“ไม่ใช่ ก็ฉันเห็นว่าเจ้าเฮ่อหมิงนี่ก็ดูจะมีใจให้เธอ อาเหลียง เธอดูสิ หลังจากหย่า ดวงเรื่องความรักของเธอก็รุ่งพุ่งแรงสุด ๆ!”เวินเหลียงลูบหว่างคิ้ว “ไม่ว่าจะเป็นใคร ตอนนี้ฉันก็ไม่มีกะจิตกะใจมาคิดพรรค์นี้”“เอาเถอะ” ถังซือซือถอนหายใจ “สลัดทิ้งไปตามอำเภอใจไม่รู้จักหวงแหนบ้างเลย”“ถ้าเธอรู้สึกเสียดาย ไม่งั้นเธอก็ลุยเอง?”“ฉันก็อยากลุยอยู่หรอก แต่คนที่พวกเขาชอบดันไม่ใช่ฉันน่ะสิ”“ถ้าเธอคิดผิดล่ะ?”“ไม่มีทาง เขาดูปฏิบัติกับเราเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่พูดคุยจะเอาแต่มองเธอ”เวินเหลียง “...”“จริงสิ ตอนนี้เธอได้ติดต่อกับเมิ่งเซ่อบ้างหรือเปล่า?”“ไมค่อยเท่าไร”เมิ่งเซ่อมักจะทักมาชวนเธอคุย แต่เธอตอบกลับน้อยมาก หากไม่ใช่เพราะเมิ่งเซ่อเป็นคนเมืองเจียงเฉินเหมือนกัน และต่อไปอาจได้เจอกันอีก ไม่แน่ว่าเธออาจลบคอนแท็กต์ของเมิ่งเซ่อทิ้งไปแล้ว“ดูสิ บนท้องฟ้ามีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง!” จู่ ๆ นักท่องเที่ยวคนหนึ่งก็ชี้ไปบนท้องฟ้าพลางเอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึงฉะนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนจึงพากันมองขึ้นไปจากนอกหน้าต่าง เห็นว่าบนท้องฟ้าไม่ไกลมีเฮลิคอปเตอร์อยู่ลำหนึ่งจริง ๆ กำลังบินอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลไกด์นำเที่
เมื่อกลับจากประภาคารไปถึงยังพื้นที่ตั้งแคมป์ในป่า ไกด์นำเที่ยวได้เคลียร์พื้นที่หนึ่งกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมก่อกองไฟเวินเหลียงและถังซือซือพกข้าวกล่องอุ่นร้อนด้วยตัวเองมาด้วย เครื่องเคียงเป็นเนื้อแดดเดียว กินคู่กับของย่างเสียบไม้ อยู่กลางแจ้งแต่มีของเหล่านี้ได้ ก็เป็นที่น่าพอใจมากแล้วเฮ่อหมิงช่วยไกด์นำเที่ยวจัดสรรอาหาร“พี่สาวทั้งสอง นี่กาแฟของพวกพี่ครับ” เฮ่อหมิงยกแก้วกระดาษมาสองใบ ให้เวินเหลียงและถังซือซือคนละใบ “ถ้าดื่มไม่พอไปเอาทางนั้นได้นะครับ”“โอเค ขอบคุณนะ” เวินเหลียงรับมาแล้วจิบอึกหนึ่ง ก่อนจะวางไว้ข้าง ๆนัยน์ตาของเฮ่อหมิงประกายแสงดำมืดสายหนึ่งจางชวนมีอาการปวดประสาทเล็กน้อย ออกจากบ้านต้องพกยานอนหลับมาด้วย ไม่นึกเลยว่าหลังออกมาท่องเที่ยวแล้วอาการนอนไม่หลับจะดีวันดีคืน เขายังพูดว่าพกยานอนหลับมาเสียเปล่าแล้วนี่ก็ได้ใช้แล้วไม่ใช่เหรอ?หลังกินข้าวมื้อค่ำเสร็จ มือของเวินเหลียงก็ถือกาแฟพลางจิบไปด้วยไกด์นำเที่ยวหิ้วเบียร์ลงมาจากรถสองสามกระป๋อง จากนั้นก็ถามเหล่านักท่องเที่ยวที่อยู่ข้างกองไฟว่า “ตรงนี้มีเบียร์ มีใครอยากได้เบียร์ไหมครับ?”คนที่อยา
