___________"หรือว่าจะเป็นพรานอินทร์งั้นเหรอ!?" "ใช่แน่ๆ" "จะว่าไปแล้วกอบัวดูเหมาะสมกับพรานอินทร์มากกว่าอีข้าวหอมอีกนะ" "นั่นสิ อย่างกับนางฟ้ากับเทวดา" ไม่คิดว่าชาวบ้านจะเปิดใจยอมรับฉันได้เร็วถึงเพียงนี้ รู้สึกดีใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างน้อยพี่อินทร์จะได้ไม่โดนชาวบ้านตราหน้าล่ะนะ "เราไปไหว้พระกันเถอะกอบัว" "จ้ะพี่ ^^ " มีความสุขที่สุดในชีวิตของฉันเลยล่ะ"ไม่คิดมาก่อนเลยว่างานวัดจะสนุกแบบนี้" "ถ้าสนุกพี่จะพามาอีก" "ขอบคุณนะจ๊ะพี่อินทร์ ^^ " ท่าน้ำใกล้วัดฉันและพี่อินทร์พากันเดินมานั่งพักขาก่อนจะกลับบ้าน ท่าน้ำบริเวณนี้เงียบสงัดไร้ซึ่งผู้คนหากไม่มีตะเกียงจุดเรื่อยทางมาคงไม่เห็นท่าศาลาแห่งนี้ คิดทบทวนดูแล้วก็อดสงสัยเรื่องของข้าวหอมขึ้นมา"ว่าแต่เรื่องที่ชาวบ้านเขาพูดกันถึงคุณข้าวหอม มันคือเรื่องอะไรหรือจ๊ะ" สีหน้าพี่อินทร์เรียบเฉยลงแววตาไร้ความหมายจ้องมองออกไปยังสายน้ำเบื้องหน้า "เป็นอย่างที่ชาวบ้านลือกัน อีข้าวหอมมันเอากับผู้ชายท้ายตลาดบนรถ" "จะ จริงหรือจ๊ะ!!" น่าอับอายเสียจริง เรื่องที่ชาวบ้านลือกันเป็นความจริงทั้งหมดเลยหรือเนี่ย ทั้งพี่อินทร์ยังเป็นคนไปเห็นกับตาเสีย
______"ความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับอีข้าวหอมมันเริ่มต้นจากเรื่องที่ผู้ใหญ่ลือรู้ว่าพี่เป็นโจรป่าเข้านี่แหละ ด้วยชื่อเสียงซุ่มโจรของพี่ดังกระฉ่อนไปทั่วไหนจะโดนหมายหัวจากทางการ ทันทีที่มันรู้ว่าพี่เป็นไอ้อินทร์โจรป่าแล้ว มันจึงยื่นข้อเสนอแลกกับการที่มันจะปิดเรื่องพบตัวพี่ให้ทางการ" "ข้อเสนอที่ว่าคือเรื่องที่พี่มักจะหายเข้าไปหาของป่านานหลายวันหรือเปล่าจ๊ะ" "ใช่ มันรู้ว่าพี่เป็นคนมีวิชาจึงให้พี่ออกไปล่าสัตว์ป่าตามคำสั่งซื้อของพวกฝรั่งมังค่า ส่วนมันก็เพียงแค่นำของไปขายและนอนนับเงินหนาเป็นฟ่อน" ไม่คิดว่าผู้ใหญ่ลือที่ชาวบ้านให้ความเคารพยำเกรงจะกล้าทำถึงเพียงนี้ "ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเปิดซ่องค้าประเวณีออกหน้าออกตาแต่ที่เจ็บใจคือมันมักจะเอาเด็กสาวไปค้าขายอย่างสบายใจ" "ละ แล้วทางการไม่รู้หรือจ๊ะ" "รู้ แต่ในเมืองเราถูกมันปิดปากด้วยเงินไปหมดแล้ว จึงไม่เข้าไปยุ่มย่าม" "ชั่วเสียจริง!" เด็กสาวงั้นเหรอ ฉันเองก็เคยรู้เรื่องพวกนี้มาจากคนในหมู่บ้านบนเขา ว่าพ่อแม่ที่ยากจนมักจะพาลูกสาวไปขายที่เชิงเขา ไม่คิดว่าขายที่ว่าจะเป็นการขายในสถานที่แบบนั้น "ใช่ ใจจริงพี่อยากจะฉีกหน้ากากนักบุญจอมปลอมออกให้สิ
_______"วันนี้กอบัวอารมณ์ดีหรือเปล่าเนี่ย กับข้าวกับปลาเต็มโต๊ะไปหมด" "ไอ้กล้ามึงก็พูดไป ทุกครั้งกอบัวมันก็ทำกับข้าวเยอะแยะเผื่อมึงกับกูเหมือนทุกที" "ก็วันนี้มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลยนี่หว่า