Share

chapter 7

last update Last Updated: 2025-01-23 11:25:54

“ช่วยด้วยซีกัลป์ ช่วยแม่ด้วย!”

อันเดซาอีกดสวิตช์ไฟข้างประตูเปิดให้ห้องสว่างขึ้น แล้วรีบเดินไปทรุดนั่งใกล้ตัวมารดา เพียงแค่แตะที่ร่างเล็กแกร็นซึ่งนอนกระสับกระส่ายบิดกายไปมา สองมือไขว่คว้าสลับป่ายปัดผลักไสและหวีดร้องเสียงหลงด้วยความกลัวอย่างรุนแรงโดยไม่รู้ตัว

“แม่...แม่ครับ ผมเอง...ซีกัลป์”

“ซีกัลป์!” คนถูกน้ำเสียงคุ้นเคยเรียกลืมตาตื่นทันควัน พร้อมร่างเล็กผอมแกร็นสั่นเทาราวกับนกน้อยพลัดตกลงไปในคุ้งน้ำเย็นจัด ผวาขึ้นจากเตียงกอดผู้เป็นลูกชาย

“เจ้าพวกนั้น...คนพวกนั้นมากันอีกแล้ว มันจะมาทำร้ายเรา...ทำร้ายแม่ ช่วยด้วยซีกัลป์ แม่กลัว!”

นางโซไรยาซุกกายสั่นงันงกแทบจะจมหายไปในอ้อมกอดของบุตรชาย ใบหน้าขาวซีด น้ำตาไหลอาบแก้ม แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่สำหรับนาง ความสูญเสียและเจ็บปวดฝังสนิทแนบอยู่ในใจไม่เคยจางหายไป มันเกาะกินหัวใจให้ค่อยๆ ตายซากลงไปทุกวันอย่างเชื่องช้าที่สุด

เคยคิดหลายครั้งว่านางควรจะตายตามผู้เป็นสามีไป จะได้ไม่เป็นภาระให้อันเดซาอีต้องคอยดูแล จนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ทว่า...ความหวังที่ยังคงเหลืออยู่ ที่จะได้เห็นหน้าหลานชายที่หายสาบสูญไปและการได้เห็นลูกชายคนเดียวที่แปรเปลี่ยนจากหนุ่มน้อยผู้ยิ้มแย้มแจ่มใส มีชีวิตชีวาและหัวเราะง่าย กลับกลายเป็นคนเคร่งขรึม วันๆ ไม่เคยมีรอยยิ้มแต้มบนใบหน้าได้แต่งงานมีลูกหลานสืบสกุล นางจึงจะตายตาหลับ

“ไม่ครับ ไม่มีใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว แม่แค่ฝันไปเท่านั้นเอง” ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังของร่างเล็กที่ผอมจนเหลือเพียงแค่หนังหุ้มกระดูก เพราะตรอมใจจากการสูญเสีย จนไม่ยอมกินข้าวปลาอย่างอ่อนโยนและเข้าใจในความรู้สึก

“ไม่...ไม่จริง แม่เห็น พวกมันย่างสามขุมเข้ามาหาแม่ บอกจะหักคอแม่ จะเอาเนื้อไปโยนให้แร้งกามันทึ้งกิน น่ากลัวมากเลยซีกัลป์” โซไรยาบอกให้ลูกชายฟังเสียงสั่น ใบหน้าขาวซีดเหลียวมองซ้ายขวา ด้วยเสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายจากทะเลทรายและโห่ร้องคึกคะนองยังดังก้องอยู่ในหู ก่อนดวงตาเบิกกว้างเมื่อนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้

“พวกมันยิง!” ภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนนั้นผ่านเข้ามาในมโนสำนึก พร้อมความกลัวที่ทำให้นางโซไรยาขาดสติหวีดร้องดังลั่นอีกครั้ง จนอันเดซาอีต้องรีบออกแรงกดกอดร่างมารดาที่พยายามทำร้ายและผลักไสเขาให้ออกห่างไป

 “พวกมันยิงซีกัลป์...ลูกแม่ตายแล้ว” โซไรยาร้องไห้ฟูมฟายราวกับจะขาดใจ เลือด! เลือดเต็มตัวอันเดซาอี กลิ่นคาวคละคลุ้ง เหม็นเน่าเต็มปากและจมูกชวนอาเจียน!

“แม่ดูให้ดีนะครับ ผมไม่ได้ถูกยิง” นำเอามือของมารดามาทาบอก ตรงจุดใกล้กับหัวใจที่มีบาดแผลจากการถูกยิง

“ลูกแม่ยังปลอดภัย ไม่ได้เป็นอะไรเลย แม่เห็นไหมครับ” อันเดซาอียิ้มอย่างขมขื่นและฝืนเต็มที่ อาการแม่แย่ลงทุกวัน แต่คนเป็นลูกอย่างเขาทำได้เพียงแค่เฝ้ามอง โดยช่วยเหลือไม่ได้ มันทำเอาเขาเจ็บปวดใจเหลือจะกล่าว

 “แม่แค่นอนหลับและฝันร้ายไปเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มพูดเสียงทุ้มและอ่อนโยน ใบหน้าที่แทบไม่มีรอยยิ้มก็มีอย่างฝืนๆ เพื่อให้มารดาคลายความหวาดผวา

“แต่...แม่เห็นจริงๆ นะซีกัลป์ พวกมันยิงลูก เลือด...เลือดเต็มตัวเลย” โซไรยาโต้กลับเสียงเบา มือจับไปบนกายใหญ่อย่างต้องการความมั่นใจ ไม่มีเลือดและชายหนุ่มตรงหน้าคือ...อันเดซาอีบุตรชาย! จริงๆ

 “ผมสัญญากับแม่แล้วไงครับ ผมจะไม่เป็นอะไร จนกว่าจะหาเจ้าพวกนั้นเจอ และทำให้พวกมันได้รู้ถึงความเจ็บที่คนอื่นๆ ต้องเจอจากการกระทำของพวกมันไงครับ!” อันเดซาอีเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างดุกร้าว ไม่แพ้นัยน์ตา

