เซียวจ้านเป่ยเห็นจูเหมยลี่ที่อาบน้ำสะอาดสะอ้านแล้วก็ตะลึง ขนาดใส่ชุดบุรุษของเขาอยู่นางยังงามถึงเพียงนี้
เหมือนเขาจะได้ของดีนะ ถ้าป้าสะใภ้นางรู้กว่าหลานสาวตัวเองขัดสีฉวีวรรณแล้วงามเพียงนี้คงเสียดายแน่ๆ เด็กนี่หากขายให้ขุนนางอย่างน้อยๆค่าสินสอดคงมากกว่าห้าหกร้อยตำลึง
จูเหมยลี่เดินมาเกาะแขนเขาหน้าอกที่มีน้อยนิดเบียดกับต้นแขนแกร่ง เด็กนี่จงใจกลั่นแกล้งเขากับจางลู่เหลียนนางคงได้ยินที่จางลู่เหลียนดูถูกนาง
"พี่ลู่เหลียน ข้าขออภัยที่มื้อเที่ยงวันนี้รบกวนท่านแล้ว เมื่อคืนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย พอตื่นมาไปซักผ้าเกิดก้าวพลาดตกน้ำลำบากท่านพี่ต้องมาดูแลอีก ท่านพี่ข้าหิวแล้วขอกินข้าวก่อนนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นคืนนี้จะมีแรงปรนนิบัติท่านได้อย่างไร"
ไม่พูดเปล่ายังเงยหน้าช้อนสายตายั่วยวนคนตัวสูงอีก จางลู่เหลียนน้ำตาคลอ กำมือแน่นกำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงหวังดีประสงค์ร้ายตามหลัง
"พี่ลู่เหลียนที่บ้านท่านไว้ทุกข์ให้ผู้ใดหรือ ใส่ชุดขาวทั้งตัวแบบนี้มาบ้านข้าคงไม่ได้มาแช่งสามีข้าหรอกนะ"
จางลู่เหลียนปิดหน้าร้องไห้วิ่งกลับบ้านไม่หันกลับมาอีกเลย เมื่อก่อเรื่องเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำจูนเหมยลี่ก็ปล่อยมือเขาทันที แถมยังสะบัดหน้าใส่เดินไปหลังบ้านซักชุดตนเองมาตาก เซียวจ้านเป่ยเดินตามไปที่ลำธารก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม
"เหตุใดต้องทำเช่นนี้ ลู่เหลียนเป็นเด็กดีอ่อนหวาน ไม่ใช่สตรีกร้านโลกอย่างเจ้าซักผ้าเสร็จแล้วไปขอโทษนางซะ อาหารที่นางนำมาไม่มีส่วนของเจ้า อยากกินก็ทำเอง เจ้าเพิ่งจะบอกว่าไม่อยากรบกวนนางงั้นก็อย่ากิน"
จูเหมยลี่ไม่ตอบซักเสื้อเสร็จก็ลุกขึ้นสะบัดแรงๆ จนน้ำกระเซนโดนใบหน้าเขา สะบัดแรงไปหน่อยเสื้อเลยขาดเป็นรู ไม่สนใจเขาถอนหายใจนั่งลงบนก้อนหินบ่นงุ้งงิ้งคนเดียว
"เปื่อยขนาดนี้ใส่กี่ปีแล้ววะเนี่ย ยายป้ามหาภัยนี่เลวขั้นเทพเลย รอให้แม่ฟื้นกำลังได้ก่อนนะ ทั้งผัวทั้งเมียแม่จะเตะเรียงตัวเลยพับผ่าสิโอ๊ยย"
จูเหมยลี่ถูกเซียวจ้านเป่ยกระชากขึ้นมาเผชิญหน้า
"หูตึงหรือไง ข้าพูดให้เจ้าฟังยังทำไม่ได้ยิน อยากโดนตีก้นอีกหรือเด็กดื้อด้าน"
อกแกร่งกระเพื่อม ไม่เคยมีใครทำให้เขาโกรธได้ขนาดนี้มาก่อนเด็กคนนี้ช่างกล้านัก
"นี่ลุง แม่น้องนางนั่นดีขนาดนั้นแทบจะถวายตัวให้อยู่แล้วทำไมเจ้าไม่แต่งกับนางแต่มาแต่งข้า ทำไมพี่ชายนางเรียกสินสอดแพงไปไม่มีปัญญาหรือ ให้ข้าขอโทษนางรอตะวันขึ้นทิศตะวันตกก่อนเหอะ ปล่อยข้าได้แล้วข้าจะไปหาอาหาร ข้าวบ้านลุงมันกินไม่ได้นี่เชิญกินให้ติดคอตายไปคนเดียวเถอะ"
จูเหมยลี่กระชากแขนกลับมา ข่มเหงรังแกฉันเหรอไม่รู้ไงพ่อเจ๊เป็นมาเฟียนะย่ะ ร้านอาหารร้านเสื้อผ้าบังหน้าย่ะ ฉันนี่เจ้าของบ่อนนะไม่โหดจะอยู่ได้หรือ
แต่ต้องมาตายเพราะปืนปากกาเนี่ยนะ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น บุตรสาวขาใหญ่ถูกปืนปากกาเด็กนักเรียนยิงตาย ทุเรศเกิน จูเหมยลี่ตากเสื้อก่อนจะเดินไปยังเชิงเขาติดกับกระท่อม
"เหอะ ง้อที่ไหนไม่กินของนายก็ได้ ตาแก่บ้า"
กำลังหาว่ามีอะไรกินได้เซียวลี่ผิงก็วิ่งมาหาในมือมีซาลาเปาก้อนนึงมาให้
"ท่านแม่กินสิเจ้าคะ ผิงผิงอิ่มแล้ว ท่านแม่พาข้านอนกลางวันแล้วตื่นมาข้าจะเจอท่านอีกไหม ท่านจะไม่หนีไปเหมือนท่านแม่ของข้าใช่ไหมเจ้าคะ"
เซียวลี่ผิงน้ำตาคลอ เซียวจ้านเป่ยที่เดินตามบุตรสาวมาก็ยืนนิ่ง นางฝังใจเรื่องที่ถูกทิ้งสองเดือนข้างหน้าเขาต้องทิ้งนางไปเป็นทหาร หากผู้หญิงคนนี้หนีไปอีกบุตรสาวของเขาจะทำเช่นไร
"ไม่หนีหรอก ผิงผิงของแม่น่ารักขนาดนี่จะหนีได้อย่างไร อืมซาลาเปาแข็งเกินไป นี่คืออาหารที่พี่ลู่เหลียนทำมาให้หรือ"
