เซียวจ้านเป่ยเห็นจูเหมยลี่ที่อาบน้ำสะอาดสะอ้านแล้วก็ตะลึง ขนาดใส่ชุดบุรุษของเขาอยู่นางยังงามถึงเพียงนี้
เหมือนเขาจะได้ของดีนะ ถ้าป้าสะใภ้นางรู้กว่าหลานสาวตัวเองขัดสีฉวีวรรณแล้วงามเพียงนี้คงเสียดายแน่ๆ เด็กนี่หากขายให้ขุนนางอย่างน้อยๆค่าสินสอดคงมากกว่าห้าหกร้อยตำลึง
จูเหมยลี่เดินมาเกาะแขนเขาหน้าอกที่มีน้อยนิดเบียดกับต้นแขนแกร่ง เด็กนี่จงใจกลั่นแกล้งเขากับจางลู่เหลียนนางคงได้ยินที่จางลู่เหลียนดูถูกนาง
"พี่ลู่เหลียน ข้าขออภัยที่มื้อเที่ยงวันนี้รบกวนท่านแล้ว เมื่อคืนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย พอตื่นมาไปซักผ้าเกิดก้าวพลาดตกน้ำลำบากท่านพี่ต้องมาดูแลอีก ท่านพี่ข้าหิวแล้วขอกินข้าวก่อนนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นคืนนี้จะมีแรงปรนนิบัติท่านได้อย่างไร"
ไม่พูดเปล่ายังเงยหน้าช้อนสายตายั่วยวนคนตัวสูงอีก จางลู่เหลียนน้ำตาคลอ กำมือแน่นกำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงหวังดีประสงค์ร้ายตามหลัง
"พี่ลู่เหลียนที่บ้านท่านไว้ทุกข์ให้ผู้ใดหรือ ใส่ชุดขาวทั้งตัวแบบนี้มาบ้านข้าคงไม่ได้มาแช่งสามีข้าหรอกนะ"
จางลู่เหลียนปิดหน้าร้องไห้วิ่งกลับบ้านไม่หันกลับมาอีกเลย เมื่อก่อเรื่องเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำจูนเหมยลี่ก็ปล่อยมือเขาทันที แถมยังสะบัดหน้าใส่เดินไปหลังบ้านซักชุดตนเองมาตาก เซียวจ้านเป่ยเดินตามไปที่ลำธารก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม
"เหตุใดต้องทำเช่นนี้ ลู่เหลียนเป็นเด็กดีอ่อนหวาน ไม่ใช่สตรีกร้านโลกอย่างเจ้าซักผ้าเสร็จแล้วไปขอโทษนางซะ อาหารที่นางนำมาไม่มีส่วนของเจ้า อยากกินก็ทำเอง เจ้าเพิ่งจะบอกว่าไม่อยากรบกวนนางงั้นก็อย่ากิน"
จูเหมยลี่ไม่ตอบซักเสื้อเสร็จก็ลุกขึ้นสะบัดแรงๆ จนน้ำกระเซนโดนใบหน้าเขา สะบัดแรงไปหน่อยเสื้อเลยขาดเป็นรู ไม่สนใจเขาถอนหายใจนั่งลงบนก้อนหินบ่นงุ้งงิ้งคนเดียว
"เปื่อยขนาดนี้ใส่กี่ปีแล้ววะเนี่ย ยายป้ามหาภัยนี่เลวขั้นเทพเลย รอให้แม่ฟื้นกำลังได้ก่อนนะ ทั้งผัวทั้งเมียแม่จะเตะเรียงตัวเลยพับผ่าสิโอ๊ยย"
จูเหมยลี่ถูกเซียวจ้านเป่ยกระชากขึ้นมาเผชิญหน้า
"หูตึงหรือไง ข้าพูดให้เจ้าฟังยังทำไม่ได้ยิน อยากโดนตีก้นอีกหรือเด็กดื้อด้าน"
อกแกร่งกระเพื่อม ไม่เคยมีใครทำให้เขาโกรธได้ขนาดนี้มาก่อนเด็กคนนี้ช่างกล้านัก
"นี่ลุง แม่น้องนางนั่นดีขนาดนั้นแทบจะถวายตัวให้อยู่แล้วทำไมเจ้าไม่แต่งกับนางแต่มาแต่งข้า ทำไมพี่ชายนางเรียกสินสอดแพงไปไม่มีปัญญาหรือ ให้ข้าขอโทษนางรอตะวันขึ้นทิศตะวันตกก่อนเหอะ ปล่อยข้าได้แล้วข้าจะไปหาอาหาร ข้าวบ้านลุงมันกินไม่ได้นี่เชิญกินให้ติดคอตายไปคนเดียวเถอะ"
จูเหมยลี่กระชากแขนกลับมา ข่มเหงรังแกฉันเหรอไม่รู้ไงพ่อเจ๊เป็นมาเฟียนะย่ะ ร้านอาหารร้านเสื้อผ้าบังหน้าย่ะ ฉันนี่เจ้าของบ่อนนะไม่โหดจะอยู่ได้หรือ
แต่ต้องมาตายเพราะปืนปากกาเนี่ยนะ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น บุตรสาวขาใหญ่ถูกปืนปากกาเด็กนักเรียนยิงตาย ทุเรศเกิน จูเหมยลี่ตากเสื้อก่อนจะเดินไปยังเชิงเขาติดกับกระท่อม
"เหอะ ง้อที่ไหนไม่กินของนายก็ได้ ตาแก่บ้า"
กำลังหาว่ามีอะไรกินได้เซียวลี่ผิงก็วิ่งมาหาในมือมีซาลาเปาก้อนนึงมาให้
"ท่านแม่กินสิเจ้าคะ ผิงผิงอิ่มแล้ว ท่านแม่พาข้านอนกลางวันแล้วตื่นมาข้าจะเจอท่านอีกไหม ท่านจะไม่หนีไปเหมือนท่านแม่ของข้าใช่ไหมเจ้าคะ"
เซียวลี่ผิงน้ำตาคลอ เซียวจ้านเป่ยที่เดินตามบุตรสาวมาก็ยืนนิ่ง นางฝังใจเรื่องที่ถูกทิ้งสองเดือนข้างหน้าเขาต้องทิ้งนางไปเป็นทหาร หากผู้หญิงคนนี้หนีไปอีกบุตรสาวของเขาจะทำเช่นไร
"ไม่หนีหรอก ผิงผิงของแม่น่ารักขนาดนี่จะหนีได้อย่างไร อืมซาลาเปาแข็งเกินไป นี่คืออาหารที่พี่ลู่เหลียนทำมาให้หรือ"
