เสี่ยวเสวี่ย [พี่ฟู่ พี่ใจดีกับหนูมากเลย หนูไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี]เสี่ยวเสวี่ย [ส่งรูปร้องไห้.jpg]คนโง่ฟู่ [เด็กดี เก็บไว้นะ ขาดเหลืออะไรบอกพี่ได้เสมอ]เสี่ยวเสวี่ย [ขอบคุณค่ะพี่ฟู่]ซ่งซ่งกดซองอั่งเปา มองดูเงิน 50,000 บาทที่ได้รับพร้อมกับเบะปากเยาะเย้ย“ซ่งซ่ง!”ขณะเดียวกันก็มีเสียงชายหนุ่มดังมาจากทางห้องนอนซ่งซ่งกลอกตา สลับบัญชีวีแชทกลับคืน จากนั้นเดินเข้าไปในห้องนอน "มีอะไร?"ไม่ว่ายังไงเธอก็เพิ่งได้รับเงินหนึ่งหมื่นหยวนมา ดังนั้นตอนนี้เธอจึงอารมณ์ดีกับฟู่จิ่นซิ่วมากขึ้นแต่นั่นก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้นฟู่จิ่นซิ่วเหลือบมองแก้วน้ำแล้วพูดว่า "ผมหิวน้ำ"ซ่งซ่งเดินไปหยิบแก้วของเขา รินน้ำแล้วยื่นให้เขา "ดื่มสิ"ฟู่จิ่นซิ่วไม่ตอบ แต่พูดอย่างใจเย็น: "ผมไม่หิวน้ำแล้ว อยากเข้าห้องน้ำมากกว่า"ความอารมณ์ดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแววตาหายไปซ่งซ่งแทบอยากจะสาดน้ำในแก้วใส่หน้าเขาโดยตรงเธออดกลั้นไว้ ผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจเกินไป ถ้าเธอทำอย่างนั้นจริง ๆ ไม่รู้ว่าเขาจะทรมานเธอในภายหลังอย่างไรบ้างเธอวางแก้วน้ำลง เอื้อมมือไปพาดแขนเขาไว้บนไหล่ ช่วยให้เขาลุกขึ้นยืนน้ำหนักตัวทั้งหมดของฟู่จิ่นซิ
ซ่งซ่งตกตะลึง ตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งจึงพูดว่า “งั้นคุณยืนให้มั่นแล้วกัน ฉันช่วยพยุงไม่ไหว”พูดจบเธอก็เอื้อมมือไปจับกางเกงเขา นิ้วมือสัมผัสผิวหนังต้นขาเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งสองคนต่างก็สะดุ้งเฮือกซ่งซ่งปิดตาแน่นแล้วดึงกางเกงขึ้นอย่างแรง ได้ยินเสียงครางเบา ๆ ที่ฟังแล้วเซ็กซี่สุด ๆ จากปากชายหนุ่มซ่งซ่งพูดเสียงแหบแห้ง “ดึงขึ้นให้แล้วนะ เดี๋ยวฉันจะพยุงคุณออกไป…” พูดจบเธอก็หันหลังให้เขา วางแขนเขาพาดไว้บนไหล่แล้วเดินออกไปคราวนี้ฟู่จิ่นซิ่วนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไร แต่ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันซ่งซ่งพยุงฟู่จิ่นซิ่วให้นั่งลงบนเตียงแล้วถามว่า “มีอะไรอีกไหม?”เสียงของฟู่จิ่นซิ่วนุ่มทุ้ม “ไม่มีแล้ว ออกไปได้”ซ่งซ่งรีบหันหลังวิ่งออกไป กลัวว่าเขาจะมีเรื่องวุ่นวายอะไรอีกพอปิดประตูห้องนอน ฟู่จิ่นซิ่วก็นั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจัดการกับกางเกงตัวเองผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จริง ๆ หรือตั้งใจกันแน่? หรือเธอไม่รู้ว่าร่างกายของผู้ชายกับผู้หญิงไม่เหมือนกัน? เธอรีบดึงกางเกงขึ้นอย่างนั้น ทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัวเอามาก ๆแต่พอคิดอีกที แม้เธอจะรู้ เธอก็คงช่วยจัดให้มันเข้าที่เข้าทางอย่างเรียบร้อยไม่ได้ ฟู่จ
