อีกไม่นานต่อมา ทั้งสี่หนุ่มก็มาถึงที่หมาย ตรงทางเข้าหนุ่มน้อยหลินแหงนหน้ามองอย่างชื่นชมไปที่หลอดไฟนีออนสีชมพูที่ขดเป็นตัวอักษร ‘León’
แค่ก้าวแรกในผับก็ให้ความรู้สึกดีเยี่ยม ความมืดและความสว่างผสมผสานกันจนสร้างบรรยากาศอันแปลกตาที่หาไม่ได้จากที่ไหน ราวกับเจ้าของจงใจสร้างโลกใบใหม่ที่มีทั้งความลึกลับ เย้ายวน และน่าตื่นเต้น
เด็กหนุ่มโอเมก้าสังเกตเห็นว่า ทันทีที่หนุ่มดุดันกว่าเพื่อนเดินนำ ก็มีพนักงานพากันยกมือไหว้และทำท่านอบน้อมดอมเต็มไปหมด ก่อนนำพวกเขาทั้งสี่ไปยังที่หมาย
อีกไม่นานเฟย์ทำหน้าที่ชงเหล้าให้ แม้จะอิ่มพุงกางแต่พวกเขายังสั่งของกินเล่นสองสามอย่างมาด้วย
ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ของที่ลีออนทันสมัย และถูกมิกซ์มาในแบบที่หาฟังจากที่อื่นไม่ได้ พวกหนุ่ม ๆ เพลิดเพลินบนที่นั่งโซฟา โยกหัวไปตามจังหวะ
หลินมองซ้ายขวาและยิ้มกว้าง เขารื่นรมย์กับบรรยากาศ แอลกอฮอล์ถูกเติมเข้าร่างอย่างต่อเนื่อง จากรอยยิ้มจึงเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะใสร่าเริง ฟันขาวของเขายามมองในแสงแบล็กไลต์ข้างในผับเห็นเป็นสีน้ำเงินดูลึกลับ
“ชอบไหมหนู” เฟย์เห็นสีหน้าตะลึงคนอายุน้อยกว่าเลยอดแซวไม่ได้
หลินพยักหน้า “ชอบมากครับ”
ส่วนคิงที่นั่งติดกับเด็กหนุ่มถือโอกาสยื่นหน้ามาแถวข้างลำคอของหลิน ริมฝีปากนุ่มปัดถูกผิวเนียนของลำคอเรียวสวย ก่อนทำเนียนกระซิบถามที่ใบหูว่า “เมื่อกี้หลินว่าอะไรนะ”
สองหนุ่มหรี่ตามองเพื่อน ถึงคิงชอบสร้างภาพภายนอกว่าตัวเองเรียบร้อยกว่าใคร แต่ที่แท้เขาคือหมาป่าห่มหนังแกะ คนท่าทางเจี๋ยมเจี้ยมที่ชอบใช้ความเป็นหนุ่มน่ารักให้เกิดประโยชน์
ด้วยบรรยากาศพาไปหลินจึงไม่ถือสาคิง เด็กหนุ่มหัวเราะแล้วโน้มตัวเข้ามากลางวง เฟย์กับคิงทำตามบ้าง ทั้งคู่ได้ยินหลินพูดว่า “สนุกเป็นบ้าเลยที่นี่”
ดอมเห็นเพื่อนทำเลยถือโอกาสทำมากกว่า เขายื่นมือไปจับก้านคอเด็กหนุ่ม กรอกคำพูดจากอีกฝั่งของโต๊ะ “ระหว่างลีออนกับบลูที่ไหนสนุกกว่า” ดอมหมายถึงผับบลูที่เขาเป็นหุ้นส่วนนั่นเอง
แม้หลินจะเมาแต่ยังมีไหวพริบ เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคัก “บลูต้องสนุกกว่าอยู่แล้ว”
ดอมได้ยินแล้วยิ้มกว้าง ชูนิ้วโป้งให้ จากนั้นเฟย์ก็กระดิกนิ้วชี้ ทำทีให้หลินโน้มตัวมาหาเขาหน่อย
พอหลินทำตาม เฟย์ใช้สิทธิ์คนสุดท้ายโชว์ความเหนือด้วยการใช้ปากคลอเคลียที่แก้มเนียนของเด็กหนุ่ม “น้องหลินอยากออกไปเต้นรำไหม”
สองหนุ่มมองสิ่งที่เพื่อนทำด้วยแววตาเจิดจ้า
เด็กหนุ่มยิ้มอีก แล้วพยักหน้า
“ผมอยากเต้น….” แล้วก็หยุดเว้นช่วง
“ถ้าพวกพี่ทุกคนไปกับผมด้วย
+++++
กลายเป็นว่าพวกเขาทั้งสี่เลยเต้นรำบนฟลอร์อย่างสนุกสนาน
พออยู่ตรงนี้หลินจึงตกอยู่ในสภาพไข่แดง โดยมีสามหนุ่มเป็นไข่ขาวไหลเวียนไปมารอบ ๆ ต่างคนต่างสลับกันล้อมหน้าล้อมหลัง แถมยังชวนเด็กหนุ่มคุยทั้ง ๆ ที่ตรงนี้เสียงอึกทึกมาก แต่นั่นล่ะคือเหตุผลที่ชวนคุย
เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงดังใส่หนุ่มรุ่นอาทั้งสาม ต่างคนต่างถือโอกาสลูบไล้เนื้อตัวของโอเมก้าขณะเต้นไปรอบ ๆ ผิวของหลินช่างเนียนนุ่ม ความอุ่นเพราะเหล้าส่งผ่านขึ้นมาทางผิวหนัง ทำให้แด๊ดดี้ทั้งหลายหวนนึกถึงประสบการณ์เสียวที่มีร่วมกันเมื่อคืน หนุ่มรุ่นอาได้แต่สูดหายใจเข้าลึกออกยาวเพื่อระงับตัณหา ต่างคนต่างพยายามจัดการกับเป้ากางเกงที่เริ่มคับตุงขึ้นมาทีละน้อยโดยไม่เอามือลงไปจับ ขยับ และปรับมันให้เข้ารูปอย่างประเจิดประเจ้อ
เฟย์ผู้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งใช้วิธีดึงตัวเด็กหนุ่มมาเบียดที่หว่างขาของตัวเองเพื่อปิดบังความน่าอายเสียเลย ก้นของหลินสอดอยู่ในหว่างขาของเฟย์ หนุ่มใหญ่จับเอวเล็กของหลิน พอเอวของเขาขยับ เอวของเด็กหนุ่มก็ขยับตามในทิศเดียวกัน
