เซียวจ้านเป่ยเช็ดตัวให้นางอย่างถนอม ก่อนจะแต่งตัวให้แล้วอุ้มจูเหมยลี่พากลับห้องใหญ่ นางนอนหนุนแขนเขาหลับไปแต่เขายังไม่หลับ อ้ายซินเจ้าเด็กดื้อหนีออกจากวัง น่าจะหาทางมาหาเขา โชคดีที่อินทรีขนทองมีความสามารถในการสื่อสารกับคนเป็นนาย ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดหรือนางอยู่ที่ใดมันก็สามารถส่งสารได้"ซินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง หนีมากับผู้ใดกันน่าลงโทษจริงๆ อยู่กับเสด็จอาไม่ดีตรงไหน เฮ้อ พี่จะไปไม่กี่วันแล้วไหนจะห่วงเมียกับลูก ตอนนี้เพิ่มเจ้ามาอีกคนเจ้าตัวยุ่ง"ไม่นานเขาก็หลับตามเมียกับลูกสาวรุ่งเช้าเซียวจ้านเป่ยตรงไปบ้านเซี่ยตงหยางแต่เช้า เขากำลังกลุ้มใจกับอ้ายซินที่หนีมาพบกับเขา พอดีเจอกับจางรั่วสุยที่หน้าบ้านจึงทักทายกัน"รั่วสุย เยี่ยอวี่นางเป็นนเช่นไรบ้าง นางหายแพ้ท้องหรือยัง แล้วลู่เหลียนเล่าสงบจิตใจได้แค่ไหนแล้ว""นางดีขึ้นแล้วขอรับ เอ่อ ซื่อจื่อน้อยคือว่าข้าเอ่อข้า"ทันทีที่จางรั่วสุ่ยเรียกเขาว่าซื่อจื่อน้อย เซียวจ้านเป่ยก็มีปฎิกิริยาทันที หันมาจ้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจ"เมื่อสักครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะจางรั่วสุ่ย""ซื่อจื่อ ท่านยังจำเด็กผู้ชายที่ท่านรับขึ้นรถม้าแล้วพาไปส่งบ้านมารดาของเขา
บนเตียงคนไข้ในห้องไอซียู ร่างของจูเหมยลี่หรือจุฬาลักษณ์สาวไทยเชื้อสายจีนที่ถูกลูกหลงจากการที่นักเรียนอาชีวะยกพวกตีกันเธอใส่เครื่องช่วยหายใจมาเป็นเวลาเก้าวันแล้ว ข้างเตียงมีคนสองฝั่งกำลังขับเคี่ยวกันอยู่"คุณเป็นแม่แบบไหน เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่อยากให้ลูกมาเมืองไทย แกคิดถึงอยากเจอคุณแต่คุณไม่ดูแลปล่อยให้ลูกผมต้องถูกทำร้าย"จูล่งนักธุรกิจชาวจีนซึ่งเป็นคุณพ่อของคนไข้ กำลังเอ่ยปากต่อว่าสตรีตรงหน้า เธออายุประมาณสี่สิบเจ็ดสี่สิบแปด แต่งกายด้วยผ้าเนื้อดีราวกับคุณหญิงคุณนาย"คุณจู ที่นี่เมืองไทยช่วยเก็บกิริยาที่ใช้บ้านคุณไว้ด้วย ฉันก็ห่วงจูลี่ไม่แพ้กันฉันเป็นแม่ของแกนะ วันๆคุณทำแต่งานจนลูกขาดความอบอุ่นแต่ยังมาโทษคนอื่นอีก"จุไรพรคุณแม่ของจูลี่เอ่ยปากต่อว่าอดีตสามี จูลี่เป็นลูกของเธอเพิ่งจะบินมาเที่ยวเมื่อสิบวันก่อนจู่ลี่เปิดร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ อีกทั้งยังเป็นบล็อกเกอร์รีวิวอาหาร ที่มาเที่ยวเมืองไทยก็จะมาถ่ายทำลงช่องของเธอแต่วันที่เกิดเรื่องเธอกำลังจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง เด็กนักเรียนอาชีวะเหล่านั้นขับมอเตอร์ไซค์ตีคู่แข่งกันมาหนึ่งในนั้นใช้ปืนไล่ยิงคู่อริ จนกระสุนพลาดมาโดนคนที่รอสัญ
