Share

chapter 14

last update Last Updated: 2025-01-30 14:04:13

“ให้ฉันแยกไปนั่งคนเดียวก็ได้นะคุณเอแคลร์” ขอขวัญเอ่ยบอกเสียงใส ด้วยจำได้ตอนออกจากห้องอติกานต์บอกเธอมีนัดทานอาหารกับหุ้นส่วนทางธุรกิจคนสำคัญของบิดา เรื่องที่คุยต้องเป็นเรื่องสำคัญและเป็นความลับอยู่แล้ว คนนอกอย่างเธอไม่สมควรเข้าไปสอดแทรกสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านเขา แค่นี้ก็ถูกมองไปในทางไม่ดีแล้ว

สายตาหวานอมโศกตวัดมาคล้ายเหนื่อยหน่ายใจ สาวเท้าบอบบางเดินลิ่วๆ ไปยังโต๊ะอาหารด้านในสุดโดยไม่สนใจสิ่งใด ด้วยอยากพาตัวเองตัดขาดจากโลกอันสับสนวุ่นวาย แต่ยังไม่ทันถึงที่หมาย ก็มีเหตุให้ร่างเล็กแบบบางเซด้วยแรงที่เปรียบเสมือนรถจักรยานปั่นไปชนกับรถสิบล้อ กายอรชรถลาไปปะทะกับต้นไม้มีชีวิตด้วยเนื้อหนังอุ่น ค่อนไปทางแข็งกระด้างที่ไม่ได้ทำให้เจ็บกาย

“โอ้ย!” อารามตกที่อยู่ดีๆ ก็กระเด็นกระดอนลอยไปอย่างไม่ได้ตั้งตัว ทำให้อติกานต์เผลอยกมือโอบรอบกายอุ่นระอุด้วยเลือดเนื้อ ที่ทำให้หัวใจเต้นกระหน่ำไหววูบอย่างไม่ตั้งใจและไร้สาเหตุ ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ถึงความแกร่งกำยำที่โอบรัดรายรอบกายไม่ให้ล้มคะมำ ตกเป็นจุดเด่นจากสายตาคนรอบข้าง

ราวกับโลกที่ยืนอยู่หยุดเคลื่อนไหว เมื่อแหงนหน้าขึ้นแล้วได้สบกับนัยน์ตาเข้มดุแต่อ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 15

    “ไปห้องน้ำ” หญิงสาวตอบกลับเสียงแผ่ว ไม่หาญกล้าสบกับสายตาเข้มราวใบมีดโกน มือเล็กยื่นไปจับแก้วกาแฟแต่ก็สั่นจนยกจากจานรองไม่ขึ้น จึงเสยกขึ้นลูบไล้ลำคอระหงแทน ใบหน้าค่อนไปทางซีดด้วยอึดอัดคล้ายรอบกายมีหมู่มวลอากาศร้อนอบอ้าวกดทับทำให้หายใจไม่ค่อยออก“คุณเป็นใคร มาถึงก็ถามเอาๆ น่ะ” ถึงจะกลัวแต่ขอขวัญก็ยังรวบรวมความกล้าเอ่ยถามไปโดยไม่สบตาด้วย และพยายามบังคับไม่ให้เสียงที่เอ่ยถามสั่นเกินไปนักใช่บ้านตัวเองเสียเมื่อไหร่ มาอ้างว่าเป็นคนรู้จัก ดีไม่ดีอาจกลายเป็นคนมาสวมรอย เอาภัยมาให้เธอกับอติกานต์ก็เป็นไปได้นี่นา คนเราเดี๋ยวนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ ขนาดคนใกล้ชิดเห็นหน้ากันทุกวัน ยังทำร้ายกันได้เลย นับประสาอะไรกับคนเพียงแค่ได้เห็นเพียงแค่ดวงตาอย่างนี้ล่ะ“ไม่จำเป็นต้องรู้”“อ้าว! พูดแบบนี้ได้ยังไงกัน เกิดคุณเป็นคนไม่ดี มาอ้างโน่นนี่เพื่อเอาตัวคุณเอแคลร์ไป ฉันจะกลับไปตอบกับพ่อแม่เขายังไงล่ะ” ขอขวัญขึ้นเสียงสูง พลางชักสีหน้าหงิกงอใส่นัยน์ตาเข้มฉายแววระอิดระอาใจระคนรำคาญ พูดอย่างกับว่าคนตัวเล็กอย่างหนูที่แค่โดนกระแสลมในท้องทะเลทรายเพียงนิดก็ปลิวไปเสียแล้วจะช่วยอติกานต์จากราชสีห์เจ้าถิ่นที่น่ากริ่งเกรงขามไ