เธออาจเลือกจากไปได้ แต่ถ้าการร่วมมือครั้งนี้ล้มเหลวเพราะเธอ ลู่สือเยี่ยนคงจะหาทางกลั่นแกล้งเธออีกแน่ เธอถึงกับนึกภาพออกว่าเขาจะพูดอะไรบ้างหลินเซียงสูดหายใจเข้าลึก เดินไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา แล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ “ขอเชิญทุกท่านดื่มค่ะ”เมื่อเห็นเธอดื่มไวน์ไปหนึ่งแก้ว เสียงโห่ร้องพลันดังขึ้นทันที “สุดยอดเลย!”ผู้จัดการมองดูอยู่ข้าง ๆ แลกเปลี่ยนสายตาที่เป็นอันรู้กันกับชายคนหนึ่ง จากนั้นเธอก็ลากหลินเซียงไปนั่งลงข้าง ๆ ชายคนนั้นพอดีชายคนนี้เป็นตัวเอกของงานเลี้ยงคืนนี้ อายุสี่สิบกว่า ๆ หน้าตาธรรมดา เวลายิ้มดูอ่อนโยน “คุณหลินสามารถผลักดันความร่วมมือกับเฉิงต๋าจนสำเร็จได้ ทำให้ผมประหลาดใจไม่น้อยเลย เท่าที่ผมรู้มา ประธานหานของเฉิงต๋ามีนิสัยแปลก ๆ”หลินเซียงยิ้มบาง ๆ “ตราบใดที่แผนการของฉันโน้มน้าวใจเขาได้ อย่างอื่นก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ”“พูดได้ดี”หย่วนกังหัวเราะลั่น ยกมือขึ้นวางบนต้นขาของหลินเซียงอย่างเป็นธรรมชาติ“คุณหลินเพิ่งเรียนจบแล้วเข้ามาทำงานที่ดีเคกรุ๊ปเลยใช่ไหมครับ?”ร่างกายของหลินเซียงแข็งทื่อไป แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย ตอบกลับเบา ๆ ว่า “ใช่ค่ะ”มือของหย่วนกังลูบไล้บนต้นขาของเธอ “คุณหล
“ใครกล้าเตะกูวะ!”หย่วนกังเริ่มสาปแช่งทันทีหลังจากถูกเตะ หลังจากดิ้นรนที่จะลุกขึ้น เขาก็เห็นบุคคลนั้นเดินเข้ามา ใบหน้าที่ดุร้ายหายไปในทันที ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว"ลู่ ประธานลู่..."ตอนนี้ หลินเซียงถูกอุ้มไว้ในอ้อมแขนของชายคนนั้น ลมหายใจที่ชัดเจนและร้อนระอุทะลุผ่านปลายจมูกของเธออย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอรู้สึกมึนงงเล็กน้อยลู่สือเยี่ยนเปล่งรัศมีเย็นยะเยือก ดวงตาเรียวแคบของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา "แกกล้าแตะต้องคนของฉันเหรอ?"หย่วนกังตกใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้น "ประธานลู่ ผมผิดไปแล้ว ผมตาบอดไม่รู้ความ ไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณหลินเป็นคนของคุณ ผมฉันรู้แต่แรก ต่อให้ไปยืมความกล้าหาญมาสิบครั้ง ผมก็ไม่มีวันทำแบบนั้นกับเธอแน่..."หย่วนกังค่อนข้างมีอิทธิพลในเมืองอวิ๋นเฉิงมานานหลายทศวรรษ แต่พออยู่ต่อหน้าลู่สือเยี่ยน เขากลับเทียบอะไรไม่ได้เลยลู่สือเยี่ยนไม่เพียงแต่จะเป็นประธานของดีเคกรุ๊ปเท่านั้น ยังมีตระกูลลู่ที่ทรงอำนาจและหยั่งรากลึกอยู่เบื้องหลังอีกด้วย หากตระกูลลู่ต้องการกำจัดใครสักคน พวกเขาสามารถทำได้อย่างเงียบเชียบ!หย่วนกังยังคงร้องขอความเมตตา แต่ในเวลานี้ซ่งจั่วเดินเข้ามา โบ
