หน้าหลัก / โรแมนติก / สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา / บทที่ 1 อยู่ ๆ ก็มีสามีและบุตรชาย

แชร์

สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา
สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา
ผู้แต่ง: Lovedee

บทที่ 1 อยู่ ๆ ก็มีสามีและบุตรชาย

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-12 23:18:20

ลินลี่สาวโสดวัยสามสิบกว่าๆ ที่เพิ่งพบว่าแฟนหนุ่มของตนเองมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทของตนเอง ลินลี่รับไม่ได้จึงเสียใจและผิดหวังอย่างมาก จึงประชดชีวิตจอดรถที่ปากซอยทางเข้าบ้านของตนเองแล้วลงไปดื่มยาดองอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ป้าใจคนขายยาดองนำเสนอสูตรใหม่่ที่เพิ่งคิดค้นขึ้นมาให้ลองชิม เมื่อดื่มไปเรื่อย ๆ ก็พบว่ามันอร่อยอย่างไม่ที่ไม่คาดคิด จึงได้ดื่มไปจนเมามายแล้วฟุบหลับไป แต่เมื่อฟื้นสติขึ้นมาอีกครั้ง กลับพบว่าตนเองนอนอยู่บนพื้นดินแข็ง ๆ แถมมองขึ้นไปด้านบนหลังคายังมุงด้วยใบจากอีกด้วย หันมองไปรอบๆห้องเก่าๆนี้ที่มันสร้างมาจากไม้ไผ่ที่ค่อนข้างเก่าสานเป็นแผ่นแล้วประกอบเข้าด้วยกันแต่ก็ยังมีรูทำให้มองเห็นแสงสว่างลอดเข้ามาในห้องตามรอยแยกของไม้ไผ่ และในห้องนี้มันยังมีหม้อที่ทำจากดินเผาที่ก้นมันดำมากแขวนอยู่ที่ริมผนัง สภาพของมันคงจะผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบันไม่น้อย มีเตาไฟที่น่าจะปั้นขึ้นมาจากดินเหนียวที่มีคราบเขม่าจับจนดำไปหมด และมีโต๊ะไม้เก่าๆที่ใช้วางถ้วยจานชามและหม้อสองสามใบ มีกองฟืนอยู่ข้าง ๆ เตาไฟนั้น 

ลินลี่ที่ยังมึนงงกับสถานที่และสมองยังไม่ประมวลผลว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเองถึงได้มานอนอยู่บนพื้นที่ดูเหมือนห้องครัวเก่าๆแห่งนี้  หล่อนครางออกมาเบาๆยกสองมือขึ้นกุมศีรษะตนเอง “ เจ็บๆโอ้ย!! เจ็บเหลือเกินเหมือนหกล้มหัวฟาดพื้นมา “ แต่ เอ๊ะ ฉันจะล้มหัวฟาดพื้นได้ยังไง ก็เมื่อวานนี้จำได้ว่ากำลังก๊งเหล้ากับลุงข้างบ้านที่พบกันที่แผงยาดองหน้าปากซอยจนเมามาย สาเหตุก็เพราะเจ้าคนทรยศนั่นกับนังเพื่อนทรยศที่มันไปแอบมีความสัมพันธ์กันลับหลัง ลินลี่คิดทบทวนเหตุการณ์เท่าที่จำได้ แต่แล้วอยู่ ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆ ” ท่านแม่ เป็นอย่างไรบ้างขอรับ “ เสียงนั่นมันเป็นเสียงของเด็กชายวัยไม่่น่าจะเกินห้าขวบ รูปร่างผอมเกร็ง ตัวดำเพราะสกปรก เหมือนไม่อาบน้ำมาหลายวันแล้ว แถมเสื้อผ้าที่ใส่ก็ขะมุกขะมอมเหลือเกิน แต่ที่เห็นเด่นชัดคือลูกตาที่ใสแจ๋วแหว๋วนั้น ลูกใครกันหนอ 

” ท่านแม่ขอรับ ตอบข้าด้วยขอรับ ท่านเจ็บมากหรือไม่ " ลินลี่หันมองไปมาจนทั่วห้องครัวแคบ ๆนี้จนทั่วห้อง พบว่ามีเพียงแต่ตนเองกับเด็กชายคนนี้เท่านั้น 

“ เด็กน้อยเจ้าเรียกใครว่าแม่ ” ดวงตาใสแจ๋วของเด็กชายเหมือนพองขยายมากขึ้นอย่างงุนงงกับคำถามนั้น “ ก็เรียกท่านอย่างไรขอรับ ท่านแม่จำข้าไม่ได้หรือขอรับ ข้าอาเหวินบุตรชายของท่านอย่างไรเล่า ” ดวงตาใสแจ๋วนั้นเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอตาขึ้นมา ลินลี่ไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อเห็นเด็กทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา จึงได้รีบรับปากเด็กชายส่งๆไปก่อนด้วยไม่อยากจะเห็นเด็กน่ารักคนนี้ร้องไห้ “ ก็ได้ ๆ ข้าเป็นแม่ให้เจ้าก็ได้ ” ลินลี่เอ่ยขึ้นแล้วค่อยๆยันตัวลุกขึ้น แล้วก้มมองดูตัวเองที่ตอนนี้อยู่ในเสื้อผ้าเหมือนชุดคนจีนสมัยโบราณลักษณะเหมือนชาวบ้านทั่วไปตามชนบทที่เคยเห็นในซีรี่ย์ แต่มองดูแล้วมันเก่าๆซีดๆ เหมือนใช้งานมาจนสมบุกสมบันดังเช่นข้าวของในห้องครัวหรือแม้กระทั่งกระท่อมซอมซ่อนี้ไม่มีผิด 

