เด็กหนุ่มถูกจับมาอยู่ในท่านอนหงายกับโต๊ะอีกตัวที่ไม่ยาวเหมือนโต๊ะกินข้าวเมื่อกี้ ศีรษะของเขาอยู่พอดีขอบด้านหนึ่งของโต๊ะ ส่วนก้นก็อยู่พอดีกับขอบโต๊ะอีกฟาก
“เฟย์มึงเอาเด็กคนนี้ต่อสิ” เสียงของดอมผู้กำกับจอมสั่ง พอพูดไปเขาก็แปลกใจตัวเองที่เปลี่ยนสรรพนามจากดุดันมาเป็นนุ่มนวลขึ้นโดยไม่รู้ตัว
น่าแปลกที่เฟย์มาดเนี้ยบทำตามอย่างว่าง่าย มือใหญ่ของเฟย์จับข้อเท้าให้แยกออก ทำให้ต้นขาเล็กผอมแต่มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยของเด็กหนุ่มถูกแยกถ่าง
แล้วอัลฟ่าโรงงานยาหม่องก็วางปลายเท้าเรียวบางข้างหนึ่งบนไหล่หนา ฝ่าเท้าบางส่วนวางราบกับกล้ามหน้าอกนูนแกร่งของตัวเอง
จะว่าไปท่าทางนั่นก็ดูคล้ายการแสดงความเทิดทูนโอเมก้าเด็กเสิร์ฟอยู่บ้างนิดหน่อย
จากนั้นทายาทธุรกิจก็แทรกความเป็นชายเข้าไปอีก ก่อนจะร้อง “อ๊า” อย่างโหยหวน
ส่วนเด็กหนุ่มหลับตาไม่รับรู้อะไรแล้ว การเพิ่งหลั่งออกไปทำให้ในสมองของเขาเหมือนมีแต่สีขาว ถ้าพวกอัลฟ่าจอมหื่นจะทำอะไรกับร่างกายของเขาก็ปล่อยมันทำไปเถอะ เขาไม่เหลืออะไรให้เสียแล้ว
ตับ ๆๆ
เสียงดุ้นของเฟย์กระแทกกับเนื้อก้นลูกพีชของเหยื่ออย่างรุนแรง เขาต้องทำแรง ๆ เพื่อให้ตัวเองรีบปลดปล่อย ก่อนรูจีบของเด็กหนุ่มจะทนรับอีกไม่ไหว
“อึก กูทนไม่ไหวแล้ว!” เด็กหนุ่มที่หลับตานอนบนโต๊ะไม่แน่ใจว่าคือเสียงของดอมหรือคิงที่กรีดร้องประโยคนี้
แต่แล้วเขาต้องตระหนักจนเบิกตาโพลง เมื่อสัมผัสถึงแรงบีบค่อนข้างหนักที่ลำคอ เขาเหลือกตามองแล้วก็เห็นว่าเป็นดอมจอมโหดที่ยึดคอเขาจากข้างซ้าย ส่วนข้างขวาคือคิง
เด็กหนุ่มมองสองหนุ่มทำหน้าหื่นกระหาย มือข้างที่ว่างเล่นกับแก่นกายของตัวเองอย่างไม่กลัวว่ามันจะหลุดติดมือออกมา เขาแทบได้ยินเสียงชัก ๆ รู้ชัดเลยว่าต่างคนต่างกลั้นไม่ไหวแล้ว และต้องการปลดปล่อยออกมาเดี๋ยวนี้
ดอมมองผิวขาว ๆ ที่พ้นฝ่ามือของเขาออกมา คือผิวระหว่างใต้คางกับต้นคอของเด็กหนุ่มที่กลายเป็นสีชมพูจัดอันเนื่องจากอากาศไหลเวียนไม่สะดวก เสียงคล้ายสำลักออกมาจากริมฝีปากสีสด น้ำตาคลอเบ้าจนเปียกแพขนตางอนของเด็กหนุ่ม
“คร่อก ๆ อึก”
และในฉับพลันทันใด จากภาพและสัมผัส ดอมก็บรรลุถึงจุดสุดยอด
“อ๊าก กูแตกแล้วโว๊ย!” ตอนพูดประโยคนี้ ดอมรีบปล่อยมือจากลำคอ
แต่หนุ่มรอยสักจอมโหดไม่ยอมพลาดเด็ดขาดที่จะจ่อหัวท่อนเนื้อตัวเองที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มก่อนจะระเบิดความสุขออกมาไม่ยั้ง
เหยื่อเด็กหนุ่มที่นอนแผ่อ้าซ่าอยู่ตกใจนิดหน่อยตอนความอุ่นวาบของอัลฟ่าดอมกระเซ็นถูกใบหน้า บางหยดเหนียวข้นเลอะเปลือกตาและแพขนตาทำให้เขาต้องกะพริบตาถี่ ๆ
“อ๊าก” และแน่นอนว่าคนต่อมาที่สำเร็จเสร็จสมคือคิง ซึ่งทำเลียนแบบอย่างที่เพื่อนเขาทำ
ตอนนี้ใบหน้าของเด็กหนุ่มเปรอะไปด้วยน้ำรักปริมาณคูณสอง ตอนเขาอ้าปากค้าง น้ำรักก้อนใหญ่ทะลักพรวดเข้าปาก
และไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคิดอะไรในหัว เขากลืนมันลงไปอย่างไม่รังเกียจ ลูกกระเดือกของเขาขยับรัว ๆ สองสามที
และการที่ทำแบบนั้นให้ทำให้คนที่เร่งความเร็วในการกระแทกเอวกับช่องทางสีหวานถึงกับเร่าร้อนทนไม่ไหว เฟย์เอนร่างลงมา กรีดร้องแล้วยิ่งเร่งซอยเอวยิก
“โอ๊ย เหี้ยเอ๊ย”
และในวินาทีต่อมาเขาก็แอ่นร่าง เชิดหน้าสูง เฟย์รีบดึงดุ้นตัวเองออกมาเร็วจนคนนอนสะดุ้งด้วยความเจ็บ ถุงยางถูกรูดทิ้งก่อนโยนลงพื้น แล้วดุ้นของเขาก็พ่นพิษสีขาวเลอะเต็มหน้าท้องของเด็กหนุ่ม