ริมแม่น้ำแม่น้ำชาวบ้านต่างพากันมาซักผ้า จูลี่เห็นวิถีชีวิตพวกเขาเหล่าสตรีต่างพุดคุยบ้างก็นินทากัน เห็นจูเหมยลี่ถือถังผ้ามาก็ได้แต่ถอนหายใจเด็กคนนี้ขยันขันแข็งพ่อแม่ตายไปก็ยังกตัญญูต่อปู่ย่า ใครจะรู้แม่เฒ่าจูจากไปศพยังไม่ทันเย็น ป้าสะใภ้นางเหวินซื่อก็ขายเด็กคนนี้ให้นายพรานเซียว ชะตาอาภัพนัก"เหมยลี่เอ๊ย แต่งงานแล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปให้ดีเถอะนะ"ป้าหวงเอ่ยขึ้นนางเวทนาชะตาชีวิตเด็กคนนี้ เดิมทีมีคู่หมั้นแต่พอปู่ย่าจากไปคู่หมั้นก็มาขอถอนหมั้น เพราะเขาหมายตาลูกสาวมือปราบในเมืองแล้ว ใครจะมาชอบลูกสาวชาวนาที่ไม่มีแม้แต่สินเดิมกันเล่า อีกอย่างจางชุนคนนั้นก็สอบบัณฑิตผ่านแล้วด้วยน่าเวทนาชะตานางนัก"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นไรหรอก"เอาขอบคุณชาวบ้านก่อนจะลงมือสักผ้าของสองพ่อลูก แต่จูเหมยลี่กลับเห็นบางอย่าง"ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านย่า พวกท่านมารับข้าหรือเจ้าคะ"จูเหมยลี่มองเห็นเงาสามเงาในน้ำก็เอ่ยขึ้น ป้าหวงรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินเสียงพึมพำ แต่พอป้าหวงหันมาอีกทีก็เหลือแค่ปลายผมให้เห็นแล้ว"ใครก็ได้ช่วยที เหมยลี่นางจมน้ำแล้วช่วยกันหน่อยเร็วเข้า" จูลี่ที่กำลังล่องลอยไปมาบริเวณภูเขา อยู่ๆก็มีแรงดึงดูดนางกลั
เซียวจ้านเป่ยเห็นจูเหมยลี่ที่อาบน้ำสะอาดสะอ้านแล้วก็ตะลึง ขนาดใส่ชุดบุรุษของเขาอยู่นางยังงามถึงเพียงนี้เหมือนเขาจะได้ของดีนะ ถ้าป้าสะใภ้นางรู้กว่าหลานสาวตัวเองขัดสีฉวีวรรณแล้วงามเพียงนี้คงเสียดายแน่ๆ เด็กนี่หากขายให้ขุนนางอย่างน้อยๆค่าสินสอดคงมากกว่าห้าหกร้อยตำลึงจูเหมยลี่เดินมาเกาะแขนเขาหน้าอกที่มีน้อยนิดเบียดกับต้นแขนแกร่ง เด็กนี่จงใจกลั่นแกล้งเขากับจางลู่เหลียนนางคงได้ยินที่จางลู่เหลียนดูถูกนาง"พี่ลู่เหลียน ข้าขออภัยที่มื้อเที่ยงวันนี้รบกวนท่านแล้ว เมื่อคืนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย พอตื่นมาไปซักผ้าเกิดก้าวพลาดตกน้ำลำบากท่านพี่ต้องมาดูแลอีก ท่านพี่ข้าหิวแล้วขอกินข้าวก่อนนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นคืนนี้จะมีแรงปรนนิบัติท่านได้อย่างไร"ไม่พูดเปล่ายังเงยหน้าช้อนสายตายั่วยวนคนตัวสูงอีก จางลู่เหลียนน้ำตาคลอ กำมือแน่นกำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงหวังดีประสงค์ร้ายตามหลัง"พี่ลู่เหลียนที่บ้านท่านไว้ทุกข์ให้ผู้ใดหรือ ใส่ชุดขาวทั้งตัวแบบนี้มาบ้านข้าคงไม่ได้มาแช่งสามีข้าหรอกนะ"จางลู่เหลียนปิดหน้าร้องไห้วิ่งกลับบ้านไม่หันกลับมาอีกเลย เมื่อก่อเรื่องเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำจูนเหมยลี่ก็ปล่อยมือเขาทันที
