หน้าหลัก / โรแมนติก / สามีพันธกาลรัก / บทที่ 2 คำขอโทษจากคู่หมั้น

แชร์

บทที่ 2 คำขอโทษจากคู่หมั้น

ผู้เขียน: Mamaya Writer
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-14 11:05:57

บทที่ 1

ปีคริสต์ศักราช 20XX

ภายในห้องชุดคอนโดหรูย่านใจกลางเมือง เสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น หญิงสาวรูปร่างเพรียวส่วนสูงราวกับนางแบบ ใบหน้าสวยหวาน ดวงตาสีดำกลมโต ริมฝีปากอิ่มเข้ากับรูปหน้า กำลังฮัมเพลงอย่างมีความสุขขณะที่เลือกหยิบเสื้อผ้าอยู่หน้ากระจก รอยยิ้มหวานปรากฏออกมาครั้นนึกถึงคำพูดของแฟนหนุ่มเมื่อสามวันก่อนที่ดังก้องในหัว

‘ที่รัก...เราแต่งงานกันนะ’

มิราวดีหยิบเสื้อผ้าขึ้นทาบตัวครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ยังไม่พอใจ วันนี้แฟนหนุ่มกำชับให้แต่งตัวสวยที่สุดด้วยแล้วยิ่งทำให้มั่นใจว่าจะต้องมีอะไรมาเซอร์ไพรส์อีกแน่นอน ดวงตากลมหันมองเสื้อผ้าหลายสิบชุดที่กองรวมอยู่บนเตียง หยิบยกขึ้นมาดูหลายทีโดยที่ยังตัดสินใจไม่ได้

พอได้ยินเสียงสั่นข้อความเข้าจึงเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นเปิดอ่าน รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าอย่างมีความสุข มองตัวอักษรบนจออย่างเขินอาย

มิราวดีวางโทรศัพท์ก่อนหันไปเลือกชุดต่อเมื่อรู้ว่าเสียเวลาไปนานพอสมควร มือหยิบชุดขึ้นทาบมองตัวเองสะท้อนจากหน้ากระจก ก่อนตัดสินใจเลือกชุดเดรสสั้นเหนือเข่าเข้ากับสีผิวและสีผม

เมื่อเลือกเสื้อผ้าที่จะสวมไปทานมื้อค่ำได้แล้ว หญิงสาวจึงรีบอาบน้ำออกมาแต่งหน้าทำผมใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วโมงกว่า มิราวดีส่องมองตัวเองหน้ากระจกอีกครั้งด้วยความมั่นใจ หยิบกระเป๋าและสวมรองเท้าที่เข้ากับชุดเดินออกจากห้องไป

ประตูห้องเปิดปิดอัตโนมัติผ่านลายนิ้วมือ เพราะยุคสมัยเปลี่ยนเทคโนโลยีความปลอดภัยจึงถูกปรับให้สะดวกสบายมากขึ้น มนุษย์แทบไม่ต้องทำอะไรเอง แม้จะเคยได้ยินคำบอกเล่าของย่าสมัยเด็กว่า เมื่อก่อนไม่ได้สะดวกสบายแบบนี้

“รอนานไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหาแฟนหนุ่ม

ณัฏฐ์ แฟนหนุ่มของมิราวดีละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมองพลางส่งยิ้มให้

เธอสังเกตสีหน้าของแฟนหนุ่มดูไม่ดีนักจึงถามขึ้นว่า

“มีอะไรไม่สบายใจไหมคะ”

“มะ...ไม่มีหรอก” ชายหนุ่มยิ้มกลบเกลื่อน พลางลุกขึ้นจากโซฟา

“วันนี้คุณสวยมาก”

หญิงสาวยิ้มเขิน เมื่อได้รับคำชมจากอีกฝ่าย

“วันนี้มีอะไรเหรอ ทำไมถึงให้ฉันแต่งตัวสวย ๆ”

“ก็ดินเนอร์น่ะ” ณัฏฐ์ตอบพลางยิ้มเจื่อน ๆ ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ในใจก็วิตกจนแทบทำอะไรไม่ถูก ถึงกระนั้นก็ยังยิ้มสู้แล้วพูดเสียงหวานให้แฟนสาว

“เราไปกันเถอะ เดี๋ยวจะหิวเอานะ”

“ค่ะ”

มิราวดีพยักหน้าเดินออกไปกับแฟนหนุ่ม เธอมีความสุขและไว้ใจเขามากที่สุด ณัฏฐ์คือคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเธอมาตลอดตั้งแต่พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน เปรียบเสมือนคนในครอบครัว ยิ่งมารู้ว่าเขาขอแต่งงานและพร้อมที่จะสร้างชีวิตเคียงคู่แล้ว ยิ่งทำให้มีความสุขราวกับว่าสวรรค์ไม่ได้ทอดทิ้งไปไหน

เสียงดนตรีขับบรรเลงในยามค่ำคืนของร้านอาหารบนดาดฟ้าโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางเมือง มิราวดีมองด้วยความตกใจและตื่นเต้นทันทีที่เดินเข้ามา ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่มองจากตึกสูง แสงไฟบนถนน ดอกไม้ และเสียงเพลง รวมถึงกลิ่นหอมจากเทียนอ่อน ๆ ชวนผ่อนคลาย

ณัฏฐ์เดินเข้ามาสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง กระชับวงแขนแน่นพลางจุมพิตที่ไหล่มน

“ชอบไหม”

“ชอบค่ะ ชอบมาก” หญิงสาวปริ่มยิ้มอย่างสุขใจ ทุกครั้งที่เขาบอกว่าอยากให้เธอมีความสุข ก็ไม่เคยที่จะผิดหวัง ทั้งยังได้อยู่ในอ้อมกอดด้วยกันแบบนี้ก็ไม่มีสิ่งใดมาเทียบได้อีก