‘เสียดายแตกใส่หน้าไม่ทัน’ นี่คือความคิดของทายาทโรงงานยาหม่อง
ต่อจากนั้นสามหนุ่มก็ยืนหอบแฮก มองร่างผอมบอบบางนอนหงายอ้าซ่า ท่าทางหมดสภาพ ใบหน้าและหน้าท้องมีเปื้อนเปรอะเต็มไปด้วยหยดของเหลวสีขาว สองขาถ่างกว้างสั่นระริก เนื้อตัวเปียกไปด้วยเหงื่อของตัวเองที่ปนกับหยดเหงื่อของสามหนุ่ม
เด็กหนุ่มมองกลับสามหนุ่มด้วยดวงตาสวยเหมือนตากวาง ทว่าสับสนและงุนงง ในนั้นมีคำมากมายที่อ่านได้ว่า ‘เขาทำอะไรผิด’
+++++
ตอนคิงลืมตาตื่นขึ้นมา เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือตัวเองก่อนอื่น
‘เกือบเจ็ดโมงเช้าแล้ว’
แสงยามเช้าทอผ่านผ้าม่านที่ไม่ได้รูดปิดสนิท เกิดเป็นความสว่างอ่อนละมุน เขาเห็นเพื่อนทั้งสองยังหลับอยู่ ต่างคนต่างนอนหลับใหลไร้สติ ร่างทั้งสองก่ายเกยกันเหมือนตอนไปเที่ยวแล้วนอนด้วยกันสมัยยังเป็นนักเรียน ต่างกันแค่ตอนนี้อายุพวกเขาจะเข้าเลขสี่กันแล้ว
พอหนุ่มใจเย็นสูดหายใจเข้าลึก เขาก็ปวดหัวตึบ จนต้องเอามือกุมศีรษะไว้แน่น
‘เมื่อคืนหนักไปหน่อยนะเรา’
คิงมองเพื่อน ๆ ที่นอนเปลือยไม่รู้เรื่องรู้ราว ร่างใหญ่โตในวัยฉกรรจ์น่าเกรงขามยามตื่นทว่าในยามหลับดูอ่อนแอไร้เดียงสา ภาพนั้นทำให้เขาส่ายหน้า กระตุกยิ้ม
หนุ่มมาดนุ่มจำได้ว่าพวกเขาทำอะไรกันเมื่อคืน ตั้งแต่รู้จักกันมาทั้งสามหนุ่มไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวกันมากไปกว่าแค่อวด หรือแค่จับอวัยวะเพศกันเล่นตามประสาเด็กผู้ชาย พวกเขาไม่เคยปรารถนาในเรือนร่างของกันและกัน
แต่การได้เห็นเพื่อนเอากับโอเมก้า ใช้รับร่วมกันอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน นั่นมันคนละอารมณ์เลย
จู่ ๆ คิงรู้สึกคอแห้ง
แล้วเขาก็นึกย้อนถึงสาเหตุที่พวกเขาหลับไปทั้ง ๆ ที่เปลือยกาย เรื่องของเด็กหนุ่มโอเมก้าคนนั้นก็หวนกลับมาในสมอง
‘ว่าแต่เด็กนั่นอยู่ไหนวะ’
คิงลุกขึ้น เห็นเสื้อผ้ากับชั้นในเกลื่อนทั้งห้องไม่รู้ของใครเป็นของใคร เขาเลยคว้าผ้าผืนหนึ่งที่อยู่บนโซฟามามัดเอวไว้แบบลวก ๆ
ความคิดแรกคือตั้งใจจะปลุกเพื่อน ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูหลายครั้ง เขาเลยมุ่งไปตรงนั้นก่อน
พอประตูเปิดก็เป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยกะดึกนั่นเอง คิงรู้ว่าชายคนนี้ชื่อนายชื่น เป็นชายวัยกลางคนแต่ยังแข็งแรงทะมัดทะแมงยิ่งกว่าหนุ่ม ๆ บางคน
“สวัสดีครับ ขอโทษที่มารบกวนแต่เช้า คือผมกำลังจะออกกะแล้วเลยรีบมาบอกก่อนกลับบ้านครับ” แววตาของนายชื่นเหลือบเห็นความน่าสงสัยว่าเหตุใดเพื่อนของเจ้านาย รวมถึงเจ้านายตัวเองที่นอนหลับใหลถึงไม่ใส่เสื้อผ้า แต่เพราะเกรงบารมีของเจ้านายอย่างดอมเลยต้องหุบปาก แล้วเก็บความสอดรู้ใส่ลิ้นชักไว้
“เห็นมีคนบอกว่าเมื่อคืนมีพนักงานคนหนึ่งขโมยกระเป๋าเงินของคุณคิงใช่ไหม”
“ใช่แล้ว”
“พวกผมดูกล้องวงจรปิดตอนที่มันเกิดขึ้น เลยรู้ว่าเป็นไอ้โต”
“อะ…ไอ้โต คือใคร”
“พนักงานใหม่น่ะครับ มีพนักงานเราคนหนึ่งแนะนำมันมาทำงาน เพิ่งทำที่นี่ได้แค่สัปดาห์เดียวเองก็ออกลายซะแล้ว มันพักอยู่หลังผับนี่เองครับ ผู้จัดการไปลากคอมันมาแต่เช้ามืดเลยเพราะกลัวมันหนี ตอนนี้มันถูกขังไว้ในห้องเก็บของข้างล่าง พวกคุณจะไปสอบปากคำมันไหมครับ”
คิงเกาศีรษะแกรก แล้วเขาก็นึกออกทันที “อืม ว่าแต่เดี๋ยวนะ ไอ้โตนี่หน้าตายังไง”
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทำหน้างง “ก็หุ่นหมี ๆ ตัวไม่สูง ผิวขาว หน้าเหลี่ยม ๆ น่ะครับ”