"ผิงผิงเด็กดีไหมเอ่ย ตื่นหรือยังน้อไม่ตื่นแม่จะหนีไปเที่ยวคนเดียวแล้วนะ" จูเหมยลี่จี้เอวเด็กน้อย นางตื่นแล้วแต่แกล้งหลับขนตากระพริบถี่เชียว"คิกๆๆๆท่านแม่ฮ่าๆๆท่านแม่ข้าจั๊กจี้มากเลยเจ้าค่ะคิกๆๆ"จูเหมยลี่มองตาเด็กน้อยก่อนจะก้มลงเป่าพุงนางเล่น เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากในบ้าน เซียวจ้านเป่ยยืนมองภาพตรงหน้าอย่างใจลอย ภาพนี้เหมือนตอนเขายังเด็กตอนที่เสด็จพ่อยังไม่แต่งสตรีคนนั้นเข้ามา เสด็จแม่รักใคร่เขานัก แต่ไม่นานนางก็จากไปหลักจากนั้นอีกสองปีเขาอายุสิบแปดไปไหว้หลุมศพมารดาขากลับก็ถูกตามฆ่าจนต้องหนีมาอาศัยอยู่ที่นี่กับพ่อบ้านของเขาท่านปู่เซียวหลงเพื่อปกปิดร่องรอยจำต้องแต่งภรรยา ในที่สุดก็ถูกหงซิ่ววางยาจนมีผิงผิงออกมา เขายังถูกตามล่าจากชายารองที่ตอนนี้ขึ้นตำแหน่งชายาเอกแล้วกระมัง ถอนหายใจเสร็จก็เดินเข้าบ้าน"ข้าจับปลาได้สามตัว จะไปซื้อเนื้อหมูที่ในเมืองมาให้ตอนเช้า ตอนนี้ตลาดคงวายหมดแล้ว ปลาต้องทำอย่างไร""ท่านขอดเกล็ดควักไส้ออกแล้วกัน อ้อติดเตาให้ด้วยข้าจะต้มน้ำให้ผิงผิงอาบก่อนเดี๋ยวฝนตก เก็บผ้าที่ข้าซักตากเข้ามาให้ด้วย"เซียจ้านเป่ยสะอึกเขาซื้อนางมาหรือว่านางซื้อเขามากันแน่ใช้งานเขายิ่งก
จูเหมยลี่เติมฟืนก่อนจะต้มน้ำจากนั้นก็ลวกไก่ถอนขน นางทำทั้งห้าตัวเลย จะเอามาย่างและมาทอดด้วย เฮ้อไม่อยากจะว่าสหายของตาลุงนั่นหรอกนะแต่ดูเหมือนหนึ่งตำลึงนี่ บางบ้านอยู่ได้ครึ่งปี แต่นี่นอกจากซาลาเปาแข็งๆกับข้าวต้ม เซียวลี่ผิงแทบไม่ได้กินดีเลย ตาลุงนั้นมีแป้งมีข้าวเต็มถังแต่กลับปล่อยให้ลูกสาวผอมเชียว ถึงจะไม่อดก็ใช่ว่าจะได้กินดี"ไปริมน้ำกับแม่ไหม แม่จะไปทำไก่ไม่อยากใช้น้ำในโอ่งเดี๋ยวท่านพ่อต้องหาบน้ำอีก"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่นำกะละมังไม้มาสองใบ นำชามใส่ขี้เถ้ามาหนึ่งใบ จากนั้นก็เอาไก่ป่าที่ลวกแล้วถอนขนเรียบร้อยใส่กะละมังไม้ก่อนจะพากันเดินไปหลังบ้าน จูเหมยลี่ผ่าท้องควักเครื่องในออกมาจากนั้นก็ล้างด้วยขี้เถ้าจนสะอาด"เฮ้อ อยากได้พริก ข่า ขิง กระเทียม พริกไทย ฮวาเจียวสักหน่อยที่นี่มีไหมนะ"ปากก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยแต่อยู่ๆจมูกก็ได้กลิ่น"หืมได้กลิ่นขิง กลิ่นพริก เอ๋เดี๋ยวนะอยู่ๆได้กลิ่น มาจากไหนกัน ผิงผิงรอแม่ตรงนี้นะเดี๋ยวแม่มา แม่ไปดูตีนเขาตรงฝั่งนั้นก่อน"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่ข้ามลำธารไป เห็นต้นไม้ไม่สูงเท่าไหร่ มีลูกสีเขียวสีแดงเต็มไปหมด มีกอข่า ขิง"อั๊ยย่ะ นี่มันสรรค์ประท
เซียวจ้านเป่ยเข้ามาเห็นภาพที่ทั้งคู่กอดกันก็รู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก นางคงไม่หนีไปใช่ไหมนางบอกว่ารอเขากลับมาจะหย่า ก็ได้หากถึงเวลานั้นนางอยากหย่าเขาจะไม่รั้งไว้ แต่ตอนที่เขาไม่อยู่ให้นางช่วยดูแลบุตรสาวของเขาก็พอ"เอ่อ ผิงผิงอย่างอแงเลย พ่อกับท่านแม่แค่คุยกันนานไปหน่อย สายแล้วไปทำอาหารเถอะ ไหนบอกจะพาลูกไปเก็บผักป่าไง ข้าจะไปเป็นเพื่อนพวกเจ้า"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยขัดสองแม่ลูก "ไม่ต้องหรอก วันนี้สหายท่านที่ชื่อตงหยางนำหมูป่ามาให้ ท่านจะขายหรือชำแหละก็ไปจัดการเถอะ ส่วนไก่ข้าจะทำน้ำแกงบำรุงผิงผิง ข้าไม่ใช่คนพูดมากแต่ขอพูดสักคำ วันข้างหน้าข้าไม่รู้อนาคต แต่ค่าอาหารเดือนละหนึ่งตำลึง จางลู่เหลียนใส่แต่ผ้าเนื้อดี แต่บุตรสาวท่านกลับไม่มีเนื้อสักนิด ค่าอาหารท่านแพงไปหรือไม่ ผิงผิงไปทำอาหารกัน แม่จะทำไก่ย่างหอมๆให้กิน"จากนั่นก็จูงมือกันไปไม่สนใจเซียวจ้านเป่ยสักนิด เขาถูกบุตรสาวกับเมียเมินอีกตามเคย ไหงเขากลายเป็นส่วนเกินไปได้ ผิดพลาดตรงไหนกันเนี่ยจูเหมยลี่นำไก่มาหมักเกลือน้ำตาล นำกระเทียมกับพริกไทยมาทุบๆโขลกเล็กน้อยทาบนตัวไก่ จากนั้นก็เรียกคนด้านนอก"ท่านลุง รบกวนท่านไปเด็ดใบบัวให้ข้าสักหลายๆใบ เลือก
จูเหมยลี่ป้อนข้าวเซียวลี่ผิงเสร็จแล้วก็นั่งรอเซียวจ้านเป่ย สักพักเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับผักกาดสองต้นและถั่วฝักยาวหนึ่งกำ ภรรยาของเซี่ยตงหยางเป็นคนขยัน มักปลูกผักเลี้ยงไก่ ลูกๆไม่อดอยากส่วนภรรยาจางรั่วสุ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ขยันแต่เป็นเพราะจางรั่วสุ่ยตามใจน้องสาวเกินไป เครื่องประดับเอย เสื้อผ้าเอย ไม่สนใจสักนิดว่าพี่สะใภ้ต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานบ้านยังบังคับให้นางตัดเย็บเสื้อผ้าให้อีก เซียวจ้านเป็นไม่ชอบสตรีหน้าขาวปากแดงเซียวจ้านเป่ยมาถึงบ้านก็เห็นจูเหมยลี่นั่งรออยู่ นางยังไม่จับตะเกียบยังคงรอเขามากินด้วย เมียเขาช่างน่ารักเหลือเกิน ก่อนจะส่งตะกร้าที่ใส่ผักให้นาง"เหมยลี่ นี่เป็นผักกาดกับถั่วฝักยาว พี่สะใภ้ให้มา เอ่อข้าแบ่งผักกาดให้รั่วสู่ยไปหนึ่งต้นกับถั่วหนึ่งกำเจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่""ไม่ว่าอะไรนี่ ทั้งสองคนเป็นสหายท่าน ข้าเป็นคนนอกไม่อยากยุ่ง ว่าแต่ของที่ข้าจดให้เมื่อเช้าซื้อมาได้หรือเปล่า"เซียวจ้านเป่ยถอนหายใจ นางสั่งให้เขาซื้อเครื่องปรุง ซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อเครื่องมือเกษตรทำไร่ ไม่ใช่ว่าเขาซื้อไม่ได้ แต่เขาไม่มีเงินจริงๆ ต้องขึ้นเขาก่อนเฮ้อ"เอ่อ ข้าได้แต่เครื่องปรุง เนื้อหมูแล้วก็เ
เซียวจ้านเป่ยเช็ดตัวให้นางอย่างถนอม ก่อนจะแต่งตัวให้แล้วอุ้มจูเหมยลี่พากลับห้องใหญ่ นางนอนหนุนแขนเขาหลับไปแต่เขายังไม่หลับ อ้ายซินเจ้าเด็กดื้อหนีออกจากวัง น่าจะหาทางมาหาเขา โชคดีที่อินทรีขนทองมีความสามารถในการสื่อสารกับคนเป็นนาย ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดหรือนางอยู่ที่ใดมันก็สามารถส่งสารได้"ซินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง หนีมากับผู้ใดกันน่าลงโทษจริงๆ อยู่กับเสด็จอาไม่ดีตรงไหน เฮ้อ พี่จะไปไม่กี่วันแล้วไหนจะห่วงเมียกับลูก ตอนนี้เพิ่มเจ้ามาอีกคนเจ้าตัวยุ่ง"ไม่นานเขาก็หลับตามเมียกับลูกสาวรุ่งเช้าเซียวจ้านเป่ยตรงไปบ้านเซี่ยตงหยางแต่เช้า เขากำลังกลุ้มใจกับอ้ายซินที่หนีมาพบกับเขา พอดีเจอกับจางรั่วสุยที่หน้าบ้านจึงทักทายกัน"รั่วสุย เยี่ยอวี่นางเป็นนเช่นไรบ้าง นางหายแพ้ท้องหรือยัง แล้วลู่เหลียนเล่าสงบจิตใจได้แค่ไหนแล้ว""นางดีขึ้นแล้วขอรับ เอ่อ ซื่อจื่อน้อยคือว่าข้าเอ่อข้า"ทันทีที่จางรั่วสุ่ยเรียกเขาว่าซื่อจื่อน้อย เซียวจ้านเป่ยก็มีปฎิกิริยาทันที หันมาจ้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจ"เมื่อสักครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะจางรั่วสุ่ย""ซื่อจื่อ ท่านยังจำเด็กผู้ชายที่ท่านรับขึ้นรถม้าแล้วพาไปส่งบ้านมารดาของเขา
จูเหมยลี่เอาหินปูนที่ขุดมาได้นำมาเผาจนร้อน พรุ่งนี้จะผสมข้าวเหนียวเพื่อให้ยึดเกาะดีกว่าเดิม ทำพื้นบ้านกับพื้นห้องน้ำ อาจจะทำทางเดินและพื้นของคอกม้าและคอกวัวด้วยถ้าอิฐพอ หากไม่พอนางค่อยงมเอาก้อนหินในลำธารหลังบ้านมาทำก็ได้"ท่านพี่ ผิงผิงมาทานข้าวเถอะ มืดแล้วเหมือนฝนมาอีกแล้ว ดีนะที่ทำห้องน้ำกับห้องเสบียงเสร็จแล้ว หลังคาเรียบร้อยเหลือแค่พื้นเท่านั้น""ท่านแม่เจ้าขา ท่านแม่ทำผัดเห็ดอีกได้ไหมเจ้าคะ ผิงผิงอยากกินเจ้าค่ะ""อืม ถ้าคืนฝนตกพรุ่งนี้แม่จะไปเก็บให้นะคนดี เห็ดชนิดนี้จะขึ้นแค่ตอนฝนตกน่ะ แต่วันนี้แม่ทำข้าวอบโป๊ยเซียนให้ลูกด้วยนะ สีสวยน่ากินมากเลย ผิงผิงของแม่อยากกินไหมเอ่ย หื้ม""อยากกินเจ้าค่ะ ท่านพ่อเจ้าคะท่านแม่ทำอาหารอร่อยที่สุดเลยเจ้าค่ะ""ใช่ ท่านแม่ของลูกเป็นสตรีที่เก่งที่สุด ทำอาหารก็เก่ง ที่สำคัญท่านแม่ของลูกนางงามยิ่งนักลูกว่าไหม""เจ้าค้า ท่านแม่ของข้างามที่สุดเลยเจ้าค่ะ"สามคนพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวกันอย่างมีความสุข เซียวจ้านเป่ยมองหน้าภรรยาก็ยิ้ม เมียเขาสวยเหลือเกิน ตอนเขาไม่อยู่ต้องทำอย่างไรดี หากรู้ว่าจะได้เมียงามเยี่ยงนี่คงไม่สมัครทหารหรอก หวงนางยิ่งนัก"ท่านพี่ทานข้าวส
เซียวจ้านเป่ยขับเกวียนมาถึงตลาดก็นำเกวียนไปจอดยังที่พัก จากนั้นก็พาบุตรสาวกับภรรยาเดินเลือกหาซื้อของ เมื่อได้ของครบแล้วก็พากันไปที่โรงค้าสัตว์มีโรงค้าสัตว์อยู่สามแห่งด้วยกัน เซียวจานเป่ยอยากได้ม้าที่กำยำแต่เกรงว่าจูเหมยลี่จะเอาไม่อยู่ จูเหมยลี่บอกกับเขาว่านางสามารถหัดได้ชาติก่อนนางต้องถึกทนนะ นอกจากจะปีนป่ายป่าเขาแล้วบางที่เดินเท้า บางที่ขี่อูฐ ขี่ม้าขี่ลา ไม่มีอะไรที่จูเหมยลี่คนนี้ทำไม่ได้หรอก"นายท่านขอรับ ม้าตัวนี้ส่งมาจากเป่ยเหลียงเชียวนะขอรับ เป็นม้าพันธ์ชั้นดี