เซียวผิงผิงพยักหน้า
จูเหมยลี่แปลกใจตั้งแต่ฟื้นขึ้นจมูกกับสายตาดีผิดปกติ นางได้กลิ่นหอมของบัวหิมะมาแต่ไกล จึงอุ้มเซียวลี่ผิงมาคว้ามีดในบ้านก่อนจะอุ้มเด็กน้อยเดินไปชายน้ำริมลำธารอีกด้านไกลจากบ้านห้าจั้ง
"หืม บัวหิมะนี่ผิงผิงอยู่นี่นะแม่จะขุดของอร่อยให้กิน ซาลาเปานั่นแม่กินไม่ไหวจริงๆ เอาไว้เขวี้ยงหัวหมาพอได้"
"คิกๆๆๆท่านแม่ตลกเจ้าค่ะ"
เซียวจ้านเป่ยอยากรู้ว่านางจะทำอะไรจึงยืนดูอยู่ห่างๆ จูเหมยลี่ค่อยๆขุดต้นบัวหิมาทีละกอไม่นานก็ได้บัวหิมะสิบกว่าหัว
จากนั้นก็นำมาล้างโคลนออกจนสะอาด ปอกเปลือกจนเห็นเนื้อสีเหลืองข้างใน ก่อนจะหั่นชิ้นเล็กๆนั่งกินกับเด็กน้อยอย่างอร่อย
"ผิงผิง ลูกกินของส่งเดชไม่ได้นะคายทิ้งไปเดี๋ยวนี้"
เซียวจ้านเป่ยไม่เคยเห็นใครกินของเหล่านี้ นางกล้าดีอย่างไรมาให้บุตรสาวของเขากินมัน ก่อนจะใช้เท้าเตะสิ่งที่ที่จูเหมยลี่ขุดมาได้อย่างลำบากลงน้ำหมดเลย
"ไม่ไหวแล้วโว๊ย แม่งเอ๊ยขอสักทีเหอะ"
จากนั้นจูเหมยลี่ก็ยกเท้าเตะเข้าที่สีข้างเซียวจ้านเป่ยทันทีสองครั้ง เขาไม่ตั้งตัวเด็กบ้านนี้เตะแรงจริงๆ เซียวลี่ผิงร้องไห้จ้าเซียวจ้านเป่ยก้มลงจะอุ้มลูกสาวนางก็ไม่เอาชักดิ้นชักงอ จนจูเหมยลี่มาอุ้มถึงยอมเงียบแล้วกอดคอมารดาไม่สนใจพ่ออย่างเขาสักนิด
"ฮือๆๆ ท่านแม่ลงน้ำหมดเลย ข้าอยากกินอีกหวานอร่อยมากข้าไม่เคยกินเลยฮือๆๆๆๆ"
น้ำตานองหน้าสะอื้นจนน่าสงสาร จูเหมยลี่เคยถูกแม่ทิ้งมาแต่งงานใหม่มาก่อนนางเข้าใจความหว้าเหว่เช่นนี้ดี
"ไปกันเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ขุดให้ใหม่ ไปนอนก่อนแม่จะทำความสะอาดบ้าน ดุสิเนื้อตัวแดงหมดแล้วบ้านสกปรกเกินไป"
สองแม่ลูกเดินเข้าบ้านไม่สนใจคนตัวสูงที่ยืนโมโหจนจะบ้า ลูกสาวเขาแปรพรรคตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ปกติเซียวลี่ผิงไม่เอาใครนอกจากเขา เห็นได้ชัดว่าตอนนี้บุตรสาวไม่ต้องการเขาเลย
เซียวจ้านเป่ยเดินเข้ามาก็ได้ยินเพลงกล่อมเด็ก ไพเราะเหลือเกินเขาไม่เคยได้ยินทำนองเหล่านี้มาก่อน แต่ฟังแล้วไพเราะนัก เผลอยืนฟังอยู่นาน ประตูห้องเปิดออกมา สองคนมองหน้ากันจูเหมยลี่เอ่ยก่อน
"นี่ตาแก่ บ้านท่าสกปรกเกินไป บุตรสาวท่านเนื้อตัวมีแต่แมลงกัด มาช่วยข้าทำความสะอาดหน่อย ผ้าปูเตียงผืนใหม่มีหรือใม่ เงินมีไหมไปหาซื้อมา บวกรวมไปกับค่าตัวของข้าตอนไถ่ตัวแล้วกัน"
พูดจบก็ไม่รอคำตอบ คว้าไม้กวาดมากวาดหยากไย่ทันที พื้นบ้านเป็นพื้นดินเวลาฝนตกมีน้ำไหลเข้ามาบ้างจะเฉอะแฉะ อยู่ไปได้อย่างไรกัน จูเหมยลี่เปิดหน้าต่างทุกบานเพื่อระบายความอับชื้น
ยามเซินก็ทำความสะอาดบ้านเสร็จ ห้องนอนของนางเตียงนอนพื้นที่นอนแข็งชะมัดต้องเอาฟางมาปูแล้วปูผ้าทับอีกทีแก้ขัดไปก่อน ตาบ้านี่มีแค่ผ้าห่มผืนเดียวมาให้จริงๆ
"ท่านลุงในครัวมีเสบียงหรือไม่ ข้าจะทำมื้อเย็น"
"เลิกเรียกข้าว่าลุงได้แล้ว ข้าอายุยี่สิบหกไม่ใช่ลุงหรือตาแก่"
เซียวจ้านเป่ยอยากหักคอคนตรงหน้านักเมื่อกลางวันอาบน้ำหมดโอ่งจนเขาต้องไปตักน้ำอีก
"ในครัวมีข้าวสารกับแป้งสาลีอยู่เล็กน้อย เครื่องปรุงมีอยู่เพราะข้าไม่ค่อยได้ทำอาหาร มีไข่อยู่ห้าฟอง"
" มีแค่นี้หรือ เนื้อสัตว์หรือผักละมีอะไรบ้างไหม ในหมู่บ้านพอมีร้านค้าไหม ท่านเป็นนายพรานแบบไหน เนื้อสักชิ้นยังไม่มีให้ลูกกิน จ่ายค่าอาหารเดือนละหนึ่งตำลึงได้มาแต่ซาลาเปาแข็งๆ ข้าจะไปจับปลาที่ลำธาร ไปปลุกผิงผิงด้วยเดี๋ยวคืนนี้นอนดึก "
"ข้าไปจับปลาเองเจ้าไปปลุกลูกเถอะ"
จากนั้นเซียวจ้านเป่ยก็เดินออกไป ในใจก็คิดถึงคนที่จากไปแล้ว ท่านปู่หลงเป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ แม้จะเปลี่ยนฮ่องเต้แล้วแต่พวกเขาก็ไม่อยากกลับไปรับใช้ราชสำนักแล้ว
