จางลู่เหลียนรับปากก่อนจะไปดูหลานๆ พี่สะใภ้ไม่สบายมาสองสามวันแล้วไหนๆหมอมาแล้วก็ตรวจเสียทีเดียวเลยแล้วกัน จากนั้นก็เข้าไปหยิบพวงเงินที่มีอยู่สามพวง นี่เป็นดอกเบี้ยของเดือนนี้ที่ต้องจ่ายท่านหมอ จางลู่เหลียนก้มหน้าร้องไห้ นางควรกลับเมืองหลวงทวงทุกอย่างคืนดีหรือไม่ อย่างน้อยเด็กๆก็ไม่ลำบากเรื่องที่อยู่เรื่องอาหารการกิน เยี่ยอวี่ได้ยินเสียวสะอื้นก็เดินออกมานั่งลงข้างๆ"อาเล็กเรื่องเงินที่ติดร้านท่านหมอท่านไม่ต้องกังวลแล้ว เมื่อวานตอนที่เข้าเมืองไปซื้อของอาซ้อเซียวได้จ่ายให้หมดแล้ว ต่อไปท่านอย่าแบกทุกอย่างเอาไว้คนเดียวอีก็เลย""ฮือๆๆ อาซ้อข้าขอโทษนะ ที่ข้าชอบพูดจาทำร้ายพวกท่าน""อาเล็ก ข้าไม่ถือโทษโกรธท่านหรอก ท่านไปช่วยอาซ้อเซียวเถอะ นางต้องหุงหาอาหารสองบ้านอีกทั้งสามีป่วยมีไข้ ท่านไปช่วยอีกคนจะได้เร็วขึ้น หากไม่เพราะข้าลุกแล้วเวียนหัวข้าก็จะไปด้วยเช่นกัน"จางลู่เหลียนเข้าไปห่มผ้าให้เด้กสองคน เอาน้ำผึ้งที่จูเหมยลี่ให้มาผสมน้ำอุ้นให้เยี่ยอวี่ดื่มแก้เวียนหัว ก่อนจะตรงไปบ้านของจูเหมยลี่เพื่อช่วยนางทำมื้อเช้าแล้วก็ช่วยดูแลเซียวลี่ผิงวันนี้จูเหมยลี่แจ้งแก่ท่านปู่ใหญ่จูเก่อคังว่ายังไม่ต้องมาตัด
คังหยุนกลุ้มใจเขาไม่อยากกลับเมืองหลวง เขารู้ตัวว่าตนเองตกหลุมรักจางลู่เหลียนเสียแล้ว เขาจะแต่งกับนางแต่ดูเหมือนว่าจางรั่วสุ่ยไม่อยากให้น้องสาวแต่งกับเขา เขามีเรื่องอะไรปิดบังมากกว่าเรื่องแก่งแย่งในสกุลหานหรือเปล่า อีกอย่างเซียวจ้านเป่ยเองพอโกนหนวดแล้วหน้าตาเขาคุ้นยิ่งนัก เหตุใดเขาหล่อเหลาเพียงนี้ ขนาดเขาเองเป็นบุรุษยังยอมรับเลยว่าเซียวจ้านเป่ยหน้าตาดีจริงๆเซียวจ้านเป่ยนอนหลับไปแล้ว เซียวลี่ผิงนั่งเล่นอยู่ในบ้านฝนตกเมื่อคืนนี้จนถึงยามเหมาจึงหยุด จูเหมยลี่สะพายตระกร้าไปเก็บผักป่าได้มามากมาย ชาวบ้านที่นางสอนให้หาว่าผักชนิดใดกินได้ก็พากันแห่ไปเก็บจนเต็มเขาด้านที่ติดกับหมู่บ้านบ้านของเซียวจ้านเป่ยอยู่ติดดับเขาอีกลูก เขาลูกนี้อันตรายชาวบ้านไม่กล้าขึ้นไป ต้นไม้หนาแน่นมากนัก เมื่อวานที่ตัดไม้ก็ตัดแค่บริเวณเชิงเขาเท่านั้น เพราะมีต้นไม้หนาแน่นไม่จำเป็นต้องขึ้นไปด้านบนจูเหมยลี่ได้ผักป่ามาสองตระกร้าใหญ่ นางจะนำมาตากแห้งแล้วสอนวิธีปรุงผักแห้งกับผักดองเหล่านี้ให้เซียวจ้านเป่ย เวลาที่เขาไปกองทัพจะได้ไม่ต้องทนหิวมากนัก เข้ามาก็เห็นบุตรสาวนั่งเล่นลูกสนที่นางแกะสลักแล้ววาดหน้าตุ๊กตาให้อยู่ก่อนที่นาง