หล่อนยกสองมือขึ้นมาดูก็พบว่าว่ามันมีรอยด้านเหมือนมือของคนทำงานหนักแม้มือนี้จะบอบบางไม่น้อย แต่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่มือของคนรวยที่สบายมาทั้งชีวิตอย่างแน่นอน ลินลี่ถอนใจออกมา ฉันฝันไปหรือไม่ ทำไมมันเหมือนจริงอย่างนี้ แล้วก็หันไปมองหน้าเด็กชายข้างๆ ดูแล้วเจ้าเด็กนี่คงจะอดมื้อกินมื้อไม่น้อย รูปร่างทั้งผอมโซเหมือนกินไม่เต็มอิ่มมาเป็นเวลานาน เสื้อผ้าที่สวมก็เก่าปอนเนื้อผ้าซีดจนแทบจะจำสีเดิมของมันไม่ได้ เด็กน้อยเอ๋ย ช่างน่าสงสารเหลือเกิน ขณะที่มองจ้องมองดูเด็กแล้วก็ก้มลงมือดูเสื้อผ้าตนเองที่กำลังสวมอยู่ก็ดูไม่ต่างกัน คนบ้านนี้คงจะยากจนอย่างมาก แต่ทำไมวาสนาของข้ามันช่างน้อยเช่นนี้ ย้อนเวลาทั้งทีแทนที่จะได้เป็นคุณหนูในจวนใหญ่ที่ร่ำรวยหรือไม่ก็เป็นพระชายาของท่านอ๋องหล่อๆสักคน แต่กลับย้อนเวลามาในยุคจีนโบราณที่เป็นชนบทแถมยังยากจนอีกต่างหาก จนขนาดที่ว่าแทบจะไม่มีกิน เฮ้อ วาสนาของลินลี่คนสวยทำไมเป็นเช่นนี้หนอ !! 

ขณะที่นั่งทอดถอนหายใจด้วยความสมเพชทั้งตนเองและเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ “ อาเหวิน เจ้าชื่ออาเหวินใช่หรือไม่ ” ลินลี่เอ่ยถามเด็กชาย เขาพยักหน้ารับทันทีแล้วยกมือดำๆของเขาขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ “ ท่านแม่เรียกข้าทำไมหรือ” เขาเอ่ยถามเหมือนดีใจที่นางจดจำเขาได้ “ กระท่อมที่เราอยู่นี้อยู่กันกี่คน มีเจ้ากับข้าและยังมีผู้อื่นอีกหรือไม่ ” อาเหวินทำหน้างงๆ ท่านแม่พูดอะไรแปลกๆ อีกแล้ว “ บ้านนี้ก็มีท่านแม่ ท่านพ่อ แล้วก็ข้า เพียงสามคนขอรับ แต่ตอนนี้ท่านพ่อขาหักยังนอนอยู่ในห้องนอนขอรับ “ เด็กชายตอบ ลินลี่อึ้งงันไป ข้าย้อนเวลากลับมามีทั้งลูกทั้งสามีอย่างงงๆ เฮ้อ !! จากสาวโสดที่ก็ยังสดอยู่นะแม้จะมีแฟนมาก็หลายปีแล้ว แต่ก็ดีแล้วที่ไม่เสียซิงให้เจ้าคนทรยศนั่น แต่อยู่ ๆก็ต้องมามีสามีที่ไม่เคยเห็นหน้าตาและลูกชายที่อายุน่าจะสี่ห้าขวบแล้ว ” อาเหวิน เจ้าอายุเท่าไหร่กันแล้ว “ เด็กชายแม้จะยังทำหน้างงๆที่จู่ๆมารดาก็ถามเขาเรื่องอายุของเขา ” ท่านแม่ อาเหวินอายุห้าหนาวแล้วขอรับ “ ลินลี่พยักหน้ารับ ชั้นมีลูกอายุห้าขวบที่ไม่ได้ผลิตเองด้วย เฮ้อ !! แต่ก็ช่างมันเถอะ คิดมากก็ปวดหัวค่อยๆแก้ปัญหาไปก็แล้วกัน

ตอนนี้มันจะฝันหรือจะย้อนเวลามาจริงๆก็ตามแต่สิ่งที่เกิดตรงหน้ามันก็เหมือนจริงจนเกินไป คงจะต้องตามน้ำไปก่อน ในเมื่ออยู่ ๆมันย้อนเวลามาได้ และอยู่ ๆก็อาจจะย้อนเวลากลับไปได้เช่นกัน ลินลี่คิดอย่างปลงๆ แล้วค่อยๆยันตัวลุกขึ้น เมื่อขยับกายไปมาพอให้คลายเมื่อขบแล้ว หัวก็เริ่มบรรเทาความเจ็บลงมากแล้ว  จึงได้เดินออกมาจากห้องครัวนั้นแล้วหันมองไปรอบๆก็พบว่าเรือนนี้มันเป็นเรือนที่สร้างจากไม้เก่าๆมีเพียงส่วนที่เป็นครัวที่สร้างจากไม้ไผ่ก็พอจะกันแดดกันฝนได้หากไม่เจอพายุลูกใหญ่ๆนะ แล้วก็หันไปพบโอ่งดินเผาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลประตูทางเข้าครัวนักมีขนาดเกือบจะเท่ากันสองใบ และมีตั่งไม้เก่าๆวางอยู่ข้างๆบนตั่งไม้เตี้ยๆนั้นมีอ่างใบใหญ่ที่ทำจากดินเผาวางอยู่ด้วย จึงได้เดินไปเปิดฝาโอ่งที่ทำจากไม้ไผ่สานกันเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีกับปากโอ่งแล้วนำมาปิดปากโอ่งเอาไว้ เพื่อกันสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองหล่นลงไป แล้วหันมาถามเด็กชายว่า ”น้ำที่ใช้กินโอ่งไหนกัน“ เขาชี้มือไปที่โอ่งที่มีขนาดเล็กกว่า ลินลี่จึงหันไปเปิดฝาโองตรงหน้า

เมื่อเปิดออกก็พบน้ำใสอยู่เต็มโอ่งนี่อาจจะเป็นน้ำฝนกระมัง นางจึงใช้ขันเก่าๆที่วางอยู่บนแผ่นไม้ไผ่นั้นตักน้ำมาล้างหน้าบ้วนปากพอให้สดชื่นแล้วรวบผมที่ยุ่งเหยิงให้เป็นมวยไว้บนศีรษะ นางคลำพบปิ่นไม้เก่าๆที่ปักอยู่ จึงได้จับมันปักลงบนมวยผมนั้นให้แน่นหนา คนจนๆไม่มีเงินซื้อปิ่นดีๆอย่างที่เคยเห็นคุณหนูในห้องหอในซีรี่ย์ที่เคยดูบ่อยๆใช้ แม้แต่ปิ่นไม้ที่ปักบนผมก็ยังดูสมบุกสมบัน เฮ้อ !! ไม่ว่ายุคๆ ไหน ๆเงินก็สำคัญไม่ต่างกัน แต่ยุคนี้มันคงจะพอหาเผือกหามันกินได้กระมัง เมื่อสดชื่นดีแล้วจึงได้เดินกลับเข้าไปในครัวแล้วค้นหาข้าวของในห้องครัวว่าพอจะมีอะไรที่ใช้ประกอบอาหารได้บ้าง ค้นพบข้าวสารในหม้อที่วางไว้บนพื้นอยู่ครึ่งหม้อดินเผา และพบไข่ไก่วางอยู่ในตระกร้าสานจากไม้ไผ่ใบเก่าๆอยู่ห้าฟอง มีผักกาดดอง มีกระเทียมมีหอมหัวใหญ่อยู่ไม่มาก และมีผักกาดขาว มีกระหล่ำอยู่หัวหนึ่ง ก็ยังพอทำอาหารได้ ตอนนี้ทำกับข้าวกินกันก่อนให้ท้องอิ่มก่อนแล้วค่อยคิดแก้ไขปัญหาก็แล้วกัน 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 2 แม่บ้านจำเป็น