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 16

    มือเล็กสั่นเทากำหมัดจนแน่น ไม่แพ้ริมฝีปากที่ฟันขาวกดลงไปแรงๆ แม้ตัดสินใจทำลงไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ เธอก็ทำใจไม่ได้ที่ต้องเจอกับผู้ชายคนนั้นในตอนนี้อยู่ดี กายอรชรสั่นสะท้านร้าวรวดคล้ายลูกนกตกลงไปในท้องน้ำเย็นจัด บินขึ้นไม่ไหว อยากมีใครสักคนยื่นมือมาโอบประคองพาก้าวข้ามหุบเหวแห่งความทุกข์ระทม!เวลาเนิ่นนานผ่านไปแต่อติกานต์กลับไม่รับรู้ ใบหน้านวลผ่องแหงนมองเพดานห้อง ซึ่งแม้ตกแต่งด้วยลวดลายงดงามให้ความเย็นสบายตามากเพียงใด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมืดมิด ไม่ได้เข้ามาอยู่ในสายตาเลยสักนิด ในภวังค์ความคิดล้วนมีแต่ใบหน้าเศร้าหมองและฝากความหวังของบิดาและมารดา เป็นเหมือนเกลียวเชือกผูกรัดปมที่ขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิง สางเท่าไหร่ก็ไม่ออก จนทำให้ภาพแห่งความฝันซึ่งเคยวาดไว้กับหนุ่มผู้ครอบครองดวงใจเหมือนมีม่านบางๆ ขวางกั้น แม้อยากฮึดเรียกพละกำลังแรงใจแต่ก็เหนื่อยล้าอ่อนแรงเสียเหลือเกิน“ภูมิ...” อติกานต์ร้องเรียกหาคนรักเสียงเบาหวิว ช่างประจวบเหมาะจนน่าแปลกใจเหลือเกิน ยามเธอมีปัญหาแทนที่ชายหนุ่มจะอยู่ช่วยคอยประคองหาทางออกเพื่อก้าวเดินผ่านปัญหาไปด้วยกัน ทว่าเขากลับต้องเดินทางตามคำสั่งบิดาไปดูงานต่างประเทศเ

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 17

    นัยน์ตากลมใสมองคนร่างใหญ่ก่อนหยุดมองที่ใบหน้าเข้ม ลักษณะท่าทางออกเค้าห้าวหาญและเก่งกล้า แต่…มีบางอย่างบอกว่าไม่ใช่! แม้ไม่อยากจะฟังคำที่บิดาพูด แต่เมื่อคำพูดมันแว่วเข้าหูก็ทำให้พอจะจดจำได้ ให้เธอเดาอายุอานามผู้ชายคนนั้นไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบห้า แต่คนที่ยืนอยู่เบื้องหน้านี้...อายุประมาณสามสิบต้นๆ มากกว่า จึงไม่น่าใช่คนที่ถูกเอ่ยถึง “คุณเป็นใคร ต้องการอะไรจากฉัน” ควรอย่างยิ่งที่ต้องเอ่ยถามอย่างนี้ ด้วยสายตาคู่นั้นจ้องมาคล้ายสนุกสนานกับการตามไล่ล่าหนูของแมวยักษ์ แต่เธอไม่ใช่หนูตัวน้อยที่ต้องยอมถูกรังแกง่ายๆ ผึ้งแม้ตัวเล็กแต่มีพิษภัยพอตัว ซึ่งเธอก็ไม่ต่างกัน!“ถามแปลก ผู้ชายเห็นผู้หญิงหน้าตาสวยๆ ให้คิดอะไรได้ล่ะ นอกจาก...” ชายหนุ่มไล่สายตาวามวาวมองไปตามเรือนการอรชรอ้อนแอ้นกลีบปากบางเบะหยามหยัน นัยน์ตาเป็นประกายเหนื่อยหน่ายระคนดูแคลน “ผู้ชายบ้านนี้เมืองนี้ก็แปลกดี หน้าตาหรือก็เข้าท่า บุคลิกค่อนไปทางงามสง่าน่าเกรงขามอยู่ สมองหรือก็คงไม่ปัญญานิ่มเหมือนคนปัญญาอ่อน ดูดีไปเสียเกือบทุกอย่าง แต่ทุกอย่างก็ยังมีข้อยกเว้น...!!”คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง ไม่แค่หน้าตาสวย วาจาคารมก็คมคายจัดจ้านไม่เบาเลย...ย