จูเหมยลี่ไปปลุกเซียวลี่ผิงก่อนจะเข้าไปในครัว ต้มน้ำสำหรับเช็ดตัวให้เขาก่อนตะวันตกดิน เดี๋ยวค่ำอากาศจะเย็นลงอีกจากนั้นก็เริ่มทำมื้อเย็น เป็นข้าวต้มกุ้งสับโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย นางไปไล่จับกุ้งมาตอนที่ฝนเริ่มพรำเม็ดเล็กๆเมื่อเช้าได้มาเกือบเต็มตะกร้า แต่เพราะสามีป่วยไม่อยากให้เขากินรสจัด จึงจับมานึ่งแล้วกะเอาแต่เนื้อกุ้งมาสับ จากนั้นก็ปรุงรส ต้มข้าวต้มใส่ข้าวเหนียวครึ่งกำมือทำให้ข้าวต้มข้นและเนียนนุ่ม ปรุงรสชาติเรียบร้อยก็ตักกุ้งโรยด้านบนตามด้วยกระเทียมและต้นหอม หากเซียวจ้านเป่ยหายดีนางจะขึ้นเขาไปหาพริกไทย นางแค่พูดว่าอยากได้ เดี๋ยวก็ได้กลิ่นและหาเจอเอง"ท่านแม่ข้าต้มอร่อยมากเจ้าค่ะ ท่านพ่อหายหรือยังเจ้าคะลูกเข้าไปเล่นกับท่านพ่อได้หรือยัง""ยังจ๊ะ ท่านพ่อยังมีไข้อยู่ ผิงผิงอยากกินยาขมๆเหมือนท่านพ่อหรือไม่เอ่ย""อืม ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านพ่อโตแล้วท่านพ่อกินได้ข้ายังเด็กอยู่กินไม่ได้เจ้าค่ะ"จูเหมยลี่หัวเราะกับความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวน้อย ได้นิสัยพ่อมาเต็มๆเลยจริงๆ ก่อนจะนำโจ๊กกับถ้วยยาเข้าไปให้เซียวจ้านเป่ยในห้อง เซียวจ้านเป่ยลุกขึ้นมานั่งกินโจ๊กที่นางนำมาให้ เขาคงคิดถึงนางแน่ๆหากไปกองทัพ ไม
เซียวจ้านเป่ยลุกขึ้นก่อนจะลวงจากเตียง จากนั้นก็ช้อนเอาจูเหมยลี่ไว้ในอ้อมกอด พาเดินไปยังห้งใหญ่ที่บุตรสาวนอนหลับอยู่ วางนางลงตรงกลางแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ แขนของเขายาวพอที่จะโอบสองแม่ลูกไว้ในอ้อมแขนแล้วสามคนก็หลับไปด้วยกัน เซียวจ้านเป่ยกำลังคิดถึงสตรีอีกคนนึง นางจะทำตามแผนสำเร็จไหม ฉู่หรานซิน เสด็จพ่อในเมื่ออยากเป็นศัตรูกับข้านักก็ย่อมได้ยามเหมาเช้าแล้วจูเหมยลี่ตื่นเข้าครัวไปต้มน้ำสำหรับล้างหน้าให้สองพ่อลูกจากนั้นก็ต้มข้าวต้ม นำเนื้อหมูมาสับปั้นเป็นก้อนๆทำข้าวต้มหมู ตอนเช้ากินอะไรง่ายๆเพราะวันนี้จะไปตลาดในตัวตำบล"ท่านพี่ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ สายแล้วเดี๋ยวจะช้า วันนี้ท่านนัดชาวบ้านกับคนของคุณชายคังมาตัดไม้ซ่อมบ้านนะเจ้าคะ อื้อ"คนตัวโตรั้งนางลงมาจูบจนพอใจถึงยอมปล่อย ปากจูเหมยลี่บวมเจ่อ นางควรไปตลาดไหมเนี่ย ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังบวมอยู่เลย"ตื่นแล้วเมียจ๋า ผิงผิงตื่นหรือยังเอ่ย แม่กับพ่อจะไปตลาดซื้อขนมอร่อยๆแล้วนะ""หื้อๆๆๆ ท่านพ่ออย่าแกล้ง ข้าตื่นแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ผิงผิงตื่นแล้วข้าเก่งไหมเจ้าคะ""เก่งสิ ลูกสาวแม่เก่งที่สุดเลย มาๆไปล้างหน้าจะได้กินข้าวต้ม กว่าเกวียนจะถึงตลาดเดี๋ยวจะหิว
ฉู่หรานซินไปแล้วตรงไปห้องหนังสือ คงเพื่อไปถกกระโปรงนั่งคร่อมเฉิงอ๋องอีกตามเคย ในเมื่อไม่มีใครอยู่แล้วรออีกสักพัก ร่างเล็กๆของดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ซ่อนตัวใต้ศาลามาตลอดก็ค่อยๆหย่อนเท้าตนเองลงในน้ำก่อนจะทิ้งตัวเบาๆแล้วว่ายไปทางด้านหลังของตำหนัก มองซ้ายขวาไม่มีใครก็ขึ้นจากน้ำปีนไปยังเรือนร้าง เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจากนั้นก็เดินออกมาจากเรือนหลังนั้นสาวใช้เห็นดรุณีน้อยที่เดินออกมาก็ไม่ใส่ใจ ก็แค่ท่านหญิงที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว อีกไม่เกินเจ็ดวันก็ต้องแต่งงานไปเป็นฮูหยินรองของพ่อตาพระชายาแล้ว"ท่านหญิง มาเดินเพ่นพ่านแถวนี้ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ท่านแม่บอกไว้มิใช่หรือว่าให้ท่านสำรวมและเก็บตัว"สาวใช้นางหนึ่งพูดจาไม่ให้เกียรตินางก่อนจะเยาะเย้ย อ้ายซินไม่ใส่ใจ ก่อนจะเอ่ย"ข้ากำลังจะไปเป็นแม่เลี้ยงนาง เจ้าว่าใครต้องฟังคำสั่งใครหรือปี้เฉาหึ""แค่เมียรองนึกว่าตัวเองมีอำนาจหรืออย่างไร เหอะ"สาวใช้ไปแล้ว อ้ายซินกำมือแน่น เสด็จพ่อเป็นบิดาที่ไม่คู่ควรให้เคารพอย่างแท้จริง อย่างไรนางก็เป็นสายเลือดราชวงศ์ กลับเอานางให้ไปเป็นเมียน้อยตาแก่ฉู่นั้น เรื่องนี้เสด็จอาไม่รู้ พวกเขากีดกันไม่ให้นางเข้าวัง ฉู่หรานซินต
เซียวจ้านเป่ยขับเกวียนมาถึงตลาดก็นำเกวียนไปจอดยังที่พัก จากนั้นก็พาบุตรสาวกับภรรยาเดินเลือกหาซื้อของ เมื่อได้ของครบแล้วก็พากันไปที่โรงค้าสัตว์มีโรงค้าสัตว์อยู่สามแห่งด้วยกัน เซียวจานเป่ยอยากได้ม้าที่กำยำแต่เกรงว่าจูเหมยลี่จะเอาไม่อยู่ จูเหมยลี่บอกกับเขาว่านางสามารถหัดได้ชาติก่อนนางต้องถึกทนนะ นอกจากจะปีนป่ายป่าเขาแล้วบางที่เดินเท้า บางที่ขี่อูฐ ขี่ม้าขี่ลา ไม่มีอะไรที่จูเหมยลี่คนนี้ทำไม่ได้หรอก"นายท่านขอรับ ม้าตัวนี้ส่งมาจากเป่ยเหลียงเชียวนะขอรับ เป็นม้าพันธ์ชั้นดี ราคาแพงไปสักนิดแต่ว่าคุ้มมากนะขอรับ"เถ้าแก่โรงค้าสัตว์เอ่ยเชียร์จนจูเหมยลี่รำคาญ นางมีความพิเศษติดตัวมาเพิ่งค้นพบสองวันก่อน นางจึงเดินไปที่คอกม้าก่อนจะยื่นมือออกไป กลิ่นฟีโรโมนของนางที่ได้กลิ่นเฉพาะสัตว์เท่านั้นจะได้กลิ่น ม้าตัวที่ได้รับกลิ่นเดินมาหานาง เป็นม้าเปรียว ดูท่าเป็นม้าป่า คนงานถอยห่างทันทีที่มันเดินมา เมื่อวานเพิ่งเตะคนงานจนกระดุกหักไปสองคน"เอ่อ ฮูยินท่านนี้ม้าตัวนี้เป็นม้าป่านะขอรับ เพิ่งจับมาได้ยังไม่ได้ฝึกเลยขอรับ เอ่อคือว่า""เด็กน้อย เจ้าอยากไปอยู่กับข้าหรือไม่ หากเจ้ายินยอมให้คำนับข้าสามที"อาชาสีดำสนิ
จูเหมยลี่เอาหินปูนที่ขุดมาได้นำมาเผาจนร้อน พรุ่งนี้จะผสมข้าวเหนียวเพื่อให้ยึดเกาะดีกว่าเดิม ทำพื้นบ้านกับพื้นห้องน้ำ อาจจะทำทางเดินและพื้นของคอกม้าและคอกวัวด้วยถ้าอิฐพอ หากไม่พอนางค่อยงมเอาก้อนหินในลำธารหลังบ้านมาทำก็ได้"ท่านพี่ ผิงผิงมาทานข้าวเถอะ มืดแล้วเหมือนฝนมาอีกแล้ว ดีนะที่ทำห้องน้ำกับห้องเสบียงเสร็จแล้ว หลังคาเรียบร้อยเหลือแค่พื้นเท่านั้น""ท่านแม่เจ้าขา ท่านแม่ทำผัดเห็ดอีกได้ไหมเจ้าคะ ผิงผิงอยากกินเจ้าค่ะ""อืม ถ้าคืนฝนตกพรุ่งนี้แม่จะไปเก็บให้นะคนดี เห็ดชนิดนี้จะขึ้นแค่ตอนฝนตกน่ะ แต่วันนี้แม่ทำข้าวอบโป๊ยเซียนให้ลูกด้วยนะ สีสวยน่ากินมากเลย ผิงผิงของแม่อยากกินไหมเอ่ย หื้ม""อยากกินเจ้าค่ะ ท่านพ่อเจ้าคะท่านแม่ทำอาหารอร่อยที่สุดเลยเจ้าค่ะ""ใช่ ท่านแม่ของลูกเป็นสตรีที่เก่งที่สุด ทำอาหารก็เก่ง ที่สำคัญท่านแม่ของลูกนางงามยิ่งนักลูกว่าไหม""เจ้าค้า ท่านแม่ของข้างามที่สุดเลยเจ้าค่ะ"สามคนพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวกันอย่างมีความสุข เซียวจ้านเป่ยมองหน้าภรรยาก็ยิ้ม เมียเขาสวยเหลือเกิน ตอนเขาไม่อยู่ต้องทำอย่างไรดี หากรู้ว่าจะได้เมียงามเยี่ยงนี่คงไม่สมัครทหารหรอก หวงนางยิ่งนัก"ท่านพี่ทานข้าวส
เซียวจ้านเป่ยเช็ดตัวให้นางอย่างถนอม ก่อนจะแต่งตัวให้แล้วอุ้มจูเหมยลี่พากลับห้องใหญ่ นางนอนหนุนแขนเขาหลับไปแต่เขายังไม่หลับ อ้ายซินเจ้าเด็กดื้อหนีออกจากวัง น่าจะหาทางมาหาเขา โชคดีที่อินทรีขนทองมีความสามารถในการสื่อสารกับคนเป็นนาย ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดหรือนางอยู่ที่ใดมันก็สามารถส่งสารได้"ซินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง หนีมากับผู้ใดกันน่าลงโทษจริงๆ อยู่กับเสด็จอาไม่ดีตรงไหน เฮ้อ พี่จะไปไม่กี่วันแล้วไหนจะห่วงเมียกับลูก ตอนนี้เพิ่มเจ้ามาอีกคนเจ้าตัวยุ่ง"ไม่นานเขาก็หลับตามเมียกับลูกสาวรุ่งเช้าเซียวจ้านเป่ยตรงไปบ้านเซี่ยตงหยางแต่เช้า เขากำลังกลุ้มใจกับอ้ายซินที่หนีมาพบกับเขา พอดีเจอกับจางรั่วสุยที่หน้าบ้านจึงทักทายกัน"รั่วสุย เยี่ยอวี่นางเป็นนเช่นไรบ้าง นางหายแพ้ท้องหรือยัง แล้วลู่เหลียนเล่าสงบจิตใจได้แค่ไหนแล้ว""นางดีขึ้นแล้วขอรับ เอ่อ ซื่อจื่อน้อยคือว่าข้าเอ่อข้า"ทันทีที่จางรั่วสุ่ยเรียกเขาว่าซื่อจื่อน้อย เซียวจ้านเป่ยก็มีปฎิกิริยาทันที หันมาจ้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจ"เมื่อสักครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะจางรั่วสุ่ย""ซื่อจื่อ ท่านยังจำเด็กผู้ชายที่ท่านรับขึ้นรถม้าแล้วพาไปส่งบ้านมารดาของเขา
ผ่านไปจนเกือบถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังพาหลิวเหว่ยเดินเล่น บุตรชายวิ่งเตาะแตะๆ ไปมา หลิวเซียงสาวใช้อุ้มอยู่ หรงหรงตั้งครรภ์จึงทำได้เพียงเดินตามบรรดาซื่อจื่อกับท่านหญิง จูเหมยลี่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สามมองไปยังลานบ้าน อ้ายลี่ผิงตอนนี้อายุแปดขวบแล้วยิ่งโตยิ่งงามมากนัก จูเหมยลี่ที่เห็นบุตรสาวก็ถอนหายใจ"เป็นอะไรไปหรือเมียข้าหืม""ผิงผิงยิ่งโตยิ่งงาม พระองค์ไม่หวงแต่หม่อมฉันหวงเพคะ หากลูกยังไม่สิบแปดไม่ให้ออกเรือนนะเพคะท่านอ๋อง""อีกสิบปีเชียวนะ เซี่ยตงชิงจะรอไหวหรือ""รอไม่ไหวก็ไปหาแต่งคุณหนูจวนอื่นโน่นเพคะ"จูเหมยลี่ยอมรับนางหวงบุตรสาวคนโตยิ่งนัก บุตรสาวนางงามเพียงนี้ไม่อยากให้ใครมามองเลย"พระชายา กระหม่อมรอได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แต่งสตรีอื่นนอกจากผิงผิงเท่านั้น"เซียวจ้านเป่ยยิ้มให้กับจูเหมยลี่ เจ้าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าทุกคนพูดถึงนางก็วิ่งมา เห็นพี่ชายของนางมีเหงื่อเต็มไปหมดก็ปีนขึ้นเก้าอี้ให้ตัวพอดีกับเขาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้"พี่ตงชิง ท่านเหนื่อยมากหรือไม่ ท่านน้าเสี่ยวอี้ทำน้ำหวานไว้ข้าไปเอามาให้นะเจ้าคะ"เซี่ยตงชิงสบสายตากลมโตของเด็กผู้หญิงตรง
จูยวี่ซานกอดภรรยาจากนั้นก็หอมหน้าผากของนาง ก่อนจะรับเอาห่อผ้าของจูเหวินบุตรชายมากอดแล้วก้มลงหอม"อย่าดื้อกับท่านแม่ พ่อไปไม่นานนักหรอกเด็กดี"ผิงผิงที่วิ่งออกมาจากในบ้านกอดเอวอ้ายเฉิงเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขึ้น"เสด็จปู่เพคะ เทศกาลไหว้พระจันทร์น้องชายจะได้สองขวบเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะพาหลานไปหาเสด็จปู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าผิงผิงอยากให้เสด็จปู่อยู่ที่นี่มากกว่าก็ตาม""ผิงผิงของปูน่ารักที่สุด ตั้งใจเรียนวรยุทธกับท่านปู่ฝางให้ดีๆ เจอกันปีหน้าต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมรู้หรือไม่""เพคะ ผิงผิงจะตั้งใจเรียนวรยุทธ และตั้งใจยิงธนูให้เก่งต่อไปผิงผิงจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตงชิงเพคะ"จูเหมยลี่อมยิ้ม เด็กหนอเด็กยังไม่รู้อะไรเลย โตอีกหน่อยจะอายหากจำได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จากนั้นก็อุ้มอ้ายหลิวเหว่ยส่งให้กับพ่อสามี อ้ายเฉิงรับเอาหลานชายมาอุ้มก่อนจะเอ่ยกับจูเหมยลี่"ลี่เอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อยังมิได้ขอบใจเจ้า จ้านเอ๋อร์ต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่าง เขาต้องทุกข์เพียงใด ยิ่งหลังจากที่ปู่หลงจากไปเขายิ่งโดดเดี่ยว การที่ มีเจ้าเข้ามาในชีวิตทำให้ความมืดมนในใจเขามลายหายไป ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ขอบใจเจ้ามากนัก""เสด็จพ่อทรงก
จูเหมยลี่ไม่อยากฆ่าคน ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของนางมากนักอยากใช้ชีวิตกับสามีและลูกอย่างเงียบๆ นางคว้าคันธนูที่ทหารกับลูกศรมา ส่งสายตาให้บุตรสาวว่านางขอโทษ อ้ายลี่ผิงพยักหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหลับตาตามที่ท่านแม่สั่งส่งสารมาให้"ท่านอ๋อง เตรียมรับลูกกลับมานะเพคะ" จูเหมยลี่ยกคันธนูขึ้นลูกศรถูกทาบไปพร้อมปล่อยออก ก่อนจะเล็งที่ศีรษะนาง เพราะหงซิ่วจับอ้ายลี่ผิงยืนข้างหน้า มือกำอยู่รอบคอ เด็กน้อยสูงเพียงเอวของนางทำให้เปิดจังหวะการยิงมากนักหงซิ่วเห็นว่าจูเหมยลี่มีไอสังหารนางจะพลิกตัวเพื่อเหวี่ยงอ้ายลี่ผิงลงเหวแต่ไม่ทัน ลูกศรที่จูเหมยลี่ยิงออกไปนั้นเจาะกะโหลกนางพอดี หงซิ่วหงายหลังจะตกลงไป อ้ายลี่ผิงที่ถูกมือนางกำไว้ก็จะพลัดตกไปด้วย จ้านอ๋องจะไปรับบุตรสาว แต่เซี่ยตงชิงไวกว่า เขากระโดดที่เดียวก็คว้าอ้ายลี่ผิงไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกระแทกลงทำให้แผลที่ถูกฟันเลือดไหลไม่หยุด ก่อนจะถามอ้ายลี่ผิงนางว่าไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วสลบไปจ้านอ๋องรีบให้คนอุ้มเซี่ยตงชิงกลับไปที่จวน ให้แจ้งแก่เซี่ยฮูหยินว่าคุณชายใหญ่จะอยู่ช่วยงานที่ตำหนักใหม่หลายวัน โจรเร่ร่อนที่รวมกันจับอ้ายลี่ผิงวันนี้จูเหมยล
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กลับมาอยู่จิ่วโจวก็เตรียมหาทางสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะเขาได้รับพระราชทานให้ดูแลทั้งสิบมณฑลจึงต้องดูแลราษฎร จูเหมยลี่ที่กำลังดูแลคนงานตากดอกเหมยกุ้ยอยู่ก็เดินมาหาสามีที่กำลังคุยงาน "ท่านอ๋อง ไม่ทรงพักผ่อนหรือเพคะนี่ก็บ่ายแล้วหม่อมฉันทำของว่างเอาไว้ เมื่อเช้าเสด็จพ่อแจ้งมาว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับไท่จื่อ เลื่อนเวลาออกไปอีกครึ่งเดือนเพคะ""อืม เหนื่อยหรือไม่เด็กดี ผิงผิงเล่าไปไหนเสียแล้ว""ลูกไปหัดยิงธนูกับตงชิงเพคะ เสี่ยวเหว่ยท่านตาพาไปนั่งรถม้าเล่น พอดีซินซินอยากเข้าตำบลหาซื้อของใช้" สองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่นานสาวใช้ก็นำขนมมา วันนี้จูเหมยลี่ทำขนมบัวลอยเนื่องจากขุดเผือกและมันได้มาก อีกทั้งฟักทองก็ให้ผลผลิตที่ดีนัก เนื้อทั้งเหนี่ยวแน่นยังมีน้ำบ๊วยที่หอมชื่นใจ ลำธารตรงหลังบ้านจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เย็นตลอดเวลา จูเหมยลี่นำไหเปล่าไปแช่ในนั้นก่อนจะมาบรรจุน้ำบ๊วย แล้วผนึกฝาไหนำลงแช่อีกที น้ำบ๊วยจึงทั้งเย็นทั้งหอมชื่นใจสาวใช้แจกจ่ายของว่างให้คนงาน หลังจากงานแต่งรัชทายาททุกคนจึงรู้ว่าสามีของจูเหมยลี่คือจ้านอ๋องทำเอาชาวบ้านทำตัวไม่ถูกกันเ
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มาถึงจิ่วโจวได้หลายวันแล้ว บางวันก็ไปคุมการต่อเติมซ่อมแซมจวน อย่างเช่นวันนี้เขาพาจูเหมยลี่มาด้วย เนื่องจากอยากขุดสระบัวและทำบ่อเลี้ยงปลาที่เมียเคยบอกว่าอยากได้"ลี่เอ๋อร์ ตรงนี้มีบ่อน้ำพุร้อน จวนสกุลหลิวที่ยึดมาที่ดินกว้างมาถึงตรงนี้ พี่ให้คนสร้างห้องอาบน้ำไว้แล้ว เจ้าอยากล้างตัวหรือไม่""สายตาพระองค์ดูก็รู้ว่าไม่ได้อยากอาบน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยคนเจ้าเล่ห์ท่านจับข้ากินทุกเวลาแบบนี้ท้องข้าจะว่างไหมเล่า""ลี่เอ๋อร์เด็กดี ไปอาบน้ำกันนะคนงามของพี่"จูเหมยลี่รู้ดีว่าไม่รอดอีกตามเคย ตั้งแต่มาถึงเขากักนางไว้บนเขาสี่วันสามคืน พอมาถึงบ้านก็ไม่สนใจจับนางกินตลอดเวลา บ่าวไพร่ต้องไปอยู่ไกลๆเรือน เนื่องจากบ้านของเซี่ยตงหยางสร้างเสร็จแล้ว ซูฟางหรานกลับไปบ้านตัวเองแล้วในบ่อน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยยังคงช้อนสะโพกเมียรักขยับแก่นกายใส่นางไม่หยุด เขารักนางมากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน "แน่นนัก เหตุใดยังแน่นเหมือนตอนรักเจ้าครั้งแรกเมียจ๋า รัดจนทำนบพี่จะแตกทันทีที่เข้ามา""ท่านอ๋องเร่งเถอะเพคะ เมียอยากสุขสมแล้ว อ๊ายย ท่านกินเก่งกินดุแบบนี้หม่อมฉันจะไหวไหม อื้อ เสียวเพคะ
เซียวจ้านเป่ยจุมพิตหน้าผากเล็กของเมียรัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ชื้นทั่วกรอบหน้าและซอกคออย่างไม่รังเกียจ พักได้ไม่นานก็อุ้มนางไปที่น้ำพุร้อนในถ้ำ รักนางในบ่อน้ำพุอีกหลายครั้ง จนจูเหมยลี่หมดแรงกอดคอเขาไว้"ไม่ไหวแล้ว เมียขาอ่อนแล้ว ยืนไม่ไหวพักนะเจ้าคะ ขอนอนพักก่อนเถอะท่านพี่"ยามอู่ของวันที่สามเขาจึงแต่งตัวให้นางแล้วอุ้มพาเดินออกมา เซียวจ้านเป่ยกักนางไว้ในถ้ำถึงสามคืน พอออกมาเจอแสงข้างนอกจูเหมยลี่ถึงกับตาหยีเลย"คนบ้า ไม่ให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลย ป่านนี้เป็นห่วงกันทั้งเรือนแล้วกระมัง""พี่ยังไม่อิ่มนะ แต่เห็นเจ้าคิดถึงลูกพี่เลยพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่จะไม่ให้ลงจากเตียงเลย จนกว่าจะมีน้องให้เสี่ยวเหว่ยกับผิงผิงอีกคน""ท่านมันคนหื่น" "หึๆ พี่ยังมีแรงรักเจ้าได้อีกนะคนงาม" เขาไม่รีบ เนื่องจากขบวนที่มารับพระชายาของเขามาถึงหมู่บ้านตั้งแต่สองวันก่อน ตอนนี้ทั้งบุตรชายบุตรสาวต่างมีสาวใช้และองครักษ์ดูแล เขาอ้อยอิ่งพานางเดินชมนกชมไม้จนกระทั่งมาถึงบ้านก็ยามเซินพอดี ทุกคนเข้าแถวรอรับทั้งคู่พร้อมคำสรรเสริญ"ถวายพระพรท่านอ๋อง""ถวายพระพรพระชายา"คังหยุนและอ้าย
จูเหมยลี่ลุกขึ้นมาปลดอาภรณ์ตนเองออกช้าๆ เซียวจ้านเป่ยส่งสายตายั่วยวนเมียรัก จนอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกไป ร่างงามขึ้นคร่อมบนตักแกร่งก่อนจะมองหน้าเขา เซียวจ้านเป่ยมอบจุมพิตแสนหวานให้นาง มือบางล้วงไปยังด้านล่างของตนเอง ค่อยๆคลี่กลีบดอกเหมยแสนบอบบางออก เซียวจ้านเป่ยจับแท่งทวนร้อนผ่าวตั้งตรง สะโพกงามค่อยๆกดลงมาหาสิ่งใหญ่โตที่รอคอยนางอยู่จูเหมยลี่ค่อยบดสะโพกส่ายไปมา บางทีก็กดลงเข้าหาความใหญ่โตจนสุดทางรัก แขนเรียวโอบรอบคอสามีเอาไว้ โยกเอวขึ้นลงช้าๆ เซียวจ้านเป่ยอยากขยับสะโพกสอบขยับใส่นางแต่นางกับกดสะโพกนิ่ง มือหนาละจากที่คล้องคอเขามากอดเอวหนาเอาไว้ บดสะโพกยั่วยวนเขาแน่นไม่ให้เขาได้ขยับ"อืม ลี่เอ๋อร์คนงามของพี่ เจ้ายั่วยวนเพียงนี้แต่เมื่อไหร่กัน พี่จะคลั่งตายแล้ว หลงเจ้าไม่ไหวแล้วเมียข้า""ใครใช้ให้ท่านยั่วยวนข้าก่อนเล่า นั่งดีๆข้าจะลงโทษที่ท่านกลั่นแกล้งข้าตอนที่มาถึง ท่านพี่กินอะไรมาหรือยังหิวหรือไม่เจ้าคะ""อืม รีบมายังมิได้กินข้าวคิดถึงเจ้านัก""งั้น ดื่มนมรองท้องก่อนไหมเจ้าคะ""หึๆๆ เมียรักของข้า วันนี้เจ้าเป็นปีศาจจิ้งจอกหรือยั่วยวนเร่าร้อนเหลือเกิน" "หื