เซียวผิงผิงพยักหน้า
จูเหมยลี่แปลกใจตั้งแต่ฟื้นขึ้นจมูกกับสายตาดีผิดปกติ นางได้กลิ่นหอมของบัวหิมะมาแต่ไกล จึงอุ้มเซียวลี่ผิงมาคว้ามีดในบ้านก่อนจะอุ้มเด็กน้อยเดินไปชายน้ำริมลำธารอีกด้านไกลจากบ้านห้าจั้ง
"หืม บัวหิมะนี่ผิงผิงอยู่นี่นะแม่จะขุดของอร่อยให้กิน ซาลาเปานั่นแม่กินไม่ไหวจริงๆ เอาไว้เขวี้ยงหัวหมาพอได้"
"คิกๆๆๆท่านแม่ตลกเจ้าค่ะ"
เซียวจ้านเป่ยอยากรู้ว่านางจะทำอะไรจึงยืนดูอยู่ห่างๆ จูเหมยลี่ค่อยๆขุดต้นบัวหิมาทีละกอไม่นานก็ได้บัวหิมะสิบกว่าหัว
จากนั้นก็นำมาล้างโคลนออกจนสะอาด ปอกเปลือกจนเห็นเนื้อสีเหลืองข้างใน ก่อนจะหั่นชิ้นเล็กๆนั่งกินกับเด็กน้อยอย่างอร่อย
"ผิงผิง ลูกกินของส่งเดชไม่ได้นะคายทิ้งไปเดี๋ยวนี้"
เซียวจ้านเป่ยไม่เคยเห็นใครกินของเหล่านี้ นางกล้าดีอย่างไรมาให้บุตรสาวของเขากินมัน ก่อนจะใช้เท้าเตะสิ่งที่ที่จูเหมยลี่ขุดมาได้อย่างลำบากลงน้ำหมดเลย
"ไม่ไหวแล้วโว๊ย แม่งเอ๊ยขอสักทีเหอะ"
จากนั้นจูเหมยลี่ก็ยกเท้าเตะเข้าที่สีข้างเซียวจ้านเป่ยทันทีสองครั้ง เขาไม่ตั้งตัวเด็กบ้านนี้เตะแรงจริงๆ เซียวลี่ผิงร้องไห้จ้าเซียวจ้านเป่ยก้มลงจะอุ้มลูกสาวนางก็ไม่เอาชักดิ้นชักงอ จนจูเหมยลี่มาอุ้มถึงยอมเงียบแล้วกอดคอมารดาไม่สนใจพ่ออย่างเขาสักนิด
"ฮือๆๆ ท่านแม่ลงน้ำหมดเลย ข้าอยากกินอีกหวานอร่อยมากข้าไม่เคยกินเลยฮือๆๆๆๆ"
น้ำตานองหน้าสะอื้นจนน่าสงสาร จูเหมยลี่เคยถูกแม่ทิ้งมาแต่งงานใหม่มาก่อนนางเข้าใจความหว้าเหว่เช่นนี้ดี
"ไปกันเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ขุดให้ใหม่ ไปนอนก่อนแม่จะทำความสะอาดบ้าน ดุสิเนื้อตัวแดงหมดแล้วบ้านสกปรกเกินไป"
สองแม่ลูกเดินเข้าบ้านไม่สนใจคนตัวสูงที่ยืนโมโหจนจะบ้า ลูกสาวเขาแปรพรรคตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ปกติเซียวลี่ผิงไม่เอาใครนอกจากเขา เห็นได้ชัดว่าตอนนี้บุตรสาวไม่ต้องการเขาเลย
เซียวจ้านเป่ยเดินเข้ามาก็ได้ยินเพลงกล่อมเด็ก ไพเราะเหลือเกินเขาไม่เคยได้ยินทำนองเหล่านี้มาก่อน แต่ฟังแล้วไพเราะนัก เผลอยืนฟังอยู่นาน ประตูห้องเปิดออกมา สองคนมองหน้ากันจูเหมยลี่เอ่ยก่อน
"นี่ตาแก่ บ้านท่าสกปรกเกินไป บุตรสาวท่านเนื้อตัวมีแต่แมลงกัด มาช่วยข้าทำความสะอาดหน่อย ผ้าปูเตียงผืนใหม่มีหรือใม่ เงินมีไหมไปหาซื้อมา บวกรวมไปกับค่าตัวของข้าตอนไถ่ตัวแล้วกัน"
พูดจบก็ไม่รอคำตอบ คว้าไม้กวาดมากวาดหยากไย่ทันที พื้นบ้านเป็นพื้นดินเวลาฝนตกมีน้ำไหลเข้ามาบ้างจะเฉอะแฉะ อยู่ไปได้อย่างไรกัน จูเหมยลี่เปิดหน้าต่างทุกบานเพื่อระบายความอับชื้น
ยามเซินก็ทำความสะอาดบ้านเสร็จ ห้องนอนของนางเตียงนอนพื้นที่นอนแข็งชะมัดต้องเอาฟางมาปูแล้วปูผ้าทับอีกทีแก้ขัดไปก่อน ตาบ้านี่มีแค่ผ้าห่มผืนเดียวมาให้จริงๆ
"ท่านลุงในครัวมีเสบียงหรือไม่ ข้าจะทำมื้อเย็น"
"เลิกเรียกข้าว่าลุงได้แล้ว ข้าอายุยี่สิบหกไม่ใช่ลุงหรือตาแก่"
เซียวจ้านเป่ยอยากหักคอคนตรงหน้านักเมื่อกลางวันอาบน้ำหมดโอ่งจนเขาต้องไปตักน้ำอีก
"ในครัวมีข้าวสารกับแป้งสาลีอยู่เล็กน้อย เครื่องปรุงมีอยู่เพราะข้าไม่ค่อยได้ทำอาหาร มีไข่อยู่ห้าฟอง"
" มีแค่นี้หรือ เนื้อสัตว์หรือผักละมีอะไรบ้างไหม ในหมู่บ้านพอมีร้านค้าไหม ท่านเป็นนายพรานแบบไหน เนื้อสักชิ้นยังไม่มีให้ลูกกิน จ่ายค่าอาหารเดือนละหนึ่งตำลึงได้มาแต่ซาลาเปาแข็งๆ ข้าจะไปจับปลาที่ลำธาร ไปปลุกผิงผิงด้วยเดี๋ยวคืนนี้นอนดึก "
"ข้าไปจับปลาเองเจ้าไปปลุกลูกเถอะ"
จากนั้นเซียวจ้านเป่ยก็เดินออกไป ในใจก็คิดถึงคนที่จากไปแล้ว ท่านปู่หลงเป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ แม้จะเปลี่ยนฮ่องเต้แล้วแต่พวกเขาก็ไม่อยากกลับไปรับใช้ราชสำนักแล้ว