เหมือนกับว่ามีเรื่องดีๆ " พี่ดำจ้องมองฉันสลับไปมากับพี่อินทร์ที่ตอนนี้ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน นั่งกินข้าวคล้ายไม่ได้ยิน"ไอ้ดำมึงอยากกินส้นตีนกูแทนข้าวหรือเปล่า" "โอ๊ะ! ไม่เอาด้วยหรอกพี่อินทร์ตีนหนักมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว โดนทีช้ำในไปเป็นเดือน" ทั้งพี่ดำและพี่กล้าต่างก็รู้แล้วว่าฉันรู้เรื่องในอดีตจากพี่อินทร์หมดแล้ว ฉะนั้นเวลาที่พูดคุยปรึกษาหารือทั้งสามมักจะพูดคุยต่อหน้าฉันโดยไม่มีอะไรปิดบัง ทำให้ฉันรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว "เอ็งก็มานั่งกินพร้อมกันซะสิกอบัว เดี๋ยวข้าวก็เย็นหมดไม่อร่อยกันพอดี" "จ้ะ ^^ " ชีวิตในแต่ล่ะวันของฉันในตอนนี้ช่างเรียบง่ายทั้งยังมีความสุข ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพี่อินทร์ตลอดทั้งวัน นั่นก็ถือว่าเป็นความสุขที่สุดของฉันแล้ว "อย่านะจ๊ะคุณหนู!" เสียงดังโวยวายมาจากทางหน้าบ้าน ฉันทั้งสี่หันไปมองเป็นตาเดียวแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อหญิงสาวสวมชุดกระโปรงสวยหัวฟูรุงรังวิ่งหน้าตาตื่นตรงเข้า
______"มานั่งทำอะไรคนเดียวในลำธารหรือจ๊ะ" ถึงกลับสะดุ้งหลุดจากภวังค์ เสียงกอบัวเอ่ยถามดังมาจากด้านหลังเมื่อหันไปพบว่าเธอกำลังเดินตรงเข้ามาพร้อมผ้าบางคลุมหัวไหล่ "ออกมานั่งคิดอะไรคนเดียวเพลินๆ น่ะเอ็งเถอะยังไม่นอนอีกหรือ" "จะให้ฉันนอนหลับได้อย่างไร จู่ๆ พี่ก็หายไปเสียดื้อๆ ฉันกลัวว่าคนของผู้ใหญ่ลือจะมาจับตัวพี่ไปเสียอีก" "นี่เอ็งเห็นพี่เป็นเด็กอมมือหรือไง ที่ใครจะลากตัวไปมาได้ตามใจชอบ นี่อดีตโจรป่าเชียวนะ" "นั่นสิจ๊ะ ฉันคงคิดมากเกินไป" กอบัวหัวเราะเล็กน้อยชอบอกชอบใจ เดินตรงเข้ามานั่งข้างกายข้าไม่ห่าง เราสองเพียงนั่งเงียบๆ เงยหน้ามองพระจันทร์และดวงดาว "ว่าแต่ดีแล้วหรือจ๊ะที่ให้พี่ดำพี่กล้าไปเฝ้าข้าวหอมที่บ้าน" หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จข้าให้ไอ้ดำไอ้กล้าไปเฝ้าอีข้าวหอมที่บ้าน เผื่อไอ้ผู้ใหญ่มันคลั่งคิดจะฆ่าลูกขึ้นมาอย่างน้อยจะได้มีคนช่วย "ไอ้ดำไอ้กล้าฝีมือมันไม่ใช่ย่อย ถ้าไม่หมาหมู่รุมมันเป็นสิบคนยังไงก็เอาไหว" "เฮ้อ ไม่คิดเลยว่าผู้ใหญ่ลือจะมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตทำร้ายได้แม้กระทั่งลูกในไส้ของตัวเอง" "ไอ้คนพันนี้มันทำได้มากกว่าที่คิดเสียอีก หญิงสาวสวยๆ ในหมู่บ้านต่างก็ผ่านมือมัน
______"เราต้องรีบไปบ้านอีข้าวหอมกันแล้ว" "มีเรื่องอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?" เพิ่งจะตื่นนอนได้ไม่นานแท้ๆ มุ้งยังไม่ทันได้เก็บพี่อินทร์เดินปรี่เข้าบ้านด้วยสีหน้าร้อนรนคล้ายกับคนมีเรื่อง"เมื่อกี้ไอ้กล้าวิ่งมาบอกว่าเห็นผู้ใหญ่ลือไปเดินตลาดในหมู่บ้าน อีกไม่นานคงได้เข้าไปหาอีข้าวหอมเป็นแน่" "แบบนั้นไม่ดีแน่ เรารีบไปกันเถอะจ้ะ" ฉันและพี่อินทร์รีบตรงไปยังบ้านข้าวหอม ดีที่ผู้ใหญ่ลือยังมาไม่ถึง ทันทีที่เดินขึ้นกระไดบ้านเห็นข้าวหอมนั่งตัวสั่นงันงกคล้ายกำลังหวาดผวาอะไรบางอย่าง "ข้าวหอมเป็นไรหรือเปล่า!" ฉันรีบวิ่งเข้าไปถามไถ่เกรงว่าเธอจะเจ็บป่วยตรงไหน รู้แบบนี้เอายาสมุนไพรมาเผื่อไว้ก็ดี "คุณหนูข้าวหอมไม่ได้เจ็บป่วยอะไรหรอกจ้ะ เธอแค่กลัวว่าจะถูกผู้ใหญ่ลือตามมาทำร้ายถึงที่บ้านเหมือนเมื่อคืนวานอีก""ไม่เอานะ! ฉันไม่อยากถูกส่งไปขายเธอช่วยฉันด้วยนะกอบัว" เรียวมือสั่นเทาเขย่าแขนฉันหวังให้ฉันช่วย เหลือบมองไปที่พี่อินทร์ขณะนี้กำลังยืนคุยอะไรบางอย่างกับพี่ดำและพี่กล้าอยู่ที่หัวกระได "ไม่เป็นไรนะข้าวหอม ฉันและพี่อินทร์จะไม่ยอมให้เธอโดนผู้ใหญ่ลือทำร้ายอีกแล้ว""ฮืออ ช่วยฉันด้วยนะกอบัว ฮึก ฉันกลัว" ข้าวห
______1 เดือนต่อมา"ลมพัดเย็นสบาย คงจะดีหากพี่อินทร์อยู่ตรงนี้ด้วย" นี่ก็ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้วกับเรื่องราววุ่นวายที่จบลง มีชีวิตที่กำลังเริ่มต้นใหม่ไปด้วยดีอย่างเช่นข้าวหอม เพราะทรัพย์สมบัติทั้งหมดของผู้ใหญ่ลือไม่มีผู้สืบทอดจึงตกมาที่ข้าวหอมเต็มๆ เธอจึงตัดสินใจเปิดโรงเรียนเพื่อให้เด็กๆ ในหมู่บ้านจะได้อ่านออกเขียนได้ คิดย้อนเหตุการณ์ไปในวันนั้นฉันคิดว่าจะต้องเสียพี่อินทร์ไปตลอดกาลเสียแล้ว ดีที่ตำรวจมือไวลั่นไกลการุณยฆาตผู้ใหญ่ลือเสียก่อน ทำให้พี่อินทร์รอดตายมาอย่างหวุดหวิด "มานั่งทำอะไรคนเดียวจ๊ะเมีย" "พี่อินทร์กลับมาแล้วหรือจ๊ะ" คนในความคิดปรากฏตัวขึ้น หลังจากที่หายหน้าไปช่วยชาวบ้านคนอื่นๆ สร้างโรงเรียนแต่เช้า "ก็ทนคิดถึงเมียไม่ได้ เลยขอข้าวหอมมันกลับมาก่อน" ว่าแล้วก็เดินเข้ามานั่งโอบกอดซบไหล่ฉัน คล้ายกับคนไม่ได้เจอหันมานานแรมปี "ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะจ๊ะ" "อะไรที่พี่คิดก็อยากจะรีบพูดรีบทำก่อนที่จะสายไป เหตุการณ์ในวันนั้นสอนให้พี่ไม่ประมาทหากตำรวจไม่ช่วยเอาไว้ คนที่ตายอาจจะเป็นพี่ก็ได้" "ถ้าเป็นแบบนั้นกอบัวคงจะอยู่คนเดียวไม่ได้เหมือนกัน" เราสองต่างโอบกอดกันแน่นราวกับว่ากลัวอี
______"พรานอินทร์รูปหล่อฝีมือการล่าสัตว์ไม่เป็นสองรองใคร ทั้งยังเชี่ยวชาญเรื่องการเดินป่าเป็นที่เลื่องลือไปไกลถึงคนเมือง ใครต่างก็ต้องการตัว คนดีๆ แบบนั้นไหงถึงได้เลือกที่จะมีเมียน้อยเป็นเด็กเขากลิ่นสาปสางแบบนั้นกัน" "จะพูดก็พูดเถอะ คนบนเขาห่างไกลความเจริญแบบนั้นเล่นของต่ำกันทั้งนั้น" "ตาย! งั้นพรานอินทร์ก็อาจจะโดนของจากเด็กเขาคนนั้นรึ ถึงขั้นเอามันเป็นเมียน้อยออกหน้าออกตาเกินลูกสาวผู้ใหญ่ลือ" "ข้าคิดว่าเป็นแบบนั้น หนูข้าวหอมทั้งสวยทั้งดูดี อีกทั้งยังเป็นถึงขวัญใจประจำหมู่บ้าน ตอนที่แต่งงานกันก็ดูชื่นมื่นรักกันดี แต่ไหงผ่านไปไม่ถึงปีพรานอินทร์ถึงลากอีเด็กเขาลงมาอยู่กระท่อมท้ายหมู่บ้านก็ไม่รู้" "จุ๊ๆ! อีเด็กนั่นมันมาแล้ว" "......" อีเด็กนั่นที่ว่าคือฉันคนนี้เอง กอบัว เด็กเขาที่มีกลิ่นสาปสางอย่างที่ชาวบ้านลือกัน ฉันอายุยี่สิบสี่ปีกำพร้าพ่อแม่ส่วนย่าที่อยู่ด้วยกันก็ป่วยตายทิ้งฉันไว้ในหมู่บ้านบนเขาอย่างเดียวดาย กระทั่งฉันได้ออกไปหาผักป่าเจอเข้ากับพรานอินทร์ พรานหนุ่มรูปหล่อมากความสามารถ เขาเป็นคนช่วยฉันออกมาจากวังวนความเศร้า จนถึงตอนนี้ฉันได้ย้ายมาอยู่หมู่บ้านเชิงเขา เป็นหมู่บ้านที
________"แล้ว...พี่อินทร์ไม่เหม็นสาบตัวฉันหรือจ๊ะ" ทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับพี่อินทร์ฉันพยายามไม่เข้าใกล้จนเกินไป เกรงว่าจะทำให้เขาสะอิดสะเอียนจนไม่อยากมาหาฉันอีก "อื้ม" คำตอบเพียงสั้นๆ ทำเอาหัวใจของฉันหยุดเต้น หากเขาเหม็นจนไม่อยากมาหาฉันจะทำยังไงดีล่ะ ชีวิตของฉันในหมู่บ้านแห่งนี้คงไม่มีความหมายอีกต่อไป ระหว่างที่คิดอยู่นั้นฝ่ามือหนากระชับเอวดึงตัวฉันเข้าไปกอดในอ้อมอกแกร่ง"คิดว่าพี่จะไม่มาหาเอ็งงั้นรึ ถ้าพี่ทนไม่ไหวป่านนี้คงทิ้งเอ็งไปนานแล้วกอบัว""พะ พี่อินทร์" นั่นสิ เรื่องนี้ฉันก็เคยคุยกับเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน โดยพี่อินทร์เองก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลฉันจนกว่าฉันจะเป็นฝ่ายปฏิเสธการดูแลเอง "เอาล่ะ นี่ก็เริ่มเย็นแล้วพี่ยังรอกินกับข้าวฝีมือเอ็งอยู่นะ กอบัว" "จ้ะ! เกือบลืมไปเลยเดี๋ยวฉันรีบไปทำกับข้าวกับปลาก่อนนะจ๊ะ" "อือ" กอบัวเอ็งมีค่ายิ่งซะกว่าเมียน้อยของพี่ซะอีก "ไอ้กล้าวันหลังจะแดกเหล้าก็หัดบอกกูล่วงหน้าบ้าง กูจะได้เตรียมหาปลามาย่างกินเป็นกับแกล้มดีๆ " "กูล่ะอยากจะหัวเราะดังให้ลั่นหมู่บ้าน ทุกวันนี้มึงตกได้แต่ปลาซิวปลาสร้อย จะเอาปลาอะไรมาย่างกินวะไอ้ดำ"
______1 เดือนต่อมา"ลมพัดเย็นสบาย คงจะดีหากพี่อินทร์อยู่ตรงนี้ด้วย" นี่ก็ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้วกับเรื่องราววุ่นวายที่จบลง มีชีวิตที่กำลังเริ่มต้นใหม่ไปด้วยดีอย่างเช่นข้าวหอม เพราะทรัพย์สมบัติทั้งหมดของผู้ใหญ่ลือไม่มีผู้สืบทอดจึงตกมาที่ข้าวหอมเต็มๆ เธอจึงตัดสินใจเปิดโรงเรียนเพื่อให้เด็กๆ ในหมู่บ้านจะได้อ่านออกเขียนได้ คิดย้อนเหตุการณ์ไปในวันนั้นฉันคิดว่าจะต้องเสียพี่อินทร์ไปตลอดกาลเสียแล้ว ดีที่ตำรวจมือไวลั่นไกลการุณยฆาตผู้ใหญ่ลือเสียก่อน ทำให้พี่อินทร์รอดตายมาอย่างหวุดหวิด "มานั่งทำอะไรคนเดียวจ๊ะเมีย" "พี่อินทร์กลับมาแล้วหรือจ๊ะ" คนในความคิดปรากฏตัวขึ้น