที่หมดสติเป็นเพราะแผลติดเชื้อและมีไข้สูงฟู่จิ่นซิ่วพูดว่า "นายหย่ากับหลินเซียงแล้ว ทำไมยังหวังว่าเธอจะมาเยี่ยมอีก? ฉันดูท่าทางเธอแล้ว มีแต่อยากจะอยู่ให้ห่างจากนายสุดหล้าฟ้าเขียว"น้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนเย็นชาและแหบพร่า "ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็หุบปากไป"ฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะทันที "ฉันพูดแทงใจดำเลยโกรธเหรอ?"ลู่สื
หลินเซียงไม่ได้พูดอะไร ความคิดแรกของเธอก็เรียบง่ายเพียงเท่านี้ซ่งซ่งพูดต่อว่า "ไม่ใช่แค่แย่งทุกสิ่งที่เธอให้ความสำคัญมา แต่ยังต้องให้เธอได้ลิ้มรสความสิ้นหวังในตอนนั้นด้วย อย่าลืมสิว่าในโลกนี้ไม่มีความเห็นอกเห็นใจอย่างจริงใจหรอกนะ ให้เธอได้สัมผัสความรู้สึกของคนใกล้ตายบ้าง จะได้รู้ว่าชีวิตมีค่าแค่ไหน"หลินเซียงกะพริบตา "สิ่งที่เธอพูดมีเหตุผล"ซ่งซ่งยิ้มอย่างมั่นใจ "สมองน้อย ๆ ของฉันบางครั้งก็คิดได้เร็วมากนะ"หลินเซียงครุ่นคิดแล้วพูดว่า "แต่ทำแบบนั้นจะผิดกฎหมายน่ะสิ"ซ่งซ่งถอนหายใจอย่างจนปัญญา "ตอนที่เซี่ยหว่านทำกับเธอ แม่นั่นเคยคิดถึงเรื่องกฎหมายบ้างหรือเปล่า?"ตอนนี้หลินเซียงเงียบสนิทฉินโหย่วหานบอกว่า "ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจจริง ๆ ควรสั่งสอนเธอสักหน่อย"ทันใดนั้นซ่งซ่งก็มองไปที่ฉินโหย่วหานด้วยดวงตาเป็นประกาย "พี่หาน ทำไมคุณถึงหล่อแบบนี้นะ? มีแฟนหรือยังคะ? ใครได้เป็นแฟนคุณคงจะรู้สึกปลอดภัยคงจะเต็มเปี่ยม!"เธอพูดพลางเหลือบมองหลินเซียงอย่างมีความหมายหลินเซียงยกเบียร์ขึ้นดื่ม ทำเป็นมองไม่เห็นบนใบหน้าหล่อเหลาอ่อนโยนของฉินโฟย่วหานมีรอยยิ้มจาง ๆ พลางจ้องมองหลินเซียงแล้วพูดว่า "
หลินเซียงถึงกับชะงักไป ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คิดถึงปัญหานี้ถ้าอีกฝ่ายไม่ลงมือแค่แอบดูพวกเขาอยู่ในมุมมืดล่ะ?ฉินโหย่วหานยิ้มแล้วพูดว่า "เพราะงั้นแผนนี้เลยใช้ไม่ได้ตั้งแต่แรก ความสัมพันธ์ของคุณและลู่สือเยี่ยนยิ่งดีเท่าไหร่ การป้องกันก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อีกฝ่ายต้องการลงมือก็แทบจะเป็นไปไม่ได้"หลินเซียงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ที่แท้ลู่สือเยี่ยนหลอกเธอเหรอ?เขาหลอกเธออีกแล้วหรือนี่?ฉินโหย่วหานพูดว่า "แทนที่จะใช้วิธีนี้หาตัวอีกฝ่าย สู้รอดูสถานการณ์ไปก่อน ดูว่าอีกฝ่ายไม่พอใจที่พวกคุณรักกันจริง ๆ หรือจ้องจะเล่นงานคุณอยูแล้วกันแน่"ซ่งซ่ง "ฉันว่าสิ่งที่พี่หานพูดก็ถูก"หลินเซียงพูดว่า "แล้วถ้าคนที่ถูกจ้องเล่นงานเป็นฉันล่ะ?"ฉินโหย่วหาน "จัดการง่ายมาก ผมจะส่งคนมาคุ้มครองคุณเอง รับรองว่าคุณจะไม่ได้รับอันตรายแม้แต่น้อย"ซ่งซ่งชูนิ้วโป้งให้ฉินโหย่วหาน "พี่หานเท่มาก!"มุมปากของฉินโหย่วหานกระตุก แล้วพูดต่อว่า "ในเมื่อคุณเลือกที่จะไม่ร่วมมือกับลู่สือเยี่ยน ก็เตรียมตัวตกเป็นเป้าสายตาของอีกฝ่ายได้เลย ฉะนั้นคุณต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเข้มงวด"เขาชี้ไปที่ตัวเอง "และผมก็มีความสามารถนี้พอดี"
ซ่งซ่งร้องไห้จนน้ำหูน้ำตาไหล มองหลินเซียงด้วยสายตาที่ทั้งโกรธและน้อยใจขอบตาของหลินเซียงก็เอ่อคลอ เธอสูดน้ำมูกแล้วพูดว่า "ขอโทษ ฉันทำให้เธอเป็นห่วง"ซ่งซ่งดึงกระดาษทิชชูออกมา สั่งน้ำมูกอย่างแรงแล้วทิ้งลงถังขยะ พูดว่า "เอาเถอะ ฉันรับคำขอโทษของเธอ งั้นตอนนี้ช่วยบอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?"หยุดไปครู่หนึ่ง เธอยกยิ้มแล้วพูดว่า "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอ ต่อให้เธอจะมีลูกกับลู่สือเยี่ยนสิบแปดคน ฉันก็จะไม่ว่าอะไร"มุมปากของหลินเซียงกระตุก บรรยากาศที่เศร้าสร้อยถูกทำลายลงด้วยคำพูดของเธอสิบแปดคน...เห็นเธอเป็นแม่หมูเหรอ?หลินเซียงดื่มเบียร์ไปอึกหนึ่งแล้วเล่าเรื่องอย่างง่าย ๆ"มีคนจ้องจะทำร้ายเธอ?" เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็ถามอย่างกังวลทันที "ใครอยากทำร้ายเธอเหรอ?"หลินเซียงส่ายหน้า "ฉันก็ไม่รู้ ดังนั้นตอนที่เขาเสนอเงื่อนไขนี้ ฉันก็ลังเลมาตลอด บางทีนี่อาจเป็นวิธีที่ดีก็ได้ แต่ตอนนี้...ฉันไม่อยากรู้แล้ว"ซ่งซ่ง "ทำไมล่ะ? อะไรที่ควรรู้ก็ต้องรู้สิ แสดงละครก็แสดงไป ขอแค่จับตัวคนร้ายเบื้องหลังได้ก็พอแล้ว! อย่างมากก็แค่เลิกกับไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น แล้วเราก็หนีไปด้วยกัน!
