“ไม่เป็นไรหรอกค่ะลอว์” นิตากล่าวขณะกุมเอกสารในมือไว้มั่น “แค่นี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะขอบคุณคุณยังไงแล้ว คุณช่วยให้ฉันมีเอกสารอยู่ที่นี่ได้ตามกฎหมาย แล้วยังจะหางานให้ฉันทำอีก”
“นิต้า...ขอให้คิดว่าเราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ ผมว่ามันไม่ได้เลวร้ายหรอกกับการที่เราช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง อย่างน้อยคุณก็จะได้มีกำลังใจหาคนที่คุณต้องการหาต่อไปยังไงล่ะ”
“ฉันไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ค่ะลอว์”
เขายักไหล่ “แต่อย่างน้อยคุณก็มีเงิน คุณอยู่ที่นี่ได้ ถึงจะไม่นานมากก็เถอะ อืม...นี่ไง บริษัทที่เพื่อนของผมบอกว่าเขาจะให้คุณมาทำงานที่นี่” ลอว์สันกล่าวขณะหักพวงมาลัยเพื่อรถของเขาเข้าไปใต้ตึกที่หญิงสาวเงยหน้ามองป้ายด้านบนของตึกสูงสิบชั้น มันเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่...Westner’s (เวสเนอร์ ) ชื่อของห้างสรรพสิค้านั้นทำให้เธอฉุกคิดถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาจับใจ แต่...ชื่อและนามสกุลของคนอเมริกันหรือแม้แต่สถานที่ซ้ำกันก็มีมากมายในประเทศนี้ นิตาคิดอย่างหดหู่ คงอีกนานกระมังกว่าที่เธอจะได้พบ ใครคนนั้น แม้ความหวังจะริบหรี่ก็ตามที
“นิต้า...เดี๋ยวผมจะพาคุณไปรู้จักกับเพื่อนของผม”
ลอว์สันบอกหญิงสาวหลังจากที่พาเธอเข้าไปในห้างสรรพสินค้าและขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นสุดท้ายของห้างขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
“เพื่อนของคุณอย่างนั้นหรือคะลอว์?”
“ครับ...เขาเป็นเพื่อนของผม เจ้าของห้างสรรพสินค้าเวสเนอร์ เป็นห้างที่หรูที่สุดในนิวยอร์คตอนนี้ และเขาก็เป็นเจ้าของห้องชุดที่ผมให้คุณพักอยู่ด้วย”
“อะ...อะไรนะคะ!” นิตาทำหน้าตกใจ “เจ้าของห้องที่ฉันพักอยู่...โอ...ลอว์...แล้วเขาจะว่ายังไงบ้างคะนี่”
นิตาถามขณะที่ก้าวตามลอว์สันออกมาจากลิฟท์บนชั้นที่สิบซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของห้างสุดหรู มันถูกแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ กระทั่งลอว์สันเดินไปหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง เขาหันกลับมายังหญิงสาวอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรหรอกนิต้า อย่าเป็นกังวลไปเลย เพื่อนของผมคนนี้เขาค่อนข้างจะใจกว้าง เราสนิทกันมานานแล้วล่ะ”
“แต่ฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันกลัวเขาจะคิดว่าฉันมารบกวนเขาค่ะ”
ลอว์สันส่ายหน้า “อย่าคิดถึงในสิ่งที่คุณมองไม่เห็น เอาน่า นิต้า...ไม่มีใครว่าหรือคิดอะไรในแง่ลบกับคุณทั้งนั้น”
“ลอว์คะ” นิตาจับมือของลอว์สันที่กำลังจับลูกบิดประตู “วันหนึ่งฉันคงจะได้ตอบแทนความดีของคุณ ฉันจะรีบตามหาเขาให้เจอแล้ววันหนึ่งฉันก็จะกลับเมืองไทย”
“นิต้า...บอกได้มั้ยว่า...ผู้ชายคนนั้นที่คุณตามหาชื่ออะไร บางทีผมอาจจะ...”
ลอว์สันพูดไม่ทันจบประโยคบานประตูขนาดใหญ่ก็เปิดออก คนทั้งสองหันไปมองผู้ที่ยืนอยู่หลังบานประตูพร้อมกัน หญิงสาวชาวอเมริกันในชุดสูทยืนอยู่ที่นั่น เจ้าของใบหน้าสวยหมดจดใต้กรอบเรือนผมรวบสูงเป็นหางม้ายิ้มกับคนทั้งคู่ก่อนกล่าวว่า
“สวัสดีค่ะ...คุณลอว์สัน ท่านประธานกำลังรอคุณอยู่ค่ะ”
นิตารีบผละมือเรียวบางจากมือของลอว์สัน เขายิ้มกับผู้หญิงคนนั้นก่อนเอ่ย
“ขอบคุณมากนะแองเจิล รู้ได้ยังไงว่าผมจะมา”
“ท่านประธานแจ้งให้ดิฉันทราบค่ะ และดิฉันแน่ใจว่าคุณลอว์สันจะไม่ผิดนัดท่านแน่”
“แหม...คุณนี่ช่างเป็นเลขาที่น่ารักซะจริง ผมต่างหากที่ต้องกลัวว่าเพื่อนของผมจะมีนัดที่ไหนเสียก่อน”
“เชิญค่ะ”
แองเจิลซึ่งมีหน้าที่เป็นเลขาผายมือเชื้อเชิญให้คนทั้งสองเข้าไปในห้องอันโอ่อ่าซึ่งเต็มไปด้วยภาพวาดของศิลปินชื่อดังของโลกมากมาย นิตาเดินตามหลังลอว์สันที่เขาไปหยุดหน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ร่างสูงภายใต้ชุดสูทที่ยืนหันหลังให้และดูเหมือนเขากำลังมองดูภาพวาดของศิลปินที่ราคาคงแพงระยับบนฝาผนังหันกลับมายังคนทั้งสอง ลอว์สันยิ้มแล้วเข้าไปตบไหล่บุรุษผู้นั้นอย่างสนิทสนม
“เฮ้ คลีฟ...ฉันดีใจที่นายไม่มีนัดที่ไหนเสียก่อน...นี่ไง ฉันพานิตามาให้นายรู้จักแล้ว นายรับปากฉันแล้วนะว่าจะให้เธอทำงานที่ห้างเวสเนอร์ อย่าผิดคำพูดซะล่ะ”
ลอว์สันฉีกยิ้มกว้าง ตรงข้ามกับนิตาที่ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปในทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของประธานเวสเนอร์ชัด ๆ หัวใจของหญิงสาวราวกับหยุดเต้นไปชั่ววินาทีก่อนที่มันจะกลับมาเต้นใหม่ด้วยจังหวะรัวเร็วและทวีความแรงขึ้นจนแทบจะหลุดออกมาจากอกน้อย ๆ
“คลีฟ...”
นิตา รัตนะรัศมี เพราะหัวใจที่ร้อยรัดความรักไว้กับ เขา อย่างแนบแน่นแม้ต้องแลกกับความเจ็บปวดทรมานสาหัสแม้ความฝันจะถูกทำลายจนย่อยยับหากแต่เธอก็ยินดี นิตา เฝ้ารอคอยการกลับมาของ คลีฟ เวสเนอร์ นาวิกโยธินหนุ่มชาวอเมริกันที่จดทะเบียนสมรสกับเธอก่อนกลับไปร่วมปฏิบัติการทางการทหารในอาฟกานิสถาน หลังจากนั้นเขาไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเธอเป็นเวลาเกือบสองปี หญิงสาวตัดสินใจไปตามหาสามีที่อเมริกา จนกระทั่งได้พบกับเขา ทว่า คลีฟ เวสเนอร์ที่เธอเคยรู้จักกลับไม่ใช่นายทหารนาวิกโยธินคนนั้นอีกต่อไป ...แต่ เขา คือประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ เวสเนอร์ เรียล เอสเตท กรุ๊ป ที่ทำเหมือนไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน นิตาไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิด เขาถึงลงทัณฑ์เธอให้เจ็บปวดทรมานทั้งด้วยสายตาและคำพูด กรีดหัวใจของเธอให้เป็นแผลบาดลึกและผลักไสเธอลงสู่หุบเหวแห่งความเศร้าอย่างไร้ปราณีบทที่ 1 The destiny ติดตาม ความรัก ล็อคเก็ตเงินทรงรีขนาดเล็กถูกกำไว้ในมือเรียวและบอบบางแน่น หลายครั้งมันถูกเปิดออกเพื่อที่เจ้าของซึ่งนั่งอยู่บนเบาะด้านหลังของรถแท็กซี่ซึ่งติดอยู่ท่ามกลางการจราจรแออัดใจกลางมหานครนิวยอร์คจะได้พินิจดูด้วยดวงตาที่
