แชร์

บทที่ 2

เสียงห้าวทุ้มลึกทว่าทรงพลังยังดังก้องในความนึกคิดของหญิงสาวพร้อม ๆ กับภาพใบหน้าคมเข้มคมคายของ เขา คนนั้นยังแจ่มชัดในมโนนึกเสมอ นิตาเกือบจะทำน้ำตาร่วงลงในจานสเต็กหากก็เก็บกลั้นมันไว้ได้เสียก่อน

“เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน...ถึงวันนั้นผมอยากมีลูกสาวกับลูกชายกับคุณสักห้าคน”

เธอยังคิดถึงประโยคนี้เสมอและมันทำให้นิตาอดไม่ได้ที่จะดึงล็อคเก็ตที่ห้อยคอขึ้นมาเปิดดู

“คลีฟ...” เสียงแผ่วเบาลอดออกมาจากเรียวปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ เธอเกือบต้องเสียน้ำตาอีกแล้วหากไม่มีสิ่งที่เข้ามาขัดจังหวะความคิดนั้นเสียก่อน นั่นคือภาพที่ผู้ชายชาวอเมริกันสวมชุดสูทดูภูมิฐานคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้กันลุกขึ้นเดินออกไปทั้งที่กระเป๋าเอกสารของเขายังวางอยู่บนเก้าอี้

“คะ...คุณ...คุณคะ!” เร็วกว่าความคิด นิตารีบวางส้อมในมือลงและปรี่เข้าไปหยิบกระเป๋าเอกสารใบนั้นก่อนวิ่งออกไปหน้าร้านและตะโกนเรียก

“คุณคะ!...คุณ...คุณลืมกระเป๋าค่ะ!” ผู้ชายคนนั้นหันกลับมาและทำสีหน้าประหลาดใจ สักครู่เขาก็มีสีหน้าเหมือนนึกอะไรได้เมื่อนิตาวิ่งเข้าไปหยุดตรงหน้าและยื่นกระเป๋าให้

“คุณคะ...คุณลืมกระเป๋าไว้ในร้านน่ะค่ะ นี่ไงคะ”

“โอ!...พระเจ้า...ขอบคุณมากนะครับ กระเป๋าใบนี้สำคัญกับผมมาก ผมนี่มันเลินเล่อจริง ๆ” บุรุษหนุ่มเจ้าของความสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรและมีดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลยิ้มอย่างยินดี เขามองหญิงสาวชาวไทยด้วยความชื่นชม

“ขอบคุณมากจริง ๆ ครับ...เมื่อครู่ผมรีบมากไปหน่อย นี่ถ้ากลับไปถึงบริษัทผมคงนึกไม่ออกแน่ ๆ ว่าลืมของไว้ที่ไหน”

“ไม่เป็นไรค่ะ...ฉันไปก่อนนะคะ” ชายหนุ่มผู้นั้นอยากจะอ้าปากถามชื่อเสียงเรียงนามของสาวไทยทว่าก็ไม่ทันหญิงสาวที่หันหลังเดินกลับเข้าไปในร้านอย่างเร่งรีบ เมื่อนิตากลับไปถึงโต๊ะอาหารเธอก็รู้สึกว่าต้องรีบออกไปหาที่พักเมื่อพลิกดูนาฬิกาข้อมือบอกเวลาเลยเที่ยงมามากแล้ว

“คิดเงินด้วยค่ะ” ร่างแน่งน้อยกวักมือเรียกบริกรและทำท่าจะหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาเพื่อล้วงหยิบธนบัตรภายในนั้นทว่ากลับพบเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าอีกใบของเธอเท่านั้น

“กระเป๋า!...ตายละ...กระเป๋าอยู่ไหน!”

นิตาพยายามมองหาด้วยก้มลงดูใต้โต๊ะเพื่อหวังว่าเธออาจจะทำมันหล่นลงไป บนพื้นที่นั่งใกล้ ๆ หากก็ไม่พบกระเป๋าใบนั้นเลย

“นี่บิลค่าอาหารครับคุณผู้หญิง” บริกรที่เดินมาวางบิลค่าอาหารลงบนโต๊ะ นิตาหันกลับมามองเขาก่อนจะถามขึ้นว่า

“ขอโทษทีนะคะ...ไม่ทราบว่าคุณเห็นกระเป๋าสะพายของฉันที่ตั้งอยู่ตรงนี้หรือเปล่า?”

ชายหนุ่มผู้นั้นเลิกคิ้วสูง “เอ...ผมไม่เห็นนะครับ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงไปลืมไว้ที่ไหนหรือเปล่าครับ?”

“ไม่นะคะ” นิตาส่ายหน้า หัวใจของเธอเต้นเร็วแรงเพราะในกระเป๋าใบนั้นมีเงินสด บัตรเครดิตและเอกสารการเดินทางข้ามประเทศที่สำคัญอยู่ทั้งหมด ถ้าเธอหามันไม่พบต้องเดือดร้อนแน่ ๆ

“ขอโทษทีนะคะ...ฉันไม่รู้ว่ากระเป๋าของฉันอยู่ที่ไหน” นิตาเสียงสั่น ใบหน้าของเธอเริ่มถอดสีเพราะความตกใจกับสิ่งที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น “คือว่า...เงินของฉันอยู่ในกระเป๋าใบนั้น ถ้าหามันไม่พบ ตอนนี้ในตัวของฉันก็ไม่มีเงินเลยสักบาท”

บริกรพลอยมีสีหน้าตกใจไปด้วย หากก็เพียงเล็กน้อย เขากวาดสายตาไปทั่วร้าน อยากจะช่วยหญิงสาวแต่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร

“ลองนึกดูสิครับว่าคุณไปลืมไว้ที่ไหนบ้าง?” / “มีอะไรกันหรือครับ?” เสียงห้าวที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้คนทั้งสองชะงักและหันไปมองพร้อมกัน ชายหนุ่มในชุดสูทที่นิตาเอากระเป๋าซึ่งเขาลืมไว้วิ่งตามไปให้เมื่อครู่นั่นเอง

“คุณ...” เสียงแผ่วแหบโหยลอดออกมาจากปากของหญิงสาว ใบหน้าของเธอซีดจัดและดูเหมือนเขาจะรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังมีปัญหา

“กระเป๋าของคุณผู้หญิงคนนี้หายน่ะครับ” บริกรเป็นฝ่ายหันไปบอก  ชายหนุ่มผู้นั้นมองหญิงสาวที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนมุมปากของเขา

“ไม่เป็นไรหรอกครับ...เดี๋ยวผมจะจ่ายค่าอาหารมื้อนี้ให้เธอเอง” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงรื่นหู นิตาทำสีหน้าแปลกใจ เธอไม่ได้ต้องการให้เขาทำแบบนี้หากแต่ก็ไม่มีทางเลือก หญิงสาวหันไปมองตรงที่ที่เธอนั่งกินอาหารเมื่อครู่อีกครั้ง ทำอย่างไรเธอก็ไม่เห็นกระเป๋าใบนั้นอีกแล้ว

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status