แต่กลับต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารช่างเถอะก็ดีกว่าเป็นซื่อจื่อจวนอ๋อง ที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีปล่อยให้นางกับบุตรชายครอบครองอำนาจเหล่านั้นไปเถอะ ตอนนี้เขามีบุตรสาวที่แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจให้นางเกิดแต่นางก็คือสิ่งล้ำค่าที่สุดที่เขามี
"ผิงผิงเด็กดีไหมเอ่ย ตื่นหรือยังน้อไม่ตื่นแม่จะหนีไปเที่ยวคนเดียวแล้วนะ" จูเหมยลี่จี้เอวเด็กน้อย นางตื่นแล้วแต่แกล้งหลับขนตากระพริบถี่เชียว"คิกๆๆๆท่านแม่ฮ่าๆๆท่านแม่ข้าจั๊กจี้มากเลยเจ้าค่ะคิกๆๆ"จูเหมยลี่มองตาเด็กน้อยก่อนจะก้มลงเป่าพุงนางเล่น เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากในบ้าน เซียวจ้านเป่ยยืนมองภาพตรงหน้าอย่างใจลอย ภาพนี้เหมือนตอนเขายังเด็กตอนที่เสด็จพ่อยังไม่แต่งสตรีคนนั้นเข้ามา เสด็จแม่รักใคร่เขานัก แต่ไม่นานนางก็จากไปหลักจากนั้นอีกสองปีเขาอายุสิบแปดไปไหว้หลุมศพมารดาขากลับก็ถูกตามฆ่าจนต้องหนีมาอาศัยอยู่ที่นี่กับพ่อบ้านของเขาท่านปู่เซียวหลงเพื่อปกปิดร่องรอยจำต้องแต่งภรรยา ในที่สุดก็ถูกหงซิ่ววางยาจนมีผิงผิงออกมา เขายังถูกตามล่าจากชายารองที่ตอนนี้ขึ้นตำแหน่งชายาเอกแล้วกระมัง ถอนหายใจเสร็จก็เดินเข้าบ้าน"ข้าจับปลาได้สามตัว จะไปซื้อเนื้อหมูที่ในเมืองมาให้ตอนเช้า ตอนนี้ตลาดคงวายหมดแล้ว ปลาต้องทำอย่างไร""ท่านขอดเกล็ดควักไส้ออกแล้วกัน อ้อติดเตาให้ด้วยข้าจะต้มน้ำให้ผิงผิงอาบก่อนเดี๋ยวฝนตก เก็บผ้าที่ข้าซักตากเข้ามาให้ด้วย"เซียจ้านเป่ยสะอึกเขาซื้อนางมาหรือว่านางซื้อเขามากันแน่ใช้งานเขายิ่งก
จูเหมยลี่เติมฟืนก่อนจะต้มน้ำจากนั้นก็ลวกไก่ถอนขน นางทำทั้งห้าตัวเลย จะเอามาย่างและมาทอดด้วย เฮ้อไม่อยากจะว่าสหายของตาลุงนั่นหรอกนะแต่ดูเหมือนหนึ่งตำลึงนี่ บางบ้านอยู่ได้ครึ่งปี แต่นี่นอกจากซาลาเปาแข็งๆกับข้าวต้ม เซียวลี่ผิงแทบไม่ได้กินดีเลย ตาลุงนั้นมีแป้งมีข้าวเต็มถังแต่กลับปล่อยให้ลูกสาวผอมเชียว ถึงจะไม่อดก็ใช่ว่าจะได้กินดี"ไปริมน้ำกับแม่ไหม แม่จะไปทำไก่ไม่อยากใช้น้ำในโอ่งเดี๋ยวท่านพ่อต้องหาบน้ำอีก"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่นำกะละมังไม้มาสองใบ นำชามใส่ขี้เถ้ามาหนึ่งใบ จากนั้นก็เอาไก่ป่าที่ลวกแล้วถอนขนเรียบร้อยใส่กะละมังไม้ก่อนจะพากันเดินไปหลังบ้าน จูเหมยลี่ผ่าท้องควักเครื่องในออกมาจากนั้นก็ล้างด้วยขี้เถ้าจนสะอาด"เฮ้อ อยากได้พริก ข่า ขิง กระเทียม พริกไทย ฮวาเจียวสักหน่อยที่นี่มีไหมนะ"ปากก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยแต่อยู่ๆจมูกก็ได้กลิ่น"หืมได้กลิ่นขิง กลิ่นพริก เอ๋เดี๋ยวนะอยู่ๆได้กลิ่น มาจากไหนกัน ผิงผิงรอแม่ตรงนี้นะเดี๋ยวแม่มา แม่ไปดูตีนเขาตรงฝั่งนั้นก่อน"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่ข้ามลำธารไป เห็นต้นไม้ไม่สูงเท่าไหร่ มีลูกสีเขียวสีแดงเต็มไปหมด มีกอข่า ขิง"อั๊ยย่ะ นี่มันสรรค์ประท
เซียวจ้านเป่ยเข้ามาเห็นภาพที่ทั้งคู่กอดกันก็รู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก นางคงไม่หนีไปใช่ไหมนางบอกว่ารอเขากลับมาจะหย่า ก็ได้หากถึงเวลานั้นนางอยากหย่าเขาจะไม่รั้งไว้ แต่ตอนที่เขาไม่อยู่ให้นางช่วยดูแลบุตรสาวของเขาก็พอ"เอ่อ ผิงผิงอย่างอแงเลย พ่อกับท่านแม่แค่คุยกันนานไปหน่อย สายแล้วไปทำอาหารเถอะ ไหนบอกจะพาลูกไปเก็บผักป่าไง ข้าจะไปเป็นเพื่อนพวกเจ้า"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยขัดสองแม่ลูก "ไม่ต้องหรอก วันนี้สหายท่านที่ชื่อตงหยางนำหมูป่ามาให้ ท่านจะขายหรือชำแหละก็ไปจัดการเถอะ ส่วนไก่ข้าจะทำน้ำแกงบำรุงผิงผิง ข้าไม่ใช่คนพูดมากแต่ขอพูดสักคำ วันข้างหน้าข้าไม่รู้อนาคต แต่ค่าอาหารเดือนละหนึ่งตำลึง จางลู่เหลียนใส่แต่ผ้าเนื้อดี แต่บุตรสาวท่านกลับไม่มีเนื้อสักนิด ค่าอาหารท่านแพงไปหรือไม่ ผิงผิงไปทำอาหารกัน แม่จะทำไก่ย่างหอมๆให้กิน"จากนั่นก็จูงมือกันไปไม่สนใจเซียวจ้านเป่ยสักนิด เขาถูกบุตรสาวกับเมียเมินอีกตามเคย ไหงเขากลายเป็นส่วนเกินไปได้ ผิดพลาดตรงไหนกันเนี่ยจูเหมยลี่นำไก่มาหมักเกลือน้ำตาล นำกระเทียมกับพริกไทยมาทุบๆโขลกเล็กน้อยทาบนตัวไก่ จากนั้นก็เรียกคนด้านนอก"ท่านลุง รบกวนท่านไปเด็ดใบบัวให้ข้าสักหลายๆใบ เลือก
จูเหมยลี่ป้อนข้าวเซียวลี่ผิงเสร็จแล้วก็นั่งรอเซียวจ้านเป่ย สักพักเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับผักกาดสองต้นและถั่วฝักยาวหนึ่งกำ ภรรยาของเซี่ยตงหยางเป็นคนขยัน มักปลูกผักเลี้ยงไก่ ลูกๆไม่อดอยากส่วนภรรยาจางรั่วสุ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ขยันแต่เป็นเพราะจางรั่วสุ่ยตามใจน้องสาวเกินไป เครื่องประดับเอย เสื้อผ้าเอย ไม่สนใจสักนิดว่าพี่สะใภ้ต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานบ้านยังบังคับให้นางตัดเย็บเสื้อผ้าให้อีก เซียวจ้านเป็นไม่ชอบสตรีหน้าขาวปากแดงเซียวจ้านเป่ยมาถึงบ้านก็เห็นจูเหมยลี่นั่งรออยู่ นางยังไม่จับตะเกียบยังคงรอเขามากินด้วย เมียเขาช่างน่ารักเหลือเกิน ก่อนจะส่งตะกร้าที่ใส่ผักให้นาง"เหมยลี่ นี่เป็นผักกาดกับถั่วฝักยาว พี่สะใภ้ให้มา เอ่อข้าแบ่งผักกาดให้รั่วสู่ยไปหนึ่งต้นกับถั่วหนึ่งกำเจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่""ไม่ว่าอะไรนี่ ทั้งสองคนเป็นสหายท่าน ข้าเป็นคนนอกไม่อยากยุ่ง ว่าแต่ของที่ข้าจดให้เมื่อเช้าซื้อมาได้หรือเปล่า"เซียวจ้านเป่ยถอนหายใจ นางสั่งให้เขาซื้อเครื่องปรุง ซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อเครื่องมือเกษตรทำไร่ ไม่ใช่ว่าเขาซื้อไม่ได้ แต่เขาไม่มีเงินจริงๆ ต้องขึ้นเขาก่อนเฮ้อ"เอ่อ ข้าได้แต่เครื่องปรุง เนื้อหมูแล้วก็เ
เงินที่เสด็จแม่ฝากไว้เป็นชื่อเขามีมากมายนัก แต่เพราะไม่อยากเปิดเผยร่อยรอย จึงต้องใช้ชีวิตติดดิน มีทองแท่งเล็กๆอยู่หากขายคงได้แท่งละสักสิบตำลึงซึ่งไม่พอให้ใช้ชีวิตสองคนแม่ลูกพรุ่งนี้ขึ้นเขาล่าเสือหรือหมีสักตัว หากขายได้ก็คงมากกว่าสามร้อยถึงห้าร้อยตำลึง จะฝากเป็นชื่อนางไว้ ป้าสะใภ้นางละโมบนักถ้าเขาไม่อยู่อาจมารังแกและแย่งชิงไปได้ เห็นจูเหมยลี่กำลังจะสะพายตะกร้าก็เรียกไว้ก่อน"เหมยลี่ ข้ามีอยากให้ช่วยหาของสักหน่อย ผิงผิงนั่งรอท่านแม่อยู่ตรงนั้นก่อนนะ ลูกเป็นเด็กดีหรือเปล่า""ลูกจะไม่ดื้อเจ้าค่ะ ท่านแม่รีบไปช่วยท่านพ่อนะเจ้าคะผิงผิงจะรออยู่ตรงนี้"จูเหมยลี่เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ดูท่าเขาคงรู้ว่าเงินที่ซ่อนไว้ถูกนางแคะไปจนหมดแล้ว จึงอยากหาเรื่อง เพราะตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทะเลาะหรือเถียงกันต่อหน้าเด็ก จึงต้องทะเลาะกันลับตาเจ้าตัวน้อย"นี่ท่านลุง ถ้าจะถามเรื่องเงินที่ท่านซ่อนเอาไว้ละก็เสียใจด้วย ตอนนี้เหลืออยู่สองร้อยกว่าอีแปะเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็อยู่ในท้องท่าน อื้อๆๆ"เซียวจ้านเป่ยโมโหเด็กบ้านี่เรียกเขาท่านลุงบ้างล่ะ ตาแก่บ้างล่ะ ตาเฒ่าบ้างละมันน่าโมโหนัก เขาจูบนางครั้งนี้นานกว่าทุกครั้งจนจู
เซียวจ้านเป่ยตรงไปโรงเตี้ยมสุขสราญย์ทันที หมูป่าเพิ่งตายไม่นานก็จริง แต่หากไม่ใช่เพราะว่าเขาจะเข้าเมืองมาซื้อเสื้อผ้ากับของให้เมียล่ะก็ หมูนี่คงชำแหละขายในหมู่บ้านแล้ว อยากกลับบ้านจะแย่แล้วต้องรีบขาย"อ้าวนายพรานเซียวหรือ วันนี้ได้อะไรมากันเล่า ท่านไม่ขึ้นเขานานแล้วนี่ตั้งเกือบปีแล้ว"หยวนเหอเป็นหลงจู๊ของโรงเตี้ยมแห่งนี้ หลงจู๊คนนี้นิสัยดี ไม่กดราคา จึงทักทายเขากลับ"อ้อ พี่หยวนเหอพอดีข้าวางกับดักไว้ ได้หมูป่ามาสองตัวเลยนำมาให้ท่าน ไม่ทราบว่าท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ" หยวนเหอเหมือนสวรรค์มาโปรด"เฮ้อ ที่จริงนะอาเซียวหมูป่าตายแล้วชั่งละห้าสิบอีแปะเท่านั้น แต่ช่วงนี้ฝนตกนายพรานขึ้นเขาไม่ได้ อีกทั้งมีคนมาจากเมืองหลวง เป็นคุณชายตระกูลใหญ่มาเที่ยวเมืองกว่างโจวของเรา คนของขาอยากกินเนื้อแต่ข้าไม่มี เถ้าแก่กำลังกลุ้มใจเลยว่าจะทำเช่นไร เฮ้อข้าหยวนเหอคงมีบุญวาสนา สวรรค์ถึงส่งเจ้ามาเอาเช่นนี้ข้าให้ราคาเท่ากับหมูเป็นชั่งละแปดสิบอีแปะแล้วกัน อาจูมาเอาหมูไปขึ้นตาชั่ง"หยวนเหอสั่งคนงานไม่ช้าก็นำหมูป่าสองตัวไป เซียวจ้านเป่ยเลียบๆเคียงๆถามหยวนเหอถึงคนที่มา หากเกี่ยวข้องกับหรานซินชายารองเสด็จพ่อเขาต้องวาง
เซียวจ้านเป่ยซื้อของตามรายการที่เมียสั่งครบทุกอย่าง เอ่อต้องหาซื้อผ้าห่ม ผ้านวมหนาๆปูเตียงสักหน่อย นางให้ซื้อข้าวเหนียวทำไมเยอะแยะนักนะ เขาแวะร้านผ้า ได้ยินมาว่านางตัดเย็บเสื้อผ้าเป็น ซื้อผ้าไปฝากนางสักหน่อยดีกว่า"เอ่อท่านลุง ท่านมาซื้อผ้าหรือเจ้าคะ"คนงานหญิงในร้านขายผ้ากลัวใบหน้าของเขาจึงเอ่ยตะกุกตะกัก ท่านลุงเขาดูแก่ขนาดนั้นเชียวหรือไง มิน่ายายเด็กบ้านั่นถึงเอาแต่เรียกเขาตาแก่ๆอยู่ได้ เจียวเหนียงเดินออกมาพอดี ทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง"ท่านลุงท่านนี้ ท่านจะซื้อผ้าไปฝากภรรยา หรือบุตรสาวกันเจ้าคะ หรือจะเป็นชุดสำเร็จร้านข้าก็มี"เซียวจ้านเป่ยอยากจะบ้าตาย อืมพาไอ้หน้าอ่อนนั่นขึ้นเขาล่าสัตว์กลับมาก่อนจะโกนหนวดโกนเคราสักที ยายเด็กบ้านั่นคำก็ตาแก่สองคำก็ตาเฒ่า คอยดูเถอะตาเฒ่าอย่างข้าจะทำให้เจ้าขาอ่อนครางแต่ชื่อข้าสักวันแม่ตัวดี"เอ่อ เถ้าแก่เนี๊ยข้าอยากได้ชุดสตรี สามชุดขนาดเท่านี้ กับชุดเด็กผู้หญิงสี่ขวบสามชุดขอรับ ขอผ้าห่มสี่ผืน ผ้านวมสี่ผืน แล้วก็ผ้าฝ้ายเนื้อดีท่านมีกี่ข้าเอาหมดสีละสองพับ ผ้าฝ้ายสีขาวห้าพับ ผ้าไหมเนื้อตีห้าพับ รองเท้าสตรีสามคู่ของเด็กสามคู แค่นี้แหละขอรับ"คังหยุนที่เดิ
จูเหมยลี่เตรียมสะพายตะกร้าพาบุตรสาวลงจากเชิงเขา เพื่อเอาของไปเก็บก่อนนางได้กลิ่นลูกพีช นางอยากกินจะตายอยู่แล้ว เซียวจ้านเป่ยเดินมาหาก่อนจะแย่งเอาตะกร้ามาเอง" ข้าเอาไปเก็บเอง อืมพอแล้วไหมเมียข้าจะยามเซินแล้วข้าซื้อของมามากมายนัก ยังไม่ได้ขนลงจากเกวียนเลย"เซียวจ้านเป่ยเห็นของในตะกร้าก็แปลกใจ บางชนิดเขาเดินผ่านทุกวัน แต่นางกลับเก็บมันเสียทุกต้น มันกินได้จริงๆหรือ แต่ตั้งแต่เรื่องบัวหิมะเขาก็ไม่กล้าขัดใจนางอีก เห็นตัวเล็กๆ เท้าหนักไม่ใช่น้อย"ข้าได้กลิ่นผลท้อน่ะ ข้าอยากกินท่านลุงท่านพาผิงผิงไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวข้ากลับทีหลังเอง"พูดจบก็หมุนตัวไปบนเขา เซียวจ้านเป่ยคว้าแขนกลมกลึงของนางไว้ก่อนจะวางตะกร้าลง"เอาตะกร้าไว้นี่ก่อนก็ได้ ที่นี่ไม่มีใครขึ้นมาไม่มีของหายหรอก ไปกันเถอะ"จากนั้นเซียวจ้านเป่ยก็อุ้มเซียวลี่ผิงขี่คอ เดินตามจูเหมยลี่ไปสักพักไม่นาน ก็เจอต้นท้อจริงๆ ลูกท้อสีชมพูเข้มกลิ่นหอมมากจูเหมยลี่วิ่งเข้าหาทันที ก่อนจะเด็ดลงมาแล้วตัดเถาวัลย์ใกล้เคียงนำน้ำในเถาวัลย์มาล้างลูกท้องสองลูก เซียวจ้านเป่ยเป็นนายพรานยังไม่รู้วิธีนี้เลย ผู้หญิงคนนี้ใช่คนเดียวกับที่วันๆก้มหน้าอยู่แต่ในแปลงนาคนนั้
บรรดาคนที่อยู่ในห้องสนทนาถึงกับตกใจกับข่าวใหม่ หานรั่วสุ่ยมีภรรยาแล้วอีกทั้งมีบุตรแล้วด้วย จ้านอ๋องก็มีพระชายาแล้วเช่นกัน พวกเขาสนทนาโดยไม่สนใจบุคคลที่อยู่ในห้องด้วยสักนิด "อืมพี่เมีย ข้าจะล่วงหน้าไปก่อนคิดถึงเหลี่ยนเอ๋อร์ของข้าแล้ว พวกท่านค่อยเดินทางทีหลังแล้วกัน""องค์ชายคังหยุนท่านจะไปเมื่อใดหรือพ่ะย่ะค่ะ""ออกเดินทางวันนี้ ข้าคิดถึงเมีย มีบางคนคิดถึงจูเว่ยเว่ยจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว น่ารำคาญยิ่งนัก อ้อนวอนข้าทุกวันจะกลับจิ่วโจวให้ได้""เอ๋เสด็จพี่ ข้าคิดถึงเว่ยเว่ยไม่ได้หรืออย่างไร ทีท่านคิดถึงพี่สะใภ้ได้เล่าหรือไม่เล่า ท่านพี่ล่ะคิดถึงพี่สะใภ้แสนงามของข้าหรือไม่ "อืม หยุนเอ๋อร์ รั่วสุ่ยพวกเจ้าคุยกันไปเถอะ อ้อพวกท่านทั้งหลายก็กลับไปเถอะนะ ไม่ว่าของขวัญของฝากที่ใครๆไหว้วานพวกท่านนำมานั้น ก็จงนำกลับไปด้วย ข้าอ้ายจ้านมีภรรยาแล้ว และข้าไม่แต่งเมียเพิ่ม ข้าไปล่ะพวกเจ้าปรึกษากันต่อเถอะ" "เอ่อพี่เมีย แล้วยายเฒ่าตาเฒ่าสกุลหานเหล่านั้นท่านจะว่าอย่างไรหรือ" คังหยุนแม้จะเป็นองค์ชายแต่ก็ไม่อยากใช้อำนาจกับพวกเขา แต่น่ารำคาญเหลือเกินโดยเฉพาะยายเฒ่าหานนั่น ตอนจาง
“เอ๋ เสด็จพ่อตาใครกันนะว่ากระหม่อมเป็นตาเฒ่าหลอกเด็กรุ่นลูกมาเป็นเมีย นี่ๆพี่อันหยวนของข้าสามสิบเก้า ท่านสี่สิบสอง บางคนสี่สิบห้าแล้วนะ เหอะ”ซูฟางหรูอายหน้าแดง อ้ายเฉิงถลึงตาใส่จูยวี่ซานก่อนจะเอ่ย“มีอะไรคุยพรุ่งนี้ เมียข้าหิวข้าว หากไม่หยุดข้าจะเอาลูกสาวข้าคืนตาแก่จู”จูยวี่ซานและเฝิงอันหยวนหัวเราะก่อนจะพากันออกไป ปล่อยคู่รักต่างวัยให้อยู่ด้วยกัน จูเหมยลี่รับรู้จากอาสามว่าพ่อสามีกับซูฟางหรูข้าวสารเป็นข้าวสุกเรียบร้อยแล้วตอนนี้ซูฟางหรูนอนอยู่ในอ้อมกอดอ้ายเฉิง เขาลูบไหล่นางเบาๆ พูดคุย“อาให้คนไปรับมารดากับบิดาเจ้ามาแล้ว พรุ่งนี้บ่ายๆ ถึงจิ่วโจว”“ท่านอาพูดจริงหรือเจ้าคะ”“อารู้ว่าเจ้าเคยหมั้นหมาย แต่เพราะห่วงบิดากับมารดา จนคู่หมั้นถอนหมั้นเจ้า”“ท่านอา คือว่าเรื่องนั้น”“ข้ารู้ เจ้าห่วงพวกเขาจนฝ่ายนั้นรำคาญ แต่ก็ดีแล้วมิใช่หรือหากตอนนั้นเจ้าแต่งออกไป ใครจะนอนหนุนแขนอาเล่าตอนนี้หื้ม”“ท่านอา ท่านอายุสี่สิบห้าจริงๆ หรือ เหตุใดถึงเหมือนพี่น้องกับท่านพี่เซียวนัก ใบหน้าท่านเด็กกว่าอาสามอีก”“ปากหวานแบบนี้ต้องให้รางวัลแล้วไหม”อ้ายเฉิงเริ่มปลดอาภรณ์นางอีกครั้ง ซูฟางหรูจับมือเขาไว้ก่อนจะเอ่
ซูฟางหรูกลับมาที่ริมแม่น้ำ อ้ายเฉิงนั่งรออยู่ พอเห็นนางก็เอามือกุมท้องดังเดิม ซูฟางหรูไม่รู้เลยว่าหมาป่ากำลังมองจ้องลูกแกะตัวน้อยเนื้อขาวๆ“ท่านอาเฉิง ยามาแล้วเจ้าค่ะเอ่อ ทะ ท่านอาทาเองได้ไหมเจ้าคะ”“ข้าจะทาอย่างไรกันมันไม่ถนัด เจ้าช่วยหน่อยสิอาหรู”“แต่ข้าเป็นสตรี ท่านเป็นบุรุษใกล้ชิดกันคงไม่ดีนักคือๆ ว่าข้า”“ช่างเถอะ เจ้ากลับไปเถอะเดี๋ยวข้านั่งหายเจ็บก็กลับเอง ไม่รบกวนเจ้าหรอก”“ท่านอา กะ ก็ได้แต่ว่าถ้าหากใครมาเห็นคงไม่ดี ว้าย!!”พูดไม่ทันจบนางก็ตัวลอยขึ้น อ้ายเฉิงอุ้มนางดีดตัวผ่านยอดไม้ก่อนจะมาถึงเรือนของตน ซูฟางหรูซบกับหน้าอกเขาแน่นเพราะกลัวตก จึงไม่เห็นบรรดาข้าราชบริพารที่ถอยหลังออกจากเรือนพักจนหมด องครักษ์เงาหายไปจากบริเวณนั้นทันทีอ้ายเฉิงวางร่างบางระหงลงบนเตียงของตน ซูฟางหรูมองเขาหน้าตาเหรอหรา ยิ่งมองยิ่งน่ารักเหลือเกินจนอ้ายเฉิงอดใจไม่ไหว รั้งนางมาจูบทันที“อื้อ” ซูฟางหรูเองนี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดบุรุษเพศ นางทำอะไรไม่ถูกยอมให้คนตัวโตชักจุงในที่สุดนางก็ถูกเขาลอกคราบจนเปลือยเปล่า“อาหรูเจ้างามนัก ขออาเฉิงนะเด็กดี”“อื้อ ท่านอาแบบนี้ไม่ถูกต้องนะเจ้าคะ ไหนท่านบอกว่าเจ็บท้อง
จูเหมยลี่ออกเดือนได้หลายวันแล้ว ตอนนี้บุตรชายอ้ายหลิวเหว่ยได้สองเดือนกว่าแล้ว เมื่อวานอ้ายซินมาบอกว่าเซียวจ้านเป่ยจัดการกลุ่มกบฏเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่กวาดล้างกากเดนที่เหลืออยู่ ฮ่องเต้แต่งตั้งเขาเป็นอ๋อง เดิมทีอีกเจ็ดวันจะเดินทางมาจิ่วโจวแต่เพราะมีเหตุต้องอยู่ต่อ อีกครึ่งเดือนจึงจะมาพร้อมขบวนต้อนรับพระชายาจูเหมยลี่ส่งหลิวเหว่ยให้กับหรงหรง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ก็เห็นซูฟางหรูเดินหิ้วตระกร้ามาหา เด็กสาวคนนี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เป็นเด็กกตัญญูยิ่งนัก“พี่ฟางหรู ท่านเอาอะไรมาอีกละนั่นข้าเกรงใจจะแย่แล้ว”“อาซ้อเซียวท่านเกรงใจไปแล้ว หากไม่ได้ท่านคอยช่วยเหลือข้ากับพี่สาวและหลานๆ คงลำบากไม่น้อย เอ่อ นี่เป็นขนมดอกหยางไหวของท่านอาเฉิงเจ้าค่ะ”ซูฟางหรูส่งห่อใบบัวให้จูเหมยลี่ เว่ยเว่ยเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรับแล้วเอ่ยกับจูเหมยลี่“เสี่ยวลี่ พี่จะไปบ้านท่านยายสักสามวัน ทางนี้ไม่ขาดคนพอดีท่านยายป่วยอีกแล้ว พักนี้ท่านยายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่”“อืม ท่านอาเสี่ยวทงรบกวนท่านมานี่สักหน่อย”เสี่ยวทงเป็นคนของนางไปแล้ว อาสามยกให้เขาคอยดูแลจูเหมยลี่กับเซียวลี่ผิงโดยเฉพาะ จูยวี่ซานไปข้างนอกบ่อยๆ เขากลัว
เมื่อเรื่องในวังหลังเรียบร้อย ยามเฉินฮ่องเต้ก็สวมฉลองพระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ในท้องพระโรง วันนี้ขุนนางมาเข้าเฝ้าโดยไม่รู้ว่าเรื่องราวอะไรกำลังจะเกิดขึ้นแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเห็นคืออ้ายจ้านซื่อจื่อที่กลับมาแล้ว อีกคนหยางตงเซี่ย และหานรั่วสุ่ยทั่นฮวาน้อย"ฝ่าบาท วันนี้ประชุมเช้า เหตุใดซื่อจื่อจึงพกอาวุธเข้ามายังท้องพระโรงกันพ่ะย่ะค่ะ นี่มิเท่ากับทำผิดร้ายแรงหรอกหรือ""รองเจ้ากรมอาลักษณ์พูดจาน่าขัน พวกเราอารักขาฝ่าบาท มีอะไรไม่สมเหตุสมผลหรอกหรือ" จางรั่วสุ่ยเอ่ยขึ้น คนที่จ้องเขาตาถลนกำลังกำมือแน่น เขาคือหานรั่วท่านปู่ของเขา "รั่วสุ่ย อย่าเสียมารยาท นี่คือขุนนางเจ้าเป็นเพียงทหารปลายแถวจงสำรวม""โย่ว ใต้เท้าหานกล่าววาจาอันใดกัน ท่านดูไม่ออกหรือว่าข้ามีตำแหน่งใด สายตาฝ้าฟางเช่นนี้ควรลาออกไปเลี้ยงหลานอยู่บ้านจะดีกว่าหรือไม่"หานรั่วถึงกับหน้าเขียว เป็นเด็กเลวจริงๆ เลือดชั้นต่ำของมารดาคงแรง"อ้อ ใต้เท้าหานที่แท้เขาก็คือทั่นฮวาน้อยหานรั่วสุ่ย หลานชายของท่านนั่นเอง ""รองเจ้ากรมท่านกล่าวผิดแล้ว ข้าแซ่จาง จางรั่วสุ่ย แซ่หานนั้นข้าไม่เคยใช้"หานรั่วถึงกับหน้าคล้ำกว่าเดิ
สิบวันต่อมาเซียวจ้านเป่ยมารวมกับทัพใหญ่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เรียกหานอี้มาหา หานอี้เป็นคนสนิทของแม่ทัพจ้าว"ตอนข้าไม่อยู่มีเรื่องอันใดหรือไม่""เป็นอย่างที่ท่านคาดการณ์ นายกองหูออกจากค่ายไปบ่อยๆ เขานัดพบคนๆหนึ่ง เราสืบดูแล้วเป็นคนของซีเป่ย ไท่ซ่างหวงทิ้งข้อความไว้ให้ท่านแม่ทัพขอรับ"เซียวจ้านเป่ยหยิบกระดาษที่วาดรูปออกมา เป็นเหมือนรูปวาดธรรมดา แต่เซียวจ้านเป่ยรู้ดีว่าเสด็จปู่กำลังจะสื่อถึงอะไร ภูเขา ลำธารหรือ นี่มันทางเข้าหลังตำหนักร้างนี่ รอยเท้าย้อนกลับเดินถอยหลังเช่นนั้นหรือ มีบางคนส่งข่าวจากช่องทางนั้น "รั่วสุ่ยเขียนอักษรถึงองค์ชายสี่หน่อย เขียนแค่ว่าชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง"จางรั่วสุยเขียนโครงตามที่เซียวจ้านเป่ยบอก ชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง แปลว่าอะไร พี่น้องคู่นี้หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีแก่ใจต่อกลอนกันด้วยหรือ อินทรีปากเหล็กรับข้อความไปแล้ว ยามอิ๋นจึงได้จดหมายตอบกลับมา มีเพียงรูปวาดของเด็กทั้งห้า ที่มีสัญลักษณ์แตกต่างกันไป แต่เด็กคนหนึ่งหายไป"เป็นเจ้าจริงองค์ชายรอง คิดจะเปิดประตูหลังตำหนักร้างให้คนของท่านตาเจ้าเข้าไปก่อกบฏหรือ หึ สำคัญผิดเสียแล้ว"
