เซียวจ้านเป่ยเข้ามาเห็นภาพที่ทั้งคู่กอดกันก็รู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก นางคงไม่หนีไปใช่ไหม
นางบอกว่ารอเขากลับมาจะหย่า ก็ได้หากถึงเวลานั้นนางอยากหย่าเขาจะไม่รั้งไว้ แต่ตอนที่เขาไม่อยู่ให้นางช่วยดูแลบุตรสาวของเขาก็พอ
"เอ่อ ผิงผิงอย่างอแงเลย พ่อกับท่านแม่แค่คุยกันนานไปหน่อย สายแล้วไปทำอาหารเถอะ ไหนบอกจะพาลูกไปเก็บผักป่าไง ข้าจะไปเป็นเพื่อนพวกเจ้า"
เซียวจ้านเป่ยเอ่ยขัดสองแม่ลูก "ไม่ต้องหรอก วันนี้สหายท่านที่ชื่อตงหยางนำหมูป่ามาให้ ท่านจะขายหรือชำแหละก็ไปจัดการเถอะ ส่วนไก่ข้าจะทำน้ำแกงบำรุงผิงผิง ข้าไม่ใช่คนพูดมากแต่ขอพูดสักคำ วันข้างหน้าข้าไม่รู้อนาคต แต่ค่าอาหารเดือนละหนึ่งตำลึง จางลู่เหลียนใส่แต่ผ้าเนื้อดี แต่บุตรสาวท่านกลับไม่มีเนื้อสักนิด ค่าอาหารท่านแพงไปหรือไม่ ผิงผิงไปทำอาหารกัน แม่จะทำไก่ย่างหอมๆให้กิน"
จากนั่นก็จูงมือกันไปไม่สนใจเซียวจ้านเป่ยสักนิด เขาถูกบุตรสาวกับเมียเมินอีกตามเคย ไหงเขากลายเป็นส่วนเกินไปได้ ผิดพลาดตรงไหนกันเนี่ย
จูเหมยลี่นำไก่มาหมักเกลือน้ำตาล นำกระเทียมกับพริกไทยมาทุบๆโขลกเล็กน้อยทาบนตัวไก่ จากนั้นก็เรียกคนด้านนอก
"ท่านลุง รบกวนท่านไปเด็ดใบบัวให้ข้าสักหลายๆใบ เลือกใบไม่อ่อนไม่แก่นะ"
เซยวจ้านเป่ยหนวดกระตุก ยายเด็กบ้านี่พูดไม่ฟังหรือไงกันนะ ก่อนจะไปเด็ดใบบัวตามคำสั่งนางมาให้
"นี่ที่เจ้าให้ไปเด็ด ต่อไปเรียกท่านลุงหนึ่งคำจูบเจ้าหนึ่งครั้ง ไม่ได้ข่มเหงเจ้าแต่เป็นการลงโทษเข้าใจหรือยังเด็กดื้อ หืม"
เขากระซิบข้างหู ลมหายใจอุ่นๆนั่นทำเอาจูเหมยลี่หวั่นไหว ก่อนจะผลักอกเขาเบาๆ หน้าแดงจนถึงใบหู คนตัวสูงอาศัยจังหวะบุตรสาวเผลอรั้งเอวนางมากอดแล้วจุมพิต จูเหมยลี่ทุบอกเขาเบาๆถลึงตาใส่เตรียมจะตอกกลับ เซียวลี่ผิงหันมาพอดี นางจึงทำได้แค่ลูบผมของเขาที่หลุดลุ่ยแล้วพูดเสียงหวาน
"ท่านพี่ ไปชำแหละหมูได้แล้ว เดี๋ยวจะได้หมักเอาไว้ สายแล้วขึ้นเขาช้าไปผักจะแก่เสียหมดเจ้าค่ะ" เซียวลี่ผิงเห็นท่านแม่กอดท่านพ่อก็ขอกอดด้วย
"ท่านพ่ออุ้มหน่อยกอดผิงผิงด้วยเจ้าค่ะ กอดสามคนเลยข้ารักท่านพ่อท่านแม่"
เซียวจ้านเป่ยอุ้มบุตรสาวขึ้นมาจูเหมยลี่หอมแก้มนาง จากนั้นเซียวจ้านเป่ยก็หอมอีกข้าง
ในที่สุดก็สงบศึกได้อีกหนึ่งยก จางลู่เหลียนที่เอาตะกร้าสำรับมาส่งยืนน้ำตาคลอ เขาจูบนางพี่จ้านเป่ยจูบนางแพศยาจูเหมยลี่นั่น จางลู่เหลียนเกลียดจูเหมยลี่เหลือเกิน
นางหันหลังถือตะกร้ากลับไม่ส่งอาหารทันที เซียวจ้านเป่ยไม่เห็น แต่จูเหมยลี่เห็น นางงูพิษนี่อยากมาเป็นแม่เลี้ยงลูกสาวเขาแต่แอบงุบงิบเงินไว้เอง
อาหารที่เจ้าทำเดือนหนึ่งยังไม่ถึงห้าร้อยอีแปะเลยมั้ง ถึงจูเหมยลี่จะเป็นมาเฟีย มีทั้งบ่อนคาสิโน ปล่อยเงินกู้ แต่นางก็เลี้ยงและอุปการะเด็กด้อยโอกาสมากมาย จึงไม่ชอบคนที่เอาความลำบากคนอื่นมาทำให้ตัวเองร่ำรวย
"จางลู่เหลียน นังหนูมาเจอกับแม่สักตั้งสิ ไอ้พ่อก็โง่เกินพาลูกไปซื้อกินยังจะดีกว่าอีก ทนกินฝีมือกะโหบกกะลาอยู่ได้ ตาแก่ปัญญาทึบเอ๊ย"
จูเหมยลี่ด่าเขาในใจหลายรอบ แต่นางไม่รู้เหตุผลที่เขาไม่อยากพาบุตรสาวออกไปข้างนอก
จูเหมยลี่ผัดเห็ดตี้มู่ใส่ไข่ แบบใส่พริกกับไม่ใส่พริก นำเนื้อหมูที่เซียวจ้านเป่ยซื้อมาสับและปรุงรส จากนั้นก็นำแป้งสาลีที่นวดพักเอาไว้มาปั้น ก่อนจะแผ่ออกห่อเกี้ยวไส้หมูสับ ไส้กุ่ยช่ายป่า ไส้เห็ดผสมหมูสับ
ไก่ขอทานสองตัวนั้นสุกได้ที่แล้วก็นำมาเลาะเอากระดูกออก แบ่งใส่จานให้บุตรสาว ก่อนจะสับไก่ใส่จาน แบ่งเกี้ยวที่ยังไม่ต้มอีกใส้ละสิบชิ้นและผัดเห็ด ใส่ในจานก่อนจะนำใส่ตะกร้า เอาผ้าสะอาดคลุม
