ฉู่ซืออี๋โผเข้าไปในอ้อมอกของฟู่เจิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ พลางคว้าปกเสื้อของฟู่เจิงเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ปากก็สะอึกสะอื้นไปด้วย “อาเจิง ฉันคิดว่าคุณจะไม่ต้องการฉันแล้วซะอีก! ทำไมคุณถึงเพิ่งมาล่ะ...”ฟู่เจิงชะงักไปครู่หนึ่ง ในตอนนี้ถึงได้ค่อย ๆ ยื่นมือออกไปวางบนหลังของฉู่ซืออี๋ แล้วปลอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่ต้องกลัวนะ ไม่เป็นไรแล้ว...”ฉู่ซืออี๋นอนอิงร้องไห้จนควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่ในอ้อมอกของฟู่เจิงชายมากความสามารถกับสาวงาม กอดกันร้องไห้ ช่างเป็นฉากของคู่สามีภรรยาจริง ๆ...เวินเหลียงยืนห่างออกไปไม่ไกล มองพวกเขาทั้งสองคนด้วยใบหน้าไร้อารมณ์เสียใจเหรอ? เหมือนจะไม่ได้เสียใจขนาดนั้นก่อนหน้าที่เธอจะมาโรงพยาบาล ก็จินตนาการถึงภาพนี้เอาไว้แล้วเธอคิดว่าตัวเองจะเจ็บปวดใจและเดือดดาลแต่ตอนนี้พอได้มาเห็นเข้าจริง ๆ แล้ว ในใจกลับสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“แผลของคุณยังมีเลือดไหลอยู่ ให้หมอทำแผลก่อนนะ”ฟู่เจิงกุมข้อมือที่ได้รับบาดเจ็บของฉู่ซืออี๋เอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าส่งสัญญาณให้หมอเข้ามาใครจะรู้ได้ว่าหมอเพิ่งก้าวเข้ามาเพียงก้าวเดียว ฉู่ซืออี๋ก็หลบไปขดตัวอยู่หลังฟ
“ฉันคิดว่าประโยคนี้ คุณควรเก็บไว้พูดกับคุณฉู่ถึงจะถูก ต่อให้รักลึกซึ้งแค่ไหน ก็จะเอามาเป็นเหตุผลในการเข้าไปแทรกชีวิตคู่ของคนอื่นไม่ได้ เช้าวันนี้ซือซือคิดว่าในข่าวเป็นเรื่องจริง เธอพูดกับฉันว่า ‘ฉันไม่เป็นเพื่อนกับชู้’ ดูท่าแล้วที่โบราณว่าไว้คงจะจริง คนเลวก็คบกับคนเลว คนดีก็คบกับคนดี!”สีหน้าของหวังเหยียนแข็งทื่อ กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าเบื้องหลังมีเสียงฝีเท้าแว่วดังขึ้นมาฟู่เจิงออกมาจากห้องพักผู้ป่วย เขามาหยุดเบื้องหลังเวินเหลียง “ไปกันเถอะ”“พันแผลเสร็จแล้วเหรอ?” เวินเหลียงหมุนตัวกลับไป“อืม”จากนั้นก็มีเสียงกรีดร้องเสียงแหลมของฉู่ซืออี๋แว่วดังมาจากในห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง ราวกับตื่นตระหนกตกใจ“ประธานฟู่ คุณไม่อยู่เป็นเพื่อนซืออี๋อีกหน่อยเหรอคะ? เธอ...” หวังเหยียนยังอยากพูดอะไรต่ออีกหน่อย ทว่าสัมผัสได้ถึงสายตาอันเย็นชาของฟู่เจิง เธอจึงรีบเงียบไปเวินเหลียงมองฟู่เจิงทีหนึ่งฟู่เจิงกุมมือน้อย ๆ ของเธอเอาไว้ แล้วลงไปชั้นล่างพร้อมกับเธอเมื่อเห็นพวกเขา คนขับรถก็รีบบี้ก้นบุหรี่ แล้วเปิดประตูรถ “คุณผู้ชาย กลับบริษัทเหรอครับ?”“อืม”รถยนต์แล่นออกไปจากประตูใหญ่ของโรงพยาบาล วิ่