จากนั้นดวงตาของคิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ ลางสังหรณ์บอกว่าเขากับพรรคพวกทำได้ผิดพลาดร้ายแรงอย่างยิ่งเมื่อคืน
เวลาผ่านไปอีกหลายชั่วโมง สามหนุ่มใหญ่อัลฟ่านั่งเงียบอยู่ในรถปอร์เช่คาเยนน์สีดำของดอม รถจอดสนิทอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งที่พวกเขาได้ข้อมูลมาจากพนักงานคนหนึ่งของผับบลูว่า ที่นี่เป็นที่พักของเด็กหนุ่มคนที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนักล้วงกระเป๋านั่นเองความคิดที่ตรงกันของสามหนุ่มคือคอนโดนี้ดูดีเกินมาตรฐานรายได้พนักงานเสิร์ฟในผับไปค่อนข้างมากและในรถต่างคนต่างเกี่ยงกันทำหน้าที่ที่ไม่มีใครอยากทำ“มึงควรลงไปนะดอม เพราะมึงเป็นคนไปหาเรื่องน้องเขาก่อน” คิงกล่าวหาเพื่อน“อ้าวไหงเป็นงั้น ที่กูทำเพราะทวงกระเป๋าตังค์ให้มึงนะไอ้เหี้ยคิง” ดอมที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยไม่ยอมแพ้คิงจนด้วยเหตุผล เขาพ่นลมหายใจออกแรง ๆ นั่งกัดเล็บ ส่วนดอมก็ใช้สันมือเคาะพวงมาลัยไปมาจู่ ๆ คิงก็แหกปากร้องจนสองหนุ่มสะดุ้ง“เฮ้ย ๆ พวก น้องเขาออกมานอกตึกแล้วว่ะ ท่าทางกำลังออกไปข้างนอก” เฟย์บอกบ้าง“เออ จริง ๆ ด้วย” สองหนุ่มที่เหลือยืดคอขึ้น กดหน้าแทบติดกับกระจกรถสามอัลฟ่ารุ่นคุณอาเห็นร่างเล็กบางในชุดขาวกับหมวกแก๊ปเครื่องแบบของร้าน เหมือนกำลังออกไปทำธุระข้างนอกสักอย่าง“เร็ว ๆ สิวะ ใครจะไปคุยกับน้องเขาก็รีบ ๆ เลย” ดอมลุ้นอยู่หลังพวงมาลัย แต
หลินไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะหลงคารมของหนึ่งคนในนั้นและตกปากรับคำจะออกมาเที่ยวร่วมกับสามหนุ่มวัยคุณอาที่เขาใจอ่อนเพราะความสุภาพน่ารักของพี่เฟย์ คนที่ดูมีวาทศิลป์ที่สุดในบรรดาทั้งสาม อีกทั้งการชดเชยด้วยเงินสดในทันที กับถ้อยคำหวานที่บอกว่า‘พวกพี่รู้สึกผิดจริง ๆ นะ เลยอยากขอโทษ หวังว่าหลินคงให้โอกาสพวกพี่ได้แก้ตัว...นะครับน้องคนดี’หลินนึกถึงเงินสดจำนวนสามแสนบาทถ้วน มันไม่มากเลยในฐานะผู้เสียหายในเรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่น้อยเช่นกันหากนับว่าประสบการณ์ที่ได้กับสามคนนั้น อันที่จริงพวกเขาไม่ได้เป็นชายหนุ่มที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด ถ้าจะให้ยอมรับตรง ๆ ก็คือสามคนนั้นคือหนุ่มใหญ่ที่ดูดีมาก ๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาพอคิดถึงตรงนี้หนุ่มน้อยรู้สึกคอแห้งรสชาติของอัลฟ่าร้อนแรงแบบนี้นี่เอง แม้เมื่อคืนจะเป็นเหตุการณ์กึ่งไม่สมยอม แต่หลินยอมรับว่าหลังจากทำกันไปสักพัก ช่วงหลัง ๆ เขาเองก็มีอารมณ์อยู่ไม่น้อยพอมาเจอกันอีกครั้งในคืนนี้ ถึงรู้ว่าทั้งสามคนไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียว ยังมีฐานะดีอีกต่างหาก แม้ทั้งสามจะดูมีอายุ แต่ผิวพรรณยังเปล่งปลั่งอย่างผู้ชายที่ดูแ
อีกไม่นานต่อมา ทั้งสี่หนุ่มก็มาถึงที่หมาย ตรงทางเข้าหนุ่มน้อยหลินแหงนหน้ามองอย่างชื่นชมไปที่หลอดไฟนีออนสีชมพูที่ขดเป็นตัวอักษร ‘León’แค่ก้าวแรกในผับก็ให้ความรู้สึกดีเยี่ยม ความมืดและความสว่างผสมผสานกันจนสร้างบรรยากาศอันแปลกตาที่หาไม่ได้จากที่ไหน ราวกับเจ้าของจงใจสร้างโลกใบใหม่ที่มีทั้งความลึกลับ เย้ายวน และน่าตื่นเต้นเด็กหนุ่มโอเมก้าสังเกตเห็นว่า ทันทีที่หนุ่มดุดันกว่าเพื่อนเดินนำ ก็มีพนักงานพากันยกมือไหว้และทำท่านอบน้อมดอมเต็มไปหมด ก่อนนำพวกเขาทั้งสี่ไปยังที่หมายอีกไม่นานเฟย์ทำหน้าที่ชงเหล้าให้ แม้จะอิ่มพุงกางแต่พวกเขายังสั่งของกินเล่นสองสามอย่างมาด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ของที่ลีออนทันสมัย และถูกมิกซ์มาในแบบที่หาฟังจากที่อื่นไม่ได้ พวกหนุ่ม ๆ เพลิดเพลินบนที่นั่งโซฟา โยกหัวไปตามจังหวะหลินมองซ้ายขวาและยิ้มกว้าง เขารื่นรมย์กับบรรยากาศ แอลกอฮอล์ถูกเติมเข้าร่างอย่างต่อเนื่อง จากรอยยิ้มจึงเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะใสร่าเริง ฟันขาวของเขายามมองในแสงแบล็กไลต์ข้างในผับเห็นเป็นสีน้ำเงินดูลึกลับ“ชอบไหมหนู” เฟย์เห็น
การจูบเร่าร้อนแทบทำผับไหม้สะดุดลงเมื่อเด็กหนุ่มเซนเตอร์คือคนแรกที่หยุดเคลื่อนไหวริมฝีปากเขาเอ่ยเสียงแหบ ๆ ว่า “ผมว่าเราไปจากนี่ดีกว่าไหม”“เอ้อ…” สามหนุ่มยังติดพันกับรสชาติ แต่เพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรทำแบบนี้ที่นี่ แค่สองคนจูบกันก็ดูโจ่งแจ้งจะแย่แล้ว นี่เล่นฟัดกันนัวตั้งสี่คนนักท่องราตรีบางคนมองพวกเขาด้วยสายตาเชิงตำหนิ พอถึงตอนนี้สามหนุ่มอัลฟ่าต่างหน้าแดงด้วยความอับอายและสามหนุ่มแด๊ดดี้ยิ่งรู้สึกแย่ตอนตาสวยเหมือนกวางของเด็กหนุ่มแสดงอารมณ์รู้สึกผิดด้วยเช่นกัน อันเนื่องจากสายตาคนอื่นที่มองมาอย่างกล่าวโทษ‘เมื่อกี้ที่ทำเหมือนพวกกูรุมข่มเหงเด็กเลยว่ะ รู้สึกตัวเองสารเลวอย่างบอกไม่ถูก’เฟย์คิดว่าหลินอยากกลับบ้านแล้ว เขาเลยบอกว่า “เอาสิ หลินอยากให้พวกพี่ไปส่งที่ไหนคราวนี้เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว “ไหนบอกจะพาผมไปดูโรงถ่ายของพวกพี่ไม่ใช่เหรอครับ”คำตอบนั่นทำให้สามคนแปลกใจ ไม่คิดว่าหนุ่มน้อยจะเอาจริงขนาดนี้พอหนุ่มน้อยทวงสัญญา ดอมจึงโทร.เรียกคนขับรถให้นำรถของตัวเองมาส่งที่ผับลีอ
เด็กหนุ่มไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะยอมทำอะไรเช่นนี้ แต่ในเมื่อเขาเป็นคนเรียกร้องจะทำเรื่องนี้ก่อนเลยช่วยไม่ได้คำพูดที่ดอม แด๊ดดี้อัลฟ่าที่ดูดุดันที่สุดในบรรดาเพื่อน ๆ ขอกับโอเมก้า คือเขาอยากให้หลินถูกปิดตาตลอดช่วงกิจกรรมที่จะเกิดต่อจากนี้และโดยไม่รู้ตัว เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบไปตอนนี้หลินมานอนบนเตียงใหญ่ของคิง ถอดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของคิงออกไปแล้ว ด้านล่างของใส่กางเกงในบ๊อกเซอร์ของอัลฟ่านายช่างใหญ่ที่เพิ่งค้นจากตู้มาสวมไว้กันอุจาดเมื่อกี้นี้เองในท่านอนหงายเปลือยท่อนบนเด็กหนุ่มรู้สึกว่าแข้งขามือไม้ของตัวเองดูเป็นส่วนเกินอย่างไรบอกไม่ถูก แต่ก็พยายามจัดท่าทางให้ตัวเองสบาย เขายกแขนข้างหนึ่งหนุนศีรษะที่อยู่บนหมอนไว้อีกที จากนั้นก็หลับตาและรอคอยหลินไม่ได้ยินเสียงตอนสามหนุ่มเดินเข้ามา แต่เขาสัมผัสถึงไอของอัลฟ่าที่เข้มข้น ที่ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มีถึงสาม และอิทธิพลของมันมากพอจะทำให้เด็กหนุ่มต้องเอามือกุมเป้ากางเกงไว้ทันทีความรุ่มร้อนและเปียกแฉะทำงานอย่างว่องไว นี่แค่ได้กลิ่นเท่านั้นนะปุด ๆพอลืมตาเขาก็เห็นสามหนุ่มอัลฟ่าแด๊ดดี้เปลือยท่อน