ส่วนดอมกับคิงจิบเหล้าที่ถือมาด้วย มองสิ่งที่เฟย์ทำตาไม่กะพริบ
“ท่าทางเราสนุกเกินไปรึเปล่า” หนุ่มหุ้นส่วนผับดังไม่ยอมแพ้ โน้มตัวมาหาหลินที่ถูกเฟย์สวมกอดจากด้านหลัง เขาพูดไปด้วย ใช้ริมฝีปากของครูดเบา ๆ แถวข้างลำคอของเด็กหนุ่มไปด้วยอย่างจงใจ
เฟย์กระตุกยิ้มจากด้านหลังคิดว่า ‘กูว่ากูหื่นแล้วนะ เจอไอ้ห่าดอมนี่แม่งคือกามมาก’
หลินทำตาปรือ “สนุกสิครับ สนุกมากเลย” ขณะพูดเอวยังส่ายบดเบียดลงกับเป้ากางเกงของเฟย์อย่างจงใจ ทำให้แด๊ดดี้คนข้างหลังถึงกับเชิดหน้าสูง หายใจลำบาก
คิงเห็นเลยไม่ยอมแพ้ เขาแทรกตัวผ่านช่องว่าง ยื่นหน้ามาแถวแนวกรามชัดของหลิน “แล้วทำไมถึงสนุกล่ะ”
หนุ่มโอเมก้าเอียงหน้ามา สูดกลิ่นหวาน ๆ จากลมหายใจของคนเมาอย่างคิง “เพราะวันนี้ผมมาเป็นลูกค้า ไม่ได้เป็นพนักงานนี่นา”
“ทำไม? เป็นพนักงานที่บลูไม่สนุกเหรอ” เจ้าของผับถามด้วยน้ำเสียงเหมือนจะเอาเรื่อง แต่กลับใช้สองมือประคองแก้มโอเมก้าไว้แล้วกระซิบจนปากชิดกับใบหู
หลินย่นจมูกอย่างน่ารัก “เหนื่อยครับ ต้องเดินฝ่าคนเยอะ ๆ เบียดคนแน่น ๆ ทั้งคืน”
“เพราะมึงล่ะ ให้พนักงานทำงานหนัก” เฟย์โทษเพื่อน
“อาราย มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ผับกูคนเยอะกว่าที่นี่นี่หว่าช่วยไม่ได้”
“ไม่จริงอะ เพราะผับมึงพื้นที่แคบมากกว่า” คิงได้ทีด่าเพื่อนบ้าง
“แต่ของกูมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่า” ดอมไม่ยอมแพ้
“ก็มึงให้อินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติมารีวิว แล้วบอกว่าถ้ามากรุงเทพฯ ให้มาที่บลูจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเนื้อแนบเนื้อ เป็นคอนเทนต์ที่กามมาก ๆ” เฟย์สรุป
“ไอ้นี่หนิ เดี๋ยวเหอะ!”
หลินอดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นรุ่นอาเถียงกันเหมือนเด็ก “พี่ ๆ อย่าเถียงกันเลย มาเต้นกันต่อดีกว่า”
ไม่อยากเชื่อว่าแค่คำพูดง่าย ๆ นั่นจะช่วยสงบศึกได้ ทั้งหมดหัวเราะกันไปคุยกันไป จิบเหล้าต่อ ยกเว้นโอเมก้าคนเดียวที่ดูดค็อกเทลด้วยหลอด กว่าหลินจะรู้ตัวอีกทีเหล้าก็หมดแก้วแล้ว
“คืนนี้หลินกินดุจังน้า แก้วที่เท่าไรแล้วเนี่ย” เฟย์ถาม
หลินชูสามนิ้ว
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปเอาแก้วใหม่ให้” คิงอาสา
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมว่าผมพอแล้วล่ะ”
“แต่ถ้าอยากดื่มอีก ไม่ต้องไปเอาอีกแก้วก็ดื่มได้นะ” ดอมเสนอ
“หือ แล้วจะดื่มยังไงครับ” หลินสงสัย
แล้วหนุ่มตัวร้ายก็ทำสิ่งที่อาจหาญอย่างยิ่ง เขาดื่มเหล้าในแก้วตัวเองเข้าไปอึกใหญ่ จากนั้นจับปลายคางคนตัวเล็ก ดึงร่างให้เข้ามาเบียดตัวเขา
แล้วดอมเลือดร้อนก็เอาปากจ่อที่ปากของอีกคน หลินไม่ขัดขืนแต่หลับตาพริ้ม อ้าปากค้างไว้
ของเหลวในปากของดอมไหลเข้าไปในปากคนตัวเล็ก บางส่วนหกออกมาตามมุมปาก ส่วนสองหนุ่มที่เหลือมองตาไม่กะพริบ กลืนน้ำลายเอื๊อก
‘แม่งเพื่อนกูคิดได้ไงวะ เห็นแล้วโคตรเซ็กซี่!’ แน่ละว่าใครก็อยากเป็นดอมทั้งนั้น
เมื่อของเหลวหมดปากอัลฟ่าไม่ยกปากขึ้น แต่บดริมฝีปากลงมาหาหนุ่มน้อย ไม่ใช่แค่การจูบธรรมดา แต่ดูเหมือนกลืนกิน ราวกับดอมพยายามใช้อุ้งปากโกยของเหลวที่ตัวเองเป็นคนปล่อยออกมาในปากคนตัวเล็กกลับขึ้นไปอีกที
จุ๊บ ๆ จ๊วบ ๆ
เนื้อปากทั้งบนและล่างของดอมขยับไปมาไม่หยุดบนปากของหลิน
พอเขาเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของหลินก็เป็นสีชมพู แก้มร้อนฉ่า แม้ในผับจะมืด ยังเห็นดวงตาสวยเหมือนกวางของเด็กหนุ่มที่งดงามจนแทบลืมหายใจ
