แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: โหย่วอี้อิ้งจิ่ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 15:19:49
ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันนอนอยู่บนโซฟาในบ้านด้วยท่าทีสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เซี่ยหลินยกเค้กออกมาจากห้องครัวก้อนหนึ่ง ทำเอาฉันตกใจจนสะดุ้งโหยง

ฉันตกพบว่าแผลที่ถูกแทงบนร่างกายของฉันหายไปเป็นปลิดทิ้ง แม้แต่ความรู้สึกเจ็บปวดก็ไม่มีอีกต่อไปราวกับเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แววตาของเซี่ยหลินยังคงอ่อนโยนเหมือนก่อน “เซอร์ไพรส์ใช่ไหมล่ะ เร็วเข้า รีบมาทานเค้กเร็ว ก่อนหน้านี้คุณบ่นอยากกินเค้กร้านนี้ไม่ใช่เหรอ ผมออกไปต่อแถวตั้งแต่ตีห้าแหนะ”

“สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณหนูเหยาคนสวย ขอให้มีความสุขมากๆ สมปรารถนานะ”

มีความสุขมากๆ สมปรารถนา!

ฉันมองไปที่แขนข้างซ้ายที่ปกติดีของเซี่ยหลิน แล้วตกใจจนเหงื่อท่วมตัว

ฉันเกิดใหม่ เกิดใหม่ในวันที่เซี่ยหลินเกิดอุบัติเหตุ เหตุการณ์นองเลือดเมื่อชาติก่อนยังคงติดตา ฉันอยากหนีไปอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนว่าตัวจะร้อนแค่ไหน เพียงแค่อยากหนีไปจากฝันร้ายนี้

เซี่ยหลินสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ คิดว่าทำอะไรให้ฉันไม่พอใจ เขาถือเค้กไว้ในมือ แล้วเดินตามหลังฉันไปจนออกจากหมู่บ้านไป

ฉันยิ่งวิ่งยิ่งเร็ว ยิ่งวิ่งยิ่งได้สติ จากนั้นถึงจะค่อยๆ หยุดลง

ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน และเป็นวันที่เกิดโศกนาฏกรรมนั่นด้วย เดิมทีเราตกลงกันไว้ว่าจะทำของ DIY ด้วยกันตอนเย็น ขอแค่ระหว่างนั้นฉันไม่ดื่มชานมแก้วนั้น ไม่ปล่อยให้เขาหลุดจากสายตาของฉัน ขอแค่เหตุการณ์เลวร้ายนั่นไม่เกิดขึ้น เช่นนั้นพวกเราก็ยังเป็นพวกเรา!

ช่วงเวลาดีๆ แสนหวานชื่นปรากฏขึ้นในความทรงจำไม่หยุด ฉันยังคงรักเขาอยู่

ฉันตัดสินใจแล้วว่า ฉันจะเปลี่ยนโชคชะตานี้!

ฉันหันกลับไปมองเขาที่วิ่งตามออกมาจนเหงื่อชุ่มไปหมดทั้งตัว แล้วยิ้มฝืนออกไป “เป็นไง ฉันก็เตรียมเซอร์ไพรส์ให้คุณเหมือนกันนะ คิดไม่ถึงน่ะสิ?”

เขาใช้มือดีดจมูกของฉันอย่างอ่อนโยน “โตขนาดนี้แล้วยังดื้ออีก เป็นเด็กดื้อของผมจริงๆ ถ้าทำให้ผมตกใจอีกล่ะก็ ผมจะ…ผมจะไม่ให้คุณทานเค้กที่ผมทำเล่า”

เขาตักเค้กป้อนให้ฉันคำหนึ่ง เค้กหวานมาก หวานจนฉันรู้สึกเปรี้ยวในใจ

ดีจัง เขาในตอนนี้ยังเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบของฉัน ยังเป็นผู้ชายที่มีชีวิตชีวาคนนั้น

หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ ฉันอธิษฐานขอให้เขาอยู่กับฉันดีๆ และดึงเขาไว้ไม่ให้ออกไปไหน เราทั้งสองนอนดูหนังอยู่บนโซฟา เวลาค่อยๆ ผ่านไปเหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูใหญ่ ในที่สุด เข็มนาฬิกาก็เดินผ่านช่วงเวลาหกโมงเย็นไป ฉันถึงจะโล่งอกไปเฮือกใหญ่

เซี่ยหลินมองฉันด้วยสายตาแปลกประหลาด “ทำไมผมรู้สึกว่าคุณเหมือนอยู่ในสนามรบครั้งใหญ่อย่างนั้นแหละ กังวลขนาดนั้นทำไม? เพราะใกล้จะถึงช่วงตอบคำถามวิทยานิพนธ์แล้วหรือเปล่า คุณก็เลยรู้สึกเหนื่อย? วางใจเถอะน่า มีผมอยู่ด้วย ไม่มีทางที่องค์หญิงของเราจะไม่ผ่านหรอก”