"ท่านลุ เอ่อท่านพี่ สหายท่านคนนั้นของท่านอุตส่าห์มีน้ำใจเอาหมูป่ามาให้ ข้าแบ่งอาหารไว้ท่านนำไปให้เขาเถิด กลับมาจะได้กินข้าว ข้าจะป้อนผิงผิงก่อนสายมากแล้ว ละมือจากงานไว้ก่อนเถอะ"
เซียวจ้านเป่ยแปลกใจ นางทำอาหารเยอะมากหรือ พอมาถือตะกร้าหนักเอาเรื่องเปิดดูก็เห็นอาหารน่ากิน แถมกลิ่นยังชวนให้ท้องร้องอีกด้วย
"เขาอยู่กันสี่คนพ่อแม่ลูก เยอะไปหรือเปล่าเหมยลี่"
เซียวจ้ายเป่ยไม่ได้งก แต่หากไม่หมดก็เสียดายของ
"เกี้ยวยังไม่ได้ต้ม ให้พวกเขาต้มเอง อาหารแค่นั้นไม่เยอะหรอก เหลือดีกว่าขาดหมูป่าสองตัวหนักไม่น้อย อุตส่าห์มีน้ำใจขนาดนี้ตอบแทนสักหน่อยเถอะ"
พูดจบก็เดินเข้าบ้านไปยกอาหารวางรอเขากลับมากิน เซียวจ้านเป่ยเดินไปหาเซี่ยตงหยาง บ้านของเขาอยู่ใกล้กับบ้านของจางรั่วสุ่ยจึงทันเห็นจางลู่เหลียนที่ตอนนี้
กำลังพูดคุยกับสาวๆในหมู่บ้าน อืมนางแต่งตัวงดงามจริงๆ ดูท่าเมียเขาพูดถูก แต่เขาไม่ตำหนิจางรั่วสุ่ยหรอก สหายคนนี้รักน้องสาวยิ่งนักไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้สิ่งที่นางทำก็คงไม่พูดอะไรอยู่ดี กำลังจะเลยไปแต่จางรั่งสุ่ยเห็นเขาเสียก่อน
"อ้าวพี่จ้านเป่ย นั่นจะไปไหนกันหรือหิ้วตะกร้ามาคืนหรือ ไหนลู่เหลียนบอกว่าท่านไม่ยอมรับตะกร้าไง นางเลยเอากลับยังวางอยู่ในบ้านเลยไม่ใช่หรือ"
"อ้อ นี่เป็นอาหารที่เมียข้าทำน่ะ พอดีเมื่อเช้าพี่ตงหยางแบกหมูป่าที่ข้าดักไว้กับไก่ป่ามาให้ที่บ้าน นางเลยอยากตอบแทนเขา อีกอย่างต่อไปไม่ต้องทำอาหารให้ข้าแล้วนะ เงินสองตำลึงที่ให้ล่วงหน้าเจ้าเอาไว้เถอะข้าไม่เอาคืนหรอก"
พูดจบก็เดินจะไป จางรุ่วสุ่ยยืนอึ้ง เด็กคนนั้นทำอาหารอะไรหอมเพียงนี้ น้องสาวเขาทำอาหารเยอะเพื่อเอาใจเซียวจ้านเป่ย แต่แป้งและข้าวกลับเอาของคุณภาพต่ำมาทำ
เขาเคยเตือนนางแล้วแต่นางไม่สนใจเป็นไงล่ะ เมียเขาสวยยังกับเทพธิดา อีกทั้งทำอาหารเป็น เฮ้อลู่เหลียนนะลู่เหลียน เจ้ามันโง่งม
เซียวจ้านเป่ยนำตะกร้ามาส่ง เซี่ยตงหยางกำลังจะทำมื้อเช้าพอดี วันนี้สายมากนักเมียเขาไม่สบายไปตามหมอมาตรวจแล้ว นางตั้งครรภ์บุตรคนที่สามให้เขา
"ขอบใจนะน้องสะใภ้ทำอาหารน่ากินจริงๆ เป่ย"
"นางอยากขอบคุณท่านจึงให้ข้านำมาให้ ทำต้องรีบกลับแล้ว เห็นนางบอกว่าจะพาผิงผิงไปเก็บผักป่า คืนฝนตก หากสายเกินไปผักจะแก่ ข้าเองก็ไม่เข้าใจเวลาไม่กี่ชั่วยามผักจะแก่จนกินไม่ได้เชียวหรือ"
"เอาน่า รีบกลับเถอะ ข้ออ้างมากมายไปไยเจ้าคิดถึงเมียสาวก็บอกเถอะ อืมขอบใจอีกครั้งฝากขอบคุณน้องสะใภ้ด้วย"
จากนั้นก็เอ่ยลากัน เซียวจ้านเป่ยรีบกลับบ้าน เขาคิดถึงนางหรือไม่ใช่หรอก เฮ้อแค่อยากเห็นหน้านางไวๆไม่ใช่คิดถึงนางสักหน่อย
จูเหมยลี่ป้อนข้าวเซียวลี่ผิงเสร็จแล้วก็นั่งรอเซียวจ้านเป่ย สักพักเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับผักกาดสองต้นและถั่วฝักยาวหนึ่งกำ ภรรยาของเซี่ยตงหยางเป็นคนขยัน มักปลูกผักเลี้ยงไก่ ลูกๆไม่อดอยากส่วนภรรยาจางรั่วสุ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ขยันแต่เป็นเพราะจางรั่วสุ่ยตามใจน้องสาวเกินไป เครื่องประดับเอย เสื้อผ้าเอย ไม่สนใจสักนิดว่าพี่สะใภ้ต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานบ้านยังบังคับให้นางตัดเย็บเสื้อผ้าให้อีก เซียวจ้านเป็นไม่ชอบสตรีหน้าขาวปากแดงเซียวจ้านเป่ยมาถึงบ้านก็เห็นจูเหมยลี่นั่งรออยู่ นางยังไม่จับตะเกียบยังคงรอเขามากินด้วย เมียเขาช่างน่ารักเหลือเกิน ก่อนจะส่งตะกร้าที่ใส่ผักให้นาง"เหมยลี่ นี่เป็นผักกาดกับถั่วฝักยาว พี่สะใภ้ให้มา เอ่อข้าแบ่งผักกาดให้รั่วสู่ยไปหนึ่งต้นกับถั่วหนึ่งกำเจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่""ไม่ว่าอะไรนี่ ทั้งสองคนเป็นสหายท่าน ข้าเป็นคนนอกไม่อยากยุ่ง ว่าแต่ของที่ข้าจดให้เมื่อเช้าซื้อมาได้หรือเปล่า"เซียวจ้านเป่ยถอนหายใจ นางสั่งให้เขาซื้อเครื่องปรุง ซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อเครื่องมือเกษตรทำไร่ ไม่ใช่ว่าเขาซื้อไม่ได้ แต่เขาไม่มีเงินจริงๆ ต้องขึ้นเขาก่อนเฮ้อ"เอ่อ ข้าได้แต่เครื่องปรุง เนื้อหมูแล้วก็เ