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 18

    “ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันบี้มดก็ไม่ตาย คงไม่กล้าไปทำอะไรยักษ์ใหญ่อย่างคุณหรอกค่ะ แต่ว่าที่สามีของน่ะสิคะ ไม่แน่ ถ้าเขารู้ว่ามีเหลือบไรนิสัยเสียจากข้างถนนมาเกาะแกะสุดที่รัก...คงไม่ปล่อยคุณให้เดินออกจากที่นี่ในสภาพสมบูรณ์เป็นแน่”ชายหนุ่มหัวเราะดังก้องอย่างกับได้ฟังเรื่องตลกโปกฮา “ไอ้เจ้านั่นน่ะหรือ ป่านนี้คงถูกใครบางคนดักเล่นงาน วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนอยู่กลางทะเลทรายแล้วมั้ง ถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต หรือไม่ถ้าหากหนีรอดมาได้ คิดหรือว่าจะมาช่วยเหลือเธอจากอุ้งมือฉันได้ทัน...” เขาโน้มใบหน้าลงไปแนบชิดใบหู “กลัวมาถึงตอนที่ฉันเล่นปูไต่กับเธอเสร็จเรียบร้อยแล้วมากกว่า”อติกานต์หน้าเสียเล็กน้อย กรามเล็กขบกัดจนแก้มนวลนุ่มนูนขึ้นสัน ด้วยพอรู้ความหมายของคำสัปดนพวกนี้มาบ้าง พลางแอบผ่อนลมหายใจออกจากปอดเล็กน้อย ในเมื่ออ้างตัวช่วยแล้วใช้ไม่ได้ ก็ต้องหวังพึ่งตัวเอง“ฉันบอกแล้วไง ไม่สนใจจะยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายนิสัยเสียอย่างคุณ กรุณาปล่อยมือฉันด้วย”แต่...นอกจากจะไม่ถูกปล่อยแล้ว แขนแข็งแกร่งยังสอดรัดรอบเอวคอดกิ่ว ทาบฝ่ามือกับแผ่นหลังแบบบาง โน้มใบหน้าลงไปประทับปากอุ่นซ่านลงบนกลีบกุหลาบนุ่มสั่นระริกอย่างที่อติกานต

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 19

    “จูบของเธอหวานดีนะเอแคลร์ แต่เหมือนเด็กอนุบาลไปนิดหนึ่ง ควรจะต้องปรับปรุงเพิ่มอีกสักหน่อย หวังว่าเจอกันครั้งต่อไป เธอคงพัฒนาฝีมือการ...จูบ ชวนให้ฉันอยู่ด้วยนานกว่านี้ อ้อ...อย่าลืมคิดด้วยล่ะ ทำยังไงถึงจะดึงรั้งให้ฉันป้อนรสเสน่หาให้ทั้งคืน”ชายหนุ่มฉวยโอกาสที่สาวน้อยแสนหวานยังหลงใหลกับรสชาติแปลกใหม่ กดจมูกบนแก้มใส ก่อนพากายจากไปราวกับเขาเป็นเพียงสายลมที่พัดโหมมาหยอกเย้ารอบกายสาว ปลุกปั่นหัวใจดวงน้อยให้หลงเพริดไปกับกฤษณาสวาทส่วนลึกที่มืดมิด...“เฮ้ย!! ปล่อยฉันนะ คุณจะพาฉันไปไหนนี่ ปล่อย!!” ขอขวัญแว้ดเสียงดังลั่นอย่างตื่นตระหนก เมื่อสติที่เลือนหายไปตอนชายหนุ่มจับข้อมือไว้กลับคืนมา คล้ายมีกระแสไฟหมื่นโวลต์ผ่านเข้ามาในร่าง ดูดเอาเรี่ยวแรงภายในกายไปเสียจนหมดสิ้นและยังเกิดอาการมึนงง เธอเลยเดินตามแรงลากจูงไปอย่างไม่มีแง่งอน “อยู่เฉยๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมถึงได้ชอบทำสะบัดสะบิ้งมากนัก” เมื่อคนตัวเล็กใช้ทุกวิถีทางเพื่อจะไม่ไปด้วย ยังความหงุดหงิดด้วยการประทุษร้ายท่อนแขนกำยำไม่ยอมหยุด หากทำอย่างอื่นได้แม่ตัวเล็กกระจิ๋วหลิวก็ไม่รีรอสายตาเข้มเหลือบมองมดตะนอยตัวน้อยไม่เจียมตัว หาญสู้เหยี่ยวร้ายกลางทะเล

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 20

    แสงสว่างเจิดจ้าสาดส่องลอดผ่านม่านหน้าต่างทาบลงไป ทำให้ร่างเล็กมองเห็นภาพทับซ้อนของใครอีกคนที่ยืนดวงหน้าเศร้าหมอง ดวงตาคู่นั้นทอดมองมาอย่างตัดพ้อต่อว่าและเจ็บปวดที่กัดกิน ดวงตากลมโตแดงก่ำ น้ำตาเอ่อล้นไหลอาบแก้มขาวซีดไม่ขาดสาย กลีบปากสีซีดนั้นขยับคล้ายต่อว่าต่อขานสลับร้องเรียกให้ช่วยเหลือที่ช่างบาดลึกลงไปในทรวงเขาจนเลือดไหลโทรมหัวใจ ยื่นมือไปไขว่คว้าแต่กลับรู้สึกเหมือนเพียงแค่สายลมผ่านพัด ไม่ว่านานเท่าไหร่ หัวใจก็ยังเจ็บปวดและทำใจยอมรับกับการจากไปของเธอไม่ได้!“โอ๊ย!! จะหักแขนกันหรือไงฮ้า...” ขอขวัญตวาดแว้ด เมื่ออยู่ดีๆ ยักษ์ใหญ่ก็ยื่นมือมาคว้าแขนกลมกลึง ลงแรงกดจนในหูเธอได้ยินเสียงดังกร๊อบ หางตาเล็กนิ่วด้วยความเจ็บที่แล่นปราดไปทั่ว จนต้องรีบผลักไสแต่กลับกลายเป็นถูกดึงรั้งเข้าหากายกำยำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นกายที่โชยมาทำให้รู้สึกสดชื่น“ฉันอยากหักคอเธอทิ้งเหมือนกัน แต่ถ้าทำอย่างนั้นน่าเสียดายแย่ สู้เอาไว้...”ชายหนุ่มดึงเอาผ้าคลุมหน้าออกเพื่อจะได้ทำบางสิ่ง...เมื่อครั้งมีรักกับเธอคนนั้น เขาไม่เคยได้แตะต้องเธอเลยแม้แต่ปลายก้อย ด้วยต้องการเก็บเอาบริสุทธิ์ไว้ในวันอันสำคัญและเป็นการให้เกีย