แต่กลับต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารช่างเถอะก็ดีกว่าเป็นซื่อจื่อจวนอ๋อง ที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีปล่อยให้นางกับบุตรชายครอบครองอำนาจเหล่านั้นไปเถอะ ตอนนี้เขามีบุตรสาวที่แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจให้นางเกิดแต่นางก็คือสิ่งล้ำค่าที่สุดที่เขามี
"ผิงผิงเด็กดีไหมเอ่ย ตื่นหรือยังน้อไม่ตื่นแม่จะหนีไปเที่ยวคนเดียวแล้วนะ" จูเหมยลี่จี้เอวเด็กน้อย นางตื่นแล้วแต่แกล้งหลับขนตากระพริบถี่เชียว"คิกๆๆๆท่านแม่ฮ่าๆๆท่านแม่ข้าจั๊กจี้มากเลยเจ้าค่ะคิกๆๆ"จูเหมยลี่มองตาเด็กน้อยก่อนจะก้มลงเป่าพุงนางเล่น เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากในบ้าน เซียวจ้านเป่ยยืนมองภาพตรงหน้าอย่างใจลอย ภาพนี้เหมือนตอนเขายังเด็กตอนที่เสด็จพ่อยังไม่แต่งสตรีคนนั้นเข้ามา เสด็จแม่รักใคร่เขานัก แต่ไม่นานนางก็จากไปหลักจากนั้นอีกสองปีเขาอายุสิบแปดไปไหว้หลุมศพมารดาขากลับก็ถูกตามฆ่าจนต้องหนีมาอาศัยอยู่ที่นี่กับพ่อบ้านของเขาท่านปู่เซียวหลงเพื่อปกปิดร่องรอยจำต้องแต่งภรรยา ในที่สุดก็ถูกหงซิ่ววางยาจนมีผิงผิงออกมา เขายังถูกตามล่าจากชายารองที่ตอนนี้ขึ้นตำแหน่งชายาเอกแล้วกระมัง ถอนหายใจเสร็จก็เดินเข้าบ้าน"ข้าจับปลาได้สามตัว จะไปซื้อเนื้อหมูที่ในเมืองมาให้ตอนเช้า ตอนนี้ตลาดคงวายหมดแล้ว ปลาต้องทำอย่างไร""ท่านขอดเกล็ดควักไส้ออกแล้วกัน อ้อติดเตาให้ด้วยข้าจะต้มน้ำให้ผิงผิงอาบก่อนเดี๋ยวฝนตก เก็บผ้าที่ข้าซักตากเข้ามาให้ด้วย"เซียจ้านเป่ยสะอึกเขาซื้อนางมาหรือว่านางซื้อเขามากันแน่ใช้งานเขายิ่งก
จูเหมยลี่เติมฟืนก่อนจะต้มน้ำจากนั้นก็ลวกไก่ถอนขน นางทำทั้งห้าตัวเลย จะเอามาย่างและมาทอดด้วย เฮ้อไม่อยากจะว่าสหายของตาลุงนั่นหรอกนะแต่ดูเหมือนหนึ่งตำลึงนี่ บางบ้านอยู่ได้ครึ่งปี แต่นี่นอกจากซาลาเปาแข็งๆกับข้าวต้ม เซียวลี่ผิงแทบไม่ได้กินดีเลย ตาลุงนั้นมีแป้งมีข้าวเต็มถังแต่กลับปล่อยให้ลูกสาวผอมเชียว ถึงจะไม่อดก็ใช่ว่าจะได้กินดี"ไปริมน้ำกับแม่ไหม แม่จะไปทำไก่ไม่อยากใช้น้ำในโอ่งเดี๋ยวท่านพ่อต้องหาบน้ำอีก"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่นำกะละมังไม้มาสองใบ นำชามใส่ขี้เถ้ามาหนึ่งใบ จากนั้นก็เอาไก่ป่าที่ลวกแล้วถอนขนเรียบร้อยใส่กะละมังไม้ก่อนจะพากันเดินไปหลังบ้าน จูเหมยลี่ผ่าท้องควักเครื่องในออกมาจากนั้นก็ล้างด้วยขี้เถ้าจนสะอาด"เฮ้อ อยากได้พริก ข่า ขิง กระเทียม พริกไทย ฮวาเจียวสักหน่อยที่นี่มีไหมนะ"ปากก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยแต่อยู่ๆจมูกก็ได้กลิ่น"หืมได้กลิ่นขิง กลิ่นพริก เอ๋เดี๋ยวนะอยู่ๆได้กลิ่น มาจากไหนกัน ผิงผิงรอแม่ตรงนี้นะเดี๋ยวแม่มา แม่ไปดูตีนเขาตรงฝั่งนั้นก่อน"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่ข้ามลำธารไป เห็นต้นไม้ไม่สูงเท่าไหร่ มีลูกสีเขียวสีแดงเต็มไปหมด มีกอข่า ขิง"อั๊ยย่ะ นี่มันสรรค์ประท
เซียวจ้านเป่ยเข้ามาเห็นภาพที่ทั้งคู่กอดกันก็รู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก นางคงไม่หนีไปใช่ไหมนางบอกว่ารอเขากลับมาจะหย่า ก็ได้หากถึงเวลานั้นนางอยากหย่าเขาจะไม่รั้งไว้ แต่ตอนที่เขาไม่อยู่ให้นางช่วยดูแลบุตรสาวของเขาก็พอ"เอ่อ ผิงผิงอย่างอแงเลย พ่อกับท่านแม่แค่คุยกันนานไปหน่อย สายแล้วไปทำอาหารเถอะ ไหนบอกจะพาลูกไปเก็บผักป่าไง ข้าจะไปเป็นเพื่อนพวกเจ้า"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยขัดสองแม่ลูก "ไม่ต้องหรอก วันนี้สหายท่านที่ชื่อตงหยางนำหมูป่ามาให้ ท่านจะขายหรือชำแหละก็ไปจัดการเถอะ ส่วนไก่ข้าจะทำน้ำแกงบำรุงผิงผิง ข้าไม่ใช่คนพูดมากแต่ขอพูดสักคำ วันข้างหน้าข้าไม่รู้อนาคต แต่ค่าอาหารเดือนละหนึ่งตำลึง จางลู่เหลียนใส่แต่ผ้าเนื้อดี แต่บุตรสาวท่านกลับไม่มีเนื้อสักนิด ค่าอาหารท่านแพงไปหรือไม่ ผิงผิงไปทำอาหารกัน แม่จะทำไก่ย่างหอมๆให้กิน"จากนั่นก็จูงมือกันไปไม่สนใจเซียวจ้านเป่ยสักนิด เขาถูกบุตรสาวกับเมียเมินอีกตามเคย ไหงเขากลายเป็นส่วนเกินไปได้ ผิดพลาดตรงไหนกันเนี่ยจูเหมยลี่นำไก่มาหมักเกลือน้ำตาล นำกระเทียมกับพริกไทยมาทุบๆโขลกเล็กน้อยทาบนตัวไก่ จากนั้นก็เรียกคนด้านนอก"ท่านลุง รบกวนท่านไปเด็ดใบบัวให้ข้าสักหลายๆใบ เลือก
จูเหมยลี่ป้อนข้าวเซียวลี่ผิงเสร็จแล้วก็นั่งรอเซียวจ้านเป่ย สักพักเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับผักกาดสองต้นและถั่วฝักยาวหนึ่งกำ ภรรยาของเซี่ยตงหยางเป็นคนขยัน มักปลูกผักเลี้ยงไก่ ลูกๆไม่อดอยากส่วนภรรยาจางรั่วสุ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ขยันแต่เป็นเพราะจางรั่วสุ่ยตามใจน้องสาวเกินไป เครื่องประดับเอย เสื้อผ้าเอย ไม่สนใจสักนิดว่าพี่สะใภ้ต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานบ้านยังบังคับให้นางตัดเย็บเสื้อผ้าให้อีก เซียวจ้านเป็นไม่ชอบสตรีหน้าขาวปากแดงเซียวจ้านเป่ยมาถึงบ้านก็เห็นจูเหมยลี่นั่งรออยู่ นางยังไม่จับตะเกียบยังคงรอเขามากินด้วย เมียเขาช่างน่ารักเหลือเกิน ก่อนจะส่งตะกร้าที่ใส่ผักให้นาง"เหมยลี่ นี่เป็นผักกาดกับถั่วฝักยาว พี่สะใภ้ให้มา เอ่อข้าแบ่งผักกาดให้รั่วสู่ยไปหนึ่งต้นกับถั่วหนึ่งกำเจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่""ไม่ว่าอะไรนี่ ทั้งสองคนเป็นสหายท่าน ข้าเป็นคนนอกไม่อยากยุ่ง ว่าแต่ของที่ข้าจดให้เมื่อเช้าซื้อมาได้หรือเปล่า"เซียวจ้านเป่ยถอนหายใจ นางสั่งให้เขาซื้อเครื่องปรุง ซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อเครื่องมือเกษตรทำไร่ ไม่ใช่ว่าเขาซื้อไม่ได้ แต่เขาไม่มีเงินจริงๆ ต้องขึ้นเขาก่อนเฮ้อ"เอ่อ ข้าได้แต่เครื่องปรุง เนื้อหมูแล้วก็เ
เงินที่เสด็จแม่ฝากไว้เป็นชื่อเขามีมากมายนัก แต่เพราะไม่อยากเปิดเผยร่อยรอย จึงต้องใช้ชีวิตติดดิน มีทองแท่งเล็กๆอยู่หากขายคงได้แท่งละสักสิบตำลึงซึ่งไม่พอให้ใช้ชีวิตสองคนแม่ลูกพรุ่งนี้ขึ้นเขาล่าเสือหรือหมีสักตัว หากขายได้ก็คงมากกว่าสามร้อยถึงห้าร้อยตำลึง จะฝากเป็นชื่อนางไว้ ป้าสะใภ้นางละโมบนักถ้าเขาไม่อยู่อาจมารังแกและแย่งชิงไปได้ เห็นจูเหมยลี่กำลังจะสะพายตะกร้าก็เรียกไว้ก่อน"เหมยลี่ ข้ามีอยากให้ช่วยหาของสักหน่อย ผิงผิงนั่งรอท่านแม่อยู่ตรงนั้นก่อนนะ ลูกเป็นเด็กดีหรือเปล่า""ลูกจะไม่ดื้อเจ้าค่ะ ท่านแม่รีบไปช่วยท่านพ่อนะเจ้าคะผิงผิงจะรออยู่ตรงนี้"จูเหมยลี่เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ดูท่าเขาคงรู้ว่าเงินที่ซ่อนไว้ถูกนางแคะไปจนหมดแล้ว จึงอยากหาเรื่อง เพราะตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทะเลาะหรือเถียงกันต่อหน้าเด็ก จึงต้องทะเลาะกันลับตาเจ้าตัวน้อย"นี่ท่านลุง ถ้าจะถามเรื่องเงินที่ท่านซ่อนเอาไว้ละก็เสียใจด้วย ตอนนี้เหลืออยู่สองร้อยกว่าอีแปะเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็อยู่ในท้องท่าน อื้อๆๆ"เซียวจ้านเป่ยโมโหเด็กบ้านี่เรียกเขาท่านลุงบ้างล่ะ ตาแก่บ้างล่ะ ตาเฒ่าบ้างละมันน่าโมโหนัก เขาจูบนางครั้งนี้นานกว่าทุกครั้งจนจู
เซียวจ้านเป่ยตรงไปโรงเตี้ยมสุขสราญย์ทันที หมูป่าเพิ่งตายไม่นานก็จริง แต่หากไม่ใช่เพราะว่าเขาจะเข้าเมืองมาซื้อเสื้อผ้ากับของให้เมียล่ะก็ หมูนี่คงชำแหละขายในหมู่บ้านแล้ว อยากกลับบ้านจะแย่แล้วต้องรีบขาย"อ้าวนายพรานเซียวหรือ วันนี้ได้อะไรมากันเล่า ท่านไม่ขึ้นเขานานแล้วนี่ตั้งเกือบปีแล้ว"หยวนเหอเป็นหลงจู๊ของโรงเตี้ยมแห่งนี้ หลงจู๊คนนี้นิสัยดี ไม่กดราคา จึงทักทายเขากลับ"อ้อ พี่หยวนเหอพอดีข้าวางกับดักไว้ ได้หมูป่ามาสองตัวเลยนำมาให้ท่าน ไม่ทราบว่าท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ" หยวนเหอเหมือนสวรรค์มาโปรด"เฮ้อ ที่จริงนะอาเซียวหมูป่าตายแล้วชั่งละห้าสิบอีแปะเท่านั้น แต่ช่วงนี้ฝนตกนายพรานขึ้นเขาไม่ได้ อีกทั้งมีคนมาจากเมืองหลวง เป็นคุณชายตระกูลใหญ่มาเที่ยวเมืองกว่างโจวของเรา คนของขาอยากกินเนื้อแต่ข้าไม่มี เถ้าแก่กำลังกลุ้มใจเลยว่าจะทำเช่นไร เฮ้อข้าหยวนเหอคงมีบุญวาสนา สวรรค์ถึงส่งเจ้ามาเอาเช่นนี้ข้าให้ราคาเท่ากับหมูเป็นชั่งละแปดสิบอีแปะแล้วกัน อาจูมาเอาหมูไปขึ้นตาชั่ง"หยวนเหอสั่งคนงานไม่ช้าก็นำหมูป่าสองตัวไป เซียวจ้านเป่ยเลียบๆเคียงๆถามหยวนเหอถึงคนที่มา หากเกี่ยวข้องกับหรานซินชายารองเสด็จพ่อเขาต้องวาง
เซียวจ้านเป่ยซื้อของตามรายการที่เมียสั่งครบทุกอย่าง เอ่อต้องหาซื้อผ้าห่ม ผ้านวมหนาๆปูเตียงสักหน่อย นางให้ซื้อข้าวเหนียวทำไมเยอะแยะนักนะ เขาแวะร้านผ้า ได้ยินมาว่านางตัดเย็บเสื้อผ้าเป็น ซื้อผ้าไปฝากนางสักหน่อยดีกว่า"เอ่อท่านลุง ท่านมาซื้อผ้าหรือเจ้าคะ"คนงานหญิงในร้านขายผ้ากลัวใบหน้าของเขาจึงเอ่ยตะกุกตะกัก ท่านลุงเขาดูแก่ขนาดนั้นเชียวหรือไง มิน่ายายเด็กบ้านั่นถึงเอาแต่เรียกเขาตาแก่ๆอยู่ได้ เจียวเหนียงเดินออกมาพอดี ทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง"ท่านลุงท่านนี้ ท่านจะซื้อผ้าไปฝากภรรยา หรือบุตรสาวกันเจ้าคะ หรือจะเป็นชุดสำเร็จร้านข้าก็มี"เซียวจ้านเป่ยอยากจะบ้าตาย อืมพาไอ้หน้าอ่อนนั่นขึ้นเขาล่าสัตว์กลับมาก่อนจะโกนหนวดโกนเคราสักที ยายเด็กบ้านั่นคำก็ตาแก่สองคำก็ตาเฒ่า คอยดูเถอะตาเฒ่าอย่างข้าจะทำให้เจ้าขาอ่อนครางแต่ชื่อข้าสักวันแม่ตัวดี"เอ่อ เถ้าแก่เนี๊ยข้าอยากได้ชุดสตรี สามชุดขนาดเท่านี้ กับชุดเด็กผู้หญิงสี่ขวบสามชุดขอรับ ขอผ้าห่มสี่ผืน ผ้านวมสี่ผืน แล้วก็ผ้าฝ้ายเนื้อดีท่านมีกี่ข้าเอาหมดสีละสองพับ ผ้าฝ้ายสีขาวห้าพับ ผ้าไหมเนื้อตีห้าพับ รองเท้าสตรีสามคู่ของเด็กสามคู แค่นี้แหละขอรับ"คังหยุนที่เดิ
จูเหมยลี่เตรียมสะพายตะกร้าพาบุตรสาวลงจากเชิงเขา เพื่อเอาของไปเก็บก่อนนางได้กลิ่นลูกพีช นางอยากกินจะตายอยู่แล้ว เซียวจ้านเป่ยเดินมาหาก่อนจะแย่งเอาตะกร้ามาเอง" ข้าเอาไปเก็บเอง อืมพอแล้วไหมเมียข้าจะยามเซินแล้วข้าซื้อของมามากมายนัก ยังไม่ได้ขนลงจากเกวียนเลย"เซียวจ้านเป่ยเห็นของในตะกร้าก็แปลกใจ บางชนิดเขาเดินผ่านทุกวัน แต่นางกลับเก็บมันเสียทุกต้น มันกินได้จริงๆหรือ แต่ตั้งแต่เรื่องบัวหิมะเขาก็ไม่กล้าขัดใจนางอีก เห็นตัวเล็กๆ เท้าหนักไม่ใช่น้อย"ข้าได้กลิ่นผลท้อน่ะ ข้าอยากกินท่านลุงท่านพาผิงผิงไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวข้ากลับทีหลังเอง"พูดจบก็หมุนตัวไปบนเขา เซียวจ้านเป่ยคว้าแขนกลมกลึงของนางไว้ก่อนจะวางตะกร้าลง"เอาตะกร้าไว้นี่ก่อนก็ได้ ที่นี่ไม่มีใครขึ้นมาไม่มีของหายหรอก ไปกันเถอะ"จากนั้นเซียวจ้านเป่ยก็อุ้มเซียวลี่ผิงขี่คอ เดินตามจูเหมยลี่ไปสักพักไม่นาน ก็เจอต้นท้อจริงๆ ลูกท้อสีชมพูเข้มกลิ่นหอมมากจูเหมยลี่วิ่งเข้าหาทันที ก่อนจะเด็ดลงมาแล้วตัดเถาวัลย์ใกล้เคียงนำน้ำในเถาวัลย์มาล้างลูกท้องสองลูก เซียวจ้านเป่ยเป็นนายพรานยังไม่รู้วิธีนี้เลย ผู้หญิงคนนี้ใช่คนเดียวกับที่วันๆก้มหน้าอยู่แต่ในแปลงนาคนนั้
ผ่านไปจนเกือบถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังพาหลิวเหว่ยเดินเล่น บุตรชายวิ่งเตาะแตะๆ ไปมา หลิวเซียงสาวใช้อุ้มอยู่ หรงหรงตั้งครรภ์จึงทำได้เพียงเดินตามบรรดาซื่อจื่อกับท่านหญิง จูเหมยลี่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สามมองไปยังลานบ้าน อ้ายลี่ผิงตอนนี้อายุแปดขวบแล้วยิ่งโตยิ่งงามมากนัก จูเหมยลี่ที่เห็นบุตรสาวก็ถอนหายใจ"เป็นอะไรไปหรือเมียข้าหืม""ผิงผิงยิ่งโตยิ่งงาม พระองค์ไม่หวงแต่หม่อมฉันหวงเพคะ หากลูกยังไม่สิบแปดไม่ให้ออกเรือนนะเพคะท่านอ๋อง""อีกสิบปีเชียวนะ เซี่ยตงชิงจะรอไหวหรือ""รอไม่ไหวก็ไปหาแต่งคุณหนูจวนอื่นโน่นเพคะ"จูเหมยลี่ยอมรับนางหวงบุตรสาวคนโตยิ่งนัก บุตรสาวนางงามเพียงนี้ไม่อยากให้ใครมามองเลย"พระชายา กระหม่อมรอได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แต่งสตรีอื่นนอกจากผิงผิงเท่านั้น"เซียวจ้านเป่ยยิ้มให้กับจูเหมยลี่ เจ้าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าทุกคนพูดถึงนางก็วิ่งมา เห็นพี่ชายของนางมีเหงื่อเต็มไปหมดก็ปีนขึ้นเก้าอี้ให้ตัวพอดีกับเขาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้"พี่ตงชิง ท่านเหนื่อยมากหรือไม่ ท่านน้าเสี่ยวอี้ทำน้ำหวานไว้ข้าไปเอามาให้นะเจ้าคะ"เซี่ยตงชิงสบสายตากลมโตของเด็กผู้หญิงตรง
จูยวี่ซานกอดภรรยาจากนั้นก็หอมหน้าผากของนาง ก่อนจะรับเอาห่อผ้าของจูเหวินบุตรชายมากอดแล้วก้มลงหอม"อย่าดื้อกับท่านแม่ พ่อไปไม่นานนักหรอกเด็กดี"ผิงผิงที่วิ่งออกมาจากในบ้านกอดเอวอ้ายเฉิงเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขึ้น"เสด็จปู่เพคะ เทศกาลไหว้พระจันทร์น้องชายจะได้สองขวบเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะพาหลานไปหาเสด็จปู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าผิงผิงอยากให้เสด็จปู่อยู่ที่นี่มากกว่าก็ตาม""ผิงผิงของปูน่ารักที่สุด ตั้งใจเรียนวรยุทธกับท่านปู่ฝางให้ดีๆ เจอกันปีหน้าต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมรู้หรือไม่""เพคะ ผิงผิงจะตั้งใจเรียนวรยุทธ และตั้งใจยิงธนูให้เก่งต่อไปผิงผิงจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตงชิงเพคะ"จูเหมยลี่อมยิ้ม เด็กหนอเด็กยังไม่รู้อะไรเลย โตอีกหน่อยจะอายหากจำได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จากนั้นก็อุ้มอ้ายหลิวเหว่ยส่งให้กับพ่อสามี อ้ายเฉิงรับเอาหลานชายมาอุ้มก่อนจะเอ่ยกับจูเหมยลี่"ลี่เอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อยังมิได้ขอบใจเจ้า จ้านเอ๋อร์ต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่าง เขาต้องทุกข์เพียงใด ยิ่งหลังจากที่ปู่หลงจากไปเขายิ่งโดดเดี่ยว การที่ มีเจ้าเข้ามาในชีวิตทำให้ความมืดมนในใจเขามลายหายไป ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ขอบใจเจ้ามากนัก""เสด็จพ่อทรงก
จูเหมยลี่ไม่อยากฆ่าคน ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของนางมากนักอยากใช้ชีวิตกับสามีและลูกอย่างเงียบๆ นางคว้าคันธนูที่ทหารกับลูกศรมา ส่งสายตาให้บุตรสาวว่านางขอโทษ อ้ายลี่ผิงพยักหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหลับตาตามที่ท่านแม่สั่งส่งสารมาให้"ท่านอ๋อง เตรียมรับลูกกลับมานะเพคะ" จูเหมยลี่ยกคันธนูขึ้นลูกศรถูกทาบไปพร้อมปล่อยออก ก่อนจะเล็งที่ศีรษะนาง เพราะหงซิ่วจับอ้ายลี่ผิงยืนข้างหน้า มือกำอยู่รอบคอ เด็กน้อยสูงเพียงเอวของนางทำให้เปิดจังหวะการยิงมากนักหงซิ่วเห็นว่าจูเหมยลี่มีไอสังหารนางจะพลิกตัวเพื่อเหวี่ยงอ้ายลี่ผิงลงเหวแต่ไม่ทัน ลูกศรที่จูเหมยลี่ยิงออกไปนั้นเจาะกะโหลกนางพอดี หงซิ่วหงายหลังจะตกลงไป อ้ายลี่ผิงที่ถูกมือนางกำไว้ก็จะพลัดตกไปด้วย จ้านอ๋องจะไปรับบุตรสาว แต่เซี่ยตงชิงไวกว่า เขากระโดดที่เดียวก็คว้าอ้ายลี่ผิงไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกระแทกลงทำให้แผลที่ถูกฟันเลือดไหลไม่หยุด ก่อนจะถามอ้ายลี่ผิงนางว่าไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วสลบไปจ้านอ๋องรีบให้คนอุ้มเซี่ยตงชิงกลับไปที่จวน ให้แจ้งแก่เซี่ยฮูหยินว่าคุณชายใหญ่จะอยู่ช่วยงานที่ตำหนักใหม่หลายวัน โจรเร่ร่อนที่รวมกันจับอ้ายลี่ผิงวันนี้จูเหมยล
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กลับมาอยู่จิ่วโจวก็เตรียมหาทางสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะเขาได้รับพระราชทานให้ดูแลทั้งสิบมณฑลจึงต้องดูแลราษฎร จูเหมยลี่ที่กำลังดูแลคนงานตากดอกเหมยกุ้ยอยู่ก็เดินมาหาสามีที่กำลังคุยงาน "ท่านอ๋อง ไม่ทรงพักผ่อนหรือเพคะนี่ก็บ่ายแล้วหม่อมฉันทำของว่างเอาไว้ เมื่อเช้าเสด็จพ่อแจ้งมาว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับไท่จื่อ เลื่อนเวลาออกไปอีกครึ่งเดือนเพคะ""อืม เหนื่อยหรือไม่เด็กดี ผิงผิงเล่าไปไหนเสียแล้ว""ลูกไปหัดยิงธนูกับตงชิงเพคะ เสี่ยวเหว่ยท่านตาพาไปนั่งรถม้าเล่น พอดีซินซินอยากเข้าตำบลหาซื้อของใช้" สองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่นานสาวใช้ก็นำขนมมา วันนี้จูเหมยลี่ทำขนมบัวลอยเนื่องจากขุดเผือกและมันได้มาก อีกทั้งฟักทองก็ให้ผลผลิตที่ดีนัก เนื้อทั้งเหนี่ยวแน่นยังมีน้ำบ๊วยที่หอมชื่นใจ ลำธารตรงหลังบ้านจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เย็นตลอดเวลา จูเหมยลี่นำไหเปล่าไปแช่ในนั้นก่อนจะมาบรรจุน้ำบ๊วย แล้วผนึกฝาไหนำลงแช่อีกที น้ำบ๊วยจึงทั้งเย็นทั้งหอมชื่นใจสาวใช้แจกจ่ายของว่างให้คนงาน หลังจากงานแต่งรัชทายาททุกคนจึงรู้ว่าสามีของจูเหมยลี่คือจ้านอ๋องทำเอาชาวบ้านทำตัวไม่ถูกกันเ
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มาถึงจิ่วโจวได้หลายวันแล้ว บางวันก็ไปคุมการต่อเติมซ่อมแซมจวน อย่างเช่นวันนี้เขาพาจูเหมยลี่มาด้วย เนื่องจากอยากขุดสระบัวและทำบ่อเลี้ยงปลาที่เมียเคยบอกว่าอยากได้"ลี่เอ๋อร์ ตรงนี้มีบ่อน้ำพุร้อน จวนสกุลหลิวที่ยึดมาที่ดินกว้างมาถึงตรงนี้ พี่ให้คนสร้างห้องอาบน้ำไว้แล้ว เจ้าอยากล้างตัวหรือไม่""สายตาพระองค์ดูก็รู้ว่าไม่ได้อยากอาบน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยคนเจ้าเล่ห์ท่านจับข้ากินทุกเวลาแบบนี้ท้องข้าจะว่างไหมเล่า""ลี่เอ๋อร์เด็กดี ไปอาบน้ำกันนะคนงามของพี่"จูเหมยลี่รู้ดีว่าไม่รอดอีกตามเคย ตั้งแต่มาถึงเขากักนางไว้บนเขาสี่วันสามคืน พอมาถึงบ้านก็ไม่สนใจจับนางกินตลอดเวลา บ่าวไพร่ต้องไปอยู่ไกลๆเรือน เนื่องจากบ้านของเซี่ยตงหยางสร้างเสร็จแล้ว ซูฟางหรานกลับไปบ้านตัวเองแล้วในบ่อน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยยังคงช้อนสะโพกเมียรักขยับแก่นกายใส่นางไม่หยุด เขารักนางมากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน "แน่นนัก เหตุใดยังแน่นเหมือนตอนรักเจ้าครั้งแรกเมียจ๋า รัดจนทำนบพี่จะแตกทันทีที่เข้ามา""ท่านอ๋องเร่งเถอะเพคะ เมียอยากสุขสมแล้ว อ๊ายย ท่านกินเก่งกินดุแบบนี้หม่อมฉันจะไหวไหม อื้อ เสียวเพคะ
เซียวจ้านเป่ยจุมพิตหน้าผากเล็กของเมียรัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ชื้นทั่วกรอบหน้าและซอกคออย่างไม่รังเกียจ พักได้ไม่นานก็อุ้มนางไปที่น้ำพุร้อนในถ้ำ รักนางในบ่อน้ำพุอีกหลายครั้ง จนจูเหมยลี่หมดแรงกอดคอเขาไว้"ไม่ไหวแล้ว เมียขาอ่อนแล้ว ยืนไม่ไหวพักนะเจ้าคะ ขอนอนพักก่อนเถอะท่านพี่"ยามอู่ของวันที่สามเขาจึงแต่งตัวให้นางแล้วอุ้มพาเดินออกมา เซียวจ้านเป่ยกักนางไว้ในถ้ำถึงสามคืน พอออกมาเจอแสงข้างนอกจูเหมยลี่ถึงกับตาหยีเลย"คนบ้า ไม่ให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลย ป่านนี้เป็นห่วงกันทั้งเรือนแล้วกระมัง""พี่ยังไม่อิ่มนะ แต่เห็นเจ้าคิดถึงลูกพี่เลยพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่จะไม่ให้ลงจากเตียงเลย จนกว่าจะมีน้องให้เสี่ยวเหว่ยกับผิงผิงอีกคน""ท่านมันคนหื่น" "หึๆ พี่ยังมีแรงรักเจ้าได้อีกนะคนงาม" เขาไม่รีบ เนื่องจากขบวนที่มารับพระชายาของเขามาถึงหมู่บ้านตั้งแต่สองวันก่อน ตอนนี้ทั้งบุตรชายบุตรสาวต่างมีสาวใช้และองครักษ์ดูแล เขาอ้อยอิ่งพานางเดินชมนกชมไม้จนกระทั่งมาถึงบ้านก็ยามเซินพอดี ทุกคนเข้าแถวรอรับทั้งคู่พร้อมคำสรรเสริญ"ถวายพระพรท่านอ๋อง""ถวายพระพรพระชายา"คังหยุนและอ้าย
