ถังซือซือกลอกตาขาวทีหนึ่ง “นายช่วยมีสายตาหลักแหลมหน่อยได้ไหม?”“อะไรถึงเรียกว่ามีสายตาหลักแหลม?”“ฉันไม่อยากเจอนาย นายก็ควรเดินผ่านไปเลย ทำเป็นมองไม่เห็นไปซะ”คราวก่อนที่เจอกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถังซือซือก็ทำแบบนี้เยี่ยนหวยก้มหน้าพลางขำออกมา ท่าทางสง่างามพร้อมกระปรี้กระเปร่า “ขอโทษนะ ฉันทำเรื่องไร้มารยาทแบบนั้นไม่เป็น”ความหมายโดยนัยก็คือถังซือซือไม่มีมารยาทถังซือซือแค่นเสียงฮึทีหนึ่ง “ตอนนี้ทักทายเสร็จแล้ว จะไปได้หรือยัง?”“บังเอิญเจอกันในเมืองที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ถือเป็นวาสนา มาร่วมดื่มด้วยกันสักสองแก้วเป็นไง?”ถังซือซือมองเขาอย่างเหยียดหยามทั้งนั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิกเวินเหลียงกลอกตาขาวเงียบ ๆ แล้วแอบพูดในใจว่าเยี่ยนหวยหน้าหนาพอ ๆ กับฟู่เจิงเลยเห็นทั้งสองคนไม่พูดไม่จา เยี่ยนหวยจึงเลิกคิ้ว “ทำไม? รีบไล่ฉันไปขนาดนี้ หรือว่านัดคู่นัดบอดเอาไว้แล้วกลัวฉันเห็นเขาเข้า?”“กลัวนายทำเขาคลื่นไส้น่ะสิ” ถังซือซือตอกกลับ“บังเอิญจังฉันก็นัดคนหนึ่งเอาไว้เหมือนกัน แต่ฉันไม่กลัวว่าเขาจะถูกเธอทำให้คลื่นไส้หรอกนะ เพราะงั้นเรามารอด้วยกันเถอะ ถึงเวลานั้นก็แนะนำให้รู้จักกันเอาไว้”ถัง
จู่ ๆ ก็มีเสียงไซเรนรถตำรวจดังขึ้นที่หน้าประตูไม่รู้ใครตะโกนขึ้นว่า “พ่อมาแล้ว”หลังจากนั้นทั้งบาร์ก็เริ่มโกลาหลขึ้น แขกบางรายยืนอึ้งอยู่ที่เดิมไม่รู้ต้องทำยังไง ทว่าก็มีแขกบางรายกระวนกระวายใจ วิ่งหนีไปทางซ้ายทีขวาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจคู่หนึ่งมุ่งหน้าเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยจากทางประตูหลัก เจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขึงขัง “ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ เราได้รับการแจ้งมาว่า ในบาร์มีคนใช้ของที่ผิดกฎหมาย ตอนนี้รบกวนทุกท่านให้ความร่วมมือเราทำคดีด้วยครับ เสียเวลาไม่นานหรอกครับ ไม่อย่างนั้นจะถูกจับในข้อหาทะเลาะวิวาทและสร้างความเดือดร้อนแทน”แขกหลายคนสงบลง และให้ความร่วมมือกับการไต่สวนของทางตำรวจถังซือซือค่อนข้างตกตะลึงเป็นอย่างมาก “มีคนเสพยาในที่แบบนี้ด้วยเหรอ? วุ่นวายชะมัด! ตาคนแซ่เยี่ยน นายหาที่พรรค์ไหนมาเนี่ย?”เยี่ยนหวยจนใจเป็นอย่างมาก “ฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะ...”“หุบปากไปเลย!”เยี่ยนหวยเม้มริมฝีปากล่าง ทว่าไม่ได้พูดอะไรต่อถังซือซือกระซิบถามขึ้นว่า “ในเมื่อได้รับการแจ้งไป คนที่แจ้งก็น่าจะบอกรูปพรรณสัณฐานของคนที่เสพยาใช่ไหม?”ข้อศอกของเวินเหลียงประคองอยู่บนโต๊ะ พล