และโดยไม่ทันยั้งคิด คิงแทรกตัวเข้ามาบ้าง เขาจับศีรษะเด็กหนุ่มให้หันหน้ามาทางเขา แล้วหนุ่มผู้เรียบร้อยก็บรรจงจูบปากเด็กหลินอย่างสุภาพทว่าดูดดื่มไม่แพ้เพื่อน
ดอมมองสองคนจูบกันด้วยแววตาหวานเยิ้ม เขาเลยช่วยประคองหลังศีรษะของเด็กหนุ่มไว้เพื่อให้เพื่อนจูบถนัด
การจูบระหว่างคิงกับหลินยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้นทุกที นักท่องเที่ยวคนอื่นของผับที่เต้นอยู่ข้าง ๆ ถึงกับแอบมองตาโตอย่างไม่ปิดบังแล้วหัวเราะคิก ๆ ลูกค้าสาวบางคนที่น่าจะเป็นสาววายถึงกับหน้าแดงซ่าน
เสียงลมหายใจหนัก ๆ ดังใกล้เข้ามา หลินหรี่ตามอง และนั่นคือเฟย์
แล้วความร้อนแรงยิ่งกว่าก็ตามมา เมื่อเฟย์เบียดใบหน้าลงมาจูบกับหลินบ้าง คิงเห็นดังนั้นเลยถอนใบหน้าขึ้นเพื่อเปิดทางให้เพื่อน
แต่กลายเป็นเด็กหนุ่มเสียอีกที่จับแก้มของคิงไว้ พลางส่ายหน้าช้า ๆ พร้อมมอบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“พี่จูบผมต่อสิครับ”
ในเวลาเดียวกันมืออีกข้างของหลินที่ยังว่างก็ยื่นไปที่ใบหน้าของดอมที่อยู่ไม่ไกล แล้วออกแรงดึงให้สองหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาหา โดยมีริมฝีปากของหลินอยู่ตรงกลาง
แล้วจากนั้นก็คือการจูบชนิดแลกน้ำลายแบบสามคนเสียงดังจุ๊บจ๊วบวาบหวาม
คิงเห็นดังนั้นเลยยื่นหน้าเข้ามาร่วมวงด้วย ต่อมาทั้งสามใบหน้าของสามหนุ่ม ก็กลายเป็นเครื่องบำเรอให้หลินสลับกันจูบไปมาอย่างเร่าร้อนกลางผับ
ทั้งสี่คนตกอยู่ในวงล้อมแห่งความมึนเมา จนไม่ได้ยินเสียงโครมอันเกิดจากนักท่องเที่ยวชาวจีนสาวคนหนึ่งที่ถึงกับเข่าอ่อน ลงไปนั่งกับพื้น ยามได้เห็นฉากจูบที่ฮอตแทบไหม้ระหว่างหนึ่งหนุ่มน่ารักตัวเล็กกับสามหนุ่มใหญ่มาดเท่
การจูบเร่าร้อนแทบทำผับไหม้สะดุดลงเมื่อเด็กหนุ่มเซนเตอร์คือคนแรกที่หยุดเคลื่อนไหวริมฝีปากเขาเอ่ยเสียงแหบ ๆ ว่า “ผมว่าเราไปจากนี่ดีกว่าไหม”“เอ้อ…” สามหนุ่มยังติดพันกับรสชาติ แต่เพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรทำแบบนี้ที่นี่ แค่สองคนจูบกันก็ดูโจ่งแจ้งจะแย่แล้ว นี่เล่นฟัดกันนัวตั้งสี่คนนักท่องราตรีบางคนมองพวกเขาด้วยสายตาเชิงตำหนิ พอถึงตอนนี้สามหนุ่มอัลฟ่าต่างหน้าแดงด้วยความอับอายและสามหนุ่มแด๊ดดี้ยิ่งรู้สึกแย่ตอนตาสวยเหมือนกวางของเด็กหนุ่มแสดงอารมณ์รู้สึกผิดด้วยเช่นกัน อันเนื่องจากสายตาคนอื่นที่มองมาอย่างกล่าวโทษ‘เมื่อกี้ที่ทำเหมือนพวกกูรุมข่มเหงเด็กเลยว่ะ รู้สึกตัวเองสารเลวอย่างบอกไม่ถูก’เฟย์คิดว่าหลินอยากกลับบ้านแล้ว เขาเลยบอกว่า “เอาสิ หลินอยากให้พวกพี่ไปส่งที่ไหนคราวนี้เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว “ไหนบอกจะพาผมไปดูโรงถ่ายของพวกพี่ไม่ใช่เหรอครับ”คำตอบนั่นทำให้สามคนแปลกใจ ไม่คิดว่าหนุ่มน้อยจะเอาจริงขนาดนี้พอหนุ่มน้อยทวงสัญญา ดอมจึงโทร.เรียกคนขับรถให้นำรถของตัวเองมาส่งที่ผับลีอ
เด็กหนุ่มไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะยอมทำอะไรเช่นนี้ แต่ในเมื่อเขาเป็นคนเรียกร้องจะทำเรื่องนี้ก่อนเลยช่วยไม่ได้คำพูดที่ดอม แด๊ดดี้อัลฟ่าที่ดูดุดันที่สุดในบรรดาเพื่อน ๆ ขอกับโอเมก้า คือเขาอยากให้หลินถูกปิดตาตลอดช่วงกิจกรรมที่จะเกิดต่อจากนี้และโดยไม่รู้ตัว เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบไปตอนนี้หลินมานอนบนเตียงใหญ่ของคิง ถอดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของคิงออกไปแล้ว ด้านล่างของใส่กางเกงในบ๊อกเซอร์ของอัลฟ่านายช่างใหญ่ที่เพิ่งค้นจากตู้มาสวมไว้กันอุจาดเมื่อกี้นี้เองในท่านอนหงายเปลือยท่อนบนเด็กหนุ่มรู้สึกว่าแข้งขามือไม้ของตัวเองดูเป็นส่วนเกินอย่างไรบอกไม่ถูก แต่ก็พยายามจัดท่าทางให้ตัวเองสบาย เขายกแขนข้างหนึ่งหนุนศีรษะที่อยู่บนหมอนไว้อีกที จากนั้นก็หลับตาและรอคอยหลินไม่ได้ยินเสียงตอนสามหนุ่มเดินเข้ามา แต่เขาสัมผัสถึงไอของอัลฟ่าที่เข้มข้น ที่ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มีถึงสาม และอิทธิพลของมันมากพอจะทำให้เด็กหนุ่มต้องเอามือกุมเป้ากางเกงไว้ทันทีความรุ่มร้อนและเปียกแฉะทำงานอย่างว่องไว นี่แค่ได้กลิ่นเท่านั้นนะปุด ๆพอลืมตาเขาก็เห็นสามหนุ่มอัลฟ่าแด๊ดดี้เปลือยท่อน