ราคาแพงไปสักนิดแต่ว่าคุ้มมากนะขอรับ"เถ้าแก่โรงค้าสัตว์เอ่ยเชียร์จนจูเหมยลี่รำคาญ นางมีความพิเศษติดตัวมาเพิ่งค้นพบสองวันก่อน นางจึงเดินไปที่คอกม้าก่อนจะยื่นมือออกไป กลิ่นฟีโรโมนของนางที่ได้กลิ่นเฉพาะสัตว์เท่านั้นจะได้กลิ่น ม้าตัวที่ได้รับกลิ่นเดินมาหานาง เป็นม้าเปรียว ดูท่าเป็นม้าป่า คนงานถอยห่างทันทีที่มันเดินมา เมื่อวานเพิ่งเตะคนงานจนกระดุกหักไปสองคน"เอ่อ ฮูยินท่านนี้ม้าตัวนี้เป็นม้าป่านะขอรับ เพิ่งจับมาได้ยังไม่ได้ฝึกเลยขอรับ เอ่อคือว่า""เด็กน้อย เจ้าอยากไปอยู่กับข้าหรือไม่ หากเจ้ายินยอมให้คำนับข้าสามที"อาชาสีดำสนิ
ฉู่หรานซินไปแล้วตรงไปห้องหนังสือ คงเพื่อไปถกกระโปรงนั่งคร่อมเฉิงอ๋องอีกตามเคย ในเมื่อไม่มีใครอยู่แล้วรออีกสักพัก ร่างเล็กๆของดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ซ่อนตัวใต้ศาลามาตลอดก็ค่อยๆหย่อนเท้าตนเองลงในน้ำก่อนจะทิ้งตัวเบาๆแล้วว่ายไปทางด้านหลังของตำหนัก มองซ้ายขวาไม่มีใครก็ขึ้นจากน้ำปีนไปยังเรือนร้าง เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจากนั้นก็เดินออกมาจากเรือนหลังนั้นสาวใช้เห็นดรุณีน้อยที่เดินออกมาก็ไม่ใส่ใจ ก็แค่ท่านหญิงที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว อีกไม่เกินเจ็ดวันก็ต้องแต่งงานไปเป็นฮูหยินรองของพ่อตาพระชายาแล้ว"ท่านหญิง มาเดินเพ่นพ่านแถวนี้ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ท่านแม่บอกไว้มิใช่หรือว่าให้ท่านสำรวมและเก็บตัว"สาวใช้นางหนึ่งพูดจาไม่ให้เกียรตินางก่อนจะเยาะเย้ย อ้ายซินไม่ใส่ใจ ก่อนจะเอ่ย"ข้ากำลังจะไปเป็นแม่เลี้ยงนาง เจ้าว่าใครต้องฟังคำสั่งใครหรือปี้เฉาหึ""แค่เมียรองนึกว่าตัวเองมีอำนาจหรืออย่างไร เหอะ"สาวใช้ไปแล้ว อ้ายซินกำมือแน่น เสด็จพ่อเป็นบิดาที่ไม่คู่ควรให้เคารพอย่างแท้จริง อย่างไรนางก็เป็นสายเลือดราชวงศ์ กลับเอานางให้ไปเป็นเมียน้อยตาแก่ฉู่นั้น เรื่องนี้เสด็จอาไม่รู้ พวกเขากีดกันไม่ให้นางเข้าวัง ฉู่หรานซินต
เซียวจ้านเป่ยลุกขึ้นก่อนจะลวงจากเตียง จากนั้นก็ช้อนเอาจูเหมยลี่ไว้ในอ้อมกอด พาเดินไปยังห้งใหญ่ที่บุตรสาวนอนหลับอยู่ วางนางลงตรงกลางแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ แขนของเขายาวพอที่จะโอบสองแม่ลูกไว้ในอ้อมแขนแล้วสามคนก็หลับไปด้วยกัน เซียวจ้านเป่ยกำลังคิดถึงสตรีอีกคนนึง นางจะทำตามแผนสำเร็จไหม ฉู่หรานซิน เสด็จพ่อในเมื่ออยากเป็นศัตรูกับข้านักก็ย่อมได้ยามเหมาเช้าแล้วจูเหมยลี่ตื่นเข้าครัวไปต้มน้ำสำหรับล้างหน้าให้สองพ่อลูกจากนั้นก็ต้มข้าวต้ม นำเนื้อหมูมาสับปั้นเป็นก้อนๆทำข้าวต้มหมู ตอนเช้ากินอะไรง่ายๆเพราะวันนี้จะไปตลาดในตัวตำบล"ท่านพี่ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ สายแล้วเดี๋ยวจะช้า