“คุณเวิน ผลการตรวจพบว่าคุณมีผนังมดลูกบางแต่กำเนิด ทารกในครรภ์ผิดปกติ ต้องระวังเรื่องการกินการออกกำลังในปกติมากหน่อยนะคะ”หมอกำชับพลางจ่ายยา ก่อนจะยื่นบัตรไป “นี่ค่ะ ไปรับยาได้เลย”“ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณหมอ” เวินเหลียงรับบัตรมาแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนหมอกำชับเธออีกคำ “ต้องระวังนะคะ อย่าเห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญล่ะ!”ผนังมดลูกบางทำให้แท้งง่าย ผู้หญิงตั้งครรภ์หลาย ๆ คนพอแท้งลูกแล้วก็ตั้งครรภ์ไม่ได้อีก“ขอบคุณค่ะคุณหมอ ฉันจะระวังนะคะ” เวินเหลียงยิ้มน้อย ๆ พร้อมพยักหน้าแต่งงานมาสามปี ไม่มีใครรอคอยการมาของเด็กคนนี้มากไปกว่าเธออีกแล้ว เธอต้องปกป้องเขาอย่างดีแน่นอนหลังจากรับยา เวินเหลียงออกมาจากตึกแผนกผู้ป่วยนอกและกลับขึ้นรถคนขับรถสตาร์ตรถ มองเธอจากกระจกหลัง “คุณผู้หญิงครับ เที่ยวบินของคุณผู้ชายคือบ่ายสามโมง ยังมีเวลาอีกยี่สิบนาที จะไปสนามบินเลยไหมครับ?”“ไปสิ”พอนึกถึงว่าอีกยี่สิบนาทีก็จะได้เจอเขา ใบหน้าเวินเหลียงปรากฏรอยยิ้มหวานนิด ๆ ในใจเริ่มอดรนทนไม่ไหวแล้วฟู่เจิงไปดูงานเกือบเดือนแล้ว เธอคิดถึงเขามาก ๆระหว่างทางเธออดใจไม่ไหว หยิบผลตรวจครรภ์ออกมาจากกระเป๋าดูแล้วดูอีก วางมือบนท้องน้อ
“ฉันเอง”“คุณดื่มมาเหรอ...”“อืม ดื่มกับเพื่อนมานิดหน่อย”เสียงฝักบัวดังมาจากห้องน้ำ เวินเหลียงขมวดคิ้วพลิกตัว เพราะนอนหลับไม่สนิทฟูกข้างตัวยุบลงมือใหญ่ข้างหนึ่งตกลงบนตรงเอวของเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามโค้งเว้าอันสวยงามช้า ๆ“อื้อ...คืนนี้ไม่ได้...” เวินเหลียงหลับตาห้ามเขาทั้งสะลึมสะลือเพราะกลัวกระทบกระเทือนกับลูกตามสัญชาตญาณมือใหญ่หยุดชะงักอยู่บนหลังของเธอ “งั้นนอนเถอะ”เวินเหลียงเพลียจริง ๆ ไม่นานนักจึงหลับสนิทเช้าตรู่ ตอนที่เวินเหลียงตื่นขึ้นมา ข้างตัวปราศจากไออุ่นแล้ว มีเพียงผ้าปูเตียงที่ยับเล็กน้อย ซึ่งบ่งบอกว่าเมื่อคืนคนข้างตัวได้กลับมาเธอนึกเสียใจนิด ๆ ทำไมเมื่อคืนถึงหลับไปได้นะ?ไม่เป็นไร บอกวันนี้ก็เหมือนกันหลังจากเวินเหลียงอาบน้ำเสร็จก็เดินไปที่ห้องแต่งตัว เลือกสูทสีขาวให้ฟู่เจิง และเลือกเนกไทสีแดงเพราะคิดว่าเรื่องที่ตัวเองท้องถือเป็นเรื่องมงคลเรื่องหนึ่ง หลังจากนั้นก็นำไปวางบนเตียงนอนฟู่เจิงกลับจากการวิ่งยามเช้าแล้ว และกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในชุดลำลอง เมื่อเงยหน้าเห็นเวินเหลียงที่กำลังลงมาจากบันไดจึงวางเอกสารในมือลง “กินข้าวเถอะ”จบมื้ออาหารเช้า เวินเหล