ในเมื่อเด็กหนุ่มโอเมก้าตัดสินใจแล้ว เขาจึงทำอย่างไม่กั๊กและไม่ลังเล ตอนแรกแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร แต่พอผ่านไปสักพัก ด้วยการโฟกัสประสาทกลิ่นกับสัมผัส สุดท้ายเขาก็แยกเจ้าของของมันได้ส่วนบรรดาอัลฟ่าต่างมองสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่อย่างไม่อยากเชื่อ ครั้งนี้อาจนับว่าเป็นการจัดเต็มครั้งแรกจริง ๆ เพราะครั้งก่อนที่ห้องพักในผับบลู พวกเขาทำไปอย่างไม่มีสติเท่าใดนักดุ้นแก่นกายของแต่ละคนแข็ง พุ่งชี้ไปข้างหน้าอย่างท้าทายในขณะที่มันกลืนหายเข้าไปในโพรงปากของเด็กหนุ่ม สลับกันทีละคน ๆ“อา หลิน โอย ทำไมเก่งแบบนี้”ดอมคือคนแรก เขาจิกเส้นผมนุ่มของเด็กหนุ่ม ตามองลง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาวางบนเตียงเพื่อทำให้หว่างขาของตัวเองแยกถ่างที่สุด ท่วงท่านั้นราวกับท่วงท่าของรูปปั้นวีรบุรุษผู้กล้าแล้วต่อจากนั้นคือเฟย์และคิง“โอย แม่งดีเป็นบ้าเลย อา อูย”“หลินของเราคือสุดยอด อ๊า”“ลึก ๆ กว่านี้สิ แบบเมื่อกี้ ขออีกทีนะ อ๊าก เสียว”ดอมที่ว่างจากการถูกกลืนกินทำตัวเป็นประโยชน์กับเพื่อน ด้วยการโน้มตัวลงไป ใช้นิ้วแหวกร่อง
แด๊ดดี้เฟย์ถึงกับต้องหยุดขยับเอวทันทีหลังจากดุ้นเข้าไปลึกสุดรูเป็นครั้งแรก เขาหอบลิ้นห้อยเหมือนสุนัข เหงื่อหยดแรกเริ่มไหลลงมาตามขมับ“มึงเสียอาการขนาดนี้เลยหรือวะ” คิงทำหน้าสงสัย ชักอยากสัมผัสความรู้สึกแบบนี้เร็ว ๆ แล้วสิ“เห็นมะเมื่อกี้กูไม่ได้แสดงออกเกินไปนะโว้ย มึงรู้แล้วใช่ป่ะ” ดอมเอ่ย“ถ้าไม่หยุดกูต้องแตกเข้าไปในตัวน้องเขาแน่” หนุ่มมาดรวยบีบตาแน่น แยกเขี้ยวสูดปาด“หยุดเลย! อย่าเพิ่ง มึงจะทำตัวเป็นนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ หรือเป็นเรือล่มตั้งแต่ยังอยู่ปากอ่าวแบบนี้ไม่ได้ เสียชื่อเฟย์เจ้าสำราญหมด” คิงแซวเฟย์อดกระตุกยิ้มไม่ได้ทั้งที่ยังหอบอยู่ “กูได้รับสมญานี้ตั้งแต่เมื่อไร”“กูเพิ่งตั้งให้เมื่อกี้” คิงยิ้มทำหน้าทะเล้นแต่จู่ ๆ ดอมก็ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขาโน้มตัวมาจูบเพื่อนที่กำลังตกที่นั่งลำบาก ที่ทำเพราะอยากช่วยให้เฟย์ผ่อนคลายความเครียดนิ้วมือแข็งแรงของดอมยึดที่หลังคอแข็งแรงของเฟย์ คนถูกจูบชะงักไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะตอบสนองอีกคนด้วยความร้อนแรงไม่แพ้
เด็กหนุ่มผู้ถูกปิดตาได้ยินคำขออันท้าทายกล้ามเนื้อหูรูดอย่างยิ่งแล้วรู้สึกตื่นตกใจ “อ๊ะ ผมไม่เคยทำถึงขนาดนี้มาก่อนเลย”“พวกพี่ก็ไม่เคยเหมือนกัน” ดอมตอบหน้าตาย“ยังไงซะพวกเราแล้วแต่หลินนะ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ว่ากันอยู่แล้ว” คิงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลตามสไตล์“พวกพี่อยากให้มีความสุขไปด้วยกัน” เฟย์เสริมซึ่งน่าแปลกที่พอโอเมก้าได้ยินเช่นนี้แล้วบังเกิดแรงจูงใจบางอย่าง ความกลัวกึ่งอยากลองก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มคิดว่า หากบรรดาแด๊ดดี้หักหาญน้ำใจด้วยการบังคับให้เขาจำยอมแม้แต่นิดเดียว เขาจะปฏิเสธทันที แต่พอทั้งสามคนมีท่าทีแบบนี้ก็เลย…‘คิดซะว่าเป็นการทดลองละกัน’ เด็กหนุ่มให้กำลังใจตัวเองก่อนตัดใจตอบไปว่า“อื้อ งั้นลองดูสักนิดก็ได้ครับ”“ว้าว,โอ้,เย้”“ว่าแต่ของพวกพี่แต่ละคนใหญ้ใหญ่อะ ผมกลัวจังเลย” เด็กหนุ่มใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้จบกันเหมือนเครื่องหมายโอเค ก่อนจะแยกนิ้วออก เป็นการกะขนาดว่าถ้าหนึ่งดุ้นเท่านี้ สองดุ้นจะอวบหนาขนาดไหน เหมือนใช้