ก่อนที่เขาจะฟื้นความทรงจำ เขามักจะซื้อดอกไม้ ชานม และของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เธอ...ถึงแม้จะไม่มีค่ามากนัก แต่เขามักจะคิดถึงเธอทุกครั้งเมื่อเห็นของสวย ๆ งาม ๆ สิ่งแรกที่ทำคือแบ่งปันกับเธอในใจเขาเธอมาก่อนเสมอเธอจะลืมอาเยี่ยนผู้ที่ทั้งหัวใจและสายตาเต็มไปด้วยความคลั่งรักได้อย่างไร? จะไม่ตกหลุมรักง่าย ๆ ได้อย่างไน?หัวใจของเธอเต้นแรงเล็กน้อย หลินเซียงหยุดความคิดอย่างรวดเร็ว พยายามไม่คิดฟุ้งซ่านอาเยี่ยนคนนั้นถูกลู่สือเยี่ยนฆ่าตายไปแล้วตอนนี้เขาเป็นแค่ลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนเป็นคนเย็นชา แปลกประหลาด และเอาแน่เอานอนไม่ได้หลินเซียงปักหลอดเข้าไปในแก้วแล้วจิบอบอุ่นจริง ๆ ด้วย ขจัดความหนาวเย็นในใจไปได้มากหลังจากรอเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ประตูฝั่งคนขับก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวขึ้นมานั่งพร้อมกับความหนาวเย็นที่ติดมากับร่างกายหลินเซียงกำลังถือแก้วชานมและดูโทรศัพท์ไปพลาง ๆ เมื่อเขาเห็นเขามาก็วางโทรศัพท์ทันทีท่าทีของเธออ่อนลงมากถึงยังไงเขาก็อุตส่าห์ช่วยเธอไว้“ขอบคุณมากนะคะสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยดวงตาแคบยาวลึกล้ำ "นอกเหนือจากนี้ คุณมีอะไรจะพูดอีกไ
หลินเซียงตกตะลึง มองดูชานมในมือตัวเอง เขาไม่ได้เป็นคนซื้อมันหรอกเหรอ?อย่างไรก็ตาม ความเฉยเมยบนใบหน้าของลู่สือเยี่ยนนั้นจริงจังเกินกว่าจะโกหกเธอเหยียดมุมปากเป็นรอยยิ้มขมขื่น เธอคิดไปเองว่าเขาจำเรื่องเก่า ๆ ได้ เมื่อนึกถึงเรื่องเลวร้ายที่เธอประสบ เลยกังวลว่าเธอจะกลัว ถึงได้ซื้อชานมมาปลอบใจที่แท้เธอก็คิดมากไปเองเธอสูดหายใจเข้าลึก โยนชานมลงในถังขยะ แล้วเดินตามเขาเข้าไปในวิลล่าตระกูลลู่พวกเขาขึ้นไปชั้นบนโดยตรงแล้วเข้าไปในห้องนอนลู่สือเยี่ยนเอื้อมมือออก ปลดกระดุมปกเสื้อแล้วพูดอย่างเย็นชา "ไปอาบน้ำซะ"หลินเซียงเข้าไปอาบน้ำเงียบ ๆ คิดถึงคำว่าใบลาออกตลอดกระบวนการลู่สือเยี่ยนเห็นภาพนั้นก็รู้สึกอยู่ไม่สุขมากยิ่งขึ้นเสียงน้ำไหลแว่วมา มองเห็นร่างที่สวยสง่าผ่านกระจกฝ้า เขานั่งลงบนโซฟา วางข้อศอกเท้าต้นขา จ้องมองกระจกด้วยดวงตาสีเข้มและซับซ้อนเป็นเวลานานลูกกระเดือกบนคอกลอกกลิ้ง ปากคอแห้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปดึงคอเสื้อ ราวกับว่าสิ่งนี้สามารถบรรเทาความหงุดหงิดและความร้อนรุ่มเกินกว่าจะอดทนได้เขาลุกขึ้น เดินออกจากห้องนอนแล้วไปที่ห้องรับแขกเพื่ออาบน้ำเมื่อหลินเซียงนุ่งผ้