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 21

    อติกานต์เงยหน้าบูดบึ้ง นัยน์ตาขุ่นเขียวตวัดมองคนตัวใหญ่ ที่จนถึงตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่าชื่ออะไร ใช่คนที่เธอต้อง... เฝ้าภาวนาว่าอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย เพราะเธอคงต้องเหนื่อยทั้งกายและใจ เรียกได้ว่าหืดขึ้นคอเชียวละกับการทำอย่างที่มารดาแนะนำมา ต่อให้คิดเข้าข้างตัวเองแค่ไหน เธอก็มองไม่เห็นปลายทางความสำเร็จอยู่ดี“ขวัญ!!” อติกานต์หยุดคิดคาดคั้นเอาคำตอบจากคนตัวใหญ่ เมื่อเห็นคนใกล้ตัวเริ่มขยับกายได้สติ“อือ...” แว่วเสียงเรียกแม้แผ่วเบาคล้ายเสียงลมหวีดหวิว แต่ก็เป็นเสมือนเข็มเล่มเล็กๆ ทิ่มแทงไปในศีรษะ ให้เจ็บร้าวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้งยังตอกย้ำให้เธอรู้ว่าอาการที่เป็นอยู่นอกจาก...ไม่หายแล้ว นับจากนี้ไปจะหนักมากกว่าที่เคยเป็น ไม่เข้าใจ เหตุใดถึงได้รู้สึกอย่างนี้ หรือเป็นเพราะ...ผู้ชายคนนั้น!แม้สติยังกลับคืนมาไม่เต็มร้อย แต่ขอขวัญก็พอระลึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้!ต้นเหตุแห่งฝันที่เกิดบ่อยครั้งที่ทำให้เธอจิตใจหดหู่หม่นหมอง แทรกด้วยความเจ็บปวดราวถูกแยกร่างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยย้อนกลับเข้ามาในมโนสำนึก ทว่าคราวนี้แตกต่างจากสิ่งที่สัมผัสได้โดยสิ้นเชิง!ทุกภาพที่เห็นชัดเจน ร

    Last Updated : 2025-01-30
  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 22

    เห็นดวงตากลมใสแวววาวฉ่ำน้ำขอร้อง อย่าให้ทิ้งเธออยู่กับคนหน้าดุท่าทางร้ายกาจเพียงลำพัง ทำให้อึดอัดใจและไม่อยากทำตามคำสั่ง! ของอันเดซาอีเลย แต่น้ำเสียงเอาจริง สายตาแข็งดุกร้าวแฝงเร้นไว้ด้วยความเย็นชาอย่างที่สามารถประหัตประหารเธอให้ม้วยมรณาได้ในเพียงแค่เสี้ยววินาที ก็ต้องยอมล่าถอยอย่างไม่เต็มใจ“ขอโทษนะขวัญ ฉันรู้เธอเก่งสู้ไหว” อติกานต์เอ่ยออกไปเสียงเบา เธอมาที่นี่เพื่อครอบครัว แม้ไม่มั่นใจคำพูดของชายตรงหน้าสักเท่าไหร่...เขาใช่คนที่เธอจะต้องร่วมกระทำภารกิจหรือเปล่า และเขาจะไม่ทำอันตรายขอขวัญใช่ไหม ถึงอยากรู้แค่ไหน แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงทำให้คนอีกนับสิบชีวิตต้องเดือดร้อน เพราะตกงาน...ขาดเงิน!อติกานต์จำยอมปลดมือเย็นออกจากแขน ด้วยความรู้สึกผิดที่เกาะกุมหัวใจ ‘ไม่น่าเลย เธอไม่น่าปากเบาและเห็นแก่ตัว เอ่ยชวนขอขวัญอยู่พักด้วยเลย’“ไม่นะคุณเอแคลร์ อย่าไป...” ขอขวัญเอ่ยขอร้องพร้อมไขว่คว้าอติกานต์ช่วยกลับมาอยู่เป็นกำลังใจเสียงหลง“อย่าทิ้งฉันไว้กับผู้ชายคนนี้” ทว่าร่างเพรียวบางกลับเร่งรุดเดินหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็วด้วยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ“คุณเอแคลร์...” ขอขวัญร้องเรียกเสียงเบาหวิวและรีบหันมาประจ