“ไม่นะซีกัลป์! ลูกต้องไม่ทำแบบนั้นนะ!” คนเป็นแม่ห้ามเสียงสั่น เมื่อได้เห็นการแต่งกายที่บ่งบอกว่า ผู้เป็นลูกชายกำลังเริ่มต้นการเดินทางไปในท้องทะเลทรายอันกว้างไกลและมืดมิด เต็มไปด้วยภัยอันตรายต่างๆ นานา ตามหาจอมโจรร้ายเพื่อแก้แค้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว นางยอมรับไม่ได้

“แม่ไม่ต้องห่วง ผมเอาตัวรอดได้” อันเดซาอีบอกให้มารดาวางใจ เชสไม่ได้เจาะจงไปตามล่าหาขุนโจรฮิบรานเพื่อจัดการแก้แค้นอีกฝ่าย แต่เขายังจะตามหาจอมโจรโมฮาหมัดและยังตามไปจับตัวพวกที่แอบอ้าง คอยปล้นชิงสินค้าตลอดสามสี่ปี สร้างความเสียหายทางการค้าให้แก่เขาและบริษัทเป็นมูลค่าสูงด้วย

“แม่กินยาแล้วนอนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปตามฮารินะให้มาอยู่เป็นเพื่อน” อันเดซาอีหมายถึงเด็กหญิงที่ประสบกับโชคร้าย หมู่บ้านของเธอโดนเจ้าโจรใจดำอำมหิตปล้น คนในหมู่บ้านไม่เว้นแม้แต่เด็ก ผู้หญิงและคนแก่ชราต่างก็ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น

ฮารินะเองก็ใช่ว่าจะรอดจากการถูกฆ่า แต่เพราะมารดาเธอกันไว้ เลยทำให้แค่บาดเจ็บสาหัส แต่ความโหดร้ายของคนกลุ่มหนึ่ง ก่อเกิดเป็นพิษแห่งความกลัวที่ฝังแน่นเกาะกินใจ ส่งผลให้เด็กน้อยช็อกจนพูดไม่ได้และกลายเป็นคนหวาดระแวง นอนสะดุ้งด้วยฝันร้าย เพียงแค่ใบไม้ปลิวไปตามกระแสสมเกิดเป็นเสียงแค่เล็กน้อยก็หวีดร้องเสียงหลง รีบมุดตัวเองหลบใต้เตียงนอนในทันที 

“ซีกัลป์!”

 โซไรยารู้ดีว่าห้ามไม่ได้ บุตรชายที่เคยรักและเกรงอกเกรงใจ เชื่อฟังนางเป็นอย่างดีตลอดมาได้ตายไปแล้ว เหลือก็แต่ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความแค้นล้นอก ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสกลับเงียบขรึมจนเป็นเย็นชาคล้ายน้ำแข็งห่อหุ้มกองไฟไว้ เมื่อหลอมละลายก็กลายเป็นเพลิงบรรลัยกัลป์ พร้อมเผาทุกอย่างให้มอดไหม้เป็นจุล!

อันเดซาอีผ่อนลมหายใจออกจากปอด ลุกขึ้นพากายตัวเองไปยืนที่หน้าต่าง ไม่ยอมเหลียวหลังกลับไปมองมารดา ด้วยกลัวตัวเองใจอ่อนกับน้ำตา

“แม่ไม่ห้าม ถ้าลูกยอม...”

“แม่รู้นี่ครับ ครอบครัวเราเหมือนโดนคำสาป ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากมาเสี่ยงชีวิตกับเราหรอกครับ” ขนาดเดินผ่านก็ยังมีเสียงนินทาว่าร้ายลอยตามหลังมาเลย แล้วจะมีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งมาเป็นภรรยาของอันเดซาอี ซีกัลป์ โอซาอิดนี่คนนี้กันเล่า

ฮึ! เจ้าคนหน้าหนาพวกนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเงินทองที่มากมาย จนต้องทำเป็นลืมไปเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่งั้นละก็...ไม่มีใครกล้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาและแม่หรอก

Related chapters

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 8

    “ถ้าแม่สามารถหาคนคนนั้นได้ล่ะ ลูกจะยอมทำตามความต้องการของแม่ไหม” นางไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่คราวนั้นผ่านไปโดยบังเอิญ ถึงได้ล่วงรู้บางอย่างที่สามารถนำมาใช้ในคราวนี้ได้อันเดซาอีขบคิดอยู่เล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับ คงถึงเวลาที่เขาต้องยอมทำตามคำขอร้องของมารดาเสียที “ถ้ามีคนยอม...ผมยังไงก็ได้ แต่...” ข้อแม้มีมากมาย จะมีใครยอมทนอยู่กับคนมากเรื่อง เย็นชาไร้ความรู้สึกอย่างเขาได้ล่ะ ถึงแม้เวลาร่วมหอหลับนอนจะไม่นานก็ตาม “แม่คงไม่ลืม ผมเคยบอกอะไรไว้”“แค่ลูกยอมทำตามคำขอ แค่นั้นก็ดีแล้ว” เพราะความเป็นมารดาของอันเดซาอี จึงทำให้นางสามารถล่วงรู้ในสิ่งที่บุตรชายต้องการและทำมันได้ด้วยอยากถาม แม่รู้ได้ยังไง ผู้หญิงที่เลือกมาเป็น...แม่พันธุ์ ไม่เป็นหมันและการมีอะไรด้วยเพียงไม่นาน จะตั้งครรภ์ได้ สามปี...สองคน!อันเดซาอียิ้มเย้ยหยัน ผู้หญิงที่มารดาหามาคงไม่แคล้วหลงในทรัพย์สินเงินทองและความสบายของเขา จึงได้ยอมพลีกายขายเรือนร่างและยอมจากไปเมื่อครบกำหนดเวลาสัญญา โดยใจดำทิ้งลูกในอุทรได้อย่างไร้เมตตาและสำนึกของความเป็น...มารดา!“ผมไปตามฮารินะมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ แล้วจะไปเลย” ไม่รอให้มารดาห้าม อันเดซาอีรีบเดิน

    Last Updated : 2025-01-23
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 9

    “ช่วยบอกหนูทีเถอะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงต้องให้หนูไปแต่งงานกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ด้วย” คนเป็นบุตรสาวมองบุพการีทั้งคู่ด้วยหวังได้ยินคำชี้แจง ทว่ากลับได้รับเพียงความเงียบงันที่ทำให้ใจเริ่มเสียหนักขึ้น“อย่าเงียบกันอย่างนี้สิคะ บอกหนูมาหน่อย มันเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเรา...คะ”การเป็นลูกที่ดี แม้ไม่ได้เรื่องในหลายๆ ด้าน ทว่าเธอไม่เคยขึ้นเสียงกับบุพการีและญาติผู้ใหญ่เลยสักครั้ง แต่คราวนี้...เธอกลับอดรนทนไม่ได้ เผลอขึ้นเสียงด้วยความโกรธระคนอัดอั้นตันใจออกไป“ไม่มี ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น ฉันแค่ต้องการให้แกได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ มีเงินมีทองและความรับผิดชอบ เป็นผู้ใหญ่พอที่จะดูแลแกได้ไปตลอดชีวิต ไม่ใช่ไอ้ผู้ชายที่โตจนเป็นควายแล้ว แต่ยังต้องแบมือขอเงินแม่อยู่อย่างไอ้เจ้านั่นละกัน!” คนเป็นพ่อกัดฟันพูดเสียงแข็ง รีบลุกขึ้นยืนโดยพ่วงเอาเมียสุดที่รักไปด้วย ก่อนน้ำตาของอติกานต์จะทำให้เปลี่ยนใจ ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ตกลงไว้ล้มครืนลงมา“เดี๋ยวสิคะพ่อ ถ้าไม่บอกความจริงมา หนูจะไม่ยอมทำตาม...คำสั่งอย่างไม่มีเหตุผลของพ่อกับแม่นะ” อติกานต์ตะโกนตามหลังไปด้วยหวังว่าท่านทั้งสองจะยอมบอกความจริง ด้วยเชื่อว่าทุก

    Last Updated : 2025-01-23
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 10

    แต่ถึงเห็นอย่างนั้น สาวน้อยหน้าใสแก้มป่อง นัยน์ตากลมโตบ้องแบ๊วก็ไม่สนใจ รีบสาวเท้าวิ่งไปด้านหน้า แล้วอ้าแขนดักไว้ด้วยหัวใจแกว่งๆ เกรงใจระคนสั่นเล็กน้อยจากมาดนิ่งๆ จนเป็นเย็นชาของอีกฝ่าย พานให้นึกไปถึงเจ้าหญิงหิมะ ที่เห็นแล้ว...หนาวต้นคอชะมัด!“เธอนี่นะ...จะทำเย็นชาไปถึงไหนฮึ! ฉันทำอะไรให้ไม่พอใจก็บอกกันสิ ไม่พูดอย่างนี้ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะว่าเธอคิดอะไรอยู่” หญิงสาวเอ่ยด้วยใบหน้างอง้ำ น้ำเสียงหวานใสและรอยยิ้มประจบประแจงราวกับว่าสนิทสนมกันมาแสนนานคนที่จมอยู่ในโลกส่วนตัว เดินทางออกจากบ้านมาด้วยอาการของคนที่หัวใจถูกบีบคั้นเคืองแค้น จนอึดอัดไม่อยากจะหายใจ มาเพียงแค่กาย ทิ้งวิญญาณเอาไว้ที่บ้านหยุดชะงัก ตวัดสายตาเข้มดุด้วยเกรี้ยวกราด กลีบปากอิ่มนุ่มซีดเผือดขบกัดเม้มอย่างพยายามระงับสติอารมณ์โทสะที่กรุ่นขึ้นใส่แม่สาวไม่รู้จักมารยาท ลามปามคนไม่รู้จัก ก่อนสาวเท้าเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่แม่คนเสียมารยาก็ยังเดินตามมาและสอดมือเข้าคล้องแขน ตีซี้ทำสนิทสนมด้วยอีกคนร่างเพรียวบางหยุดเดิน ใบหน้าที่เชิดขึ้นสูงจนคอแข็งสะบัดขวับมอง...เพื่อบอกให้รู้ว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่อยากสนทนาด้วย ทว่าแม่สาวร่า

    Last Updated : 2025-01-23
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 11

    “แล้วอย่าคิดนะ ที่ช่วยบอก ฉันจะขอบใจ เธออยากยุ่งวุ่นวายเอง” เธอพยายามปลีกตัวเดินไปอย่างเร็วแล้ว ทว่าแม่เด็กตัวยุ่งก็ยังคงก้าวเดินตามมาจนทัน แล้วยังชวนพูดคุยอย่างสนิทสนมอีก“ฉันก็ไม่ได้หวังอยู่แล้วนี่นา” สาวน้อยหน้าใสตอบกลับอย่างไม่คิดสนใจ ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูอวบอิ่มฉีกยิ้ม “เอาน่า...ยังไงเราก็มาจากบ้านเดียวกัน มีเพื่อนไว้ก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรือไง...ฉันชื่อขอขวัญ เรียกสั้นๆ ว่าขวัญก็ได้นะ แล้วคุณ...ชื่ออะไร”“อติกานต์...เอแคลร์” อติกานต์ตอบกลับอย่างเสียไม่ได้“ว้าว...พ่อแม่ช่างตั้งชื่อจริงๆ ไม่แค่หน้าตาที่สวยอย่างกับนางฟ้า ชื่อยังน่ากินอีก” ขอขวัญทำเสียงตื่นเต้นระคนยินดี ยิ้มกว้างจนนัยน์ตาเป็นประกายระยิบระยับ จนคนที่ถูกเอ่ยชมถึงกับหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยที่มาพร้อมกับความอิจฉา ไหนจะความสงสัย..จะมีอะไรที่ทำให้สาวน้อยหน้าใสทุกข์ได้บ้างหรือเปล่า?“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณเอแคลร์” ขอขวัญฉีกยิ้มกว้างพลางยื่นมือไปหมายจับด้วย แต่อีกฝ่ายกลับปัดออกและสาวเท้าเดินหน้าไปด้วยมาดนางพญา ซึ่งไม่ไกลมีรถคันใหญ่จอดพร้อมเปิดประตูไว้คล้ายกำลังรอคอยรับใครบางคนอยู่ หวังว่าคนนั้นคงไม่ใช่คุณขนมหวานหรอกนะขอขวัญแ

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 12

    ร่างหนาแกร่งด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ผุดลุกจากฟูกหนานุ่ม เดินไปที่โต๊ะตัวยาว ซึ่งมีแผนที่หนังกางและมีเข็มหมุดปักอยู่หลายจุด ล้วนแล้วแต่เป็นเส้นทางจากโรงแรมไปถึงบ้านของเจ้านั่น!นิ้วยาวไล่ไปตามจุดที่ถูกมาร์คเอาไว้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เพื่อความไม่ประมาท เขาจึงเดินทางไปสำรวจเส้นทางล่วงหน้า จนเชื่อได้ว่าเหมาะสำหรับการหลบซ่อนตัวและซุ่มโจมตี พร้อม...ฉกชิงสิ่งสำคัญ ทำให้ไอ้เจ้านั่นหน้าแตกและอับอายจนไม่กล้ามองหน้าใคร ก่อนหน้านั้นเจ้าสาวถูกแย่งชิงไปในวันแต่งงาน หากคราวนี้เจ้าสาวไม่เพียงแค่ถูกแย่งชิง แต่มันเป็นอะไรที่มากเกินเลยไปกว่านั้นล่ะชายหนุ่มหัวเราะในลำคอพร้อมรอยยิ้มมาดหมาย นัยน์ตาแวววาวซ่อนเล่ห์ร้ายเอาไว้อย่างชัดเจน เหลือบสายตามองอีกคนในห้องที่มองมาอย่างสงสัย“ไม่ชิงตัวแล้วนายจะทำอะไร” คนเป็นลูกน้องถามอย่างไม่เข้าใจ การกำจัดไอ้เจ้าบ้านั่น ควรทำตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาคิดทำเอาในตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะ...ใบหน้าดุดันเหี้ยมเกรียมหันมองหนุ่มหน้าละอ่อนที่ไม่เคยคิดทำอะไรเลย นอกจากหาเรื่องทำให้คนอื่นปวดหัวกับสนุกสนานไปวันๆ“ไม่เอาไง ก็แค่...ให้จบเรื่องแค่นี้ เท่านั้นเอง” ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าเลิก

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 13

    ขอขวัญก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ให้จมูกสัมผัสกับกรุ่นกลิ่นไอหอมอ่อนๆ คล้ายกลิ่นดอกไม้ผสมกับกลิ่นอโรมาอ่อนๆ ทำให้ร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทางแสนยาวไกลเกิดความสดชื่น เท้าบอบบางก้าวเดินไปเรื่อยๆ ผ่านห้องนอนไปถึงห้องน้ำซึ่งกั้นด้วยกระจกสีชา อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งด้านบนมีตะกร้าเล็กๆ ใส่กลีบดอกไม้หลากสี รวมถึงสบู่เหลวหลายขวดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อกี้ยังมีอีกอย่างที่สะดุดสายตา ทำให้หญิงสาวรีบหมุนกายเดินไปดู ระเบียงห้องแบ่งเป็นชั้น ด้านหนึ่งยกสูง มีชุดเก้าอี้ไว้ให้ทานอาหารว่างพลางดูวิวทิวทัศน์ข้างนอก ชั้นล่างมีสระว่ายน้ำและสวนหย่อมขนาดเล็ก มีเตียงยาวให้นอนอาบแดดยามสาย หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นอาบแสงจันทร์ยามค่ำคืนกับใครสักคน...โรแมนติกสุดๆ เลย ใครนะช่างออกแบบ ขอขวัญมองเพลินอย่างตะลึงกับห้องพักที่สวยจนอยากจับจองเป็นเจ้าของ“คุณนี่โชคดีสุดๆ เลยนะคุณเอแคลร์ ที่ได้พักห้องสวยๆ แบบนี้”“ก็งั้นๆ ไม่เห็นจะสวยสักนิด” อติกานต์ตอบกลับน้ำเสียงไร้ความรู้สึก แม้กระทั่งก้าวล่วงเข้ามาในห้องแล้ว เธอก็ยังไม่ดึงเอาแว่นกันแดดและเสื้อโค้ตออกจากร่าง คล้ายต้องการให้สิ่งเหล่านี้ปกป้องตั

