Share

บทที่ 174 นอนหลับไป

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
"ท่านพี่?" ริมฝีปากถูกปิด ถูซินเยว่ลืมตาโพลงโดยไม่รู้ตัว มองดูชายหนุ่มเบื้องหน้า และยังไม่ทันที่นางจะตอบโต้ ฝ่ายชายก็ราวกับคนเสียสติ รุกล้ำเข้ามา บดขยี้แนวฟันของนางออก

เดิมทีถูซินเยว่กำลังนอนสะลึมสะลืออยู่ เมื่อถูกกระตุ้นเช่นนี้ ตาก็สว่างในบัดดล

นางกับซูจื่อหังแต่งงานมาครึ่งปีกว่าแล้ว แต่ครึ่งปีมานี้ ต่อให้ทั้งคู่นอนบนเตียงเดียวกัน ซูจื่อหังก็ทำตัวเรียบร้อยมาโดยตลอด

เขาเป็นผู้ชายที่มีความอดทนสูงมาก และรู้จักให้เกียรติผู้อื่น หากว่าถูซินเยว่ไม่ยินยอม เขาจะไม่ใช้กำลังแข็งขืนเลย

แต่วันนี้เป็นอะไรไป?

บอกว่าจะจูบ...ก็จูบเลยหรือ?

โรงเตี๊ยมไม่ใช่บ้านตัวเอง เตียงก็ไม่ใช่เตียงที่บ้าน ถูซินเยว่นอนไม่ชินมาแต่แรกอยู่แล้ว ริมฝีปากยังถูกซูจื่อหังบดขยี้ นางก็ยิ่งไม่ชินเป็นการใหญ่ หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ นัยน์ตาเบิกโพลง ปุบปับไม่รู้จะทำยังไงต่อดี

ซูจื่อหังเห็นนางไม่เอาจริงเอาจัง กลับคิดเกเรขบลิ้นของนางเบา ๆ ไปหนึ่งที

ถูซินเยว่ก็ยิ่งเบิกตาโพลง นัยน์ตาเริ่มมีแววสับสน ประกายตาแฝงด้วยความหวาดหวั่น

ซูจื่อหังเห็นหน้าตานางเช่นนี้ ก็เกิดความรู้สึกนึกอยากข่มเหง เพียงแต่ธนูง้างแล้วจะไม่ยิงก็ไม่ได้ จึงยื่นม
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 175 เหลยซี

    ก่อนหน้านี้นางยังนึกข้องใจ ว่าเมื่อคืนหลับเป็นตายซะขนาดนั้น ได้ถูกซูจื่อหัง..แต่พอได้ยินซูจื่อหังพูดเช่นนี้ ถูซินเยว่จึงเพิ่งนึกได้ ดูท่าเพราะตนนอนหลับสนิท จึงไม่มีเรื่องใด ๆ เกิดขึ้นเป็นแน่ไม่รู้เพราะอะไร ถูซินเยว่กลับถอนหายใจโล่งอกเพราะอย่างไรเสีย ถ้าประสบการณ์ครั้งแรกเกิดจากตนไม่มีความรู้สึกใด ๆ และผ่านไปอย่างถูลู่ถูกัง นางคงจะขาดทุนเป็นอย่างมากแต่ชายหนุ่มผู้นี้ยังเปิดเผยเรื่องนี้ออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ทำเอาถูซินเยว่อดรู้สึกเคอะเขินไม่ได้นางก้มหน้าก้มตานึกถึงเรื่องนี้ จนเผลอบ้วนปากอยู่เสียตั้งนานซูจื่อหังอยู่ข้าง ๆ สุดจะทนดูไหว จึงยื่นมือไปเอาถ้วยน้ำจากมือนางออกไป วางบนโต๊ะข้าง ๆ พลางเลิกคิ้วกล่าวว่า "เจ้ากลัวอะไรกัน?"ถูซินเยว่ไอเล็กน้อย เกือบจะกระอักเลือด พลางเงยหน้าขึ้นมองซูจื่อหัง ทั้งคู่ต่างสบสายตากัน ฝ่ายชายไม่มีท่าทีจะหลบเลี่ยง ภายใต้แววตาเช่นนั้น ถูซินเยว่ก็ไม่อาจหลีกหนีเช่นกันนางได้แต่กล่าวว่าตะขิดตะขวงใจว่า "ข้าไม่ได้หวาดกลัว เพียงแต่..ปุุบปับไม่รู้จะทำยังไง.."เพียงแต่เรื่องทำนองนี้ นางไม่รู้จะพูดกับซูจื่อหังอย่างไรดี ที่สำคัญ เมื่อคืนพวกเขาเกือบจะ..จนตอนนี้นา

