เขายังสวมชุดตัวเมื่อวานอยู่ ด้านบนเสื้อผ้ายับยู่ยี่ไปหมด ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงอยู่หน่อย ๆ ทั้งตัวคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าหึ่งฟู่ซือฝานรังเกียจถึงขั้นหลบ มือน้อย ๆ ทำท่าปักตรงหน้าจมูก พลางเบะปาก “คุณลุง คุณลุงตกลงไปในถังเหล้าเหรอ?!”ฟู่เจิง “...”“คุณลุงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ มีเรื่องอะไรเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน”ฟู่เจิงเดินขึ้นไปยังชั้นสองเลยฟู่ซือฝานมองเงาเบื้องหลังของเขา แล้วก็ยักไหล่อย่างจนใจยังต้องให้เดาอีกเหรอ?เมื่อคืนคงทะเลาะกับคุณป้ามาแน่ ก็เลยไปดื่มเหล้าเพื่อให้ลืมความทุกข์คนเดียวหลังฟู่เจิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็เดินลงมาพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมไปด้วย จากนั้นเดินไปนั่งลงข้างฟู่ซือฝาน “คุณป้าเธอเป็นคนพาเธอมาส่งเหรอ?”ฟู่ซือฝานพยักหน้า “อืม คุณลุง เมื่อวานคุณลุงทะเลาะกับคุณป้าใช่ไหม?”มือที่กำลังเช็ดผมอยู่ของฟู่เจิงชะงักไป เขาก้มหน้าลงแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง “เขาได้พูดอะไรกับเธอหรือเปล่า?”“คุณป้าบอกว่า ถ้าหนูพูดถึงคุณลุงต่อหน้าคุณป้าอีก คุณป้าจะเกลียดหนูเหมารวมไปกับคุณลุงด้วย”“งั้นเธอก็เลิกพูดถึงลุงต่อหน้าป้าได้แล้ว ลุงเคยบอกแล้วว่า ไม่ว่าผู้ใหญ่จะเป็นยังไงกัน ก
ฟู่เจิงตบไหล่ของฟู่ซือฝาน นัยน์ตาพลางประกายแสงดำมืดออกมาสายหนึ่งเวินเหลียงชอบเมิ่งเซ่อแล้วยังไง?เธอชอบความสดใส ความหล่อและความมีชีวิตชีวาของเมิ่งเซ่อ แต่หากเมิ่งเซ่อไปข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่น ถ้าเป็นแบบนั้นข้อดีทั้งหมดของเขาก็จะไร้ประโยชน์ขึ้นมาในทันที!ฟู่เจิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วส่งข้อความไปหาลู่เย่าเขาเล่นเป็นเพื่อนฟู่ซือฝานตลอดทั้งบ่าย ตอนเย็นถึงได้รับข้อความตอบกลับของลู่เย่าฟู่เจิงอ่านข้อความ ก่อนจะปิดโทรศัพท์ แล้วพูดกับฟู่ซือฝานว่า “ฝานฝานตอนกลางคืนยังอยากนอนกับคุณป้าไหม?”“อยากค่ะ!” ฟู่ซือฝานพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าวสารเธอชอบนอนกับคุณป้ามาก ๆ“งั้นลุงไปส่งเธอตอนนี้ดีไหม?” ฟู่เจิงถามขึ้นเขาครุ่นคิด ระยะเวลาหนึ่งเดือนสั้น ๆ อาศัยแค่เขา ยากจะให้ฟู่ซือฝานตอบตกลงที่จะอยู่ต่อแต่ถ้ามีเวินเหลียงเข้ามาด้วยอีกคนก็ต่างไปแล้วโดยเฉพาะหากฟู่ซือฝานนอนกับเวินเหลียงทุกวัน จะยิ่งรู้สึกผูกพันลึกซึ้งมากขึ้น หลังชินแล้ว เธอยังคิดอยากไปจากที่นี่อีกไหม?“อืม ๆ”ฟู่เจิงเก็บเสื้อผ้าให้ฟู่ซือฝานเพิ่มอีกสองสามตัว ก่อนจะพาเธอไปส่งที่ย่านบ้านเวินเหลียงเวินเหลียงอยู่บ้านพอดีเมื่อไ