เงินที่เสด็จแม่ฝากไว้เป็นชื่อเขามีมากมายนัก แต่เพราะไม่อยากเปิดเผยร่อยรอย จึงต้องใช้ชีวิตติดดิน มีทองแท่งเล็กๆอยู่หากขายคงได้แท่งละสักสิบตำลึงซึ่งไม่พอให้ใช้ชีวิตสองคนแม่ลูกพรุ่งนี้ขึ้นเขาล่าเสือหรือหมีสักตัว หากขายได้ก็คงมากกว่าสามร้อยถึงห้าร้อยตำลึง จะฝากเป็นชื่อนางไว้ ป้าสะใภ้นางละโมบนักถ้าเขาไม่อยู่อาจมารังแกและแย่งชิงไปได้ เห็นจูเหมยลี่กำลังจะสะพายตะกร้าก็เรียกไว้ก่อน"เหมยลี่ ข้ามีอยากให้ช่วยหาของสักหน่อย ผิงผิงนั่งรอท่านแม่อยู่ตรงนั้นก่อนนะ ลูกเป็นเด็กดีหรือเปล่า""ลูกจะไม่ดื้อเจ้าค่ะ ท่านแม่รีบไปช่วยท่านพ่อนะเจ้าคะผิงผิงจะรออยู่ตรงนี้"จูเหมยลี่เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ดูท่าเขาคงรู้ว่าเงินที่ซ่อนไว้ถูกนางแคะไปจนหมดแล้ว จึงอยากหาเรื่อง เพราะตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทะเลาะหรือเถียงกันต่อหน้าเด็ก จึงต้องทะเลาะกันลับตาเจ้าตัวน้อย"นี่ท่านลุง ถ้าจะถามเรื่องเงินที่ท่านซ่อนเอาไว้ละก็เสียใจด้วย ตอนนี้เหลืออยู่สองร้อยกว่าอีแปะเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็อยู่ในท้องท่าน อื้อๆๆ"เซียวจ้านเป่ยโมโหเด็กบ้านี่เรียกเขาท่านลุงบ้างล่ะ ตาแก่บ้างล่ะ ตาเฒ่าบ้างละมันน่าโมโหนัก เขาจูบนางครั้งนี้นานกว่าทุกครั้งจนจู
เซียวจ้านเป่ยตรงไปโรงเตี้ยมสุขสราญย์ทันที หมูป่าเพิ่งตายไม่นานก็จริง แต่หากไม่ใช่เพราะว่าเขาจะเข้าเมืองมาซื้อเสื้อผ้ากับของให้เมียล่ะก็ หมูนี่คงชำแหละขายในหมู่บ้านแล้ว อยากกลับบ้านจะแย่แล้วต้องรีบขาย"อ้าวนายพรานเซียวหรือ วันนี้ได้อะไรมากันเล่า ท่านไม่ขึ้นเขานานแล้วนี่ตั้งเกือบปีแล้ว"หยวนเหอเป็นหลงจู๊ของโรงเตี้ยมแห่งนี้ หลงจู๊คนนี้นิสัยดี ไม่กดราคา จึงทักทายเขากลับ"อ้อ พี่หยวนเหอพอดีข้าวางกับดักไว้ ได้หมูป่ามาสองตัวเลยนำมาให้ท่าน ไม่ทราบว่าท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ" หยวนเหอเหมือนสวรรค์มาโปรด"เฮ้อ ที่จริงนะอาเซียวหมูป่าตายแล้วชั่งละห้าสิบอีแปะเท่านั้น แต่ช่วงนี้ฝนตกนายพรานขึ้นเขาไม่ได้ อีกทั้งมีคนมาจากเมืองหลวง เป็นคุณชายตระกูลใหญ่มาเที่ยวเมืองกว่างโจวของเรา คนของขาอยากกินเนื้อแต่ข้าไม่มี เถ้าแก่กำลังกลุ้มใจเลยว่าจะทำเช่นไร เฮ้อข้าหยวนเหอคงมีบุญวาสนา สวรรค์ถึงส่งเจ้ามาเอาเช่นนี้ข้าให้ราคาเท่ากับหมูเป็นชั่งละแปดสิบอีแปะแล้วกัน อาจูมาเอาหมูไปขึ้นตาชั่ง"หยวนเหอสั่งคนงานไม่ช้าก็นำหมูป่าสองตัวไป เซียวจ้านเป่ยเลียบๆเคียงๆถามหยวนเหอถึงคนที่มา หากเกี่ยวข้องกับหรานซินชายารองเสด็จพ่อเขาต้องวาง