“ท่านหงให้พวกเราทุกคนฝังไมโครชิปที่หลังมือ” ดอมเฉลยพร้อมกับยกหลังมือให้เห็น ผิวตรงนั้นมีจุดแดงจาง ๆ เหมือนตุ่มมดกัด“หา? นั่นหมายถึง...” เด็กหนุ่มอ้าปากค้างอย่างพิศวง“ท่านหงบอกว่าถ้าพวกเราอยากมาเจอหลิน ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ายินดีเสียสละเพื่อหลิน ลูกชายคนสุดท้ายของเขาจริง ๆ” ดอมเริ่ม“การฝังชิปเปรียบเหมือนการยอมให้เขาติดตามตัวเราได้ตลอดชีวิต ท่านหงบอกว่า วันใดที่พวกเราทำให้หลินเสียใจ ถ้ามีชิปนี้อยู่ที่ตัว ไม่ว่าจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวแค่ไหน เขาก็จะให้คนออกตามล่าพวกเราจนได้” เฟย์เสริม“และชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ฝังลงไปได้อย่างเดียว เอาออกมาไม่ได้ ถ้าพยายามเอาออก มันจะระเบิด” คิงอธิบายแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกเด็กหนุ่มเอามือปิดปาก แววตาเบิกโพลง “นั่นไง ผมกะแล้วว่าคนอย่างพ่อผมไม่มีทางให้อะไรใครฟรี ๆ แน่ แล้วพวกพี่ยอมได้ยังไง มันคือทั้งชีวิตของพวกพี่เลยนะ!”ดอมผู้มั่นใจยักไหล่ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง “ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี่ ยังไงเราก็ไม่คิดจะทิ้งหลินไปไหนอยู่แล้ว”
ที่บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งริมทะเลสาบธรรมชาติที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เงียบสงบและมีประชากรเบาบาง และกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่จากถนนใหญ่ยังไม่ง่าย ดังนั้นอาจนับได้ว่าบ้านหลังนี้คือเซฟเฮ้าส์ที่ปลอดภัยและแทบตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงอย่างไรก็ตามด้วยอำนาจเงินก็ดลบันดาลให้ที่พักแห่งนี้เป็นที่อยู่ที่สะดวกสบายมากแห่งหนึ่งแม้ภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าจะสวยงาม แต่เด็กหนุ่มทายาทมาเฟียชื่อก้องก็ถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในบ้านเขาหดหู่สุดขีด นี่ยังดีที่พอออกมาสู่ธรรมชาติแล้วจิตใจคล้ายถูกเยียวยาขึ้นมาบ้างเด็กหนุ่มจำเป็นต้องอยู่ที่บ้านริมทะเลสาบแห่งนี้ ที่เขาเซ็งสุดขีดเพราะตระหนักได้ว่าสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากถูกกักขัง สุดท้ายหลังจากพยายามแทบตายก็ต้องกลับมาเป็นเด็กไม่รู้จักโตของคุณพ่ออีกรอบ ไร้อิสระสิ้นดีพ่อบอกให้เขาอยู่ที่นี่ก่อนจนกว่าความคิดจะเข้าที่เข้าทางแล้วค่อยมาคุยกันเด็กหนุ่มถอนใจอีกรอบ อย่างไรก็ดีคราวนี้หลินไม่มีความคิดที่จะหนีไปไหนอีก ลึก ๆ เขารู้สึกผิดกับครั้งที่แล้วที่หนีออกจากบ้านถัดจากการหนี ก็เจอเรื่องไม่คาดฝัน
ดอมเพิ่งนึกออกว่าตลอดเวลาที่รู้จักกัน หลินไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของเขา บอกแค่ว่าพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดและเขาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เลยต้องหาเงินส่งให้ที่บ้านความตระหนักรู้ในสมองของหนุ่มร้ายส่งเสียงกระดิ่งกริ๊งลั่นในหัว ‘ถ้าพ่อมีลูกน้องตัวใหญ่เป็นยักษ์แถมมีหน้าโหดแบบนี้ พ่อของหลินก็น่าจะเป็น…’ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดได้อย่างเดียวชายตัวใหญ่ที่หลินบอกว่าชื่อวินย่างเข้ามา มือขยับแว่น แต่เหลือบเห็นมือใหญ่ของดอมที่จับข้อมือเล็กของหลินไว้ วินจึงเอ่ยว่า“คุณเอ้อ คือคุณดอมนั่นเอง ได้โปรดปล่อยคุณหลินมากับเราเถอะครับ”“ทำไมต้องปล่อย นายเป็นใครเนี่ย แล้วจะพาหลินไปไหน” ดอมรีบดึงตัวเด็กหนุ่มมาใกล้ แล้วก้าวไปอยู่ข้างหน้าแทนทันทีอย่างปกป้อง“เอ้อคือว่า…” คนชื่อวินใช้นิ้วเขี่ยที่มุมปากอย่างยุ่งยากใจ“แล้วทำไมนายถึงรู้จักฉัน” ดอมส่งเสียงดังข่มขู่“ก็เพราะคุณพ่อของคุณ คุณเด่นชัย เขารู้จักกับนายท่านหง ตั้งแต่ตอนคุณเด่นชัยยังทำงานให้บอสใหญ่ของผม”ดอม