จูเหมยลี่ลุกขึ้นมาปลดอาภรณ์ตนเองออกช้าๆ เซียวจ้านเป่ยส่งสายตายั่วยวนเมียรัก จนอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกไป ร่างงามขึ้นคร่อมบนตักแกร่งก่อนจะมองหน้าเขา เซียวจ้านเป่ยมอบจุมพิตแสนหวานให้นาง มือบางล้วงไปยังด้านล่างของตนเอง ค่อยๆคลี่กลีบดอกเหมยแสนบอบบางออก เซียวจ้านเป่ยจับแท่งทวนร้อนผ่าวตั้งตรง สะโพกงามค่อยๆกดลงมาหาสิ่งใหญ่โตที่รอคอยนางอยู่จูเหมยลี่ค่อยบดสะโพกส่ายไปมา บางทีก็กดลงเข้าหาความใหญ่โตจนสุดทางรัก แขนเรียวโอบรอบคอสามีเอาไว้ โยกเอวขึ้นลงช้าๆ เซียวจ้านเป่ยอยากขยับสะโพกสอบขยับใส่นางแต่นางกับกดสะโพกนิ่ง มือหนาละจากที่คล้องคอเขามากอดเอวหนาเอาไว้ บดสะโพกยั่วยวนเขาแน่นไม่ให้เขาได้ขยับ"อืม ลี่เอ๋อร์คนงามของพี่ เจ้ายั่วยวนเพียงนี้แต่เมื่อไหร่กัน พี่จะคลั่งตายแล้ว หลงเจ้าไม่ไหวแล้วเมียข้า""ใครใช้ให้ท่านยั่วยวนข้าก่อนเล่า นั่งดีๆข้าจะลงโทษที่ท่านกลั่นแกล้งข้าตอนที่มาถึง ท่านพี่กินอะไรมาหรือยังหิวหรือไม่เจ้าคะ""อืม รีบมายังมิได้กินข้าวคิดถึงเจ้านัก""งั้น ดื่มนมรองท้องก่อนไหมเจ้าคะ""หึๆๆ เมียรักของข้า วันนี้เจ้าเป็นปีศาจจิ้งจอกหรือยั่วยวนเร่าร้อนเหลือเกิน" "หื
สองคนเดินเข้าบ้าน จูเหมยลี่ถอดเสื้อนอกเขาออก เซียวจ้านเป่ยไม่เอาแต่ใจเขานอนกอดนางไว้ ก่อนจะขอนางดื่มด่ำทรวงอกคู่งาม ที่เขาห่างหายไปนานจูเหมยลี่ตามใจเขา เซียวจ้านเป่ยทั้งดูดเม้มตวัดลิ้นเลียไปมาจนร่างงามสะท้านผวาแอ่นอกขึ้นหาเขา ครางเบาๆด้วยความเสียวซ่าน จนกระทั่งเขาละจากดอกบัวทั้งสอง เลื่อนขึ้นมาหาสบตากับนาง นัยตาสีน้ำหมึกของเขาช่างดึงดูดนางให้หลงใหลยิ่งนัก มือน้อยๆยกขึ้นมาลูบใบหน้าของเขา"โกนหนวดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เจ้าคะ เขียวครึ้มแล้ว""อยากกลับมานอนหนุนตักให้เจ้าโกนให้ ไปที่ริมธารกันไหมเด็กดี""ไม่ได้ คนเต็มบ้านสายตากี่คู่กันไม่ได้มีแค่ผิงผิงเช่นเมื่อก่อนแล้วนะเจ้าคะ""หืม เมียข้าเจ้าคิดอันใดหรือ พี่หมายถึงโกนหนวดเท่านั้น เมียจ๋าเจ้าคิดมากกว่านั้นหรือ หื้ม""เซียวจ้านเป่ยคนบ้านี่ ข้าไม่คุยกับท่านแล้ว จะไปดูลูก งานในมือยังไม่เสร็จเลย"เซียวจ้านเป่ยหัวเราะในลำคอเขารู้แล้วว่าเมียงอน เขากับนางห่างหายเรื่องผัวเมียไปปีกว่า เขามาถึงก้ปลุกเร้านางขนาดนี้ยังแกล้งนางอีก ก่อนจะอมยิ้มเซียวจ้านเป่ยผูกสาบเสื้อให้นางก่อนจะอุ้มจูเหมยลี่ขึ้นเอ่ยกระซิบ"ไม่ได้ไปเรือนหอบนเขาเสี
ตอนนี้ขบวนของจ้านอ๋องรอพักอยู่ที่ตำบล ส่วนท่านอ๋องนั้นทนคิดถึงเมียกับลูกไม่ไหวควบม้ากลับหมู่บ้านจิ่วโจวเรียบร้อยแล้ว จูเหมยลี่ที่ตอนนี้กำลัง เดินดูแปลงผักที่ให้คนงานช่วยกันปลูกเพื่อทำผักดอกสามรส อากาศหนาวๆนำมาต้มกับเต้าหู้รสชาติอร่อยซดน้ำแกงคล่องคอมากนัก พริกออกดอกออกผลดกดี นำมาทำน้ำมันพริกส่งออกไปขายได้กำไรพอควร เนื่องจากคนยังไม่นิยมกินรสจัด ส่วนใบชาย่อมขายดีมาก อ้ายเฉิงที่ตอนนี้ได้รับข่าวดีว่าซูฟางหรูตั้งครรภ์แล้วด็ดีใจ จูยวี่ซานกับเฝิงอันหยวนไปไหนไม่ได้เพราะอ้ายซินกับอ้ายเย่วใกล้คลอดเต็มที "เสี่ยวลี่ ผักดองคราวก่อนอร่อยมากนัก ท่านยายเบื่ออาหารมานานแล้ว พอได้ผักดองของเจ้าก็ทำให้กินได้มากขึ้นน่ะ ขอบใจนะ อีกอย่างเรื่องท่านหมออีกหยวนอีก""พี่เว่ยเว่ยจะเกรงใจทำไมเจ้าคะ ปู่ใหญ่กับท่านลุงช่วยเหลือข้าไว้ไม่น้อยเลย หากไม่ได้บ้านใหญ่ของพวกท่าน มิใช่ว่าป่านนี้หญ้าบนหลุมฝังศพของข้าสูงท่วมศีรษะท่านแล้วหรอกหรือ"สองพี่น้องนั่งคุยกันไปพลางเด็ดขั้วดอกโม่ลี่ฮวาไปพลาง ทางด้านคนงานพวกนางกำลังจัดการเด็ดก้านของพริกออก ใครมีหน้าที่ตากก็ตาก หรงหรงอุ้มอ้ายหลินเหว่ยออกมาเดินเล่น