    Last Updated : 2025-01-30

Latest chapter

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 40

    มือใหญ่จับรั้งปลายคางมนให้หันหน้ามาหา “เอาเป็นว่าฉันค่อยพิสูจน์คำท้าทายของเธออีกที ตอนเราอยู่ด้วยกันท่ามกลางหาดทราย สายลม แสงดาวและจันทราส่องสว่างยามที่ฉันแนบชิด...” ปากอุ่นระอุแนบทับบนลาดไหล่กว้าง ขบเม้มไต่ขึ้นไปทีละน้อย ขณะฝ่ามือหนาลูบไล้แขนเสลา ซอกซอนด้วยความจัดเจนจนได้สัมผัสกับปทุมถันนุ่มหยุ่น“ค่อยๆ จูบไล่ไปจนทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ส่วนนั้นของเธอ ก่อนที่ฉันจะถูกความฉ่ำชุ่มนุ่มอบอุ่นกลืนกินจนหมดทั้งตัว”อติกานต์สะดุ้ง ราวกับมีใครเอาถ่านไฟร้อนๆ โยนลงมาใส่มือ แต่จะหนีก็ไม่ได้ เมื่อถูกกักเอาไว้ด้วยท่อนแขนกำยำและปากอุ่นระอุที่เคลื่อนมาจนแนบชิดกกหู“อื้อ...ปล่อยฉันนะ...ไอ้โจรห้าร้อย” เพราะมือได้รับการปลดปล่อย จึงเป็นโอกาสให้เธอเอาคืนจอมโจรกักขฬะด้วยการ...“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะเอแคลร์ เดี๋ยวเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยง่ำๆ ฮึ่มๆ พลางจับมือเล็กที่จิกลงมาบนท่อนขากำยำและลากอย่างแรง“น้ำหน้าอย่างแก ก็เป็นได้แค่ไอ้พวกหน้าไม่อาย ดีแต่รังแกผู้หญิง เอาสิ...ถึงฉันจะเป็นเชลยของแกก็จริง แต่อย่าคิดนะว่าจะยอมให้ถูกรังแกได้ง่ายๆ น่ะ”ลมหายใจหนักๆ ถูกเป่าพ่นออกจากปากหนา “ผู้หญิง! ชอบเหลือเกินละที่จะใช้วาจายั่วยุผู้ชายให้

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 39

    “ฉันพอเข้าใจนะ ปากเธออ้อนวอนขอให้ฉันปล่อย แต่ตากลับบอกเป็นอีกอย่าง” ปลายนิ้วยาวลูบไล้ปลายคางไต่เรื่อยไปถึงกลีบปากอิ่มที่ขบกัดจนแบนราบเรียบ ขณะดวงตาเจิดจรัสกร้าวแข็ง “จะทำทุกทาง เพื่อเอาเลือดหัวฉันออก”อยากเถียงว่าไม่จริง! แต่เพราะเพลิงโทสะยังคุกรุ่นอยู่ในใจ ถึงจะพยายามยังไง แต่ในดวงตาของเธอก็ยังคงมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ อติกานต์กระทืบสองเท้าแรงๆ ด้วยหงุดหงิดตัวเอง คิดหาทางพาตัวเองออกจากเหตุการณ์บ้าๆ นี้แต่กลับเริ่มหนักที่ต้นคอและปวดแถวกระบอกตาริ้วๆ พร้อมกับอาการอยากคายของเก่าทิ้ง“นาย...นาย”ประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงร้อนรนและร่างเล็กปราดเปรียวสวมเสื้อผ้าสีตุ่นยาวกรอมมือกรอมเท้าวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดและยืนเอาสองมือเท้าขา ใบหน้าที่มีผ้าปกปิดจนเหลือเพียงแค่ลูกตาเหลือบมองมายังคนตัวเล็กที่เริ่มยกเท้าขึ้นทีละน้อย อย่างต้องการส่งสัญญาณให้ผู้เป็นนายได้รู้ “จะรีบร้อนไปทำไมกัน” ชายหนุ่มเอ่ยพลางเหลือบมองคนมาใหม่ แล้วสะบัดศีรษะด้วยเหนื่อยหน่ายระอาใจ “มากันแล้วนาย...พวกนั้นมากันแล้ว”“อืม...รู้แล้ว” คนถูกเรียกว่านายรับคำในลำคอ “แกไปก่อน”“แต่นาย...” ฮามีดร้องขัด ถึงนายจะเก่งกล้า สามารถเข้ามาก่อก