หลังจากจูเหมยลี่คลอดบุตรชายให้เซียวจ้านเป่ยเรียบร้อยแล้วนางก็พักฟื้น ตอนนี้บริเวณหมู่บ้านกับตำบลจิ่วโจวทั้งตำบล มีทหารคอยอารักขาเต็มไปหมด จูเก่อคังที่ตอนนี้นั่งดื่มกับอาเฉิงอยู่ เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือเชื้อพระวงศ์ จึงได้พูดคุยทุกเรื่อง"นี่ๆน้องเฉิง บุตรชายเจ้าเก่งนัก ไปทหารไม่นานก็ได้ตำแหน่งใหญ่โตกลับมา เฮ้อ วาสนาเสี่ยวลี่ของข้าจริงๆ อยากให้น้องรองกับน้องสะใภ้ของข้าได้รับรู้เหลือเกินว่าตอนนี้นางมีชีวิตที่ดีเพียงใด""พี่เก่อคัง หลานสาวท่านคนนี้บุตรชายของข้าดูท่าจะรักนางมาก""เสี่ยวลี่เป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง หากไม่ใช่ว่าถูกลุงใหญ่กับป้าสะใภ้กลั่นแกล้งชีวิตนางคงไม่เลวร้าย โชคดีที่วันนั้นสองคนนั้นตัดสินใจขายเสี่ยวลี่ให้บุตรชายท่าน ไม่เช่นนั้นข้าไม่อาจเดาชะตากรรมนางได้เลย""กฎหมายซื้อขายคนคงต้องแจ้งฝ่าบาทให้ปรับจริงๆ แต่พวกขุนนางเก่าแก่คงไม่ยอม"เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังกอดรักเมีย เขาต้องไปแล้วคนของเขาแจ้งมาแล้วว่ากลุ่มกบฏมีกี่พรรคพวก แล้วหลบซ่อนอยู่ที่ใดบ้าง"ลี่เอ๋อร์ พี่ต้องไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะทำรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วกลับมารับเจ้ากับลูก""ท่านพี่
"ฮือๆๆ เสด็จพ่อ" อ้ายเฉิงกางแขนกอดรับบุตรสาวที่ตอนนี้ร้องไห้กับอกเขา"ร้องทำไมเจ้าตัวดี ใครใช้ให้เจ้าหนีออกจากวังกันหึ"แม้คำพูดจะตำหนิแต่น้ำเสียงกับอาทรห่วงใยบุตรสาวยิ่งนัก อ้ายซินมองหน้าก่อนจะทำสีหน้าสงสัย"เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ แล้วคนของฉู่หรานซินที่เฝ้าเสด็จพ่อในทุกๆวันเล่า""เรื่องราวยากกว่าที่เจ้าเข้าใจ นางกำลังพาบุตรชายหนีน่ะ""อ้ายฉางหรือเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่บุตรเสด็จพ่อ หม่อมฉันเคยได้ยินนางกับรองเจ้ากรมอาลักษณ์ติดต่อกัน เขาบอกว่าต้องอดทนถึงเมื่อไหร่อ้ายฉางจึงจะเรียกเขาว่าท่านพ่อสักที""ลูกเห็นว่าพ่อหลับนอนกับนางหรือ เห็นตาแก่ใกล้ตายคนนั้นที่ร่วมสังวาสกับสตรีคือพ่อหรือ"อ้ายซินทำสีหน้าสงสัย เซียวจ้านเป่ยจึงเอ่ยกับนาง"มีคนที่ใบหน้าคล้ายเสด็จพ่อน่ะ เราวางหมากตั้งแปดปีที่แล้ว ก่อนที่ฉู่หรานซินจะแต่งเข้ามา เสด็จพ่อก็อยู่ที่ตำหนักเย็นของพระราชวังหลังเก่านอกเมืองมาตลอด ไม่มีใครรู้นอกจากฝ่าบาทเสด็จปู่แล้วก็พี่ เฉิงอ๋องคนนั้นที่อยู่กับฉู่หรานซินทุกวันคือคนสนิทของเสด็จพ่อ ที่ปลอมแปลงใบหน้า"จากนั้นทุกคนก็เข้าใจ จางรั่วสุ่ยรีบกลับไปหาภรรยา เพราะว่านางกำลังอยู่เดือน เซี่ยตงหยางม
อ้ายซินเอ่ยจบประโยคลมสายหนึ่งก็ผ่านตัวนางไป เห็นด้านหลังเป็นบุรุษใส่ชุดกองทัพ เขาคือพี่ชายของนาง อ้ายซินดิ้นลงจากตักสามีรีบเดินไปหา"พี่ชาย ท่านกลับมาแล้ว ฮือๆๆ"เซียวจ้านเป่ยหันมามองหน้าน้องสาวก่อนจะรั้งนางเข้ามากอด"ซินเอ๋อร์ เสี่ยวลี่อยู่ในนั้นหรือ""เจ้าค่ะ พี่สะใภ้เจ็บท้องมาสองชั่วยามแล้ว พี่ชายไหนว่าท่านอยู่ชายแดนไงเจ้าคะ""ทางนั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือแค่ทางวังหลวง ฉู่ฉางเกินมุ่งหน้าเข้าวัง พี่สกัดเขาไว้ได้แต่ยังไม่รู้ว่ากองกำลังของเขาที่ยังซุกซ่อนอยู่มีเท่าไหร่ พอดีจิ่วโจวเป็นทางผ่านพี่จึงแวะหาลี่เอ๋อร์กับผิงผิงน่ะ"อ้ายซินกำมือแน่น ก่อนจะมองหน้าสามี จูยวี่ซานถอนหายใจ เขาคงปกป้องพี่ชายพี่สะใภ้และจูหมิงซูไม่ได้หรอก ได้ข่าวว่าแค่สตรีนางหนึ่งกล่าวหาเสี่ยวลี่คำเดียวก็ถูกโยนไปอยู่ก้นเหวแล้ว"ผิงผิงป่วยเจ้าค่ะ คือว่า""พี่รู้เรื่องหมดแล้ว ระหว่างทางที่มามีคนรายงานพี่ สามคนพ่อแม่ลูกนั้นพี่ให้ส่งไปชายแดนใต้หมดแล้ว ที่นั่นมีเหมืองแร่ให้พวกมันไปชดใช้ที่นั่น โดยเฉพาะจูหมิงซูคนนั้น หากรอดจากแผลบนใบหน้าได้นับว่านางดวงแข็งแล้ว""จ้านเป่ยอาสามต้องขออภัยเจ้าจริงๆ หากมิใช่ว่าอาสามต้องไปเจราจาก