ในเมื่อเด็กหนุ่มโอเมก้าตัดสินใจแล้ว เขาจึงทำอย่างไม่กั๊กและไม่ลังเล ตอนแรกแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร แต่พอผ่านไปสักพัก ด้วยการโฟกัสประสาทกลิ่นกับสัมผัส สุดท้ายเขาก็แยกเจ้าของของมันได้ส่วนบรรดาอัลฟ่าต่างมองสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่อย่างไม่อยากเชื่อ ครั้งนี้อาจนับว่าเป็นการจัดเต็มครั้งแรกจริง ๆ เพราะครั้งก่อนที่ห้องพักในผับบลู พวกเขาทำไปอย่างไม่มีสติเท่าใดนักดุ้นแก่นกายของแต่ละคนแข็ง พุ่งชี้ไปข้างหน้าอย่างท้าทายในขณะที่มันกลืนหายเข้าไปในโพรงปากของเด็กหนุ่ม สลับกันทีละคน ๆ“อา หลิน โอย ทำไมเก่งแบบนี้”ดอมคือคนแรก เขาจิกเส้นผมนุ่มของเด็กหนุ่ม ตามองลง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาวางบนเตียงเพื่อทำให้หว่างขาของตัวเองแยกถ่างที่สุด ท่วงท่านั้นราวกับท่วงท่าของรูปปั้นวีรบุรุษผู้กล้าแล้วต่อจากนั้นคือเฟย์และคิง“โอย แม่งดีเป็นบ้าเลย อา อูย”“หลินของเราคือสุดยอด อ๊า”“ลึก ๆ กว่านี้สิ แบบเมื่อกี้ ขออีกทีนะ อ๊าก เสียว”ดอมที่ว่างจากการถูกกลืนกินทำตัวเป็นประโยชน์กับเพื่อน ด้วยการโน้มตัวลงไป ใช้นิ้วแหวกร่อง
แด๊ดดี้เฟย์ถึงกับต้องหยุดขยับเอวทันทีหลังจากดุ้นเข้าไปลึกสุดรูเป็นครั้งแรก เขาหอบลิ้นห้อยเหมือนสุนัข เหงื่อหยดแรกเริ่มไหลลงมาตามขมับ“มึงเสียอาการขนาดนี้เลยหรือวะ” คิงทำหน้าสงสัย ชักอยากสัมผัสความรู้สึกแบบนี้เร็ว ๆ แล้วสิ“เห็นมะเมื่อกี้กูไม่ได้แสดงออกเกินไปนะโว้ย มึงรู้แล้วใช่ป่ะ” ดอมเอ่ย“ถ้าไม่หยุดกูต้องแตกเข้าไปในตัวน้องเขาแน่” หนุ่มมาดรวยบีบตาแน่น แยกเขี้ยวสูดปาด“หยุดเลย! อย่าเพิ่ง มึงจะทำตัวเป็นนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ หรือเป็นเรือล่มตั้งแต่ยังอยู่ปากอ่าวแบบนี้ไม่ได้ เสียชื่อเฟย์เจ้าสำราญหมด” คิงแซวเฟย์อดกระตุกยิ้มไม่ได้ทั้งที่ยังหอบอยู่ “กูได้รับสมญานี้ตั้งแต่เมื่อไร”“กูเพิ่งตั้งให้เมื่อกี้” คิงยิ้มทำหน้าทะเล้นแต่จู่ ๆ ดอมก็ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขาโน้มตัวมาจูบเพื่อนที่กำลังตกที่นั่งลำบาก ที่ทำเพราะอยากช่วยให้เฟย์ผ่อนคลายความเครียดนิ้วมือแข็งแรงของดอมยึดที่หลังคอแข็งแรงของเฟย์ คนถูกจูบชะงักไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะตอบสนองอีกคนด้วยความร้อนแรงไม่แพ้
เด็กหนุ่มผู้ถูกปิดตาได้ยินคำขออันท้าทายกล้ามเนื้อหูรูดอย่างยิ่งแล้วรู้สึกตื่นตกใจ “อ๊ะ ผมไม่เคยทำถึงขนาดนี้มาก่อนเลย”“พวกพี่ก็ไม่เคยเหมือนกัน” ดอมตอบหน้าตาย“ยังไงซะพวกเราแล้วแต่หลินนะ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ว่ากันอยู่แล้ว” คิงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลตามสไตล์“พวกพี่อยากให้มีความสุขไปด้วยกัน” เฟย์เสริมซึ่งน่าแปลกที่พอโอเมก้าได้ยินเช่นนี้แล้วบังเกิดแรงจูงใจบางอย่าง ความกลัวกึ่งอยากลองก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มคิดว่า หากบรรดาแด๊ดดี้หักหาญน้ำใจด้วยการบังคับให้เขาจำยอมแม้แต่นิดเดียว เขาจะปฏิเสธทันที แต่พอทั้งสามคนมีท่าทีแบบนี้ก็เลย…‘คิดซะว่าเป็นการทดลองละกัน’ เด็กหนุ่มให้กำลังใจตัวเองก่อนตัดใจตอบไปว่า“อื้อ งั้นลองดูสักนิดก็ได้ครับ”“ว้าว,โอ้,เย้”“ว่าแต่ของพวกพี่แต่ละคนใหญ้ใหญ่อะ ผมกลัวจังเลย” เด็กหนุ่มใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้จบกันเหมือนเครื่องหมายโอเค ก่อนจะแยกนิ้วออก เป็นการกะขนาดว่าถ้าหนึ่งดุ้นเท่านี้ สองดุ้นจะอวบหนาขนาดไหน เหมือนใช้