หลังจากที่หายหน้าไปช่วยชาวบ้านคนอื่นๆ สร้างโรงเรียนแต่เช้า "ก็ทนคิดถึงเมียไม่ได้ เลยขอข้าวหอมมันกลับมาก่อน" ว่าแล้วก็เดินเข้ามานั่งโอบกอดซบไหล่ฉัน คล้ายกับคนไม่ได้เจอหันมานานแรมปี "ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะจ๊ะ" "อะไรที่พี่คิดก็อยากจะรีบพูดรีบทำก่อนที่จะสายไป เหตุการณ์ในวันนั้นสอนให้พี่ไม่ประมาทหากตำรวจไม่ช่วยเอาไว้ คนที่ตายอาจจะเป็นพี่ก็ได้" "ถ้าเป็นแบบนั้นกอบัวคงจะอยู่คนเดียวไม่ได้เหมือนกัน" เราสองต่างโอบกอดกันแน่นราวกับว่ากลัวอี
______"เราต้องรีบไปบ้านอีข้าวหอมกันแล้ว" "มีเรื่องอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?" เพิ่งจะตื่นนอนได้ไม่นานแท้ๆ มุ้งยังไม่ทันได้เก็บพี่อินทร์เดินปรี่เข้าบ้านด้วยสีหน้าร้อนรนคล้ายกับคนมีเรื่อง"เมื่อกี้ไอ้กล้าวิ่งมาบอกว่าเห็นผู้ใหญ่ลือไปเดินตลาดในหมู่บ้าน อีกไม่นานคงได้เข้าไปหาอีข้าวหอมเป็นแน่" "แบบนั้นไม่ดีแน่ เรารีบไปกันเถอะจ้ะ" ฉันและพี่อินทร์รีบตรงไปยังบ้านข้าวหอม ดีที่ผู้ใหญ่ลือยังมาไม่ถึง ทันทีที่เดินขึ้นกระไดบ้านเห็นข้าวหอมนั่งตัวสั่นงันงกคล้ายกำลังหวาดผวาอะไรบางอย่าง "ข้าวหอมเป็นไรหรือเปล่า!" ฉันรีบวิ่งเข้าไปถามไถ่เกรงว่าเธอจะเจ็บป่วยตรงไหน รู้แบบนี้เอายาสมุนไพรมาเผื่อไว้ก็ดี "คุณหนูข้าวหอมไม่ได้เจ็บป่วยอะไรหรอกจ้ะ เธอแค่กลัวว่าจะถูกผู้ใหญ่ลือตามมาทำร้ายถึงที่บ้านเหมือนเมื่อคืนวานอีก""ไม่เอานะ! ฉันไม่อยากถูกส่งไปขายเธอช่วยฉันด้วยนะกอบัว" เรียวมือสั่นเทาเขย่าแขนฉันหวังให้ฉันช่วย เหลือบมองไปที่พี่อินทร์ขณะนี้กำลังยืนคุยอะไรบางอย่างกับพี่ดำและพี่กล้าอยู่ที่หัวกระได "ไม่เป็นไรนะข้าวหอม ฉันและพี่อินทร์จะไม่ยอมให้เธอโดนผู้ใหญ่ลือทำร้ายอีกแล้ว""ฮืออ ช่วยฉันด้วยนะกอบัว ฮึก ฉันกลัว" ข้าวห
______"มานั่งทำอะไรคนเดียวในลำธารหรือจ๊ะ" ถึงกลับสะดุ้งหลุดจากภวังค์ เสียงกอบัวเอ่ยถามดังมาจากด้านหลังเมื่อหันไปพบว่าเธอกำลังเดินตรงเข้ามาพร้อมผ้าบางคลุมหัวไหล่ "ออกมานั่งคิดอะไรคนเดียวเพลินๆ น่ะเอ็งเถอะยังไม่นอนอีกหรือ" "จะให้ฉันนอนหลับได้อย่างไร จู่ๆ พี่ก็หายไปเสียดื้อๆ ฉันกลัวว่าคนของผู้ใหญ่ลือจะมาจับตัวพี่ไปเสียอีก" "นี่เอ็งเห็นพี่เป็นเด็กอมมือหรือไง ที่ใครจะลากตัวไปมาได้ตามใจชอบ นี่อดีตโจรป่าเชียวนะ" "นั่นสิจ๊ะ ฉันคงคิดมากเกินไป" กอบัวหัวเราะเล็กน้อยชอบอกชอบใจ เดินตรงเข้ามานั่งข้างกายข้าไม่ห่าง เราสองเพียงนั่งเงียบๆ เงยหน้ามองพระจันทร์และดวงดาว "ว่าแต่ดีแล้วหรือจ๊ะที่ให้พี่ดำพี่กล้าไปเฝ้าข้าวหอมที่บ้าน" หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จข้าให้ไอ้ดำไอ้กล้าไปเฝ้าอีข้าวหอมที่บ้าน