    ลินลี่ทุบกระเทียมและลงมือหั่นกระหล่ำหัวนั้นโดยแบ่งหั่นแค่เพียงครึ่งซีก หั่นเป็นชิ้นไม่ใหญ่นัก ค้นได้ต้นหอมเล็กน้อย จึงได้ตัดรากมันแล้วนำใส่ในอ่างดินเผาเก่าๆรวมกับกะหล่ำที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว เดินออกไปล้างที่โอ่งด้านนอกจนสะอาดดีแล้วจึงลงมือทุบกระเทียม และตอกไข่ใส่ในชามดินเผาแล้วก็ใช้ตะเกียบตีไข่แล้วใส่ต้นหอมที่ซอยแล้วลงไป แล้วค้นหาเครื่องปรุงก็ไม่มีแต่พบเกลือที่ยังเหลืออยู่อีกไม่มากแล้ว หยิบลงใส่ในชามไข่ไปเล็กน้อยใช้ตะเกียบอันเดิมคนจนละลาย จากนั้นก็ก่อไฟแต่ก็ไม่มีไม้ขีดขณะที่กำลังหมุนไปมาอยู่นั้น อาเหวินที่เฝ้ามองมารดาของตนกำลังลงมือทำอาหารและเห็นว่านางทำท่าเหมือนจะก่อไฟไม่เป็นจึงได้เอ่ยขึ้นว่า “ อาเหวินก่อไฟเป็น ข้าจะลงมือก่อไฟให้ท่านแม่เอง ” เขาเอ่ยขึ้นแล้วเดินมาที่เตาไฟ “ ถ้าเช่นนั้นเจ้าก่อไฟให้แม่ ” ลินลี่หันไปบอกกับอาเหวิน เขาเดินเข้ามาแล้วจัดการนำฟืนที่เป็นเศษไม้เล็กๆมาก่อแล้วจึงได้ใช้หินสองก้อนที่วางอยู่ด้านล่างมาเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟขึ้นมาแล้วจุดกับเศษไม้ที่เหมือนเป็นไม้ที่มียางไม้เคลือบเอาไว้ มันติดไฟอย่างรวดเร็วเด็กชายนำมันมาจุดที่ในเตาไฟที่เขานำเศษไม้มาก่อเอาไว้จนมันลุกโพล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 3 ข้าไม่กินของเจ้า

    จางซูเม่ยเดินถือจานอาหารเดินตรงไปที่ห้องสุดท้ายของเรือน แล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องที่ดูไม่สว่างเท่าใดนัก เพราะในห้องไม่เปิดหน้าต่าง นางจึงได้เปิดประตูทิ้งเอาไว้ เดินเข้าไปก็เห็นมีชายร่างผอมคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง ชายคนนั้นผอมจนแก้มตอบ หนวดเครารุงรังไม่น้อยคงไม่ค่อยมีใครตัดให้เขาและดูแลปรนนิบัติเขา เพราะตอนนี้ชายคนนี้ก็ดูแลตนเองไม่ได้ คงได้แต่นอนซมอยู่บนเตียงเพียงเท่านั้น เขาหันมาจ้องมองนางอย่างแปลกใจ “ เจ้าเข้ามาทำอะไร ออกไปนะ ” เขาเอ่ยเหมือนตะคอกทันทีที่เห็นหน้าของซูเม่ย “ ข้าเอาข้าวมาให้กิน ท่านก็กินเสียเถอะ ” ลินลี่เอ่ยขึ้นแล้วยกจานข้าวไปวางที่ข้างโต๊ะของเขา “ อาหารในครัวไม่ค่อยจะมีแล้ว ตอนนี้อาเหวินก็กินแล้ว ข้าแบ่งมาให้ท่านกินเสียเถอะจะได้มีเรี่ยวแรง จะได้หายป่วยไวๆ ” ลินลี่เอ่ยขึ้น สะท้อนใจเล็กน้อยที่เห็นชายร่างผอมนอนซมอยู่โดยที่ขาอีกข้างก็มีผ้าพันเอาไว้ แผลนั้นคงจะหายแล้วแต่กระดูกคงจะยังไม่ประสานกันจึงทำให้เดินไม่ได้ และการใช้ชีวิตของเขามันอดอยากแร้นแค้นปากนี้ ร่างกายจะแข็งแรงพอที่จะหายป่วยไวๆได้อย่างไรกัน “รีบกินเข้าเถอะ เสียดายของในห้องครัวก็แทบจะไม่มีอะไรจะกินแล้ว ” ลินลี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 4 นางเปลี่ยนไป

    เมื่อคล้อยหลังสตรีที่เขาเคยรังเกียจนางจนแทบไม่อยากจะมองหน้า นางเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้ นางนำเงินในบ้านออกไปซื้อของฟุ่มเฟือยแล้วแต่งตัวงดงามออกไปเที่ยวที่ในเมือง คบหาชายอื่น แถมยังเอาเงินและข้าวของในบ้านไปให้ป้าและพี่สาวที่เคยเลี้ยงดูนางมาจนแทบจะหมด ปล่อยให้พวกเขาขูดรีดจนบ้านนี้แทบไม่มีอะไรจะกิน ยิ่งเขามาเจ็บป่วยจนไม่สามารถหาเงินเข้าบ้านได้ยิ่งทำให้เขาและบุตรชายแทบจะอดตายอยู่รอมร่อ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนนี้ขาหักยังไม่หายจึงได้แต่ทำใจว่าหากนางทิ้งไปในเร็ววันนี้เขาและบุตรชายคงจะอดตายกันอยู่ที่บ้านหลังนี้อย่างแน่นอนแต่อยู่ ๆนางก็เปลี่ยนไป นางมาทำดีกับพวกเขาเช่นนี้ต้องการอะไร ทั้งบ้านไม่มีสมบัติอะไรจะให้นางได้ เขาก็เหลือเพียงชีวิตและบ้านเก่า ๆและบุตรชาย นางจะหวังอะไรจากพวกเขากันถึงได้แสร้งทำตัวเป็นคนดี เป็นแม่บ้านแม่เรือนอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อก่อนนางเกียจคร้านยิ่งกว่าอะไร แต่วันนี้ถึงกับทำกับข้าวให้เขากับบุตรชายกินแล้วยังทำความสะอาดบ้านเสียสะอาด และยังเอาซื้อผ้าไปซักอีกด้วย แทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็นนี้เลยด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรขึ้นกับนางกัน ขณะที่ตงเฟยหยากำลังครุ่นคิดถึงภรร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 5 จัดการคนเห็นแก่ตัว