เด็กหนุ่มกัดฟันแน่น เขาเจ็บแปลบ แต่ก็สุขสมมากด้วย ชั่วขณะที่เฟย์กระแทกดุ้นลำเข้ามาจนสุด ก่อให้เกิดความรู้สึกคล้ายกับร่างของเขาจะฉีกขาด แยกออกเป็นสองส่วน แต่พอดุ้นเขื่องของทายาทโรงงานยาหม่องเคลื่อนออก ความสุขเร้นลับกลับถั่งโถมเข้ามาเต็มร่างแทนและนั่นก่อให้เกิดการเสพติด ทำให้หลินบอกตัวเองว่า ยังทนไหว ๆ เด็กหนุ่มรู้อยู่ลึก ๆ ว่าการอดทนจะทำให้เขาได้ลิ้มรสชาติบางอย่างที่ไม่มีวันลืม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะร้องโหยหวนราวกับสัตว์ตัวเล็กที่เจ็บปวด“อ๊าก อ๊า โอย”แต่ไม่น่าเชื่อว่ายิ่งเด็กหนุ่มร้องดังเท่าไร พวกรุกก็ยิ่งแข็งขึงและยิ่งกระแทกถี่เร็วขึ้นเท่านั้นตับ ๆ“อ๊า อ๊า ไม่ไหวแล้ว อ๊าก” หลินเกิดเจ็บจริงขึ้นมา ศีรษะของเขากระดอนไปข้างหน้า คอตก หมดเรี่ยวหมดแรงแม้แต่จะชันคอตั้งตรงเมื่อเห็นว่าอีกคนเจ็บจริงเฟย์เลยยอมหยุดให้พักชั่วครู่ อย่างไรก็ตามนั่นก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุดหรอกและทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่หลินคาด หลังจากได้พักก็มีครั้งต่อไป และเมื่อครั้งแรกสำเร็จ ครั้งต่อ ๆๆ ไปก็ไม่ใช่เรื่องยากครืด ๆๆ ตับ ๆๆๆหลินครวญคร
คืนต่อมาคือเวลาทำงานตามปกติของหลิน เด็กหนุ่มกลับมาเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับบลูที่มีดอมเป็นหุ้นส่วนตามปกติตอนหนุ่มโอเมก้าถือถาดเสิร์ฟเหล้า อยู่ ๆ ขาก็อ่อนตอนก้าวเท้าขึ้นไปยังพื้นต่างระดับ ยังดีที่เพื่อนเด็กเสิร์ฟอีกคนคว้าแขนไว้ทัน ไม่งั้นเครื่องดื่มห้าแก้วบนถาดนั้นคงแตกกระจายลงพื้น“ระวังหน่อยเพื่อน” เพื่อนคนนั้นตบบ่าเบา ๆ ทีหนึ่ง ส่วนหลินกระตุกมุมปากยิ้มให้แทนการขอบคุณพอตั้งตัวได้เด็กหนุ่มใช้มืออีกข้างที่ไม่มีถาด กุมตรงส่วนของร่างกายที่อ่อนไหว ที่เมื่อกี้เขาสะดุดเป็นเพราะเกิดเสียวแปลบที่ด้านหลังบั้นท้าย‘โอย รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นทหารผ่านศึก’หลินกลืนน้ำลาย ประสบการณ์ร้อนแรงที่โรงถ่าย FDK Studio เล่นเอาหนุ่มน้อยลืมไม่ลง ไหนจะสองดุ้นในหนึ่งรู แถมจบลงด้วยการถูกน้ำแตกใส่หน้าเด็กหนุ่มเผลอเลียนิ้วชี้ที่จดริมฝีปากอย่างลืมตัว แล้วพอนึกได้ก็สลัดความรู้สึกทิ้ง ก่อนจะกลับมาตั้งใจทำงานแต่ก่อนอื่นขอดูมือถือแวบหนึ่งละกันหลินถึงเพิ่งเห็นข้อความที่ถูกส่งจากเฟย์<พี่คิดว่าหลินทำงานอยู่ แต่แค่อยากบอกว่า คิงส่งน
วันทำงานวันแรกของเด็กหนุ่มแทนที่เขาจะเข้าออฟฟิศ กลับต้องไปที่บ้านของเฟย์แทนสาเหตุที่ทายาทโรงงานยาหม่องนัดประชุมที่บ้านของตัวเอง เพราะลูกค้าจากบริษัทจีเอ็มซีมีสำนักงานแถวทาวน์อินทาวน์ ซึ่งพอดีที่เฟย์พักอยู่แถวเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา จึงเลือกมาที่นี่แทนเพราะใกล้กว่าไปที่ออฟฟิศของ FDK ที่อยู่ตั้งถนนรามอินทราทันทีที่ลงจากแท็กซี่ หลินก็ตกตะลึงเป็นครั้งแรกของวันนี้ บ้านของพี่เฟย์ ทายาทโรงงานยาหม่องใหญ่กว่าคฤหาสน์ที่เคยเห็นในรูปเสียอีกและแค่ไม่ถึงชั่วโมงต่อมา การประชุมก็เรียบร้อย ที่จริงคือเสร็จเร็วกว่าที่วางแผนไว้พอสมควรตอนลูกค้าลากลับไปแล้ว เฟย์หันมาถามเด็กหนุ่มทันที“เป็นไงบ้างหลิน ทำงานวันแรก”“น่าตื่นเต้นมากครับ พอได้ฟังคุณไวพูด ผมได้ไอเดียน่าสนใจเกี่ยวกับตลาดละครวายมากเลย ซึ่งมันไกลตัวผมมาก ๆ” คุณไวที่หนุ่มโอเมก้าหมายถึงผู้บริหารของจีเอ็มซีที่มาประชุมกับเฟย์วันนี้นั่นเองคนฟังขมวดคิ้วนิด ๆ “เราไม่ค่อยได้ดูละครวายเหรอ”“เรียกว่าไม่เคยดีกว่าครับ นี่คือการเปิดซิงครั้งแรกเลยพี่ ว่าแต