เซียวจ้านเป่ยซื้อของตามรายการที่เมียสั่งครบทุกอย่าง เอ่อต้องหาซื้อผ้าห่ม ผ้านวมหนาๆปูเตียงสักหน่อย นางให้ซื้อข้าวเหนียวทำไมเยอะแยะนักนะ เขาแวะร้านผ้า ได้ยินมาว่านางตัดเย็บเสื้อผ้าเป็น ซื้อผ้าไปฝากนางสักหน่อยดีกว่า"เอ่อท่านลุง ท่านมาซื้อผ้าหรือเจ้าคะ"คนงานหญิงในร้านขายผ้ากลัวใบหน้าของเขาจึงเอ่ยตะกุกตะกัก ท่านลุงเขาดูแก่ขนาดนั้นเชียวหรือไง มิน่ายายเด็กบ้านั่นถึงเอาแต่เรียกเขาตาแก่ๆอยู่ได้ เจียวเหนียงเดินออกมาพอดี ทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง"ท่านลุงท่านนี้ ท่านจะซื้อผ้าไปฝากภรรยา หรือบุตรสาวกันเจ้าคะ หรือจะเป็นชุดสำเร็จร้านข้าก็มี"เซียวจ้านเป่ยอยากจะบ้าตาย อืมพาไอ้หน้าอ่อนนั่นขึ้นเขาล่าสัตว์กลับมาก่อนจะโกนหนวดโกนเคราสักที ยายเด็กบ้านั่นคำก็ตาแก่สองคำก็ตาเฒ่า คอยดูเถอะตาเฒ่าอย่างข้าจะทำให้เจ้าขาอ่อนครางแต่ชื่อข้าสักวันแม่ตัวดี"เอ่อ เถ้าแก่เนี๊ยข้าอยากได้ชุดสตรี สามชุดขนาดเท่านี้ กับชุดเด็กผู้หญิงสี่ขวบสามชุดขอรับ ขอผ้าห่มสี่ผืน ผ้านวมสี่ผืน แล้วก็ผ้าฝ้ายเนื้อดีท่านมีกี่ข้าเอาหมดสีละสองพับ ผ้าฝ้ายสีขาวห้าพับ ผ้าไหมเนื้อตีห้าพับ รองเท้าสตรีสามคู่ของเด็กสามคู แค่นี้แหละขอรับ"คังหยุนที่เดิ
จูเหมยลี่เตรียมสะพายตะกร้าพาบุตรสาวลงจากเชิงเขา เพื่อเอาของไปเก็บก่อนนางได้กลิ่นลูกพีช นางอยากกินจะตายอยู่แล้ว เซียวจ้านเป่ยเดินมาหาก่อนจะแย่งเอาตะกร้ามาเอง" ข้าเอาไปเก็บเอง อืมพอแล้วไหมเมียข้าจะยามเซินแล้วข้าซื้อของมามากมายนัก ยังไม่ได้ขนลงจากเกวียนเลย"เซียวจ้านเป่ยเห็นของในตะกร้าก็แปลกใจ บางชนิดเขาเดินผ่านทุกวัน แต่นางกลับเก็บมันเสียทุกต้น มันกินได้จริงๆหรือ แต่ตั้งแต่เรื่องบัวหิมะเขาก็ไม่กล้าขัดใจนางอีก เห็นตัวเล็กๆ เท้าหนักไม่ใช่น้อย"ข้าได้กลิ่นผลท้อน่ะ ข้าอยากกินท่านลุงท่านพาผิงผิงไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวข้ากลับทีหลังเอง"พูดจบก็หมุนตัวไปบนเขา เซียวจ้านเป่ยคว้าแขนกลมกลึงของนางไว้ก่อนจะวางตะกร้าลง"เอาตะกร้าไว้นี่ก่อนก็ได้ ที่นี่ไม่มีใครขึ้นมาไม่มีของหายหรอก ไปกันเถอะ"จากนั้นเซียวจ้านเป่ยก็อุ้มเซียวลี่ผิงขี่คอ เดินตามจูเหมยลี่ไปสักพักไม่นาน ก็เจอต้นท้อจริงๆ ลูกท้อสีชมพูเข้มกลิ่นหอมมากจูเหมยลี่วิ่งเข้าหาทันที ก่อนจะเด็ดลงมาแล้วตัดเถาวัลย์ใกล้เคียงนำน้ำในเถาวัลย์มาล้างลูกท้องสองลูก เซียวจ้านเป่ยเป็นนายพรานยังไม่รู้วิธีนี้เลย ผู้หญิงคนนี้ใช่คนเดียวกับที่วันๆก้มหน้าอยู่แต่ในแปลงนาคนนั้
ทันทีที่ถึงบ้านก็เห็นคนกำลังรื้อเกวียนที่จอดอยู่ เซียวจ้านเป่ยแน่ใจว่าปิดประตูลงกลอนแล้วนะหรือว่ากลอนมีปัญหา คนที่กำลังรื้อข้าวของคือจูหมิงซูบุตรสาวจูพั่งลุงใหญ่ของนาง ส่วนอีกคนคือป้าสะใภ้ที่ขายนางมา นางเหวิน จูเหมยลี่วางบุตรสาวลงก่อนจะหันไปหาเซียวจ้านเป่ย"พาลูกไปที ข้าไม่อยากให้นางเห็นสิ่งที่ข้าจะทำ" เซียวจ้านเป่ยทำหน้าสงสัยแต่ก็ยอมอุ้มเซียวลี่ผิงเดินไปในบ้านแล้วสั่งว่าอย่าออกมาพ่อจะไปดูท่านแม่ เด้กน้อยก้เชื่อฟังแล้วนอนบนเตียงแต่โดยดี"พวกเจ้าทำอะไรกัน จูหมิงซู เหวินซื่อ วางข้าวของบ้านข้าลงเดี๋ยวนี้"จูเหมยลี่สั่งเสียงเย็น เซี่ยตงหยางที่กำลังจะมาหาสหายถึงกับยืนฟังอยู่นอกรั้ว เสียงนางดูมีอำนาจนัก"แหม่นังสารเลว มีผัวเข้าหน่อยทำเสียงแข็งใส่ข้า พวกข้าเห็นสามีเจ้าเอาหมูป่าไปขาย ซื้อของกลับมามากมาย เจ้าแต่งมาสี่วันแล้ว ไม่กลับบ้านเดิมนำข้าวของไปคำนับข้ากับลุงเจ้า หึยังมีผู้อาวุโสอยู่ในสายตาหรือไม่ ผ้าไหมเหล่านี้เจ้าสามคนใส่ไม่หมดหรอก ส่วนชุดพวกนี้พอดีตัวซู่เอ๋อร์นัก เจ้าออกเรือนแล้ววันๆเลี้ยงแต่อีเด็กลูกติดนั่นจะสวยไปทำไม หรืออยากหนีตาชู้แบบเมียเก่าเขาล่ะ โอ๊ย"ตุบ เหวินซื่อกระเด็นไปนอนแ