เผื่อไอ้ผู้ใหญ่มันคลั่งคิดจะฆ่าลูกขึ้นมาอย่างน้อยจะได้มีคนช่วย "ไอ้ดำไอ้กล้าฝีมือมันไม่ใช่ย่อย ถ้าไม่หมาหมู่รุมมันเป็นสิบคนยังไงก็เอาไหว" "เฮ้อ ไม่คิดเลยว่าผู้ใหญ่ลือจะมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตทำร้ายได้แม้กระทั่งลูกในไส้ของตัวเอง" "ไอ้คนพันนี้มันทำได้มากกว่าที่คิดเสียอีก หญิงสาวสวยๆ ในหมู่บ้านต่างก็ผ่านมือมัน
_______"วันนี้กอบัวอารมณ์ดีหรือเปล่าเนี่ย กับข้าวกับปลาเต็มโต๊ะไปหมด" "ไอ้กล้ามึงก็พูดไป ทุกครั้งกอบัวมันก็ทำกับข้าวเยอะแยะเผื่อมึงกับกูเหมือนทุกที" "ก็วันนี้มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลยนี่หว่า เหมือนกับว่ามีเรื่องดีๆ " พี่ดำจ้องมองฉันสลับไปมากับพี่อินทร์ที่ตอนนี้ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน นั่งกินข้าวคล้ายไม่ได้ยิน"ไอ้ดำมึงอยากกินส้นตีนกูแทนข้าวหรือเปล่า" "โอ๊ะ! ไม่เอาด้วยหรอกพี่อินทร์ตีนหนักมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว โดนทีช้ำในไปเป็นเดือน" ทั้งพี่ดำและพี่กล้าต่างก็รู้แล้วว่าฉันรู้เรื่องในอดีตจากพี่อินทร์หมดแล้ว ฉะนั้นเวลาที่พูดคุยปรึกษาหารือทั้งสามมักจะพูดคุยต่อหน้าฉันโดยไม่มีอะไรปิดบัง ทำให้ฉันรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว "เอ็งก็มานั่งกินพร้อมกันซะสิกอบัว เดี๋ยวข้าวก็เย็นหมดไม่อร่อยกันพอดี" "จ้ะ ^^ " ชีวิตในแต่ล่ะวันของฉันในตอนนี้ช่างเรียบง่ายทั้งยังมีความสุข ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพี่อินทร์ตลอดทั้งวัน นั่นก็ถือว่าเป็นความสุขที่สุดของฉันแล้ว "อย่านะจ๊ะคุณหนู!" เสียงดังโวยวายมาจากทางหน้าบ้าน ฉันทั้งสี่หันไปมองเป็นตาเดียวแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อหญิงสาวสวมชุดกระโปรงสวยหัวฟูรุงรังวิ่งหน้าตาตื่นตรงเข้า
______"ความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับอีข้าวหอมมันเริ่มต้นจากเรื่องที่ผู้ใหญ่ลือรู้ว่าพี่เป็นโจรป่าเข้านี่แหละ ด้วยชื่อเสียงซุ่มโจรของพี่ดังกระฉ่อนไปทั่วไหนจะโดนหมายหัวจากทางการ ทันทีที่มันรู้ว่าพี่เป็นไอ้อินทร์โจรป่าแล้ว มันจึงยื่นข้อเสนอแลกกับการที่มันจะปิดเรื่องพบตัวพี่ให้ทางการ" "ข้อเสนอที่ว่าคือเรื่องที่พี่มักจะหายเข้าไปหาของป่านานหลายวันหรือเปล่าจ๊ะ" "ใช่ มันรู้ว่าพี่เป็นคนมีวิชาจึงให้พี่ออกไปล่าสัตว์ป่าตามคำสั่งซื้อของพวกฝรั่งมังค่า ส่วนมันก็เพียงแค่นำของไปขายและนอนนับเงินหนาเป็นฟ่อน" ไม่คิดว่าผู้ใหญ่ลือที่ชาวบ้านให้ความเคารพยำเกรงจะกล้าทำถึงเพียงนี้ "ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเปิดซ่องค้าประเวณีออกหน้าออกตาแต่ที่เจ็บใจคือมันมักจะเอาเด็กสาวไปค้าขายอย่างสบายใจ" "ละ แล้วทางการไม่รู้หรือจ๊ะ" "รู้ แต่ในเมืองเราถูกมันปิดปากด้วยเงินไปหมดแล้ว จึงไม่เข้าไปยุ่มย่าม" "ชั่วเสียจริง!" เด็กสาวงั้นเหรอ ฉันเองก็เคยรู้เรื่องพวกนี้มาจากคนในหมู่บ้านบนเขา ว่าพ่อแม่ที่ยากจนมักจะพาลูกสาวไปขายที่เชิงเขา ไม่คิดว่าขายที่ว่าจะเป็นการขายในสถานที่แบบนั้น "ใช่ ใจจริงพี่อยากจะฉีกหน้ากากนักบุญจอมปลอมออกให้สิ
___________"หรือว่าจะเป็นพรานอินทร์งั้นเหรอ!?" "ใช่แน่ๆ" "จะว่าไปแล้วกอบัวดูเหมาะสมกับพรานอินทร์มากกว่าอีข้าวหอมอีกนะ" "นั่นสิ อย่างกับนางฟ้ากับเทวดา" ไม่คิดว่าชาวบ้านจะเปิดใจยอมรับฉันได้เร็วถึงเพียงนี้ รู้สึกดีใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างน้อยพี่อินทร์จะได้ไม่โดนชาวบ้านตราหน้าล่ะนะ "เราไปไหว้พระกันเถอะกอบัว" "จ้ะพี่ ^^ " มีความสุขที่สุดในชีวิตของฉันเลยล่ะ"ไม่คิดมาก่อนเลยว่างานวัดจะสนุกแบบนี้" "ถ้าสนุกพี่จะพามาอีก" "ขอบคุณนะจ๊ะพี่อินทร์ ^^ " ท่าน้ำใกล้วัดฉันและพี่อินทร์พากันเดินมานั่งพักขาก่อนจะกลับบ้าน ท่าน้ำบริเวณนี้เงียบสงัดไร้ซึ่งผู้คนหากไม่มีตะเกียงจุดเรื่อยทางมาคงไม่เห็นท่าศาลาแห่งนี้ คิดทบทวนดูแล้วก็อดสงสัยเรื่องของข้าวหอมขึ้นมา"ว่าแต่เรื่องที่ชาวบ้านเขาพูดกันถึงคุณข้าวหอม มันคือเรื่องอะไรหรือจ๊ะ" สีหน้าพี่อินทร์เรียบเฉยลงแววตาไร้ความหมายจ้องมองออกไปยังสายน้ำเบื้องหน้า "เป็นอย่างที่ชาวบ้านลือกัน อีข้าวหอมมันเอากับผู้ชายท้ายตลาดบนรถ" "จะ จริงหรือจ๊ะ!!" น่าอับอายเสียจริง เรื่องที่ชาวบ้านลือกันเป็นความจริงทั้งหมดเลยหรือเนี่ย ทั้งพี่อินทร์ยังเป็นคนไปเห็นกับตาเสีย
______"สวยจัง ^^ " เพียงแค่ก้มมองดูเสื้อสีชมพูและกระโปรงลูกไม้สีขาวยาวคลุมเข่า ชุดใหม่ที่พี่อินทร์ซื้อมาให้ฉันจากในเมือง ทำเอาฉันยิ้มกว้างเหมือนคนบ้าทั้งวัน "ยิ้มจนแก้มจะปริแล้ว ดีใจขนาดนั้นเชียวรึ" "พี่อินทร์กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ" พี่อินทร์กลับมาพร้อมหน่อไม้หัวใหญ่วางมันลงก่อนจะพุ่งตรงมาที่ฉัน "จะว่าไปชุดนี้เหมาะกับเอ็งมากจริงๆ กอบัว" "มะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะ" "จะว่าไปแล้วเย็นนี้มีงานวัด เอ็งจะไปเดินเล่นกับพี่หรือเปล่า" "ปะ ไปได้หรือจ๊ะ!" งานวัด! เมื่อปีที่แล้วฉันเองก็อยากไปแต่เพราะกลัวว่าชาวบ้านจะมองพี่อินทร์ไม่ดี จึงไม่ได้บอกพี่อินทร์อย่างตรงไปตรงมา ในที่สุดปีนี้พี่อินทร์ก็เป็นฝ่ายเอ่ยชวนฉันก่อน "ได้สิ ถ้าเอ็งอยากไปเดี๋ยวพี่พาไป" "ขอบคุณนะจ๊ะ!" ด้วยความดีใจฉันเผลอตัววิ่งเข้าโอบกอดซบอกแกร่งพี่อินทร์เสียแน่น "ถ้าเอ็งอยากทำอะไรก็ขอให้บอก พี่พร้อมจะพาเอ็งไปทุกที" ฝ่ามือหนาลูบหัวฉันแผ่วเบา ช่างอบอุ่นและอ่อนโยนตอนนี้ฉันพูดได้เต็มปากว่าตกหลุมรักพี่อินทร์เข้าอย่างจัง "หากจะไปงานวัด ชาวบ้านจะไม่ต่อว่าเรื่องกลิ่นกายของฉันหรือจ๊ะ" นั่นสิมัวแต่ดีใจจนลืมเรื่องลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิ
_____"พี่จะเข้าไปคนเดียวจริงหรือจ๊ะ ให้พวกฉันเข้าไปด้วยจะดีกว่าไหม""มึงกับไอ้ดำรออยู่ข้างนอกนี่แหละ กูเอาของเข้าไปให้ผู้ใหญ่ลือเสร็จแล้วจะรีบออกมา""พี่ว่าไงพวกฉันก็ว่างั้น"เข้าป่าไปล่าหนังหมีเสร็จออกมาไม่ทันจะได้นั่งพัก คนของผู้ใหญ่ก็มาตามถึงบ้านโดยที่นัดหมายในการมอบของในวันนี้คือซ่อง สถานที่แห่งคาวโลกีย์ขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งกิจการที่เน่าเฟะของผู้ใหญ่ลือ คงต้องรีบเอาของเข้าไปให้มันและรีบออกมาไปหาซื้อเสื้อใหม่ให้กอบัวจะดีกว่า "มาหาใคร"ชายตัวดำสูงใหญ่เอ่ยถามคงจะเป็นคนเฝ้ายามของซ่องแห่งนี้ "มาหาผู้ใหญ่ลือ เอาของมาให้" มันดูจะรู้ความอยู่ไม่เบา รีบเดินหลบหลีกทางให้ข้าได้เดินเข้าไปแต่โดยดี แม้เวลานี้จะเป็นเวลาเที่ยงวันตะวันตรงหัว แต่ในสถานโลกีย์กลับยังมีชายมากตัณหาคอยเดินหรี่ตามองสาวน้อยใหญ่ที่นั่งเรียงกันอยู่บนเก้าอี้ไม้หน้าเวที ที่น่าตกใจคงจะเป็นอายุของเด็กสาวบางคน ที่ดูเหมือนพึ่งจะขึ้นรุ่นอายุอานามเพียงสิบกว่าๆ "กึด! นี่ต้องเลวแค่ไหนถึงเอาเด็กเข้ามาทำงานแบบนี้ได้"นึกถึงความเลวของไอ้ผู้ใหญ่แล้ว ข้าชักจะอดใจไม่ไหวอยากจะถลกหนังมันมาเช็ดตีนเสียจริง "ว๊าย อย่าพึ่งสิจ๊ะรอข้าวหอมก่อนส
______"โอ๊ย! ไอ้กล้ามึงจะสะบัดผ้ามาทางกูทำไมเล่า โน้นสะบัดไปทางไม่มีคนอยู่สิวะ" "มึงเซ่อซ่ามายืนตอนกูกำลังทำงานทำไมละวะ ไม่ทำก็ออกไป" "ออกไปไม่ได้เดี๋ยวพี่อินทร์เห็นว่ากูไม่ได้ช่วยมึงก็โดนทุบหลังอีก" ฉันยืนทนฟังพี่ทั้งสองคนไม่ไหว เดินเข้าไปจับผ้าห่มหวังจะแย่งมาตากเสียเอง"พี่สองคนไปพักเถอะจ้ะ เดี๋ยวฉันจะตากเอง" "ไม่ได้!" "ไม่ได้!" พี่กล้าพี่ดำเอ่ยพูดพร้อมกันเสียงดังฟังชัด เหตุที่เป็นแบบนี้เพราะเมื่อเช้าฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายปวดเนื้อตัวปวด พี่อินทร์เห็นเข้าก็ไล่ให้ไปนอนพักแต่ว่างานบ้านงานเรือนที่ยังรอให้ทำก็มีอยู่มาก หนึ่งในนั้นก็คือการซักผ้าห่มนี่ล่ะ เห็นพี่กล้าพี่ดำเดินเตร่ไปมาว่างๆ พี่อินทร์จึงเรียกใช้เสียเลย "กอบัวเป็นถึงเมียพี่อินทร์ พวกพี่ให้เอ็งทำไม่ได้หรอก" "ใช่ เมียพี่ก็เหมือนพี่สะใภ้พวกเรา" "มะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะ!" หนึ่งในคำพูดที่ช่วงนี้พี่อินทร์มักจะพูดกับพี่ทั้งสองซึ่งเป็นลูกน้องนั่นก็คือ ฉันเป็นเมียเขานั่นเอง เจ้าตัวพูดออกมาได้หน้าตาเฉยต่างจากฉันที่ทั้งเขินทั้งอายจนหน้ามืดตาลายอยากแทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด "พวกมึงใช้เมียกูตากผ้าแทนงั้นรึ" "พี่อินทร์ไม่ใช