“ท่านหงให้พวกเราทุกคนฝังไมโครชิปที่หลังมือ” ดอมเฉลยพร้อมกับยกหลังมือให้เห็น ผิวตรงนั้นมีจุดแดงจาง ๆ เหมือนตุ่มมดกัด“หา? นั่นหมายถึง...” เด็กหนุ่มอ้าปากค้างอย่างพิศวง“ท่านหงบอกว่าถ้าพวกเราอยากมาเจอหลิน ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ายินดีเสียสละเพื่อหลิน ลูกชายคนสุดท้ายของเขาจริง ๆ” ดอมเริ่ม“การฝังชิปเปรียบเหมือนการยอมให้เขาติดตามตัวเราได้ตลอดชีวิต ท่านหงบอกว่า วันใดที่พวกเราทำให้หลินเสียใจ ถ้ามีชิปนี้อยู่ที่ตัว ไม่ว่าจะหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวแค่ไหน เขาก็จะให้คนออกตามล่าพวกเราจนได้” เฟย์เสริม“และชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ฝังลงไปได้อย่างเดียว เอาออกมาไม่ได้ ถ้าพยายามเอาออก มันจะระเบิด” คิงอธิบายแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกเด็กหนุ่มเอามือปิดปาก แววตาเบิกโพลง “นั่นไง ผมกะแล้วว่าคนอย่างพ่อผมไม่มีทางให้อะไรใครฟรี ๆ แน่ แล้วพวกพี่ยอมได้ยังไง มันคือทั้งชีวิตของพวกพี่เลยนะ!”ดอมผู้มั่นใจยักไหล่ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง “ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี่ ยังไงเราก็ไม่คิดจะทิ้งหลินไปไหนอยู่แล้ว”
ที่บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งริมทะเลสาบธรรมชาติที่จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เงียบสงบและมีประชากรเบาบาง และกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่จากถนนใหญ่ยังไม่ง่าย ดังนั้นอาจนับได้ว่าบ้านหลังนี้คือเซฟเฮ้าส์ที่ปลอดภัยและแทบตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงอย่างไรก็ตามด้วยอำนาจเงินก็ดลบันดาลให้ที่พักแห่งนี้เป็นที่อยู่ที่สะดวกสบายมากแห่งหนึ่งแม้ภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าจะสวยงาม แต่เด็กหนุ่มทายาทมาเฟียชื่อก้องก็ถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในบ้านเขาหดหู่สุดขีด นี่ยังดีที่พอออกมาสู่ธรรมชาติแล้วจิตใจคล้ายถูกเยียวยาขึ้นมาบ้างเด็กหนุ่มจำเป็นต้องอยู่ที่บ้านริมทะเลสาบแห่งนี้ ที่เขาเซ็งสุดขีดเพราะตระหนักได้ว่าสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากถูกกักขัง สุดท้ายหลังจากพยายามแทบตายก็ต้องกลับมาเป็นเด็กไม่รู้จักโตของคุณพ่ออีกรอบ ไร้อิสระสิ้นดีพ่อบอกให้เขาอยู่ที่นี่ก่อนจนกว่าความคิดจะเข้าที่เข้าทางแล้วค่อยมาคุยกันเด็กหนุ่มถอนใจอีกรอบ อย่างไรก็ดีคราวนี้หลินไม่มีความคิดที่จะหนีไปไหนอีก ลึก ๆ เขารู้สึกผิดกับครั้งที่แล้วที่หนีออกจากบ้านถัดจากการหนี ก็เจอเรื่องไม่คาดฝัน
ดอมเพิ่งนึกออกว่าตลอดเวลาที่รู้จักกัน หลินไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของเขา บอกแค่ว่าพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดและเขาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เลยต้องหาเงินส่งให้ที่บ้านความตระหนักรู้ในสมองของหนุ่มร้ายส่งเสียงกระดิ่งกริ๊งลั่นในหัว ‘ถ้าพ่อมีลูกน้องตัวใหญ่เป็นยักษ์แถมมีหน้าโหดแบบนี้ พ่อของหลินก็น่าจะเป็น…’ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดได้อย่างเดียวชายตัวใหญ่ที่หลินบอกว่าชื่อวินย่างเข้ามา มือขยับแว่น แต่เหลือบเห็นมือใหญ่ของดอมที่จับข้อมือเล็กของหลินไว้ วินจึงเอ่ยว่า“คุณเอ้อ คือคุณดอมนั่นเอง ได้โปรดปล่อยคุณหลินมากับเราเถอะครับ”“ทำไมต้องปล่อย นายเป็นใครเนี่ย แล้วจะพาหลินไปไหน” ดอมรีบดึงตัวเด็กหนุ่มมาใกล้ แล้วก้าวไปอยู่ข้างหน้าแทนทันทีอย่างปกป้อง“เอ้อคือว่า…” คนชื่อวินใช้นิ้วเขี่ยที่มุมปากอย่างยุ่งยากใจ“แล้วทำไมนายถึงรู้จักฉัน” ดอมส่งเสียงดังข่มขู่“ก็เพราะคุณพ่อของคุณ คุณเด่นชัย เขารู้จักกับนายท่านหง ตั้งแต่ตอนคุณเด่นชัยยังทำงานให้บอสใหญ่ของผม”ดอม