ชายหนุ่มรู้จักลู่เย่า ทว่าไม่รู้จักฟู่เจิง หรือเรียกได้ว่าไม่กล้ารู้จักสบเข้ากับสายตาของฟู่เจิง ในใจของเขาก็สั่นงันงกไปหมด เขาส่งข้อมูลชุดหนึ่งให้ลู่เย่าพร้อมฉีกยิ้ม “เถ้าแก่ลู่ นี่เป็นข้อมูลส่วนตัวของพวกเธอ คุณลองดูสิครับ”ลู่เย่าส่งให้ฟู่เจิงเลยโดยไม่แม้แต่จะมอง “คุณเลือกมาสักคนสิ”ฟู่เจิงรับข้อมูลมา เปิดดูไปทีละหน้า ๆ ทั้งอย่างนี้ภายในห้องรับรองเงียบสงัดเป็นพิเศษบรรยากาศราวกับหยุดนิ่งไปกระทั่งเขาเปิดไปที่หน้าหนึ่ง แล้วขานชื่อที่อยู่บนหน้านั้นขึ้นมา “เซี่ยมู่ คือคนไหน?”ภายในแถวของหญิงสาว ผู้หญิงคนที่สองนับจากฝั่งซ้ายชะงักไปสองสามวินาที ถึงได้ก้าวออกมาด้านหน้าก้าวหนึ่ง พลางก้มหน้า “คุณผู้ชายทั้งสอง ฉันชื่อเซี่ยมู่ค่ะ”ฟู่เจิงหรี่ตาลงพลางมองประเมินเธอด้วยนัยน์ตาแหลมคมผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็เปิดปากเอ่ยขึ้นชืด ๆ ว่า “เลือกเธอแล้วกัน ส่วนคนอื่นออกไปให้หมด”ผู้ชายที่เป็นคนนำทีมอยากจะลองใจดูอีกครั้ง “ทั้งสองท่าน ไม่เลือกอีกสักคนเหรอครับ?”หรือว่าพวกเขามีรสนิยมชอบชายสองหญิงหนึ่งแบบนี้เหรอ?“ไม่จำเป็น”“งั้นก็โอเคครับ” ชายหนุ่มที่เป็นคนนำทีมไม่ลืมที่จะกำชับ “เซี่ยมู่ ปรนนิบัต
ช่วงนี้อากาศเย็นลง หลานของป้าหวังเป็นหวัดเป็นไข้ เลยลาหยุดสองสามวันแม้ฟู่เจิงจะไม่ใช่ประธานบริหารของฟู่ซื่อ กรุ๊ปอีกต่อไป ทว่าทรัพย์สมบัติที่อยู่ในมือก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว ยังคงต้องตรากตรำทำงานยุ่งทุกวัน ไม่มีเวลามาดูแลฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานจึงอาศัยอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์แสนใหญ่โตโอ่อ่าของเวินเหลียงทั้งอย่างนี้ ทุกวันตอนกลางวันเวินเหลียงจะพาออกไปเที่ยวเล่น ตกกลางคืนก็จะนอนกับเวินเหลียง ใช้ชีวิตผ่านไปในแต่ละวันไม่ต้องพูดเลยว่าดุจดั่งเทพเซียนขนาดไหนกระทั่งมาถึงนี้วันพฤหัสบดี เป็นวันจัดปาร์ตี้รียูเนียนเพื่อนร่วมชั้นสมัยม.ปลายของถังซือซือ เวินเหลียงพาเธอไปด้วยไม่ได้ จึงส่งเธอไปอยู่ที่บ้านใหญ่ บอกเอาไว้ว่าเดี๋ยวจะมารับเธอตอนกลางคืนสถานที่จัดปาร์ตี้รียูเนียนเลือกเป็นในโรงแรมใหญ่ระดับห้าดาวแห่งหนึ่งก่อนไปถังซือซือตั้งใจแต่งหน้าอย่างประณีตให้ตัวเองโดยเฉพาะหลังแต่งหน้าเสร็จ เธอส่องกระจกซ้ายทีขวาที แล้วเงยหน้ามองเวินเหลียงที่อยู่บนโซฟา ก่อนจะชี้ที่หน้าของตน และถามขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “อาเหลียง เป็นยังไงบ้าง?!”แต่งหน้าได้สะอาดหมดจด เขียนคิ้วได้รูปเป็นสัดส่วนชัดเจน เมื่อเลิกช่วงกลางคิ้วขึ้นเล