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 38

    อันเดซาอีหลุบตามองแม่ตัวเล็กปากจัดเถียงคำไม่ตกฟากเล็กน้อย ก่อนยอมให้เธอเบียดกระแซะ ด้วยใจกระหวัดไปถึงบางคนที่ผูกพัน แม้จากไปไกลสุดแสนก็ยังคงครองตำแหน่งของหัวใจ จนมิอาจมีใครที่แม้หน้าตาจะเหมือนราวกับพิมพ์เดียวกันก็มิทำให้เขาหวั่นไหวได้ หนังตาอ่อนนุ่มหลุบลงให้ใจกระหวัดไปถึงใครคนที่หัวใจใฝ่ฝันหา ขอกำลังใจจากเธอให้เขาผ่านเรื่องราวเลวร้ายนี้ไปได้ด้วยดี!“อื้อ...อื้อ...” คนร่างเล็กส่งเสียงดังเป็นระลอก สองเท้าที่ถูกมัดไว้ก็กระทืบลงไปบนพื้นพรมนุ่มๆ ในห้องพักที่ถูกนำตัวมากักขังเอาไว้ ในดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวไล่มองร่างแกร่งเรื่อยไปถึงใบหน้าที่มีผ้าปกคลุม จนแทบไม่เห็นสิ่งใดนอกจากดวงตาเข้มดุที่ค่อนข้างไปทางขี้เล่น คลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่...เธอจะไปเคยเห็นไอ้โจรบ้านี่ที่ไหนและได้ยังไงกันล่ะใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมที่พันจนเหลือเพียงดวงตาคลี่ยิ้ม ขณะพากายแกร่งเดินไปทรุดลงบนนั่งส้นเท้า ยื่นมือไปจับปลายคางของคนที่จนป่านนี้ยังไม่ยอมหยุดส่งเสียง ทั้งที่ถูกผูกมัดปากเอาไว้ก็ยังไม่วายละความพยายาม ที่เขาเห็นแล้วเหนื่อยแทนและสะบัดศีรษะอย่างระอิดระอาใจ “ยังไม่เหนื่อยหรืออติกานต์

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 37

    “ทำไมถึงไม่ตอบล่ะ...หรือเธอเองก็ไม่แน่ใจ ถึงตอบฉันไม่ได้”“ฉันไม่ได้เกาะติดคุณเอแคลร์เป็นตังเมนี่นา ถึงจะได้รู้ว่าเธอทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่”“ถ้าไม่รู้ ไม่แน่ใจก็อย่าพูดแทนคนอื่น เดี๋ยวเกิดไม่ใช่ขึ้นมา เธอนั่นแหละจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน”รู้ว่าเขาเตือนด้วยความหวังดี แต่เมื่อโดนว่าต่อหน้าเช่นนี้ขอขวัญก็หงุดหงิดไม่พอใจขึ้นมา ใบหน้าผุดผ่องถึงได้หงิกงอง้ำ “คุณล่ะ ดีกว่าฉันตรงไหน ไม่รู้ไปสร้างเรื่องเลวร้ายอะไรไว้ ร้อนถึงผู้หญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องถูกดึงมาเดือดร้อนด้วย”ถ้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เขาคงดึงแม่สาวปากกล้ามาลงทัณฑ์ด้วยการจูบแล้ว แต่เมื่อทำไม่ได้ อันเดซาอีจึงทำเสียงง่ำๆ ฮึ่มๆ ในลำคอประหนึ่งฝากบทลงโทษเอาไว้ก่อน และแม่ตัวเล็กก็ดูเหมือนจะรู้ เลยลอยหน้าลอยตาท้าทายใบหน้าแฉล้มแช่มชื่น อีกทั้งลูกน้องที่มาใหม่เหมือนมีเรื่องรายงาน ทำให้เขาต้องหันไปให้ความสนใจมากกว่าจะนั่งต่อปากต่อคำกับขอขวัญ“ได้เรื่องแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมยันกายลุกขึ้น เมื่อผู้ถูกถามพยักหน้ารับ“คุณจะไปไหน” ขอขวัญรีบถามทันที เมื่อจำได้อย่างแม่นยำว่าชายคนที่เข้ามาใหม่ และทำท่าทางเหมือนมีเรื่องพูดกั

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 36

    “คุณไม่ได้ส่งใครตามหาคุณเอแคลร์ทั้งนั้นแหละ” ขอขวัญกระแทกเสียงแข็งใส่ สองแขนยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอกอย่างกระฟัดกระเฟียด อยากลุกออกไปจากห้องนี้เพื่อตามหาอติกานต์ด้วยตัวเอง แต่...เพียงแค่ขยับกายอันเดซาอีซึ่งคอยจับตามองอยู่คงจะรีบจับเอาตัวไว้เสียก่อน หรือหากผ่านชายหนุ่มไปได้ ประตูห้องก็ยังมีหนุ่มร่างยักษ์ใบหน้าถมึงทึงเหมือนโกรธเกลียดใครมาสักร้อยปีพันชาติเฝ้าอยู่ ยังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี สู้อยู่หาเรื่องต่อว่าให้พ่อคนตรงหน้าทนไม่ไหวออกจัดการด้วยตัวเองจะดีกว่า“รู้ได้ยังไง” อันเดซาอีถาม นิ้วยาวเคาะบนเบาะนุ่มเบาๆ ขณะจับตามองขอขวัญอย่างแน่วนิ่ง“เอาเป็นว่าฉันรู้แล้วกัน”“รู้แบบผิดๆ น่ะสิ”“งั้นคุณก็บอกที่ถูกมาสิ” ขอขวัญโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ “ว่าไงล่ะ พูดไม่ออกใช่ไหมล่ะ”“ว่าไง...ได้เรื่องอะไรบ้าง” แทนที่จะตอบแม่ตัวเล็กเรื่องมาก อันเดซาอีกลับหันใบหน้าไปถามลูกน้องที่เมื่อรู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นก็เร่งรุดทำหน้าที่ของตัวเอง ก่อนจะถูกเขาตะเพิดไล่ออกโทษฐานทำงานบกพร่อง“เราตรวจเช็กจากกล้องวงจรปิดทุกตัวแล้ว ไม่พบว่ามีการพาใครออกไปจากโรงแรม แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังหาตัวคุณอติกานต์และคนก่อเรื่องไม่เจอเช่นกันครับ”“