สามปีมานี้ แม้พวกเขาจะไม่ได้ประกาศให้คนนอกรู้ แต่ก็ไม่ต่างจากสามีภรรยาทั่วไปทุกเช้าเธอจะเลือกสูทพร้อมเนกไทให้เขาแล้วไปบริษัทด้วยกันกลางคืนต่างคนต่างแยกย้ายไปรับรองลูกค้าออกกำลังกายก่อนนอนเป็นประจำ อาบน้ำด้วยกันในบางครั้ง รวมถึงจูบราตรีสวัสดิ์ของทุกคืนก็ไม่เคยขาดเขาไม่เคยพลาดของขวัญวันครบรอบวันแต่งงาน วันวาเลนไทน์และวันเกิด เธออยากได้อะไรเขาก็มอบให้ตามที่ปรารถนาทั้งหมดความโรแมนติก ความพิธีรีตอง เขาล้วนทำให้ครบหมดทุกอย่างเขาทำทุกเรื่องที่สามีสมบูรณ์แบบคนหนึ่งพึงกระทำแม้แต่ตัวเธอเองยังนึกว่าชีวิตจะมีความสุขแบบนี้ไปเรื่อย ๆแต่ฉู่ซืออี๋กลับมาแล้วดังนั้นทุกอย่างจึงต้องจบลงฉะนั้นเสียงผู้หญิงในสายเมื่อวานก็คงจะเป็นฉู่ซืออี๋พวกเขาติดต่อกันมานานแล้วเหรอ?ทริปดูงานหนึ่งเดือนนี้ พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดเหรอ?เมื่อวานพวกเขากลับมาด้วยกันเหรอ?เมื่อคืนเขาอยู่เป็นเพื่อนฉู่ซืออี๋เหรอ?พอนึกถึงเรื่องพวกนี้ ก้นบึ้งหัวใจเวินเหลียงก็เย็นเยียบ คล้ายกับฟู่เจิงเฉือนเลือดเฉือนเนื้อเธอทีละนิดจนขาดแหว่งไม่มีชิ้นดี“เวินเหลียง เธอวางใจเถอะ ถึงเราจะหย่ากัน แต่เธอก็ยังเป็นคนตระกูลฟู่ เป็นน
เวินเหลียงกอดโทรศัพท์มือถือ ปวดใจจนหายใจไม่ออกที่แท้พอฟู่เจิงลงจากเครื่องบินก็พาฉู่ซืออี๋ไปเจอกับเพื่อนของเขานี่เองพวกเขารู้และอวยพรกันทุกคนมีแต่เธอที่ถูกครอบอยู่ในกะลาและสามปีมานี้ การแต่งงานของพวกเขา มีแต่คนตระกูลฟู่ที่รู้เขาไม่เคยพาเธอไปเจอเพื่อนของเขาเลย แม้ว่าจะเจอบ้าง แต่ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเป็นลูกบุญธรรมตระกูลฟู่โดยปริยาย“คุณผู้หญิงครับ?”คนขับรถมาถึงโรงจอดรถเพื่อมาเป็นสารถี เห็นรถของเวินเหลียงยังอยู่จึงเรียกด้วยความสงสัยเวินเหลียงปาดน้ำตาอย่างว่องไว ทำเป็นไม่ได้ยินและสตาร์ตรถออกไปทันทีเวินเหลียงจะไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวในการทำงานตอนนี้เธอจึงได้แต่ใช้การทำงานเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองเมื่อเวินเหลียงหาอีเมลของฟู่เจิงพบ จึงอัพโหลดแผนงานลงในอีเมลแล้วกดส่งแพล็บเดียวฟู่เจิงก็ตอบกลับสั้นกระชับเหมือนทุกที ‘ผ่าน หลังจากนี้เธอคอยจับตาดูให้มากหน่อยแล้วกัน’เวินเหลียงหยุดชะงักครู่หนึ่ง พิมพ์คำว่า ‘ได้’ ส่งไปแล้วมอบหมายงานอย่างรวดเร็วหลังจากเลิกงานตอนเย็น เวินเหลียงก็ได้รับข้อความจากฟู่เจิง ‘คืนนี้มีธุระ เธอกลับไปก่อน’เวินเหลียงเม้มริมฝีปาก ในใจเกิดความรู้สึกเจ็