    หลังจากจัดการอาหารเย็นให้ทั้งสองพ่อลูกที่ไม่ได้กินอาหารอร่อยและอิ่มท้องเท่านี้มาเกือบสองเดือนแล้ว ทำให้ทั้งบ้านมีบรรยากาศที่มีความสุขขึ้น ใบหน้าบึ้งตึงเกือบตลอดเวลาที่พบหน้ากันของสามีในนามของลินลี่ในร่างของซูเม่ยตอนนี้ดูผ่อนคลายลงมาก ซูเม่ยเดินเข้าไปในห้องนอนของเขาอีกครั้งในเวลาก่อนนอน “ ท่านจะถ่ายหนักเบาหรือไม่ ” เขาเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหวานของหญิงตรงหน้าแม้นางจะไม่ได้แต่งกายงดงามและไม่ได้แต่งเติมใบหน้าแต่นางก็เป็นหญิงงามผู้หนึ่งที่ในวันนี้นางดูงามกว่าตอนที่นางแต่งเติมใบหน้าจนหนาเตอะอย่างที่ผ่านมาด้วยซ้ำไป และวันนี้นางทำตัวดีมากสมกับเป็นแม่บ้านแม่เรือนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาจำต้องแต่งนางเข้ามา “ ข้าจัดการเองได้ ” เขาเอ่ยด้วยใบหน้าแดงระเรื่อนิดๆ ที่นางมาเอ่ยเรื่องการทำกิจธุระส่วนตัวของเขา “ ไม่ต้องอายหรอกน่า ข้าจะจัดการให้ท่านเอง ” ซูเม่ยคนใหม่เอ่ยขึ้นแล้วก็ก้มลงหยิบถังที่เขาใช้ถ่ายเบาขึ้นมาถือไว้แล้วนำออกไปเททิ้งที่ห้องสุขาเล็กๆนอกตัวบ้าน แล้วจัดการล้างทำความสะอาดแล้วก็นำกลับมาวางไว้ในห้องให้เขาตามเดิม เฟยหยาอดีตนายพรานมือฉกาจจ้องมองการกระทำของหญิงตรงหน้าด้วยใบหน้าแดงระเรื่อด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 6 นางเก่งกาจยิ่งกว่าเดิม

    แต่หญิงร่างอวบอิ่มเช่นซูเม่ยที่วิญญาณในร่างไม่ใช่คนเดิมจึงได้ยกไม้ยาวที่พาดเอาไว้ที่ข้างฝาขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “ ก็ลองเข้าไปค้นดูสิ ถ้าไม่ฟาดให้หน้าหงาย อย่ามาเรียกว่าซูเม่ย ” ลินลี่ในร่างซูเม่ยเอ่ยด้วยใบหน้าขึงขัง แม้ไม่ได้เก่งกาจอะไรแต่ก็พอจะเคยได้ร่ำเรียนศิลปะการป้องกันตัวมาบ้าง วันนี้จะต้องจัดการกำจัดคนเห็นแก่ตัวสองคนนี้ให้ออกไปจากชีวิตของครอบครัวที่น่าสงสารนี้ให้ได้ “ หนอย !! นังซูเม่ย กล้าเหรอ น้ำหน้าอย่างแกจะทำอะไรพวกข้าได้ ” คนเป็นลูกสาวเงื้อมือเหมือนจะโผเข้ามาตบซูเม่ยที่ยืนป้องกันครัวของบ้านนี้เอาไว้ นางจึงได้ยกเท้าถีบอย่างแรงไปที่หน้าอกของหญิงตรงหน้าจนนางกระเด็นล้มลงก้นกระแทกเสียงดังผลั๊ก สองแม่ลูกตะลึงงันที่อยู่ซูเม่ยนั้นกล้าสู้พวกตน เพราะอดีตที่ผ่านมาซูเม่ยยอมให้ทั้งสองทุบตีโขกสับมาตลอด ไม่เคยกล้าหือเลยสักครั้งเดียว คนเป็นลูกสาวนั้นจุกไม่น้อยเลยได้แต่นั่งแปะอยู่บนพื้นเช่นเดิม ส่วนคนเป็นแม่ก็ปรี่เข้ามาจะตบกับซูเม่ยจึงถูกถีบลงไปนั่งแปะบนพื้นไม่ไกลจากบุตรสาวของตนนัก แต่คนแก่ร่างกายไม่แข็งแรงย่อมจะเจ็บตัวกว่าคนหนุ่ม จึงได้ร้องโอดโอยออกมา “ ข้าจะไปฟ้องหัวหน้าหมู่บ้านว่าถูกนังซูเม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 7 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    หลังจากกินอาหารเช้าแล้ว ซูเม่ยก็เดินออกมาที่บริเวณหลังบ้านที่เห็นต้นกล้วยเมื่อวาน กล้วยนี้คงจะเอามาทำเป็นกล้วยนึ่งก็จะกินอร่อยขึ้นมาอีก เลือกกล้วยลูกห่ามๆ เอามานึ่งเวลากินมันจะเคี้ยวหนุบหนับน่ากินไม่น้อย บุตรชายคงจะชอบกินแล้วก็อิ่มด้วย และมองไปเห็นดงผักบุ้งที่ขึ้นอยู่ พรุ่งนี้เช้าคิดว่าจะเก็บไปผัดและเกินสำรวจสวนครัวที่มันไม่ค่อยมีคนเอาใจใส่ก็พบต้นพริกแดงสองต้นขณะนั้นอาเหวินวิ่งตรงมาหา “ อาเหวินเจ้าไปเอาถังตักน้ำมารดพวกต้นไม้พวกนี้นะ แม่จะบอกเจ้าว่าให้รดต้นอะไรบ้าง ” อาเหวินรับคำแล้ววิ่งเหยาะๆ กลับเรือนไป ครู่ใหญ่เขาจึงได้กลับมา ซูเม่ยบอกให้เขารดน้ำต้นไม้และผักสวนครัวที่จะเอาไว้เก็บกิน นางลงเก็บพริกแดงไปกำหนึ่งจะเอาไว้ผัดกับผักบุ้ง เสียดายไม่มีกะปิที่จะเอามาตำได้ ทอดไข่ก็คงจะดี “ ท่านแม่อาเหวินตกปลาเป็นนะขอรับ ท่านอาเหยาสอนข้า ให้ตกเบ็ดเพื่อหาปลาเอามาย่างกิน ” เขาเอ่ยอวดนางด้วยความภาคภูมิใจ “ เก่งมากลูก เจ้าไปเอาคันเบ็ดมาตกปลาก่อนที่แดดจะร้อน หากได้ปลาแม่จะทอดให้เจ้ากินพรุ่งนี้ ” เขายิ้มกว้างด้วยใบหน้าดีใจยิ่ง ซูเม่ยครุ่นคิด “ เจ้าข้าเอ้ย ลูกไม่ได้คิดจะทำบาปให้ผิดศีลข้อหนึ่งเลยเจ้าค่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 8 สามีในนามที่กลายเป็นสามีจริงๆ nc

    ซูเม่ยที่กำลังตกตะลึงงันอ้าปากค้างกับการกระทำของสามีในนามนั้น จึงทำให้ลิ้นสากที่ร้อนรุ่มของคนที่นางกำลังนั่งอยู่บนตักเขา สอดเข้าในปากอวบอิ่มของนางแล้วควานหาลิ้นเล็กของนางจนพบ แล้วเข้าเกี่ยวพันมันอย่างดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นเร่าร้อน เขาทั้งจูบทั้งดูดลิ้นของนางจนซูเม่ยเคลิบเคลิ้มไปกับจุบพิตที่แทบจะสูบวิญญาณนั้น ตัวของนางอ่อนระทวยพิงอกแกร่งของสามีในช่องท้องเหมือนมีผีเสื้อกระพือปีกนับร้อยนับพันจูบผู้ชายเป็นเช่นนี้หรือ ลินลี่ที่หวงตัวเกินไปไม่เคยจูบแม้กระทั่งแฟนเก่า แต่กลับมาเสียจูบแรกให้กับคนที่กำลังตักตวงความหวานในปากอวบอิ่มของตนเอง ลินลี่ในร่างซูเม่ยเคลิบเคลิ้มไปหมด ร่างกายอ่อนระทวยจนยอมให้เขาจูบจนพอใจ ริมฝีปากร้อนรุ่มนั้นเมื่อถอนจูบที่เขาจูบนางจนพอใจแล้ว ก็ไล้เลียใบหน้าหวานและใบหูเล็กของนางจนร่างอวบครวญครางกระเส่า “ อ๊าา อ๊าา อ๊ะ อ๊า อ๊า ” เขาไล้เลียจนมาถึงร่องอกอวบที่เขามองเห็นรำไร มือหนาถอดผ้าคาดเอวของนางออกจนหลุดลุ่ย เมื่อเสื้อผ้าเนื้อหยาบหลุดออกด้วยมือหนาของเขาที่แหวกมัันจนพ้นอกอวบขาวผ่อง อกของนางอวบใหญ่ยิ่งนัก แถมนางยังไม่ใส่เอี๊ยมด้้านใน เมื่อสาปเสื้ออ้าออกจากกันจึงเห็นอก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 9 รสชาติผัวที่ถึงใจ nc

    ขณะที่ครุ่นคิดซูเม่ยก็ถูกลำกายอวบใหญ่ของสามีที่เรียกได้อย่างเต็มปากแล้วนั้น ทิ่มแทงเข้ามาไม่ยั้งและนางก็แอ่นร่องอวบรับเขาเป็นจังหวะเดียวกัน ปากก็ร้องครวญครางอย่างเสียวซ่านเหลือเกิน ทั้งสองเริงรักกันตั้งแต่ย่ำค่ำจนกระทั่งรุ่งสาง โชคดีบุตรชายเข้านอนไปเอง โดยไม่มาหาบิดาของเขาก่อน แถมซูเม่ยที่ไม่ได้อาบน้ำเลยด้วยซ้ำเพราะถูกเขาจัดการจนแทบไม่มีเวลาได้พักหายใจ เหมือนเขาหิวเขาโหยนางเป็นอย่างมาก“ ข้ารักเจ้าซูเม่ย เมียรัก เมียของข้า อย่าคิดมีใครอีก อ๊าา อ๊าา ” เขาทั้งร้องครวญครางทั้งสารภาพรักกับนางอย่างลุ่มหลง มือหนาลูบไล้ไปทุกส่วนในร่างอวบนั้น “ เมียจ๋า เราไปอาบน้ำที่ลำธารด้วยกันไหมยอดรัก ” เขาเอ่ยขึ้นหลังจากที่กระแทกนางจนเสร็จสมไปนับครั้งไม่ถ้วน “ มันหนาวหรือไม่เจ้าคะ น้ำในตอนเช้าเช่นนี้ ” นางเอ่ยบอกเขา แต่ดวงตาคมที่มองสบตาของนางอย่างหวานฉ่ำนั้นมีประกายเจ้าเล่ห์นิดๆ “ ตอนแรกมันอาจจะเย็น แต่อีกเดี๋ยวมันก็ร้อนขึ้นมาเองเมียรัก ” เขากระซิบเบา ๆ ที่ริมใบหูเล็กแถมยังไล้เลียมันอีกด้วย “ ไม่เอาแล้ว ข้าเหนื่อยนะ ” นางตอบเบาๆอย่างอายๆ ขย่มนางแทบจะทั้งคืนแล้วยังมีแรงอีก ไหนบอกว่าเป็นคนป่วยอย่างไรเล่า ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18

บทล่าสุด

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 25 จะมาสู่ขอเมียท้องของข้าเช่นนั้นหรือ

    หลายเดือนผ่านไปซูเม่ยที่ตอนนี้ท้องโตอย่างมาก นางยังคงเดินไปมาเพราะทนอยู่นิ่งไม่ไหว ยังพยายามทำงานบ้าน แม้สามีจะจ้างหญิงในหมู่บ้านมาช่วยทำงานบ้านและทำอาหารให้นางแล้ว เพราะนางตั้งครรภ์และอีกไม่ถึงสองเดือนก็ใกล้คลอดแล้ว ยามซื่อของวันนี้จู่ๆก็มีเสียงรถม้ามาจอดที่หน้าบ้านของพวกเขาซูเม่ยจึงได้ออกไปเมียงมองดูว่าใครมาที่หน้าบ้าน ก็พบว่ามีชายวัยกลางคนแต่งกายหรูหราไม่น้อยลงมาจากรถม้าตามด้วยชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีร่างบางสูงโปร่งและผิวขาวเหมือนดังเช่นคนมีอันจะกิน ตามด้วยคนเดินตามหลังที่น่าจะเป็นคนรับใช้ของพวกเขา เฟยหยาเปิดประตูห้องออกมาเขากำลังนั่งอ่านหนังสือและเขียนจดหมายส่งให้มารดาอยู่” บ้านนี้ใช่บ้านของซูเม่ยหรือไม่ “ ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานนั้นเอ่ยถามเฟยหยาที่เดินออกไปหาเขา ” ใช่นางเป็นเมียข้าเอง “ ชายคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ขณะนั้นซูเม่ยก็เดินออกมายืนหน้าเรือนของตนเอง ” นั่นไงซูเม่ย แต่นางตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ “ ชายร่างสูงผอมที่ยืนจ้องมองซูเม่ยที่หยุดยืนจ้องมองพวกเขาเช่นกันอยู่ที่หน้าเรือน ชายวัยกลางคนที่มากับเขาหันไปหาชายร่างสูงนั้นทันที” เจ้าบอกว่านางไม่มีสามีอย่างไรเล่า ข้าอุตส่าห์ยอมร

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 24 สู่ขออนุให้สหาย

    ยามซื่อวันต่อมา ก็มีเสียงตะโกนโหวกเหวกดังอยู่หน้าบ้าน “ พรานตงอยู่ไหม ออกมาเดี๋ยวนี้ บุตรสาวของข้าอยู่ที่ใด เห็นมีคนบอกว่านางอยู่ที่บ้านของเจ้า นางหายไปทั้งคืน เจ้าต้องรับผิดชอบ” ทุกคนในบ้านต่างโผล่หน้าออกมาดูต้นเหตุของเสียงโหวกเหวกนั้นซูเม่ยที่เช็ดมือของนางจนแห้งแล้วรีบเดินออกมาจากครัวนางกำลังจะทำมันเชื่อมให้บุตรชายและทุกคนได้ชิมกัน เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ นางเดินออกมาที่หน้าลานบ้านพบกับหัวหน้าหมู่บ้านคนที่เคยนำหนังสือตัดขาดกับบ้านจางมาให้ และที่ยืนอยู่ข้างๆเข้าคือชายชราคนหนึ่งผมของเขาขาวโพลนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ปะชุนและดูมอมแมมไม่น้อย ส่วนด้านหลังของพวกเขาก็เช่นเคยมีชาวบ้านหลายๆคนเดินมามุงดูเหตุการณ์ดังเช่นคราวที่แล้ว เฟยหยาเปิดประตูห้องนอนของเขาออกมา ส่วนเจ้าตัวเล็กก็ไม่วายยืนเมียงมองที่หน้าห้องของตนเองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกัน แล้วประตูห้องของซูเม่ยที่เมื่อคืนมีสหายของสามีมาพักค้างคืนก็เปิดออกช้าๆ ร่างของอี้เหยาสหายของสามีและยังมีสตรีที่สวมอาภรณ์ของบุรุษยืนแอบอยู่ด้านหลังเขาด้วยท่าทางหวาดกลัว ดวงตาของนางจ้องมองชายชราทีี่ยืนอยู่ข้างๆหัวหน้าหมู่บ้าน“ นั่นไง หยงเอ๋อเจ้ามานอนกับบุรุ

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 23 รับนางเป็นอนุ nc

    เมื่อปากหนาของเขาดูดลิ้นเล็กของนางเป็นจังหวะสลับกับเกี่ยวพันลิ้นเล็กของนางอย่างเมามัน ทำให้หย่งเอ๋อยิ่งเสียวซ่านจนเกินจะทน นางร้องครางเบาๆทั้งที่ิลิ้นเล็กยังถูกลิ้นสากของเขาเกี่ยวพันอย่างดูดดื่มอยู่ มือบางของนางก็ลูบไล้หลังไหล่ของคนบนร่างของนางไปมา เล็บคมกรีดลงไปบนหลังของเขา แม้รองแม่ทัพหนุ่มจะเจ็บแสบไม่น้อยแต่เขาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ นางร่าน นางร้าย ร่านถูกใจเขาเหลือเกิน บั้นเอวหนาเร่งขย่มนางจนแตกพ่ายออกมาอย่างมากมาย แล้วจึงได้จับร่างอวบของนางลงมายืนในน้ำแล้วหันหลังให้เขา ยกก้นอวบของนางขึ้นแล้วรองแม่ทัพหนุ่มจึงสอดลำกายอวบใหญ่เข้าไปในร่องอวบของนางอีกครั้งจนมิดลำกายแล้วเริ่มโยกขย่มนางอย่างรุนแรงอีกครั้ง “ อ๊าย อ๊า แรงอีก แรงอีกเจ้าค่ะ อ๊าย อ๊ายย อ๊าา ” หย่งเอ๋อที่เสียวซ่านจนเกินจะทน นางร้องครวญครางอีกครั้งพลางเร่งให้คนที่ขย่มนางจากทางด้านหลังให้เร่งแรงกระแทกนางอีก นางแอ่นก้นงามงอนขึ้นหาเขาอย่างร่านร้อน ปากก็ร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่าน รองแม่ทัพหนุ่มจับร่างอวบของเมียหมาดๆพลิกไปมาอยู่หลายท่วงท่า แต่ในทุกท่วงท่าเขาก็กดกระแทกนางอย่างเร่าร้อนจนเสร็จสมไปหลายครั้งแล้ว แต่เจ้าลูกชายที่ยังแข็ง

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 22 ขย่มนางจนรุ่งสาง nc

    “ เจ้าเป็นผู้ใดกัน ทำไมถึงมาที่ลำธารค่ำมืดเพียงนี้ ” เขาเอ่ยขึ้น จ้องมองใบหน้างามที่แดงระเรื่อ นางพยายามบีดกายหนีเขา แต่ถูกเขาจับเอาไว้มั่น นางคือหย่งเอ๋อบุตรสาวของตาเฒ่าขี้เมาประจำหมู่บ้าน วันนีี้นางได้ยินว่าพรานตงหายดีแล้ว และนางเองก็หลงรักพรานตงมานานนักหนาพอๆกับซูเม่ย แม้เขาจะแต่งงานกับซูเม่ยแล้ว แต่เขาไม่ได้รักนาง ใครๆในหมู่บ้านก็รู้ว่านางปีนเตียงเขาจึงได้จำใจแต่งงานเพราะนางเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา หย่งเอ๋อจึงเกิดความคิดว่านางจะไปซุ่มอยู่ที่ลำธาร หากพรานตงมาอาบน้ำนางจะลอบเข้าหาเขาบ้าง และยิ่งนางแอบซุ่มดูเห็นเขาร่ำสุรากับชายคนหนึ่ง แต่นางก็ไม่คาดคิดว่าคนที่นางพบที่ลำธารจะไม่ใช่พรานตง “ ข้าคิดว่าท่านเป็นพรานตง ปล่อยข้านะ ในเมื่อท่านไม่ใช่เขา ปล่อยข้า ” ใบหน้าหล่อคมคายยกยิ้มขึ้น “ พรานตงเขามีเมียแล้ว เจ้าจะมายุ่งเกีี่ยวกับเขาทำไม อีกอย่างเขาไม่ใช่ชายเจ้าชู้ เขารักเมียของเขามาก เจ้ามายั่วยวนเขาก็เสียเวลาเปล่า แต่ไหน ๆ เจ้าก็เป็นหญิงที่ร่านอย่างหน้าไม่อาย เปลือยกายมายั่วยวนสามีของผู้อื่นอย่างหน้าไม่อายเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นข้าจะสงเคราะห์เจ้าเอง ให้ได้รู้รสชาติของบุรุษว่าเป็นเช่นไร ” เขาเอ่ยข

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 21 อี้เหยากับลำธารที่เร่าร้อน nc

    “ งั้นเย็นนี้มาร่ำสุรากันเสียหน่อย ไม่ได้ร่ำสุรากับเจ้ามานานแล้ว ตั้งแต่ข้าเจ็บป่วยไป วันนี้ปล่อยให้เมียข้าดูแลลูกไปก่อน ข้าจะร่ำสุรากับเจ้าให้เมาไปเลย ได้ไหมจ๊ะเมียจ๋า พี่จะร่ำสุรากับสหายเสียหน่อย เจ้าดูแลลูกเข้านอนด้วยก็แล้วกันนะ ” เขาเอ่ยขึ้นแล้วหันไปจ้องมองเมียรักเหมือนจะขออนุญาตินาง “ เจ้าค่ะ ท่านพี่นานๆจะได้พบกับสหายก็ตามสบายเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลลูกเอง งั้นข้าจะผัดผักใส่หมู และยังมีเนื้อเค็มข้าจะทอดให้ และหั่นผักดองให้ท่านแกล้มเหล้านะเจ้าคะ อ่อ ยังมีผลไม้เชื่อมที่มีรสเปรี้ยวอยู่ด้วย รอสักครู่ข้าจะจัดการให้เจ้าค่ะ ” นางเอ่ยขึ้นแล้วหันไปค้นหาห่อเนื้อเค็มและผลไม้เชื่อมที่มีรสเปรี้ยวที่นางชิมดูเมื่อวานมาแบ่งใส่ถ้วยใบเล็กให้เขาแกล้มสุรา อี้เหยายักคิ้วให้สหายรัก เมื่อเห็นเขาจ้องมองเมียรักด้วยดวงตาหวานฉ่ำปานจะกลืนกิน ไม่พบเจอเพียงไม่นานตอนนี้รองแม่ทัพผู้ดุดันกลายเป็นคนคลั่งรักไปเสียแล้วเมื่อจัดการอาหารเย็นยังไม่เสร็จจึงให้บุตรไปอาบน้ำก่อนเพราะตอนนี้ยังไม่มืดค่ำ แล้้วซูเม่ยจึงได้ทอดหมูให้บุตรชายกินกับข้าวสวยร้อนๆ แบ่งเอาไว้ในหม้อใบเล็กให้สามีที่นางไม่แน่ใจว่าเขาจะหิวหรือไม่ แล้วทอดเนื้อ

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 20 อาเหยามาเยี่ยม

    ช่วงบ่ายวันนั้นที่บ้านพรานตงก็ได้ต้อนรับสหายที่ขี่ม้าตัวสูงใหญ่ล่ำสันสง่างามยิ่งนักมาเยี่ยม เขาคือท่านอาเหยาของอาเหวิน หรือรองแม่ทัพเฉินอี้เหยา เขาและตงเฟยหยาเป็นสหายร่วมรบกันมาตั้งนานแล้ว เมื่อเขาลาออกเพราะเบื่อหน่ายปัญหาในครอบครัว แม้อี้เหยาจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ขัดสหายไม่ได้ แต่ตัวเขาเมื่อว่างเว้นจากราชการคราใดก็จะมุ่งมาเยี่ยมสหายและหลานชายตัวน้อยตลอดยิ่งเขามาครั้งล่าสุดสหายขาหักเพราะเข้าป่าแล้วพลาดตกกับดักที่มีคนวางเอาไว้ แม้เขาเป็นยอดฝีมือแต่ก็ยังพลาดจนได้ จึงได้ขาหัก และนอนพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ก่อนเขาจะจากไปในคราวก่อนเขาต่อรถเข็นเอาไว้ให้หลานชายตัวน้อยเพื่อเอาไว้ตักน้ำใช้จากลำธารหลังบ้านมาใส่ในโอ่ง และกำชับให้เขาทำแค่เพียงวันละน้อยจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไปเขาซื้อหาข้าวสารและอาหารมาให้ไว้ในครัว ซื้อของและเสี่ยวหลงเปาไว้ให้จำนวนมาก ซื้อไข่เค็มและผักดองที่เก็บได้นานเอาไว้ และสอนวิธีการกินให้กับเด็กชาย อาหารแห้งเช่นเนื้อเค็ม ปลาตากแห้งเขาก็ซื้อมาเก็บเอาไว้ด้วยกลัวหลานชายจะอดตายเพราะบิดาก็เดินไม่ได้ และตัวเขาก็จำต้องเข้าเมืองหลวงเพราะมีราชการด่วนที่ต้องไปจัดการ แม้จะเป็นห่วงบ้านของสหายไม

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 19 หนังสือตัดขาดบ้านเดิม

    “ เอาละ ถ้ามันเป็นอย่างที่ซูเม่ยพูด พวกเจ้าก็ไม่ควรมารบกวนครอบครัวของนางที่แทบไม่มีจะกินอยู่แล้ว พวกเจ้าควรจะทำมาหากินด้วยตนเอง อย่าพยายามเบียดเบียนผู้อื่นเช่นนี้อีก ” หััวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขึ้นอย่างเอือมระอา แต่เมื่อเขาได้รับแจ้งจะไม่มาจัดการก็ไม่ได้ จึงได้มาฟังความอีกข้างจากบ้านของพรานตง“ ท่านหัวหน้าจะพูดอย่างนี้ได้อย่างไร พวกตระกูลจางมีบุญคุณกับซูเม่ยนังคนอกตัญญูนี่แค่ไหน พวกท่านก็รู้ บิดามารดาของนางก็เสียไปหมดแล้ว พวกข้ารับเลี้ยงดูนางเอาไว้ ไม่มีบุญคุณให้นางต้องชดใช้เลยหรือ ” ท่านป้าของซูเม่ยเอ่ยขึ้น “ แต่เมื่อตอนที่ข้าแต่งงานกับนาง ข้าได้ให้เงินพวกท่านไปถึงยี่สิบตำลึง เงินจำนวนนี้มันมากมายนัก ข้าเป็นแค่นายพรานหากจะเก็บสะสมเงินจำนวนนี้จริงๆต้องใช้เวลาอยู่หลายปีนะ ถือว่าพวกท่านก็ได้เงินตอบแทนไปมากแล้ว แถมยังคอยมารีดไถเป็นประจำหลายปีมาแล้ว ท่านหัวหน้าหมู่บ้านในเมื่อท่านก็มาแล้ว วันนี้ข้าขอให้ท่านทำหนังสือตัดขาดระหว่างซูเม่ยเมียของข้ากับตระกูลจาง ไม่ต้องข้องเกี่ยวกันอีก หากพวกนางมารบกวนข้าอีก จะได้จัดการอย่างเด็ดขาด คนที่ไม่รู้จักพอให้ไปเท่าไหร่ก็คงไม่พอหรอก ” เขาเอ่ยกับหัวหน้าหมู่บ้า

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 18 เริงรักจนรุ่งสาง nc

    อดีตรองแม่ทัพหนุ่มกดกระแทกเมียรักจากทางด้านหลังอย่างรุนแรง เขาเร่งความเร็วขึ้นจนกระทั่งขย่มนางจนแทบจะจมไปกับเตียงอีกครั้ง ทั้งสองร้องครวญครางผสานกันอย่างสุขสมยิ่งนัก จนกระทั่งเสร็จสมไปพร้อมๆกันอีกครั้ง ซูเม่ยนั้นสุขสมจนแทบจะนับครั้งไม่ได้ นางจึงอ่อนระทวยแทบจะสลบไปทันทีในครั้งสุดท้ายที่ถูกสามีที่ร้อนแรงเหลือเกินของนาง กระแทกร่องจีบอย่างเร่าร้อนรุนแรง จนนางเสร็จสมไปอีกครั้งแล้วจึงได้หลับผล็อยไปทันที ทั้ง ๆที่ลำกายใหญ่ของสามียังคาอยู่ในร่องรักของนางด้านเฟยหยาที่เห็นเมียรักเหมือนสลบไปทันทีที่นางกระตุกเกร็งแล้วเสร็จสมไปในยกสุดท้ายนั้น เขาจึงได้ถอนลำกายใหญ่ออกจากร่องอวบของนาง แล้วประคองเมียรักนอนลงที่ฟูกจัดท่าทางให้นางนอนให้สบายตัว แล้วเขาจึงได้ลุกออกไปทำความสะอาดร่างกายตนเองแล้วนำผ้าปูเตียงผืนใหม่มาเปลี่ยนให้เมียรักที่นอนหลับเหมืือนสลบไสลอยู่บนเตียงนั้น เขาค่อยยกตัวนางขึ้นดึงผ้าปูเตียงออกแล้วขมวดมันไว้ที่มุมห้อง แล้วจึงได้ผลัดเปลี่ยนผืนใหม่ที่หอมกลิ่นแดดเพราะซูเม่ยเพิ่งนำไปซักตากแดดมาเมื่อวานนี้เขาเปลี่ยนแล้วจัดที่นอนใหม่แล้วอุ้มร่างอวบของเมียรักให้นอนในท่าที่สบายที่สุด แล้วจึงได้ผลัดเสื

  • สามีและบุตรชายข้าได้แต่ใดมา   บทที่ 17 เป็นทุกอย่างได้เพื่อท่าน nc

    เฟยหยาขย่มร่างอวบของเมียรักอย่างรุนแรงจนเมื่อเสร็จสมไปด้วยกันแล้ว เขาก็จับร่างอวบของนางพลิกเปลี่ยนท่าเป็นนอนคว่ำแล้วดึงสะโพกอวบขาวที่เขาบีบเค้นมันจนขึ้นสีอย่างมันมือ แม่เมียรักของเขา นางเป็นหญิงชาวบ้าน แต่นางเด็ดดวงยิ่งกว่าคุณหนูในห้องหอ ยิ่งกว่าหญิงคณิกาที่เขาเคยผ่านมา หากจับนางแต่งกายด้วยอาภรณ์ของชนชั้นสูงนางคงจะเป็นหญิงที่งามมาก งามปานจะล่มเมืองคนหนึ่ง แต่นางเป็นเมียของเขาเพียงผู้เดียว ถึงนางจะงามเพียงใดก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะแสวงหาบุรุุษใดอีกแล้ว นางเป็นเมียของเขา เป็นแม่ของบุตรของเขาได้เพียงเท่านั้นอดีตรองแม่ทัพหนุ่มที่บัดนี้ลาออกจากราชการแล้วหนีมาซุกตัวอยู่ที่บ้านนอกที่ห่างไกลเมืองหลวงเป็นอย่างมาก ด้วยปัญหาในครอบครัวบางอย่าง เพราะเขาเป็นบุตรชายคนรองแต่โดดเด่นและเก่งกล้าเกินบุตรชายคนโตจึงทำให้ไม่เป็นที่ชอบใจของฮูหยินใหญ่ ที่เส้นทางทางราชการของเขาก้าวหน้าเกินไป ทำให้เขาและมารดาไม่เป็นที่โปรดปรานของทั้งบิดาและฮูหยินใหญ่เพราะมารดาของเขาเป็นเพียงอนุผู้หนึ่งเพียงเท่านั้น เขาจึงได้เบื่อหน่ายการแก่งแย่งชิงดีในหมู่พี่น้องจึงได้ตัดสินใจลาออกจากราชการและอำลามารดาย้ายตนเองมาอยู่ที่บ้านนอกห่างไก

DMCA.com Protection Status