วันนี้ท่านนัดชาวบ้านกับคนของคุณชายคังมาตัดไม้ซ่อมบ้านนะเจ้าคะ อื้อ"คนตัวโตรั้งนางลงมาจูบจนพอใจถึงยอมปล่อย ปากจูเหมยลี่บวมเจ่อ นางควรไปตลาดไหมเนี่ย ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังบวมอยู่เลย"ตื่นแล้วเมียจ๋า ผิงผิงตื่นหรือยังเอ่ย แม่กับพ่อจะไปตลาดซื้อขนมอร่อยๆแล้วนะ""หื้อๆๆๆ ท่านพ่ออย่าแกล้ง ข้าตื่นแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ผิงผิงตื่นแล้วข้าเก่งไหมเจ้าคะ""เก่งสิ ลูกสาวแม่เก่งที่สุดเลย มาๆไปล้างหน้าจะได้กินข้าวต้ม กว่าเกวียนจะถึงตลาดเดี๋ยวจะหิว
จูเหมยลี่ไปปลุกเซียวลี่ผิงก่อนจะเข้าไปในครัว ต้มน้ำสำหรับเช็ดตัวให้เขาก่อนตะวันตกดิน เดี๋ยวค่ำอากาศจะเย็นลงอีกจากนั้นก็เริ่มทำมื้อเย็น เป็นข้าวต้มกุ้งสับโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย นางไปไล่จับกุ้งมาตอนที่ฝนเริ่มพรำเม็ดเล็กๆเมื่อเช้าได้มาเกือบเต็มตะกร้า แต่เพราะสามีป่วยไม่อยากให้เขากินรสจัด จึงจับมานึ่งแล้วกะเอาแต่เนื้อกุ้งมาสับ จากนั้นก็ปรุงรส ต้มข้าวต้มใส่ข้าวเหนียวครึ่งกำมือทำให้ข้าวต้มข้นและเนียนนุ่ม ปรุงรสชาติเรียบร้อยก็ตักกุ้งโรยด้านบนตามด้วยกระเทียมและต้นหอม หากเซียวจ้านเป่ยหายดีนางจะขึ้นเขาไปหาพริกไทย นางแค่พูดว่าอยากได้ เดี๋ยวก็ได้กลิ่นและหาเจอเอง"ท่านแม่ข้าต้มอร่อยมากเจ้าค่ะ ท่านพ่อหายหรือยังเจ้าคะลูกเข้าไปเล่นกับท่านพ่อได้หรือยัง""ยังจ๊ะ ท่านพ่อยังมีไข้อยู่ ผิงผิงอยากกินยาขมๆเหมือนท่านพ่อหรือไม่เอ่ย""อืม ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านพ่อโตแล้วท่านพ่อกินได้ข้ายังเด็กอยู่กินไม่ได้เจ้าค่ะ"จูเหมยลี่หัวเราะกับความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวน้อย ได้นิสัยพ่อมาเต็มๆเลยจริงๆ ก่อนจะนำโจ๊กกับถ้วยยาเข้าไปให้เซียวจ้านเป่ยในห้อง เซียวจ้านเป่ยลุกขึ้นมานั่งกินโจ๊กที่นางนำมาให้ เขาคงคิดถึงนางแน่ๆหากไปกองทัพ ไม
คังหยุนกลุ้มใจเขาไม่อยากกลับเมืองหลวง เขารู้ตัวว่าตนเองตกหลุมรักจางลู่เหลียนเสียแล้ว เขาจะแต่งกับนางแต่ดูเหมือนว่าจางรั่วสุ่ยไม่อยากให้น้องสาวแต่งกับเขา เขามีเรื่องอะไรปิดบังมากกว่าเรื่องแก่งแย่งในสกุลหานหรือเปล่า อีกอย่างเซียวจ้านเป่ยเองพอโกนหนวดแล้วหน้าตาเขาคุ้นยิ่งนัก เหตุใดเขาหล่อเหลาเพียงนี้ ขนาดเขาเองเป็นบุรุษยังยอมรับเลยว่าเซียวจ้านเป่ยหน้าตาดีจริงๆเซียวจ้านเป่ยนอนหลับไปแล้ว เซียวลี่ผิงนั่งเล่นอยู่ในบ้านฝนตกเมื่อคืนนี้จนถึงยามเหมาจึงหยุด จูเหมยลี่สะพายตระกร้าไปเก็บผักป่าได้มามากมาย ชาวบ้านที่นางสอนให้หาว่าผักชนิดใดกินได้ก็พากันแห่ไปเก็บจนเต็มเขาด้านที่ติดกับหมู่บ้านบ้านของเซียวจ้านเป่ยอยู่ติดดับเขาอีกลูก เขาลูกนี้อันตรายชาวบ้านไม่กล้าขึ้นไป ต้นไม้หนาแน่นมากนัก เมื่อวานที่ตัดไม้ก็ตัดแค่บริเวณเชิงเขาเท่านั้น เพราะมีต้นไม้หนาแน่นไม่จำเป็นต้องขึ้นไปด้านบนจูเหมยลี่ได้ผักป่ามาสองตระกร้าใหญ่ นางจะนำมาตากแห้งแล้วสอนวิธีปรุงผักแห้งกับผักดองเหล่านี้ให้เซียวจ้านเป่ย เวลาที่เขาไปกองทัพจะได้ไม่ต้องทนหิวมากนัก เข้ามาก็เห็นบุตรสาวนั่งเล่นลูกสนที่นางแกะสลักแล้ววาดหน้าตุ๊กตาให้อยู่ก่อนที่นาง
