Beranda / รักโบราณ / สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง / ตอนที่ 5||พิธีสมรสหน้าป้ายวิญญาณ

Share

ตอนที่ 5||พิธีสมรสหน้าป้ายวิญญาณ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-09 15:46:49

ตอนที่ 5||พิธีสมรสหน้าป้ายวิญญาณ

เวลาเจ็ดวันผ่านไปรวดเร็วยิ่งและแล้วฤกษ์มงคลก็มาถึงในวันนี้อากาศแจ่มใสท้องฟ้ากระจ่างแสงแดดอ่อนต้นยามเฉินสาดส่องลงมายังพื้นปฐพี ทุกชีวิตในหมู่บ้านถงหลัวต่างมารวมตัวกันที่เรือนสกุลหลินเพื่อเป็นสักขีพยานให้กับคู่บ่าวสาวในงานสมรสวันนี้

ตามธรรมเนียมของชาวต้าฉู่แล้ว หญิงสาวผู้เป็นเจ้าสาวต้องสวมชุดแต่งงานสีแดงเข้ม ปักลวดลายนกยวนยางอันเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองหากเป็นคู่แต่งงานเป็นชาวบ้านทั่วไป ส่วนเจ้าสาวที่เป็นเชื้อพระวงศ์ลวดลายที่ปักจะเป็นสงห์ ดังนั้นชุดที่หลินหลีฮวาสวมจะมิได้หรูหราดังเช่นของคุณหนูสูงศักดิ์ แต่ผ้าเนื้อดีสีแดงสดนี้ก็เป็นผ้าไหมที่ซ่งไป๋เซียวจัดหามาให้ ลวดลายที่ปักยังเป็นช่างมากฝีมืออันหนึ่งในหยางโจวอีกด้วย เวลาเพียงสิบเอ็ดวันก็เสร็จเรียบร้อย หากไม่มีเงินยากนักที่จะทำได้เช่นนี้

ทำเอาสตรีภายในหมู่บ้านถงหลัวล้วนตื่นตาตื่นใจและมีหลายคนรู้สึกริษยาเจ้าสาวขึ้นมา แต่ก็เพียงส่วนน้อย คนส่วนใหญ่ก็ล้วนยินดีไปกับอาหลี เด็กน้อยชะตาอาภัพกันทั้งสิ้น ชุดแต่งงานว่างดงามแล้วแต่ด้วยกิริยาสงบนิ่งเกินอายุของหลินหลีฮวากลับทำให้นางงามสง่าไม่แพ้สตรีชั้นสูง และที่เป็นดังนั้นก็เพราะถึงร่างนี้จะเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบสามปี แถมอาหลีคนเก่าไม่เคยไปไหนไกลจากหมู่บ้านถงหลัว แต่ดวงวิญญาณแท้จริงของนางคือท่านหญิง กิริยามารยาทถูกฝึกฝนมาตั้งแต่จำความได้ดังนั้นเจ้าสาวตัวน้อยจะมีกิริยาราวกับสตรีชั้นสูงผิดหูผิดตาย่อมไม่แปลก

ผ้าคลุมหน้าเป็นแพรบางสีแดงปักลวดลายวิจิตรถูกหย่อนลงมาคลุมศีรษะของผู้เป็นเจ้าสาวหลังจากท่านผู้เฒ่าฝ่ายหญิงมาหวีผมให้เจ้าสาวเสร็จสิ้น ผ้าผืนงามปกปิดใบหน้าของเจ้าสาวให้เหลือเพียงโครงร่างที่งดงามแม้นางจะยังเป็นเด็กสาวยังไม่เจริญวัยเต็มที่แต่กลับงดงามราวกับเทพธิดาตัวน้อยๆ

หลินหลีฮวาถูกสตรีอาวุโสบอกให้นั่งนิ่งรอฤกษ์อย่างสงบเสงี่ยมในห้องนอนของนางเอง เนื่องจากพิธีวันนี้ซ่งไป๋เซียวเลือกที่จะใช้เรือนเล็กแห่งนี้ประกอบพิธีแทนที่จะจัดในจวนของหัวหน้าหมู่บ้านเพราะเขาบอกว่าอยากจัดงานในสถานที่ของครอบครัวสกุลหลิน ได้เคารพป้ายวิญญาณของทุกคน เพื่อที่อาหลีจะได้รู้สึกว่าตนเองมีญาติผู้ใหญ่ของตนเป็นสักขีพยานอย่างแท้จริง

ด้านนอก เรือนถูกประดับด้วยโคมแดงดวงเล็ก ๆ แม้จะไม่หรูหราโอ่อ่าเช่นงานแต่งของตระกูลใหญ่ แต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น ชาวบ้านมาช่วยกันเตรียมงานอย่างเต็มใจ หลายคนยิ้มยินดี หลายคนซุบซิบถึงบุรุษเจ้าบ่าวผู้นั้นท่านหมอซ่ง ผู้เคร่งขรึมและเย็นชา แต่เขากลับหล่อเหลาและดูร่ำรวยมากล้นทั้งที่อายุไม่มาก ช่างเป็นวาสนาของอาหลีจริงๆ

ไม่นานนัก เสียงกล่าวนำพิธีของผู้เฒ่าในหมู่บ้านก็ดังขึ้น

"ถึงยามมงคลแล้ว! เจ้าบ่าวเชิญเจ้าสาวออกมา!"

ภายใต้แสงแดดแผดจ้า ซ่งไป๋เซียวสวมอาภรณ์สีแดงเข้มเข้ากับพิธี ยืนตัวตรงสง่างาม แม้ใบหน้ายังคงเรียบเฉยตามนิสัย แต่ดวงตากลับฉายแววแน่วแน่

หลินหลีฮวาถูกประคองออกมาโดยเหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ นางก้าวเดินอย่างสงบ แม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายแน่นอนว่ายังเป็นความคิดที่สับสนค่อนข้างกังวลตามประสาของสตรีที่กำลังจะเปลี่ยนสถานะ เมื่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเผชิญหน้ากัน ทั้งสองต่างมองกันผ่านผ้าคลุมหน้า ซ่งไป๋เซียวยังคงแน่วแน่หากแต่หลินหลีฮวานั้นยังมีหวั่นไหวและไม่แน่ใจว่าตนเองตัดสินใจถูกหรือผิด อายุของนางก็เพียงสิบห้าในยามตายลงจากชาติเก่า ไม่แปลกที่จะลังเลและสับสนกับการเลือกหนทางชีวิตของตนเองในคราวนี้

"คำนับฟ้าดิน!"

แต่จะอย่างไรก็ตามตามพอจ้าวพิธีกล่าวนำพิธีการทั้งคู่ก็ก้มลงทำความเคารพฟ้าดิน อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการขอพรให้ชีวิตคู่ราบรื่น

"คำนับบรรพบุรุษ!"