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 14

    “ให้ฉันแยกไปนั่งคนเดียวก็ได้นะคุณเอแคลร์” ขอขวัญเอ่ยบอกเสียงใส ด้วยจำได้ตอนออกจากห้องอติกานต์บอกเธอมีนัดทานอาหารกับหุ้นส่วนทางธุรกิจคนสำคัญของบิดา เรื่องที่คุยต้องเป็นเรื่องสำคัญและเป็นความลับอยู่แล้ว คนนอกอย่างเธอไม่สมควรเข้าไปสอดแทรกสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านเขา แค่นี้ก็ถูกมองไปในทางไม่ดีแล้วสายตาหวานอมโศกตวัดมาคล้ายเหนื่อยหน่ายใจ สาวเท้าบอบบางเดินลิ่วๆ ไปยังโต๊ะอาหารด้านในสุดโดยไม่สนใจสิ่งใด ด้วยอยากพาตัวเองตัดขาดจากโลกอันสับสนวุ่นวาย แต่ยังไม่ทันถึงที่หมาย ก็มีเหตุให้ร่างเล็กแบบบางเซด้วยแรงที่เปรียบเสมือนรถจักรยานปั่นไปชนกับรถสิบล้อ กายอรชรถลาไปปะทะกับต้นไม้มีชีวิตด้วยเนื้อหนังอุ่น ค่อนไปทางแข็งกระด้างที่ไม่ได้ทำให้เจ็บกาย“โอ้ย!” อารามตกที่อยู่ดีๆ ก็กระเด็นกระดอนลอยไปอย่างไม่ได้ตั้งตัว ทำให้อติกานต์เผลอยกมือโอบรอบกายอุ่นระอุด้วยเลือดเนื้อ ที่ทำให้หัวใจเต้นกระหน่ำไหววูบอย่างไม่ตั้งใจและไร้สาเหตุ ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ถึงความแกร่งกำยำที่โอบรัดรายรอบกายไม่ให้ล้มคะมำ ตกเป็นจุดเด่นจากสายตาคนรอบข้างราวกับโลกที่ยืนอยู่หยุดเคลื่อนไหว เมื่อแหงนหน้าขึ้นแล้วได้สบกับนัยน์ตาเข้มดุแต่อ

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 15

    “ไปห้องน้ำ” หญิงสาวตอบกลับเสียงแผ่ว ไม่หาญกล้าสบกับสายตาเข้มราวใบมีดโกน มือเล็กยื่นไปจับแก้วกาแฟแต่ก็สั่นจนยกจากจานรองไม่ขึ้น จึงเสยกขึ้นลูบไล้ลำคอระหงแทน ใบหน้าค่อนไปทางซีดด้วยอึดอัดคล้ายรอบกายมีหมู่มวลอากาศร้อนอบอ้าวกดทับทำให้หายใจไม่ค่อยออก“คุณเป็นใคร มาถึงก็ถามเอาๆ น่ะ” ถึงจะกลัวแต่ขอขวัญก็ยังรวบรวมความกล้าเอ่ยถามไปโดยไม่สบตาด้วย และพยายามบังคับไม่ให้เสียงที่เอ่ยถามสั่นเกินไปนักใช่บ้านตัวเองเสียเมื่อไหร่ มาอ้างว่าเป็นคนรู้จัก ดีไม่ดีอาจกลายเป็นคนมาสวมรอย เอาภัยมาให้เธอกับอติกานต์ก็เป็นไปได้นี่นา คนเราเดี๋ยวนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ ขนาดคนใกล้ชิดเห็นหน้ากันทุกวัน ยังทำร้ายกันได้เลย นับประสาอะไรกับคนเพียงแค่ได้เห็นเพียงแค่ดวงตาอย่างนี้ล่ะ“ไม่จำเป็นต้องรู้”“อ้าว! พูดแบบนี้ได้ยังไงกัน เกิดคุณเป็นคนไม่ดี มาอ้างโน่นนี่เพื่อเอาตัวคุณเอแคลร์ไป ฉันจะกลับไปตอบกับพ่อแม่เขายังไงล่ะ” ขอขวัญขึ้นเสียงสูง พลางชักสีหน้าหงิกงอใส่นัยน์ตาเข้มฉายแววระอิดระอาใจระคนรำคาญ พูดอย่างกับว่าคนตัวเล็กอย่างหนูที่แค่โดนกระแสลมในท้องทะเลทรายเพียงนิดก็ปลิวไปเสียแล้วจะช่วยอติกานต์จากราชสีห์เจ้าถิ่นที่น่ากริ่งเกรงขามไ

    Last Updated : 2025-01-30

Latest chapter

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 27

    “แต่ขอโทษนะ เผอิญฉันเป็นผู้หญิงหิวเงิน...เอาเงินสักร้อยสองร้อยล้านมาวางเป็นค่าตัว แล้วจะพาฉันไปตกนรกขุมไหนก็ตามสบาย...คุณมีปัญญาหามาจ่ายไหมล่ะ”“อู้...ค่าตัวเธอแพงไปหน่อยไหมเอแคลร์ ฉันยังไม่แน่ใจเลย ว่าจะได้เป็นคนแรกของเธอหรือเปล่า ถ้าใช่มันก็น่าสนใจดีอยู่น่ะ”สายตาเป็นประกายแปลบปลาบเหมือนสายฟ้าฟาด ทำให้ชายหนุ่มอมยิ้ม “ในเมื่อเธอกล้าเสนอมา ฉันก็คงต้องเอากลับไปคิดแล้วละ ว่าพอจะไปขุดคุ้ยหาไอ้เจ้าเงินในหีบ ในไห ในลังใส่เสื้อผ้า มาเป็นค่าตัวแลกเปลี่ยนพาตัวเธอไปเสพสวาทได้หรือเปล่า”รอยยิ้มแต้มบนมุมปากหนา อติกานต์ทำเป็นปากกล้า แต่พอเขาคิดจะเอาจริงใบหน้ากลับซีดเผือด ดวงตาตื่นตระหนกขลาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเสนอมาแล้ว...อย่างเขาหรือจะไม่รีบตะครุบเอามาอยู่ในอุ้งมือน่ะ“ว่าแต่ตอนนี้บอกได้หรือยัง คิดอะไรอยู่ถึงได้เดินไม่มองดูทาง ไม่รู้หรือไงนี่มันต่างถิ่นนะ อันตรายแค่ไหนรู้บ้างไหมหากเจอคนไม่ดีเข้าน่ะ” ชายหนุ่มถามอย่างเป็นห่วง พานโกรธไปถึงไอ้ตัวซวยที่ไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่บอกไม่เตือนให้ระวังตัวกันบ้าง หรือคิดว่าตัวเองใหญ่พอดูแลได้ทั่วถึง จนลืมไปหรือเปล่า แม้เป็นโรงแรมใหญ่ การป้

