แชร์

บทที่ 154 ภรรยาของต้าจู้

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-02 17:18:00
ตอนที่ซูฟาเสียงมาหาเรื่องในช่วงปีใหม่ ซูจื่อหังเคยพูดบอกเรื่องที่จะสร้างบ้านใหม่กับเขาไป ตอนนั้นชายหนุ่มยังเจาะจงพูดถึงเรื่องบ้านใหม่ที่จะสร้างให้ห่างจากลานบ้านของตระกูลซูด้วย เพื่อป้องกันเวลาที่เขากับถูซินเยว่ไม่อยู่ นางหยูจะถูกรังแกอีก

เพียงแต่ แม้ว่าซูจื่อหังจะคิดเช่นนั้น และปรึกษากับถูซินเยว่แล้ว แต่ทว่าทั้งคู่เดินสำรวจรอบหมู่บ้านหนึ่งวันเต็มๆ ก็ไม่เจอพื้นที่ที่เหมาะจะสร้างบ้านใหม่

หมู่บ้านต้าเย่แบ่งเป็นฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่มาก แต่จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก

ตอนนี้บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ แม้ว่าจะอยู่ท้ายหมู่บ้าน แต่ด้านหลังติดกับภูเขา และหน้าหันเข้าหาธารน้ำ ทัศนวิสัยกว้างไกล ทิวทัศน์ก็นับว่าดี ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ บ้านขนาดเล็กไปหน่อย และรอบๆ ก็มีญาติพี่น้องแย่ๆ อาศัยอยู่

เดินมาทั้งวันแต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย ตกเย็นตอนที่กำลังกลับบ้าน ถูซินเยว่ก็ปลอบใจซูจื่อหังว่า "ไม่เป็นไร วันนี้หาไม่เจอ พรุ่งนี้ค่อยไปหาใหม่ หรือลองไปถามหัวหน้าหมู่บ้านดูว่ามีบ้านไหนจะขายที่ดินไหม"

"อื้อ เอาตามที่เจ้าว่านั่นแหละ" ซูจื่อหังพยักหน้า

เขานั้นไม่ได้รีบร้อน เพียงแต่ใกล้จะถึงฤดูใบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 155 ทำเครื่องเรือน

    ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าตระกูลซูจะสร้างบ้านใหม่ จะเปลี่ยนเครื่องเรือนใหม่ ภรรยาของต้าจู้ก็เริ่มร้อนใจขึ้นมา"จะเปลี่ยนเครื่องเรือนใหม่ทั้งในนอกบ้านยกชุดละก็ ต้องใช้เงินไม่น้อยเลย ถ้าพวกเรารับงานนี้ไว้ เรื่องอาหารการกินของที่บ้านก็จะดีขึ้นไปหลายเดือนเลย" ภรรยาของต้าจู้ครุ่นคิดไปพลาง นับลูกคิดไปพลาง จนเสียงดังปึกปักแต่นับอยู่ครึ่งวันก็ไม่รู้ว่าตระกูลซูต้องการเครื่องเรือนประเภทไหนบ้าง และต้องการรูปแบบไหน จึงทำให้สรุปไม่ได้เสียทีภรรยาของต้าจู้จนปัญญา จึงหันไปมองต้าจู้ที่ทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก ใช้มือค้ำหัวและมองไปที่มุมกำแพง จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วว่า "เจ้าอย่าแต่นั่งอยู่ตรงนั้น มาช่วยกันคิดหน่อยสิ""มันจะไปคิดถูกได้อย่างไร?" ต้าจู้ตอบกลับอย่างหงุดหงิด คนอื่นต้องการเครื่องเรือนอะไรบ้างก็ยังไม่รู้ จะให้คิดอย่างไร? เมื่อภรรยาต้าจู้เห็นท่าทางเช่นนั้นของอีกฝ่าย ก็โมโหขึ้นมาทันที จึงด่าทอด้วยความโกรธว่า "นี่ต้าจู้ เจ้าก็พอได้แล้วกระมัง เจ้าว่าข้านับไม่ถูก เช่นนั้นเจ้าก็ไปถามตระกูลซูสิ! ให้ซูจื่อหังคำนวณให้เจ้าคร่าวๆ!"ถ้ายังไม่ไปอีก งานนี้ก็ต้องตกไปเป็นของคนอื่นแล้วหมู่บ้านฝั่งตะวันตกมีช่างไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-02
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 156 บ้านใหม่สร้างเสร็จแล้ว