เมื่อนึกถึงความบ้าคลั่งเมื่อคืน เธอก็รู้สึกขาอ่อน รีบสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปเธอลุกขึ้นแล้วลงจากเตียง เมื่อเหยียบเท้าลงน้ำหนัก ขาของเธอก็อ่อนยวบแทบจะล้มลง!ไอ้คนบ้า!หลินเซียงสบถในใจสองสามคำ ใช้เวลาพักใหญ่จึงเดินไปห้องน้ำเธอซักเสื้อผ้าไปแล้วเมื่อคืนหลังจากอาบน้ำ ตอนนี้แห้งพอดี หลังจากที่เธอแปรงฟันเสร็จ ประตูห้องนอนก็เปิดออก คนใช้จัดที่นอนเรียบร้อยเธอทำเป็นเฉยเมยเดินออกไปแล้วลงบันไดพ่อบ้านฟู่เห็นเธอลงมา จึงทักทายด้วยรอยยิ้มว่า “คุณผู้หญิง ตื่นแล้วเหรอครับ อาหารเช้าเตรียมไว้แล้วครับ”หลินเซียงพยักหน้า แล้วเดินตรงไปที่ห้องอาหารเพิ่งเข้าไปก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของผู้ชายดังมาจากด้านหลัง เขาเลื่อนเก้าอี้ตัวข้าง ๆ แล้วนั่งลงหลินเซียงก้มหน้ามองโจ๊กตรงหน้า ตักกินทีละน้อยสายตาของลู่สือเยี่ยนกวาดไปทั่วตัวเธอ ดวงตาเข้มล้ำลึกหลินเซียงรู้สึกไม่สบายใจมาก แต่เธอไม่อยากพูดอะไรกับเขา หวังเพียงว่าพอถึงบริษัทแล้ว เขาจะอนุมัติให้เธอลาออก หลังจากกินเสร็จ หลินเซียงจึงเงยหน้ามองเขาแล้วถามว่า “เราไปบริษัทด้วยกันไหม?”ลู่สือเยี่ยนพูดว่า “ถ้าคุณอยากเดินไป ผมก็ไม่ว่า”หลินเซียง “…”ปากค
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเซี่ยหว่าน “ขอบคุณค่ะ ขอแค่คุณไม่กักขังหน่วงเหนี่ยวเธอไว้ก็พอแล้ว พอเธอกลับไป ฉันจะตักเตือนเธอให้ดี”“อืม”ลู่สือเยี่ยนตอบเสียงเรียบ กำลังจะพูดอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงปิดประตูรถ“ไม่ได้!”หลินเซียงเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ดวงตาใส ๆ แสดงออกถึงความเด็ดขาด มองลู่สือเยี่ยน “คุณไม่ควรปล่อยจ้าวลี่ลี่!”ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว “คุณกำลังสั่งผมเหรอ?”นิ้วมือของหลินเซียงเกร็งขึ้น หัวใจเจ็บปวด มองใบหน้าที่เย็นชาและเฉียบคมของเขา รู้สึกเหมือนไม่เคยรู้จักเขาอย่างสิ้นเชิงเซี่ยหว่านพูดแทรกขึ้นมา “คุณหลิน รุ่นพี่ของฉันแค่ขาดสติทำเรื่องผิดพลาด เธอสำนึกแล้วว่าตัวเองผิด ถ้าคุณยังไม่พอใจ ฉันขอโทษแทนเธอก็ได้”พูดจบ เธอก็โค้งคำนับหลินเซียง แสดงให้เห็นถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างสูง“คุณหลิน ขอโทษด้วยนะคะ!”ลู่สือเยี่ยนจับแขนเธอ ดึงเธอขึ้นมา “หว่านหว่าน ทำอะไรเนี่ย? เรื่องของเธอไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยนะ”เซี่ยหว่านเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ แต่เธอก็ยังพยายามฝืนยิ้ม พูดว่า “ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะคะ? นั่นก็รุ่นพี่คนสนิทของฉัน เธอทำผิดก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ฉันแค่อยากให้คุณหลินอย่าถือสาหาความ อย่าง