พ่อบ้านเห็นคนรับใช้กลับมาคนเดียวก็รีบถาม “คุณผู้หญิงล่ะ?”คนรับใช้พูดตะกุกตะกัก พูดซ้ำคำพูดของหลินเซียงพ่อบ้านฟังจบก็ถอนหายใจหนักหน่วง มองไปยังชายที่นอนหมดสติอยู่บนโซฟาคิ้วของลู่สือเยี่ยนขมวดแน่น ตอนหมดสติก็ยังคงพึมพำเรียกชื่อหลินเซียง“หลินเซียง อย่าไป หลินเซียง…”แต่หลินเซียงไม่ได้ยิน…หลินเซียงไปซูเปอร์มาร์เก็ต ซื้อวัตถุดิบกลับมาทำอาหารระหว่างนั้นฉินโหย่วหานโทรมา เธอจัดการกับปลาไปพลาง คุยโทรศัพท์ไปพลาง “พี่หาน ฉันกำลังทำกับข้าวพอดีเลย คุณกินข้าวเย็นหรือยัง? อยากมากินด้วยกันไหม?”ฉินโหย่วหานยิ้ม “ได้สิ ผมไม่ได้กินข้าวฝีมือคุณมานานแล้ว คิดถึงอยู่เหมือนกัน”หลินเซียงตอบ “งั้นก็มาเถอะค่ะ”ฉินโหย่วหาน “ได้”หลังจากวางสายประมาณครึ่งชั่วโมง ฉินโหย่วหานก็มาพร้อมกับซ่งซ่งหลินเซียงยืนอยู่ที่ประตู มองซ่งซ่งแล้วยิ้มซ่งซ่งเม้มปาก จู่ ๆ ก็วิ่งเข้ามากอดเธอ “เธอไม่ติดต่อฉันเลย ฉันนึกว่าเธอไม่ต้องการฉันแล้วซะอีก!”เสียงของเธอสั่นเครือ!หลินเซียงรีบลูบหลังเธอ “เป็นไปได้ยังไง? แค่ยังมีบางเรื่องที่จัดการไม่ลงตัวเท่านั้นเอง”ซ่งซ่งกอดเธอแน่นแล้วพูด “เธอผอมลงอีกแล้ว”หลินเซียง “
"ถ้าคุณขอร้อง บางทีผมอาจจะยอมตกลงแสดงละครกับคุณนะ"เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มดังมาจากด้านหลังฝีเท้าของหลินเซียงชะงักทันที ก่อนจะตอบกลับอย่างเย็นชา "อย่างมากก็แค่ตาย"ขอร้องเหรอ?ฝันไปเถอะ!ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ "หยิ่งในศักดิ์ศรีดีจริง ๆ ลองคิดดูถึงทุกสิ่งที่คุณเคยเจอสิ ทั้งฉีเจี้ยนเย่ที่อยากฆ่าคุณตลอดเวลา เซี่ยหว่านที่วางแผนร้ายกับคุณทุกวิถีทาง แล้วต่อไปจะเป็นใครอีก? คุณจะทนได้อีกนานแค่ไหน? คำว่าตายพูดง่าย แต่คนอย่างคุณจะกล้าตายจริงเหรอ?"คำพูดของเขาทิ่มแทงเข้าไปในใจของเธอทีละคำ ทำลายสติของเธอ ฝีเท้าของเธอช้าลงโดยไม่รู้ตัว กำกระเป๋าในมือแน่นเธอไม่ยอมไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ติดต่อลู่สือเยี่ยนเธอกล้าตายจริงเหรอ?ใครจะไปกล้า?ยังมีอีกหลายอย่างเลยที่เธอยังไม่ได้ทำ...หลินเซียงหลับตาลง แต่รู้ว่าการถอยหลังหนึ่งก้าวคือการกลับไปพัวพันกับเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดวันดีคืนดีเขานึกอยากถอนตัวก็ถอนตัวได้ แล้วเธอล่ะ?เมื่อเรื่องถึงที่สุด เธอไม่บอบช้ำตายเหรอ?ผลลัพธ์ของการต่อสู้คนเดียวหรือจากการร่วมมือกับเขา ดูเหมือนจะไม่แตกต่างกันเลยนี่?ลู่สือเยี่ยนจ้องมองแผ่นหลังของเธอ มองออกว่าเ