    ซูจื่อหังไม่ใช่คนเห็นแก่ได้อยู่แล้ว ควรต้องจ่ายเท่าไหร่ ก็ยอมจ่ายไปเท่านั้นแต่เสียดาย ต้าจู้ตัดสินใจแน่วแน่ ไม่ว่าซูจื่อหังกับหยวนเป่าจะพูดอย่างไร เขาก็ไม่ยินยอมเมื่อเป็นเช่นนี้ ซูจื่อหังก็ได้แต่ยอมแพ้ อย่างมากถึงเวลาค่อยแอบชดเชยให้เขาเล็กน้อยก็แล้วกันเครื่องเรือนเหล่านี้มอบให้ต้าจู้ทำ เขาก็พอวางใจได้ เพราะฝีมือช่างไม้ของต้าจู้ เป็นที่ยอมรับในหมู่บ้านอยู่แล้วเมื่อเจรจากันเรียบร้อย ซูจื่อหังก็พาหยวนเป่าออกไปจากที่นี่แต่ภรรยาต้าจู้กลับไม่พอใจนัก เตะประตูเสียงดังโครม เดินไปยังเบื้องหน้าต้าจู้ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "เจ้าช่างโง่เสียนี่กระไร แค่โต๊ะแต่งหน้าจะทำยากเย็นอะไร ซ้ำยังให้คนอื่นเปล่า ๆ อีก รู้มั้ยว่าโต๊ะแต่งหน้าราคาตัวละเท่าไหร่ ทำไมถึงได้ใจกว้างนัก?"ต้าจู้เม้มปาก ไม่อยากทะเลาะกับเมียตัวเองซูจื่อหังมอบหมายงานนี้ให้เขาทำ เขายังตื้นตันเสียด้วยซ้ำแค่โต๊ะแต่งหน้าจะมีความหมายอะไร อย่างมากเขาก็แค่เหนื่อยขึ้นอีกหน่อย ที่สำคัญ จื่อหังให้เขาทำเครื่องเรือนอีกหลายชิ้น ซึ่งถือเป็นรายได้ก้อนโต แล้วให้ของเล็กน้อยจะเป็นไรไปครุ่นคิดพลาง ก็เห็นภรรยาต้าจู้จู่ ๆ ก็ยื่นมือออกมา พร้อมแย่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-02
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 157 สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใย

    เมื่อซูจื่อหังเข้ามาในห้อง ก็เห็นฉากนี้เข้าพอดี ร่างบอบบางของเด็กสาวนอนซุกอยู่ในผ้านวมผืนใหญ่ ใบหน้าเล็ก ๆ ของถูซินเยว่ดูแดงเรื่อ มุมปากเผยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจ แล้วดูนางทำหน้าเข้าซูจื่อหังวางตะเกียงน้ำมันลงที่โต๊ะเล็กด้านข้างหัวเตียง และก้มหน้ามองดูนาง ในระยะใกล้เช่นนี้ ยิ่งสัมผัสได้ถึงผิวพรรณนวลเนียนของเด็กสาว ผุดผาดผ่องพรรณราวกับดอกไม้แรกแย้ม จนแทบอยากจุมพิตลงไป เพื่อดูว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรดูไปดูมา ชายหนุ่มแทบอดใจไม่ไหวจนต้องกลืนน้ำลายลงคอ และจุมพิตลงไปจริง ๆเมื่อริมฝีปากนุ่มสัมผัสถูกพวงแก้มอันร้อนผ่าว นัยน์ตาของซูจื่อหังลุ่มลึก ถูซินเยว่ก่อนเข้านอน ได้ทาแป้งบำรุงหน้าก่อนนอนที่ใบหน้า โดยใช้ส่วนผสมจากดอกมะลิคั่วบด คิด ๆ ดู ราวกับยิ่งเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้แก่บรรยากาศในค่ำคืนมากขึ้นไปอีกซูจื่อหังแทบจะห้ามใจไม่อยุ่ คิดจะเคลื่อนย้ายริมฝีปากของตน ไปยังกลีบปากที่เผยอน้อย ๆ ของเด็กสาวแต่ทว่า เขาเพิ่งมีความคิดไม่ทันไร ก็เห็นถูซินเยว่ขยับเปลือกตา ปากก็เปล่งเสียงงึมงำออกมาซูจื่อหังสะดุ้งเล็กน้อย เกรงว่านางจะถูกตนรบกวนจนตื่น ที่ยิ่งกลัวกว่านั้นก็คือสิ่งที่ทำอยู่เมื่อครู่นี้ จะถูกถูซิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-03
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 158 ซักกางเกงให้นาง