หลินเซียง “ฮ่า ฮ่า ตลกดี”ลู่สือเยี่ยน “ชอบก็ดีแล้ว”สุดท้ายหลินเซียงอดไม่ได้ที่จะเบ้ปาก ก่อนจะรีบดึงแขนออก แล้วเดินไปที่ประตูลู่สือเยี่ยนรูปร่างสูงใหญ่เดินตามหลังเธอ แม้เธอจะเดินเร็วแค่ไหน เขาก็ยังตามทันได้อย่างไม่ยากเย็น ท่าทางราวกับกำลังเดินเล่นอยู่หลินเซียง “…”ช่วงขายาวนี่มันดีจริง ๆ!คนอื่นที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างพากันงุนงง หวังกงหันไปถามซ่งจั่ว “คุณซ่งครับ นี่มันอะไรกัน?”เกิดอะไรขึ้น?แต่ซ่งจั่วไม่ตอบคำถามเขา กลับชี้ไปที่แบบแปลนในจุดหนึ่งแล้วถามว่า “ตรงนี้คืออะไรครับ?”หวังกงรีบอธิบายอย่างตั้งใจทันทีแบบนี้ก็ไม่มีใครสนใจลู่สือเยี่ยนและหลินเซียงอีกต่อไปหลังออกจากพื้นที่ก่อสร้าง หลินเซียงเดินไปยังสถานีรถไฟใต้ดินลู่สือเยี่ยนยังคงเดินตามหลังเธอ เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นดังขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเหยียบย่ำอยู่บนหัวใจหลินเซียงรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกทั้งคู่หย่ากันแล้ว ทำไมเขายังคงรั้งเธอไว้ไม่ปล่อย?เธอหันไปมองเขา “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”ลู่สือเยี่ยนล้วงมือลงในกระเป๋าเสื้อโค้ต ท่าทางสง่างามแต่ดูผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน ได้ยินดังนั้นจึงยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า “นั่งรถไฟใต
หลินเซียงหันไปมองทันที พบเพียงอาคารที่กำลังก่อสร้างหลายหลังโดยไม่มีสิ่งอื่นใดแต่สายตาที่มองมานั้นช่างจริงจังเหลือเกินหลินเซียงไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกผิดพลาดแดดร้อนจัดส่องลงมาบนตัวเธอ เธอกลับรู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อยตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เธอจึงรวบเสื้อโค้ตสีเบจที่สวมอยู่แล้วเดินเร็วไปข้างหน้า ที่นี่ไม่ปลอดภัย จึงควรตรวจสอบให้เสร็จแล้วจากไปโดยเร็ว...รถหรูหลายคันจอดอยู่ที่ประตูทางเข้าพื้นที่ก่อสร้าง หัวหน้าคนงานมีสีหน้าอ่อนน้อมถ่อมตน ก่อนจะยื่นหมวกนิรภัยให้“ประธานลู่ครับ ที่นี่อันตราย ทำไมท่านถึงมาเองล่ะครับ?”ลู่สือเยี่ยนรูปร่างสูงโปร่งสง่างาม สวมโค้ตสีดำ ทั้งตัวดูสง่างามและเย็นชา ท่าทางการเคลื่อนไหวทุกอย่างแสดงถึงความสูงส่ง คิ้วเข้มบนใบหน้าหล่อเหลาแผ่พลังอำนาจอันร้ายกาจซ่งจั่วรับหมวกนิรภัยแล้วส่งให้เขาลู่สือเยี่ยนสวมหมวกไปพลางพูดไปพลางว่า “ผมมาไม่ได้เหรอ?”หวังกงถึงกับสะอึกไปครู่หนึ่งลู่สือเยี่ยนดูเหมือนยังหนุ่ม แต่ใครจะคิดว่านิสัยจะเข้าใจยากถึงเพียงนี้แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ ลู่สือเยี่ยนก็เดินเข้าไปข้างในแล้วซ่งจั่วยิ้มบาง และพูดว่า “ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ด