เสียงห้าวทุ้มลึกทว่าทรงพลังยังดังก้องในความนึกคิดของหญิงสาวพร้อม ๆ กับภาพใบหน้าคมเข้มคมคายของ เขา คนนั้นยังแจ่มชัดในมโนนึกเสมอ นิตาเกือบจะทำน้ำตาร่วงลงในจานสเต็กหากก็เก็บกลั้นมันไว้ได้เสียก่อน“เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน...ถึงวันนั้นผมอยากมีลูกสาวกับลูกชายกับคุณสักห้าคน”เธอยังคิดถึงประโยคนี้เสมอและมันทำให้นิตาอดไม่ได้ที่จะดึงล็อคเก็ตที่ห้อยคอขึ้นมาเปิดดู“คลีฟ...” เสียงแผ่วเบาลอดออกมาจากเรียวปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ เธอเกือบต้องเสียน้ำตาอีกแล้วหากไม่มีสิ่งที่เข้ามาขัดจังหวะความคิดนั้นเสียก่อน นั่นคือภาพที่ผู้ชายชาวอเมริกันสวมชุดสูทดูภูมิฐานคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้กันลุกขึ้นเดินออกไปทั้งที่กระเป๋าเอกสารของเขายังวางอยู่บนเก้าอี้“คะ...คุณ...คุณคะ!” เร็วกว่าความคิด นิตารีบวางส้อมในมือลงและปรี่เข้าไปหยิบกระเป๋าเอกสารใบนั้นก่อนวิ่งออกไปหน้าร้านและตะโกนเรียก“คุณคะ!...คุณ...คุณลืมกระเป๋าค่ะ!” ผู้ชายคนนั้นหันกลับมาและทำสีหน้าประหลาดใจ สักครู่เขาก็มีสีหน้าเหมือนนึกอะไรได้เมื่อนิตาวิ่งเข้าไปหยุดตรงหน้าและยื่นกระเป๋าให้“คุณคะ...คุณลืมกระเป๋าไว้ในร้านน่ะค่ะ นี่ไงคะ”“โอ!...พระเจ้า...ขอบคุณมาก
“คุณคะ...ขอบคุณมากค่ะ” นิตายกมือไหว้ชายหนุ่มชาวอเมริกันด้วยดวงตาแดงก่ำหลังจากที่เขาจ่ายเงินค่าอาหารให้แก่บริกร แม้มันจะเป็นเงินจำนวนไม่มากแต่เธอก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก“ไม่เป็นไรหรอกครับ...ถือว่าผมได้ตอบแทนคุณที่เอากระเป๋าไปให้เมื่อกี๊ ดีนะครับที่ผมกลับเข้ามาที่นี่เพราะลืมของอีกอย่างเอาไว้”เขาชูสมุดโน้ตเล่มเล็ก ๆ ให้เธอดูพร้อมรอยยิ้ม “ผมชื่อลอว์สัน เบอร์ลิน...เรียกผมว่าลอว์ก็ได้ครับ แล้วนี่คุณกำลังจะไปไหนหรือครับ?” นิตาเงียบไปชั่วครู่ แล้วหญิงสาวก็ไม่อาจห้ามน้ำตาหยดหนึ่งที่ไหลลงอาบแก้มได้“ฉันชื่อนิตาค่ะ ฉันมาจากเมืองไทย...ฉันมาตามหาคนคนหนึ่ง”“ตามหาคนอย่างนั้นหรือครับ?...แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเขาอยู่ที่ไหน?”หญิงสาวส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ค่ะว่าเขาอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเขาอยู่อเมริกา อยู่ในนิวยอร์คซิตี้”“โอ...แต่นิวยอร์คนี่มีคนมากมายเลยนะครับถึงแม้พื้นที่จะเล็ก ที่ที่คุณอยู่ตอนนี้คือเขตมิดทาวน์ คุณอาจตามหาคนที่คุณต้องการพบแต่ไม่รู้พิกัดว่าเขาอยู่ที่ไหนได้ลำบาก” ลอว์สันกล่าวขณะจ้องมองดวงหน้างดงามซูบซีด นิตาเป็นผู้หญิงชาวเอเชียร่างเล็กแต่เธอก็สวยมากในความรู้สึกของเขา“แล้วนี่คุณจะทำ
“เพื่อนของผมไม่ใช่คนใจแคบหรอกนะครับ...เราสนิทกัน แต่อย่าเข้าใจว่าเรามีความสัมพันธ์มากเกินกว่าเพื่อนชาย อันนี้คงต้องบอกกันไว้ก่อน กลัวคุณจะเข้าใจผิดที่ผมกับเพื่อนใช้ห้องร่วมกันได้ ผมแค่มีกุญแจของเขา เราจะมาแฮงค์เอาท์กันนาน ๆ ครั้งน่ะครับ”นิตาปรายยิ้มน้อย ๆ เธอไม่รู้ว่าเพื่อนของลอว์สันเป็นใคร แต่ก็อาจถือได้ว่าเขาก็มีส่วนมีบุญคุณกับเธอเช่นกัน“คุณคิดหรือยังครับว่าหลังจากนี้จะทำยังไงต่อไป?”ลอว์สันตั้งคำถาม นิตาถอนใจเบา ๆ ก่อนทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาและยิ้มขื่น ๆ“ฉันไม่รู้ค่ะ...รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันแทบไม่เหลืออะไรเลย ฉันไม่มีเงินติดตัวแม้สักเหรียญเดียว”“และมันก็ทำให้คุณตามหาคนที่คุณต้องการพบได้ลำบากด้วย”เขาเสริมและหญิงสาวก็จำนนด้วยการก้มหน้าราวกับคิดไม่ตก“คุณมีแพลนอะไรบ้างหรือเปล่าตอนมาถึงอเมริกา นอกจากตามหาคนที่คุณอยากพบ...บอกผมได้มั้ย นิตา”“แทบไม่มีค่ะ” นิตาเงยหน้าขึ้นมาแต่ดวงตาคู่งามก็ยังหรุบต่ำมองที่เท้าของตัวเอง มือทั้งสองประสานกันบนตักดูราวกับว่าเธอเป็นเด็กที่กำลังอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่กระนั้น ความคิดของเธอกำลังโลดแล่นออกไปอีกครั้ง ล่องลอยไปหาใครคนหนึ่งที่มักทำให้เธอเสียน้ำตายามคิดถึงเขา