    ถูซินเยว่นั่งอยู่บนเตียง มองดูท่าทีร้อนรนของซูจื่อหัง จู่ ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา"เจ้า..ขำอะไรกัน?"ถ้าหัวเราะก็แปลว่าไม่ได้ปวดท้องใด ๆ แล้วสินะเป็นครั้งแรกที่ซูจื่อหังพบเจอกับเรื่องเช่นนี้ สีหน้าจึงเต็มไปด้วยความสับสน แต่แววตายังคงจับจ้องอยู่ที่ถูซินเยว่ ด้วยกลัวว่าจะพลาดสีหน้าของอีกฝ่ายแม้แต่น้อยนิด"ถ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนจริง ก็ไม่ต้องทนฝืนไว้ ข้าจะเอาน้ำร้อนมาให้ประคบไว้" ซูจื่อหังบอกกล่าวถูซินเยว่เอียงหน้าพร้อมมองดูอีกฝ่ายอย่างจริงจัง และถามอย่างสงสัย "น่าแปลกจริง ท่านเป็นผู้ชายแท้ ๆ ทำไมถึงรู้เรื่องราวพวกนี้ด้วย?"ซูจื่อหังลูบหัวด้วยความรู้สึกกระดากอาย และกล่าวว่า "คราวก่อนหมอบอกว่าเจ้ามีธาตุเย็น หลังจากนั้นข้าเลยแอบไปถามหมอหลี่ เขาจึงบอกเรื่องที่ควรระมัดระวังให้ข้าได้รู้ไว้"ซูจื่อหังไม่เพียงพูดปากเปล่า ยังได้ไปแอบขอความรู้จากมารดา ว่าถ้าซินเยว่มีระดูมาควรจะทำเช่นไรอย่างงี้นี่เอง!ถูซินเยว่รู้สึกอบอุ่นในใจ การที่มีคนอื่นมาดูแลเอาใจใส่ เป็นห่วงบ่วงใยอยู่ทุกฝีก้าวนั้น ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีนักนางมองดูซูจื่อหัง ส่ายหน้าและกล่าวว่า "อย่าห่วงเลย ข้าไม่ได้ปวดท้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-03
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 159 ควรคิดเรื่องการมีลูก

    ซูจื่อหังยืนอยู่ข้างบ่อน้ำ ใช้แขนที่มีเรี่ยวแรงตักน้ำออกมาถังหนึ่ง จากนัั้นก็เทลงถังไม้อีกทีทำเช่นนี้อยู่สองรอบ ชายหนุ่มจึงไปเอาเก้าอี้เล็กมานั่งที่ข้างถังไม้ สาดผงสบู่เล็กน้อยลงที่ผ้าคลุมเตียงและกางเกงจากนั้นก็เน้นในส่วนที่เลอะ ตั้งหน้าตั้งตาขัดที่แผ่นไม้เป็นการใหญ่ชายหนุ่มมีท่าทีจริงจัง สายตาแน่วแน่ ดูจากสีหน้าแล้วแทบไม่เห็นความรังเกียจเดียดฉันท์เลยแม้แต้น้อยนิดคราบเช่นนี้หากเลอะผ้าห่มมักจะซักยาก แต่ดีที่ยังไม่แห้งสนิทเสียทีเดียว เวลาซักจึงทำได้ง่ายขึ้น และชายหนุ่มก็มีเรี่ยวแรงพอ หลังจากขัดไปหลายรอบ ก็ล้างด้วยน้ำสะอาดตามอีกสองน้ำถูซินเยว่ซบที่หน้าต่างมองดูอยู่ครู่หนึ่ง เห็นซูจื่อหังได้ซักผ้าเสร็จแล้ว กำลังจะยืนขึ้น จึงได้รีบกลับไปยังผ้านวมตามเดิมผ้านวมยังมีความอุ่นที่นางทิ้งไว้เมื่อครู่นี้ เมื่อมุดเข้าไปก็ยิ่งรู้สึกอบอุ่น แสนสบายเป็นอย่างมากเด็กสาวหลับตาลง นึกถึงท่าทางของชายหนุ่มเมื่อซักครู่ ไม่รู้เพราะอะไร จู่ ๆ ใบหน้าก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นชายหนุ่มผู้นี้ นางหาถูกคนแล้วจริง ๆ!หากคิดจะมองหา ทั่วทั้งหมู่บ้านนี้ ผู้ชายที่ยอมซักของสิ่งนี้ให้แก่ภรรยาของคน น่าจะมีเพียงไม่กี่ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-03
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 160 ฉงเป่าฟื้นมา

    สีหน้าถูชิวหลานเต็มไปด้วยความรังเกียจยังดีที่ถูซินเยว่ไม่ได้คิดจะเชิญนางไปด้วย นางหลินยืนอยู่ข้าง ๆ รอจนถูชิวหลานค่อนขอดจนพอใจแล้ว จึงได้กล่าวอย่างอึกอักว่า "ทานแม่ ซินเยว่ชวนเพียงข้ากับถูซาน ข้าเลยจะบอกท่านว่า วันมะรืนจะไม่หุงหาอาหารไว้ ท่านอยู่บ้านมีอะไรก็กินไปเถอะนะ"ขาดคำไม่ทันไร สีหน้าถูชิวหลานก็ออกอาการบูดบึ้งจนแทบดูไม่ได้สีหน้าแม่เฒ่าตระกูลถูก็ใช่ว่าจะดีกว่าเท่าไหร่ เพียงแต่นางยังไม่ทันได้ออกฤทธิ์ ถูชิวหลานก็เต้นผางขึ้นมาก่อน"เจ้าว่าไงนะ?" นางหลินพูดเล่นหรืออย่างไร? พวกนางรังเกียจตระกูลซูไม่คิดไปมาหาสู่ กับถูซินเยว่ไม่ยอมเชิญพวกนาง มันเป็นคนละเรื่องชัด ๆ!ถูซินเยว่เป็นผู้อ่อนอาวุโส สร้างบ้านแต่ไม่เชิญพวกนางไปกินข้าว แสดงว่าจงใจจะฉีกหน้ากันชัด ๆเมื่อนึกถึงตรงนี้ ใบหน้าของถูชิวหลานก็ยิ่งบึ้งตึงไปอีกเมื่อนึกถึงเรื่องบาดหมางระหว่างพวกนางกับถูซินเยว่ ถูชิวหลานแทบจะมั่นใจได้เต็มร้อย ว่าถูซินเยว่จงใจฉีกหน้าพวกนางแน่แต่ก็อยากบอกว่า เรื่องนี้เพราะถูชิวหลานคิดมากไปจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายต่างไม่ลงรอย ถูซินเยว่จึงคิดตัดไฟแต่ต้นลม เชิญเพียงบิดากับมารดาไปเท่านั้น เพื่อไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-03
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 161 ฉงเป่าจอมมารยา

    ไม่รู้ว่าต่างจ้องมองกันและกันนานแค่ไหน ถูซินเยว่รู้สึกถึงความเมื่อยล้าของสายตา จึงได้เอามือขึ้นมาขยี้ตาตนเอง และไม่นาน นางก็เงยหน้าขึ้นอย่างแรง สายตาคมกริบจ้องมองไปที่ฉงเป่าใช่แล้ว ก็คือฉงเป่า!ฉงเป่าซึ่งไม่รู้ว่าโผล่มาจากมิติตั้งแต่เมื่อไหร่เห็นถูซินเยว่จ้องมองด้วยสายตาอันดุดัน ฉงเป่าไม่เพียงไม่นึกกลัว ยังหยิบเอาผ้าห่มมาจากข้าง ๆ ห่อหุ้มร่างกายอ้วนท้วนของตัวเองไว้อีกเพราะการอยู่ในมิตินั้น ชั่วนาตาปีมีแต่ความอบอุ่น ฉงเป่าในฐานะผู้พิทักษ์แห่งมิติ สามารถควบคุมอุณหภูมิในนั้นได้ แต่หลังจากที่ออกจากมิติมา ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปขณะนี้อากาศข้างนอกเป็นต้นฤดูใบไม้ผลิ ยังคงมีความหนาวเย็นอยู่โดยรอบ ในขณะที่ฉงเป่าสวมใส่เพียงเสื้อบังทรงตัวเดียว แขนขาล้วนเปลือยเปล่า จึงย่อมจะหนาวเย็นเป็นธรรมดาหลังจากมุดเข้าผ้าห่มแล้ว ฉงเป่าสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ก็ค่อยถอนใจโล่งอกหน่อย"เจ้าอ้วน จะพูดอะไรกับข้านะ?" หลังจากปรับสภาพได้แล้ว ฉงเป่าก็ค่อยแหงนหน้าขึ้นมองถูซินเยว่ และทำเหมือนไม่รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจอยู่ถูซินเยว่มองดูฉงเป่าเล็กน้อย พลางสูดลมหายใจเข้าลึกอยู่ครู่หนึ่ง"เจ้าออกมาจากมิติไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-04
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 162 เด็กน้อยจอมฉลาด

    ซูจื่อหังก็ตกใจเช่นกัน และมองไปยังฉงเป่าอย่างไม่คาดคิดฉงเป่ารีบพูดว่า "ข้าชอบพี่ซินเยว่ ข้าไม่อยากไปจากพี่ซินเยว่ ข้าจะอยู่ที่นี่!"พูดเป็นด้วยหรือเนี่ย?ซูจื่อหังรู้สึกโล่งใจไปไม่น้อย ถ้าพูดเป็นล่ะก็ การจะถามหาว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน แล้วเขาไปเดินพรากมาได้อย่างไร ก็จัดการได้ง่ายขึ้นแล้วแต่เมื่อเขาก้มศีรษะลงและไปเห็นเป้ากางเกงของฉงเป่าเข้า พอพบว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กผู้ชาย เมื่อเห็นฉงเป่าที่ฝังตัวอยู่ในอ้อมกอดของถูซินเยว่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าทําไมในใจของเขาถึงได้รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเหมือนกันทันมเขายื่นมือออกมาดึงฉงเป่าออกจากร่างของถูซินเยว่ทันทีซูจื่อหังเองก็ไม้ได้ใช้แรงมากสักเท่าไหร่นัก แต่ฉงเป่าดิ้นขัดขืนไปมาอยู่สองครั้งก็ยังไม่สามารถดิ้นหลุดจากมือของอีกฝ่ายไปได้พอดิ้นไม่หลุด เขาก็ได้แต่จ้องเขม็งไปยังซูจื่อหังที่บัดนี้ใช้แขนทั้งสองข้างชูตัวเองอยู่"ปล่อยข้านะ!" เขาใส่แค่เอี๊ยมตัวเดียวเท่านั้น ยังไงเขาก็ไม่ยอมลุกออกจากผ้าห่มไปหรอก ก็ข้างนอกมันหนาวจะตายนี่นา!สีหน้าของฉงเป่าน้อยอกน้อยใจขึ้นมาในทันใดซูจื่อหังเองเห็นแบบนี้ก็หมดปัญญา ตัวเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้วแท้ ๆ แต่กลับไปรังแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-04

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status