เวินเหลียงรู้สึกแสบบริเวณปลายจมูก ภาพตรงหน้าถูกปกคลุมด้วยม่านน้ำตา หัวใจทุกข์ระทมขื่นขมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเธอไม่เคยเห็นท่าทางอ่อนโยนอย่างนี้ของฟู่เจิงเลย แต่งงานกันสามปีเขามักเมินเฉยใส่เธอเสมอเธอมักปลอบใจตัวเองว่าเขาเป็นคนอย่างนี้เองโกหกจนแม้แต่ตัวเองเธอก็ยังเชื่อเวลานี้เธอเห็นแล้วว่าเขาก็อ่อนโยนเป็นเหมือนกัน เพียงแค่มอบให้กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งเท่านั้นพวกเขาเดินผ่านหน้ารถของเธอไป เขาไม่ได้สังเกตว่านั่นคือรถของเธอ และแน่นอนว่าไม่เคยสังเกตตัวเธอเช่นกัน“คุณผู้หญิง กลับมาแล้วเหรอคะ กลางคืนจะกิน...”แม่บ้านเห็นหยดน้ำตาบนใบหน้าของเวินเหลียงแวบ ๆ ยังไม่ทันพูดจบก็เห็นเธอเข้าห้องนอนไปเลย จึงไม่กล้าถามอีกเวินเหลียงทรุดหลังพิงกับประตู ลำคอรู้สึกถึงรสชาติขมเฝื่อนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดหลังจากอดกลั้นมาทั้งวันในที่สุดเธอก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไป ม่านน้ำตาเอ่อขึ้นมาในเบ้าตาอย่างรวดเร็ว มันมากเสียจนล้นออกมาจากขอบตาและไหลลงตามพวงแก้มเธอปวดหัวใจมาก ปวดมากจริง ๆหลังจากที่พ่อแม่แยกทางกัน เธอก็ทนรับกับความทุกข์ของครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมากพอแล้ว เธอจึงไม่อยากให้ลูกของเธอต้องเป็นเหมือนกั
พอพี่ลี่ผู้จัดการส่วนตัวของหลินเยียนหรันได้ยินเสียงของเวินเหลียงก็โวยวานมาเป็นชุดด้วยความโมโห “ผู้อำนวยการเวิน ถ้าพวกคุณคิดว่าฐานะของเยียนหรันไม่คู่ควรกับฟู่ซื่อของพวกคุณก็บอกมาตรง ๆ เยียนหรันไม่ใช่ว่าต้องทำกับพวกคุณให้ได้! ตอนนี้ ฉันปัดงานแบรนด์แอมบาสเดอร์ของที่อื่นไปหมดแล้ว แต่พวกคุณดันกลับคำพูดจะเปลี่ยนตัวเยียนหรัน ปั่นหัวพวกเราเล่นอยู่หรือยังไง? เรื่องนี้ พวกคุณต้องให้คำอธิบายกับเยียนหรันนะ!”เวินเหลียง “พี่ลี่ พี่ใจเย็นก่อนนะคะ แบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เรากำหนดก็คือเยียนหรัน จะเปลี่ยนตัวเธอได้ยังไง?”“เฮอะ? คุณยังไม่รู้อีกเหรอ? หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ของพวกคุณโทรมาบอกเองว่าจะเปลี่ยนคน!”เวินเหลียงชะงัก “พี่ลี่ ฉันจะไปถามเรื่องนี้ให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้ และจะให้คำอธิบายกับเยียนหรันแน่นอนค่ะ”หลังจากวางสายโทรศัพท์ เวินเหลียงก็หน้าตึง ลุกขึ้นยืนแล้วตรงดิ่งไปแผนกประชาสัมพันธ์ ส้นสูงใต้เท้าดังตึก ๆหลังจากเข้าฟู่ซื่อสามปี อู๋หลิงก็หาเรื่องเธอไม่น้อย“จะมีเรื่องสนุกให้ดูแล้วสิ” พนักงานเห็นเธอเดินไปฉับ ๆ ก็กระซิบกระซาบกัน “ผู้อำนวยการอู๋แผนกประชาสัมพันธ์ไม่ถูกกับผู้อำนวยการเวินของเราตลอด