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 176 สามีสองคน

    เห็นเถ้าแก่พูดจามั่นเหมาะเช่นนี้ ชั่วขณะนั้น ในใจถูซินเยว่ก็เริ่มจะคล้อยตามไปสามส่วนนางกับซูจื่อหังสบตากัน แล้วสายตาก็ไปอยู่ที่เถ้าแก่อีก ถามอย่างข้องใจว่า "เมื่อกี้ท่านบอกว่า เหลยชีเคยผ่านการมีสามีมาแล้วสองคน เป็นความจริงหรือ?""ถูกต้อง" เถ้าแก่พยักหน้าอย่างมั่นใจมีสามีสองคน?เคยผ่านการแต่งงานมาก่อนก็เหลือเชื่อแล้ว ยังมีสามีตั้งสองคนอีก? และได้ยินว่างานนี้ มีแม่สื่อมาแนะนำให้แก่ซูฟาเสียงด้วยแม่เฒ่าตระกูลซูเป็นหญิงที่ร้ายกาจมาตลอด แล้วแม่สื่อไม่กลัวจะถูกนางด่าว่าไม่ได้ผุดได้เกิดหรือยังไง?"ท่านพี่ เรื่องนี้ดูมีพิรุธ" ถูซินเยว่แอบกระซิบที่ข้างหูซูจื่อหังเบา ๆซูจื่อหังก็พยักหน้าเห็นด้วย ที่จริงเขาไม่สนใจเรื่องนี้เลย แต่ในเมื่อภรรยาสนใจ เขาก็ต้องตามนางไปด้วยทั้งคู่แอบคุยกันเบา ๆ เมื่อเถ้าแก่เห็นพวกเขาสนใจเรื่องของเหลยชีเช่นนี้ ก็ให้นึกอะไรได้บางอย่าง จู่ ๆ ก็ถามขึ้นว่า "ได้ข่าวว่าวันก่อนมีแม่สื่อไปเจรจาหาคู่ให้แก่เหลยชี อย่าบอกว่าเป็นบ้านของพวกท่านล่ะ?"พูดพลาง สายตาก็ไปจ้บจ้องที่ซูจื่อหังถูซินเยว่รีบเอามือมาโอบซูจื่อหังไว้ พร้อมหรี่ตาและกล่าวว่า "นี่คือสามีของข้า"เถ้าแก

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 177 อนาคต

    คำพูดประโยคนี้ของซูจื่อหัง ราวกับจะพูดไปขบติ่งหูของนางไป ทำเอาถูซินเยว่เขินอายจนหน้าแดงถ้าอยู่ตามลำพังยังพอว่า แต่นี่ยังอยู่กลางถนนหนทาง ถ้าให้ใครมาเห็นเข้าจะน่าอับอายซักเพียงไหนถูซินเยว่คิดจะผลักตัวซูจื่อหังออกห่าง พลางก้มหน้าพูดอย่างกระดากว่า "ข้าหมดคำชมแล้ว ไม่มีคำพูดอื่นอีก"ซูจื่อหังเลิกคิ้วเล็กน้อย ถูซินเยว่ก็ยิ่งเขินไปใหญ่ ไม่รู้เพราะอะไร เขาคิดอยากรังแกนางเป็นที่สุด"ถ้าไม่ยอมพูด ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป"ชายหนุ่มกางแขนออก กั้นตัวนางประชิดกับกำแพงด้านหลังทรวงอกของซูจื่อหังแข็งแกร่งนัก ข้อนี้ถูซินเยว่ได้สัมผัสในเมื่อคืนนี้แล้ว เพราะไม่ว่านางจะผลักยังไง ก็ไม่อาจผลักไสเขาให้ออกห่างได้ใบหน้าของชายหนุ่มมาแนบชิด สองตาจ้องเขม็งมาที่ตน ลมหายใจอุ่นสัมผัสถูกใบหน้า หัวใจของถูซินเยว่เต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาสมองนางกำลังใช้ความคิดอย่างวุ่นวาย รีบหาคำพูดออกมาเร็ว ๆ ซี่ ทันใดนั้นเอง ซอยด้านนอกก็มีคนสองคนเดินผ่าน เหลียวมองถูซินเยว่กับซูจื่อหังที่อยู่ข้างใน กำลังโอบกอดกันอยู่ ใบหน้าก็มีรอยยิ้มเล็กน้อย"ดูสิ สองคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่?""อย่าไปดูเลยน่า คนเค้ากำลังจู๋จี๋ไม่เห็นหรือ?"แม้จ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 178 ไอ้ขี้หมา

    "ตอนนี้คนอยู่ที่บ้านของย่าเจ้าไม่ยอมไปไหน เห็นว่าหัวแตก จะให้ย่าเจ้าชดใช้สิบตำลึง..." นางหยูถอนหายใจและโบกมือ เงินสิบตำลึงไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลยตั้งแต่ที่พวกเขาแยกบ้านกัน ก็ไม่เคยมีเงินเข้ากระเป๋าของแม่เฒ่าตระกูลซูอีกเลย ไม่เพียงเท่านี้ ซูฟาเสียงก็เป็นจอมผลาญเงิน ปีใหม่กลับมาที่บ้านก็คงล้วงเอาเงินที่บ้านไปแล้วอีกหลายตำลึงตอนนี้ให้แม่เฒ่าตระกูลซูจ่ายเงินสิบตำลึงเท่ากับเอาชีวิตนางเลยมิใช่รึ?นางหยูอยากรีบไปช่วย แต่เมื่อคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่แม่เฒ่าตระกูลซูและซูเฟิ่งอี๋ทำกับตนเอง ก็ชะงักฝีเท้า ลังเลที่จะเดินต่อ อีกอย่างนางพูดจาไม่เป็น และมีเรื่องกับคนอื่นไม่เป็น และเงินของที่บ้านก็อยู่ในมือของซินเยว่ต่อให้ตนเองไปก็ช่วยอะไรไม่ได้กลับเป็นถูซินเยว่ที่ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วถามว่า "เรื่องนี้ท่านย่าให้ท่านแม่มาหาข้าหรือ?""ไม่ใช่หรอก" นางหยูส่ายหน้าตอนนี้แม่ฒ่าตระกูลซูและซูเฟิ่งอี๋โดนแม่สื่อคนนั้นรั้งเอาไว้ที่ลานบ้าน จะมาขอความช่วยเหลือนางได้อย่างไร?นางหยูเพียงแต่ได้ยินว่าฝั่งโน้นมีเรื่องกันเอะอะเสียงดังจึงรู้สึกเป็นกังวล"ในเมื่อท่านย่าไม่ได้มาหาท่าน ท่านจะรีบไปทำไม? ถึงตอนนั้นไม่เพีย

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 179 ขู่ไล่แม่สื่อหวัง

    "แม่สื่อหวัง เจ้าทำเกินไปแล้ว เจ้าหาเรื่องจนน่าเกลียด ทำชื่อเสียงตัวเองเสื่อมเสีย วันหน้าวันหลังหมู่บ้านต้าเย่จะมีใครกล้าให้เจ้าเป็นแม่สื่ออีก"ปกตินางหยูเป็นคนไม่พูดไม่จา นิสัยก็อ่อนแอมาก แต่คราวนี้เมื่อพูดออกมา ก็ทำให้ถูซินเยว่และแม่เฒ่าตระกูลซูต้องมองนางใหม่เยี่ยม ถ้าเป็นเมื่อก่อน แม่พบเจอเรื่องแบบนี้เข้า คงจะตกใจจนพูดไม่ออก ไม่อย่างนั้นก็เอาแต่ขอโทษลูกเดียว แต่ตอนนี้เริ่มแข็งข้อขึ้นมาแล้วเพียงแต่ แม่สื่อหวังสามารถสู้ได้แม้กระทั่งกับแม่เฒ่าตระกูลซู ก็ย่อมไม่กลัวคำดุว่าที่แสนอ่อนโยนของนางหยูนางเอามือเท้าสะเอว สองขายืนแยกกันเหมือนอย่างวงเวียน ดวงตาที่ดุร้ายจ้องเขม็งอย่างเยือกเย็นไปที่นางหยู ขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าเป็นลูกสะใภ้ของยายแก่นี้สินะ? พอดีเลย เจ้าชดใช้สิบตำลึงมาให้ข้า ถือว่าเป็นค่ารักษา"นางหยูก็ไม่ได้โง่เง่า เมื่อมองรอยฟกช้ำบนหน้าผากของแม่สื่อหวัง ก็พูดปฏิเสธว่า "แผลแค่นี้ ใช้เงินห้าอีแปะซื้อยามาทาก็พอแล้ว อีกอย่างเจ้าก็ผลักแม่ข้าล้มแล้ว ถือว่าเจ๊ากัน""ถ้านางไม่ได้มากระชากข้า นางจะล้มลงไปเองหรือ?" วันนี้แม่สื่อหวังตั้งใจจะกัดพวกเขาไม่ปล่อย ถ้าไม่ให้ตำลึงละก็ นางก็จะ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 180 เบนเข็มทิศ

    "ซินเยว่ เจ้ารีบเข้ามาดูเร็วเข้า ย่าเจ้าเป็นอะไรไม่รู้?" นางหยูกอดร่างของแม่เฒ่าตระกูลซูเอาไว้ และรีบหันมาอย่างร้อนลน แม้แต่เสียงก็ผิดคีย์ไปแล้วท่าทางของแม่เฒ่าตระกูลซูนั้นวิกฤติมาก ถูซินเยว่รีบก้าวไปข้างหน้า และเห็นท่าทางของอีกฝ่าย ก็รีบพูดขึ้นว่า "อาการลมชักกำเริบ ท่านแม่ปล่อยท่านย่าออกก่อน พวกเราช่วยกันพาท่านเข้าไปข้างในบ้าน""ตกลง" นางหยูเป็นคนไม่มีความคิด เมื่อได้ยินคำพูดของถูซินเยว่ก็รีบพยักหน้า และช่วยย้ายแม่เฒ่าตระกูลซูเข้าไปในบ้านตามคำสั่งของถูซินเยว่"ท่านแม่ ท่านหาผ้าผืนหนึ่งมาให้ท่านย่ากัดเอาไว้ อย่าให้ลิ้นของท่านบาดเจ็บ" ถูซินเยว่กับนางหยูเข้าไปในบ้านพร้อมกัน แม่เฒ่าตระกูลซูนั้นเป็นคนหวงแหนในหน้าตามาก ในบ้านถูกเก็บกวาดย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เพียงแต่หน้าต่างเล็กไปหน่อย แสงแดดส่องเข้ามาไม่ถึง ในบ้านจึงมีกลิ่นเหม็นของราปะปนอยู่"ข้าจะไปตักน้ำมากะละมังหนึ่ง" ถูซินเยว่อยู่ข้างในจนรู้สึกอึดอัด จึงเปิดประตูที่ปิดสนิทออก ขณะที่กำลังจะเดินออกไป ก็เห็นตรงประตูข้างมีคนทำท่าทางลับๆ ล่อๆเดิมทีเธอคิดว่าเป็นโจรขโมย แต่พอมองไปดีๆ ก็เห็นเป็นซูเฟิ่งอี๋ที่แอบหนีไปเงียบๆ ก่อนหน้านี้