จางลู่เหลียนรับปากก่อนจะไปดูหลานๆ พี่สะใภ้ไม่สบายมาสองสามวันแล้วไหนๆหมอมาแล้วก็ตรวจเสียทีเดียวเลยแล้วกัน จากนั้นก็เข้าไปหยิบพวงเงินที่มีอยู่สามพวง นี่เป็นดอกเบี้ยของเดือนนี้ที่ต้องจ่ายท่านหมอ จางลู่เหลียนก้มหน้าร้องไห้ นางควรกลับเมืองหลวงทวงทุกอย่างคืนดีหรือไม่ อย่างน้อยเด็กๆก็ไม่ลำบากเรื่องที่อยู่เรื่องอาหารการกิน เยี่ยอวี่ได้ยินเสียวสะอื้นก็เดินออกมานั่งลงข้างๆ"อาเล็กเรื่องเงินที่ติดร้านท่านหมอท่านไม่ต้องกังวลแล้ว เมื่อวานตอนที่เข้าเมืองไปซื้อของอาซ้อเซียวได้จ่ายให้หมดแล้ว ต่อไปท่านอย่าแบกทุกอย่างเอาไว้คนเดียวอีก็เลย""ฮือๆๆ อาซ้อข้าขอโทษนะ ที่ข้าชอบพูดจาทำร้ายพวกท่าน""อาเล็ก ข้าไม่ถือโทษโกรธท่านหรอก ท่านไปช่วยอาซ้อเซียวเถอะ นางต้องหุงหาอาหารสองบ้านอีกทั้งสามีป่วยมีไข้ ท่านไปช่วยอีกคนจะได้เร็วขึ้น หากไม่เพราะข้าลุกแล้วเวียนหัวข้าก็จะไปด้วยเช่นกัน"จางลู่เหลียนเข้าไปห่มผ้าให้เด้กสองคน เอาน้ำผึ้งที่จูเหมยลี่ให้มาผสมน้ำอุ้นให้เยี่ยอวี่ดื่มแก้เวียนหัว ก่อนจะตรงไปบ้านของจูเหมยลี่เพื่อช่วยนางทำมื้อเช้าแล้วก็ช่วยดูแลเซียวลี่ผิงวันนี้จูเหมยลี่แจ้งแก่ท่านปู่ใหญ่จูเก่อคังว่ายังไม่ต้องมาตัด
จูเหมยลี่นอนมองหน้าผู้ชายที่กอดนางอยู่ ความรักที่นางโหยหามาตลอดตั้งแต่เด็กๆ พ่อทำแต่งาน แม่ทิ้งไปไม่ไยดี ผู้ชายคนนี้เซียวจ้านเป่ยคือคนที่มาเติมความรักของนางที่ขาดหาย จูเหมยลี่จูบตรงที่หัวใจของเขาก่อนจะกอดเอวหนาแล้วซบหน้ากับอกแกร่ง เสียงละเมองึมงำจากคนตัวโตทำให้นางต้องหัวเราะ"ลี่เอ๋อร์ข้ามีเจ้าแค่คนเดียว ข้ารักเจ้าแค่นั้น อืมเมียจ๋าข้ารักเจ้า อยากเข้าหอจะตายแล้วเนี่ย เหมยลี่จ๋า ลี่เอ๋อร์จ๋า""ท่านพี่ นี่ท่านหื่นถึงขนาดนอนละเมอเลยหรือ คนลามกหน้าหนา"จากนั้นจูเหมยลี่ก็หลับตามเขาไป จูเหมยลี่ที่ตอนนี้มีชิวิตใหม่กับบุรุษที่รักนางแล้ว แต่เธอไม่รู้เลยว่าบิดาแต่งงานใหม่แล้วตอนนี้มีลูกฝาแฝดสองคน ส่วนคุณแม่ของเธอสามีกำลังถูกสั่งฟ้องข้อหาฉ้อโกงเพราะใช้ตำแหน่งรับเงินสินบน แม่ของเธอกำลังมาอ้อนวอนขอร้องพ่อเธอให้ช่วย แต่จูล่งปิดประตูใส่หน้า สามีเธอกล้าใช้อิทธิพลที่เมืองไทยจ้างวานฆ่าลูกสาวฉัน ไปลงนรกเสียทั้งคู่นั้นแหละ จูล่งรู้แล้วว่าสามีใหม่ของอดีตภรรยาไม่ต้องการให้ลูกเมียเก่ามาวอแวอีก เขาไม่อยากให้ใครรื้อฟื้นว่าเขาแย่งเมียคนอื่น กำลังจะเลือกตั้งครั้งใหญ่เขาต้องสะอาดรวมถึงประวัติของภรรยาด้วย จูล่งต้