“ฉันรักคุณนะคะ” เป็นคำพูดที่ไม่ต้องใช้เวลาไตร่ตรองให้นาน เธอพูดออกมาด้วยความรู้สึกยินดี

“คุณหิวแล้ว เรามากินข้าวกันเถอะ” ณัฏฐ์เอ่ยพลางยกมือบอกให้บริกรเสิร์ฟอาหารที่สั่งไว้ เขาพาเธอมานั่งรับประทานอาหารมื้อค่ำที่จัดเตรียมไว้พิเศษ ทั้งเมนูโปรด เสียงเพลงและความเป็นส่วนตัว

เธอตักอาหารเข้าปากพลางเหลือบมอง ก่อนวางช้อนส้อมลงเอื้อมมือ

หยิบน้ำดื่ม

“ขอบคุณมากนะคะ ความจริงแล้วให้ฉันทำอาหารกินด้วยกันก็ได้ค่ะ แค่ได้อยู่กับคุณก็พอ”

“แต่วันนี้เป็นวันพิเศษนะ วันที่เราพบกันครั้งแรกไง ผมอยากให้คุณเซอร์ไพรส์”

“ขอบคุณค่ะ เอ่อ...แล้วเรื่องงานแต่ง...” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเพราะเกรงว่าการเตรียมจัดงานแต่งจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานที่กำลังก้าวหน้าของเขา

ณัฏฐ์นิ่งเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม

“เรื่องงานแต่งคุณไม่ต้องห่วง”

“ค่ะ ฉันกลัวว่าคุณจะไม่มีเวลาก็เลย...”

ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมมือของหญิงสาวและเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้ม

“ที่รัก ผมมีเวลาให้เสมอนะ ไม่ว่างานจะเยอะแค่ไหน ผมก็อยากให้วันแต่งงานของเราสองคนเป็นวันที่ดีที่สุด”

พอได้ยินแฟนหนุ่มพูดยิ่งทำให้หัวใจของมิราวดีเต้นเร็วขึ้นไม่เป็นจังหวะ แก้มสองข้างร้อนผ่าว จนซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิด

“ขอบคุณนะคะที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอด”

“ผมยินดีและเต็มใจครับ”

ชายหนุ่มพูดพลางตักอาหารเข้าปากเหลือบมองหญิงสาวที่ยิ้มเขิน ๆ ก่อนจะยกมือทำสัญญาณบอกให้บริกรนำช่อดอกไม้ใหญ่ที่จัดเตรียมไว้มา เมื่อดอกไม้ที่สั่งมาถึงแล้วเขาจึงลุกขึ้นรับดอกไม้แล้วเดินเข้ามาหาแฟนสาว ก่อนคุกเข่าลงข้างที่นั่งของเธอ

มิราวดีตกใจรีบขยับตัวลุกออกทันที

“ทำอะไรคะ ลุกขึ้นมาก่อนก็ได้ค่ะ”

“ไม่ครับ” เขาก้มหน้าลงพลางสูดลมหายใจเข้าแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับหญิงสาว “ผมอยากมอบช่อดอกไม้นี้ให้คุณ ด้วยความจริงใจ ความรักที่ผม

มีให้คุณ ไม่ใช่เรื่องโกหกหลอกลวง...”

“คุณกำลังพูดเรื่องอะไรคะ ?” หญิงสาวงุนงง

“ผมอยากขอโทษในสิ่งที่ผมทำผิดกับคุณ” ณัฏฐ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า “ผมอยากให้คุณอภัยให้...”

“เดี๋ยวนะคะ คือฉันไม่เข้าใจค่ะ” เธอมองเขาพลางครุ่นคิด ในใจมีคำถามมากมายเกิดขึ้น ทำไมอยู่ ๆ แฟนหนุ่มจึงพูดออกมาแบบนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้จะมีปากเสียงหรือไม่พอใจกันบ้างแต่ไม่เคยทะเลาะให้เป็นเรื่องใหญ่โตเลย อีกทั้งมีแต่เธอที่จะโดนเขาดุด้วยซ้ำไป

“คุณขอโทษทำไมคะ”

“ผมก็แค่...” ชายหนุ่มลุกขึ้น “อยากให้เราลืมเรื่องที่เคยโกรธกัน และอยากให้คุณรู้ว่าไม่ว่าผมจะทำอะไรผิดพลาดไปในอนาคต แต่ผมก็ยังรักคุณเสมอไม่เคยเปลี่ยน ผมรักคุณ”

คำพูดที่ออกมาจากใจ จากความรู้สึกที่ตัดสินใจยากนั้นทำให้ณัฏฐ์ต้องฝืนยิ้มมันออกมา เขาลังเลที่จะพูดความจริงแต่ก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว

“ฉันให้อภัยเสมอ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรผิดร้ายแรงแค่ไหน” มิราวดีพูดด้วยความจริงใจ ยิ่งเห็นเขาทำแบบนี้แล้วกลับเป็นเธอที่รู้สึกผิดเข้าไปอีก

“ฉันรักคุณมากค่ะ”

ณัฏฐ์เดินเข้ามาหายื่นช่อดอกไม้ให้

“ดอกไม้แด่คนที่ผมรักครับ”

“ขอบคุณค่ะ”

หญิงสาวเอื้อมมือรับขณะที่เขาก้าวเข้ามาแล้วดึงเธอมากอด

ใบหน้าสวยซุกเขินอายปนดีใจอยู่ที่อกแกร่ง คำบอกรักและคำขอโทษของเขาทำให้รู้สึกว่าชีวิตนี้หากสวรรค์จะเล่นตลกอะไรอีก ขอมีเพียงผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้างก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอีกแล้ว

มิราวดีหันไปมองแฟนหนุ่มเมื่อรถหยุดที่ข้างทาง

ดวงตากลมมองด้วยความสงสัยและแปลกใจ เส้นทางที่ไม่คุ้นเคยไม่ใช่ทางที่เคยไปส่งกลับคอนโด ประจำ ทั้งยังดูเปลี่ยวและน่ากลัว ทว่าความไว้ใจที่มีต่อเขานั้นยังไม่ลดลง