ถังซือซือได้รับความนิยมสุด ๆ เธอพูดคุยหัวเราะเฮฮากับบรรดาเพื่อนร่วมชั้นเก่าทันใดนั้นจู่ ๆ ผู้หญิงที่ชื่อหยางเสวี่ยก็พูดขึ้นว่า “จริงสิ ซือซือ เธอได้ยินหรือยัง เหมือนว่าเยี่ยนหวยจะกลับประเทศแล้วนะ วันนี้เห็นว่าเขาก็จะมาด้วย”เมื่อจับชื่อนี้ได้ เวินเหลียงก็มองไปที่ถังซือซือทันทีเยี่ยนหวย คงเป็นผู้ชายที่ถังซือซือและศัตรูคู่อาฆาตแข่งกันจีบถังซือซือชะงักไป ก่อนจะตอบกลับชืด ๆ ว่า “งั้นเหรอ? มาก็มาสิ”สายตาของเธอมองไปที่ที่หนึ่งบนพื้นตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ในหัวอดไม่ได้ที่จะวาบใบหน้าหล่อเหลาหมดจดทว่าอมทุกข์นั่นขึ้นมาที่แท้ความทรงจำบางอย่างมันไม่ได้ค่อย ๆ เลือนรางและจางไปตามกาลเวลาที่ล่วงเลย ทว่ากลับกันยิ่งจำได้ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆหยางเสวี่ยพูดขึ้นอีกว่า “พวกเธอคงไม่ได้เจอกันนานแล้วใช่ไหม? ตอนแรกเธอกับเหยาจิ้งอวี่แข่งกันจีบดุเดือดขนาดนั้น ฉันยังคิดว่าเธอกับเยี่ยนหวยจะได้เดินไปด้วยกันจนสุดทางซะอีก ได้ยินมาว่าหลังเยี่ยนหวยไปต่างประเทศ เหยาจิ้งอวี่ก็ไปต่างประเทศเหมือนกัน ได้ยินว่าปาร์ตี้ครั้งนี้เหยาจิ้งอวี่ก็เป็นคนจัด เห็นว่าเยี่ยนหวยจะมาด้วย”“จริงเหรอ?” เพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงอีกคนที่อยู
ทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่เป็นสาวสวยกันทั้งคู่ ทว่าทุกคนกลับอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังซือซือพูดถึงแค่เรื่องการแต่งหน้า ทั้งสองคนสูสีกัน เพียงแต่ถังซือซือในฐานะช่างแต่งหน้ามืออาชีพ รู้จุดเด่นจุดด้อยของตัวเองเป็นอย่างดี เมื่อเน้นจุดแข็ง เลี่ยงจุดอ่อน จึงยิ่งขับบุคลิกของเธอให้เด่นขึ้น!ถังซือซือเงยหน้าขึ้นมามองเหยาจิ้งอวี่สองสามที พร้อมทั้งแสร้งยิ้ม “เธอยั่วยุฉันในกลุ่มขนาดนี้ ขืนฉันไม่มา ก็ไม่เท่ากับว่ากลัวเธอหรอกเหรอ?”เมื่อได้ยินดังนั้น คนรอบข้างต่างก็พากันอิหลักอิเหลื่อไปเล็กน้อยไม่นึกเลยว่าผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ฝีมือถังซือซือก็ยังเหมือนแต่ก่อนเป๊ะ ๆปีนั้นทุกคนต่างเชียร์เยี่ยนหวยและเหยาจิ้งอวี่กันทั้งนั้น คนหนึ่งที่หนึ่ง คนหนึ่งที่สองไม่มีใครคิดเลยว่าเยี่ยนหวยจะคบกับถังซือซือคนหนึ่งอันดับหนึ่งของชั้นปี คนหนึ่งลำดับสุดท้ายของชั้นคนหนึ่งสุขุมนุ่มลึกชอบทำหน้าอมทุกข์ คนหนึ่งชอบแสดงออกเป็นจุดสนใจตอนนั้นในชั้นเรียนไม่มีใครต่อต้านถังซือซือได้ ทุกคนจึงตั้งฉายาให้ว่าปรมาจารย์แห่งการทำลายล้างทว่าต่อหน้าเยี่ยนหวย ปรมาจารย์แห่งการทำลายล้างกลายเป็นลูกแกะตัวน้อยเหยาจิ้งอ