ชาวบ้านซุบซิบชี้ไม้ชี้มือ อะไรนะเหวินซื่ออายุสี่สิบกว่า จูหมิงซูอายุสิบแปดแล้วพวกนางยังให้หลานสาวน้องสาวซักผ้าประจำเดือนให้ มันน่าอายนักเรื่องนี้ เหล่าบุรุษที่ได้ยินถึงกับหน้าแดง เรื่องนี้มันน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ของแบบนั้นไม่มีใครไม่ทำเอง"นี่จูพั่ง ข้าว่าเมียกับลูกเจ้าก็เกินไปนะ ข้าแต่งกับเมียมานานจนบุตรชายมีหลานข้ายังไม่เคยเห็นผ้าประจำเดือนนางสักครั้ง""ใช่ๆ น่าเกลียดนัก ของสกปรกของตนกลับใช้ผู้อื่นทำให้ ป่านนี้ยังไม่ออกเรือนสงสัยสวรรค์ลงโทษเจ้าจริงๆจูหมิงซู"สามคนพ่อแม่ลูกอ้าปากพูดไม่ออก นางเด็กเลวนี่มีฝีปากดีเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันจูเหมยลี่ก้มหน้ายิ้มชั่วร้าย นางยังไม่จบยังเหลืออีกคน จึงหันมาทางจางลู่เหลียนร้องไห้ฟูมฟายจับชายกระโปรงของนางแน่น ด้วยท่าทีน่างสงสารเหมือนกับว่าจางลู่เหลียนเป็นฝ่ายรังแกผู้อื่น"ฮือๆๆพี่ลู่เหลียน ท่านงามนักท่านหาบุรุษอื่นเถอะอย่าแย่งสามีข้าได้ไหม ถือว่าข้าขอร้อง ข้าไม่มีบ้านเดิม ไม่มีกระทั่งสินเดิม ท่านพี่ยอมแต่งข้าก็เป็นวาสนาแล้ว ท่านยังมีโอกาสหาผู้ชายดีๆได้อีก จูเหมยลี่คนนี้ขอร้องท่าน อย่าแย่งสามีข้าเลยนะ"จางรั่วสุ่ยถึงกับหน้าชา อาซ้อพูดอะไรกันเขา
ทั้งสี่คนเดินกลับมาถึงบ้าน เซียวจ้านเป่ยหันไปถามบุตรสาว"ผิงผิง ลูกอยากไปเล่นกับพี่ๆที่บ้านลุงเซี่ยไหม วันนี้พ่ออนุญาตเจ้าเดี๋ยวค่ำๆพ่อจะไปรับ กลับ ต้องทำความสะอาดบ้านอีกฝุ่นเยอะเดี๋ยวลูกจะป่วยได้"เซียวจ้านเป่ยบอกลูกสาวผิงผิงทำสีหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่ง"ท่านพ่อบอกว่าหากอยากมีน้องของตัวเอง ข้าต้องให้ท่านพ่ออยู่กับท่านแม่สองคนบ่อยๆ อืมท่านพ่อคงอยากให้ข้ามีน้อง ได้เอาตามนี้"เซียวผิงผิงคิดในใจเรียบร้อยก็พยักหน้า"ท่านแม่เจ้าคะ ลูกปวดใจนักที่ต้องห่างท่านแม่ แต่เมื่อวานท่านแม่บอกว่าบ้านเราฝุ่นเยอะหากไม่ทำความสะอาดจะป่วยได้ ข้าไม่อยากป่วยไม่อยากกินยา ท่านแม่ข้าจะคิดถึงท่านแม่นะเจ้าคะ ท่านพ่อไม่ต้องรีบไปรับก็ได้ท่านต้องช่วยงานท่านแม่ ห้ามอู้งานนะเจ้าคะ"เซี่ยตงหยางถึงกับเหนื่อยใจกับความหน้าด้านของเซียวจ้านเป่ย คำพูดเหล่านี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยพูดเองหรือเขาสอนให้พูดกันแน่เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าบุรุษตรงหน้าอยากจะรักเมียตัวเองขนาดไหน สายตาเจ้ามันฟ้อง ก่อนจะอุ้มเซียวลี่ผิงไปเล่นกับเด็กๆที่บ้านตนเองเซี่ยตงหยางไปแล้ว เซียวจ้านเป่ยก็ยิ้มใส่คนในอ้อมกอด เขายังอุ้มนางอยู่ไม่ยอมวาง ส่วนจูเหมยลี่ก็อยากรู้น
ผ่านไปจนเกือบถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังพาหลิวเหว่ยเดินเล่น บุตรชายวิ่งเตาะแตะๆ ไปมา หลิวเซียงสาวใช้อุ้มอยู่ หรงหรงตั้งครรภ์จึงทำได้เพียงเดินตามบรรดาซื่อจื่อกับท่านหญิง จูเหมยลี่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สามมองไปยังลานบ้าน อ้ายลี่ผิงตอนนี้อายุแปดขวบแล้วยิ่งโตยิ่งงามมากนัก จูเหมยลี่ที่เห็นบุตรสาวก็ถอนหายใจ"เป็นอะไรไปหรือเมียข้าหืม""ผิงผิงยิ่งโตยิ่งงาม พระองค์ไม่หวงแต่หม่อมฉันหวงเพคะ หากลูกยังไม่สิบแปดไม่ให้ออกเรือนนะเพคะท่านอ๋อง""อีกสิบปีเชียวนะ เซี่ยตงชิงจะรอไหวหรือ""รอไม่ไหวก็ไปหาแต่งคุณหนูจวนอื่นโน่นเพคะ"จูเหมยลี่ยอมรับนางหวงบุตรสาวคนโตยิ่งนัก บุตรสาวนางงามเพียงนี้ไม่อยากให้ใครมามองเลย"พระชายา กระหม่อมรอได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แต่งสตรีอื่นนอกจากผิงผิงเท่านั้น"เซียวจ้านเป่ยยิ้มให้กับจูเหมยลี่ เจ้าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าทุกคนพูดถึงนางก็วิ่งมา เห็นพี่ชายของนางมีเหงื่อเต็มไปหมดก็ปีนขึ้นเก้าอี้ให้ตัวพอดีกับเขาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้"พี่ตงชิง ท่านเหนื่อยมากหรือไม่ ท่านน้าเสี่ยวอี้ทำน้ำหวานไว้ข้าไปเอามาให้นะเจ้าคะ"เซี่ยตงชิงสบสายตากลมโตของเด็กผู้หญิงตรง