“ทำไมอยู่ ๆ ถึงมาที่นี่เหรอ”

แม้ใจจะรู้สึกหวาดหวั่นตามสัญชาตญาณ แต่เธอก็พยายามคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ

ณัฏฐ์นิ่งแล้วหันมายิ้มให้เธอ “มีที่ที่อยากให้ดูน่ะ”

หญิงสาวขมวดคิ้วมองด้วยความแปลกใจ เพราะวันนี้แฟนหนุ่มจะเซอร์ไพรส์เยอะมากเกินผิดวิสัย แต่ถึงกระนั้นความหวาดระแวงในใจก็ไม่ได้มีเพิ่มขึ้น

“ที่ไหนเหรอคะ”

ชายหนุ่มเอื้อมมือหยิบผ้าหนึ่งผืนขึ้นมา แล้วขยับตัวโน้มไปหาเพื่อปิดตา เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนจนเธอยอมแต่โดยดี

“ปิดเลยลงมาที่จมูกแล้วนะคะ” มิราวดีทักท้วงเมื่อผ้าที่ปิดตานั้น เกือบปิดทั้งใบหน้าจนหายใจไม่ออก ยิ่งพยายามใช้มือดันออกกลับยิ่งถูกดันปิดมาที่จมูกมากเท่านั้นราวกับว่าแฟนหนุ่มจงใจ แรงที่น้อยกว่าต้านทานไว้ไม่ได้ ซ้ำร่างกายกลับรู้สึกไม่มีแรงขึ้นมา

มิราวดีรู้สึกหวาดกลัวแต่ก็ต่อต้านอะไรไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มทำตามที่อยากทำจนกระทั่งสติของเธอเริ่มเบลอหายไป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 3 ชดใช้

    ณัฏฐ์ขยับตัวนั่งที่เบาะเหมือนเดิม พลางมองคู่หมั้นหลับคอพับด้วย สีหน้าลังเล จะต้องทำจริง ๆ หรือ ผู้หญิงคนนี้คือคนที่กำลังจะแต่งงานด้วยและเป็นคนที่ไว้ใจเขามากที่สุด แต่ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องตายทั้งคู่ และเธอก็บอกเองว่าต่อให้เขาทำผิดมากแค่ไหนก็อภัยให้ได้เสมอ “ขอโทษนะ” เขาได้แต่เอ่ยขอโทษด้วยความผิดบาป แม้ใจยังลังเลอยากจะเลี้ยวรถกลับไปก็ตาม “บ้าจริง !” ส่วนลึกในใจตอกย้ำต่อความรักและความเชื่อใจที่มีให้กันจนไม่กล้าที่จะทำ ณัฏฐ์นั่งลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจจะขับรถเลี้ยวกลับไปทว่า ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ เสียงเคาะกระจกทำให้เขาสะดุ้งหันไปมองด้วยความหวาดหวั่น คนด้านนอกทำมือเป็นสัญญาณบอกให้ออกมา ณัฏฐ์ทำอะไรไม่ถูกเพราะ ความกลัวกำลังครอบงำจิตใจ จึงทำตามที่อีกฝ่ายบอกโดยง่าย “เงินอยู่ไหน” ชายหนุ่มสะดุ้งพลางยกมือขึ้นไหว้ “ผมยังไม่มี ผม...” ยังพูดไม่ทันจบณัฏฐ์ก็ถูกอีกฝ่ายต่อยล้มลงที่พื้น ครั้นจะทรงตัวยืนขึ้นก็ถูกกระทืบซ้ำอีกหลายที “อั๊วบอกแล้ว ถ้าไม่มีเงินให้ก็ต้องตาย !” ชายหนุ่มมองปืนที่อยู่ในมือชายร่างท้วมด้วยความหวาดกลัว พลาง ยกมือขึ้นไหว้ของร้องชีวิต “เฮียโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 4 เอาตัวรอด

    นานเกือบสองชั่วโมง กว่าที่หญิงสาวคนนี้จะยอมเล่าว่าตนเองนั้นก็ถูกขายใช้หนี้พนันเหมือนกัน และก็พยายามหาทางหนีหลายรอบแต่ไม่เคยสำเร็จ ทั้งยังบอกอีกว่ามีทางเดียวที่จะหนีได้คือช่วงหลังงานประมูล ช่วงนั้นคนคุมมีน้อย ซ้ำเฮียโชคหรือพ่อค้ามนุษย์ก็สนใจแต่ลูกค้าและเงินที่กำลังได้มา“เราหนีไปด้วยกันไหม”อีกฝ่ายส่ายหน้า เพราะรู้ว่าหมดหนทางแล้ว“ไม่ได้ เพราะพวกมันเข้มงวดกับฉันมากขึ้น หากมันเจอว่าฉันหนีไปอีก ฉันต้องถูกฆ่าตายแน่ ๆ ถ้าเธอหนีไปได้ก็รีบย้ายที่อยู่ ย้ายไปให้ไกล ๆ ไม่ให้มันตามเจอ”มิราวดีพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรอีก เพราะนอกจากจะต้องหนีแล้วคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ตอนนี้ได้เพียงแค่เฝ้ารอเวลาที่จะถูกขายประมูลออกไปหญิงสาวรู้สึกเจ็บใจมากกว่าเจ็บปวด เพราะไว้ใจแฟนหนุ่มราวกับคนในครอบครัวแต่ท้ายที่สุดกลับถูกแทงข้างหลัง ความรักที่มีไม่ได้สลายหายไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงแต่มันกลับดูว่างเปล่าและย้ำเตือนว่าที่ผ่านมาแค่คำหลอกลวง ไม่ใช่ความจริงใจ ไม่ใช่ความรัก แค่คำตอแหลของผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้นถ้าเขารักเธอจริง คงไม่ทำร้ายชีวิตเธอแบบนี้ !หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...มิราวดีใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงในห้องพัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 5 ผู้มีพระคุณ

    เสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามากระชั้นชิดขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายและกำลังของ มิราวดีเริ่มตก เพราะไม่เคยต้องใช้แรงมากมายเท่านี้ พอเข้าตัวห้างสรรพสินค้าก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง มีผู้คนค่อนข้างเยอะทำให้วิ่งหลบหนีได้ง่าย แม้จะมีคนมองทุกครั้งที่วิ่งผ่านหรือชน แต่ก็ไม่มีเวลามากพอที่จะเอ่ยคำขอโทษ ได้แต่กล่าวขอโทษในใจและวิ่งหนีต่อไป“เฮ้ย อยู่ทางนั้น !”“ทำไมตาดีขนาดนี้เนี่ย !” เธอบ่นพลางหันมองทั้งสองคนที่กำลังวิ่งตามทางบันไดเลื่อน แม้จะอยู่ห่างมากพอแต่ความไวของอีกฝ่ายก็ทำให้ประมาทไม่ได้“เป็นนักวิ่งระดับชาติหรือไง !”มิราวดีรู้ตัวดีว่าต้องหาสักที่หลบซ่อนไม่ให้หาเจอ แต่ถ้าเข้าห้องน้ำไปก็ไม่ปลอดภัย ถ้าหากไม่มีคนแล้วพวกนั้นบุกเข้ามา เหมือนไปติดกับเต็ม ๆ หญิงสาวรู้สึกกระวนกระวายจนเริ่มหาทางออกไม่ได้ แม้จะอยู่ใจกลางเมืองแต่ทว่าเธอก็ไม่มีโทรศัพท์หรือเงินติดตัวมาสักนิด ครั้นจะขอความช่วยเหลือคนที่เดินผ่านก็รีบเดินหนีเธอทันทีในตอนนี้ไม่มีเวลาคิดมาก ทำได้แต่วิ่งหนีไป กระทั่งหนีออกมาทางประตูของห้างที่เป็นลานรับส่งรถแล้ว ก็ยิ่งตัดสินใจลำบากว่าจะไปทางไหนต่อดี จะกลับเข้าไปใหม่ก็ไม่ทันเพราะพวกนั้นตามมาแล้ว“นั่น ! อยู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 6 แชร์เฮ้าส์

    มิราวดีไม่มีเวลาให้ทำใจหรือเสียใจกับความรักที่มอบให้แฟนหนุ่มมาหลายปีมากนัก เพราะต้องตั้งสติเอาชีวิตรอดจากนรกบนดินนี้เสียก่อน หญิงสาวรีบจัดเก็บของลงกระเป๋าเท่าที่ทำได้ โชคดีที่ไม่มีของเยอะ หลังจากเก็บของใช้เวลาร่วมหลายชั่วโมงจนข้ามวันใหม่ เธอจึงใช้โทรศัพท์เครื่องสำรองรีบโทร.บอกเจ้าของห้องไม่ต่อสัญญาและย้ายออกทันทีเมื่อจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้วจึงรีบโทร.แจ้งธนาคารอายัดธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดไว้ ถึงแม้ใจอยากจะแจ้งความมาก แต่หากแจ้งไปต่อให้ตำรวจเข้าไปตรวจค้นคงไม่เจอเพราะพวกนั้นคงไหวตัวทันในเวลานี้มิราวดีไม่ไว้ใจเพื่อนสนิทหรือใครที่รู้จักเลย เพราะอาจจะบอกที่อยู่ให้แฟนหนุ่มรู้ได้ จึงทำได้เพียงเก็บและขนของทั้งหมดที่ใส่ได้ลงรถ และขับออกจากคอนโดฯ ไปอย่างรวดเร็วหญิงสาวขับรถออกจากสถานที่เดิมมาหาห้องพักเพื่ออยู่ชั่วคราวไปก่อน แต่ก็ไม่มีที่ไหนที่จะทำให้รู้สึกปลอดภัยกระทั่งรถขับผ่านบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไกลออกจากใจกลางเมือง ซ้ำยังประกาศติดว่า “แชร์เฮ้าส์”ดวงตากลมมองด้วยความลังเลเพราะไม่ชินกับการอยู่ร่วมคนแปลกหน้า แต่นี่อาจจะเป็นความปลอดภัยแบบหนึ่งก็ได้ มิราวดีตัดสินใจจอดรถไว้ข้างทาง และกำลังจะกดก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 7 รอคำตอบ

    “ผมจะรอคำตอบจากคุณ”มิราวดีเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์ชั่วครู่ พอรู้สึกตัวก็รีบขยับตัวถอยห่างทันที “เอ่อ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”เมื่อพูดจบหญิงสาวก็รีบเดินออกจากห้องรับแขกไปอย่างรวดเร็วรชตมองคนตัวเล็กเดินจากไปจนลับสายตา จึงเดินออกจากห้องรับแขกขึ้นมานั่งอ่านหนังสือที่ห้องหนังสือ ไม่นานนักอาโปก็เดินเข้ามา“ปล่อยโอกาสแบบนี้ไปจะดีเหรอ ฉันเองก็ไม่อยากใช้พลังเยอะนะ รู้ไหมว่าฉันต้องอ่านความทรงจำของเธอ และสร้างภาพลวงตาขึ้นมาให้หล่อนขับมาทางนี้ได้ลำบากแค่ไหน...” อาโปเดินเข้ามาพลางบ่น พลังของเทพก็มีขีดจำกัดในการรับรู้เรื่องราว เพราะฉะนั้นถึงรับรู้เพียงเหตุการณ์ช่วงสั้น ๆ ว่าหญิงสาวต้องการย้ายที่ใหม่อย่างเร่งด่วนเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ไม่อาจรับรู้ได้เจ้าไก่สีขาวกระโดดขึ้นนั่งประจำที่เก้าอี้เล็ก“วันนี้อาหารว่างไม่ได้เรื่องเลยนะ”“ถ้าเรื่องมากก็ไปทำกินเองสิ” รชตพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่...“หน็อย !” อาโปมองด้วยแววตาขุ่นเคือง ไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อยปีนิสัยและวาจาก็ยังคงไม่เปลี่ยน เฮ้อ...แต่ก็นะ “แล้วจะทำอย่างไรต่อไป”ชายหนุ่มยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ยังไงเธอก็ต้องกลับมา”อาโปหันมองแววตามั่นใจและรอยยิ้มที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 8 ช่วยเหลือ

    หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปมิราวดีไปทำงานตามปกติ ก่อนหน้าที่ลาหยุดก็เขียนจดหมายลาส่งให้เจ้านายโดยบอกว่าเพื่อนสนิทที่รู้จักกันป่วยต้องเดินทางไปต่างจังหวัด แม้จะขาดงานไปนานหลายวันแต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียเรื่องงาน เมื่อกลับมาจึงจำเป็นต้องตั้งสติและทำงานตามเดิมหญิงสาวพนักงานขายที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานทั้งที่อายุงานน้อย ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม และเป็นพนักงานขายดีเด่นประจำแผนกด้วย เธอทำงานให้กับบริษัทจำหน่ายสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมนำเข้าจากต่างประเทศ และยังมีแบรนด์ที่ผลิตขึ้นเองเพื่อใช้ในประเทศและส่งออกด้วยเช่นกัน ในส่วนของเธอรับผิดชอบสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ“พี่คะ ลูกค้าขอเราลดราคาค่ะ”มิราวดีที่กำลังติดสายอยู่ยกมือขึ้นและคุยกับลูกค้าให้เสร็จก่อนจะหันมาคุยด้วย “ว่าไงจ๊ะ”“ลูกค้าขอลดราคาสินค้าที่จะนำเข้ามาค่ะ คือมินเองก็ต่อราคาไปที่ต่างประเทศแล้ว แต่เขาบอกว่าลดไม่ได้แล้ว เอ่อ...ถ้าไม่ลดงานนี้อาจจะโดนคู่แข่งแย่งไปก็ได้ค่ะ” ศิตราพูดบอกรายละเอียดที่ได้คุยให้กับหัวหน้าฟัง“คู่แข่งที่ลูกค้านำมาเทียบราคากั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 9 ขอแต่งงาน

    กลิ่นหอมคล้ายเครื่องสมุนไพรในสปาลอยคุ้งไปทั่ว หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงเริ่มรู้สึกตัวขยับตอบสนอง ความผ่อนคลายและสบายใจจนไม่อยากจะลุกลืมตาตื่นขึ้นมา กระทั่งสติดึงให้กลับเข้ามาสู่ความจริงจึงลืมตาโพล่งขึ้นด้วยความตื่นตระหนก แม้จะรู้สึกเวียนหัวอยู่บ้างแต่ก็พยุงร่างกายให้ลุกขึ้นนั่ง มองภายในห้องและที่เตียงใหญ่ซึ่งเธอนั่งอยู่“ถ้าวันนี้คุณไม่ตื่นผมคงต้องส่งคุณที่โรงพยาบาลแล้วละ”เสียงของชายหนุ่มที่นั่งอยู่บริเวณโซฟาริมระเบียงเอ่ยขึ้นทำให้มิราวดีรีบหันไปมองด้วยความตกใจ“คุณเข้าห้องฉันมาได้ยังไงคะ”รชตปิดหนังสือแล้วเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่ง“ห้องคุณ”“ก็...ใช่ ไม่ใช่หรือคะ” เธอตอบเสียงแผ่วอย่างไม่มั่นใจมากนักแม้ภายในจะไม่ต่างกันแต่ก็มีความรู้สึกว่าอาจไม่ใช่ห้องที่เธอจองไว้ และในใจก็มีคำถามเกิดขึ้นว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ จำได้ว่าตอนนั้นถูกจับตัวไปแล้ว หรือว่า... “คุณช่วยฉันไว้ใช่ไหมคะ”“คุณควรพูดขอบคุณผมก่อนนะ”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางขยับตัวลุกขึ้นเดินเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 10 เพื่อนร่วมห้อง

    มิราวดีทิ้งตัวนั่งลงที่ปลายเตียง คราวนี้เป็นอีกครั้งที่รอดมาได้เพราะเขาช่วยไว้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตาอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าก็ไม่ซะทีเดียวเพราะคำพูดของชายหนุ่มยังคงดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา“แค่ช่วยเรา ทำไมต้องขอแต่งงานด้วย” นี่เป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจตั้งแต่กลับมาถึงห้อง เขามีพร้อมทุกอย่าง เงินและหน้าที่การงาน แล้วทำไมจึงต้องขอผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันเพียงสองครั้งแต่งงาน เธอไม่เชื่อหรอกว่าบนโลกนี้จะมีรักแรกพบแล้วเป็นคู่แท้กันจริง ๆมิราวดีมีคิดไปไกลแต่สุดท้ายก็สลัดทุกอย่างออกจากหัวสมอง เธอเชื่อว่าวันข้างหน้าต้องพบเจอกันอีก และถึงตอนนั้นอาจมีเรื่องที่จะตอบแทนเขาได้แน่นอน ทว่าตอนนี้สิ่งที่ต้องใส่ใจมากที่สุดคือพวกนั้นยังคงตามล่าเธอและไม่หยุดเพียงเท่านี้ จะต้องทำอย่างไรคนเลว ๆ จึงจะออกไปจากชีวิตของเธอได้ความรู้สึกเสียใจจากการกระทำของแฟนหนุ่มหรือความผูกพันนั้นได้ลดจางลงไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงแต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดจากคนเลว มิราวดีไม่เจ็บปวดไม่รู้สึกอาวรณ์อะไรมากมาย หรือเป็นเพราะไม่มีเวลาสนใจ เพราะต้องหาทางออกให้ชีวิตที่แทบไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17