ไอ้ผู้ชายบ้าคนนี้เป็นหมูหรือไง?กินเก่งขนาดนี้เลยเหรอ?นั่นกับข้าวสองอย่างกับซุปอีกชามเลยนะ!อาหารสำหรับสองวันของเธอถูกเขากินหมดแล้ว!หลินเซียงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ พรุ่งนี้ต้องไปเปลี่ยนรหัสที่ชั้นล่าง ไม่ให้เขาขึ้นมาได้!แล้วก็เปลี่ยนลูกบิดประตูด้วย!ตอนนี้เธอมีเงินเหลือเฟือ!หลินเซียงโมโหมาก เดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อดูสภาพ แล้วก็เห็นกับข้าวที่อุ่นไว้บนเตาความโมโหของหลินเซียงชะงักไปชั่วขณะหึ!เธอยิ้มเยาะ แล้วหยิบกับข้าวที่อุ่นไว้มากินต่อเธอหิวจริง ๆ…วันรุ่งขึ้นหลินเซียงจ้างช่างมาเปลี่ยนลูกบิดประตู เปลี่ยนรหัสลิฟต์ แล้วค่อยไปทำงานวันนี้ซืออวี่มาเร็วมาก แต่กลับดูอิดโรยหลินเซียงถามด้วยความสงสัย “เป็นอะไรคะ? ช่วงนี้นอนไม่หลับเหรอ?”ซืออวี่หาว “ใช่แล้ว สองวันนี้ยุ่งมาก ฮอร์โมนแปรปรวนหมด ไม่สวยแล้ว”หลินเซียงหัวเราะ “งั้นก็กลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ”ซืออวี่ส่ายหัว “ไม่ อยู่ที่นี่ก็พักได้”หลินเซียง “…”สุดยอดเลยเธอดึงเก้าอี้นั่งลง มีนมกล่องหนึ่งอยู่ตรงหน้า พอมองขึ้นไปก็เห็นสวี่ซิงเย่ยิ้มเขินอายเล็กน้อย“ผมซื้อนมมา แต่ลืมไปว่าตัวเองแพ้นม ถ้าคุณไม่รังเกียจก็ช่วยผมดื่มใ
หลินเซียงโมโหจนอยากจะเตะคน!“ปล่อย!”ลู่สือเยี่ยนก้มมองเธอ เดินเข้าไปพร้อมกับพูดว่า “ไม่ปล่อย ถ้าปล่อยเดี๋ยวคุณก็ตีผมสิ”หลินเซียงมองเขาด้วยความโมโห ไม่ใช่แค่ “เดี๋ยวก็” แต่เป็น “แน่ ๆ!”ผู้ชายคนนี้น่าทุบจริงๆ!เขาเดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านก็ไม่พบผู้ชายแปลกหน้าคนไหน ความเย็นชาของลู่สือเยี่ยนก็ลดลง เขาโอบหลินเซียงไปที่ห้องครัว เมื่อเห็นกับข้าวบนโต๊ะอาหารก็เลิกคิ้วเล็กน้อยเขาบีบเอวเธอเบา ๆ กระซิบว่า “คุณไม่ได้บอกว่าไม่ได้ทำกับข้าวหรือไง?”หลินเซียง “ฉันแค่ไม่อยากให้คุณเข้ามา ไม่อยากให้คุณกิน ฟังไม่ออกหรือไง?”ลู่สือเยี่ยน “ฟังออก แต่ผมไม่ทำตาม”หลินเซียง “…”น่าโมโหมาก!ผู้ชายคนนี้หน้าด้านจริง ๆ!เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเธอ อารมณ์ของลู่สือเยี่ยนกลับดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขาปล่อยเธอ แล้วดึงเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ หยิบตะเกียบขึ้นมากินช้อนส้อมนั้นเป็นของหลินเซียงข้าวในนั้น เธอกินไปคำหนึ่งแล้วด้วยซ้ำเมื่อเห็นท่าทางที่ไม่เกรงใจของเขา หลินเซียงกอดอก ถามว่า “ลู่สือเยี่ยน คุณหมายความว่ายังไง?”“หืม?”ลู่สือเยี่ยนกินข้าวไปด้วย เงยหน้ามองเธอ เหมือนกับว่าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเธอหมายความว่าอ
หลินเซียงได้ยินดังนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ไม่ต้องแล้วค่ะพี่หาน ฉันกินข้าวเรียบร้อยแล้ว”ฉินโหย่วหานลอกว่า “งั้นไปกินของว่างก็ได้ หลินเซียง ผมดีใจกับคุณจริง ๆ”หลินเซียงกล่าวว่า “งั้นก็รอให้ทุกคนมีเวลาก่อน แล้วเราค่อยไปกินข้าวด้วยกันเถอะค่ะ”นั่นหมายความว่า เธอจะไม่กินข้าวกับฉินโหย่วหานตามลำพังฉินโหย่วหานเงียบไปชั่วขณะครู่ใหญ่จึงพูดว่า “หลินเซียง คุณไม่จำเป็นต้องปฏิเสธความหวังดีของคนอื่นอย่างเด็ดขาด ทุกอย่างควรจะเผื่อลู่ทางไว้บ้าง”ใจของหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย พูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร เธอยิ้มรับ “พี่หาน ฉันรู้ค่ะ”ฉินโหย่วหาน “อืม ถ้าอยากผ่อนคลายก็ไปที่บาร์ของผมได้ เหล้าที่นั่นคุณดื่มได้ไม่อั้น”หลินเซียง “ได้ค่ะ ไว้ฉันจะไปกับซ่งซ่ง แล้วดื่มเหล้าของคุณให้หมดบาร์!”ฉินโหย่วหาน “ยินดีเลย”ทั้งสองคนคุยกันสักพัก แล้ววางสายหลินเซียงนั่งอยู่บนโซฟา มองเพดานที่สวยงาม รู้สึกอยากดื่มขึ้นมาจริง ๆแต่ซ่งซ่งยุ่งกลับมากเธอเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วถึงกับอึ้งไปเห็นว่าในตู้เย็นเต็มไปด้วยวัตถุดิบสดใหม่ เป็นของที่เธอชอบทั้งนั้น มือที่จับขอบประตูตู้เย็นของเธอกำแน่นขึ้นค
ไฟถนนสว่างไสว ส่องสว่างครึ่งใบหน้าของลู่สือเยี่ยน คิ้วและดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาถูกบดบังด้วยความมืดในรถ ทำให้มองไม่เห็นสีหน้าของเขาในตอนนี้เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “งั้นคืนนี้คุณมีที่อยู่ไหม?”หลินเซียงตอบ “ฉันไปหาซ่งซ่งก็ได้ หรือไปพักโรงแรมก็ได้ เมืองอวิ๋นเฉิงออกจะใหญ่ขนาดนี้ แล้วฉันก็รวยขนาดนี้ จะไม่มีที่อยู่ได้ยังไง”“เหอะ!”ไม่รู้ว่าประโยคไหนทำให้ลู่สือเยี่ยนหัวเราะ เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “เฟิงหลินหย่วนโอนกลับเป็นชื่อของคุณแล้ว คืนนี้คุณกลับไปที่นั่นก็ได้”หลินเซียงประหลาดใจ “ทำเรื่องเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”ลู่สือเยี่ยน “ผมยังใจดีพาคุณไปส่งได้ด้วยนะ”หลินเซียง “ไม่ต้อง”พูดจบเธอก็หันหลังเดินจากไปลู่สือเยี่ยนพูดตามหลังเธอ “เราหย่ากันแล้ว กลัวว่าผมจะจับคุณกินเหรอ?”หลินเซียงไม่หันกลับมา “เราไม่มีความสัมพันธ์กันแล้ว ควรรักษาระยะห่างไว้บ้าง อย่าให้คนเข้าใจผิด แล้วมาโทษฉัน สร้างความเดือดร้อนให้ฉันอีก”ลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไรอีก ดวงตาที่มืดมนจ้องมองแผ่นหลังที่ผอมบางของเธอ จนกระทั่งเธอขึ้นรถกระจกรถของเขาค่อย ๆ เลื่อนขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฟู่จิ่น
เซี่ยหว่านถือกล่องข้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานซ่งจั่วเห็นดังนั้น รีบพูดว่า “คุณเซี่ย ข้างในมีแขกอยู่ คุณรอสักครู่แล้วค่อยเข้าไปดีไหมครับ?”เซี่ยหว่านมองเขา สีหน้าของเขาดูมีพิรุธเล็กน้อย แววตาของเธอฉายประกายบางอย่างก่อนพูดขึ้น “เที่ยงแล้ว จะมีแขกที่ไหนอีก?”พูดจบ เธอก็เดินเข้าไปในห้องทำงานทันทีซ่งจั่วมองดูแผ่นหลังของเธอพลางขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ขัดขวางเซี่ยหว่านผลักประตูห้องทำงานเข้าไป เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ลู่สือเยี่ยน กำลังก้มลงพูดอะไรบางอย่างกับเขา ท่าทางของทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากเซี่ยหว่านเห็นภาพนั้น ดวงตาของเธอก็ลุกวาวไปด้วยความโกรธทันที!“สือเยี่ยน ใครน่ะ?”ลู่สือเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไป เหลือบมองเซี่ยหว่าน “ทำไมไม่เคาะประตู?”เซี่ยหว่านกำกล่องข้าวแน่น เดินเข้าไปอีกสองก้าวแล้วพูดว่า “สือเยี่ยน อย่าลืมเรื่องที่คุณย่าพูดนะ”ลู่สือเยี่ยนหันไปมองผู้หญิงคนนั้น และบอกว่า “นั่งรอก่อน”เจียงอินอินมองเซี่ยหว่าน รู้สึกได้ถึงความเป็นศัตรูของเซี่ยหว่านที่มีต่อตัวเอง เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยเธอรู้จักเซี่ยหว่านก่อนหน้านี้ลู่สือเยี่ยนเคยจะหย่ากับหลินเซียงเพื่อเซี่ยหว่านที่แท้เป็
ใครบ้างโตขึ้นมาได้โดยไม่ต้องเอาบางอย่างเข้าแลก?คุณย่าลู่มองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด ครู่ใหญ่จึงถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้ ฉันไม่บังคับให้เธอกับหว่านหว่านแต่งงานกันทันทีหรอก แต่สถานะว่าที่คู่หมั้นของหลานกับเธอนั้นเปลี่ยนไม่ได้ แล้วฉันก็ยอมรับแค่เธอคนเดียวเท่านั้นเป็นหลานสะใภ้”ลู่สือเยี่ยน “สะใภ้ของหลานคนไหน?”คุณย่าลู่ขมวดคิ้ว “ตอนนี้ฉันมีหลานชายแค่เธอคนเดียว!”ลู่สือเยี่ยน “งั้น ถ้าตระกูลลู่มีหลานชายเพิ่มอีกคน เธอก็ไม่ต้องแต่งงานกับผมแล้วใช่ไหมครับ?”“แก!”คุณย่าลู่โกรธจนตัวสั่น เครื่องตรวจจับการเต้นของหัวใจเริ่มส่งเสียงดัง สีหน้ายิ่งซีดลงไปเรื่อย ๆลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืน “จากนี้ไปงานผมจะยุ่งมาก จะไม่มาทำให้คุณย่าปวดหัวอีก พูดตามตรงแล้ว ตอนที่คุณย่าสติเลอะเลือนเพ้อเจ้อยังน่ารักซะกว่า”พูดจบก็ไม่มองสีหน้าของคุณย่าลู่ เดินจากไปทันทีหมอและพยาบาลวิ่งเข้ามาเป็นกลุ่ม ตรวจสอบอาการของคุณย่าลู่ ช่วยปรับความดันโลหิตให้เธอตอนที่เซี่ยหว่านเข้ามา เห็นคุณย่าลู่หน้าซีด กำลังหายใจหอบ“คุณย่าลู่ เป็นไปคะ?”เธอปรี่เข้าไป วางมือทาบอกของคุณย่าลู่ ถามด้วยความเป็นห่วงคุณย่าลู่เห็นเธอเข้ามาก็คว้ามื
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