เป็นไปตามคาด ไม่นานภาพที่เวินเหลียงและฟู่เจิงถูกนักข่าวดักรอ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่โผล่หน้าออกมาก็ถูกอัพลงโซเชียลแต่ในสายตาของเหล่าเพื่อนชาวเน็ต การโต้กลับคือการแถ การหลีกเลี่ยงคือรู้สึกผิดคอมเมนต์ในเชิงลบเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆถังซือซืออดไม่ได้ที่จะโพสต์วิดีโอนี้ลงไป พร้อมกับเขียนแคปชันว่า รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ได้ทำผิด ภูตผีปีศาจอะไรก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้ตั้งแต่เกิดเรื่องแต่งหน้านั่นขึ้น เธอก็พูดแทนเวินเหลียงมาตลอด เหล่าเพื่อนในเน็ตรู้ว่าเธอคือเพื่อนของเวินเหลียง ตามมาหาในเฟซบุ๊ก แล้วพาลด่าถังซือซือไปด้วยถังซือซือเองก็ไม่กลัว ทะเลาะกับเพื่อนชาวเน็ตใต้คอมเมนต์เฟซบุ๊กของตัวเอง…ตอนบ่ายมีประชุมด่วน เวินเหลียงออกมาจากห้องประชุม แล้วเดินถือเอกสารเข้าไปยังห้องทำงานประธานกรรมการ“ผู้อำนวยการเวิน” เลขาหยางที่อยู่ตรงพื้นที่สำนักงานเข้ามารับหน้า “คุณมาหาประธานฟู่เหรอคะ?”“มีเอกสารต้องให้เขาเซ็นน่ะ”“ตอนนี้ประธานฟู่ไม่ได้อยู่ที่บริษัท ถ้าไม่รีบละก็ คุณเอาเอกสารมาให้ฉันก่อนก็ได้นะคะ รอเขากลับมาแล้วฉันค่อยส่งต่อให้เขาเอง”เวินเหลียงมองนาฬิกาข้อมือ เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว“ได้ค่ะ” เวินเหลียงส่
บางครั้งโลกของคนรวยก็ใช่ว่ากฎหมายจะควบคุมได้ เส้นสายอยู่ตรงนั้น ขอแค่ฟู่เจิงส่งสัญญาณเงียบ ๆ ก็มีคนมาช่วยเขาออกหน้าแล้ว เหตุผลที่ถูกสั่งพักงานก็สมเหตุสมควรเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางสาวมาถึงตัวฟู่เจิงพนักงานสองสามคนที่อยู่รอบ ๆ มองหน้ากันทีหนึ่งคนตัวสูงยิ้มพลางไกล่เกลี่ย “เหล่าหลิวนายเลิกคิดมากได้แล้ว มันเกี่ยวอะไรกับเราล่ะ? เราหาเงินได้ก็พอแล้ว!”ในจังหวะนี้เอง เสียงออดประตูด้านนอกก็ดังขึ้น“ฉันไปเปิดเอง”เหล่าหลิววางตะเกียบแล้วลุกขึ้น เมื่อเปิดประตูออกไป ยังไม่ทันมองให้ชัดว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นใคร ก็ถูกถีบเข้าที่ท้องอย่างแรงทีหนึ่งแล้วเขาไม่ทันได้ระวังตัว จึงถูกถีบจนหงายเงิบ พลางเอามือปิดท้องพร้อมทั้งหายใจหอบเหนื่อยมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก ตัดผมทรงผมสกินเฮด มองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นพวกนักเลงเขาเดินขึ้นหน้ามาสองสามก้าว ชำเลืองมองปกเสื้อของเหล่าหลิว จากนั้นก็หิ้วตัวเขาขึ้นมา “ลุกขึ้นมา!”เหล่าหลิวทั้งตกใจทั้งกลัวและทั้งเจ็บ “แกจะทำอะไร...พวกแกทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ!”ชายหนุ่มฟังแต่เหมือนไม่ได้ฟัง หิ้วคอเสื้อของเหล่าหลิวขึ้นมา พลางบีบคอเขา แล้วเหวี่ยงไปกระแท