บทล่าสุด

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 14 เจ้านาย

    เช้าวันทำงานเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่มิราวดีรีบอาบน้ำตื่นแต่เช้าเพราะว่ามีประชุมที่สำนักงานใหญ่ของลูกค้า สองมือหยิบกระเป๋า รองเท้าเเละรีบเดินออกจากห้องด้วยความรีบเร่งกลัวว่าจะไปสายหลังจากนั่งประชุมสัมมนาไปเกือบครึ่งวัน ก็ต่างแยกย้ายกัน มิราวดีเลือกที่จะไปทักทายลูกค้าและแนะนำร้านอาหารเลี้ยงช่วงมื้อกลางวันก่อนกลับเข้ามาที่ออฟฟิศช่วงเย็น เพื่อสรุปรายงานที่ลูกค้าอีกร้านต้องการรวมถึงเซ็นเอกสารอนุมัติบางอย่างเเทนเจ้านายตามอำนาจที่ได้รับมอบหมาย“พี่คะ เจ้านายเรียกเข้าไปพบค่ะ” ศิตราพูดขณะวางเอกสารให้ “เอกสารนี้ส่งอีเมลให้แล้วนะคะ แต่ลูกค้าต้องการแฟ้มกระดาษที่มีลายเซ็นเจ้านายค่ะ ถ้าพี่ไปหาเจ้านายฝากไปด้วยนะคะ ลูกค้าขอวันพรุ่งนี้ค่ะ เดี๋ยวมินจะเข้าไปช่วงบ่ายไปพบเเละนำไปให้เลยทีเดียว”มิราวดีพยักหน้ารับพลางหยิบเอกสารเเละขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนหันไปพูดกับมิตรา“งาน XC0 - 024 สินค้าเข้าจากเมืองนอกแล้วใช่ไหม”“ยังค่ะ เห็นแจ้งว่าสินค้าจะถึงโกดังเราบ่ายวันพรุ่งนี้ค่ะ”“ถ้ามาถึงแล้วรีบจัดการส่งของให้ลูกค้าเลยน

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 13 สงสัย

    มิราวดีพาชายหนุ่มมาเลี้ยงขอบคุณที่ร้านอาหารโปรดริมทาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดฯ ที่เคยอาศัยอยู่ก่อนหน้า เธอชอบมากินหลังเลิกงานเป็นประจำ บรรยากาศร้านไม่อาจเทียบกับร้านหรู ๆ ราคาแพงได้ แต่รสชาติของอาหารนั้นอร่อยไม่แพ้กันเลย ผู้คนและพนักงานเงินเดือนก็นิยมมากินที่นี่หลังเลิกงานหรือซื้อกลับบ้านกันทั้งนั้น“อาหารที่สั่งได้แล้วจ้า”“ขอบคุณค่ะป้า”“แม่หนูเปลี่ยนแฟนใหม่แล้วเหรอ คนนี้หล่อนะเนี่ย”มิราวดีรีบส่ายหน้าและกำลังอ้าปากพูดปฏิเสธแต่ว่า...“ครับ ผมกับเธอเราเพิ่งจะคบกันน่ะครับ”“พ่อหนุ่มดูเป็นคนดี งั้นเดี๋ยวป้าแถมข้าวให้เยอะ ๆ เลยนะ”รชตยิ้มรับและไม่นานอาหารจานใหญ่ก็วางอยู่ตรงหน้า เขามีท่าทางทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยออกมารับประทานอาหารข้างทางเลยสักครั้ง“เป็นอะไรไปคะ?” มิราวดีเอ่ยถามพลางอมยิ้มกับท่าทางของเขา ดูท่าแล้วคงจะไม่เคยมากินอาหารร้านข้างทาง “คุณให้ฉันเป็นเจ้ามือเองนะคะ”ชายหนุ่มมีสีหน้าลำบากใจ มือเอื้อมหยิบช้อนและส้อมวางที่จาน พลางจานอาหารตรงหน้า&ldq

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 12 ตกลง(แต่งงาน)

    ช่วงตอนบ่ายของวัน มิราวดีออกพบลูกค้าตอนบ่ายพร้อมกับลูกน้องที่รับผิดชอบดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อประชุมขอบเขตงานที่เป็นโครงการใหญ่และเงินทุนสูง แต่ทว่าก็ไม่ง่ายมากนักเพราะมีบริษัทคู่แข่งหลายที่พยายามจะแย่งงานนี้ให้ได้เหมือนกัน นอกจากความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้แก่ผลิตภัณฑ์แล้วยังต้องมีบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ความต้องการด้วยมันยากและน่าลำบากใจกับเงื่อนไข ทว่ายอดเงินที่ได้มานั้นเรียกว่าปิดยอดควอเตอร์หน้าได้อย่างสวยงาม กระทั่งการประชุมสิ้นสุดลงทุกคนก็ต่างทยอยเดินออกไป หญิงสาวมีแค่เพียงความหวังเล็กน้อยเพราะดูท่าแล้วคู่แข่งหลายบริษัทก็ต้องตัดราคาให้ได้งานนี้แน่นอน“พี่ไม่เข้าออฟฟิศแล้วนะ” มิราวดีหันมาบอกลูกน้อง“ให้มินไปส่งที่คอนโดฯ ไหมคะ”หญิงสาวส่ายหน้า “ไม่ต้องจ้ะ แยกกันตรงนี้เลยดีกว่า”“ค่ะ ถ้างั้นเดินทางดี ๆ นะคะ”“จ้ะ” มิราวดีขานรับก่อนจะแยกออกมารออยู่ที่ป้ายรอรถไฟฟ้าในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังเฟื่องฟู สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ยังไม่มีรถไฟฟ้าบนดินที่ขับเคลื่อนตามเส้นทางแทนป้ายรถเมล์ทุกป้าย สะด