จูยวี่ซานกอดภรรยาจากนั้นก็หอมหน้าผากของนาง ก่อนจะรับเอาห่อผ้าของจูเหวินบุตรชายมากอดแล้วก้มลงหอม"อย่าดื้อกับท่านแม่ พ่อไปไม่นานนักหรอกเด็กดี"ผิงผิงที่วิ่งออกมาจากในบ้านกอดเอวอ้ายเฉิงเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขึ้น"เสด็จปู่เพคะ เทศกาลไหว้พระจันทร์น้องชายจะได้สองขวบเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะพาหลานไปหาเสด็จปู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าผิงผิงอยากให้เสด็จปู่อยู่ที่นี่มากกว่าก็ตาม""ผิงผิงของปูน่ารักที่สุด ตั้งใจเรียนวรยุทธกับท่านปู่ฝางให้ดีๆ เจอกันปีหน้าต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมรู้หรือไม่""เพคะ ผิงผิงจะตั้งใจเรียนวรยุทธ และตั้งใจยิงธนูให้เก่งต่อไปผิงผิงจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตงชิงเพคะ"จูเหมยลี่อมยิ้ม เด็กหนอเด็กยังไม่รู้อะไรเลย โตอีกหน่อยจะอายหากจำได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จากนั้นก็อุ้มอ้ายหลิวเหว่ยส่งให้กับพ่อสามี อ้ายเฉิงรับเอาหลานชายมาอุ้มก่อนจะเอ่ยกับจูเหมยลี่"ลี่เอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อยังมิได้ขอบใจเจ้า จ้านเอ๋อร์ต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่าง เขาต้องทุกข์เพียงใด ยิ่งหลังจากที่ปู่หลงจากไปเขายิ่งโดดเดี่ยว การที่ มีเจ้าเข้ามาในชีวิตทำให้ความมืดมนในใจเขามลายหายไป ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ขอบใจเจ้ามากนัก""เสด็จพ่อทรงก
จูเหมยลี่ไม่อยากฆ่าคน ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของนางมากนักอยากใช้ชีวิตกับสามีและลูกอย่างเงียบๆ นางคว้าคันธนูที่ทหารกับลูกศรมา ส่งสายตาให้บุตรสาวว่านางขอโทษ อ้ายลี่ผิงพยักหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหลับตาตามที่ท่านแม่สั่งส่งสารมาให้"ท่านอ๋อง เตรียมรับลูกกลับมานะเพคะ" จูเหมยลี่ยกคันธนูขึ้นลูกศรถูกทาบไปพร้อมปล่อยออก ก่อนจะเล็งที่ศีรษะนาง เพราะหงซิ่วจับอ้ายลี่ผิงยืนข้างหน้า มือกำอยู่รอบคอ เด็กน้อยสูงเพียงเอวของนางทำให้เปิดจังหวะการยิงมากนักหงซิ่วเห็นว่าจูเหมยลี่มีไอสังหารนางจะพลิกตัวเพื่อเหวี่ยงอ้ายลี่ผิงลงเหวแต่ไม่ทัน ลูกศรที่จูเหมยลี่ยิงออกไปนั้นเจาะกะโหลกนางพอดี หงซิ่วหงายหลังจะตกลงไป อ้ายลี่ผิงที่ถูกมือนางกำไว้ก็จะพลัดตกไปด้วย จ้านอ๋องจะไปรับบุตรสาว แต่เซี่ยตงชิงไวกว่า เขากระโดดที่เดียวก็คว้าอ้ายลี่ผิงไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกระแทกลงทำให้แผลที่ถูกฟันเลือดไหลไม่หยุด ก่อนจะถามอ้ายลี่ผิงนางว่าไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วสลบไปจ้านอ๋องรีบให้คนอุ้มเซี่ยตงชิงกลับไปที่จวน ให้แจ้งแก่เซี่ยฮูหยินว่าคุณชายใหญ่จะอยู่ช่วยงานที่ตำหนักใหม่หลายวัน โจรเร่ร่อนที่รวมกันจับอ้ายลี่ผิงวันนี้จูเหมยล