ที่นั่งตรงอื่นมีคนนั่งหมดแล้ว เหล่าเพื่อนร่วมชั้นจงใจเว้นที่ว่างข้างเหยาจิ้งอวี่เอาไว้เยี่ยนหวยเม้มปาก ในแววตาที่อยู่ใต้แว่นตาขอบทองประกายความไม่พอใจออกมา ก่อนจะนั่งลงข้างเหยาจิ้งอวี่โดยไม่พูดไม่จาพนักงานเริ่มเสิร์ฟอาหารแล้วเหยาจิ้งอวี่พูดกับเยี่ยนหวยว่า “ไม่รู้ว่านายชอบอาหารพวกนี้หรือเปล่า ถ้าไม่ชอบสั่งใหม่อีกก็ได้นะ”นัยน์ตาของเยี่ยนหวยลึกซึ้ง เขาก็ยังไม่ยอมพูด จนมีเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายคนหนึ่งหยอกล้อ “แล้วถ้าฉันไม่ชอบ สั่งใหม่อีกได้ไหม?”“นายไสหัวไปเลย!” เหยาจิ้งอวี่ยิ้มพลางเอ่ยขณะกินข้าว เหยาจิ่งอวี่พูดคุยกับเยี่ยนหวยที่อยู่ข้าง ๆ ตลอด พร้อมทั้งมองถังซือซืออย่างยั่วยุอยู่เป็นระยะถังซือซือคร้านจะสนใจเธอ จึงพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆในสายตาของเพื่อนร่วมชั้นทั่วไป ถังซือซือได้รับการต้อนรับมากกว่ามีเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายสองสามคนชวนถังซือซือคุยอย่างตั้งใจแต่ก็ทำเหมือนไม่ตั้งใจอย่างแรกคือตอนม.ปลาย คะแนนของถังซือซืออยู่ในลำดับสุดท้าย ทำเอาครูประจำชั้นปวดหัวเป็นอย่างมาก จึงย้ายที่นั่งของเธอไปไว้แถวสุดท้ายแถวสุดท้ายมีแค่เธอคนเดียวที่เป็นผู้หญิง นิสัยของเธอมีชีวิตชีวาชอบ
เงาเบื้องหลังของถังซือซือเดินโซเซ จังหวะก้าวระส่ำระสายอยู่เป็นระยะเยี่ยนหวยยืนอยู่ที่เดิม สีนัยน์ตาภายใต้แว่นลึกซึ้ง มองเงาเบื้องหลังเธออย่างเหม่อลอยในหัวอดไม่ได้ที่จะหวนนึกไปถึงตอนม.ปลาย เธอทำท่าทางเป็นคุณหนูใหญ่ ขวางเขาเอาไว้ในทางเดิน “เยี่ยนหวย ฉันชอบนาย นายมาเป็นแฟนฉันโอเคไหม?”ตอนนี้นิสัยเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไร แต่กลับพูดว่าเขาคือขยะเธอไม่รู้ ที่เขาบอกเป็นนัยให้เหยาจิ้งอวี่จัดปาร์ตี้รียูเนียน ก็เป็นเพราะเขาจงใจยั่วยุความชอบเอาชนะคนของเหยาจิ้งอวี่ เขารู้ว่าเหยาจิ้งอวี่ต้องอดไม่ได้ที่จะยั่วยุเธอแน่ เขาเองก็รู้จักนิสัยไม่ยอมแพ้ของเธอดี หลังถูกเหยาจิ้งอวี่ยั่วยุ จะต้องมาร่วมงานปาร์ตี้รียูเนียนอย่างแน่นอนตอนมาเขายืนอยู่ตรงประตูห้องรับรอง เมื่อได้ยินเสียงของเธอ เขาต้องใช้เรี่ยวแรงอย่างมหาศาลในการควบคุม ถึงรักษาท่าทางนิ่งสงบแบบนั้นได้ท้ายที่สุดถังซือซือก็เดินมาถึงหน้าประตูห้องรับรอง ก่อนจะผลักประตูเข้าไปคนเต็มห้องรับรองหยุดพูดคุยกัน และพร้อมใจกันจ้องมาที่เธอถังซือซือไม่รู้สึกตัวอย่างสมบูรณ์ กระทั่งเห็นว่าบนโต๊ะว่างเปล่าไม่มีอะไรตั้งอยู่ ข้างโต๊ะเองก็ว่างไม่มีใคร ในตอนนี