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 11 เจ้านายใหม่

    หลังจากที่ย้ายมา มิราวดีต้องตื่นเช้าไปทำงานเร็วกว่าปกติ เพราะระยะทางจากคอนโดฯ ที่นี่ห่างจากบริษัทมากพอตัว อีกทั้งเส้นทางจราจรที่ไปก็มีรถติดจนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทันทีที่นั่งลงที่เก้าอี้ทำงานก็หยิบแท่งสี่เหลี่ยมขนาดพอดีมือวางต่อกับไฟ ไม่ถึงหนึ่งนาทีภาพทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นส่องเป็นแสงและภาพสะท้อนในสายตา เธอเข้าอ่านอีเมลที่ยังไม่ได้ตอบกลับหลายฉบับหญิงสาวที่เร่งตอบอีเมลฉบับอื่นจนเสร็จ เมื่อเห็นเมลใหม่จึงเปิดอ่าน ดวงตากลมกลอกมองและหันมองเวลาก่อนอ่านอีเมลอีกรอบ“เปลี่ยนผู้บริหารใหม่งั้นเหรอ”การที่ผู้บริหารใหม่ที่จะเข้ามาดูแลแผนกขาย แสดงว่าเรื่องที่พยามปิดบังไว้ได้ถึงหูของซีอีโอแล้ว“ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องมานั่งระแวงว่าจะถูกลวนลามตอนไหน”มิราวดีถอนหายใจออกมา นับว่าเป็นโชคที่เธอทำผลงานได้ดีจึงไม่มีข้ออ้างมาให้ตาแก่หัวงูนั่นลวนลาม หรือแสดงท่าทีน่ารังเกียจใส่ แต่ทว่าพนักงานหญิงคนอื่นคงจะไม่ใช่ แน่นอนว่าคราวนี้ก็ต้องรอดูว่าผู้บริหารใหม่จะเป็นใคร แต่จะเป็นใครก็ช่างเพราะเธอแค่ทำงานให้ตามเป้าหมายก็พอเวลาล่วงเลยผ่านไปนานพอสมควร หญิงสาวที่นั่ง

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 10 เพื่อนร่วมห้อง

    มิราวดีทิ้งตัวนั่งลงที่ปลายเตียง คราวนี้เป็นอีกครั้งที่รอดมาได้เพราะเขาช่วยไว้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตาอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าก็ไม่ซะทีเดียวเพราะคำพูดของชายหนุ่มยังคงดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา“แค่ช่วยเรา ทำไมต้องขอแต่งงานด้วย” นี่เป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจตั้งแต่กลับมาถึงห้อง เขามีพร้อมทุกอย่าง เงินและหน้าที่การงาน แล้วทำไมจึงต้องขอผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันเพียงสองครั้งแต่งงาน เธอไม่เชื่อหรอกว่าบนโลกนี้จะมีรักแรกพบแล้วเป็นคู่แท้กันจริง ๆมิราวดีมีคิดไปไกลแต่สุดท้ายก็สลัดทุกอย่างออกจากหัวสมอง เธอเชื่อว่าวันข้างหน้าต้องพบเจอกันอีก และถึงตอนนั้นอาจมีเรื่องที่จะตอบแทนเขาได้แน่นอน ทว่าตอนนี้สิ่งที่ต้องใส่ใจมากที่สุดคือพวกนั้นยังคงตามล่าเธอและไม่หยุดเพียงเท่านี้ จะต้องทำอย่างไรคนเลว ๆ จึงจะออกไปจากชีวิตของเธอได้ความรู้สึกเสียใจจากการกระทำของแฟนหนุ่มหรือความผูกพันนั้นได้ลดจางลงไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงแต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดจากคนเลว มิราวดีไม่เจ็บปวดไม่รู้สึกอาวรณ์อะไรมากมาย หรือเป็นเพราะไม่มีเวลาสนใจ เพราะต้องหาทางออกให้ชีวิตที่แทบไม่

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 9 ขอแต่งงาน

    กลิ่นหอมคล้ายเครื่องสมุนไพรในสปาลอยคุ้งไปทั่ว หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงเริ่มรู้สึกตัวขยับตอบสนอง ความผ่อนคลายและสบายใจจนไม่อยากจะลุกลืมตาตื่นขึ้นมา กระทั่งสติดึงให้กลับเข้ามาสู่ความจริงจึงลืมตาโพล่งขึ้นด้วยความตื่นตระหนก แม้จะรู้สึกเวียนหัวอยู่บ้างแต่ก็พยุงร่างกายให้ลุกขึ้นนั่ง มองภายในห้องและที่เตียงใหญ่ซึ่งเธอนั่งอยู่“ถ้าวันนี้คุณไม่ตื่นผมคงต้องส่งคุณที่โรงพยาบาลแล้วละ”เสียงของชายหนุ่มที่นั่งอยู่บริเวณโซฟาริมระเบียงเอ่ยขึ้นทำให้มิราวดีรีบหันไปมองด้วยความตกใจ“คุณเข้าห้องฉันมาได้ยังไงคะ”รชตปิดหนังสือแล้วเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่ง“ห้องคุณ”“ก็...ใช่ ไม่ใช่หรือคะ” เธอตอบเสียงแผ่วอย่างไม่มั่นใจมากนักแม้ภายในจะไม่ต่างกันแต่ก็มีความรู้สึกว่าอาจไม่ใช่ห้องที่เธอจองไว้ และในใจก็มีคำถามเกิดขึ้นว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ จำได้ว่าตอนนั้นถูกจับตัวไปแล้ว หรือว่า... “คุณช่วยฉันไว้ใช่ไหมคะ”“คุณควรพูดขอบคุณผมก่อนนะ”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางขยับตัวลุกขึ้นเดินเข

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 8 ช่วยเหลือ

    หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปมิราวดีไปทำงานตามปกติ ก่อนหน้าที่ลาหยุดก็เขียนจดหมายลาส่งให้เจ้านายโดยบอกว่าเพื่อนสนิทที่รู้จักกันป่วยต้องเดินทางไปต่างจังหวัด แม้จะขาดงานไปนานหลายวันแต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียเรื่องงาน เมื่อกลับมาจึงจำเป็นต้องตั้งสติและทำงานตามเดิมหญิงสาวพนักงานขายที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานทั้งที่อายุงานน้อย ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม และเป็นพนักงานขายดีเด่นประจำแผนกด้วย เธอทำงานให้กับบริษัทจำหน่ายสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมนำเข้าจากต่างประเทศ และยังมีแบรนด์ที่ผลิตขึ้นเองเพื่อใช้ในประเทศและส่งออกด้วยเช่นกัน ในส่วนของเธอรับผิดชอบสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ“พี่คะ ลูกค้าขอเราลดราคาค่ะ”มิราวดีที่กำลังติดสายอยู่ยกมือขึ้นและคุยกับลูกค้าให้เสร็จก่อนจะหันมาคุยด้วย “ว่าไงจ๊ะ”“ลูกค้าขอลดราคาสินค้าที่จะนำเข้ามาค่ะ คือมินเองก็ต่อราคาไปที่ต่างประเทศแล้ว แต่เขาบอกว่าลดไม่ได้แล้ว เอ่อ...ถ้าไม่ลดงานนี้อาจจะโดนคู่แข่งแย่งไปก็ได้ค่ะ” ศิตราพูดบอกรายละเอียดที่ได้คุยให้กับหัวหน้าฟัง“คู่แข่งที่ลูกค้านำมาเทียบราคากั

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 7 รอคำตอบ

    “ผมจะรอคำตอบจากคุณ”มิราวดีเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์ชั่วครู่ พอรู้สึกตัวก็รีบขยับตัวถอยห่างทันที “เอ่อ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”เมื่อพูดจบหญิงสาวก็รีบเดินออกจากห้องรับแขกไปอย่างรวดเร็วรชตมองคนตัวเล็กเดินจากไปจนลับสายตา จึงเดินออกจากห้องรับแขกขึ้นมานั่งอ่านหนังสือที่ห้องหนังสือ ไม่นานนักอาโปก็เดินเข้ามา“ปล่อยโอกาสแบบนี้ไปจะดีเหรอ ฉันเองก็ไม่อยากใช้พลังเยอะนะ รู้ไหมว่าฉันต้องอ่านความทรงจำของเธอ และสร้างภาพลวงตาขึ้นมาให้หล่อนขับมาทางนี้ได้ลำบากแค่ไหน...” อาโปเดินเข้ามาพลางบ่น พลังของเทพก็มีขีดจำกัดในการรับรู้เรื่องราว เพราะฉะนั้นถึงรับรู้เพียงเหตุการณ์ช่วงสั้น ๆ ว่าหญิงสาวต้องการย้ายที่ใหม่อย่างเร่งด่วนเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ไม่อาจรับรู้ได้เจ้าไก่สีขาวกระโดดขึ้นนั่งประจำที่เก้าอี้เล็ก“วันนี้อาหารว่างไม่ได้เรื่องเลยนะ”“ถ้าเรื่องมากก็ไปทำกินเองสิ” รชตพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่...“หน็อย !” อาโปมองด้วยแววตาขุ่นเคือง ไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อยปีนิสัยและวาจาก็ยังคงไม่เปลี่ยน เฮ้อ...แต่ก็นะ “แล้วจะทำอย่างไรต่อไป”ชายหนุ่มยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ยังไงเธอก็ต้องกลับมา”อาโปหันมองแววตามั่นใจและรอยยิ้มที่

  • สามีพันธกาลรัก   บทที่ 6 แชร์เฮ้าส์

    มิราวดีไม่มีเวลาให้ทำใจหรือเสียใจกับความรักที่มอบให้แฟนหนุ่มมาหลายปีมากนัก เพราะต้องตั้งสติเอาชีวิตรอดจากนรกบนดินนี้เสียก่อน หญิงสาวรีบจัดเก็บของลงกระเป๋าเท่าที่ทำได้ โชคดีที่ไม่มีของเยอะ หลังจากเก็บของใช้เวลาร่วมหลายชั่วโมงจนข้ามวันใหม่ เธอจึงใช้โทรศัพท์เครื่องสำรองรีบโทร.บอกเจ้าของห้องไม่ต่อสัญญาและย้ายออกทันทีเมื่อจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้วจึงรีบโทร.แจ้งธนาคารอายัดธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดไว้ ถึงแม้ใจอยากจะแจ้งความมาก แต่หากแจ้งไปต่อให้ตำรวจเข้าไปตรวจค้นคงไม่เจอเพราะพวกนั้นคงไหวตัวทันในเวลานี้มิราวดีไม่ไว้ใจเพื่อนสนิทหรือใครที่รู้จักเลย เพราะอาจจะบอกที่อยู่ให้แฟนหนุ่มรู้ได้ จึงทำได้เพียงเก็บและขนของทั้งหมดที่ใส่ได้ลงรถ และขับออกจากคอนโดฯ ไปอย่างรวดเร็วหญิงสาวขับรถออกจากสถานที่เดิมมาหาห้องพักเพื่ออยู่ชั่วคราวไปก่อน แต่ก็ไม่มีที่ไหนที่จะทำให้รู้สึกปลอดภัยกระทั่งรถขับผ่านบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไกลออกจากใจกลางเมือง ซ้ำยังประกาศติดว่า “แชร์เฮ้าส์”ดวงตากลมมองด้วยความลังเลเพราะไม่ชินกับการอยู่ร่วมคนแปลกหน้า แต่นี่อาจจะเป็นความปลอดภัยแบบหนึ่งก็ได้ มิราวดีตัดสินใจจอดรถไว้ข้างทาง และกำลังจะกดก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status