พวกเขาหันไปทางโต๊ะบูชาที่มีธูปเทียนปักอยู่ เคารพบรรพบุรุษของฝ่ายหญิง แม้เรือนสกุลหลินจะไม่มีผู้ใดเหลืออยู่นอกจากหลินหลีฮวา แต่ป้ายวิญญาณของพี่ชายและคนในครอบครัวของนางก็ถูกวางไว้ครบถ้วน ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเป็นสักขีพยานในงานสำคัญของน้องและบุตรหลานสาวที่เหลือเพียงผู้เดียว

"สามีภรรยาคำนับกันและกัน!"

ซ่งไป๋เซียวก้มศีรษะลงอย่างสง่างาม หลินหลีฮวาก็ทำตาม ก่อนที่เสียงเฮจากเหล่าชาวบ้านจะดังขึ้น เรียบง่ายแต่ดูเข้มขลัง

"พิธีเสร็จสิ้น! ส่งคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอได้แล้ว!"

ตามธรรมเนียมของชาวต้าฉู่แล้วหลังจบพิธีคำนับฟ้าดินจะส่งบ่าวสาวเข้าห้องหอ เพื่อจะทำพิธีกรรมต่อเช่นผูกผมลงตามในหนังสือสมรสกับกินข้าวที่เป็นอาหารมงคลและขนมบัวลอย ระหว่างที่เดินไปส่งทั้งคู่เสียงเอ่ยแซวและเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากเหล่าชาวบ้านที่มาร่วมงานอย่างมีความสุข หลินหลีฮวาที่ยังคงสับสนและอยู่ในอารมณ์ไม่มั่นคงไม่ได้รู้สึกเขินอายดังเจ้าสาวคนอื่น นางเพียงหลุบตาลงต่ำมองแค่ปลายเท้าตนเอง ขณะที่ซ่งไป๋เซียวเพียงพยักหน้ารับคำ อวยพรก่อนจะประคองหลินหลีฮวากลับเข้าไปในห้องหอตามสตรีสูงวัยที่จะเข้าไปปูเตียงและกล่าวนำพิธีต่อภายในห้องหอทุกขั้นตอนผ่านไปด้วยดี

พอถึงยามโพล้เพล้ก็เป็นงานเลี้ยง เจ้าบ่าวถูกพามาร่วมดื่มกินกับแขกจนถึงค่ำคืนบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง แม้ซ่งไป๋เซียวจะเป็นคนแปลกหน้าแต่หลังผ่านพิธีแต่งงานชาวบ้านถงหลัวก็นับเขาเป็นลูกหลานของหมู่บ้านนี้ไปแล้ว จากเรือนเล็ก ๆ ของหลินหลีฮวาที่เคยมีเพียงสาวน้อยและอาจ้านแมวสีดำตัวอ้วนกลม บัดนี้กลับครึกครื้นด้วยผู้เฒ่าผู้แก่และชาวบ้านที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสมรสที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย

ฝ่ายเจ้าสาวเช่นหลินหลีฮวาหลังจบพิธีต่างๆ นางก็ถูกป้าจางกับป้าหลี่อบรมถึงการเป็นภรรยาที่ดี จนค่ำ ทุกคนจึงปล่อยให้เจ้าสาวได้พักผ่อนรอผู้เป็นเจ้าบ่าว หลินหลีฮวาเลยถือโอกาสดังกล่าวอาบน้ำเสียเลย หลังจากนั้นนางจึงเข้ามาตรวจดูข้าวของว่าตนเองยังต้องเก็บอันใดอีกหรือไม่เนื่องจากพรุ่งนี้ช่วงบ่ายซ่งไป๋เซียวจะพานางกลับเหยียนจิ่งแล้ว

พอตกดึกเวลาสมควรแล้วชาวบ้านจึงส่งเจ้าบ่าวเข้าห้องหอตามธรรมเนี่ยมซ่งไป๋เซียวก้าวเข้ามาภายในห้องหอ ที่ยังคงสว่างไสวไปด้วยแสงเทียนมงคล ห้องหอของเขานั้นเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน มีเตียงไม้ที่ถูกเปลี่ยนเป็นหลังใหม่ให้ใหญ่กว่าของเก่าที่แต่เดิมหลินหลีฮวาใช้นอนลำพังปูด้วยผ้าห่มสีแดงสดตามธรรมเนียม

หลินหลีฮวาไม่ได้รวมสุดเจ้าสาวและนั่งอยู่ริมเตียงเช่นเจ้าสาวคนอื่น นางเปลี่ยนมาสวมชุดนอนเรียบร้อย กำลังจัดการจัดเรียงตำราเกี่ยวกับสมุนไพรที่นางซื้อหาลงหีบเงียบๆ ไม่มีการเปิดผ้าคลุมหน้า และไม่มีท่าทางเอียงอายของเจ้าสาว

"ท่านมาแล้ว"

หลังจากเสียงประตูห้องหอปิดลงหลินหลีฮวาก็เหลียวหน้ามามองก่อนจะเอ่ยปากทักทาย และตามมาด้วยรอยยิ้มจริงใจ

"เก็บของหรือ"

"เจ้าค่ะ"

"ข้ากำชับให้หัวหน้าหมู่บ้านคอยส่งคนมาดูแลเรือนหลังนี้เจ้าไม่ต้องกังวลนะ"

ชายหนุ่มก้าวไปทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ริมหน้าต่างอุ้มอาจ้านที่กำลังนอนสบายอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมาวางบนตักของตนเอง ทอดสายตามองไปที่เด็กสาวที่กำลังจัดข้าวของส่วนตัวของนางลงหีบใบขนาดย่อมที่เขาให้คนเตรียมมาให้

"จริงสิ จนแต่งงานกันแล้วข้ายังไม่เคยทราบเลยว่าท่านบ้านของท่านเขายินดีจะต้อนรับสะใภ้เช่นข้าหรือไม่"

ซ่งไป๋เซียวฟังแล้วก็ยิ้มอ่อนออกมาเด็กคนนี้ผ่านมาจนถึงวันนี้เพิ่งจะนึกออกหรือไร คำถามเช่นนี้สมควรถามเขาก่อนที่จะรับปากแต่งงาน

"ท่านต้องเข้าใจนะ ข้าก็แค่เด็กสาวอายุสิบสามเท่านั้นแถมขณะนั้นข้าก็กำลังสับสนและเสียใจกับการจากไปตลอดกาลของพี่ใหญ่ ใครจะนึกอะไรได้ทัน "

"อย่างกังวลไปเลย ข้าเป็นลูกคนรองที่เกิดจากอี๋เหนียงซึ่งหนีตามชายชู้ไป บิดาของข้าถึงจะเป็นเสนาบดีกรมคลังแต่เขาชิงชังข้า รับรองสะใภ้เช่นเจ้าเขาย่อมไม่อยากพบหน้า"

อา...

"ฟังแล้วอาหลีสบายใจขึ้นมากจริงๆ"

แน่นอนว่านางไม่ได้สบายใจ แต่นางพูดประชด!

"ข้าอยากไปดื่มสุรากับอาลู่ เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่"

จู่ๆ ซ่งไป๋เซียวก็เปลี่ยนเรื่อง มือเรียวของหลินหลีฮวาชะงัก แต่คิดไปคิดมาได้ดื่มสุราช่วงเวลานี้ก็ดีเช่นกัน นางเองก็กำลังสับสนเพราะหวาดกลัวกับอนาคต ไม่แน่ใจแล้วว่าที่เลือกจะแต่งงานกับท่านหมอซ่งแล้วย้ายตามเขาไปเหยียนจิ่งนี้ตนเองเลือกเส้นทางชีวิตถูกแล้วจริงๆ

"ไป!"

เช่นนั้นแล้วท่ามกลางแสงจันทร์คืนเพ็ญเก้าค่ำหนึ่งเงาร่างสูงใหญ่กับหนึ่งเงาร่างเล็ก จึงเคียงข้างกันไปบนหลังอาชาตัวใหญ่มุ่งหน้าไปยังสุสานสกุลหลิน พร้อมกับสุราอย่างดีสองไห

"อาลู่ คืนนี้ข้ามาดื่มสุรากับเจ้า"

หลังยืนอยู่หน้าหลุมศพของหลินลู่เฟย ซ่งไป๋เซียวก็จัดแจงเทสุราลงชาม วางลงบนหน้าหลุมศพ จากนั้นเขาก็ทรุดลงนั่งยกสุราของตนเองดื่ม

"พี่ใหญ่ ท่านย่า ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านแม่ อาหลีมาลา พรุ่งนี้อาหลีจะไปเมืองหลวงแล้ว ไม่รู้เมื่อใดจะได้กลับมา"

หลินหลีฮวาเองก็จัดแจงเทสุราใส่ถ้วยแล้วนำไปวางหน้าหลุมศพของทุกคน แต่มีหนึ่งถ้วยที่เกินมาซ่งไป๋เซียวจึงสงสัย

"ถ้วยนั้นของผู้ใด"

"ของสหายเก่าของข้า"

เจ้าของร่างนี้ก็นับเป็นสหายเก่าก็แล้วกัน อย่างน้อยนางก็อาศัยร่างและนามของอาหลีคนเก่า ต่อไปนางจะจากไปแล้ว ชะตาชีวิตนางไม่ทราบอนาคต จึงอยากอำลาทุกดวงวิญญาณ

"ข้าจะพยายามหาเวลาเจ้ามากราบไหว้พวกเขาทุกปี"

ไม่ใช่คำสัญญาณ แต่มันคือเป้าหมายของเขาซ่งไป๋เซียวคิดเช่นนั้น นับจากวันที่หลินลู่เฟยเสียสละชีวิตปกป้องและตายแทนเขา ซ่งไป๋เซียวนั้นก็ปฏิญาณกับตนเองเอาไว้แล้วว่าชีวิตที่เหลือจะใช้มันปกป้องท่านย่าและน้องสาวแทนหลินลู่เฟย บัดนี้เหลือเพียงหลินหลีฮวาเขายิ่งต้องมีชีวิตเพื่อดูแลนางปกป้องนาง และหวังดีต่อนางให้เท่ากับพี่ชายของนางหรือมากกว่า

"อาหลี"

"เจ้าค่ะ"

"หากวันหน้า เจ้าพบบุรุษที่รัก เจ้าบอกกับข้าได้นะ ข้ายินดีสนับสนุนเจ้า"

"หมายถึงท่านยินดีจะหย่าให้ข้า?"

"ใช่ ขอเพียงบุรุษผู้นั้นเป็นคนดีและรักเจ้า ไม่รังเกียจที่เจ้าเคยแต่งงานมาแล้ว ข้ายินดี"

"..."

รู้สึกแปลกอยู่บ้าง ค่ำคืนแต่งงานนอกจากไม่ได้เข้าหอเช่นสามีภรรยาคู่อื่นแต่มาดื่มสุราที่หน้าหลุมศพแล้ว สามีของนางยังบอกจะหย่าให้ แปลกดียิ่ง!

แต่จะอย่างไรในใจของทั้งต่างก็ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรักและความเห็นของผู้ใหญ่ หากวันหน้าเกิดมีอันใดเปลี่ยนแปลงก็ถือว่ามันเป็นชะตาชีวิต ในที่สุดหลินหลีฮวาก็คิดตก เลิกสับสน เลิกกังวล ชีวิตคนเรามันก็เท่านี้ อดีตผ่านมาแล้วแก้ไขไม่ได้ ส่วนพรุ่งนี้มันก็ยังมาไม่ถึง นางจะคิดมากไปไย ชีวิตของคนเรามีแค่วันนี้ หากวันนี้นางทำเต็มที่แล้ว พรุ่งนี้ก็ให้มันเป็นเรื่องของพรุ่งนี้ก็แล้วกัน...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 6 || เดินทางกลับเมืองหลวง

    ตอนที่ 6 || เดินทางกลับเมืองหลวงสรุปแล้วคืนนั้นก็จบลงที่ต่างเมาแล้วเผลอหลับกันที่สุสานกันทั้งคู่ พอรุ่งเช้าซ่งไป๋เซียวนั้นร่างกายแข็งแรงย่อมไม่มีผลอันใด ทว่าเด็กสาวเช่นหลินหลีฮวาต่างออกไปเพราะแต่เดิมร่างนี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว ตากน้ำค้างทั้งคืน พอถึงยามเช้าเลยป่วยมีไข้เสียแล้ว เป็นอันว่ากำหนดเดินทางกลับเมืองหลวงจึงต้องเลื่อนออกไปอีกสามวันพอรุ่งอรุณของวันที่สี่หลังพิธีแต่งงานมาเยือน หมอกบางลอยเรี่ยอยู่เหนือแนวป่า เสียงนกร้องแว่วมาแต่ไกล สายลมเย็นพัดผ่านเรือนเล็กของอาหลีที่บัดนี้ไม่มีความเงียบสงัดดังเคยเพราะวันนี้มีรถม้ากับคนของซ่งไป๋เซียวร่วมเจ็ดสิบชีวิตมารวมตัวกันและใช่วันนี้เป็นวันที่ซ่งไป๋เซียวจะพาหลินหลีฮวาหรืฮูหยินท่านหมอซ่งกำลังจะออกเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงแล้วหลินหลีฮวาออกมายืนอยู่หน้าประตูเรือน ดวงตาจับจ้องไปยังขบวนม้าที่จอดเรียงรายอยู่เบื้องหน้า รถม้าคันใหญ่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับนางและอาจ้าน ขณะที่เหล่าองครักษ์ในชุดเกราะหนังสีเข้มยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ แสดงให้เห็นถึงความเป็นระเบียบแบบแผนของกองคุ้มกันนี้นี่แท้จริงซ่งไป๋เซียวเป็นหมอหลวงแน่หรือ?สงสัยแต่นางยังไม่กล้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่7|| เรือนอวี้หลันของพวกเรา

    ตอนที่7|| เรือนอวี้หลันของพวกเราทันทีที่ก้าวผ่านประตูใหญ่และเหล่าคนรับใช้ส่วนหนึ่งที่ตั้งแถวต้อนรับคุณชายรอง อาหลีก็กวาดสายตาสังเกตรอบข้างเงียบงัน นางสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่กว้างขวางของจวนแห่งนี้ เพราะจวนซ่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบ เรือนสี่ประสาน หรือ ซื่อเหอย่วน (四合院) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมดินแดนจงหยวนของขุนนางชั้นสูง ภายในประกอบด้วยเรือนหลักและเรือนรองที่เชื่อมต่อกันล้อมรอบลานกว้างตรงกลางพื้นทางเดินปูด้วยหินแกรนิตสีเทาเรียบสนิท บรรยากาศสงบและเข้มขลัง เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นอาคารเรือนใหญ่ที่หลังคามุงกระเบื้องเขียวสลับฟ้า ตัดกับเชิงชายไม้ที่แกะสลักลวดลายเมฆมงคลอย่างวิจิตร เสาไม้ขนาดใหญ่ถูกสลักงดงาม ตัดกับคานไม้สีทองอร่าม แสดงถึงความมั่นคงของจวนขุนนางเสียงรองเท้าของบ่าวไพร่ที่สวมรองเท้าผ้าดังก้องบนพื้นหิน พวกเขาล้วนแต่งกายด้วยอาภรณ์เรียบง่าย แต่สะอาดสะอ้าน บ้างถือพัด บ้างถือถาดน้ำชาเดินสวนกันไปมาอย่างเป็นระเบียบ แต่พอพวกเขาแลเห็นคุณชายรองต่างก็ก้มศีรษะและโค้งกายทำความเคารพบ่าวไพร่จำนวนไม่น้อยลอบมองอาหลีด้วยความอยากรู้ ต่างพากันคาดเดาไปต่างๆ นานา บางคนอดใจไม่ไหวก็ถึงกับแอบไปสอบถาม

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่8|| นี่หรือพ่อสามี

    ตอนที่8|| นี่หรือพ่อสามีภายในห้องโถงใหญ่ของจวนเสนาบดีสกุลซ่ง บรรยากาศตึงเครียดจนแทบไม่มีผู้ใดกล้าหายใจแรง หลังจาก คนสนิทของใต้ซ่งผู้นำตระกูลในขณะนี้เข้าไปแจ้งกับนายท่านของเขาว่าบัดนี้ท่านหมอซ่งหรือคุณชายรองซ่งมาขอพบพร้อมกับฮูหยิน ไม่นานเขาก็อนุญาตให้บุตรชายคนรองของตนเองเข้าพบได้"ให้มันเข้ามา!"บุรุษหนุ่มใหญ่นั่งอยู่บนแท่นสูงเอ่ยออกไป ใบหน้าของเขามืดครึ้มดุจพายุคลั่ง ดวงตาเฉียบคมเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด บนโต๊ะไม้แกะสลักอันวิจิตรถูกปกคลุมไปด้วยเอกสารราชการที่ถูกเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ไยดี ด้านหลังบุรุษวัยสี่สิบปลาย ๆ ผู้มีตำแหน่งสูงส่ง แผ่นหลังตั้งตรงราวกับไม้สน แม้จะอายุไม่น้อยแต่ยังคงแข็งแกร่งและทรงอำนาจเสียงฝีเท้าดังขึ้นเมื่อซ่งไป๋เซียวก้าวเข้ามาในห้องโถง พร้อมกับ หลินหลีฮวา ที่เดินตามมาด้วยกิริยาสงบนิ่ง แม้จะต้องเผชิญกับสายตากดดันของขุนนางใหญ่แห่งแผ่นดิน แต่เด็กสาวเพียงค้อมศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนจะคุกเข่าลงข้าง ๆ สามีของตนแต่ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เอ่ยสิ่งใด เสียงของซ่งป๋อเหยียนก็กระแทกก้องห้องโถง"เจ้าหายหัวไปสามเดือน! พอกลับมาเจ้ากลับพาเด็กสาวที่ใดก็ไม่รู้มาเป็นสะใภ้ของสกุลซ่ง!?"ซ่ง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 15|| ท่านหมอซ่งชื่นชมอาหลีในใจ

    ตอนที่ 15|| ท่านหมอซ่งชื่นชมอาหลีในใจกลางยามเฉิน ภายในโรงหมอหลวง ซ่งไป๋เซียวยังคงง่วนอยู่กับการจัดเรียงตำราแพทย์บนโต๊ะหนังสือขนาดใหญ่ แสงแดดอ่อนยามสายสาดผ่านหน้าต่างกระดาษสา ทาบลงบนเอกสารรายงานการรักษาผู้ป่วยที่กองสูงเป็นตั้ง เขาพลิกกระดาษอย่างแผ่วเบา สายตากวาดมองข้อมูลอย่างรวดเร็วแต่เพียงครู่เดียว เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้นด้านหลัง ซ่งไป๋เซียวไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขารู้ดีว่าเป็นผู้ใด"ท่านหมอซ่ง"เงาร่างของบุรุษในอาภรณ์สีกลมกลืนไปกับชาวบ้านทั่วไปปรากฏขึ้นตรงหน้าประตู เกาหานค้อมกายประสานมืออย่างนอบน้อม แววตาแน่วแน่และเคร่งขรึม"มีเรื่องใด?" ซ่งไป๋เซียวถามโดยไม่ละสายตาจากเอกสาร"ข้านำข่าวจากจวนมารายงานขอรับ"ซ่งไป๋เซียวเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้เกาหานรายงานต่อ"วันนี้สะใภ้ใหญ่เฉาเชิญฮูหยินรองไปพบที่เรือนฉางเล่อขอรับ"ทันทีที่ได้ยินชื่อ "เฉาหลิงเอ๋อ" มือที่ถือพู่กันของซ่งไป๋เซียวพลันหยุดชะงักไปเสี้ยววินาที ดวงตาที่เคยสงบนิ่งคล้ายฉายแววเย็นเยียบขึ้นโดยไม่รู้ตัว‘เฉาหลิงเอ๋อ...’หญิงผู้นี้มาพบอาหลี จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ล้วนไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเด็กสาวแน่"แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?" น้ำเส

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-10
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 11 || พูดคุยตามประสาพี่น้อง

    ตอนที่ 11 || พูดคุยตามประสาพี่น้อง(ตรวจคำผิดแล้ว)หลังจากส่งอาหลีที่เรือนแล้ว ซ่งไป๋เซียวจึงตรงไปหาซ่งไป๋ซั่วทันที ขณะนี้เป็นเวลาปลายยามซวี แต่ภายในจวนสกุลซ่งกลับเงียบสงัด ทว่าภายในเรือนอันเล่อของคุณชายใหญ่ยังคงมีแสงไฟส่องสว่างตัดกับความมืดของราตรีซ่งไป๋เซียวก้าวเข้าไปในเรือนอย่างเงียบเชียบ บ่าวรับใช้ที่เฝ้าประตูเรือนอันเล่อเมื่อเห็นเขาก็รีบค้อมตัวทำความเคารพ ก่อนจะผลักบานประตูให้เปิดออก"ท่านราชเลขารออยู่ที่ห้องหนังสือ เชิญขอรับ ท่านหมอซ่ง"ซ่งไป๋เซียวไม่ตอบอะไร ทำเพียงก้าวเข้าไปอย่างไม่ลังเล ภายในห้องโถงตกแต่งเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายอำนาจ หนังสือและรายงานกองเป็นตั้งอยู่บนโต๊ะไม้สลักลวดลายดอกโบตั๋น เสียงพู่กันขูดกระดาษดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้า เขาอยู่ในชุดขุนนางเต็มยศสีดำขลับ คาดว่าหลังกลับจากวังหลวงก็ตรงเข้ามาทำงานต่อในห้องหนังสือเลย ไม่ได้แวะไปที่ใด คิ้วเรียวของคนผู้นี้ได้รูป สายตาคมกริบดุจคมดาบ แม้ไม่ได้เอ่ยวาจา แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับหนักอึ้งราวกับสามารถบดขยี้ผู้คนได้ในพริบตาคนผู้นี้คือ... ซ่งไป๋ซั่วราชเลขาหนุ่มวัยยี่สิบสองปี ผู้กุมอำนาจในราช

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 12 || ท่านแต่งกับนางเพื่อประชดข้าใช่หรือไม่

    ตอนที่ 12 || ท่านแต่งกับนางเพื่อประชดข้าใช่หรือไม่หลังจากซ่งไป๋เซียวก้าวออกจากเรือนอันเล่อหลังเสร็จสิ้นการสนทนากับพี่ชาย แม้สีหน้าของเขาจะเรียบเฉยดังเดิม แต่ในดวงตากลับฉายแววเบื่อหน่ายและระอา"ไป๋ซั่วผู้นี้อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กไปได้..." เขาพึมพำเบา ๆ บ่นให้กับพี่ชายที่ปีนี้อายุยี่สิบสอง ไม่พอ ยังเป็นถึงราชเลขาแล้วแท้ ๆ แต่กลับเอาแต่โวยวาย หากมีใครมาเห็นเข้า จะคิดอย่างไร...บ่นไปพลาง ก้าวเท้าเตรียมมุ่งหน้ากลับบ้านรองของตนเองไปพลาง แต่ทันทีที่ซ่งไป๋เซียวก้าวพ้นประตูเรือน ก็ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อเห็นร่างของสตรีผู้หนึ่งยืนรออยู่เฉาหลิงเอ๋อสตรีที่เคยเป็นคนรักของเขาเมื่อสองปีก่อน และบัดนี้... นางกลายเป็นภรรยาของพี่ชายเขาไปแล้วซ่งไป๋เซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของเขาว่างเปล่าไร้อารมณ์ ดวงตาคมกริบจ้องมองนางอย่างเย็นชา"เจ้ามารอพบข้าทำไม?" น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย ไม่แสดงความยินดีหรือโกรธเคืองแม้จะไม่ได้พบกันเกือบหนึ่งปีเฉาหลิงเอ๋อกัดริมฝีปากแน่น นางพยายามสงบใจ แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจของนางกลับปวดร้าวยิ่งนัก"ท่านกลับมาแล้วจริง ๆ" นางเอ่ยเบา ๆ"ใช่ ข้ากลับมาแล้ว

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 10 || อาหารมื้อแรกในจวนสกุลซ่ง(ตรวจคำผิดแล้ว)

    ตอนที่ 10 || อาหารมื้อแรกในจวนสกุลซ่ง(ตรวจคำผิดแล้ว)บรรยากาศในเรือนของฮูหยินซ่งอบอุ่นและสงบเงียบ ต่างจากเรือนหลักโดยสิ้นเชิงหลังจากพูดคุยกันได้สักพัก ฮูหยินซ่งก็สั่งให้สาวใช้จัดสำรับอาหารเผื่อซ่งไป๋เซียวและหลินหลีฮวาด้วย"พวกเจ้าเพิ่งเดินทางมาไกล ต้องเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย นั่งพักก่อนเถอะ สำรับอาหารใกล้จะเสร็จแล้ว วันนี้กินข้าวกับแม่ใหญ่สักมื้อ" ฮูหยินซ่งเอ่ยชวนเรียบง่าย"ขอบพระคุณท่านแม่ใหญ่เจ้าค่ะ"อาหลีค้อมกายรับอย่างนอบน้อมไม่นานนัก บ่าวไพร่ก็นำสำรับอาหารมาจัดวางลงบนโต๊ะไม้เนื้อดีที่ตั้งอยู่กลางห้อง อาหารแต่ละจานถูกจัดวางเรียบร้อย ดูเรียบง่ายแต่พิถีพิถัน กลิ่นหอมของ ซุปไก่ตุ๋นยาจีน ลอยกรุ่น เคียงข้างด้วย เนื้อเป็ดรมควันชิ้นหนา ผัดผักรวมหลากสี และปลานึ่งซีอิ๊วที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนหลินหลีฮวาลอบมองอาหารตรงหน้าด้วยความเงียบงันต้องยอมรับว่าอาหารที่นี่ดูดีกว่าที่นางเคยกินในหมู่บ้านถงหลัวมากนัก แต่ถึงกระนั้น อาหารเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงอาหารธรรมดาของจวนสกุลซ่ง หาใช่อาหารชั้นสูงของราชสำนัก และยิ่งไม่ใกล้เคียงอาหารของเผ่าเจียง"มื้อนี้เป็นเพียงอาหารง่าย ๆ แต่ล้วนเป็นของสดใหม่ที่แม่ใหญ่ให้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12
  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 9 || พบมารดาเลี้ยงสามีใจประเสริฐ