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 26

    “อื้อ” ใบหน้านวลผุดผาดแหงนหงายไปด้านหลัง เบือนหน้าหนีก็ไม่ได้ เมื่อถูกมือใหญ่ลูบไล้มาจับตรึงท้ายทอยเอาไว้มั่น มือเล็กกำหมัดทุบไปบนอกกว้างเท่าที่เรี่ยวแรงจะมี ก็ต้องหยุดพร้อมน้ำตาที่ร่วงหล่นจากเบ้า เมื่อถูกบดคลึงและขบฟันขย้ำลงไปบนกลีบปากอิ่มนุ่มแรงๆอยู่ใกล้อติกานต์ทีไร เขาอดใจล่วงเกินเธอไม่ได้สักที เห็นทีต้องเร่งหาทางทำให้ไอ้เจ้าบ้านั่นพาแม่หนูขนมหวานไปส่งถึงถิ่นเร็วๆ เสียแล้วละ หวานเร่าร้อนยั่วความกระหายอยากในกายจนแทบคลั่งจะลงแดงตายอยู่แล้วชายหนุ่มบดคลึงซอกซอนหาความหวานจากโพรงกุหลาบนุ่มจนพอใจ ถึงได้ยอมถอนจุมพิต แต่ไม่ยอมปล่อยร่างอรชรให้เป็นอิสระ ฝ่ามือหนาทาบบนแผ่นหลังบอบบาง บังคับด้วยเรี่ยวแรงที่มากกว่าพาหญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ ด้วยท่าทีผ่อนคลายสบายใจ“เล่าให้ฟังหน่อยสิ ครอบครัวเธอคิดยังไง ‘ถึงได้ส่งลูกสาวหน้าตาสะสวยน่ารักมาทำหน้าที่ผลิตทายาทให้กับไอ้คนเย็นชา ที่ชาตินี้คงไม่มีหัวใจให้ใคร นอกจากคนที่ตายไปแล้ว’ ถึงได้ส่งผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบางเดินทางมาที่ห่างไกลแถมยังเต็มไปด้วยภัยอันตรายนานัปการคนเดียวได้...ไม่ห่วงบ้างเลยหรือไง ว่าลูกสาวจะได้รับอันตรายน่ะ”“ไม่จำเป็นที่คุณต้องรู้ ปล่อยได้

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 25

    ไม่คิดว่าคนที่ถูกเลือกมารับหน้าที่แม่พันธุ์! ให้อันเดซาอีจะหวานฉ่ำนุ่มไปถึงใจขนาดนี้ ทำเอาเขาถึงกับร้อนรุ่มไปหมดทั้งกาย...คึกคะนองอยากออกมาดูโลกภายนอกก่อนห้ำหั่นฟาดฟันให้ถึงจุดหมายปลายทางสวาทรสหวานล้ำ“อือ!” เมื่อสติเริ่มกลับคืนมาอติกานต์ก็เริ่มต่อสู้เพื่อให้หลุดพ้นจากสัมผัสที่พัดพาหัวใจอ่อนไหวและร่างกายหมดเรี่ยวแรงด้วยหายใจไม่คล่องคอ มือเล็กกำหมัดทุบอกกว้าง เท้าเล็กยกขึ้นกระทืบลงไปบนเท้าใหญ่สลับกับเข่ามนกระทุ้งขาแกร่งให้ชายหนุ่มเสียสมดุลนัยน์ตากลมโตเปล่งประกายสดใสกลอกไปมาอย่างอิดหนาระอาใจระคนรำคาญเล็กน้อย ขาแกร่งสอดแทรกตรึงสองขาเรียวยาว ขณะมือไล่จับสองมือบางไพล่ไปด้านหลัง มัดไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนสอดท่อนแขนกำยำไปกระชับร่างนุ่มนิ่ม ส่งฝ่ามือหนาไปทาบตรึงท้ายทอยของคนที่พยายามเบี่ยงหนีเอาไว้มั่น ขณะบดเบียดขบย้ำจุมพิตร้อนระอุบนกลีบปากอิ่มนุ่มจากเนิบนาบเป็นหนักหน่วงทวีความรุนแรงขึ้นทีละน้อย ละเลียดลิ้มชิมรสน้ำผึ้งหวานเจือฝาดนิดๆ พร้อมท่อนแขนกอดกระชับกายอรชรอ้อนแอ้น ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปบนผิวเนื้อนวลผ่องเป็นยองใยเกลียวเชือกรัดรอบพากายหนาวเหน็บไปตกยังท้องทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ชูช่อท้าทายเ

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 24

    “เอาละ...ที่นี้คุณอยากรู้อะไรเพิ่มก็ถามมา ฉันพร้อมจะตอบทุกคำถามแล้ว” ที่เธอสามารถตอบได้นะ“รู้ใช่ไหมอติกานต์ต้องไปอยู่กับอันเดซาอี ซีกัลป์ โอซาอิดนี่” แทนที่จะเอ่ยถามถึงเรื่องที่อยากรู้ ชายหนุ่มกลับเลือกถามไปอีกเรื่อง เพราะยังไม่อยากทำให้นกต่อรู้ว่าแผนการที่วางไว้นั้นแตกแล้วขอขวัญส่ายศีรษะแรงๆ ด้วยความงุนงงและไม่เข้าใจ อติกานต์ต้องไปอยู่กับผู้ชายชื่อแปลกๆ แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ ทว่านัยน์ตาเข้มดุที่ทอดมองมาสื่อความหมาย ทำให้เธอรู้สึกเสียววูบไปทั้งแผ่นหลัง ขนบนต้นคอลุกเกรียว “คุณหมายความว่ายังไง” หญิงสาวถามเสียงเบาหวิวแทบจะไม่หลุดออกจากปากด้วยซ้ำ พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง อยากให้เป็นไปอย่างที่ในสมองแวบขึ้นมาเลยนะ ถ้าใช่...ขอขวัญร้องครางในลำคอแผ่วเบา เธอเจอกับศึกหนักหนาสาหัสสากันเป็นแน่แท้ แล้วเรื่องที่คิดจะทำย่อมต้องมีคนคอยขัดขวางโอ๊ย! คิดแล้วหนทางข้างหน้าตีบตันที่สุดเลย เธอจะหาทางออกยังไงกันล่ะนี่!“ฉันต้องการให้เธอเดินทางไปด้วย”“ฉันไม่ไป!” ขอขวัญแผดเสียงโต้กลับด้วยลืมตัว เมื่อเจอคำสั่งสายฟ้าแลบ แต่เมื่อเจอสายตาดุๆ เข้าก็แอบกลืนน้ำลายอย่างฝืดเคืองเหมือนกัน“ฉันไม่ได้ขอ...แต่

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 23

    “นะ...ไหนคุณบอกอยากรู้เรื่องของฉันไง ทำไมถึงไม่ถามมาเร็วๆ เล่า รอหาพระแสงอะไรอยู่” ขอขวัญเอ่ยเสียงเข้มกร้าวด้วยฮึดฮัดขัดใจตัวเองเสียเหลือเกิน ไอ้ความเก่งกล้าที่มีหายไปไหนหมด ทำไมถึงเรียกออกมาต่อกรกับผู้ชายบ้าๆ ตรงหน้าไม่ได้ชายหนุ่มสะบัดศีรษะอย่างระอิดระอา เมื่ออีกฝ่ายยังทำเสียงแข็งใส่ “ชื่อ...”“ขวัญ...ขอขวัญ ไพรีรักษ์” รีบบอกเสียงสั่นและรัวเร็วจนลิ้นพัวพันกัน เมื่อคนได้เปรียบเคลื่อนมือลูบไล้ลำแขนเสลา แผ่วเบาคล้ายสายลมพัดพลิ้วล่อกับปลายยอดหญ้า ที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแบบวูบไหวคล้ายถูกดึงออกไป“เป็นอะไรและทำไมถึงได้มาพร้อมกับอติกานต์ได้”“ถามอะไรแปลกๆ เป็นเพื่อนกันก็ต้องมาด้วยกันสิคุณ” ขอขวัญขบเม้มกลีบปากเมื่อสายตาสีน้ำตาลเข้มบ่งบอกว่าไม่เชื่อและบ่งบอกว่าถ้าเธอพูดผิดหูอีกนิดเดียว เตรียมตัวรับคลื่นพายุอารมณ์ประหนึ่งทอร์นาโดที่ตั้งเค้าอยู่ได้เลย“ฉันรู้ว่าคุณ...เอแคลร์” ขอขวัญแทบผ่อนลมหายใจออกเมื่อหลุบกลืนคำว่าคุณหายลงไปในลำคอได้ ด้วยเป็นเพื่อนกันประสาอะไร ถึงได้เรียกอติกานต์ยกย่องราวกับอยู่กันคนละชั้น “มาธุระที่นี่ แล้วเผอิญฉันก็อยากมาเที่ยวด้วย หรือประเทศคุณห้ามคนมาท่องเที่ยว” ขอขวัญไม่ยอ

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 22

    เห็นดวงตากลมใสแวววาวฉ่ำน้ำขอร้อง อย่าให้ทิ้งเธออยู่กับคนหน้าดุท่าทางร้ายกาจเพียงลำพัง ทำให้อึดอัดใจและไม่อยากทำตามคำสั่ง! ของอันเดซาอีเลย แต่น้ำเสียงเอาจริง สายตาแข็งดุกร้าวแฝงเร้นไว้ด้วยความเย็นชาอย่างที่สามารถประหัตประหารเธอให้ม้วยมรณาได้ในเพียงแค่เสี้ยววินาที ก็ต้องยอมล่าถอยอย่างไม่เต็มใจ“ขอโทษนะขวัญ ฉันรู้เธอเก่งสู้ไหว” อติกานต์เอ่ยออกไปเสียงเบา เธอมาที่นี่เพื่อครอบครัว แม้ไม่มั่นใจคำพูดของชายตรงหน้าสักเท่าไหร่...เขาใช่คนที่เธอจะต้องร่วมกระทำภารกิจหรือเปล่า และเขาจะไม่ทำอันตรายขอขวัญใช่ไหม ถึงอยากรู้แค่ไหน แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงทำให้คนอีกนับสิบชีวิตต้องเดือดร้อน เพราะตกงาน...ขาดเงิน!อติกานต์จำยอมปลดมือเย็นออกจากแขน ด้วยความรู้สึกผิดที่เกาะกุมหัวใจ ‘ไม่น่าเลย เธอไม่น่าปากเบาและเห็นแก่ตัว เอ่ยชวนขอขวัญอยู่พักด้วยเลย’“ไม่นะคุณเอแคลร์ อย่าไป...” ขอขวัญเอ่ยขอร้องพร้อมไขว่คว้าอติกานต์ช่วยกลับมาอยู่เป็นกำลังใจเสียงหลง“อย่าทิ้งฉันไว้กับผู้ชายคนนี้” ทว่าร่างเพรียวบางกลับเร่งรุดเดินหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็วด้วยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ“คุณเอแคลร์...” ขอขวัญร้องเรียกเสียงเบาหวิวและรีบหันมาประจ

