“ สวัสดีคะ หนูชื่อหนูนาส่วนนี้เพื่อนหนูชื่อแก้วคะไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีเรื่องอะไรให้เราช่วยรึเปล่าคะ “ หนูนา เธอเชิญแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งที่ห้องรับแขก พร้อมกับแนะนำตัวกับแขกว่าตนกับเพื่อนชื่ออะไร สารวัตรดินแดนเมื่อได้ยินชื่อของสาวน้อยที่ชื่อแก้วเขาก็รู้สึกว่าเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้สายตาของเขาไม่สามารถละจากเธอได้เลย เมื่อแก้วเห็นสายตาของชายหนุ่มที่เอาแต่มองมาที่เธอสาวน้อยก็รู้สึกเขิลอายอย่างอธิบายไม่ถูกเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหัวใจสั่น เธอหัวใจสั่นไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าใจสั่นเพราะชายตรงหน้าหล่อก็ไม่รู้ “ เอ้อ…ครับ ครับ สวัสดีครับ “ สารวัตรแดนดินเมื่อสองสาวแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็มารู้สึกตัวเมื่อถูกสายตาของหนูนาที่มองมายังเขาอย่างแปลกใจว่าทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนของเธอ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกชอบใจ พอหมวดแดนเห็นแบบนั้นเขาก็รีบดึงสติกลับมาทันทีก่อนจะกล่าวสวัสดีตอบกลับด้วยท่าทางเสียอากรและก็พูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อทั้งหมดแนะนำตัวกันเสร็จตำรวจหล่อก็เริ่มสอบสัมภาษเด็กสาวทั้งสองคนทันที ด้านสารวัตรเอกสิทธิ์ “ นี้มันรอยอะไรว่ะ “ ระหว่างที่สารวัตรเอ
ณ เมืองหลวงของไทย “ สวัสดีคะ หนูนาคะที่โทรหาพี่เมื่อวานนี้คะ “ หนูนากับเพื่อนรักที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาตามหาฝัน หญิงวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าพี่ เธอก็ถึงกับยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ หนูนาที่เป็นคนฉลาดเธออยู่เป็นพอเธอเห็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เธอกับเพื่อนติดต่อขอเช่า หนูนาสวัสดีทักทายพร้อมกับเรียกเจ๊ตรงหน้าว่าพี่ นั้นก็ทำให้เจ๊เจ้าของบ้านรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “ สวัสดีจ๊ะ มาๆเข้ามาดูข้างในก่อนเลยจ๊ะดูสิว่าพอจะอยู่ได้ไหม “ เจ๊เจ้าของบ้านเรียกให้เด็กน้อยเข้ามาดูภายในบ้าน หนูนาแล้วก็แก้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกดีใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินตามเข้าไป แก๊ก แอ๊ด…… ผลึบ “ แค๊ก แค๊ก “ เมื่อเจ๊เจ้าของบ้านเปิดประตูไม้เก่าๆออกเท่านั้นแหละ หนูนา แก้ว แล้วก็เจ๊เจ้าของบ้านถึงกับสลักฝุ่นที่อยู่ภายในบ้าน ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์เลือกมากมายเพราะบ้านหลังนี้ราคาถูกแถมยังเป็นบ้านที่อยู่อย่างส่วนตัวอีกด้วย ต่อให้สกปรกแค่ไหนถ้ามันพักอาศัยแล้วก็ราคาถูกทั้งคู่ก็แฮปปี้แล้ว “ เป็นไงจ๊ะ พออยู่ได้ไหมทำความสะอาดหน่อย ก็หน้าอยู่แล้วละ “ เจ๊เจ้าของบ้านเอามือปัดฝุ่นตรงหน้าไปมาพร้อมกับถามเด็กสาวสองคนต