ฉันส่งยิ้มวางใจให้กับเขา

“จริงสิ คุณอยากดื่มชานมไหม คราวก่อนคุณบอกว่าอยากดื่มชานมรสเผือกเมนูใหม่ของร้านชาแพนด้าไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวผมไปซื้อให้”

เพิ่งโล่งใจไปได้ไม่นาน ความรู้สึกกังวลนั่นก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง ฉันดึงเขาไว้ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “ไม่ต้อง ฉันไม่อยากดื่ม วันนี้ฉันไม่อยากดื่มชา”

เมื่อเห็นเขาจ้องฉันด้วยสายตาที่สงสัยว่าฉันไม่สบายแล้ว ฉันจึงดึงแขนของเขาแล้วพูดจาออดอ้อนว่า “วันนี้ได้หยุดทั้งที ฉันแค่อยากอยู่กับคุณนานๆ นี่นา ทำไมล่ะ คุณไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ?”

เซี่ยหลินลูบศีรษะฉันอย่างเอ็นดู “เด็กโง่ ตามใจคุณแล้วกัน”

เวลาผ่านไปจนถึงสองทุ่ม ฉันเห็นว่าเวลาผ่านไปพอสมควรแล้ว จึงเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ จากนั้นก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเซี่ยหลินดังขึ้น ตามมาด้วย “โอเคครับอาจารย์ เดี๋ยวผมจะส่งไปให้ตอนนี้เลยครับ…”

ฉันถามเขาผ่านประตูกระจก “คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ?”

เขารีบสวมเสื้อคลุม และผ้าพันคอ “อาจารย์ที่ปรึกษาของสถาบันเราบอกว่า วันนี้มีคนใหญ่โตจากต่างประเทศมาเยี่ยม ให้เราเอาผลงานจบไป ไม่แน่อาจได้รับโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศก็ได้ งานของคุณล่ะ เดี๋ยวผมเอาไปให้ทีเดียวเลย”

ฉันรู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก

ฉันพยายามพูดปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร ผ่านช่วงเวลานั้นไปแล้ว อีกอย่างทางไปสถาบันกับสถานที่เกิดเหตุของเซี่ยหลินเมื่อชาติก่อนก็เป็นคนละทางด้วย หลังจากที่เขาออกไป ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจจึงคอยโทรหาเขาทุกๆ สิบนาที และกำชับให้เขารีบกลับมา

จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งชั่วโมง โทรศัพท์โทรไม่ติดอีกต่อไป ฉันรู้ว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ!

ฉันไม่มีเวลามาเป่าผมอีก เพียงแค่รีบสวมเสื้อผ้า แล้วออกไปทันที ฉันตรงมาที่สถาบัน แต่กลับได้รับแจ้งว่าเซี่ยหลินกลับไปตั้งแต่ชั่วโมงก่อนแล้ว ฉันเดินว่อนอยู่บนถนนอย่างบ้าคลั่ง และขอให้การปรากฏตัวของฉันสามารถหยุดโศกนาฏกรรมนี้ไว้ได้ทันเวลา แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็สายเกินไป

ท่ามกลางเสียงตกใจนับไม่ถ้วน ภายใต้แสงไฟยามค่ำคืน ฉันเห็นฉากที่รถคันนั้นเหยียบซ้ำไปมาที่แขนของเขาอีกครั้ง

ทั้งเลือด ทั้งความเจ็บปวด และความหนาวเหน็บ ทำให้ฉันแข็งทื่อไปทั้งตัว

“คนขับเป็นมือใหม่เพิ่งได้ใบขับขี่มา ไม่คิดว่าออกถนนวันแรกจะเจอเรื่องแบบนี้เลย ส่วนเรื่องแฟนของคุณ อีกฝ่ายเขาบอกว่าจะชดเชยให้ห้าล้าน เจรจาส่วนตัวให้มันจบๆ ไปเถอะ”

หน้าห้องผู้ป่วยอาการวิกฤต ตำรวจพูดกับฉันแบบนี้

ฉันเข้าไปตบหน้าเขาราวกับคนบ้า “เจรจาส่วนตัว จะให้เจรจายังไง เขาเป็นจิตรกร ไม่มีมือขวาแล้ว คุณจะให้เขาวาดรูปต่อไปยังไง พวกคุณไม่ใช่แค่ทำให้เขาเสียแขนไปข้างเดียวหรอก แต่เป็นชีวิตของเขา! และชีวิตของฉันด้วย!”

เพื่อนสนิทจี้เสวี่ยเข้ามาห้ามฉันไว้ “เหยาเหยา อย่าทำแบบนี้ ตอนนี้เซี่ยหลินต้องการค่ารักษา และพวกเราก็ต้องการเงินก้อนนั้นมาก ไม่มีแขนยังหาวิธีใหม่ได้ แต่ถ้าตายขึ้นมา แกจะเอาอะไรไปบอกพ่อแม่เซี่ยหลิน?”

อารมณ์ของฉันอยู่ในระดับใกล้จะระเบิด “ถ้างั้นก็เอาชีวิตของฉันไปแทน ฉันไม่อยากให้เขาเป็นแบบนี้ ฉันต้องการให้เขาหายดี ต้องการให้มือขวาของเขาหายดี!”

จี้เสวี่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตบหน้าฉันแรงๆ ทีหนึ่ง “ชุยเหยา มีสติ! เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้วจะทำยังไงได้! ตอนนี้เซี่ยหลินจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ รอให้แกตัดสินใจช่วยชีวิตเขา แต่แกกลับมาโทษตัวเองอยู่แบบนี้ แล้วมันมีประโยชน์อะไร!”

ฉันทรุดตัวลงกับพื้น ความเย็นจากพื้นดูดซับความร้อนในร่างกายของฉันไป ทันใดนั้นเอง ฉันเหมือนเป็นศพร่างหนึ่งที่รอให้เจ้าแห่งนรกมาเอาตัวไป

ความรู้สึกหวาดกลัวครอบงำฉันไว้ จี้เสวี่ยบอกว่าอย่างน้อยก็ช่วยชีวิตไว้ได้ และยังมีหวัง ฉันซบไหล่เธอแล้วร้องห่มร้องไห้ออกมาจนฟ้ามืด เธอไม่เข้าใจหรอกว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ก็ไม่มีความหวังอีกแล้ว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 3

    เซี่ยหลินนอนโรงพยาบาลอยู่สองเดือน วันที่ออกจากโรงพยาบาล ฉันเป็นคนมารับเขา ตอนที่เห็นหน้าครอบครัวคู่กรณี ฉันไม่ได้โกรธเหมือนตอนอยู่หน้าห้องผู้ป่วยวิกฤต ซ้ำยังพยักหน้าทักทายพวกเขาอย่างใจเย็นสองเดือนผ่านไป เซี่ยหลินผอมลงมาก แววตาก็ไม่สดใสและมีชีวิตชีวาเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป แต่ปกคลุมไปด้วยความเศร้าโศกที่พูดไม่ออก ผู้ชายที่มีชีวิตชีวาในตอนนั้นได้กลายมาเป็นคนไม่สบประกอบในตอนนี้หลังจากกลับไปถึงบ้าน ฉันก็เริ่มหลบหน้าเขา เพราะเหตุการณ์เมื่อชาติก่อนได้กลายเป็นฝันร้ายที่ทำให้ฉันนอนไม่หลับไปแล้วเซี่ยหลินที่เดิมรู้สึกผิดอยู่แล้ว พอเห็นท่าทีของฉัน เขาก็ยิ่งมองโลกในแง่ร้าย และใช้อารมณ์กับฉันบ่อยๆ “คุณเห็นว่าผมเป็นไอ้พิการ ก็เลยอยากหนีไปจากผมใช่ไหมล่ะ? อ้อ ไม่สิ คุณอยากไปจากผมตั้งนานแล้ว อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าคุณกับรุ่นพี่ที่แซ่หลินของคุณนั่นมีความสัมพันธ์กัน ตอนนี้พอดีเลยสิ ผมพิการ คุณก็สามารถไปหาเขาได้แล้ว!”รุ่นพี่คนนั้นที่เขาหมายถึงเป็นคนในชมรมที่มหาวิทยาลัย ชื่อหลินหยุนความจริงฉันกับเขาไม่ถือว่ามีความสัมพันธ์กันหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะนิทรรศการของชมรมครั้งนั้น พวกเราก็คงไม่เกี่ยวข้องกัน เพรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 4

    จากปากของเซี่ยหลิน ฉันได้ยินเรื่องราวที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงในเรื่องราวนั้น ฉันและเซี่ยหลินยังคงเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบคู่หนึ่ง เขาฝันอยากจะเป็นจิตรกรเหมือนปีกัสโซ และแวนโก๊ะตั้งแต่เด็ก ใช้พู่กันของเขาวาดเขียนโลกสำหรับเราสองคนออกมาสิ่งที่ต่างไปจากเรื่องราวของฉัน คือ ในโลกของเขา สามเดือนก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ฉันเห็นฉากอุบัติเหตุครั้งใหญ่เกิดขึ้น ตั้งแต่นั้นมา เซี่ยหลินก็เห็นว่าฉันผิดแปลกไปฉันมักจะจินตนาการว่าคนที่เกิดอุบัติเหตุนั้นคือเขา หรือไม่ก็ตัวเอง มักจะถือตุ๊กตาผ้าไปยืนอยู่ตรงระเบียง แล้วโยนมันลงมาจากชั้นบนแรงๆ แล้วบอกว่า นั่นเป็นตัวแทนของฉัน เป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบที่สุดเขากังวลมากจึงพาฉันไปหาหมอ หลังจากที่หมอทำการตรวจวินิจฉัยต่างๆ นานา ก็ยืนยันว่าฉันเป็นโรคจิตเภทฉันถูกบังคับให้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันเกิดของฉัน เซี่ยหลินอยากพาฉันกลับไปฉลองวันเกิดด้วยกัน แต่ฉันกลับหนีไปหาจี้เสวี่ย แล้วจินตนาการว่าตัวเองได้เกิดใหม่ แต่งเรื่องจินตนาการไร้สาระนี้ออกมา เพื่อปิดบังโรคของฉัน เขาจึงให้จี้เสวี่ยโกหกฉันว่า เขาถูกรถชนจริงๆ และให้จี้เสวี่ยแสร้งเหมือนปกป้องฉัน เพื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 5

    เซี่ยหลินตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่หยุดฉันหยิบแขนเทียมและตั๋วรถไฟถามเขา “พวกนี้หมายความว่ายังไง”เขากลับโยนภาพถ่ายปึกหนึ่งใส่หน้าฉัน ในภาพถ่ายมีทั้งรูปแนบชิดสนิทสนมของชายหญิง รูปสวีทกันริมทะเล รูปจูบกันในป่าลับ รูปชุดคู่รักหวานแหววในห้าง และรูปบนเตียงบาดตาบาดใจอีกบางส่วน รวมถึงร่างอนาถฉันจำผู้หญิงในรูปได้ทันที ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นเพื่อนสนิท และคุ้นเคยที่สุด จี้เสวี่ยฉากที่เต็มไปด้วยเลือดทำให้ตาของฉันพร่ามัว ฉันปิดปากไม่ให้ตัวเองอ้วกออกมา“คุณ…คุณฆ่าจี้เสวี่ยเหรอ?”“ฆ่า?”เซี่ยหลินยิ้มออกมา “ผมขอเรียกมันว่า การเก็บข้อมูลดีกว่า”มองดูสายตาที่ไร้ความอบอุ่นของเขาแล้ว ฉันก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมา“ทำไม?” ฉันตัวพิงพนัง พยายามระงับความสั่นเทาของตัวเอง “ถ้าคุณไม่รักฉัน คุณก็บอกฉันตรงๆ สิ ทำไมต้องปลอมใบรับรองแพทย์โรคจิตเภทของฉัน แล้วสร้างเรื่องมากมายขนาดนี้ด้วย?”เขาถอนแขนเทียมออกทันใด เผยให้เห็นแขนขวาของเขาที่เป็นแผลรอยเย็บอันน่าเกลียดน่ากลัว แลดูเหมือนถูกตัดไปทั้งแขน “เป็นเพราะคุณทั้งหมดเลย เพราะคุณเพอร์เฟคเกินไป ตอนที่คุณอยู่ คุณจะนำหน้าผมก้าวหนึ่งเสมอ ฐานะทา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 6

    หลินหยุนมองฉันที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ถูกพันด้วยผ้าพันแผลบนใบหน้า แล้วฟังฉันเล่าอย่างเงียบๆใช่ เขาไม่ได้ตายในหน้าที่ แถมยังช่วยฉันออกมาจากกองไฟด้วยเขาบอกว่า เขาเจอหลักฐานบางอย่างตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว พอดีกับมีภารกิจทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เขาเลยแกล้ง ‘ตายในหน้าที่’ เพื่อให้เซี่ยหลินลดความระมัดระวังลงเซี่ยหลินเชื่ออย่างนั้นจริง แล้วรีบขนย้ายร่างศพของจี้เสวี่ยที่ถูกจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับเข้าบ้าน นำไปรวมอยู่ในกองผลงาน ‘ศิลปะ’ มากมายของเขาเขารู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่สามารถปกป้องฉันไว้ได้ ทำให้ฉันต้องเสียโฉมและเส้นเสียงไปกับกองไฟนั่นฉันยิ้มแล้วส่ายหัว เป็นการบ่งบอกว่าแค่เขาช่วยฉันออกมาได้ ฉันก็ซาบซึ้งใจมากแล้วหลินหยุนเองก็หัวเราะ แล้วมองไปที่สมุดสเกตช์เล่มเล็กของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะ “คุณวาดเองเหรอ?”ฉันพยักหน้า “ฉันเบื่อน่ะ ก็เลยวาดเล่นๆ”หลินหยุนพลิกกระดาษไปมา แล้วหยุดอยู่ที่ภาพวาดภาพหนึ่ง ฉันชะเง้อหน้าไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ภาพนั้นเป็นภาพต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่มีกิ่งไม้พันธุ์อยู่รอบๆ หอคอยสมบัติ ดูแล้วให้ความรู้สึกสวยงามแปลกๆ“ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงอย่างคุณจะชอบอะไรที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 7

    แต่ฉันไม่ถือ เพราะฉันเชื่อว่าเขาสามารถสร้างอนาคตที่ดีให้กับเราได้เหตุการณ์ที่แตกคอกับชุยเหยาจริงๆ คือหลังจากวันเกิดเธอหนึ่งสัปดาห์ วันนั้นฉันไปส่งข้าวให้เซี่ยหลิน พวกเราเรียนจบมหาวิทยาลัยกันหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ เพราะรอตอบคำถามวิทยานิพนธ์ เซี่ยหลินจึงเปิดสอนเด็กนักเรียนแถวบ้านฉันเห็นเองกับตาว่าชุยเหยาจูบเซี่ยหลินต่อหน้าต่อตาเด็กๆ และผู้ปกครองของเด็กพวกนั้น ทั้งยังประกาศว่าเป็นแฟนของเธอด้วยฉันรับไม่ได้ คนหนึ่งเป็นเพื่อนสนิทของฉัน อีกคนเป็นคนที่ฉันรัก พวกเขารวมหัวกันหักหลังฉันแบบนี้ได้ยังไงดังนั้น หลังจากกลับบ้าน ฉันเลยทะเลาะกับเซี่ยหลิน และขอเลิกกับเขาชุยเหยามาถึงบ้านฉัน ก็ขอโทษฉันบอกว่าเธอแค่ต้องการหาแรงบันดาลใจในการวาดภาพเท่านั้น ฉันโกรธเลยให้เธออยู่ข้างนอก แล้วถามเธอด้วยตาแดงก่ำว่าเธอชอบเซี่ยหลินจริงๆ ไหม ถ้าชอบจริง เราสองคนสามารถแข่งกันอย่างยุติธรรมได้เธอส่ายหน้า แล้วตอบว่า ไม่ได้ชอบจริงๆนับแต่นั้นมา ชุยเหยาก็หายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เธอปิดบังทุกคนไว้ได้ แต่ไม่อาจปิดบังฉันที่รู้รหัสผ่านของเธอทั้งหมดได้ ฉันหาตัวเธอพบที่สตูดิโอร้างของมหาวิทยาลัยในสตูดิโอ เป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 1

    ฉันกับเซี่ยหลินเป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กตั้งแต่เด็ก เราต่างก็รู้ดีว่าเราเป็นของกันและกันเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอื่น พวกเราทั้งสองเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบที่สุดของกันและกันฉันทำกับข้าว ซักผ้าให้เขา ฤดูหนาวก็ถักถุงมือและผ้าพันคอให้ ส่วนเขาจะต้มน้ำตาลแดงยามปวดท้องให้ฉัน เตรียมของขวัญสำหรับวันสำคัญ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เขาก็ละเอียดรอบคอบและใส่ใจอยู่เสมอเราทั้งสองเรียนคณะวิจิตรศิลป์เหมือนกัน เขาเรียนเกี่ยวกับการวาดภาพน้ำมัน ส่วนฉันเรียนเกี่ยวกับการเขียนภาพสเกตช์ เราต่างมีความฝันเหมือนกัน คือ การได้เป็นจิตรกรชื่อดังเหมือนปีกัสโซ และแวนโก๊ะ ความสัมพันธ์ระหว่างเราดีมาตลอด ซ้ำยังตั้งใจว่าจะแต่งงานกันเมื่อถึงอายุที่กฎหมายกำหนดจนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุครั้งหนึ่ง ทำให้เซี่ยหลินต้องสูญเสียมือข้างขวาไปฉันจำได้เพียงฉากที่รถคันนั้นเหยียบซ้ำที่แขนของเขาไปมาในตอนนั้น เหมือนกับเจ้าแห่งนรกมายึดพรสวรรค์ของอัจฉริยะไปอย่างไรอย่างนั้น นับแต่นั้นมา เซี่ยหลินก็เปลี่ยนไป เขากลายเป็นคนเงียบ ไม่ชอบพูดจา อารมณ์ร้ายถึงขนาดลงมือกับฉันเป็นบางครั้งแต่เขายังยืนหยัดในการวาดภาพต่อ โดยเปลี่ยนมาใช้มือซ้ายแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 7

    แต่ฉันไม่ถือ เพราะฉันเชื่อว่าเขาสามารถสร้างอนาคตที่ดีให้กับเราได้เหตุการณ์ที่แตกคอกับชุยเหยาจริงๆ คือหลังจากวันเกิดเธอหนึ่งสัปดาห์ วันนั้นฉันไปส่งข้าวให้เซี่ยหลิน พวกเราเรียนจบมหาวิทยาลัยกันหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ เพราะรอตอบคำถามวิทยานิพนธ์ เซี่ยหลินจึงเปิดสอนเด็กนักเรียนแถวบ้านฉันเห็นเองกับตาว่าชุยเหยาจูบเซี่ยหลินต่อหน้าต่อตาเด็กๆ และผู้ปกครองของเด็กพวกนั้น ทั้งยังประกาศว่าเป็นแฟนของเธอด้วยฉันรับไม่ได้ คนหนึ่งเป็นเพื่อนสนิทของฉัน อีกคนเป็นคนที่ฉันรัก พวกเขารวมหัวกันหักหลังฉันแบบนี้ได้ยังไงดังนั้น หลังจากกลับบ้าน ฉันเลยทะเลาะกับเซี่ยหลิน และขอเลิกกับเขาชุยเหยามาถึงบ้านฉัน ก็ขอโทษฉันบอกว่าเธอแค่ต้องการหาแรงบันดาลใจในการวาดภาพเท่านั้น ฉันโกรธเลยให้เธออยู่ข้างนอก แล้วถามเธอด้วยตาแดงก่ำว่าเธอชอบเซี่ยหลินจริงๆ ไหม ถ้าชอบจริง เราสองคนสามารถแข่งกันอย่างยุติธรรมได้เธอส่ายหน้า แล้วตอบว่า ไม่ได้ชอบจริงๆนับแต่นั้นมา ชุยเหยาก็หายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เธอปิดบังทุกคนไว้ได้ แต่ไม่อาจปิดบังฉันที่รู้รหัสผ่านของเธอทั้งหมดได้ ฉันหาตัวเธอพบที่สตูดิโอร้างของมหาวิทยาลัยในสตูดิโอ เป็น

  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 6

    หลินหยุนมองฉันที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ถูกพันด้วยผ้าพันแผลบนใบหน้า แล้วฟังฉันเล่าอย่างเงียบๆใช่ เขาไม่ได้ตายในหน้าที่ แถมยังช่วยฉันออกมาจากกองไฟด้วยเขาบอกว่า เขาเจอหลักฐานบางอย่างตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว พอดีกับมีภารกิจทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เขาเลยแกล้ง ‘ตายในหน้าที่’ เพื่อให้เซี่ยหลินลดความระมัดระวังลงเซี่ยหลินเชื่ออย่างนั้นจริง แล้วรีบขนย้ายร่างศพของจี้เสวี่ยที่ถูกจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับเข้าบ้าน นำไปรวมอยู่ในกองผลงาน ‘ศิลปะ’ มากมายของเขาเขารู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่สามารถปกป้องฉันไว้ได้ ทำให้ฉันต้องเสียโฉมและเส้นเสียงไปกับกองไฟนั่นฉันยิ้มแล้วส่ายหัว เป็นการบ่งบอกว่าแค่เขาช่วยฉันออกมาได้ ฉันก็ซาบซึ้งใจมากแล้วหลินหยุนเองก็หัวเราะ แล้วมองไปที่สมุดสเกตช์เล่มเล็กของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะ “คุณวาดเองเหรอ?”ฉันพยักหน้า “ฉันเบื่อน่ะ ก็เลยวาดเล่นๆ”หลินหยุนพลิกกระดาษไปมา แล้วหยุดอยู่ที่ภาพวาดภาพหนึ่ง ฉันชะเง้อหน้าไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ภาพนั้นเป็นภาพต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่มีกิ่งไม้พันธุ์อยู่รอบๆ หอคอยสมบัติ ดูแล้วให้ความรู้สึกสวยงามแปลกๆ“ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงอย่างคุณจะชอบอะไรที่

  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 5

    เซี่ยหลินตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่หยุดฉันหยิบแขนเทียมและตั๋วรถไฟถามเขา “พวกนี้หมายความว่ายังไง”เขากลับโยนภาพถ่ายปึกหนึ่งใส่หน้าฉัน ในภาพถ่ายมีทั้งรูปแนบชิดสนิทสนมของชายหญิง รูปสวีทกันริมทะเล รูปจูบกันในป่าลับ รูปชุดคู่รักหวานแหววในห้าง และรูปบนเตียงบาดตาบาดใจอีกบางส่วน รวมถึงร่างอนาถฉันจำผู้หญิงในรูปได้ทันที ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นเพื่อนสนิท และคุ้นเคยที่สุด จี้เสวี่ยฉากที่เต็มไปด้วยเลือดทำให้ตาของฉันพร่ามัว ฉันปิดปากไม่ให้ตัวเองอ้วกออกมา“คุณ…คุณฆ่าจี้เสวี่ยเหรอ?”“ฆ่า?”เซี่ยหลินยิ้มออกมา “ผมขอเรียกมันว่า การเก็บข้อมูลดีกว่า”มองดูสายตาที่ไร้ความอบอุ่นของเขาแล้ว ฉันก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมา“ทำไม?” ฉันตัวพิงพนัง พยายามระงับความสั่นเทาของตัวเอง “ถ้าคุณไม่รักฉัน คุณก็บอกฉันตรงๆ สิ ทำไมต้องปลอมใบรับรองแพทย์โรคจิตเภทของฉัน แล้วสร้างเรื่องมากมายขนาดนี้ด้วย?”เขาถอนแขนเทียมออกทันใด เผยให้เห็นแขนขวาของเขาที่เป็นแผลรอยเย็บอันน่าเกลียดน่ากลัว แลดูเหมือนถูกตัดไปทั้งแขน “เป็นเพราะคุณทั้งหมดเลย เพราะคุณเพอร์เฟคเกินไป ตอนที่คุณอยู่ คุณจะนำหน้าผมก้าวหนึ่งเสมอ ฐานะทา

  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 4

    จากปากของเซี่ยหลิน ฉันได้ยินเรื่องราวที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงในเรื่องราวนั้น ฉันและเซี่ยหลินยังคงเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบคู่หนึ่ง เขาฝันอยากจะเป็นจิตรกรเหมือนปีกัสโซ และแวนโก๊ะตั้งแต่เด็ก ใช้พู่กันของเขาวาดเขียนโลกสำหรับเราสองคนออกมาสิ่งที่ต่างไปจากเรื่องราวของฉัน คือ ในโลกของเขา สามเดือนก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ฉันเห็นฉากอุบัติเหตุครั้งใหญ่เกิดขึ้น ตั้งแต่นั้นมา เซี่ยหลินก็เห็นว่าฉันผิดแปลกไปฉันมักจะจินตนาการว่าคนที่เกิดอุบัติเหตุนั้นคือเขา หรือไม่ก็ตัวเอง มักจะถือตุ๊กตาผ้าไปยืนอยู่ตรงระเบียง แล้วโยนมันลงมาจากชั้นบนแรงๆ แล้วบอกว่า นั่นเป็นตัวแทนของฉัน เป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบที่สุดเขากังวลมากจึงพาฉันไปหาหมอ หลังจากที่หมอทำการตรวจวินิจฉัยต่างๆ นานา ก็ยืนยันว่าฉันเป็นโรคจิตเภทฉันถูกบังคับให้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันเกิดของฉัน เซี่ยหลินอยากพาฉันกลับไปฉลองวันเกิดด้วยกัน แต่ฉันกลับหนีไปหาจี้เสวี่ย แล้วจินตนาการว่าตัวเองได้เกิดใหม่ แต่งเรื่องจินตนาการไร้สาระนี้ออกมา เพื่อปิดบังโรคของฉัน เขาจึงให้จี้เสวี่ยโกหกฉันว่า เขาถูกรถชนจริงๆ และให้จี้เสวี่ยแสร้งเหมือนปกป้องฉัน เพื

  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 3

    เซี่ยหลินนอนโรงพยาบาลอยู่สองเดือน วันที่ออกจากโรงพยาบาล ฉันเป็นคนมารับเขา ตอนที่เห็นหน้าครอบครัวคู่กรณี ฉันไม่ได้โกรธเหมือนตอนอยู่หน้าห้องผู้ป่วยวิกฤต ซ้ำยังพยักหน้าทักทายพวกเขาอย่างใจเย็นสองเดือนผ่านไป เซี่ยหลินผอมลงมาก แววตาก็ไม่สดใสและมีชีวิตชีวาเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป แต่ปกคลุมไปด้วยความเศร้าโศกที่พูดไม่ออก ผู้ชายที่มีชีวิตชีวาในตอนนั้นได้กลายมาเป็นคนไม่สบประกอบในตอนนี้หลังจากกลับไปถึงบ้าน ฉันก็เริ่มหลบหน้าเขา เพราะเหตุการณ์เมื่อชาติก่อนได้กลายเป็นฝันร้ายที่ทำให้ฉันนอนไม่หลับไปแล้วเซี่ยหลินที่เดิมรู้สึกผิดอยู่แล้ว พอเห็นท่าทีของฉัน เขาก็ยิ่งมองโลกในแง่ร้าย และใช้อารมณ์กับฉันบ่อยๆ “คุณเห็นว่าผมเป็นไอ้พิการ ก็เลยอยากหนีไปจากผมใช่ไหมล่ะ? อ้อ ไม่สิ คุณอยากไปจากผมตั้งนานแล้ว อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าคุณกับรุ่นพี่ที่แซ่หลินของคุณนั่นมีความสัมพันธ์กัน ตอนนี้พอดีเลยสิ ผมพิการ คุณก็สามารถไปหาเขาได้แล้ว!”รุ่นพี่คนนั้นที่เขาหมายถึงเป็นคนในชมรมที่มหาวิทยาลัย ชื่อหลินหยุนความจริงฉันกับเขาไม่ถือว่ามีความสัมพันธ์กันหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะนิทรรศการของชมรมครั้งนั้น พวกเราก็คงไม่เกี่ยวข้องกัน เพรา

  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 2

    ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันนอนอยู่บนโซฟาในบ้านด้วยท่าทีสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เซี่ยหลินยกเค้กออกมาจากห้องครัวก้อนหนึ่ง ทำเอาฉันตกใจจนสะดุ้งโหยงฉันตกพบว่าแผลที่ถูกแทงบนร่างกายของฉันหายไปเป็นปลิดทิ้ง แม้แต่ความรู้สึกเจ็บปวดก็ไม่มีอีกต่อไปราวกับเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแววตาของเซี่ยหลินยังคงอ่อนโยนเหมือนก่อน “เซอร์ไพรส์ใช่ไหมล่ะ เร็วเข้า รีบมาทานเค้กเร็ว ก่อนหน้านี้คุณบ่นอยากกินเค้กร้านนี้ไม่ใช่เหรอ ผมออกไปต่อแถวตั้งแต่ตีห้าแหนะ”“สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณหนูเหยาคนสวย ขอให้มีความสุขมากๆ สมปรารถนานะ”มีความสุขมากๆ สมปรารถนา!ฉันมองไปที่แขนข้างซ้ายที่ปกติดีของเซี่ยหลิน แล้วตกใจจนเหงื่อท่วมตัวฉันเกิดใหม่ เกิดใหม่ในวันที่เซี่ยหลินเกิดอุบัติเหตุ เหตุการณ์นองเลือดเมื่อชาติก่อนยังคงติดตา ฉันอยากหนีไปอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนว่าตัวจะร้อนแค่ไหน เพียงแค่อยากหนีไปจากฝันร้ายนี้เซี่ยหลินสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ คิดว่าทำอะไรให้ฉันไม่พอใจ เขาถือเค้กไว้ในมือ แล้วเดินตามหลังฉันไปจนออกจากหมู่บ้านไปฉันยิ่งวิ่งยิ่งเร็ว ยิ่งวิ่งยิ่งได้สติ จากนั้นถึงจะค่อยๆ หยุดลงใช่แล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน

  • สามีแต่งใหม่ของฉันกำลังจะฆ่าฉัน   บทที่ 1

    ฉันกับเซี่ยหลินเป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กตั้งแต่เด็ก เราต่างก็รู้ดีว่าเราเป็นของกันและกันเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอื่น พวกเราทั้งสองเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบที่สุดของกันและกันฉันทำกับข้าว ซักผ้าให้เขา ฤดูหนาวก็ถักถุงมือและผ้าพันคอให้ ส่วนเขาจะต้มน้ำตาลแดงยามปวดท้องให้ฉัน เตรียมของขวัญสำหรับวันสำคัญ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เขาก็ละเอียดรอบคอบและใส่ใจอยู่เสมอเราทั้งสองเรียนคณะวิจิตรศิลป์เหมือนกัน เขาเรียนเกี่ยวกับการวาดภาพน้ำมัน ส่วนฉันเรียนเกี่ยวกับการเขียนภาพสเกตช์ เราต่างมีความฝันเหมือนกัน คือ การได้เป็นจิตรกรชื่อดังเหมือนปีกัสโซ และแวนโก๊ะ ความสัมพันธ์ระหว่างเราดีมาตลอด ซ้ำยังตั้งใจว่าจะแต่งงานกันเมื่อถึงอายุที่กฎหมายกำหนดจนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุครั้งหนึ่ง ทำให้เซี่ยหลินต้องสูญเสียมือข้างขวาไปฉันจำได้เพียงฉากที่รถคันนั้นเหยียบซ้ำที่แขนของเขาไปมาในตอนนั้น เหมือนกับเจ้าแห่งนรกมายึดพรสวรรค์ของอัจฉริยะไปอย่างไรอย่างนั้น นับแต่นั้นมา เซี่ยหลินก็เปลี่ยนไป เขากลายเป็นคนเงียบ ไม่ชอบพูดจา อารมณ์ร้ายถึงขนาดลงมือกับฉันเป็นบางครั้งแต่เขายังยืนหยัดในการวาดภาพต่อ โดยเปลี่ยนมาใช้มือซ้ายแ

DMCA.com Protection Status