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กลับมาอยู่จิ่วโจวก็เตรียมหาทางสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะเขาได้รับพระราชทานให้ดูแลทั้งสิบมณฑลจึงต้องดูแลราษฎร จูเหมยลี่ที่กำลังดูแลคนงานตากดอกเหมยกุ้ยอยู่ก็เดินมาหาสามีที่กำลังคุยงาน "ท่านอ๋อง ไม่ทรงพักผ่อนหรือเพคะนี่ก็บ่ายแล้วหม่อมฉันทำของว่างเอาไว้ เมื่อเช้าเสด็จพ่อแจ้งมาว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับไท่จื่อ เลื่อนเวลาออกไปอีกครึ่งเดือนเพคะ""อืม เหนื่อยหรือไม่เด็กดี ผิงผิงเล่าไปไหนเสียแล้ว""ลูกไปหัดยิงธนูกับตงชิงเพคะ เสี่ยวเหว่ยท่านตาพาไปนั่งรถม้าเล่น พอดีซินซินอยากเข้าตำบลหาซื้อของใช้" สองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่นานสาวใช้ก็นำขนมมา วันนี้จูเหมยลี่ทำขนมบัวลอยเนื่องจากขุดเผือกและมันได้มาก อีกทั้งฟักทองก็ให้ผลผลิตที่ดีนัก เนื้อทั้งเหนี่ยวแน่นยังมีน้ำบ๊วยที่หอมชื่นใจ ลำธารตรงหลังบ้านจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เย็นตลอดเวลา จูเหมยลี่นำไหเปล่าไปแช่ในนั้นก่อนจะมาบรรจุน้ำบ๊วย แล้วผนึกฝาไหนำลงแช่อีกที น้ำบ๊วยจึงทั้งเย็นทั้งหอมชื่นใจสาวใช้แจกจ่ายของว่างให้คนงาน หลังจากงานแต่งรัชทายาททุกคนจึงรู้ว่าสามีของจูเหมยลี่คือจ้านอ๋องทำเอาชาวบ้านทำตัวไม่ถูกกันเ
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มาถึงจิ่วโจวได้หลายวันแล้ว บางวันก็ไปคุมการต่อเติมซ่อมแซมจวน อย่างเช่นวันนี้เขาพาจูเหมยลี่มาด้วย เนื่องจากอยากขุดสระบัวและทำบ่อเลี้ยงปลาที่เมียเคยบอกว่าอยากได้"ลี่เอ๋อร์ ตรงนี้มีบ่อน้ำพุร้อน จวนสกุลหลิวที่ยึดมาที่ดินกว้างมาถึงตรงนี้ พี่ให้คนสร้างห้องอาบน้ำไว้แล้ว เจ้าอยากล้างตัวหรือไม่""สายตาพระองค์ดูก็รู้ว่าไม่ได้อยากอาบน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยคนเจ้าเล่ห์ท่านจับข้ากินทุกเวลาแบบนี้ท้องข้าจะว่างไหมเล่า""ลี่เอ๋อร์เด็กดี ไปอาบน้ำกันนะคนงามของพี่"จูเหมยลี่รู้ดีว่าไม่รอดอีกตามเคย ตั้งแต่มาถึงเขากักนางไว้บนเขาสี่วันสามคืน พอมาถึงบ้านก็ไม่สนใจจับนางกินตลอดเวลา บ่าวไพร่ต้องไปอยู่ไกลๆเรือน เนื่องจากบ้านของเซี่ยตงหยางสร้างเสร็จแล้ว ซูฟางหรานกลับไปบ้านตัวเองแล้วในบ่อน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยยังคงช้อนสะโพกเมียรักขยับแก่นกายใส่นางไม่หยุด เขารักนางมากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน "แน่นนัก เหตุใดยังแน่นเหมือนตอนรักเจ้าครั้งแรกเมียจ๋า รัดจนทำนบพี่จะแตกทันทีที่เข้ามา""ท่านอ๋องเร่งเถอะเพคะ เมียอยากสุขสมแล้ว อ๊ายย ท่านกินเก่งกินดุแบบนี้หม่อมฉันจะไหวไหม อื้อ เสียวเพคะ
เซียวจ้านเป่ยจุมพิตหน้าผากเล็กของเมียรัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ชื้นทั่วกรอบหน้าและซอกคออย่างไม่รังเกียจ พักได้ไม่นานก็อุ้มนางไปที่น้ำพุร้อนในถ้ำ รักนางในบ่อน้ำพุอีกหลายครั้ง จนจูเหมยลี่หมดแรงกอดคอเขาไว้"ไม่ไหวแล้ว เมียขาอ่อนแล้ว ยืนไม่ไหวพักนะเจ้าคะ ขอนอนพักก่อนเถอะท่านพี่"ยามอู่ของวันที่สามเขาจึงแต่งตัวให้นางแล้วอุ้มพาเดินออกมา เซียวจ้านเป่ยกักนางไว้ในถ้ำถึงสามคืน พอออกมาเจอแสงข้างนอกจูเหมยลี่ถึงกับตาหยีเลย"คนบ้า ไม่ให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลย ป่านนี้เป็นห่วงกันทั้งเรือนแล้วกระมัง""พี่ยังไม่อิ่มนะ แต่เห็นเจ้าคิดถึงลูกพี่เลยพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่จะไม่ให้ลงจากเตียงเลย จนกว่าจะมีน้องให้เสี่ยวเหว่ยกับผิงผิงอีกคน""ท่านมันคนหื่น" "หึๆ พี่ยังมีแรงรักเจ้าได้อีกนะคนงาม" เขาไม่รีบ เนื่องจากขบวนที่มารับพระชายาของเขามาถึงหมู่บ้านตั้งแต่สองวันก่อน ตอนนี้ทั้งบุตรชายบุตรสาวต่างมีสาวใช้และองครักษ์ดูแล เขาอ้อยอิ่งพานางเดินชมนกชมไม้จนกระทั่งมาถึงบ้านก็ยามเซินพอดี ทุกคนเข้าแถวรอรับทั้งคู่พร้อมคำสรรเสริญ"ถวายพระพรท่านอ๋อง""ถวายพระพรพระชายา"คังหยุนและอ้าย
จูเหมยลี่ลุกขึ้นมาปลดอาภรณ์ตนเองออกช้าๆ เซียวจ้านเป่ยส่งสายตายั่วยวนเมียรัก จนอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกไป ร่างงามขึ้นคร่อมบนตักแกร่งก่อนจะมองหน้าเขา เซียวจ้านเป่ยมอบจุมพิตแสนหวานให้นาง มือบางล้วงไปยังด้านล่างของตนเอง ค่อยๆคลี่กลีบดอกเหมยแสนบอบบางออก เซียวจ้านเป่ยจับแท่งทวนร้อนผ่าวตั้งตรง สะโพกงามค่อยๆกดลงมาหาสิ่งใหญ่โตที่รอคอยนางอยู่จูเหมยลี่ค่อยบดสะโพกส่ายไปมา บางทีก็กดลงเข้าหาความใหญ่โตจนสุดทางรัก แขนเรียวโอบรอบคอสามีเอาไว้ โยกเอวขึ้นลงช้าๆ เซียวจ้านเป่ยอยากขยับสะโพกสอบขยับใส่นางแต่นางกับกดสะโพกนิ่ง มือหนาละจากที่คล้องคอเขามากอดเอวหนาเอาไว้ บดสะโพกยั่วยวนเขาแน่นไม่ให้เขาได้ขยับ"อืม ลี่เอ๋อร์คนงามของพี่ เจ้ายั่วยวนเพียงนี้แต่เมื่อไหร่กัน พี่จะคลั่งตายแล้ว หลงเจ้าไม่ไหวแล้วเมียข้า""ใครใช้ให้ท่านยั่วยวนข้าก่อนเล่า นั่งดีๆข้าจะลงโทษที่ท่านกลั่นแกล้งข้าตอนที่มาถึง ท่านพี่กินอะไรมาหรือยังหิวหรือไม่เจ้าคะ""อืม รีบมายังมิได้กินข้าวคิดถึงเจ้านัก""งั้น ดื่มนมรองท้องก่อนไหมเจ้าคะ""หึๆๆ เมียรักของข้า วันนี้เจ้าเป็นปีศาจจิ้งจอกหรือยั่วยวนเร่าร้อนเหลือเกิน" "หื
สองคนเดินเข้าบ้าน จูเหมยลี่ถอดเสื้อนอกเขาออก เซียวจ้านเป่ยไม่เอาแต่ใจเขานอนกอดนางไว้ ก่อนจะขอนางดื่มด่ำทรวงอกคู่งาม ที่เขาห่างหายไปนานจูเหมยลี่ตามใจเขา เซียวจ้านเป่ยทั้งดูดเม้มตวัดลิ้นเลียไปมาจนร่างงามสะท้านผวาแอ่นอกขึ้นหาเขา ครางเบาๆด้วยความเสียวซ่าน จนกระทั่งเขาละจากดอกบัวทั้งสอง เลื่อนขึ้นมาหาสบตากับนาง นัยตาสีน้ำหมึกของเขาช่างดึงดูดนางให้หลงใหลยิ่งนัก มือน้อยๆยกขึ้นมาลูบใบหน้าของเขา"โกนหนวดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เจ้าคะ เขียวครึ้มแล้ว""อยากกลับมานอนหนุนตักให้เจ้าโกนให้ ไปที่ริมธารกันไหมเด็กดี""ไม่ได้ คนเต็มบ้านสายตากี่คู่กันไม่ได้มีแค่ผิงผิงเช่นเมื่อก่อนแล้วนะเจ้าคะ""หืม เมียข้าเจ้าคิดอันใดหรือ พี่หมายถึงโกนหนวดเท่านั้น เมียจ๋าเจ้าคิดมากกว่านั้นหรือ หื้ม""เซียวจ้านเป่ยคนบ้านี่ ข้าไม่คุยกับท่านแล้ว จะไปดูลูก งานในมือยังไม่เสร็จเลย"เซียวจ้านเป่ยหัวเราะในลำคอเขารู้แล้วว่าเมียงอน เขากับนางห่างหายเรื่องผัวเมียไปปีกว่า เขามาถึงก้ปลุกเร้านางขนาดนี้ยังแกล้งนางอีก ก่อนจะอมยิ้มเซียวจ้านเป่ยผูกสาบเสื้อให้นางก่อนจะอุ้มจูเหมยลี่ขึ้นเอ่ยกระซิบ"ไม่ได้ไปเรือนหอบนเขาเสี
ตอนนี้ขบวนของจ้านอ๋องรอพักอยู่ที่ตำบล ส่วนท่านอ๋องนั้นทนคิดถึงเมียกับลูกไม่ไหวควบม้ากลับหมู่บ้านจิ่วโจวเรียบร้อยแล้ว จูเหมยลี่ที่ตอนนี้กำลัง เดินดูแปลงผักที่ให้คนงานช่วยกันปลูกเพื่อทำผักดอกสามรส อากาศหนาวๆนำมาต้มกับเต้าหู้รสชาติอร่อยซดน้ำแกงคล่องคอมากนัก พริกออกดอกออกผลดกดี นำมาทำน้ำมันพริกส่งออกไปขายได้กำไรพอควร เนื่องจากคนยังไม่นิยมกินรสจัด ส่วนใบชาย่อมขายดีมาก อ้ายเฉิงที่ตอนนี้ได้รับข่าวดีว่าซูฟางหรูตั้งครรภ์แล้วด็ดีใจ จูยวี่ซานกับเฝิงอันหยวนไปไหนไม่ได้เพราะอ้ายซินกับอ้ายเย่วใกล้คลอดเต็มที "เสี่ยวลี่ ผักดองคราวก่อนอร่อยมากนัก ท่านยายเบื่ออาหารมานานแล้ว พอได้ผักดองของเจ้าก็ทำให้กินได้มากขึ้นน่ะ ขอบใจนะ อีกอย่างเรื่องท่านหมออีกหยวนอีก""พี่เว่ยเว่ยจะเกรงใจทำไมเจ้าคะ ปู่ใหญ่กับท่านลุงช่วยเหลือข้าไว้ไม่น้อยเลย หากไม่ได้บ้านใหญ่ของพวกท่าน มิใช่ว่าป่านนี้หญ้าบนหลุมฝังศพของข้าสูงท่วมศีรษะท่านแล้วหรอกหรือ"สองพี่น้องนั่งคุยกันไปพลางเด็ดขั้วดอกโม่ลี่ฮวาไปพลาง ทางด้านคนงานพวกนางกำลังจัดการเด็ดก้านของพริกออก ใครมีหน้าที่ตากก็ตาก หรงหรงอุ้มอ้ายหลินเหว่ยออกมาเดินเล่น