สองคนเดินเข้าบ้าน จูเหมยลี่ถอดเสื้อนอกเขาออก เซียวจ้านเป่ยไม่เอาแต่ใจเขานอนกอดนางไว้ ก่อนจะขอนางดื่มด่ำทรวงอกคู่งาม ที่เขาห่างหายไปนานจูเหมยลี่ตามใจเขา เซียวจ้านเป่ยทั้งดูดเม้มตวัดลิ้นเลียไปมาจนร่างงามสะท้านผวาแอ่นอกขึ้นหาเขา ครางเบาๆด้วยความเสียวซ่าน จนกระทั่งเขาละจากดอกบัวทั้งสอง เลื่อนขึ้นมาหาสบตากับนาง นัยตาสีน้ำหมึกของเขาช่างดึงดูดนางให้หลงใหลยิ่งนัก มือน้อยๆยกขึ้นมาลูบใบหน้าของเขา"โกนหนวดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เจ้าคะ เขียวครึ้มแล้ว""อยากกลับมานอนหนุนตักให้เจ้าโกนให้ ไปที่ริมธารกันไหมเด็กดี""ไม่ได้ คนเต็มบ้านสายตากี่คู่กันไม่ได้มีแค่ผิงผิงเช่นเมื่อก่อนแล้วนะเจ้าคะ""หืม เมียข้าเจ้าคิดอันใดหรือ พี่หมายถึงโกนหนวดเท่านั้น เมียจ๋าเจ้าคิดมากกว่านั้นหรือ หื้ม""เซียวจ้านเป่ยคนบ้านี่ ข้าไม่คุยกับท่านแล้ว จะไปดูลูก งานในมือยังไม่เสร็จเลย"เซียวจ้านเป่ยหัวเราะในลำคอเขารู้แล้วว่าเมียงอน เขากับนางห่างหายเรื่องผัวเมียไปปีกว่า เขามาถึงก้ปลุกเร้านางขนาดนี้ยังแกล้งนางอีก ก่อนจะอมยิ้มเซียวจ้านเป่ยผูกสาบเสื้อให้นางก่อนจะอุ้มจูเหมยลี่ขึ้นเอ่ยกระซิบ"ไม่ได้ไปเรือนหอบนเขาเสี
ตอนนี้ขบวนของจ้านอ๋องรอพักอยู่ที่ตำบล ส่วนท่านอ๋องนั้นทนคิดถึงเมียกับลูกไม่ไหวควบม้ากลับหมู่บ้านจิ่วโจวเรียบร้อยแล้ว จูเหมยลี่ที่ตอนนี้กำลัง เดินดูแปลงผักที่ให้คนงานช่วยกันปลูกเพื่อทำผักดอกสามรส อากาศหนาวๆนำมาต้มกับเต้าหู้รสชาติอร่อยซดน้ำแกงคล่องคอมากนัก พริกออกดอกออกผลดกดี นำมาทำน้ำมันพริกส่งออกไปขายได้กำไรพอควร เนื่องจากคนยังไม่นิยมกินรสจัด ส่วนใบชาย่อมขายดีมาก อ้ายเฉิงที่ตอนนี้ได้รับข่าวดีว่าซูฟางหรูตั้งครรภ์แล้วด็ดีใจ จูยวี่ซานกับเฝิงอันหยวนไปไหนไม่ได้เพราะอ้ายซินกับอ้ายเย่วใกล้คลอดเต็มที "เสี่ยวลี่ ผักดองคราวก่อนอร่อยมากนัก ท่านยายเบื่ออาหารมานานแล้ว พอได้ผักดองของเจ้าก็ทำให้กินได้มากขึ้นน่ะ ขอบใจนะ อีกอย่างเรื่องท่านหมออีกหยวนอีก""พี่เว่ยเว่ยจะเกรงใจทำไมเจ้าคะ ปู่ใหญ่กับท่านลุงช่วยเหลือข้าไว้ไม่น้อยเลย หากไม่ได้บ้านใหญ่ของพวกท่าน มิใช่ว่าป่านนี้หญ้าบนหลุมฝังศพของข้าสูงท่วมศีรษะท่านแล้วหรอกหรือ"สองพี่น้องนั่งคุยกันไปพลางเด็ดขั้วดอกโม่ลี่ฮวาไปพลาง ทางด้านคนงานพวกนางกำลังจัดการเด็ดก้านของพริกออก ใครมีหน้าที่ตากก็ตาก หรงหรงอุ้มอ้ายหลินเหว่ยออกมาเดินเล่น