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 181 ข้าจะแต่งงานกับนาง

    "ซินเยว่ ท่าย่าเจ้าน่าจะเกิดเรื่องอีก เราไปดูกันหน่อยมั้ย"น้ำเสียงนางหยูฟังดูเหมือนไม่สู้สบายใจถูซินเยว่เหนื่อยมาตั้งแต่กลางวันแล้ว หลับตานิ่งลง ปฏิเสธอย่างสะลึมสะลือว่า "ท่านแม่ กลางคืนอากาศหนาว ท่านไปนอนดีกว่า อย่าทำไห้เสี่ยวเป่าพลอยตื่นด้วยเลย"นอกประตูเงียบไปชั่วขณะ จนถูซินเยว่นึกว่านางหยูคงไปแล้ว เสียงของนางก็ดังขึ้นอีก "ทางโน้นร้องห่มร้องไห้ ข้าเลยยิ่งไม่วางใจ เสี่ยวเป่าก็ตื่นนานแล้ว ซินเยว่ ถ้าไงเรา..."ถูซินเยว่รู้ว่านางหยูเป็นห่วงแม่เฒ่าตระกูลซูที่อยู่ทางโน้น จึงได้ถอนหายใจยาว กล่าวอย่างอึดอัดว่า "ท่านแม่ ดึกดื่นค่ำคืน ท่านไปก็คงไม่ได้อะไร พรุ่งนี้ค่อยไปดีกว่า"นางหยูกล่าวอย่างจนใจต่อ "ถ้าข้าไม่ไปดูให้รู้ ในใจก็จะมีห่วงร่ำไป ตอนกลางวันท่านย่าก็เกิดเรื่องไปแล้ว นี่ยัง..."พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว ถูซินเยว่ย่อมจะเข้าใจดี ไม่ว่านางจะพูดยังไง นางหยูคงไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจเป็นแน่ นางจึงต้องลุกขึ้นจากเตียงอย่างจำใจ ลมหนาวนอกหน้าต่างพัดกรูเข้ามาพอดี ทำเอาถูซินเยว่หนาวจนตาสว่าง อาการง่วงนอนหายไปในฉับพลันนางหยิบเสื้อคลุมมาคลุมแล้วเปิดประตู เห็นนางหยูใส่เสื้อคลุมยืนอยู่นอกประตู ม

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 182 ไหว้วานเจ้าเรื่องหนึ่ง

    เดิมทีแม่เฒ่าตระกูลซูแค่คิดขู่ซูฟาเสียงเท่านัั้น ไม่นึกว่าพอเขาได้ยินประโยคนี้เข้า ก็หัวเราะหยันออกมา พลางกล่าวว่า "ไปก็ไปสิ นึกว่ากลัวหรือ"พูดพลาง ยังไม่ทันรอให้นางหยูและถูซินเยว่ที่ยืนอยู่หน้าประตูตั้งสติกลับมา ก็รีบเปิดประตูออกทันที ซูฟาเสียงเดินหน้าบึ้งออกจากข้างใน เผชิญเข้ากับนางหยูก็ให้ตกใจเล็กน้อย สีหน้าเผยความกระดากกระเดื่อง และไม่รอให้พวกนางทักทาย เขาก็ก้าวออกไปเสียแล้วซูฟาเสียงเดินเร็วมาก เพียงพริบตาก็หายไปกับยามราตรีแม่เฒ่าตระกูลซูไม่นึกว่าลูกชายบทจะไปก็ไปจริง ๆ จึงรีบถือไม้เท้าไล่ตามออกมา กว่าจะถึงหน้าประตู ร่างของซูฟาเสียงก็หายไปนานแล้ว สีหน้านางจึงเปลี่ยนไปในทันใด"ลูกอกตัญญูแท้ ๆ หลงผู้หญิงจนไม่เห็นแม่อยู่ในสายตาอีก!"แม่เฒ่าตระกูลซูพูดพลาง น้ำตาก็ร่วงเป็นเผาเต่าตามออกมาด้วยปกติแม่เฒ่าเป็นคนดุดันร้ายกาจ เป็นครั้งแรกที่ถูซินเยว่เห็นนางอยู่ในสภาพอเนจอนาถเช่นนี้ สองตาแดงก่ำ ร้องไห้จนตาบวมปูด ดูแล้วน่ากลัวเป็นยิ่งนักนางหยูแทบทนดูไม่ได้ จึงตรงเข้าประคองแม่เฒ่าตระกูลซู พร้อมปลอบใจว่า "ท่านแม่ อย่าร้องไห้เลย ระวังจะเสียสายตาเปล่า ๆ ค่ำคืนข้างนอกมักจะลมแรง ท่านเข้าไป

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status