เมื่อเห็นเวินเหลียงหลับสนิท เฮ่อหมิงก็ยื่นมือไปถอดเสื้อผ้าของเวินเหลียงออกอย่างระมัดระวังเขาเองก็เพิ่งจะเคยทำเรื่องพรรค์นี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน สองมือสั่นเทาไม่หยุด“ร้อนจัง...”เวินเหลียงส่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา เธอยกมือขึ้นไปเช็ดตรงหน้าผาก ทว่าบนหน้าผากไม่มีเหงื่อเลยสักหยดครั้นไม่สามารถขจัดความรุ่มร้อนภายในร่างกายออกไปได้ จึงทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมากเฮ่อหมิงสั่นไปทั้งเนื้อตัว กลัวว่าจะทำให้เวินเหลียงตกใจจนสะดุ้งตื่น เขาจึงไม่กล้ากระดุกกระดิกยาออกฤทธิ์แล้วเหรอ?ที่อ่าวอะพอลโลมีตำบลเล็ก ๆ อยู่ตำบลหนึ่ง มีคนที่มาท่องเที่ยวที่นี่มากมาย ในตำบลเล็ก ๆ เองก็เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก บางทีอาจเป็นเพราะมีคู่รักมาท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ และอาจเป็นเพราะในต่างประเทศแนวคิดค่อนข้างเปิดกว้าง กระทั่งยังมีร้านขายของเล่นผู้ใหญ่ร้านหนึ่ง หลังเขากลับมาจากประภาคาร ก็ไปมาเที่ยวหนึ่ง...ขณะเวินเหลียงชักมือกลับ ดันไปแตะแขนของเฮ่อหมิงโดยไม่ได้ตั้งใจเข้า ความเย็นสายหนึ่งวาบขึ้นมาในหัวของเธอมึนงงไม่สามารถแบ่งได้อย่างชัดเจน เบลอไปหมด เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปควานหาแหล่งที่มาของความเย็น
อาการง่วงนอนของเฮ่อหมิงพลันสลายหายไปในฉับพลันคนที่ลากเวินเหลียงออกไปจากเต็นท์ไม่ใช่ถังซือซือ?!!เฮ่อหมิงหัวเสียเป็นอย่างมาก ไม่นึกเลยว่าคนอย่างเขาจะปล่อยให้คนอื่นมาลากเวินเหลียงไปจากข้างกายเขาได้!คนคนนั้นควานเข้าไปในเต็นท์ของเวินเหลียงกลางดึก คงไม่ได้มีเจตนาดีแน่ ๆ ไม่แน่ว่าอาจมีแผนแบบเดียวกับเขาก็เป็นได้!ทั้งหมดที่เขาทำ ดันเป็นการทำแทนคนอื่นตัวเองลำบากเสียเปล่าซะนั้น!หากเขารั้งเวินเหลียงเอาไว้ แล้วใส่ร้ายว่าคนคนนั้นวางยา ไม่แน่ว่าพอเวินเหลียงรู้สึกตัว อาจจะอยู่กับเขาก็ได้!พลาดโอกาสอันดี เฮ่อหมิงนึกเสียใจอย่างไร้ที่เปรียบไกด์นำเที่ยวมองไปในเต็นท์ที่ถูกเปิดเอาไว้ทีหนึ่ง ข้างในว่างเปล่าอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ “เอาโทรศัพท์ไปหรือเปล่า?”“ไม่ได้เอาไปค่ะ!”โทรศัพท์ของเวินเหลียงยังวางอยู่ในเต็นท์“ไปเข้าห้องน้ำในป่าหรือเปล่า?” ไกด์นำเที่ยวคาดเดาพวกคนขับรถเองก็ล้อมเข้ามาดูคุณลุงคนหนึ่งพูดปลอบ “อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย พวกเรารออยู่ตรงนี้สักเดี๋ยวเก่อนเถอะ ถ้าผ่านไปสิบนาทีแล้วเธอยังไม่กลับมา พวกเราค่อยไปตามหา”ในจังหวะนี้เองเฮ่อหมิงก็เดินมา แล้วเสนอความคิดของตน “โทรศัพท์ก็อยู่ตร