คนตัวสูงขยับปาก พูดไม่ออกเมื่อครู่เหล่าหลิวยังพูดอยู่เลยว่า กลัวจะถูกหาเรื่อง ไม่นึกเลยว่าจะถูกคนตามมาซ้อมถึงที่เร็วขนาดนี้พวกเขาไม่ตอบ ฟู่เจิงเองก็ไม่ซักไซ้ในเรื่องนี้แล้ว เขาถามขึ้นว่า “ซุบซิบเรื่องรัก แปดกลุ่มห่านขยี้ข่าว ข่าวลับวงการบันเทิง สามบัญชีนี่ เป็นของออฟฟิศพวกนายใช่ไหม?”ภายในห้องเงียบสงัดคนตัวสูงฟังการเต้นของหัวใจตัวเอง พลางก้มหน้าอย่าเห็นว่าเมื่อครู่เขาดูกร่างมาก ตอนนี้เมื่อรู้ว่าฟู่เจิงจะแก้แค้นพวกเขา ไม่ว่าใครก็ไม่ยอมก้าวออกมารับหน้าทั้งนั้นเมื่อชายหนุ่มเห็นแบบนี้ ก็กระทืบไปที่ขาที่ได้รับบาดเจ็บของพนักงานที่อยู่ใต้เท้าทีหนึ่ง เสียงกรีดร้องแว่วดังขึ้นมา ขอบตาของพนักงานเริ่มแดงขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เหงื่อออกเต็มศีรษะชายหนุ่มมองทุกคนทีหนึ่ง “ถามพวกแกอยู่นะ!”พนักงานที่อยู่ใต้เท้าเอ่ยขึ้นพลางหอบ “เป็นบัญชีของออฟฟิศเรา แต่ฉันไม่ใช่คนรับผิดชอบ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน!”ฟู่เจิงมองเขาทีหนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่พวกคนตัวสูง “ใครเป็นคนรับผิดชอบ? ใครใช้ให้พวกนายเปิดโปง?”คนตัวสูงกลืนน้ำลายอึก ๆ สองขาอ่อนปวกเปียก ถอยหลังก้าวหนึ่งอย่างเงียบ ๆพนักงานอีกสองคนก็
ถ้าวันนี้อีกฝ่ายทำอะไรพวกเขาขึ้นมาจริง ๆ แม้แต่เรี่ยวแรงสู้กลับพวกเขายังไม่มีเลยสองสามคนที่มาเยือนนี้มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นพวกนักเลง ไม่กลัวต้องติดคุก บวกกับมีฟู่เจิงอยู่ ถึงจะแจ้งตำรวจ ก็ไม่แน่ว่าจะทำอะไรพวกเขาได้กลับกันถ้าเป็นตัวเขา หากพวกเขาปักใจแค้น ครึ่งชีวิตที่เหลือของเขาไม่มีทางสลัดพวกเขาหลุดแน่ ๆ อย่าได้คิดจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขฟู่เจิงเงยหน้ามองเหล่าหลิวที่อยู่ตรงหน้าเหล่าหลิวสั่นเทาไปทั้งตัว รีบขอร้องอ้อนวอน “คุณฟู่ ผมสำนึกผิดแล้ว! ปล่อยผมไปเถอะ! เงินผมก็ไม่เอาแล้ว โพสต์เปิดโปงผมจะลบออกเดี๋ยวนี้! ให้ผมขอโทษคุณกับคุณเวินก็ได้ ขอแค่คุณไม่ทำให้ผมลำบากอีก ให้ผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”“นี่คงไม่ใช่การร่วมงานครั้งแรกของนายกับเฉินเกินเป่าใช่ไหม?”สีหน้าของเหล่าหลิวซีดขาวกว่ากระดาษเสียอีก ขาทั้งสองเอาแต่สั่นอยู่ตลอดเวลา สารภาพพร้อมทั้งเนื้อตัวที่สั่นเทา “ไม่ใช่...”ฟู่เจิงไม่พูดอะไร เพียงมองเขาอย่างสงบเหล่าหลิวสารภาพออกมาทั้งหมด “ตอนเดือนสิงหาคมเฉินเกินเป่ามาหาผมครั้งหนึ่ง เอารูปมาให้ผมสองสามรูป”เขาชำเลืองมองสีหน้าของฟู่เจิงอย่างงก ๆ เงิ่น ๆ แล้วพูดต่อว่า “เป็นภาพที่คุ
เวินเหลียงนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน กระทั่งวันต่อมายังตื่นสายด้วยป้าหวังยังไม่ทันได้บอกเรื่องที่ฟู่เจิงกลับบ้านมาตั้งแต่เมื่อคืน เวินเหลียงก็รีบร้อนไปทำงานแล้วระหว่างทางไปบริษัท เวินเหลียงได้รับคำแนะนำจากเฟซบุ๊กคำแนะนำหนึ่งแฮชแท็กคือ #ซุบซิบเรื่องรักลบโพสต์พร้อมขอโทษแฮชแท็กติดคำค้นหาร้อนแรงไปแล้วกดเข้าไปก็เห็นคำแถลงขอโทษของบัญชีเฟซบุ๊กซุบซิบเรื่องรัก พร้อมทั้งลบทุกโพสต์ในเฟซบุ๊กทิ้ง แล้วปิดช่องคอมเมนต์และจำกัดสิทธิ์การแชร์ ตั้งค่าบัญชีเป็นสามารถมองเห็นหน้าบัญชีได้ถึงแค่หกเดือนก่อนหน้าเมื่อวานซุบซิบเรื่องรักยังประกาศเชิงข่มขู่ว่าจะไม่ลบโพสต์เป็นอันขาดอยู่เลย วันนี้ดันกลับคำไปง่าย ๆ เสียอย่างนั้น ไม่ว่าใครก็มองเรื่องลับลมคมในที่อยู่ในนั้นออก ไม่ใช่การข่มขู่แต่เป็นการแฮกบัญชี กลับกันดันยิ่งทำให้เพื่อนชาวเน็ตรู้สึกไปอีกอย่างแม้จะลบโพสต์ทิ้งไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย คนที่ชอบสอดเรื่องชาวบ้านเซฟรูปหน้าจอพร้อมทั้งอัดคลิปหน้าจอในเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องของซุบซิบเรื่องรักเอาไว้ตั้งนานแล้ว คนเหล่านั้นก็เอาไปสร้างโพสต์ใหม่ ดึงดูดเพื่อนชาวเน็ตให้แชร์และเข้ามาคอมเมนต์ไม่น้อย กระทั่งมีคนใช้บัญ
เมื่อทีมงานคนนั้นเห็นว่าโจวอวี่ซ้อมเขาไม่ได้ ก็ยิ่งพอใจ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างกำเริบเสิบสาน “ใครไม่รู้บ้างว่าประธานฟู่กับคุณฉู่เป็นคนรักกัน? เวินเหลียงหนังหน้าหนา ยังกลัวคนอื่นว่าอีกเหรอ?!”ทันใดนั้นเส้นเลือดบนหน้าผากของโจวอวี่ก็กระตุก สองสามคนที่ลากรั้งเขาเอาไว้พุ่งตัวไปข้างหน้า ลากรั้งยังไงก็รั้งไม่ไปสุดท้ายผู้กำกับเฉินมา การทะเลาะกันฉากนี้ถึงได้ยุติลงผู้กำกับเฉินเรียกพวกเขาเข้าไปในห้องพักเพียงลำพัง ถามต้นสายปลายเหตุให้แจ่มชัดเกี่ยวกับข่าวในโซเชียล ผู้กำกับเฉินเองก็เห็นมาเช่นกัน ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ แต่คราวก่อนตอนที่ไปทานข้าวด้วยกันก็มองออกอย่างชัดเจนว่า โจวอวี่มีใจให้เวินเหลียงเมื่อรู้ว่าทีมงานวิพากษ์วิจารณ์เวินเหลียงลับหลัง เขาจึงให้ทีมงานไปขอโทษโจวอวี่ก่อนอย่าเห็นว่าทีมงานนั่นเมื่อครู่ยังทำตัวกำเริบเสิบสานอยู่เลย ทว่าตอนนี้เย็นลงแล้ว เข้าใจว่ามันไม่ใช่เวลาจะมาอวดเบ่ง หากถูกแฟนคลับของโจวอวี่รู้เข้า ถล่มเมนต์กันคนละเมนต์อาจทำให้เขาจมแผ่นดินได้ ไม่แน่ว่ายังต้องเสียงานอีก ถึงยังไงเมื่อเทียบกันระหว่างเขากับโจวอวี่ ใช้หัวเข่าคิดยังรู้ว่าโจวอวี่สำคัญกว่าหลังทีมงานขอโทษเสร็จ ผู้ก
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง