บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที ลู่เจียวรีบพูดว่า "อาเชิน ทำไมเจอหน้าเหมียนเหมียนทีไรก็ทะเลาะกับเธอทุกทีเลยคะ"กู้ว่างเชินถอนสายตาออก สีหน้ามืดมัวลู่เจียวฝืนยิ้มแล้วพูดต่อ "คำโบราณว่าไว้ แม้จะเป็นสามีภรรยากันเพียงวันเดียว ก็ยังมีความผูกพันเสมือนร้อยวัน คุณอาจจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอก็จริงแต่ยังไงเหมียนเหมียนก็เป็นผู้หญิงนะคะ... จะยอมอ่อนให้เธอหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?"ฉู่เหมียนไม่อยากฟังลู่เจียวพูดเลยอยากจะเกลี้ยกล่อมกู้ว่างเชินก็เกลี้ยกล่อมไปสิ ทำไมต้องเหยียบย่ำเธอด้วย‘คุณอาจจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอ’ ตัวเธอเองหรือจะไม่รู้ว่ากู้ว่างเชินรู้สึกอะไรยังไง ต้องให้คนอย่างหล่อนมาเน้นย้ำอีกหรือ?น่ารำคาญจริง ๆ"ไหน ๆ ก็เจอกันที่นี่แล้วถือว่าเป็นโชคชะตา เหมียนเหมียน เรามาแข่งกันสักรอบไหม? คนแพ้ต้องทำอะไรที่เสี่ยงหน่อยเป็นไง?" ลู่เจียวเดินมาหาฉู่เหมียนด้วยท่าทางเป็นมิตรฉู่เหมียนเหยียดยิ้ม นี่หล่อนเสแสร้งเป็นคนดีอีกแล้วลู่เจียวรู้ดีที่สุดว่าฉู่เหมียนถนัดอะไรบ้างและกอล์ฟเป็นสิ่งเดียวที่เธอไม่ถนัดคิดจะแข่งกับเธอไปเพื่ออะไร?ลู่เจียวกะพริบตาปริบ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ "เหมียนเหมียนไม่กล้า
"ลู่เจียว คุณชักจะเกินไปแล้วนะ!" หานซือหลี่ต่อว่าเธอทันทีลู่เจียวเชิดหน้าขึ้นมองเขา เกินไปยังไงมิทราบ"นี่เล่นพนันกันนะคะ ถ้าไม่มีเดิมพันที่เร้าใจจะเรียกว่าพนันได้ยังไง?" ลู่เจียวขยับข้อมือ มองหานซือหลี่ด้วยรอยยิ้ม สีหน้าดูบริสุทธิ์และไร้พิษภัยหานซือหลี่ขมวดคิ้ว มือขวากำหมัดแน่นปกติเขาไม่ค่อยได้ติดต่อกับลู่เจียวมากนัก วันนี้ถือว่าได้รู้จักตัวตนของเธอแล้ว คุณหนูลู่คนนี้ไร้เหตุผลที่สุด!"เอาสิ" ฉู่เหมียนเดินเข้ามาอยู่ข้างลู่เจียว"เหมียนเหมียน คุณไม่ต้องแข่งก็ได้นะครับ" หานซือหลี่เตือนฉู่เหมียนฉู่เหมียนไม่ใช่คนที่กลัวเรื่องแบบนี้เธอออกปากแล้วว่าจะแข่งก็ต้องแข่ง"แค่จูบเอง มีอะไรต้องกลัวคะ ใช่ว่าฉันไม่เคยจูบคนอื่นซะหน่อย" ฉู่เหมียนขยับคิ้ว คำพูดของเธอแฝงความหมายบางอย่างเอาไว้ดวงตาสีเข้มของกู้ว่างเชินหรี่ลงเล็กน้อย แววตาเย็นชาเป็นพิเศษ คำพูดของเธอหมายความว่ายังไงแน่"ฉู่เหมียน" กู้ว่างเชินเรียกเธอทันทีฉู่เหมียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอสงบ"คิดดีแล้วใช่ไหมที่จะแข่งกับเจียวเจียว?" สีหน้าของกู้ว่างเชินยิ่งลึกลับมากขึ้น แม้กระทั่งโทนเสียงก็ต่ำลงฉู่เหมียนจ้องกู้ว
ซึ่งก็ยังไม่เข้า"ตั้งสติไว้ อย่าใจร้อน" หานซือหลี่เตือนฉู่เหมียนฉู่เหมียนพยักหน้า ยิ้มให้หานซือหลี่รอยยิ้มนั้นทำให้หัวใจของกู้ว่างเชินรู้สึกเหมือนถูกอะไรบางอย่างเกี่ยวรั้งแต่ไม่นานเขาก็กลับมาสงบเช่นเคยตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาเริ่มสนใจการกระทำของฉู่เหมียน...ตอนนี้เขาไม่ควรจะมุ่งความสนใจไปที่ลู่เจียวหรอกเหรอลู่เจียวตีลูกลงหลุมอย่างรวดเร็ว ท่าทางดูคล่องแคล่ว เห็นได้ชัดเจนว่าเธอเป็นคนที่เล่นกอล์ฟเป็นประจำกู้ว่างเชินฝืนข่มใจตัวเองให้หันกลับไปสนใจลู่เจียวแล้วปรบมือให้เธอ "เก่งมากเลยเจียวเจียว"ลู่เจียวส่งจูบให้กู้ว่างเชิน หัวเราะคิกคักเสียงหวานแหวว "รักนะ พี่อาเชิน"ฉู่เหมียนจดจ่ออยู่กับเกม แต่คำพูดของลู่เจียวยังลอยเข้าหูเธอทำให้เธอรู้สึกอยากอาเจียนจนกระทั่งจบเกม ฉู่เหมียนตีลูกลงหลุมได้แค่สองลูกลู่เจียวโยนไม้กอล์ฟไปด้านข้าง ก่อนดื่มน้ำทำท่าเหมือนเป็นราชินีผู้หยิ่งผยอง "เธอแพ้แล้ว""เดิมพันต้องเป็นเดิมพัน" ฉู่เหมียนใช้หลังมือปาดเหงื่อ น้ำเสียงสงบกู้ว่างเชินเฝ้ามองฉู่เหมียนเดินออกไปเธอจะไปจูบผู้ชายคนอื่นตามที่ลู่เจียวบอกจริง ๆ เหรอ?ลู่เจียวจับมือกู้ว่างเชินแล้
"ยังไงเธอก็ยังเป็นคุณผู้หญิงตระกูลกู้ เธออาจหน้าไม่อายแต่ฉันอาย!" เขาขมวดคิ้ว พูดประโยคนี้พร้อมกับขบฟันแน่นอีกอย่างถ้าเรื่องนี้ลอยไปถึงหูคุณย่าของเขา เรื่องที่พวกเขาหย่ากันจะปกปิดไว้ไม่มิดอีกต่อไปดังนั้นกู้ว่างเชินจึงไม่ยอมให้เรื่องขายหน้าแบบนี้เกิดขึ้นต่อหน้าเขาเด็ดขาด!ตราบใดที่พวกเขายังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากัน ฉู่เหมียนจะต้องอยู่ในกรอบที่เขาขีดไว้"ทีคุณกู้ยังพาว่าที่คู่หมั้นใหม่มาพลอดรักกันต่อหน้าคนอื่นอย่างไม่รู้จักละอาย แค่ฉันจูบคนอื่นถึงกับทำให้คุณอับอายขายหน้าขนาดนั้นเลยเหรอ" ฉู่เหมียนย้อนถามกู้ว่างเชินอย่างแข็งกร้าวกู้ว่างเชินคอแห้งผาก เขาจ้องเขม็งมองฉู่เหมียนด้วยสายตาโหดเหี้ยม มือของเขากำแน่นขึ้นเรื่อย ๆแล้วใช้เสียงต่ำเตือนฉู่เหมียน "ฉู่เหมียน ฉันกำลังให้โอกาสเธออยู่ อย่าหัวรั้นให้มาก!"เธอคิดจะจูบผู้ชายคนนั้นจริง ๆ เหรอ?เมื่อเห็นกู้ว่างเชินโกรธเป็นฟืนไฟ ฉู่เหมียนก็ยิ้มเย้ายวน"นี่คือการให้โอกาส หรือคุณแค่กังวลเรื่องอื่น" มุมปากของฉู่เหมียนยกขึ้น ดวงตาคู่สวยจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของกู้ว่างเชินอย่างพิจารณากู้ว่างเชินขมวดคิ้ว รู้สึกหงุดหงิดที่เธอเดาใจเขาออกเขากลื
ขณะนั้นดูเหมือนเขาอยากจะอธิบายอะไรสักอย่างหานซือหลี่ที่อยู่ด้านนอกถามว่า “เหมียนเหมียน หาโทรศัพท์เจอแล้วหรือยัง?”กู้ว่างเชินชักมือกลับ เขาหลุบตาลงและเห็นลู่เจียวที่กำลังมองเขาด้วยความงุนงงเขากำลังทำอะไร?พอเห็นฉู่เหมียนเข้ามาเขาก็รีบปล่อยเธองั้นเหรอ?“เจอแล้ว ไปกันเถอะ” ฉู่เหมียนคลี่ยิ้มและตามหานซือหลี่ไปลู่เจียวเห็นว่ากู้ว่างเชินเหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเธอก็คร้านจะตีกอล์ฟต่อ“ไปกันเถอะ” ลู่เจียวลุกเดินออกไปพร้อมสีหน้าไม่สบอารมณ์กู้ว่างเชินที่สังเกตเห็นอารมณ์ของลู่เจียวจึงเดินตามเธอไป “เจียวเจียว”ลู่เจียวผลักเขาออกอย่างฉุนเฉียวด้วยสายตาขุ่นเคืองอยู่ดี ๆ บรรยากาศดี ๆ ระหว่างคู่รักก็เริ่มแย่ลงนับตั้งแต่ที่ได้พบกับฉู่เหมียน สายตาของกู้ว่างเชินก็เอาแต่จับจ้องอยู่ที่ผู้หญิงคนนั้น แถมเมื่อเห็นฉู่เหมียนเข้ามา เขาก็รีบปล่อยมือจากเธอทันทีบางครั้งการกระทำบางอย่างที่ทำโดยไม่รู้ตัวมักจะมาจากจิตใต้สำนึกแม้ลู่เจียวจะชอบกู้ว่างเชินและเต็มใจที่จะยอมรับเรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่โกรธ!เมื่อเห็นว่าลู่เจียวไม่อยากคุยกับเขา กู้ว่างเชินจึง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่รู้ ต้วนจิ่นเหนียนก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาทันทีเขาเห็นตั้งแต่ก่อนหน้านี้จึงบันทึกรูปหน้าจอเอาไว้เขาเปิดรูปหน้าจอนั้นแล้วอ่านให้กู้ว่างเชินฟัง “หานซือหลี่พาบิดาไปเยี่ยมตระกูลฉู่ ลือกระหึ่มสงสัยว่ากู้ว่างเชินและฉู่เหมียนอาจหย่ากันนานแล้ว!”กู้ว่างเชินขมวดคิ้วพลางจ้องมองไปที่ใบหน้าของต้วนจิ่นเหนียนต้วนจิ่นเหนียนกระแอมไอและอ่านหัวข้อข่าวต่อ “หานซือหลี่กับหานเฉิงไปเยี่ยมตระกูลฉู่ งานแต่งงานของหานซือหลี่และฉู่เหมียนกำลังจะมาถึง!”เมื่ออ่านหัวข้อข่าวนี้ ต้วนจิ่นเหนียนก็รู้สึกผิดเล็กน้อยสื่อสำนักนี้ก็ช่างกล้าเขียน เปิดรูปมาแค่รูปเดียวแล้วก็เขียนอะไรเป็นตุเป็นตะอย่างนี้เลยเหรอ งานแต่งงานกำลังจะมาถึงเนี่ยนะ? เป็นไปได้เหรอ?เขามองไปที่กู้ว่างเชินอย่างเงียบ ๆ ไฟสลัวตรงห้องส่วนตัวนี้รวมกับบุคลิกที่แสนเย็นชา ยิ่งทำให้คนไม่กล้าแม้แต่จะมองมาหลังจากฟังข่าวทั้งสองเรื่องแล้ว บรรยากาศที่อึดอัดอยู่แล้วก็ดูเหมือนจะแย่ยิ่งกว่าเดิม“หัวข้อข่าวอันที่สาม อะแฮ่ม…” ต้วนจิ่นเหนียนแตะปลายจมูกของตัวเองพลางมองกู้ว่างเชินด้วยสายตาที่เหมือนต้องการถามว่า ‘จะให้พูดต่อไหม?’กู้
แต่เมื่อเจอกันอีกครั้งเธอก็ยังคงทำตัวเหมือนปกติ และเรียกเขาอย่างยิ้มแย้มว่า “อาเชิน”เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเขาก็สั่นไหวขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ ราวกับมีมดจำนวนนับไม่ถ้วนเดินไต่ไปมาทำให้เขากระวนกระวายใจ“ไม่รู้ว่าฉันจะได้รับเชิญไปงานหมั้นของคุณฉู่กับหานซือหลี่รึเปล่า” ต้วนจิ่นเหนียนลูบคางด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้“ตอนงานแต่งของนายกับฉู่เหมียน ฉันไม่ได้ไปร่วมงานด้วยซ้ำ! ฉู่เหมียนเธอน่าสงสารมาก เธอแต่งงานกับนายแต่นายไม่ยอมรับเธอรับ เรื่องนั้นก็หนักหนาพอแล้ว นี่แม้แต่งานแต่งก็ไม่ได้จัด!”หัวใจของกู้ว่างเชินที่เดิมก็ว้าวุ่นอยู่แล้ว เมื่อต้วนจิ่นเหนียนมาพูดเทศนาอยู่ข้าง ๆ เหมือนพระเฒ่า ก็ทำให้เขารู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้นกู้ว่างเชินหยิบเสื้อสูทของตัวเองแล้วลุกเดินออกไปต้วนจิ่นเหนียนหันมาตะโกนอย่างรีบร้อน “เหล่ากู้ จะไปไหน?”กู้ว่างเชินไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายขณะที่กู้ว่างเชินเดินออกมาจากผับ อี้เซินก็กำลังจัดการกับข่าวของฉู่เหมียนบนโซเชียล“ประธานกู้ เราควรจัดการกับข่าวของคุณฉู่และคุณหานยังไงดีครับ?” อี้เซินหันมาถามกู้ว่างเชินกู้ว่างเชินที่กำลังดึงเน็คไทออกเงยหน้าขึ้นมาหลังจากได้ยินค
“ขอบคุณคุณหานมากสำหรับวันนี้นะคะ อาจจะมีข้อผิดพลาดไปบ้างต้องขออภัยด้วย!”ที่หน้าประตูบ้านของตระกูลฉู่ ฉู่เหมียนกำลังกล่าวขอโทษจากใจจริงหานซือหลี่ยืนพิงรถ พลางยักคิ้วด้วยสีหน้าสบาย ๆ “แค่มีความสุขก็พอแล้วครับ เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญเลย”ฉู่เหมียนยิ้มแย้ม “ขอบคุณค่ะ”“ไม่เป็นไรครับ อย่าปล่อยให้คนนอกมามีผลต่ออารมณ์นะครับ!” หานซือหลี่กล่าวฉู่เหมียนพยักหน้า “อืม ไว้เจอกันใหม่ค่ะ”หานซือหลี่ฮัมเพลง พลางขึ้นรถแล้วขับออกไปฉู่เหมียนยืนอยู่ที่ประตูจนกระทั่งรถของหานซือหลี่หายไป จากนั้นเธอก็ปล่อยตัวตามสบายและคิดจะกลับเข้าบ้านผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษแบบนี้หายากน่าเสียดายที่เธอเป็นคนที่แย่เกินไปจึงไม่คู่ควรกับเขาขณะที่ฉู่เหมียนกำลังจะกลับเข้าบ้าน จู่ ๆ ก็มีเสียงอันคุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง “ฉู่เหมียน”เสียงเรียกนั้นแหบแห้งเล็กน้อย แต่คล้ายจะเจือไปด้วยความอบอุ่นจนเผาใจของฉู่เหมียนไหม้เป็นรูฉู่เหมียนรีบหันกลับไปและเห็นรถมายบัคสีดำจอดอยู่ไม่ไกล กู้ว่างเชินกำลังยืนพิงหน้ารถ พลางมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งเมื่อครู่ที่ฉู่เหมียนบอกลาหานซือหลี่ เธอไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครอยู่ตรงนี้อีกเขามา