สองหนุ่มนอนกอดก่ายกันในรถ หลินหนุนแขนล่ำของคิง ศีรษะทุยสวยวางพอดีตรงรอยต่อของหัวไหล่กับหน้าอก คิงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียนที่ยังมีเหงื่อชื้นซึม ฝ่ามือใหญ่ลูบเส้นผมอ่อนนุ่มที่ยังเปียกนิดหน่อยตรงปลาย“หิวไหม”“เริ่มหิวแล้วครับ”“งั้นเดี๋ยวแต่งตัวแล้วไปกันเลยดีกว่า”เด็กหนุ่มชูแขนขึ้นด้วยท่าทีน่ารัก “เย้ ปิ้งย่างเกาหลีที่รอคอย”“โอ้ พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เราหิว”หลินแลบลิ้นอย่างล้อเลียน “ไม่หิวขนาดนั้นหรอกพี่” แล้วเขาก็นึกอะไรได้ หนุ่มโอเมก้าจึงรั้งตัวคิงที่เพิ่งลุกขึ้นมานั่งด้วยการบีบเบา ๆ ที่ต้นแขน “ผมมีเรื่องอยากถาม ที่จริงคือผมสงสัยมาแล้วก่อนหน้านี้”“หือ เรื่องอะไร”“พี่รู้เรื่องที่ผมกับเพื่อนพี่อีกสองคนมีอะไรกัน…”คิงชิงพยักหน้าก่อนจะจบประโยคเสียอีก“พวกพี่ไม่เคยปิดบังอะไรกันเลยสินะ”หนุ่มใหญ่หัวเราะอาย ๆหลินทำปากล่างยื่น “พี่ไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอครับ”&ld
ไม่นานเลยหลินก็ฉ่ำเยิ้มไปทั้งร่าง ตอนฝ่ามือใหญ่ของคิงเข้าไปล้วงเข้าไปเล่น เขารู้ทันทีว่าข้างในกางเกงในสีขาวของหลินมีเหลวเหนียวเหนอะเปียกชื้นอยู่ข้างในชัก ๆ“โอ๊ะ พี่ครับ ซี้ด โอย ผมเสียว” เด็กหนุ่มตื่นเร้าอย่างมากมายไม่น่าเชื่อ ทั้งการถูกรุกรานด้วยนิ้ว ทั้งความกังวลว่าจะมีคนผ่านมาเห็นสิ่งที่พวกเขาทำกันโอเมก้าพอเข้าใจแล้วว่าทำไมคิงถึงโปรดปรานการมีเซ็กซ์แบบเอาต์ดอร์“อึก ขอผมทำพี่บ้างสิ”“มาสิ ก้มลงมาใช้ปากให้พี่หน่อย”คิงรูดกางเกงกับกางในลงไปกองที่ข้อเท้าทันทีพอคนขับเปลือยท่อนล่างแล้ว คนตัวเล็กกว่าก็ตะกายตัว เอาหน้าท้องพาดเกาะกึ่งกลางระหว่างคนขับกับผู้โดยสารแล้วปากนุ่ม ๆ ของเด็กหนุ่มก็ครอบทับดุ้นเนื้อของคนขับเข้าไปหลินเบิกตากว้างตอนเห็นนายช่างเอานิ้วจับที่โคนดุ้น ทำให้อวัยวะที่มีเลือดมาคั่งจนแข็งเกร็งนั่นชี้ชูขึ้นฟ้า ทั้งความยาว ความอวบกำลังดี กับส่วนหัวสีแดงก่ำ กระตุ้นกำหนัดที่ด้านหน้าและด้านหลังของเด็กหนุ่มจนร้อนระอุ“อูย ของพี่หัวแดงจัง” หลินใช้นิ้วแตะสัมผัสที
แทนที่จะขึ้นไปออฟฟิศแล้วรีบเก็บของกลับบ้าน หลินกลับเข้าพุ่งตัวเข้าไปในรถเทสลา แล้วขับบึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอนกว่าจะรู้ตัวอีกที ฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี และพอดับเครื่องรถยนต์หลินก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาเคยมาแล้ว นั่นก็คือโรงถ่ายของ FDK Studio ที่ปทุมธานีนั่นเองวิวตอนเย็นของโรงถ่ายงดงามจนเด็กหนุ่มต้องลงจากรถเดินช้า ๆ สีสันบนท้องฟ้ามีหลากหลายทั้งส้มชมพูม่วงที่ไล่เฉดได้สมบูรณ์แบบชนิดที่ไม่มีจิตรกรคนไหนวาดเทียบเทียมได้ และธรรมชาติอันน่าตะลึงก็ทำให้ความคิดของหลินเรียงตัวเป็นระเบียบเขารู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่แล้วเด็กหนุ่มก็ตื่นจากภวังค์ เพราะมีเสียงรถยนต์คันใหญ่มุ่งมาทางเขา แล้วก็เห็นรถเอสยูวีอีกคันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบรถเทสลาสีเงินของบริษัท และหลินจำได้ว่านั่นคือรถของคิงหนุ่มใจดีทายาทบริษัทอสังหาออกมาจากรถ แล้วรีบเดินมาที่ตัวเด็กหนุ่มทันที“ทำไมจู่ ๆ ก็หลินหนีพี่มา แถมขับรถเร็วซะด้วย ดีนะที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ”“พี่คิง นี่พี่ขับรถตามผมมาถึงนี่เลยเหรอ”“ก็ใช่น่ะสิ คุยกันอยู่
