หลังจากทานข้าวเสร็จ หลินเซียงก็เก็บกวาดห้องครัวให้เรียบร้อย จากนั้นก็ไปที่ห้องนอนเล็กเพื่ออาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอนเธอหลับฝันดีตลอดทั้งคืนวันรุ่งขึ้นเมื่อเธอออกจากห้องนอนเล็ก ลู่ซื่อเยี่ยนก็ไม่อยู่ที่นี่แล้วหลินเซียงยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นพลางครุ่นคิด สงสัยเธอคงต้องเปลี่ยนกุญแจใหม่อย่างน้อยคราวหน้าถ้าเขาเข้ามาไม่ได้ เขาก็จะไม่วิ่งโร่ไปหาฝ่ายนิติบุคคลอีกพูดแล้วก็ต้องทำทันที หลินเซียงติดต่อช่างโดยไม่รอช้า ไม่นานช่างเปลี่ยนกุญแจก็เข้ามาจัดการเรียบร้อยคราวนี้เธอเปลี่ยนเป็นล็อกประตูที่สแกนด้วยรหัสลายนิ้วมือซึ่งมีเพียงเธอและซ่งซ่งเท่านั้นที่รู้รหัสคนอื่นอยากเข้ามางั้นเหรอ?ไม่มีทาง!หลังจากช่างจากไป เธอก็มองดูที่ล็อกประตูชุดใหม่ด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ส่งข้อความหาซ่งซ่งหลินเซียง [ที่รัก นี่คือรหัสล็อกประตูบ้านใหม่ฉันนะ จำไว้ให้ดี]ทันใดนั้น โทรศัพท์จากซ่งซ่งก็ดังขึ้น "เดี๋ยวนี้ไฮเทคใหญ่แล้วนะ"หลินเซียงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป พร้อมกับพูดว่า "หลังจากนี้เวลาเธอมาไม่ต้องเคาะประตูแล้ว ดีจะตาย""ดีเลย ดีเลย" เสียงของซ่งซ่งอ่อนระโหยโรยแรง ฟังดูเหมือนเพิ่งตื่นนอนหลินเซีย
หลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย "หมายความว่ายังไง?"ซ่งซ่งเบ้ปาก "ก็ครอบครัวของผู้ชายเฮงซวยนั่นเป็นห่วงเขาจริง ๆ จะปล่อยให้เขาหายตัวตั้งเป็นปีแล้วไม่ตามหาหรือ? หรือว่ารอให้เขาฟื้นความทรงจำซะก่อนแล้วค่อยตามหา? เซียงเซียง เดี๋ยวนี้มันยุคบิ๊กดาต้าแล้วนะ จะหาตัวผู้ใหญ่คนหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย"ริมฝีปากของหลินเซียงเม้มเข้าหากันเล็กน้อยซ่งซ่ง "ช่างเถอะ ไม่พูดถึงมันแล้ว น่ารำคาญ"คำสุดท้ายของแป้งทอดถูกกินคำเดียวหมด ซ่งซ่งหรี่ตามองอย่างพึงพอใจ "อร่อยมาก อยากกินทุกวันเลย"หลินเซียง "ได้สิ จ่ายตังค์มมาด้วย"ซ่งซ่งตัดพ้อ "เธอไม่รักฉันแล้ว"หลินเซียง “รักสิ แต่อย่ามาขวางช่องทางการทำมาหากินของฉัน""..."เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้ามองไปไกล ๆ ก็เห็นฉินโหย่วหานรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว ผมสีฟ้าของเขาดูโดดเด่นมาก บวกกับใบหน้าหล่อเหลา เขาเหมือนพระเอกที่หลุดออกมาจากโลกอนิเมะความมีเสน่ห์ของเขาแผ่ซ่านไปทั่ว ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มแบบขี้เล่นอย่างไร้กังวล ทำให้สาว ๆ ที่เดินผ่านไปมาต้องเหลียวหลังมองตลอด "คุณฉิน รอนานไหมคะ?"หลินเซียงและซ่งซ่งเดินเข้าไปถามด้วยความเกรงใจเล็กน้อยฉินโหย่วหานยิ้ม "ไ
เธอเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินออกจากร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายร้านนี้ไปโดยไม่พูดอะไร แล้วตรงไปที่ร้านเสื้อผ้าแนวสตรีทอีกร้านหนึ่งโดยไม่พูดอะไร เมื่อฉินโหย่วหานออกมาจากห้องลองเสื้อแต่กลับไม่เห็นใคร เขาก็ชะงักไปชั่วครู่ “ไปไหนกัน?"ซ่งซ่งพูดด้วยความประหลาดใจ "คุณฉิน ไม่คิดเลยว่าคุณใส่สูทแล้วจะหล่อขนาดนี้ คนหล่อ ต่อให้ใส่ผ้าขี้ริ้วก็ยังดูเหมือนนายแบบ"ฉินโหย่วหานตอบกลับอย่างเรียบ ๆ "ขอบคุณสำหรับคำชมครับ"ซ่งซ่งพูด "เซียงเซียงอยู่ร้านฝั่งตรงข้ามค่ะ"ฉินโหย่วหานมองสูทที่ตัวเองใส่อยู่ ตาเป็นประกายวูบหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปเปลี่ยน แล้วเดินไปที่ร้านเสื้อผ้าแนวสตรีทฝั่งตรงข้ามเมื่อมาถึง หลินเซียงก็เลือกเสร็จแล้ว เธอพูดกับฉินโหย่วหาน "คุณฉิน ชุดนี้เหมาะกับสไตล์ของคุณเลยนะคะ"ฉินโหย่วหานยิ้มมุมปาก "แต่ผมว่าสูทชุดนั้นก็ดูดีเหมือนกัน"หลินเซียง "คุณชอบใส่สูทมากกว่าเหรอ?"ฉินโหย่วหาน "ก็ได้ทั้งสองแบบ"หลินเซียง "งั้นลองชุดนี้ดูอีกทีนะคะ"ฉินโหย่วหาน "ได้ครับ"ซ่งซ่งเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ มองไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แล้วก็เข้ามาใกล้พร้อมกับกระซิบกระซาบ "เมื่อกี้น่าเสียดายที่เธอไม่เห็นเหรอ ฉินโหย่วหาน
"คุณฉิน ชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ?"หลินเซียงถาม ขณะมองฉินโหย่วหานถ่ายรูปอยู่ ฉินโหย่วหานยิ้ม มุมปากยกขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาเจือความเจ้าเล่ห์ "ดูดีมาก""งั้นเอาชุดนี้แหละค่ะ"หลินเซียงหยิบบัตรเครดิตออกมาเพื่อจ่ายเงินฉินโหย่วหานไม่ขัดขวาง สายตาที่ดูลึกลับจับจ้องอยู่บนตัวเธอพอจ่ายเงินเสร็จ โทรศัพท์ของหลินเซียงก็ดังขึ้น เธอหยิบออกมาดู และเห็นว่าเป็นโทรศัพท์จากหัวหน้าแผนก"สวัสดีค่ะ หัวหน้า"เสียงของผู้จัดการแผนกฟังดูแปลก ๆ "หลินเซียง ตอนนี้เธอว่างหรือเปล่า? มีเอกสารชุดหนึ่งข้อมูลไม่ถูกต้อง วานกลับมาตรวจสอบให้หน่อยได้ไหม? ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินค่อนข้างสำคัญน่ะ"หลินเซียงขมวดคิ้ว "ฉันเป็นคนดูแลเหรอคะ?"หัวหน้าแผนก "ใช่ ใช่แล้ว"หลินเซียงรู้สึกสงสัย เมื่อวานก่อนเลิกงาน เธอตรวจสอบไฟล์ข้อมูลแล้วว่าไม่มีข้อผิดพลาดถึงได้ส่งไป แล้วทำไมถึงยังผิดพลาดอยู่อีก?"ได้ค่ะ ฉันจะกลับไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้"ผู้จัดการตอบ "โอเค ไม่ต้องกังวลนะ ฉันไม่ให้เธอทำงานฟรี ครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำงานล่วงเวลา มีค่าล่วงเวลาให้""ขอบคุณค่ะ หัวหน้า" หลินเซียงตอบก่อนจะวางสายหลังจากวางสายแล้ว เธอมองไปที่ฉินโหย่วหานและ