ที่เกรตโอเชียนโรดมีนักท่องเที่ยวมากมาย ฉะนั้นในทุกอำเภอเล็ก ๆ ระหว่างทางจึงมีศูนย์นักท่องเที่ยวอยู่ศูนย์นักท่องเที่ยวของอ่าวอะพอลโลอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ไม่นานตำรวจก็มาถึงจุดเกิดเหตุ…ในวินาทีนี้ บนเฮลิคอปเตอร์ เวินหลียงพาดอยู่บนตัวฟู่เจิงราวกับหมึกยักษ์ตัวยาว“ร้อนจัง...”เธอบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพลางล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของฟู่เจิง ลูบกล้ามเนื้อแสนแน่นของเขาไปตามอำเภอใจอืม...สบายตัวจัง...แต่มันยังไม่พอเธอฉีกเสื้อเชิ้ตของฟู่เจิงโดยไม่รู้สึกตัว กระดุมสองเม็ดบนสุดของเสื้อเชิ้ตฟู่เจิงปริออก เวินเหลียงแนบหน้าเข้าไปเลยคนที่ใจถวิลหาอยู่ในอ้อมอกของตน ร่างกายอรชรอ้อนแอ้นแสนประณีตบิดไปบิดมา ฟู่เจิงควบคุมไม่อยู่ ส่วนลึกในร่างกายมีไฟชั่วร้ายลุกโชนขึ้นมาสายหนึ่ง แทบอยากจะสำเร็จโทษเวินเหลียงเสียตรงนี้เลยทว่าเมื่อนึกถึงที่เวินเหลียงตำหนิทั้งน้ำตาเมื่อวาน เขาก็ไม่กล้าไปถึงขั้นนั้นภายในสถานการณ์ที่เธอไม่รู้สึกตัว เขากลัวว่าจะไปร้ายเธอเข้า กลัวว่าเธอจะเกลียดเขาเมื่อครู่ตอนเห็นฉากพรรค์นั้นในเต็นท์ ฟู่เจิงก็เดือดพล่านจนแทบจะระเบิดแล้ว หากไม่ใช่เพราะสติบอกเขาว่าเวินเหลียงรอไม่ได้แล้
“อืม...” เวินเหลียงหลับตาลง มือทั้งสองอดไม่ได้ที่จะโอบคอของฟู่เจิงเอาไว้ และตอบสนองเขากลับอย่างเร่าร้อนทั้งสองคนแลกของเหลวซึ่งกันและกัน ฟู่เจิงค่อย ๆ ผละออกจากริมฝีปากของเวินเหลียง ระหว่างนั้นเส้นเงินอุ่นโปร่งแสงสายหนึ่งก็ถูกชักออกมา สุดท้ายก็ขาดช่วงจากตรงกลางบนหน้าเขาแฝงไปด้วยสีหน้าของความอดกลั้น กดคิ้วจนต่ำสุด นัยน์ตาทั้งสองจ้องสีหน้าของเวินเหลียง ปรับจังหวะที่มือนัยน์ตาทั้งสองของเวินเหลียงหรี่ลงเล็กน้อย ตาปรือ สีหน้าแดงระเรื่อ ริมฝีปากที่ทั้งแดงและชุ่มชื้นเผยอออกเล็กน้อย พร้อมทั้งเปล่งเสียงครางทรงเสน่ห์ออกมาเสียงหนึ่งมืออีกข้างของฟู่เจิงรีบเอามาปิดไว้บนริมฝีปากของเวินเหลียงในทันที สกัดเสียงครางเบา ๆ ที่ยังไม่ทันได้เปล่งออกมาของเธอกลับเข้าไปคิ้วอันงดงามของเวินเหลียงขมวดเล็กน้อยเธอหลับตาลง เสียงลมหายใจรัวถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ในลำคอพลางเปล่งเสียงครางแผ่วเบาอย่างยากจะอดกลั้นเอาไว้ออกมาทันใดนั้นเธอก็แข็งทื่อไปทั้งตัว นัยน์ตาทั้งสองหลับปี๋ สีหน้าสวยเพริศแพร้วดุจบุปผา ทั้งเนื้อทั้งตัวอ่อนปวกเปียกจนทรงตัวไม่อยู่ มือทั้งสองข้างไหลลงมาจากคอของฟู่เจิงอย่างไร้เรี่ยวแรง เกือบจะล้มลงไปบน
เวินเหลียงหันหน้าไปแล้วสบตากับฟู่เจิงพอดี ทว่าไม่มีทีท่าจะหลบแต่อย่างใด “ฉันชอบเขามากจริง ๆ ทั้งยังหนุ่มทั้งหล่อดูสดใสร่าเริง เอาแต่เรียกฉันว่าพี่สาวครับ ๆ ทำเอาฉันกระชุ่มกระชวยหัวใจ ทำให้ฉันที่เดิมทีตายด้านพลันรู้สึกเด็กลง”“เพราะงั้น เมื่อคืนฉันก็เสียแรงเปล่า แถมทำเธอเสียเรื่องใช่ไหม?” ฟู่เจิงฝืนเค้นประโยคนี้ออกมาจากร่องฟัน“ก็ไม่เป็นไรหรอก เรื่องพรรค์นี้ค่อยนัดกันอีกทีวันหลังก็ได้ ฉันแค่อยากบอกคุณเฉย ๆ ว่า อย่ายัดเยียดความคิดและความชอบของคุณให้ฉัน ก็เหมือนกับที่คุณคอยตามดูฉัน คิดเองเออเองว่ามันดีกับฉัน แต่ความจริงแล้วมันกลับทำให้ฉันโคตรเบื่อสุด ๆ คุณคิดเองเออเองว่าทำไปเพื่อฉัน แต่อันที่จริงแล้วสำหรับฉันมันไม่นับว่าเป็นอะไรเลย เพราะงั้นฉันขอร้องล่ะ ต่อจากนี้อย่ามาตามฉันอีก โอเคไหม?!”เมื่อได้ยินวลีที่ว่าค่อยนัดกันอีกทีวันหลัง เลือดลมที่อกฟู่เจิงก็ปั่นป่วนอันที่จริงแล้วสำหรับเธอนั่นมันไม่นับว่าเป็นอะไรเลย?!เพื่อทำให้เขาไม่ตามเธออีก เธอถึงขั้นใช้คำว่า ‘ขอร้อง’?ฟู่เจิงขบกรามแน่น พูดไปชะงักไป “เวินเหลียง! เมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นแบบนี้นี่! ฉันไม่ควรปล่อยให้เธอออกมาเที่ยวกับถังซือซ
เวินเหลียงและถังซือซือโทรคุยกันถังซือซือเล่าว่า ที่เต็นท์มีรอยนิ้วมือของเฮ่อหมิง ไกด์นำเที่ยวและนักท่องเที่ยวคนอื่นชี้ว่าเฮ่อหมิงมีโอกาสแตะต้องแก้วของเวินเหลียง จางชวนเองก็บอกเล่าว่ายานอนหลับของตัวเองหายไปเม็ดหนึ่ง มิหนำซ้ำยังมีการรับรองของเจ้าของร้านขายของเล่นผู้ใหญ่ในตำบล เฮ่อหมิงถูกจับกุมเรียบร้อยแล้วเพียงแต่น่าเสียดายที่ วันที่สองของการท่องเที่ยวในเกรตโอเชียนสองวันเสียเปล่าไปเลย พวกเขาไม่ได้ออกเดินทางจากอ่าวอะพอลโล ไม่ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ ไม่ได้ดูจิงโจ้ น่าเสียดายเป็นอย่างมากมีเพียงนักท่องเที่ยวสองสามคนที่ยังมีเวลาเหลือเฟือ สามารถไปทัวร์กับไกด์นำเที่ยวครั้งต่อไปได้ฟรีส่วนคนที่มาร่วมในครั้งถัดไปไม่ได้ ไกด์นำเที่ยวก็คืนค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง นี่ถือเป็นการปลอบใจเพียงอย่างเดียวถังซือซือถามความเห็นของเวินเหลียง เวินเหลียงถามขึ้นว่า “ทัวร์ครั้งหน้าคือเมื่อไร?”“อีกสามวัน”“งั้นพวกเราเข้าร่วมทัวร์ครั้งหน้ากันไหม”“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันไปบอกกับไกด์นำเที่ยวนะ”ภายในระยะเวลาสามวันนี้ เวิเนหลียงและถังซือซือได้ไปที่เคนส์กันมาเที่ยวหนึ่ง นั่งเรือไปเกรตแบร์ริเออร์รีฟ สัมผัสประสบการณ์น