เด็กหนุ่มโอเมก้าทำงานที่บริษัท FDK ได้เกือบสองสัปดาห์และยิ่งรักงานที่นี่ขึ้นทุกวันตอนนี้เขาไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวที่ออฟฟิศนี้อีกแล้ว เพราะมีทีมงานเขียนบทมาเสริมอีกสามคน ดูเหมือนในช่วงแรกบริษัทนี้จะเน้นการผลิตบทคุณภาพสำหรับโปรเจกต์นิยายวายเรื่องแรกมากกว่าสิ่งอื่นใดนโยบายของผู้บริหาร ซึ่งก็หมายถึงสามหนุ่มแด๊ดดี้นั่นเอง คิดว่าบทเป็นส่วนสำคัญที่สุดของซีรีส์ ส่วนขั้นตอนการผลิต การคัดเลือกตัวแสดง มองว่าให้คนอื่นผลิตก็ได้ ตราบใดที่ผู้ผลิตมีทุนมากพอ จะผลิตละครที่ภาพสวย ใช้นักแสดงดึงดูดหรือเหมาะสมกับบทอย่างไรก็ได้และตอนนี้หลินกับทีมงานเล็ก ๆ ของเขาต่างพยายามปั้นบทซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ทีมของเขาเรียกว่า ‘โปรเจกต์เจ้าชาย’ นั่นเพราะเนื้อเรื่องจะเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเจ้าชายแห่งเมืองสมมุติเมืองหนึ่งกับลูกชายโทนของนายกไทย ฟังแล้วน่าจะเป็นซีรีส์วายที่ลักซัวรี่ไม่เบาแม้เรื่องงานจะสนุกและท้าทาย กระนั้นก็มีบางสิ่งที่เขาไม่สบายใจเย็นวันหนึ่งหลินเพิ่งขับรถของบริษัทกลับจากประชุมข้างนอก น้อง ๆ ในทีมขึ้นมาที
แม้จะทำถึงขนาดนั้นแล้วแต่นายท่านยังไม่สาแก่ใจ จู่ ๆ ดอมก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ให้หลินลงไปนั่งแทน แล้วอีกวินาทีต่อมา โอเมก้าก็สัมผัสถึงแรงกระแทกมาจากด้านข้างจนใบหน้าหันเพียะ ๆที่แท้อีกคนก็ตบหน้าของเขา โดยตั้งใจให้ฝ่ามือกระทบพอดีกับด้านข้าง ตามแนวโหนกแก้มที่ผิวหนังค่อนข้างหนาและแข็งจะได้ไม่เจ็บแล้วหลินก็ได้ยินเสียงขู่กระโชกน่ากลัวว่า “ฮ่า อีเด็กร่าน อย่างแกต้องโดนตบแบบนี้ล่ะถึงจะเหมาะ!”+++++นายท่านจับเด็กหนุ่มลงมาอยู่นั่งบนพื้น โชคดีที่พื้นออฟฟิศที่นี่ปูพรมขนสั้นเลยไม่เจ็บก้นเท่าใดนักในท่านั่งหลินถูกยกต้นขาขึ้น หัวเข่าของเขาแทบชิดหัวไหล่ เด็กหนุ่มรู้ดีว่ากำลังจะโดนทำอะไร“นายท่าน อ๊าก”ดอมหน้ามืดตามัวไปหมด เขาจับข้อเท้าเด็กหนุ่ม แยกถ่างขาออก ผ้าส่วนน้อยของกางเกงในเซ็กซี่ของเด็กหนุ่มแทบปิดบังส่วนนั้นไว้ไม่มิดตอนเห็นขาขาวเนียนเรียวเล็กแต่มีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายถ่างออกแล้วความเป็นอัลฟ่าของดอมก็แผดเผาร่างกายตัวเองแทบไหม้‘ความขาวใสที่กูถวิลหาอยู่ตรงหน้าแล้ว&
“คลานเข่ามาหาฉัน!” หัวหน้าของเด็กหนุ่มที่กลายเป็นหนุ่มดอมตัวจริงที่ไม่ใช่ดอมแค่ชื่อ เขานั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะทำงาน เสื้อผ้าของตัวเองยังอยู่ครบหลินพยักหน้าอยู่ในท่าคลานสี่เท้า แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างยิ่งคือ เด็กหนุ่มใส่เสื้อตาข่ายบาง ๆ สีดำที่มีสายรัดไขว้กันเป็นกากบาทเรียงตามแนวดิ่ง ที่ดอมเรียกมันว่า ‘คอร์เซ็ตตาข่าย’ เขาถูกปิดตา มีปลอกคอที่มีห่วงและสายโซ่เส้นเล็ก ๆ โยงออกมา เท่านั้นยังไม่พอเขายังถูกใส่กุญแจมืออีกแต่มีเครื่องแต่งกายเดิมเพียงชิ้นเดียวที่ยังคงไว้บนตัวเด็กหนุ่ม เพราะสิ่งนั้นถูกใจดอมแล้ว นั่นคือกางเกงในเปิดก้นที่เรียกว่าจ๊อกสแตรป ตอนหัวหน้าเห็นยังถึงกับเอ่ยชม‘เพิ่งรู้ว่าหลินชอบใส่แบบนี้’‘เอ้อ บังเอิญว่าผมเหลือกางเกงในสะอาด ๆ แค่ตัวนี้ตัวเดียวน่ะครับ’ หนุ่มโอเมก้าตอบอย่างจริงใจแล้วยิ้มอายดอมทำหน้าแบบไม่อยากเชื่อ ‘จริงดิ แล้วมีกางเกงในอย่างนี้อีกเยอะไหม ถ้ามีแค่ตัวเดียวเดี๋ยวพี่จะซื้อให้อีก จะได้ใส่มาบ่อย ๆ ใส่ทุกวันได้ยิ่งดี’กลับมาสู่เหตุการณ์ตรงหน้า หลิ