    ตอนที่ 9 || พบมารดาเลี้ยงสามีใจประเสริฐหลังจากเสร็จสิ้นพิธียกน้ำชาคารวะใต้เท้าซ่ง แต่กลับต้องเทน้ำชาทิ้ง ซ้ำยังถูกบิดาสามีขับไล่ออกมาอีกด้วย ซ่งไป๋เซียวก็พาหลินหลีฮวาเดินลัดเลาะผ่านโถงทางเดินของจวนซ่งมายังเรือนที่อยู่อีกด้านของเรือนชิงมู่"ท่านหมอซ่ง เรากำลังจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ" อาหลีเอ่ยถาม นางยังคงสลัดบรรยากาศตึงเครียดจากการพบใต้เท้าซ่งเมื่อครู่ไม่หมด จึงอดกังวลไม่ได้ว่าตนจะต้องไปพบผู้ใดอีกเพิ่งมาถึงก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ อาหลีก็เริ่มรู้สึกท้อขึ้นมาบ้าง ซ่งไป๋เซียวเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบเมื่อเห็นแววตาอ่อนล้าของเด็กสาว"ไปพบมารดาเลี้ยงของข้า นางคือฮูหยินเอกของใต้เท้าซ่ง แต่นางไม่เหมือนใต้เท้าซ่ง"อาหลีชะงักเล็กน้อย ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ"มารดาเลี้ยงของท่าน?"เด็กสาวถามย้ำออกไป เพราะปกติแล้วฮูหยินเอกมักอยู่เรือนหลักมิใช่หรือ เหตุใดจึงแยกเรือน? แต่คิดไปคิดมา หลินหลีฮวาก็ไม่กล้าถามออกไปทั้งหมด"ท่านแม่ใหญ่นางแต่งเข้ามา แต่มิอาจตั้งครรภ์ได้ นางจึงได้ยกท่านแม่ของข้าที่เป็นน้องสาวต่างมารดาขึ้นมาเป็นอี๋เหนียง เพื่อรักษาฐานะฮูหยินเอกของตนเอาไว้"ซ่งไป๋เซียวเอ่ยเล่าเส

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12

Bab terbaru

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 14|| พี่สะใภ้เฉา ที่คิดไม่ซื่อกับน้องสามี

    ตอนที่ 14|| พี่สะใภ้เฉา ที่คิดไม่ซื่อกับน้องสามีเช้าตรู่ของจวนสกุลซ่ง แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านบางของเรือนอวี้หลัน ลมเย็นพัดพากลิ่นหอมของดอกอวี้หลันที่กำลังผลิบานให้ลอยฟุ้งทั่วบริเวณ หลินหลีฮวายืนอยู่บนระเบียง พลางทอดสายตามองสวนเล็ก ๆ ที่ถูกจัดไว้อย่างประณีตหลังจากแต่งเข้าจวนสกุลซ่งในฐานะ ‘ฮูหยินรอง’ ของบ้านรองของท่านหมอซ่ง นี่เป็นเช้าวันแรกที่นางตื่นขึ้นมาในฐานะภรรยาของซ่งไป๋เซียว เมื่อคืนหลังจากดื่มน้ำชาแล้วเผลอหลับไป คงถูกซ่งไป๋เซียวอุ้มมาส่งที่ห้องนอน เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่พบสามีตามประเพณีและกฎหมายของต้าฉู่เสียแล้ว ฟังจากอาจิ่วกับอาหนิว ท่านหมอซ่งออกไปโรงหมอหลวงตั้งแต่ปลายยามอิ๋น (*ยามอิ๋น (寅 yín) = 03.00 - 04.59 น.)ดังนั้นขณะนี้เรือนอวี้หลันจึงเหลือเพียงนาง สาวใช้ บ่าวไพร่สิบกว่าคน และแมวน้อยหนึ่งตัว ใต้เท้าซ่งไม่ยอมรับนางเป็นสะใภ้ การคารวะยามเช้าจึงถูกตัดออกไป ส่วนฮูหยินซ่งก็บอกกับนางตั้งแต่หัวค่ำหลังจบมื้อค่ำว่าไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ ให้นางพักผ่อนไปก่อน เรื่องคารวะเอาไว้ให้นางปรับตัวได้จึงค่อยว่ากัน‘เช่นนั้นวันนี้ข้าอยู่เงียบ ๆ น่าจะดีที่สุด’แต่ยังไม่ทันที่นางจะซึมซับความสงบ

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 13 || คืนแรกในจวนสกุลซ่งของอาหลีกับอาจ้าน

    ตอนที่ 13 || คืนแรกในจวนสกุลซ่งของอาหลีกับอาจ้านหลินหลีฮวาไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าตนเองถูกสตรีอื่นหมายหัว นางกำลังเตรียมตัวเข้านอนในค่ำคืนแรกภายในจวนสกุลซ่ง ไหนเลยจะคิดไปถึงผู้อื่นหรือเรื่องไกลตัวบรรยากาศรอบบ้านรอง หรือเรือน อวี้หลัน เต็มไปด้วยความเงียบสงบ ดวงจันทร์ทอแสงอ่อนโยนลอดผ่านหน้าต่างกระดาษสา สาดส่องลงบนพื้นไม้ขัดเงา เสียงลมพัดแผ่วทำให้ม่านแพรบางไหวระริก กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกอวี้หลันโชยมาแตะจมูก ราวกับต้องการกล่อมผู้ที่อยู่ภายในให้เข้าสู่ห้วงนิทราทว่า..."เฮ้อ..."เด็กสาวพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงกว้าง พลางถอนหายใจเบา ๆ นางรู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะยังแปลกที่กระมังหลังอาบน้ำและแต่งกายเรียบร้อย นางก็บอกให้สองสาวใช้ อาจิ่วกับอาหนิว กลับไปพักผ่อนได้ นางไม่ชอบให้ใครคอยดูแลมากเกินไป และไม่ต้องการรบกวนเวลาพักของพวกนาง แต่พออยู่เพียงลำพังในห้องกว้างขวางนี้แล้ว กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเลยในอดีต สมัยยังเป็นท่านหญิง นางอาศัยอยู่ในตำหนักกว้างใหญ่หรูหรา แต่กลับรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงคนแปลกหน้าภายในตำหนักนั้นเสียมากกว่า... ตรงกันข้ามกับเรือนเล็ก ๆ ที่หมู่บ้านถงหลัว แม้จะสมถะเรียบง่าย แต่กล

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 9 || พบมารดาเลี้ยงสามีใจประเสริฐ

    ตอนที่ 9 || พบมารดาเลี้ยงสามีใจประเสริฐหลังจากเสร็จสิ้นพิธียกน้ำชาคารวะใต้เท้าซ่ง แต่กลับต้องเทน้ำชาทิ้ง ซ้ำยังถูกบิดาสามีขับไล่ออกมาอีกด้วย ซ่งไป๋เซียวก็พาหลินหลีฮวาเดินลัดเลาะผ่านโถงทางเดินของจวนซ่งมายังเรือนที่อยู่อีกด้านของเรือนชิงมู่"ท่านหมอซ่ง เรากำลังจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ" อาหลีเอ่ยถาม นางยังคงสลัดบรรยากาศตึงเครียดจากการพบใต้เท้าซ่งเมื่อครู่ไม่หมด จึงอดกังวลไม่ได้ว่าตนจะต้องไปพบผู้ใดอีกเพิ่งมาถึงก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ อาหลีก็เริ่มรู้สึกท้อขึ้นมาบ้าง ซ่งไป๋เซียวเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบเมื่อเห็นแววตาอ่อนล้าของเด็กสาว"ไปพบมารดาเลี้ยงของข้า นางคือฮูหยินเอกของใต้เท้าซ่ง แต่นางไม่เหมือนใต้เท้าซ่ง"อาหลีชะงักเล็กน้อย ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ"มารดาเลี้ยงของท่าน?"เด็กสาวถามย้ำออกไป เพราะปกติแล้วฮูหยินเอกมักอยู่เรือนหลักมิใช่หรือ เหตุใดจึงแยกเรือน? แต่คิดไปคิดมา หลินหลีฮวาก็ไม่กล้าถามออกไปทั้งหมด"ท่านแม่ใหญ่นางแต่งเข้ามา แต่มิอาจตั้งครรภ์ได้ นางจึงได้ยกท่านแม่ของข้าที่เป็นน้องสาวต่างมารดาขึ้นมาเป็นอี๋เหนียง เพื่อรักษาฐานะฮูหยินเอกของตนเอาไว้"ซ่งไป๋เซียวเอ่ยเล่าเส

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 10 || อาหารมื้อแรกในจวนสกุลซ่ง(ตรวจคำผิดแล้ว)

    ตอนที่ 10 || อาหารมื้อแรกในจวนสกุลซ่ง(ตรวจคำผิดแล้ว)บรรยากาศในเรือนของฮูหยินซ่งอบอุ่นและสงบเงียบ ต่างจากเรือนหลักโดยสิ้นเชิงหลังจากพูดคุยกันได้สักพัก ฮูหยินซ่งก็สั่งให้สาวใช้จัดสำรับอาหารเผื่อซ่งไป๋เซียวและหลินหลีฮวาด้วย"พวกเจ้าเพิ่งเดินทางมาไกล ต้องเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย นั่งพักก่อนเถอะ สำรับอาหารใกล้จะเสร็จแล้ว วันนี้กินข้าวกับแม่ใหญ่สักมื้อ" ฮูหยินซ่งเอ่ยชวนเรียบง่าย"ขอบพระคุณท่านแม่ใหญ่เจ้าค่ะ"อาหลีค้อมกายรับอย่างนอบน้อมไม่นานนัก บ่าวไพร่ก็นำสำรับอาหารมาจัดวางลงบนโต๊ะไม้เนื้อดีที่ตั้งอยู่กลางห้อง อาหารแต่ละจานถูกจัดวางเรียบร้อย ดูเรียบง่ายแต่พิถีพิถัน กลิ่นหอมของ ซุปไก่ตุ๋นยาจีน ลอยกรุ่น เคียงข้างด้วย เนื้อเป็ดรมควันชิ้นหนา ผัดผักรวมหลากสี และปลานึ่งซีอิ๊วที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนหลินหลีฮวาลอบมองอาหารตรงหน้าด้วยความเงียบงันต้องยอมรับว่าอาหารที่นี่ดูดีกว่าที่นางเคยกินในหมู่บ้านถงหลัวมากนัก แต่ถึงกระนั้น อาหารเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงอาหารธรรมดาของจวนสกุลซ่ง หาใช่อาหารชั้นสูงของราชสำนัก และยิ่งไม่ใกล้เคียงอาหารของเผ่าเจียง"มื้อนี้เป็นเพียงอาหารง่าย ๆ แต่ล้วนเป็นของสดใหม่ที่แม่ใหญ่ให้

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 12 || ท่านแต่งกับนางเพื่อประชดข้าใช่หรือไม่

    ตอนที่ 12 || ท่านแต่งกับนางเพื่อประชดข้าใช่หรือไม่หลังจากซ่งไป๋เซียวก้าวออกจากเรือนอันเล่อหลังเสร็จสิ้นการสนทนากับพี่ชาย แม้สีหน้าของเขาจะเรียบเฉยดังเดิม แต่ในดวงตากลับฉายแววเบื่อหน่ายและระอา"ไป๋ซั่วผู้นี้อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กไปได้..." เขาพึมพำเบา ๆ บ่นให้กับพี่ชายที่ปีนี้อายุยี่สิบสอง ไม่พอ ยังเป็นถึงราชเลขาแล้วแท้ ๆ แต่กลับเอาแต่โวยวาย หากมีใครมาเห็นเข้า จะคิดอย่างไร...บ่นไปพลาง ก้าวเท้าเตรียมมุ่งหน้ากลับบ้านรองของตนเองไปพลาง แต่ทันทีที่ซ่งไป๋เซียวก้าวพ้นประตูเรือน ก็ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อเห็นร่างของสตรีผู้หนึ่งยืนรออยู่เฉาหลิงเอ๋อสตรีที่เคยเป็นคนรักของเขาเมื่อสองปีก่อน และบัดนี้... นางกลายเป็นภรรยาของพี่ชายเขาไปแล้วซ่งไป๋เซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของเขาว่างเปล่าไร้อารมณ์ ดวงตาคมกริบจ้องมองนางอย่างเย็นชา"เจ้ามารอพบข้าทำไม?" น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย ไม่แสดงความยินดีหรือโกรธเคืองแม้จะไม่ได้พบกันเกือบหนึ่งปีเฉาหลิงเอ๋อกัดริมฝีปากแน่น นางพยายามสงบใจ แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจของนางกลับปวดร้าวยิ่งนัก"ท่านกลับมาแล้วจริง ๆ" นางเอ่ยเบา ๆ"ใช่ ข้ากลับมาแล้ว

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 11 || พูดคุยตามประสาพี่น้อง

    ตอนที่ 11 || พูดคุยตามประสาพี่น้อง(ตรวจคำผิดแล้ว)หลังจากส่งอาหลีที่เรือนแล้ว ซ่งไป๋เซียวจึงตรงไปหาซ่งไป๋ซั่วทันที ขณะนี้เป็นเวลาปลายยามซวี แต่ภายในจวนสกุลซ่งกลับเงียบสงัด ทว่าภายในเรือนอันเล่อของคุณชายใหญ่ยังคงมีแสงไฟส่องสว่างตัดกับความมืดของราตรีซ่งไป๋เซียวก้าวเข้าไปในเรือนอย่างเงียบเชียบ บ่าวรับใช้ที่เฝ้าประตูเรือนอันเล่อเมื่อเห็นเขาก็รีบค้อมตัวทำความเคารพ ก่อนจะผลักบานประตูให้เปิดออก"ท่านราชเลขารออยู่ที่ห้องหนังสือ เชิญขอรับ ท่านหมอซ่ง"ซ่งไป๋เซียวไม่ตอบอะไร ทำเพียงก้าวเข้าไปอย่างไม่ลังเล ภายในห้องโถงตกแต่งเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายอำนาจ หนังสือและรายงานกองเป็นตั้งอยู่บนโต๊ะไม้สลักลวดลายดอกโบตั๋น เสียงพู่กันขูดกระดาษดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้า เขาอยู่ในชุดขุนนางเต็มยศสีดำขลับ คาดว่าหลังกลับจากวังหลวงก็ตรงเข้ามาทำงานต่อในห้องหนังสือเลย ไม่ได้แวะไปที่ใด คิ้วเรียวของคนผู้นี้ได้รูป สายตาคมกริบดุจคมดาบ แม้ไม่ได้เอ่ยวาจา แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับหนักอึ้งราวกับสามารถบดขยี้ผู้คนได้ในพริบตาคนผู้นี้คือ... ซ่งไป๋ซั่วราชเลขาหนุ่มวัยยี่สิบสองปี ผู้กุมอำนาจในราช

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 15|| ท่านหมอซ่งชื่นชมอาหลีในใจ

    ตอนที่ 15|| ท่านหมอซ่งชื่นชมอาหลีในใจกลางยามเฉิน ภายในโรงหมอหลวง ซ่งไป๋เซียวยังคงง่วนอยู่กับการจัดเรียงตำราแพทย์บนโต๊ะหนังสือขนาดใหญ่ แสงแดดอ่อนยามสายสาดผ่านหน้าต่างกระดาษสา ทาบลงบนเอกสารรายงานการรักษาผู้ป่วยที่กองสูงเป็นตั้ง เขาพลิกกระดาษอย่างแผ่วเบา สายตากวาดมองข้อมูลอย่างรวดเร็วแต่เพียงครู่เดียว เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้นด้านหลัง ซ่งไป๋เซียวไม่ได้เงยหน้าขึ้น เขารู้ดีว่าเป็นผู้ใด"ท่านหมอซ่ง"เงาร่างของบุรุษในอาภรณ์สีกลมกลืนไปกับชาวบ้านทั่วไปปรากฏขึ้นตรงหน้าประตู เกาหานค้อมกายประสานมืออย่างนอบน้อม แววตาแน่วแน่และเคร่งขรึม"มีเรื่องใด?" ซ่งไป๋เซียวถามโดยไม่ละสายตาจากเอกสาร"ข้านำข่าวจากจวนมารายงานขอรับ"ซ่งไป๋เซียวเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้เกาหานรายงานต่อ"วันนี้สะใภ้ใหญ่เฉาเชิญฮูหยินรองไปพบที่เรือนฉางเล่อขอรับ"ทันทีที่ได้ยินชื่อ "เฉาหลิงเอ๋อ" มือที่ถือพู่กันของซ่งไป๋เซียวพลันหยุดชะงักไปเสี้ยววินาที ดวงตาที่เคยสงบนิ่งคล้ายฉายแววเย็นเยียบขึ้นโดยไม่รู้ตัว‘เฉาหลิงเอ๋อ...’หญิงผู้นี้มาพบอาหลี จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ล้วนไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเด็กสาวแน่"แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?" น้ำเส

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่8|| นี่หรือพ่อสามี

    ตอนที่8|| นี่หรือพ่อสามีภายในห้องโถงใหญ่ของจวนเสนาบดีสกุลซ่ง บรรยากาศตึงเครียดจนแทบไม่มีผู้ใดกล้าหายใจแรง หลังจาก คนสนิทของใต้ซ่งผู้นำตระกูลในขณะนี้เข้าไปแจ้งกับนายท่านของเขาว่าบัดนี้ท่านหมอซ่งหรือคุณชายรองซ่งมาขอพบพร้อมกับฮูหยิน ไม่นานเขาก็อนุญาตให้บุตรชายคนรองของตนเองเข้าพบได้"ให้มันเข้ามา!"บุรุษหนุ่มใหญ่นั่งอยู่บนแท่นสูงเอ่ยออกไป ใบหน้าของเขามืดครึ้มดุจพายุคลั่ง ดวงตาเฉียบคมเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด บนโต๊ะไม้แกะสลักอันวิจิตรถูกปกคลุมไปด้วยเอกสารราชการที่ถูกเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ไยดี ด้านหลังบุรุษวัยสี่สิบปลาย ๆ ผู้มีตำแหน่งสูงส่ง แผ่นหลังตั้งตรงราวกับไม้สน แม้จะอายุไม่น้อยแต่ยังคงแข็งแกร่งและทรงอำนาจเสียงฝีเท้าดังขึ้นเมื่อซ่งไป๋เซียวก้าวเข้ามาในห้องโถง พร้อมกับ หลินหลีฮวา ที่เดินตามมาด้วยกิริยาสงบนิ่ง แม้จะต้องเผชิญกับสายตากดดันของขุนนางใหญ่แห่งแผ่นดิน แต่เด็กสาวเพียงค้อมศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนจะคุกเข่าลงข้าง ๆ สามีของตนแต่ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เอ่ยสิ่งใด เสียงของซ่งป๋อเหยียนก็กระแทกก้องห้องโถง"เจ้าหายหัวไปสามเดือน! พอกลับมาเจ้ากลับพาเด็กสาวที่ใดก็ไม่รู้มาเป็นสะใภ้ของสกุลซ่ง!?"ซ่ง

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่7|| เรือนอวี้หลันของพวกเรา

    ตอนที่7|| เรือนอวี้หลันของพวกเราทันทีที่ก้าวผ่านประตูใหญ่และเหล่าคนรับใช้ส่วนหนึ่งที่ตั้งแถวต้อนรับคุณชายรอง อาหลีก็กวาดสายตาสังเกตรอบข้างเงียบงัน นางสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่กว้างขวางของจวนแห่งนี้ เพราะจวนซ่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบ เรือนสี่ประสาน หรือ ซื่อเหอย่วน (四合院) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมดินแดนจงหยวนของขุนนางชั้นสูง ภายในประกอบด้วยเรือนหลักและเรือนรองที่เชื่อมต่อกันล้อมรอบลานกว้างตรงกลางพื้นทางเดินปูด้วยหินแกรนิตสีเทาเรียบสนิท บรรยากาศสงบและเข้มขลัง เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นอาคารเรือนใหญ่ที่หลังคามุงกระเบื้องเขียวสลับฟ้า ตัดกับเชิงชายไม้ที่แกะสลักลวดลายเมฆมงคลอย่างวิจิตร เสาไม้ขนาดใหญ่ถูกสลักงดงาม ตัดกับคานไม้สีทองอร่าม แสดงถึงความมั่นคงของจวนขุนนางเสียงรองเท้าของบ่าวไพร่ที่สวมรองเท้าผ้าดังก้องบนพื้นหิน พวกเขาล้วนแต่งกายด้วยอาภรณ์เรียบง่าย แต่สะอาดสะอ้าน บ้างถือพัด บ้างถือถาดน้ำชาเดินสวนกันไปมาอย่างเป็นระเบียบ แต่พอพวกเขาแลเห็นคุณชายรองต่างก็ก้มศีรษะและโค้งกายทำความเคารพบ่าวไพร่จำนวนไม่น้อยลอบมองอาหลีด้วยความอยากรู้ ต่างพากันคาดเดาไปต่างๆ นานา บางคนอดใจไม่ไหวก็ถึงกับแอบไปสอบถาม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status