สองหนุ่มนอนกอดก่ายกันในรถ หลินหนุนแขนล่ำของคิง ศีรษะทุยสวยวางพอดีตรงรอยต่อของหัวไหล่กับหน้าอก คิงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียนที่ยังมีเหงื่อชื้นซึม ฝ่ามือใหญ่ลูบเส้นผมอ่อนนุ่มที่ยังเปียกนิดหน่อยตรงปลาย“หิวไหม”“เริ่มหิวแล้วครับ”“งั้นเดี๋ยวแต่งตัวแล้วไปกันเลยดีกว่า”เด็กหนุ่มชูแขนขึ้นด้วยท่าทีน่ารัก “เย้ ปิ้งย่างเกาหลีที่รอคอย”“โอ้ พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เราหิว”หลินแลบลิ้นอย่างล้อเลียน “ไม่หิวขนาดนั้นหรอกพี่” แล้วเขาก็นึกอะไรได้ หนุ่มโอเมก้าจึงรั้งตัวคิงที่เพิ่งลุกขึ้นมานั่งด้วยการบีบเบา ๆ ที่ต้นแขน “ผมมีเรื่องอยากถาม ที่จริงคือผมสงสัยมาแล้วก่อนหน้านี้”“หือ เรื่องอะไร”“พี่รู้เรื่องที่ผมกับเพื่อนพี่อีกสองคนมีอะไรกัน…”คิงชิงพยักหน้าก่อนจะจบประโยคเสียอีก“พวกพี่ไม่เคยปิดบังอะไรกันเลยสินะ”หนุ่มใหญ่หัวเราะอาย ๆหลินทำปากล่างยื่น “พี่ไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอครับ”&ld
ไม่นานเลยหลินก็ฉ่ำเยิ้มไปทั้งร่าง ตอนฝ่ามือใหญ่ของคิงเข้าไปล้วงเข้าไปเล่น เขารู้ทันทีว่าข้างในกางเกงในสีขาวของหลินมีเหลวเหนียวเหนอะเปียกชื้นอยู่ข้างในชัก ๆ“โอ๊ะ พี่ครับ ซี้ด โอย ผมเสียว” เด็กหนุ่มตื่นเร้าอย่างมากมายไม่น่าเชื่อ ทั้งการถูกรุกรานด้วยนิ้ว ทั้งความกังวลว่าจะมีคนผ่านมาเห็นสิ่งที่พวกเขาทำกันโอเมก้าพอเข้าใจแล้วว่าทำไมคิงถึงโปรดปรานการมีเซ็กซ์แบบเอาต์ดอร์“อึก ขอผมทำพี่บ้างสิ”“มาสิ ก้มลงมาใช้ปากให้พี่หน่อย”คิงรูดกางเกงกับกางในลงไปกองที่ข้อเท้าทันทีพอคนขับเปลือยท่อนล่างแล้ว คนตัวเล็กกว่าก็ตะกายตัว เอาหน้าท้องพาดเกาะกึ่งกลางระหว่างคนขับกับผู้โดยสารแล้วปากนุ่ม ๆ ของเด็กหนุ่มก็ครอบทับดุ้นเนื้อของคนขับเข้าไปหลินเบิกตากว้างตอนเห็นนายช่างเอานิ้วจับที่โคนดุ้น ทำให้อวัยวะที่มีเลือดมาคั่งจนแข็งเกร็งนั่นชี้ชูขึ้นฟ้า ทั้งความยาว ความอวบกำลังดี กับส่วนหัวสีแดงก่ำ กระตุ้นกำหนัดที่ด้านหน้าและด้านหลังของเด็กหนุ่มจนร้อนระอุ“อูย ของพี่หัวแดงจัง” หลินใช้นิ้วแตะสัมผัสที
แทนที่จะขึ้นไปออฟฟิศแล้วรีบเก็บของกลับบ้าน หลินกลับเข้าพุ่งตัวเข้าไปในรถเทสลา แล้วขับบึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอนกว่าจะรู้ตัวอีกที ฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี และพอดับเครื่องรถยนต์หลินก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาเคยมาแล้ว นั่นก็คือโรงถ่ายของ FDK Studio ที่ปทุมธานีนั่นเองวิวตอนเย็นของโรงถ่ายงดงามจนเด็กหนุ่มต้องลงจากรถเดินช้า ๆ สีสันบนท้องฟ้ามีหลากหลายทั้งส้มชมพูม่วงที่ไล่เฉดได้สมบูรณ์แบบชนิดที่ไม่มีจิตรกรคนไหนวาดเทียบเทียมได้ และธรรมชาติอันน่าตะลึงก็ทำให้ความคิดของหลินเรียงตัวเป็นระเบียบเขารู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่แล้วเด็กหนุ่มก็ตื่นจากภวังค์ เพราะมีเสียงรถยนต์คันใหญ่มุ่งมาทางเขา แล้วก็เห็นรถเอสยูวีอีกคันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบรถเทสลาสีเงินของบริษัท และหลินจำได้ว่านั่นคือรถของคิงหนุ่มใจดีทายาทบริษัทอสังหาออกมาจากรถ แล้วรีบเดินมาที่ตัวเด็กหนุ่มทันที“ทำไมจู่ ๆ ก็หลินหนีพี่มา แถมขับรถเร็วซะด้วย ดีนะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ”“พี่คิง นี่พี่ขับรถตามผมมาถึงนี่เลยเหรอ”“ก็ใช่น่ะสิ คุยกันอยู่
เด็กหนุ่มโอเมก้าทำงานที่บริษัท FDK ได้เกือบสองสัปดาห์และยิ่งรักงานที่นี่ขึ้นทุกวันตอนนี้เขาไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวที่ออฟฟิศนี้อีกแล้ว เพราะมีทีมงานเขียนบทมาเสริมอีกสามคน ดูเหมือนในช่วงแรกบริษัทนี้จะเน้นการผลิตบทคุณภาพสำหรับโปรเจกต์นิยายวายเรื่องแรกมากกว่าสิ่งอื่นใดนโยบายของผู้บริหาร ซึ่งก็หมายถึงสามหนุ่มแด๊ดดี้นั่นเอง คิดว่าบทเป็นส่วนสำคัญที่สุดของซีรีส์ ส่วนขั้นตอนการผลิต การคัดเลือกตัวแสดง มองว่าให้คนอื่นผลิตก็ได้ ตราบใดที่ผู้ผลิตมีทุนมากพอ จะผลิตละครที่ภาพสวย ใช้นักแสดงดึงดูดหรือเหมาะสมกับบทอย่างไรก็ได้และตอนนี้หลินกับทีมงานเล็ก ๆ ของเขาต่างพยายามปั้นบทซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ทีมของเขาเรียกว่า ‘โปรเจกต์เจ้าชาย’ นั่นเพราะเนื้อเรื่องจะเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเจ้าชายแห่งเมืองสมมุติเมืองหนึ่งกับลูกชายโทนของนายกไทย ฟังแล้วน่าจะเป็นซีรีส์วายที่ลักซัวรี่ไม่เบาแม้เรื่องงานจะสนุกและท้าทาย กระนั้นก็มีบางสิ่งที่เขาไม่สบายใจเย็นวันหนึ่งหลินเพิ่งขับรถของบริษัทกลับจากประชุมข้างนอก น้อง ๆ ในทีมขึ้นมาที
แม้จะทำถึงขนาดนั้นแล้วแต่นายท่านยังไม่สาแก่ใจ จู่ ๆ ดอมก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ให้หลินลงไปนั่งแทน แล้วอีกวินาทีต่อมา โอเมก้าก็สัมผัสถึงแรงกระแทกมาจากด้านข้างจนใบหน้าหันเพียะ ๆที่แท้อีกคนก็ตบหน้าของเขา โดยตั้งใจให้ฝ่ามือกระทบพอดีกับด้านข้าง ตามแนวโหนกแก้มที่ผิวหนังค่อนข้างหนาและแข็งจะได้ไม่เจ็บแล้วหลินก็ได้ยินเสียงขู่กระโชกน่ากลัวว่า “ฮ่า อีเด็กร่าน อย่างแกต้องโดนตบแบบนี้ล่ะถึงจะเหมาะ!”+++++นายท่านจับเด็กหนุ่มลงมาอยู่นั่งบนพื้น โชคดีที่พื้นออฟฟิศที่นี่ปูพรมขนสั้นเลยไม่เจ็บก้นเท่าใดนักในท่านั่งหลินถูกยกต้นขาขึ้น หัวเข่าของเขาแทบชิดหัวไหล่ เด็กหนุ่มรู้ดีว่ากำลังจะโดนทำอะไร“นายท่าน อ๊าก”ดอมหน้ามืดตามัวไปหมด เขาจับข้อเท้าเด็กหนุ่ม แยกถ่างขาออก ผ้าส่วนน้อยของกางเกงในเซ็กซี่ของเด็กหนุ่มแทบปิดบังส่วนนั้นไว้ไม่มิดตอนเห็นขาขาวเนียนเรียวเล็กแต่มีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายถ่างออกแล้วความเป็นอัลฟ่าของดอมก็แผดเผาร่างกายตัวเองแทบไหม้‘ความขาวใสที่กูถวิลหาอยู่ตรงหน้าแล้ว&
“คลานเข่ามาหาฉัน!” หัวหน้าของเด็กหนุ่มที่กลายเป็นหนุ่มดอมตัวจริงที่ไม่ใช่ดอมแค่ชื่อ เขานั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะทำงาน เสื้อผ้าของตัวเองยังอยู่ครบหลินพยักหน้าอยู่ในท่าคลานสี่เท้า แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างยิ่งคือ เด็กหนุ่มใส่เสื้อตาข่ายบาง ๆ สีดำที่มีสายรัดไขว้กันเป็นกากบาทเรียงตามแนวดิ่ง ที่ดอมเรียกมันว่า ‘คอร์เซ็ตตาข่าย’ เขาถูกปิดตา มีปลอกคอที่มีห่วงและสายโซ่เส้นเล็ก ๆ โยงออกมา เท่านั้นยังไม่พอเขายังถูกใส่กุญแจมืออีกแต่มีเครื่องแต่งกายเดิมเพียงชิ้นเดียวที่ยังคงไว้บนตัวเด็กหนุ่ม เพราะสิ่งนั้นถูกใจดอมแล้ว นั่นคือกางเกงในเปิดก้นที่เรียกว่าจ๊อกสแตรป ตอนหัวหน้าเห็นยังถึงกับเอ่ยชม‘เพิ่งรู้ว่าหลินชอบใส่แบบนี้’‘เอ้อ บังเอิญว่าผมเหลือกางเกงในสะอาด ๆ แค่ตัวนี้ตัวเดียวน่ะครับ’ หนุ่มโอเมก้าตอบอย่างจริงใจแล้วยิ้มอายดอมทำหน้าแบบไม่อยากเชื่อ ‘จริงดิ แล้วมีกางเกงในอย่างนี้อีกเยอะไหม ถ้ามีแค่ตัวเดียวเดี๋ยวพี่จะซื้อให้อีก จะได้ใส่มาบ่อย ๆ ใส่ทุกวันได้ยิ่งดี’กลับมาสู่เหตุการณ์ตรงหน้า หลิ