ใบหน้าของหลินเซียงเย็นชาในทันทีดูเหมือนว่าซ่งซ่งจะเดาถูกการที่เธอถูกบังคับให้กลับมาทำงานล่วงเวลาครั้งนี้ เป็นฝีมือของลู่สือเยี่ยนอย่างแน่นอนซ่งจั่วพยายามเพิกเฉยต่อสายตาเย็นชาของเธอ แล้วยื่นเอกสารให้ "คุณหลิน เอกสารชุดนี้มีข้อมูลไม่ถูกต้อง รบกวนตรวจสอบใหม่อีกทีนะครับ" หลินเซียงหยิบเอกสารมา แล้วพูดอย่างเย็นชา "ถ้าไม่มีจุดไหนที่คุณบอกว่าไม่ถูกต้อง พวกเราจะหมางใจกันเปล่า ๆ นะคะ"ซ่งจั่ว "..."ตอนนี้เขารู้สึกไม่สบายใจเอามาก ๆ!"เอ่อ... คุณหลินครับ ประธานลู่เป็นคนบอก ไม่ใช่ผม" ซ่งจั่วรีบพูด พยายามปัดความรับผิดชอบหลินเซียงมองเขาอย่างเย็นชา "คุณกับเขาต่างกันตรงไหน?"ซ่งจั่ว "..."เขาเดินกลับไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของประธานบริษัทด้วยใบหน้าเศร้าหมอง รู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่มลงมาลำบากใจต่อทั้งสองฝ่าย!การเป็นผู้ช่วยท่านประธานชักจะยากเกินไปแล้ว!เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาซือเยี่ยนซ่งจั่ว [นายคิดยังไงกับตำแหน่งผู้ช่วยเหรอ?]ซือเยี่ยน [ไม่มีความคิด ผมเป็นแค่บอดี้การ์ด]ซ่งจั่ว [บางทีนายควรจะมีความเห็นบ้างนะ]ซือเยี่ยน [ไม่มี]ซ่งจั่ว [...]ซือเยี่ยน [อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่า
คุณย่าลู่ได้ยินดังนั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยก็ปรากฏสีหน้าโกรธเคืองขึ้นมาทันที "เจ้าเด็กเหลือขอนี่ ฉันบอกแล้วไงว่าต้องทะนุถนอมภรรยาให้มาก ไม่ใช่ให้รังแก เขากล้ารังแกเธองั้นเหรอ เดี๋ยวย่าจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้!"คุณย่าลู่เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง โทรศัพท์ของเธอห้อยอยู่ที่คอตลอดเวลา เป็นโทรศัพท์แบบปุ่มกดรุ่นเก่า กดหมายเลขโทรออกได้อย่างรวดเร็ว โทรติดต่อลู่สือเยี่ยนได้ในเวลาไม่นาน"คุณย่า"เสียงทุ้มนุ่มนวลของลู่สือเยี่ยนดังขึ้นคุณย่าลู่มองไปที่หลินเซียง หลินเซียงยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเอง เป็นสัญญาณให้คุณย่าไม่ต้องบอกว่าเธออยู่ที่นี่“เจ้าสาม อยู่ไหนน่ะ?"ลู่สือเยี่ยน "ผมอยู่บ้านครับ คุณย่าคิดถึงผมเหรอ?"คุณย่าลู่ "เหอะ ฉันคิดถึงแก แล้วแกคิดถึงฉันบ้างไหมล่ะ บอกมาซิว่าแกไม่ได้มาเยี่ยมฉันนานแค่ไหนแล้ว?"ลู่สือเยี่ยน "ช่วงนี้งานยุ่ง ๆ นิดหน่อยน่ะครับ แต่เดี๋ยวผมจะรีบไปหาเลย"คุณย่าลู่ "ดีมาก ฉันจะรอแกนะ!"เธอพูดจบก็กดวางสาย จากนั้นก็หันมายิ้มให้หลินเซียง "รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวย่าจะแก้แค้นให้เธอเอง!"หลินเซียงโอบกอดคุณย่าลู่ "คุณย่า ทำไมถึงได้ดีกับฉันจังเลยคะ"เธอและคุ
ลู่สือเยี่ยนไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าลู่ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่รับฟังอย่างเงียบ ๆ"ผมรู้แล้วครับคุณย่า ผมจะทะนุถนอมเธอให้ดี"คุณย่าลู่ฮึดฮัด "แบบนี้สิถึงจะถูก"พูดจบก็ปล่อยมือออกจากหูของลู่สือเยี่ยนหูของเขาแดงเถือกไปหมดหลินเซียงแอบอยู่หลังพุ่มไม้ไม่ไกลนัก เห็นภาพนี้แล้วก็เม้มริมฝีปากตอนแรกเธอยังรู้สึกสะใจแต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็เปลี่ยนเป็นความหดหู่ ไม่ว่าอย่างไรคุณย่าลู่ก็ยังเป็นคุณย่าของลู่สือเยี่ยนอยู่วันยังค่ำ แม้ว่าจะสั่งสอนเขา แต่ก็ไม่มีทางทำให้เขาเป็นอะไรไปจริง ๆคำพูดที่พูดออกมา ไม่ต้องพูดถึงลู่สือเยี่ยน แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เชื่อช่างเถอะไม่มีอะไรต้องเสียใจเลยหลินเซียงกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่ในตอนนั้นก็มีเสียงที่นุ่มนวลดังขึ้น "คุณย่าคะ"ร่างกายของหลินเซียงสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันกลับไปมอง ก็เห็นเซี่ยหว่านเดินเข้ามาจากทางประตูเธอสวมชุดเดรสยาวสีครีมยาวกรอมข้อเท้า แต่ขาอีกข้างที่ใส่ขาเทียมก็ยังคงเห็นได้ชัดผมยาวสลวยทิ้งลงอยู่บนบ่า แต่งหน้าอ่อน ๆ ดูเรียบง่ายและอ่อนหวาน คุณย่าลู่มองเธอ "เธอเป็นใคร?"เซี่ยหว่านเปิดฝาขนมในมือออก ยื่นให้เธอแล้ว
"หลานสะใภ้!"คุณย่าลู่ราวกับเพิ่งนึกถึงเธอขึ้นมาได้ ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วยื่นมือไปหาเธอ "เธอไปไหนมา ไม่อยากอยู่คุยเล่นกับย่าแล้วเหรอ?"หลินเซียงเดินเข้าไปจับมือเธอไว้ "เปล่าเลยค่ะ เราตกลงกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะ ฉันจะไปซ่อน แล้วคุณย่าก็สั่งสอนเขา"คุณย่าลู่ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า "ใช่ ใช่ เจ้าสามรังแกเธอ ย่าต้องสั่งสอนเขา"ลู่สือเยี่ยนจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยสายตามืดมน "คุณมาฟ้องคุณย่าเหรอ?"หลินเซียงเลิกคิ้ว "ทำไม ไม่ได้เหรอคะ?"สีหน้าของลู่สือเยี่ยนมืดมนลงไปอีกคุณย่าลู่ไม่รอช้า ตบเขาเบา ๆ ที่หลัง "เพิ่งพูดจบก็ลืมแล้วเหรอ มองเมียตัวเองด้วยสายตาแบบนี้ได้ยังไง?!"ลู่สือเยี่ยน "..."หลินเซียงหันไปมองคุณย่าลู่ "คุณย่า คุณย่าดีกับฉันจังเลยค่ะ"คุณย่าลู่หัวเราะคิกคัก "ย่าชอบเธอ แน่นอนว่าต้องดีกับเธอมาก ๆ สิ ลองชิมอันนี้ดู ขนมนี้คนรับใช้ในบ้านเพิ่งทำมาฝากน่ะ อร่อยมากเลย"พูดจบก็หยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วจ่อไปที่ริมฝีปากของหลินเซียงเมื่อคำพูดของเธอจบลง หลินเซียงก็ตกใจเล็กน้อย เผลอเหลือบมองไปทางเซี่ยหว่าน เห็นว่าสีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีนักหลินเซียงพูดว่า "ขอบคุณค่ะคุณย่า""ก
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?