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 35

    “จะหุบปากเองหรือให้ฉันปิดให้ล่ะขอขวัญ” ในนาทีนี้ไม่ควรโวยวายให้กลายเป็นจุดสนใจและควรที่จะรีบเร่งออกจากห้องมืดๆ นี้ ก่อนจะกลายเป็นเหยื่อในอุ้งมือเจ้าตัวร้ายที่หาเรื่องเล่นงานเขาทุกยุทธวิธี แม้งานนี้จะมีการเตรียมตัวรับมืออย่างดีแล้ว แต่เขาก็ยังพลาดจนได้! อันเดซาอีได้แต่หงุดหงิดใจขอขวัญทำเสียงจิจ๊ะในลำคอ “ฉันดูแลตัวเองได้ คุณไปช่วยคุณเอแคลร์ดีกว่า”“ฉันอยู่นี่จ้ะขวัญ” อติกานต์รีบบอกก่อนสองหนุ่มสาวจะทุ่มเถียงให้เธอปวดศีรษะมากไปกว่าที่เป็นอยู่ เท้าบอบบางก้าวเดินตามแรงลากจูงของเหล่ากลุ่มผู้คนที่กระวีกระวาดวิ่งไปหาแสงสว่างซึ่งส่องมารำไรอย่างระมัดระวังที่สุด“โอ๊ย!”“คุณเอแคลร์! เป็นอะไรไปคะ คุณอยู่ตรงไหน” ขอขวัญเอ่ยถามพร้อมมือหนึ่งทาบแผ่นหลังของคนที่เดินนำและพยายามสะบัดอีกมือออกจากการเกาะกุม เพื่อไขว่คว้าอติกานต์ด้วยใจร้อนรน“ฉันไม่เป็นไร” อติกานต์กัดฟันบอก ทั้งที่เจ็บข้อเท้าอันเนื่องมาจากเดินผิดท่าเลยพลิก ก่อนถูกซ้ำด้วยอะไรหนักๆ ที่น่าจะเป็นคนกระแทกที่แผ่นหลังจนกายถลาพุ่งไปด้านหน้าจนหัวตุงคว้าง แล้วเหมือนเวรซ้ำกรรมซัด ขณะก้าวเดินตามอันเดซาอีและขอขวัญไปอย่างรีบเร่งนั้นเอง อยู่ดีๆ ก็ถูกกระชา

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 34

    “ไม่ว่าจะไปนรกขุมไหน แค่มีเธอไปด้วย ฉันก็ยินดีไปโดยไม่รีรอเลยละ” ชายหนุ่มโต้กลับพร้อมละสายตาจากการมองสบกับดวงตากลมโตเปล่งประกายลุกเรืองรองและสองแก้มใสซึ่งแดงระเรื่อด้วยโกรธกริ้วไปยังมุมหนึ่งของห้อง เมื่อรู้สึกเหมือนกับถูกมองด้วยสายตาเป็นอริ แต่ก็ได้เห็นเพียงหลังไวๆ ของใครบางคน ความรู้สึกบอกว่าใช่! คนที่เขาตามหาตัวอยู่ แม้ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ที่ไม่ได้เห็นหน้าให้ตามไล่ล่าตัวถูกง่ายๆ แต่เขาก็รู้อีกฝ่ายใช่จะเป็นหนูให้ถูกแมวตะครุบได้ง่ายๆ แต่เป็นหมูเขี้ยวตันที่มีมันสมองและเป็นพันธุ์หมาป่า ถึงได้ปราดเปรียวและเจ้าเล่ห์เป็นที่สุด แต่คนเราต่อให้เก่งฉกาจสักแค่ไหน ทว่าก็ยังมีวันพลาดเผลอกระโจนลงสู่หลุมกับดักจนได้นั่นแหละ!“คุณมัน...ไอ้บ้า!” เมื่อไม่รู้จะโต้กลับอีกฝ่ายไปได้ยังไง ขอขวัญจึงถลึงตาใส่และเบี่ยงใบหน้าหนีดวงตาเหมือนจะยิ้มได้คู่นั้น ทำให้ได้เห็นอติกานต์ที่เดินตามหลังใครบางคนมา ใบหน้าแม้จะเรียบเฉย ทว่าดวงตากลมโตสุกใสคู่นั้นกลับฉายแววประหวั่นพรั่นพรึงอย่างกักเก็บไว้ไม่มิด“อยากไปก็ได้นะขอขวัญ แต่ฉันไม่รับประกันว่าเพื่อนเธอจะปลอดภัย” มือใหญ่สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหันไปพยักหน้าให้ลูกน

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 33

    “ไม่อยากได้ยินเธอกรีดร้องเสียงแหลมแสบไส้ บาดลึกจนแก้วหูแทบแตก แต่ขอเป็นร้องครางหวานๆ ยั่วเย้าเว้าวอนขอให้ฉันรีบทำอย่างอื่นเร็วไวดีกว่าไหมขอขวัญ”ใบหน้าผุดผาดซีดเผือดแหงนขึ้นมองหน้าคมเข้มอย่างงุนงง ดวงตาเข้มดุวามวาวคล้ายลูกแก้วสะท้อนแสงไฟ ทำให้หัวใจดวงน้อยคล้ายมีความหวาดกลัวระคนอยากรู้อยากเห็น ก่อนความทรงจำร้ายๆ จะผุดขึ้นในสมอง พร้อมความเจ็บปวดราวกับผิวเนื้อถูกทิ่มแทงจากเข็มนับร้อยเล่ม“...” เสียงผลักไสกลายเป็นเพียงแค่เสียงกระอึกกระอักในลำคอ สองมือที่ทาบผลักบ่ากว้างก็สั่นสะท้าน เมื่อชายหนุ่มละเลียดไล้บดคลึงอย่างอ่อนโยนราวกับปีกขนนกโบยบิน คล้ายต้องการจะปลอบโยนและปัดเป่าความหวาดกลัวภายในใจขอขวัญให้จางหายไปทีละน้อยท่อนแขนกำยำรัดร่างบอบบางแนบสนิทชิดจนได้สัมผัสโนมเนื้อนุ่มนิ่ม ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังบอบบาง ไต่ไปจับรั้งท้ายทอยมนให้รับจุมพิตอ่อนหวานเว้าวอนให้ยินยอมพร้อมใจ ฟันคมๆ กดย้ำบนกลีบปากอิ่มนุ่มจนขอขวัญรู้สึกหนาวสะท้านจนขนกายลุกเกรียว พอๆ กับเสียงของหัวใจที่กระหน่ำเต้นรัวเร็ว แม้มีความเจ็บปวดสอดแทรกอยู่บ้างแต่ก็น้อยนิดเมื่อเทียบกับครั้งแรก สัมผัสที่มาพร้อมความรู้สึกวาบหวามปั่นป่วนในช่

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 32

    “ขอโทษนะคะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” หญิงสาวเอ่ยเสียงเย็นอย่างคิดว่าสามารถตัดปัญหาไปได้ ทว่า...รอยยิ้มตรงมุมปากที่ได้เห็นช่างคุ้นตามากเหลือเกิน จนทำให้ไพล่คิดไปถึงใครบางคนที่ชอบทำให้เธอโกรธ ที่พ่วงกับอีกหนึ่งความรู้สึกซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ทว่าอติกานต์ก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป ด้วยไม่เชื่อว่าเขาคนนั้นจะกล้าเข้ามาประกาศตัวว่าสนใจเธอในอาณาจักรแห่งนี้ ด้วยเข้ามาแล้วอาจไม่ได้กลับออกไปอย่างคนอาการครบสามสิบสอง“อยู่คนเดียวเหงาออก ผู้คนมากมายล้วนแล้วแต่แปลกหน้าทั้งนั้น ผมว่าคุณผู้หญิงมีเพื่อนคุยคอยเป็นเกราะคุ้มกันน่าจะดีกว่านะครับ”ท่ามกลางสรรพเสียงที่ดังกระหึ่ม เพียงเธอปรากฏกายขึ้นเท่านั้น ทุกอย่างกลับเงียบลง สายตาทุกคู่โฟกัสมาที่ร่างเพรียวบางในชุดสีครีมลูกไม้แนบเน้นให้เห็นความงดงามของกายสาว ผู้ชายมองด้วยความรู้สึกอยากสานสัมพันธไมตรีด้วย ขณะที่ผู้หญิงมองด้วยความอิจฉาริษยาในความงดงาม ภายใต้ใบหน้าและส่วนบนของศีรษะจะมีผ้าลูกไม้ฉลุปกคลุมอยู่“ไม่จำเป็น ฉันเอาตัวรอดได้”“อย่าเสี่ยงดีกว่าครับ ตอนนี้ใครต่อใครต่างก็หมายใจอยากเข้าใกล้ เพื่อเต้นรำกับสาวสวยอย่างคุณ”“ไม่เว้นแม้แต่คุณ...แต่ขอโทษด้วย ฉันมาท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status