ซ่า……ซู่…..ฟิ๊ว…..กระท่อมตีนเขา “ อ๊ะ อ๊ะ ฝนตก ฝนตก เห้อ……กำลังได้เยอะเลยรีบตกเร็วจริง “ ระหว่างที่แก้วกับหนูนาขุดหนอไม้กันอย่างขะมักเขม้นอยู่นั้น ฝนที่ตั้งเคร้าว่าจะตกก็ตกลงมาอย่างแรงซะงันดีที่ทั้งสองลงมาก่อนที่ฝนจะตกแรง แต่ทั้งคู่ก็ยังกลับไม่ถึงบ้านถึงแม้ว่าจะลงมาจากเขาแล้วก็ตามแต่ก็ยังไปไม่ถึงบ้านเพราะฝนตกอย่างกับฟ้ารั่วซะงัน ด้วยความที่หนูนากำลังจะได้หนอไม้มาเยอะ เมื่อฝนตกมาขัดจังหวะของการหาเงินของเธอ นั้นเลยทำให้หนูนาบ่นอุปออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็อดขำเพื่อนไ่ด้ก่อนจะพูดออกมาว่า “ เอานาพรุ่งนี้ค่อยมาก็ได้ ฮ่าๆฮ่าๆ” แก้วเธอ พูดปลอบใจเพื่อนพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างนึกขำคนเป็นเพื่อน หนูนาที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็ได้แต่ทำหน้าหมุ๋ยแล้วก็เดินมานั่งที่แคร่เท่านั้น“ อื้มก็คงเป็นอย่างนั้นแหละ จะทำยังไงได้ก็ท่านพระพิรุณปวดฉี่นี้หนา “ หนูนาเมื่อมานั่งที่แคร่เธอก็บ่นอุบออกมาอย่างคนไม่ได้คิดอะไร แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็เดินมานั่งข้างเพื่อนพร้อมกับยิ้มอย่างนึกเอ็นดูเพื่อนเท่านั้นโดยที่เธอไม่พูดอะไรเพราะเธอเป็นคนพูดน้อย เวลาต่อมา “ แก้วกลับกันเถอะฝนเริ
“ หนูนาเราจะหนีไปไหนได้ ดูสิผู้ชายน่ากลัวคนนั้นแค่เดินเฉยๆเขาก็เกือบทันเราแล้ว เอายังไงดีหนูนา “ แก้วที่วิ่งไปหันหลังมามองทางด้านหลังด้วยคามระแวงแล้วก็หวาดกลัวว่าผู้ชายคนนั้นตามมาถึงตรงไหนแล้ว แต่เมื่อเธอหันมาเจอเข้ากับชายโจงกระเบนแดงเธอก็ต้องตกใจ เพราะผู้ชายคนนั้นทั้งที่เดินเฉยๆก็ตามพวกเธอสองคนเกือบจะทันแล้ว ด้วยความหวาดกลัวแก้วเธอถามหนูนาว่าจะเอายังไงดี หนูนาที่วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเลย พอเธอได้ยินที่เพื่อนถามแบบนั้น สายตาของเธอก็มองเข้าไปเห็นทางแยกสองทาง ซึ่งทางหนึ่งเป็นทางมืด แต่คนเดินไปเยอะมาก แต่อีกทางสว่าง แต่มีคนเดินแยกออกไปน้อยเรียกว่าน้อยมาก เห็นแค่หลังไวๆเท่านั้น “ มึงจะหนีกูไปที่ใด กลับมารับโทษกับกูซะดีๆพวกมนุษย์บาป……ฮ่าๆฮ่าๆฮ่า “ ระหว่างที่หนูนาจับมือแก้วยืนมองทางแยกอยู่ว่าเธอจะไปทางไหนดี โจงกระเบนแดงที่ตามพวกเธอมานั้นก็พูดเสียงกังวารออกมาว่าพวกเธอจะหนีไปไหนกัน เสียงกังวารที่ดุดันแฝงไปด้วยพลังอำนาจบวกกับเสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาทำให้ความกลัว ที่มีอยู่เดิมทีอยู่แล้ว นั้นเลยทำให้หนูนาต้องรีบตัดสินใจในทันที “ หนูนาเอายังไงดี หนูนา เร็วเข้าหนูนา ผู้ชายคนนั้นตามเราจะทันอยู่แล้ว
กลับมาที่ปัจจุบันหลังจากที่ทั้งสองสาวจัดเก็บทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยตะวันก็ตกดินเป็นที่เรียบร้อย หนูนาที่หิวข้าวอย่างกับจะกินช้างทั้งตัวได้เธอก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาแก้ว แต่ระหว่างที่เธอจะเดินเข้ามาหาแก้วที่จัดเก็บห้องนอนอยู่นั้น อยู่ๆหนูนาก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเข้ามากระทบร่างเธอ วูบ…….“ เอะ ทำไมอยู่ๆขนลุกว่ะ “ หนูนาเมื่อมีลมอะไรบางอย่างมาประทะที่ร่างบางของเธอ เธอก็หยุดนิ่งพร้อมกับเอามือลูบที่แขนของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆขนถึงได้ลุกแบบนี้ “ หนูนาเธอเป็นอะไร รึเปล่า “ แก้วที่เก็บของเสร็จพอดี เธอก็ออกมาแต่ก็ต้องงงเพราะหนูนาที่ยืนเอามือลูบแขนตัวเองอย่างกับว่าเป็นอะไร หนูนาที่ได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกด้วยความหิวเธอก็เลยเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที “ แก้วเราหิวมากเลยอ๊ะ ฉันมาเราไปหาข้าวแถวๆนี้กินกันเถอะ “ หนูนาเมื่อเห็นเพื่อนออกมาจากห้องพอดี เธอก็เดินเเอามือลูบท้องเข้าหาแก้ว พร้อมกับทำหน้าตาน่ารักบอกกับเพื่อนว่าตัวเองหิว แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูเพื่อน จากนั้นทั้งสองก็ออกไปหาอะไรกินกัน เพราะแก้วก็หิวแล้วเหมือนกัน ร้านก๋วยเตี
บลู๊………บลู๊……..บลู๊ แคว๊ก………แคว๊ก……..แคว๊กหลังจากที่แก้วกับหนูนากินก๋วยเตี๊ยวกันเสร็จเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นซอยเปลี่ยวบวกับเธอรู้สึกเหนื่อยล้ากับการเดินทางมาที่นี้ นั้นเยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เพราะ ทั้งคู่ตอนนี้ต่างก็แยกย้ายกันไปนอนห้งอของใครของมัน ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนหลับอยู่นั้น อยู่ๆเสียงหมาแล้วก็เสียงเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขูดที่พื้นไม้กระดาน แก้วกับหนูนาที่นอนกันคนละห้องอยู่ๆทั้งคู่ก็โดนเสียงของหมาและก็เสียงของอะไรบางอย่างขูดอยู่ที่พื้นบ้าน พอแก้วได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เธอเห็นตั้งแต่เข้ามาที่นี้แล้วเธอก็นั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ผิดกับหนูนาเธอไม่เห็นแต่เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็ลุกงัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตา ก่อนจะเดินมาเปิดประตูดูว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของอะไรกันแน่ทำไมมาดังรบกวนเวลาเธอนอน ขู๊ด……..แคร๊ก……..ขู๊ด…..แคว๊ก……..ขู๊ด บลู๊……..บลู๊………บลู๊“ เงียบหน่อยได้ไหมว่ะ ทั้งหมาทั้งผีเลย ไม่รู้เหรอว่าคนเหนื่อย แม่งเอ้ย…….” หนูนาที่นอนหลับอยู่ของเธอดีๆ พอเธอโดนรบกวนเวลานอนแบบน
“ สวัสดีคะ หนูชื่อหนูนาส่วนนี้เพื่อนหนูชื่อแก้วคะไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีเรื่องอะไรให้เราช่วยรึเปล่าคะ “ หนูนา เธอเชิญแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งที่ห้องรับแขก พร้อมกับแนะนำตัวกับแขกว่าตนกับเพื่อนชื่ออะไร สารวัตรดินแดนเมื่อได้ยินชื่อของสาวน้อยที่ชื่อแก้วเขาก็รู้สึกว่าเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้สายตาของเขาไม่สามารถละจากเธอได้เลย เมื่อแก้วเห็นสายตาของชายหนุ่มที่เอาแต่มองมาที่เธอสาวน้อยก็รู้สึกเขิลอายอย่างอธิบายไม่ถูกเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหัวใจสั่น เธอหัวใจสั่นไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าใจสั่นเพราะชายตรงหน้าหล่อก็ไม่รู้ “ เอ้อ…ครับ ครับ สวัสดีครับ “ สารวัตรแดนดินเมื่อสองสาวแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็มารู้สึกตัวเมื่อถูกสายตาของหนูนาที่มองมายังเขาอย่างแปลกใจว่าทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนของเธอ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกชอบใจ พอหมวดแดนเห็นแบบนั้นเขาก็รีบดึงสติกลับมาทันทีก่อนจะกล่าวสวัสดีตอบกลับด้วยท่าทางเสียอากรและก็พูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อทั้งหมดแนะนำตัวกันเสร็จตำรวจหล่อก็เริ่มสอบสัมภาษเด็กสาวทั้งสองคนทันที ด้านสารวัตรเอกสิทธิ์ “ นี้มันรอยอะไรว่ะ “ ระหว่างที่สารวัตรเอ
แคร๊ก….แคร๊ก……แคร๊ก “ โอ๊ยยยยย อะไรกันเสียงดังแต่เช้าเลย….” หนูนาที่นอนหลับไ/ปหลังจากที่เธอจัดการกับผีและก็ของที่เธอย้ายเข้ามาด้วยความเหนื่อยล้าเธอก็นอนหลับสนิทอย่างกับซ้อมตายก็ว่าได้ แต่ระหว่างที่เธอนนอหลับโดยที่ไม่มีอะไรมารบกวนตลอดทั้งคืน แต่เธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงรบกวนที่อยู่ข้างบ้าน “ เจอแล้ว เจอแล้วครับสารวัตร “ เสียงของใครบางคนเรียกผู้เป็นเจ้านายให้มาดูบางบางที่พวกเขากำลังขุดอยู่ แก้วที่ตื่นมาเจอกับเหตุการณ์ทางนอกหน้าต่างเพราะเสียงรบกวนของกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ เธอก็เลยตื่นขึ้นมาเจอกับคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งและก็กองทัพตำรวจที่มาทำอะไรก็ไม่รู้ที่ใต้ต้นไทรที่อยู่ติดกับบ้านที่เธฮเช่าอยู่ ก๊อกๆ ก๊อกๆ “ หนูนาตื่นเร็วเข้า หนูนา “ เสียงเคาะประตูที่ดังอย่างกับจะพังเข้ามาในห้อง หนูนาเมื่อได้ยินเพื่อนรักเรียกเสียงดังและก็เคาะประตูเสียงดังอย่างกับว่ามีคนตายเธอก็เกาหัวด้วยความหงุดงิดก่อนจะเดินมาเปิดประตู ปัง ปัง ปัง “ โอ๊ยยยยยยย แก้วนี้มันอะไรกันห่ะ ฉันเพิ่งได้นอนตอนที่3เองนะ เธอจะมาเคาะปลุกฉันทำไมแต่เช้าเนี่ย “ หนูนา ที่นอนเมื่อตอนเช้ามืดนี้เองเมื่อโดนรบกวนการนอน เธอก็รู้สึกหงุด
บลู๊………บลู๊……..บลู๊ แคว๊ก………แคว๊ก……..แคว๊กหลังจากที่แก้วกับหนูนากินก๋วยเตี๊ยวกันเสร็จเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นซอยเปลี่ยวบวกับเธอรู้สึกเหนื่อยล้ากับการเดินทางมาที่นี้ นั้นเยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เพราะ ทั้งคู่ตอนนี้ต่างก็แยกย้ายกันไปนอนห้งอของใครของมัน ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนหลับอยู่นั้น อยู่ๆเสียงหมาแล้วก็เสียงเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขูดที่พื้นไม้กระดาน แก้วกับหนูนาที่นอนกันคนละห้องอยู่ๆทั้งคู่ก็โดนเสียงของหมาและก็เสียงของอะไรบางอย่างขูดอยู่ที่พื้นบ้าน พอแก้วได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เธอเห็นตั้งแต่เข้ามาที่นี้แล้วเธอก็นั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ผิดกับหนูนาเธอไม่เห็นแต่เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็ลุกงัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตา ก่อนจะเดินมาเปิดประตูดูว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของอะไรกันแน่ทำไมมาดังรบกวนเวลาเธอนอน ขู๊ด……..แคร๊ก……..ขู๊ด…..แคว๊ก……..ขู๊ด บลู๊……..บลู๊………บลู๊“ เงียบหน่อยได้ไหมว่ะ ทั้งหมาทั้งผีเลย ไม่รู้เหรอว่าคนเหนื่อย แม่งเอ้ย…….” หนูนาที่นอนหลับอยู่ของเธอดีๆ พอเธอโดนรบกวนเวลานอนแบบน
กลับมาที่ปัจจุบันหลังจากที่ทั้งสองสาวจัดเก็บทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยตะวันก็ตกดินเป็นที่เรียบร้อย หนูนาที่หิวข้าวอย่างกับจะกินช้างทั้งตัวได้เธอก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาแก้ว แต่ระหว่างที่เธอจะเดินเข้ามาหาแก้วที่จัดเก็บห้องนอนอยู่นั้น อยู่ๆหนูนาก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเข้ามากระทบร่างเธอ วูบ…….“ เอะ ทำไมอยู่ๆขนลุกว่ะ “ หนูนาเมื่อมีลมอะไรบางอย่างมาประทะที่ร่างบางของเธอ เธอก็หยุดนิ่งพร้อมกับเอามือลูบที่แขนของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆขนถึงได้ลุกแบบนี้ “ หนูนาเธอเป็นอะไร รึเปล่า “ แก้วที่เก็บของเสร็จพอดี เธอก็ออกมาแต่ก็ต้องงงเพราะหนูนาที่ยืนเอามือลูบแขนตัวเองอย่างกับว่าเป็นอะไร หนูนาที่ได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกด้วยความหิวเธอก็เลยเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที “ แก้วเราหิวมากเลยอ๊ะ ฉันมาเราไปหาข้าวแถวๆนี้กินกันเถอะ “ หนูนาเมื่อเห็นเพื่อนออกมาจากห้องพอดี เธอก็เดินเเอามือลูบท้องเข้าหาแก้ว พร้อมกับทำหน้าตาน่ารักบอกกับเพื่อนว่าตัวเองหิว แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูเพื่อน จากนั้นทั้งสองก็ออกไปหาอะไรกินกัน เพราะแก้วก็หิวแล้วเหมือนกัน ร้านก๋วยเตี
“ หนูนาเราจะหนีไปไหนได้ ดูสิผู้ชายน่ากลัวคนนั้นแค่เดินเฉยๆเขาก็เกือบทันเราแล้ว เอายังไงดีหนูนา “ แก้วที่วิ่งไปหันหลังมามองทางด้านหลังด้วยคามระแวงแล้วก็หวาดกลัวว่าผู้ชายคนนั้นตามมาถึงตรงไหนแล้ว แต่เมื่อเธอหันมาเจอเข้ากับชายโจงกระเบนแดงเธอก็ต้องตกใจ เพราะผู้ชายคนนั้นทั้งที่เดินเฉยