วันงานการกุศล
กวินควงภรรยาสาวสุดสวยเข้ามาภายในงานผู้คนเห็นต่างรีบกดถ่ายภาพรัว ๆ เพราะสามารถนำคู่รักคู่นี้ไปขายข่าวได้อีกหลายวัน เพราะเป็นคู่รักร้อยล้านหมื่นล้านเลยก็ว่าได้ ทั้งคู่อายุยังน้อยแต่สามารถบริหารธุรกิจได้จนขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของวงการอสังหาริมทรัพย์
ลลิตายิ้มให้สื่อและพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เธอยิ้มให้กับสื่อมวลชน และหันมายิ้มให้กับสามีที่มองมาที่เธอเช่นกัน
มือหนาเข้ามาปัดผมทัดใบหูของหญิงสาวและลูบแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา และยิ้มให้เล็กน้อย
“มาแล้วเหรอคะคู่รักกิ่งทองใบหยก คุณลลิตาแต่งงานมา 5 ปีแล้วทำยังไงให้สามียังรักยังหลงเหมือนวันแรก ๆ ค่ะ บอกภาหน่อยสิคะ” สาวรุ่นใหญ่ในวงการเอ่ยถามเพราะตนรู้สึกเอ็นดูคู่รักคู่นี้มาก ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวยตัวเล็กน่ารักน่าทะนุถนอม พอมาอยู่ด้วยกันมันยิ่งกว่าคำว่าเพอร์เฟกต์ หล่อนจึงชอบชวนสามีภรรยาคู่นี้ออกงานตนอยู่บ่อย ๆ
“คุณภาครับจะไม่ให้ผมคลั่งภรรยาของผมได้ยังไงกันละครับ ดูเธอสิสวยไม่เคยเปลี่ยน ไหนจะเรื่องดูแลบ้านอีกเธอดูแลดีอย่างไม่มีตกบกพร่องเลยครับ”
“เพราะเป็นแม่ศรีเรือนใช่ไหม ถึงได้ตกคุณกวินอยู่หมัดแบบนี้ สงสัยภาต้องจำนำไปใช้กับสามีที่บ้านบ้างแล้ว”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณภา” ลลิตาได้แต่ส่งยิ้มให้ เพราะทุกอย่างที่กวินพูดมามันตรงกันข้ามกับชีวิตจริงของเธอเสียเหลือเกิน บอกว่าเธอดียังงั้นดีอย่างนู้น แล้วไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยทำไม ข้าวเธอก็เป็นคนหาให้กิน เสื้อผ้าส่วนใหญ่เธอก็ซักเองถึงแม้จะมีแม่บ้านก็เถอะ
“แต่จะว่าไปคุณลลิตาสวยไม่เปลี่ยนจริง ๆ เลยนะคะ ช่วยบอกเคล็ดลับดูแลหุ่นให้ภาหน่อยได้ไหม”
“คือ..” เธอกำลังจะตอบแต่กวินกลับชิ่งตอบเสียก่อน
“ง่าย ๆ เลยครับ เรื่องบนเตียง” กวินขยิบตาให้และโอบเอวคอดของลลิตาไว้แน่นทำเหมือนกับหวงแหนปานจะกลืนกิน
เหอะ! ช่างกล้าพูดขึ้นเตียงด้วยกันยังไม่เคยขึ้น เธอจะมีท่าไหนไปมัดใจเขาได้กัน
“อุ๊ยตายแล้ว คุณทำภาเขินเลยนะคะ อย่าลืมมาร่วมประมูลเล่นกันสนุก ๆ นะค่ะคุณกวิน คุณลลิตา”
“ได้เลยครับ ผมจะสู้ให้สุดใจเลย” กวินยิ้มและเอานิ้วชี้มาแตะเล่นหยอกล้อที่ปลายจมูกเล็กของลลิตาและยิ้มให้เหมือนกับคนคลั่งรัก
“เบื่อคู่นี้จริง ๆ เลย ภาขอตัวก่อนนะคะ เครื่องดื่มดื่มได้เลยไม่อั้นค่ะ”
“ขอบคุณครับ” กวินยิ้มและดึงมือเรียวของหญิงสาวให้เข้ามาภายในงาน
ลลิตามองเสี่ยวหน้าของคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีพออยู่ข้างนอกเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย ถ้าอยู่ในบ้านแล้วยิ้มให้เธอดูแลเธอแบบนี้บ้างก็คงจะดี
“มองแบบนี้เพราะอยากกินผมเหรอ” กวินเอ่ยแซวและยกมือมาคลึงที่ริมฝีปากสวยไปมา “คืนนี้ผมคงต้องจับคุณกินแล้วล่ะ”
หญิงสาวหน้าแดงและรีบหลบลงเล็กน้อย เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าจะอายทำไมเพราะเขานั้นเป็นสามี มันอาจเป็นเพราะนานแล้วที่ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เลย นานแล้วที่เขาไม่ได้แตะต้องเธอแบบนี้ละมั้ง
“สวัสดีครับพี่สะใภ้” เสียงติดทุ้มทักทายเข้ามาด้วยความดีใจ และเข้ามาคว้ามือเล็กของลลิตามาจูบที่หลังมือ
“อุ๊ย! คุณภาคินทำไรเนี่ย” ลลิตาตกใจและหน้าแดง เธอรู้ว่านี่เป็นการทักทายแต่ตอนนี้เธออยู่ไทยเดี๋ยวคนเห็นอาจจะดูไม่ดี อีกอย่างภาคินเองก็เป็นน้องชายของสามีเธอด้วย
“ทักทายพี่สะใภ้ไงครับ”
“ภาคินมีมารยาทหน่อย คนมองเยอะแยะทำประเจิดประเจ้อไปได้” กวินเอ่ยตักเตือนด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยและมองด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง
“หึ! เหรอครับ ผมก็คิดว่าคนอย่างพี่สะกดคำว่ามารยาทไม่เป็นเสียอีก” ภาคินตอกกลับและหันมายิ้มให้กับลลิตาอีกครั้ง
“ไอ้ภาคิน”
“กลัวลืมชื่อน้องชายเหรอครับ” ภาคินตอบกลับและขยิบตาให้อย่างยียวน
“อ่า คุณกวินสวัสดีค่ะ ปิ่นมาช้าไปหรือเปล่าคะ” เสียงใสเอ่ยเข้ามาแทรกและเข้ามายืนข้างร่างสูงอย่างกวิน ลลิตามองด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยและจ้องมองสามีอย่างเอาคำตอบ
“ปิ่นเป็นเลขาของผมนะครับ วันนี้เธอต้องมาช่วยดูแลงานด้วย”
“อ่า ภรรยาคุณกวินนี่เอง สวัสดีค่ะปิ่นอนงค์เป็นเลขาของคุณกวินค่ะ ยินดีได้รู้จัก”
“เหรอคะ รู้สึกเป็นเลขาแต่เรียกชื่อกันอย่างสนิทสนมเหลือเกินนะคะ” ลลิตาพูดและมองหน้าของกวิน อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกร้อนที่หัวตา
“อะไรกันตา คุณมาหวงอะไรเหมือนเด็กแบบนี้ อย่าทำงานกร่อยเลยได้ไหม คุณปิ่นก็เป็นแค่เลขา” กวินเข้ามากระซิบที่ข้างหูสวยและเหลือบมามองปิ่นอนงค์ที่ยิ้มมาให้ตนเขาจึงยกยิ้มมุมปากให้
“พี่สะใภ้ดื่มอะไรดีครับ ผมจะสั่งให้” ภาคินเห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงชวนหญิงสาวคุย
“อะไรก็ได้ค่ะคุณภาคิน” เธอหันมาตอบด้วยรอยยิ้มและรอบมองหน้าสามีที่กำลังยิ้มให้คนที่บอกว่าเป็นเลขาอย่างไม่ให้เกียรติเธอ
“คุณปิ่นเพิ่งมาเป็นเลขาให้สามีดิฉันเหรอคะ” ลลิตาถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานแต่ดวงตากับเชือดเฉือน
“ใช่ค่ะ ยังไม่ถึงปีดีเลยค่ะ” ปิ่นอนงค์ตอบและฉีกยิ้มกว้างและแอบเอามือแตะที่หลังมือหนาของกวิน
“คุณเปลี่ยนเลขาใหม่แล้วไม่คิดจะบอกตาเลยนะคะที่รัก”
“ก็แค่เลขาเองตา ผมไม่ชอบให้คุณเข้ามาจุกจิกจู้จี้กับพนักงานที่บริษัท”
“ตาเองก็เป็นเจ้าของร่วมกับคุณนะคะ หรือคุณจะลืมตรงนี้ไป”
กวินนิ่งไปสักพักเพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ลลิตาหยิบยกความเป็นเจ้าของให้เขาได้ยิน
“ผมขอโทษครับ ครั้งต่อไปผมจะบอกคุณให้รับรู้ด้วย” กวินเสียงอ่อนลงและจับมือเล็กแบบบางที่นุ่มสวยขึ้นมาจูบที่หลังมือ
ปิ่นอนงค์กำมือแน่นด้วยอาการไม่พอใจ ลับหลังเธอเองก็เป็นเมียคนหนึ่งของกวินเองเช่นกัน
สายตาคมของภาคินจ้องมองการกระทำของปิ่นอนงค์ไม่วางตา เขาเห็นมาตลอดว่าสองคนนั้นทำอะไรกัน เขาเองก็ไม่รู้ว่าพี่ชายคิดอะไรอยู่ ทั้งที่มีภรรยาที่แสนดีและสวยกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ ที่พี่ชายตนกุ๊กกิ๊กด้วยตั้งเยอะ พี่ชายตนคงไม่รู้เลยสินะว่าวันหนึ่งเพชรเม็ดงามอาจจะหลุดมือไปและไม่กลับมาอีกเลยก็ได้ ถ้ายังทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แบบนี้อยู่ เพราะถ้าได้หายไปเพชรเม็ดนั้นคงยากที่จะกลับมาที่เดิมอีกครั้ง
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเด็กใหม่ของคุณอีกแล้วใช่ไหมกวิน”เมื่อกลับมาถึงบ้านลอะไรคะตาก็เริ่มเปิดปากถามสิ่งที่เธออยากรู้ เธอเองก็รู้ต่อให้ถามไปคนตรงหน้าก็ไม่มีทางตอบความจริงมาอยู่ดี“ตาคุณเอาอีกแล้วนะ ปิ่นเขาเป็นแค่เลขาของผมจริง ๆ”“เหรอคะ แค่เลขาแล้วทำไมต้องมองกันด้วยสายตาหยาดเยิ้มแบบนั้นด้วย” ไม่เห็นเธอพูดก็ไม่ใช่ว่าเธอจะโง่ที่จะไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร เห็นอยู่ตำตาแต่ยังคิดปฏิเสธได้อย่างหน้าด้าน ๆ“ตาคุณทำตัวแบบนี้ผมเบื่อนะรู้ไหม” กวินพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย และเสยผมไปมาอย่างหงุดหงิด“หึ คราวนี้คุณก็จะโทษตาอีกแล้วใช่ไหม ว่าตาเป็นคนที่น่าเบื่อชวนทะเลาะกับคุณ ถ้าตาไม่รักตาจะพูดเหรอ ตาคงปล่อยคุณไปเงียบๆ แล้ว คงไม่ตามไปหึงหวงอยู่แบบนี้หรอก กี่เดือนกี่ปีแล้วที่เราไม่ได้ทำหน้าที่สามีภรรยากันเลย ถ้าคุณหมดรักตาแล้วจริง ๆ งั้นเราก็มาหย่ากันเถอะ หย่ากันไปให้มันจบ ๆ ตาเหนื่อยแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน พอกันที”ลลิตาพูดไปและร้องไห้ไป เธอเลือกที่จะไม่มองหน้าของชายหนุ่มและเดินขึ้นห้องไปด้วยเสียงที่สะอื้นดังมาให้คนข้างล่างได้ยิน เธอตัดสินใจแล้ว ถ้าไม่ได้รักกันแล้ว ก็หย่ากันไปเถอะ ไปทางใครทางมันดีซะกว่าอีกกวินย
“แลกบัตรด้วยครับ”พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเข้ามากันไม่ให้สองสาวเข้าด้านใน พริ้งพลอยทำท่าจะวีนอีกครั้งเมื่อลูกน้องไม่รู้ว่าผู้หญิงข้าง ๆ เธอคือประธานบริษัท เจ้าของบริษัทตัวจริงที่เซ็นอนุมัติเงินเดือนให้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่ผู้รักษาความปลอดภัยคนนี้“ทำไมคุณผู้หญิงท่านนี้ต้องแลกด้วยล่ะครับ เพราะเธอเป็นประธานบริษัทสามารถเข้าออกได้ตามที่ต้องการ” เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากข้างหลัง“คุณภาคิน” ลลิตาเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงเบา“เออ ขอโทษครับ ผมคิดว่าคุณกวินเป็นประธานครับ ขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ” พนักงานรักษาความปลอดภัยหน้าซีดลงอย่างน่าสงสารที่เขาทำไปเพราะความปลอดภัยขององค์กรเท่านั้น“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะมันเป็นหน้าที่ของคุณฉันเข้าใจดี และขอบคุณที่เอาใจใส่ดูแลองค์กรมาเป็นอย่างดีนะคะ” ลลิตายิ้มให้อย่างอ่อนโยน และหยิบบัตรขึ้นมาแตะให้ประตูไม้กั้นเปิดออก“ก่อนที่คุณจะมาทำงานคุณควรอ่านประวัติให้ดี ๆ ก่อนนะครับ” ภาคินพูดเสียงราบเรียบ แต่สายตากับเย็นชา“ครับ ผมขอโทษครับ”ภาคินเหลือบมองด้วยสายตาที่เย็นลงเล็กน้อย และเดินตามสองสาวเข้าไป เพราะวันนี้เขาเองก็ต้องเข้าประชุมเช่นกัน“ขอโทษนะคะ ตอนนี้คุณกวินประชุ
“ตาเรามาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”เมื่อกลับมาถึงบ้านกวินรีบจับแขนเล็กของลลิตาให้หยุดคุย เมื่อเห็นเธอเดินเร็ว ๆ ไม่ได้สนใจเขาอย่างที่เคย“กวินจะคุยอะไรคะ” เธอหันมาเผชิญหน้าและยิ้มให้แบบที่ยิ้มให้เขาอยู่ทุกวัน แต่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้นเธอกำลังเจ็บปวดเหลือเกิน“ทำไมอยู่ดี ๆ ตาถึงอยากกลับมาทำงาน”“คือบริษัทเป็นของตา แล้วตาจะเข้าไปทำงานไม่ได้เหรอคะกวิน”“ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น แต่ผมเคยบอกตาแล้วไงว่ากวินชอบผู้หญิงเรียบร้อยไม่ชอบให้ทำงาน แค่อยู่ดูแลบ้านเป็นภรรยาที่ดีรอกวินกลับมาบ้านเท่านั้นเองที่กวินต้องการ”“อ๋อ สงสัยตาจะเรียบร้อยเกินไป ถึงรอผัวกลับมาบ้านแต่ไม่เห็นผัวยักจะกลับมา เพราะมัวไปอยู่บ้านเล็กบ้านน้อยอยู่”“ตา คุณเริ่มอีกแล้วนะ ผู้หญิงพวกนั้นผมเลิกไปหมดแล้ว”“เหรอคะ แต่สิ่งที่ตาเห็นคือแม่เลขาของคุณยังอยู่ดีนี่คะ”“ปิ่นอนงค์กับผมไม่ได้เป็นอะไรกันเลยตา เธอเป็นแค่เลขาที่ทำงานดีเท่านั้นเอง”“อ๋อทำงานดี ทำดีมากจนถึงขั้นไปซื้อคอนโดให้กันเลยเหรอกวิน” เธอตั้งใจจะเก็บเงียบในสิ่งที่รู้มา แต่เขายังเลือกที่จะโกหกเธอต่อไปเธอเองก็ไม่ควรเงียบและโง่อยู่แบบนี้“ตานี่คุณสืบเรื่องของผมเหรอ”“ค่ะ ในเมื่อค
“พี่สะใภ้ยินดีต้อนรับกลับมาทำงานนะครับ” ภาคินเดินถือช่อดอกไม้เข้ามาในห้องทำงานและยิ้มกว้างเจือไปด้วยความอบอุ่นมาให้แบบที่เขาชอบทำ ไม่ว่าจะผ่านมากี่เดือนกี่ปีเขาก็ยังคงเป็นภาคินที่อ่อนโยน และคอยเอาใจใส่ต่อคนอื่นอยู่เสมอ“เรียกลลิตาเหมือนเดิมก็ได้นะคุณภาคิน เมื่อก่อนก็เรียกตาเฉย ๆ นิ” หล่อนยิ้มหวานและรับช่อดอกไม้มาถือ เป็นช่อดอกกุหลาบสีชมพูแบบที่เธอชอบ“เพราะคุณแต่งงานกลับพี่ชายผมไง ผมถึงต้องมาเรียกว่าพี่สะใภ้มันเป็นความผิดของคุณคนเดียวเลย” ภาคินแหย่เล่นและยิ้มไปด้วย แต่ลลิตากลับทำหน้าเศร้า“คงงั้นมั้งค่ะ คงเป็นความผิดของตาจริง ๆ” ลลิตาเสียงเศร้าและใบหน้าหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิตา คุณไม่เหมาะกับใบหน้าแบบนั้นเลย” เสียงทุ้มเอ่ยบอกและเอามือมาลูบแก้มเนียนทั้งสองข้างลลิตานิ่งเหมือนคุ้นเคยกับสัมผัสแบบนี้มาก่อน เธอมองหน้าของภาคินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสามีอย่างงุนงง ใบหน้าของเขาหล่อเหลาไม่แพ้กับกวินเพราะทั้งสองเป็นแฝดกัน ถ้าภาคินไม่ไปย้อมผมให้เป็นสีน้ำตาลออกทองเธอเองก็ยากที่จะดูออกว่าใครเป็นใคร“มองผมแบบนี้อยากพูดอะไรเหรอ” ภาคินยิ้มละมุนและลูบแก้มเนียนของหญิงสาวไปมาเหมือน
“ใช่ค่ะตาเอง กวินเป็นอะไรรึเปล่าเหงื่อถึงได้ออกมาเยอะขนาดนี้”“เปล่าหรอกครับ สงสัยมื้อกลางวันกินเยอะเกินไป” กวินตอบปัดไปและจับหัวของปิ่นอนงค์ให้อยู่นิ่งเมื่อเธอยังคงขยับไม่ยอมปล่อย“แน่ใจนะคะว่าคุณโอเค”“ครับ สักพักเดี๋ยวมันก็หายแล้ว ตามีอะไรรึเปล่าครับ”“พอดีตาเห็นงบประมาณมันแปลก ๆ คุณลองตรวจสอบอีกรอบได้ไหม ตัวเลขมันคลาดเคลื่อนไป”“เรื่องแค่นี้เอง คุณให้เลขาของคุณมาบอกก็ได้ จะเดินมาให้เหนื่อยทำไม”“นี่มันเรื่องใหญ่นะกวิน อีกอย่างไม่ได้อยู่ไกลกันเลยลงมาแค่ชั้นเดียวก็ถึงแล้วนี่ค่ะ”“ตาครับผมอยากทำอะไรบางอย่าง” กวินพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและบีบแก้มปิ่นอนงค์แน่นและใช้สายตาให้เธอหยุด ปิ่นอนงค์ถึงยอมหยุดเพราะรู้ว่าเขากำลังโกรธแล้ว“อยากทำอะไรคะ”“ผมนึกถึงช่วงเวลาที่เราเคยมีด้วยกันในห้องนี้ คุณจำได้ไหม” เสียงแหบพร่าเอ่ยกระเส่าและลุกเดินออกมา ลลิตาถึงได้เห็นว่าแก่นกายของเขามันผงาดชูให้เห็น“เออ กวินนี่คุณมีอารมณ์เหรอ” ลลิตาพูดอย่างเขินอาย ตอนแรกเธอคิดว่าจะไม่โอเคกับสัมผัสจากเขา แต่พอเธอได้มาเห็นจริง ๆ กลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยหรือเป็นเพราะว่าเธอรักเขากันนะ“ใช่ครับ พอผมได้ยินเสียงคุณก็มีอาร
ผู้หญิงทุกคนต่างวาดฝันว่าความสำเร็จในชีวิตของลูกผู้หญิงคือการแต่งงาน การแต่งงานคือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับลูกผู้หญิงอย่างเรา ๆหญิงใดเมื่อผ่านพิธีแต่งงานนั้นทุกคนจะคิดว่าเธอคนนั้นจะมีความสุขที่สุด บางคู่ต่อหน้ากล้องยิ้มแย้มแต่ลับหลังกลับหน้าชื่นอกตรมเหมือนอย่างเช่น ลลิตา คนนี้ที่ทุกคนต่างยินดีตอนที่เธอแต่งงานกับหนุ่มรูปงามไฮโซธุรกิจหมื่นล้าน แรก ๆ อะไรก็หวานแต่นาน ๆ เข้ามันก็ขม ขมจนแทบไม่อยากมีชีวิตชีวิตการแต่งงานของหล่อนผ่านมาแล้วถึง 5 ปี ช่วงปีแรกมันก็ดีไปเสียหมดชี้ไม้เป็นนกชี้นกเป็นไม้ เขาถึงได้เรียกข้าวใหม่ปลามันแต่พอช่วงหมดโปรแรก ๆ ก็รัก หลัง ๆ แทบไม่อยากเห็นหน้า“ยังดีที่คุณยังจำได้ว่ามีบ้านหลังนี้อยู่” ลลิตาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งที่ผ่านการร้องไห้มาหลายวัน ทำไมเธอถึงร้องไห้นะเหรอ เพราะสามีเฮงซวยคนนี้แอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยตลอด พอเธอจับได้เขาก็เลิกแต่ก็เปลี่ยนผู้หญิงคนใหม่“รำคาญ” กวินเอ่ยด้วยความรำคาญเขาเลือกที่จะกลับมาตอนช่วงเช้ามืด เพราะคิดว่าลลิตาคงหลับอยู่ แต่ที่ไหนได้ไม่คิดว่าหญิงสาวจะยังรอเขากลับมาอยู่แบบนี้“รำคาญเหรอคะ ตาคงน่ารำคาญมากคุณถึงได้คอยออกไปหากินข้างนอก”“อ
“สวัสดีค่ะคุณกวิน” เหล่าพนักงานในบริษัทเครือชื่อดังเอ่ยทักเจ้าของบริษัทเมื่อเดินเข้ามาด้วยความเร่งรีบ กวินดูนาฬิกาข้อมือของตนเองที่ใกล้เวลาประชุมเข้ามาทุกที ที่เขาช้าได้แบบนี้เพราะลลิตาคนเดียว ทำไมเธอพูดไม่รู้เรื่อง ทำไมเอาแต่ร้องไห้ มองกี่ครั้งมันก็น่าเบื่อจนไม่อยากจะเห็นหน้าของเธออีกต่อไป“สวัสดีค่ะคุณกวิน เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหมคะ” เลขาสาวหน้าห้องเอ่ยทักทายและยิ้มหวานมาให้ กวินได้แต่ยิ้มให้เล็กน้อยและเดินเข้าห้องไปเพราะการประชุมจะเริ่มในไม่ช้า พร้อมกับเหล่าผู้บริหารคนอื่น ๆ ที่นั่งรอในห้องอยู่แล้ว“ตา ยัยตา ลลิตาแกเหม่อลอยอะไรของแก” พลอยเพื่อนสาวคนสนิทหนึ่งเดียวของลลิตาเอ่ยเรียกหญิงสาวเสียงดังเมื่อเธอพยายามเรียกหลายครั้งแล้วแต่หญิงสาวกลับไม่มีอาการตอบสนอง เธอเหม่อลอยเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“ฮะ! มะ ไม่มีอะไร” เธอหันมาปฏิเสธและนั่งเขี่ยเค้กไปมา เพราะเธอนั้นกินอะไรไม่ลงเลยจริง ๆ หลายวันมานี้“ยังมีปัญหากับคุณกวินอยู่อีกเหรอ” พลอยถามอย่างเห็นใจเพื่อน เพราะหล่อนนั่งเศร้าแบบนี้มาได้สามหรือสี่ปีได้แล้วซึ่งเธอเองก็ไม่แน่ใจเพราะมันยาวนานเหลือเกินทั้งที่จริงหญิงสาวเป็นคนที่ร่าเริง ช
“ที่รักค่ะ คุณกลับมาแล้ว มาเหนื่อยๆ ตาเตรียมน้ำอุ่นให้อาบนะ” ทันทีเมื่อเห็นกวินเดินเข้ามาภายในบ้านเธอก็รีบวิ่งเข้าไปและรับเสื้อสูทของเขามาถือเอาไว้แบบที่ชอบทำเป็นประจำ เธอยิ้มแย้มแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“เรียกผมกวินก็พอมั้ง”“แต่ตาเรียกคุณแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะคะ จะให้มาเปลี่ยนตอนนี้ก็คงยาก” ถึงแม้จะพูดแบบนั้นไปแต่ช่วงหลัง ๆ มานี้เธอเองก็ไม่ได้เรียกเขาว่าที่รักเหมือนกัน เพราะเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่จะเอ่ยเรียก“แล้วแต่คุณเถอะว่าจะเรียกอะไร” กวินพูดอย่างเหนื่อยใจและสาวเท้าขึ้นไปบนห้อง เพราะเวลาโกรธหญิงสาวจะเรียกชื่อ พอเวลาดีก็จะเรียกเขาว่าที่รักมักจะเป็นอย่างนี้เสมอมาลลิตามองสามีเดินขึ้นไปด้วยสายตาที่ตัดพ้อทั้งที่เมื่อก่อนเขาขอร้องให้เธอเรียกเขาว่าที่รักเองด้วยซ้ำ และเขาเองก็เรียกเธอว่าที่รัก ทำไมตอนนี้มันเปลี่ยนไปขนาดนี้มีแต่เธอที่ยังรักเขาเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นวันแรกหรือจนถึงทุกวันนี้หัวใจเธอก็มีให้เขาแค่คนเดียวเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะหมดรักเลย“คุณคงไม่ลืมว่าอีกสองวันต้องออกงานการกุศลของคุณหญิงภาด้วยกันใช่ไหม” กวินพูดออกมาอย่างช้า ๆ เพราะรู้สึกสบายตัวเมื่อลลิตานวดบ่าให้“ค่ะตา
“ใช่ค่ะตาเอง กวินเป็นอะไรรึเปล่าเหงื่อถึงได้ออกมาเยอะขนาดนี้”“เปล่าหรอกครับ สงสัยมื้อกลางวันกินเยอะเกินไป” กวินตอบปัดไปและจับหัวของปิ่นอนงค์ให้อยู่นิ่งเมื่อเธอยังคงขยับไม่ยอมปล่อย“แน่ใจนะคะว่าคุณโอเค”“ครับ สักพักเดี๋ยวมันก็หายแล้ว ตามีอะไรรึเปล่าครับ”“พอดีตาเห็นงบประมาณมันแปลก ๆ คุณลองตรวจสอบอีกรอบได้ไหม ตัวเลขมันคลาดเคลื่อนไป”“เรื่องแค่นี้เอง คุณให้เลขาของคุณมาบอกก็ได้ จะเดินมาให้เหนื่อยทำไม”“นี่มันเรื่องใหญ่นะกวิน อีกอย่างไม่ได้อยู่ไกลกันเลยลงมาแค่ชั้นเดียวก็ถึงแล้วนี่ค่ะ”“ตาครับผมอยากทำอะไรบางอย่าง” กวินพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและบีบแก้มปิ่นอนงค์แน่นและใช้สายตาให้เธอหยุด ปิ่นอนงค์ถึงยอมหยุดเพราะรู้ว่าเขากำลังโกรธแล้ว“อยากทำอะไรคะ”“ผมนึกถึงช่วงเวลาที่เราเคยมีด้วยกันในห้องนี้ คุณจำได้ไหม” เสียงแหบพร่าเอ่ยกระเส่าและลุกเดินออกมา ลลิตาถึงได้เห็นว่าแก่นกายของเขามันผงาดชูให้เห็น“เออ กวินนี่คุณมีอารมณ์เหรอ” ลลิตาพูดอย่างเขินอาย ตอนแรกเธอคิดว่าจะไม่โอเคกับสัมผัสจากเขา แต่พอเธอได้มาเห็นจริง ๆ กลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยหรือเป็นเพราะว่าเธอรักเขากันนะ“ใช่ครับ พอผมได้ยินเสียงคุณก็มีอาร
“พี่สะใภ้ยินดีต้อนรับกลับมาทำงานนะครับ” ภาคินเดินถือช่อดอกไม้เข้ามาในห้องทำงานและยิ้มกว้างเจือไปด้วยความอบอุ่นมาให้แบบที่เขาชอบทำ ไม่ว่าจะผ่านมากี่เดือนกี่ปีเขาก็ยังคงเป็นภาคินที่อ่อนโยน และคอยเอาใจใส่ต่อคนอื่นอยู่เสมอ“เรียกลลิตาเหมือนเดิมก็ได้นะคุณภาคิน เมื่อก่อนก็เรียกตาเฉย ๆ นิ” หล่อนยิ้มหวานและรับช่อดอกไม้มาถือ เป็นช่อดอกกุหลาบสีชมพูแบบที่เธอชอบ“เพราะคุณแต่งงานกลับพี่ชายผมไง ผมถึงต้องมาเรียกว่าพี่สะใภ้มันเป็นความผิดของคุณคนเดียวเลย” ภาคินแหย่เล่นและยิ้มไปด้วย แต่ลลิตากลับทำหน้าเศร้า“คงงั้นมั้งค่ะ คงเป็นความผิดของตาจริง ๆ” ลลิตาเสียงเศร้าและใบหน้าหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิตา คุณไม่เหมาะกับใบหน้าแบบนั้นเลย” เสียงทุ้มเอ่ยบอกและเอามือมาลูบแก้มเนียนทั้งสองข้างลลิตานิ่งเหมือนคุ้นเคยกับสัมผัสแบบนี้มาก่อน เธอมองหน้าของภาคินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสามีอย่างงุนงง ใบหน้าของเขาหล่อเหลาไม่แพ้กับกวินเพราะทั้งสองเป็นแฝดกัน ถ้าภาคินไม่ไปย้อมผมให้เป็นสีน้ำตาลออกทองเธอเองก็ยากที่จะดูออกว่าใครเป็นใคร“มองผมแบบนี้อยากพูดอะไรเหรอ” ภาคินยิ้มละมุนและลูบแก้มเนียนของหญิงสาวไปมาเหมือน
“ตาเรามาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”เมื่อกลับมาถึงบ้านกวินรีบจับแขนเล็กของลลิตาให้หยุดคุย เมื่อเห็นเธอเดินเร็ว ๆ ไม่ได้สนใจเขาอย่างที่เคย“กวินจะคุยอะไรคะ” เธอหันมาเผชิญหน้าและยิ้มให้แบบที่ยิ้มให้เขาอยู่ทุกวัน แต่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้นเธอกำลังเจ็บปวดเหลือเกิน“ทำไมอยู่ดี ๆ ตาถึงอยากกลับมาทำงาน”“คือบริษัทเป็นของตา แล้วตาจะเข้าไปทำงานไม่ได้เหรอคะกวิน”“ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น แต่ผมเคยบอกตาแล้วไงว่ากวินชอบผู้หญิงเรียบร้อยไม่ชอบให้ทำงาน แค่อยู่ดูแลบ้านเป็นภรรยาที่ดีรอกวินกลับมาบ้านเท่านั้นเองที่กวินต้องการ”“อ๋อ สงสัยตาจะเรียบร้อยเกินไป ถึงรอผัวกลับมาบ้านแต่ไม่เห็นผัวยักจะกลับมา เพราะมัวไปอยู่บ้านเล็กบ้านน้อยอยู่”“ตา คุณเริ่มอีกแล้วนะ ผู้หญิงพวกนั้นผมเลิกไปหมดแล้ว”“เหรอคะ แต่สิ่งที่ตาเห็นคือแม่เลขาของคุณยังอยู่ดีนี่คะ”“ปิ่นอนงค์กับผมไม่ได้เป็นอะไรกันเลยตา เธอเป็นแค่เลขาที่ทำงานดีเท่านั้นเอง”“อ๋อทำงานดี ทำดีมากจนถึงขั้นไปซื้อคอนโดให้กันเลยเหรอกวิน” เธอตั้งใจจะเก็บเงียบในสิ่งที่รู้มา แต่เขายังเลือกที่จะโกหกเธอต่อไปเธอเองก็ไม่ควรเงียบและโง่อยู่แบบนี้“ตานี่คุณสืบเรื่องของผมเหรอ”“ค่ะ ในเมื่อค
“แลกบัตรด้วยครับ”พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเข้ามากันไม่ให้สองสาวเข้าด้านใน พริ้งพลอยทำท่าจะวีนอีกครั้งเมื่อลูกน้องไม่รู้ว่าผู้หญิงข้าง ๆ เธอคือประธานบริษัท เจ้าของบริษัทตัวจริงที่เซ็นอนุมัติเงินเดือนให้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่ผู้รักษาความปลอดภัยคนนี้“ทำไมคุณผู้หญิงท่านนี้ต้องแลกด้วยล่ะครับ เพราะเธอเป็นประธานบริษัทสามารถเข้าออกได้ตามที่ต้องการ” เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากข้างหลัง“คุณภาคิน” ลลิตาเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงเบา“เออ ขอโทษครับ ผมคิดว่าคุณกวินเป็นประธานครับ ขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ” พนักงานรักษาความปลอดภัยหน้าซีดลงอย่างน่าสงสารที่เขาทำไปเพราะความปลอดภัยขององค์กรเท่านั้น“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะมันเป็นหน้าที่ของคุณฉันเข้าใจดี และขอบคุณที่เอาใจใส่ดูแลองค์กรมาเป็นอย่างดีนะคะ” ลลิตายิ้มให้อย่างอ่อนโยน และหยิบบัตรขึ้นมาแตะให้ประตูไม้กั้นเปิดออก“ก่อนที่คุณจะมาทำงานคุณควรอ่านประวัติให้ดี ๆ ก่อนนะครับ” ภาคินพูดเสียงราบเรียบ แต่สายตากับเย็นชา“ครับ ผมขอโทษครับ”ภาคินเหลือบมองด้วยสายตาที่เย็นลงเล็กน้อย และเดินตามสองสาวเข้าไป เพราะวันนี้เขาเองก็ต้องเข้าประชุมเช่นกัน“ขอโทษนะคะ ตอนนี้คุณกวินประชุ
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเด็กใหม่ของคุณอีกแล้วใช่ไหมกวิน”เมื่อกลับมาถึงบ้านลอะไรคะตาก็เริ่มเปิดปากถามสิ่งที่เธออยากรู้ เธอเองก็รู้ต่อให้ถามไปคนตรงหน้าก็ไม่มีทางตอบความจริงมาอยู่ดี“ตาคุณเอาอีกแล้วนะ ปิ่นเขาเป็นแค่เลขาของผมจริง ๆ”“เหรอคะ แค่เลขาแล้วทำไมต้องมองกันด้วยสายตาหยาดเยิ้มแบบนั้นด้วย” ไม่เห็นเธอพูดก็ไม่ใช่ว่าเธอจะโง่ที่จะไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร เห็นอยู่ตำตาแต่ยังคิดปฏิเสธได้อย่างหน้าด้าน ๆ“ตาคุณทำตัวแบบนี้ผมเบื่อนะรู้ไหม” กวินพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย และเสยผมไปมาอย่างหงุดหงิด“หึ คราวนี้คุณก็จะโทษตาอีกแล้วใช่ไหม ว่าตาเป็นคนที่น่าเบื่อชวนทะเลาะกับคุณ ถ้าตาไม่รักตาจะพูดเหรอ ตาคงปล่อยคุณไปเงียบๆ แล้ว คงไม่ตามไปหึงหวงอยู่แบบนี้หรอก กี่เดือนกี่ปีแล้วที่เราไม่ได้ทำหน้าที่สามีภรรยากันเลย ถ้าคุณหมดรักตาแล้วจริง ๆ งั้นเราก็มาหย่ากันเถอะ หย่ากันไปให้มันจบ ๆ ตาเหนื่อยแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน พอกันที”ลลิตาพูดไปและร้องไห้ไป เธอเลือกที่จะไม่มองหน้าของชายหนุ่มและเดินขึ้นห้องไปด้วยเสียงที่สะอื้นดังมาให้คนข้างล่างได้ยิน เธอตัดสินใจแล้ว ถ้าไม่ได้รักกันแล้ว ก็หย่ากันไปเถอะ ไปทางใครทางมันดีซะกว่าอีกกวินย
วันงานการกุศลกวินควงภรรยาสาวสุดสวยเข้ามาภายในงานผู้คนเห็นต่างรีบกดถ่ายภาพรัว ๆ เพราะสามารถนำคู่รักคู่นี้ไปขายข่าวได้อีกหลายวัน เพราะเป็นคู่รักร้อยล้านหมื่นล้านเลยก็ว่าได้ ทั้งคู่อายุยังน้อยแต่สามารถบริหารธุรกิจได้จนขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของวงการอสังหาริมทรัพย์ลลิตายิ้มให้สื่อและพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เธอยิ้มให้กับสื่อมวลชน และหันมายิ้มให้กับสามีที่มองมาที่เธอเช่นกันมือหนาเข้ามาปัดผมทัดใบหูของหญิงสาวและลูบแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา และยิ้มให้เล็กน้อย“มาแล้วเหรอคะคู่รักกิ่งทองใบหยก คุณลลิตาแต่งงานมา 5 ปีแล้วทำยังไงให้สามียังรักยังหลงเหมือนวันแรก ๆ ค่ะ บอกภาหน่อยสิคะ” สาวรุ่นใหญ่ในวงการเอ่ยถามเพราะตนรู้สึกเอ็นดูคู่รักคู่นี้มาก ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวยตัวเล็กน่ารักน่าทะนุถนอม พอมาอยู่ด้วยกันมันยิ่งกว่าคำว่าเพอร์เฟกต์ หล่อนจึงชอบชวนสามีภรรยาคู่นี้ออกงานตนอยู่บ่อย ๆ“คุณภาครับจะไม่ให้ผมคลั่งภรรยาของผมได้ยังไงกันละครับ ดูเธอสิสวยไม่เคยเปลี่ยน ไหนจะเรื่องดูแลบ้านอีกเธอดูแลดีอย่างไม่มีตกบกพร่องเลยครับ”“เพราะเป็นแม่ศรีเรือนใช่ไหม ถึงได้ตกคุณกวินอยู่หมัดแบบนี้ สงสัยภาต้องจำนำไปใ
“ที่รักค่ะ คุณกลับมาแล้ว มาเหนื่อยๆ ตาเตรียมน้ำอุ่นให้อาบนะ” ทันทีเมื่อเห็นกวินเดินเข้ามาภายในบ้านเธอก็รีบวิ่งเข้าไปและรับเสื้อสูทของเขามาถือเอาไว้แบบที่ชอบทำเป็นประจำ เธอยิ้มแย้มแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“เรียกผมกวินก็พอมั้ง”“แต่ตาเรียกคุณแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะคะ จะให้มาเปลี่ยนตอนนี้ก็คงยาก” ถึงแม้จะพูดแบบนั้นไปแต่ช่วงหลัง ๆ มานี้เธอเองก็ไม่ได้เรียกเขาว่าที่รักเหมือนกัน เพราะเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่จะเอ่ยเรียก“แล้วแต่คุณเถอะว่าจะเรียกอะไร” กวินพูดอย่างเหนื่อยใจและสาวเท้าขึ้นไปบนห้อง เพราะเวลาโกรธหญิงสาวจะเรียกชื่อ พอเวลาดีก็จะเรียกเขาว่าที่รักมักจะเป็นอย่างนี้เสมอมาลลิตามองสามีเดินขึ้นไปด้วยสายตาที่ตัดพ้อทั้งที่เมื่อก่อนเขาขอร้องให้เธอเรียกเขาว่าที่รักเองด้วยซ้ำ และเขาเองก็เรียกเธอว่าที่รัก ทำไมตอนนี้มันเปลี่ยนไปขนาดนี้มีแต่เธอที่ยังรักเขาเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นวันแรกหรือจนถึงทุกวันนี้หัวใจเธอก็มีให้เขาแค่คนเดียวเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะหมดรักเลย“คุณคงไม่ลืมว่าอีกสองวันต้องออกงานการกุศลของคุณหญิงภาด้วยกันใช่ไหม” กวินพูดออกมาอย่างช้า ๆ เพราะรู้สึกสบายตัวเมื่อลลิตานวดบ่าให้“ค่ะตา
“สวัสดีค่ะคุณกวิน” เหล่าพนักงานในบริษัทเครือชื่อดังเอ่ยทักเจ้าของบริษัทเมื่อเดินเข้ามาด้วยความเร่งรีบ กวินดูนาฬิกาข้อมือของตนเองที่ใกล้เวลาประชุมเข้ามาทุกที ที่เขาช้าได้แบบนี้เพราะลลิตาคนเดียว ทำไมเธอพูดไม่รู้เรื่อง ทำไมเอาแต่ร้องไห้ มองกี่ครั้งมันก็น่าเบื่อจนไม่อยากจะเห็นหน้าของเธออีกต่อไป“สวัสดีค่ะคุณกวิน เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหมคะ” เลขาสาวหน้าห้องเอ่ยทักทายและยิ้มหวานมาให้ กวินได้แต่ยิ้มให้เล็กน้อยและเดินเข้าห้องไปเพราะการประชุมจะเริ่มในไม่ช้า พร้อมกับเหล่าผู้บริหารคนอื่น ๆ ที่นั่งรอในห้องอยู่แล้ว“ตา ยัยตา ลลิตาแกเหม่อลอยอะไรของแก” พลอยเพื่อนสาวคนสนิทหนึ่งเดียวของลลิตาเอ่ยเรียกหญิงสาวเสียงดังเมื่อเธอพยายามเรียกหลายครั้งแล้วแต่หญิงสาวกลับไม่มีอาการตอบสนอง เธอเหม่อลอยเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“ฮะ! มะ ไม่มีอะไร” เธอหันมาปฏิเสธและนั่งเขี่ยเค้กไปมา เพราะเธอนั้นกินอะไรไม่ลงเลยจริง ๆ หลายวันมานี้“ยังมีปัญหากับคุณกวินอยู่อีกเหรอ” พลอยถามอย่างเห็นใจเพื่อน เพราะหล่อนนั่งเศร้าแบบนี้มาได้สามหรือสี่ปีได้แล้วซึ่งเธอเองก็ไม่แน่ใจเพราะมันยาวนานเหลือเกินทั้งที่จริงหญิงสาวเป็นคนที่ร่าเริง ช
ผู้หญิงทุกคนต่างวาดฝันว่าความสำเร็จในชีวิตของลูกผู้หญิงคือการแต่งงาน การแต่งงานคือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับลูกผู้หญิงอย่างเรา ๆหญิงใดเมื่อผ่านพิธีแต่งงานนั้นทุกคนจะคิดว่าเธอคนนั้นจะมีความสุขที่สุด บางคู่ต่อหน้ากล้องยิ้มแย้มแต่ลับหลังกลับหน้าชื่นอกตรมเหมือนอย่างเช่น ลลิตา คนนี้ที่ทุกคนต่างยินดีตอนที่เธอแต่งงานกับหนุ่มรูปงามไฮโซธุรกิจหมื่นล้าน แรก ๆ อะไรก็หวานแต่นาน ๆ เข้ามันก็ขม ขมจนแทบไม่อยากมีชีวิตชีวิตการแต่งงานของหล่อนผ่านมาแล้วถึง 5 ปี ช่วงปีแรกมันก็ดีไปเสียหมดชี้ไม้เป็นนกชี้นกเป็นไม้ เขาถึงได้เรียกข้าวใหม่ปลามันแต่พอช่วงหมดโปรแรก ๆ ก็รัก หลัง ๆ แทบไม่อยากเห็นหน้า“ยังดีที่คุณยังจำได้ว่ามีบ้านหลังนี้อยู่” ลลิตาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งที่ผ่านการร้องไห้มาหลายวัน ทำไมเธอถึงร้องไห้นะเหรอ เพราะสามีเฮงซวยคนนี้แอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยตลอด พอเธอจับได้เขาก็เลิกแต่ก็เปลี่ยนผู้หญิงคนใหม่“รำคาญ” กวินเอ่ยด้วยความรำคาญเขาเลือกที่จะกลับมาตอนช่วงเช้ามืด เพราะคิดว่าลลิตาคงหลับอยู่ แต่ที่ไหนได้ไม่คิดว่าหญิงสาวจะยังรอเขากลับมาอยู่แบบนี้“รำคาญเหรอคะ ตาคงน่ารำคาญมากคุณถึงได้คอยออกไปหากินข้างนอก”“อ