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 21

    อติกานต์เงยหน้าบูดบึ้ง นัยน์ตาขุ่นเขียวตวัดมองคนตัวใหญ่ ที่จนถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่าชื่ออะไร ใช่คนที่เธอต้อง... เฝ้าภาวนาว่าอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย เพราะเธอคงต้องเหนื่อยทั้งกายและใจ เรียกได้ว่าหืดขึ้นคอเชียวละกับการทำอย่างที่มารดาแนะนำมา ต่อให้คิดเข้าข้างตัวเองแค่ไหน เธอก็มองไม่เห็นปลายทางความสำเร็จอยู่ดี“ขวัญ!!” อติกานต์หยุดคิดคาดคั้นเอาคำตอบจากคนตัวใหญ่ เมื่อเห็นคนใกล้ตัวเริ่มขยับกายได้สติ“อือ...” แว่วเสียงเรียกแม้แผ่วเบาคล้ายเสียงลมหวีดหวิว แต่ก็เป็นเสมือนเข็มเล่มเล็กๆ ทิ่มแทงไปในศีรษะ ให้เจ็บร้าวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้งยังตอกย้ำให้เธอรู้ว่าอาการที่เป็นอยู่นอกจาก...ไม่หายแล้ว นับจากนี้ไปจะหนักมากกว่าที่เคยเป็น ไม่เข้าใจ เหตุใดถึงได้รู้สึกอย่างนี้ หรือเป็นเพราะ...ผู้ชายคนนั้น!แม้สติยังกลับคืนมาไม่เต็มร้อย แต่ขอขวัญก็พอระลึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้!ต้นเหตุแห่งฝันที่เกิดบ่อยครั้งที่ทำให้เธอจิตใจหดหู่หม่นหมอง แทรกด้วยความเจ็บปวดราวถูกแยกร่างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยย้อนกลับเข้ามาในมโนสำนึก ทว่าคราวนี้แตกต่างจากสิ่งที่สัมผัสได้โดยสิ้นเชิง!ทุกภาพที่เห็นชัดเจน ร

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 20

    แสงสว่างเจิดจ้าสาดส่องลอดผ่านม่านหน้าต่างทาบลงไป ทำให้ร่างเล็กมองเห็นภาพทับซ้อนของใครอีกคนที่ยืนดวงหน้าเศร้าหมอง ดวงตาคู่นั้นทอดมองมาอย่างตัดพ้อต่อว่าและเจ็บปวดที่กัดกิน ดวงตากลมโตแดงก่ำ น้ำตาเอ่อล้นไหลอาบแก้มขาวซีดไม่ขาดสาย กลีบปากสีซีดนั้นขยับคล้ายต่อว่าต่อขานสลับร้องเรียกให้ช่วยเหลือที่ช่างบาดลึกลงไปในทรวงเขาจนเลือดไหลโทรมหัวใจ ยื่นมือไปไขว่คว้าแต่กลับรู้สึกเหมือนเพียงแค่สายลมผ่านพัด ไม่ว่านานเท่าไหร่ หัวใจก็ยังเจ็บปวดและทำใจยอมรับกับการจากไปของเธอไม่ได้!“โอ๊ย!! จะหักแขนกันหรือไงฮ้า...” ขอขวัญตวาดแว้ด เมื่ออยู่ดีๆ ยักษ์ใหญ่ก็ยื่นมือมาคว้าแขนกลมกลึง ลงแรงกดจนในหูเธอได้ยินเสียงดังกร๊อบ หางตาเล็กนิ่วด้วยความเจ็บที่แล่นปราดไปทั่ว จนต้องรีบผลักไสแต่กลับกลายเป็นถูกดึงรั้งเข้าหากายกำยำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นกายที่โชยมาทำให้รู้สึกสดชื่น“ฉันอยากหักคอเธอทิ้งเหมือนกัน แต่ถ้าทำอย่างนั้นน่าเสียดายแย่ สู้เอาไว้...”ชายหนุ่มดึงเอาผ้าคลุมหน้าออกเพื่อจะได้ทำบางสิ่ง...เมื่อครั้งมีรักกับเธอคนนั้น เขาไม่เคยได้แตะต้องเธอเลยแม้แต่ปลายก้อย ด้วยต้องการเก็บเอาบริสุทธิ์ไว้ในวันอันสำคัญและเป็นการให้เกีย

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 19

    “จูบของเธอหวานดีนะเอแคลร์ แต่เหมือนเด็กอนุบาลไปนิดหนึ่ง ควรจะต้องปรับปรุงเพิ่มอีกสักหน่อย หวังว่าเจอกันครั้งต่อไป เธอคงพัฒนาฝีมือการ...จูบ ชวนให้ฉันอยู่ด้วยนานกว่านี้ อ้อ...อย่าลืมคิดด้วยล่ะ ทำยังไงถึงจะดึงรั้งให้ฉันป้อนรสเสน่หาให้ทั้งคืน”ชายหนุ่มฉวยโอกาสที่สาวน้อยแสนหวานยังหลงใหลกับรสชาติแปลกใหม่ กดจมูกบนแก้มใส ก่อนพากายจากไปราวกับเขาเป็นเพียงสายลมที่พัดโหมมาหยอกเย้ารอบกายสาว ปลุกปั่นหัวใจดวงน้อยให้หลงเพริดไปกับกฤษณาสวาทส่วนลึกที่มืดมิด...“เฮ้ย!! ปล่อยฉันนะ คุณจะพาฉันไปไหนนี่ ปล่อย!!” ขอขวัญแว้ดเสียงดังลั่นอย่างตื่นตระหนก เมื่อสติที่เลือนหายไปตอนชายหนุ่มจับข้อมือไว้กลับคืนมา คล้ายมีกระแสไฟหมื่นโวลต์ผ่านเข้ามาในร่าง ดูดเอาเรี่ยวแรงภายในกายไปเสียจนหมดสิ้นและยังเกิดอาการมึนงง เธอเลยเดินตามแรงลากจูงไปอย่างไม่มีแง่งอน “อยู่เฉยๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมถึงได้ชอบทำสะบัดสะบิ้งมากนัก” เมื่อคนตัวเล็กใช้ทุกวิถีทางเพื่อจะไม่ไปด้วย ยังความหงุดหงิดด้วยการประทุษร้ายท่อนแขนกำยำไม่ยอมหยุด หากทำอย่างอื่นได้แม่ตัวเล็กกระจิ๋วหลิวก็ไม่รีรอสายตาเข้มเหลือบมองมดตะนอยตัวน้อยไม่เจียมตัว หาญสู้เหยี่ยวร้ายกลางทะเล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status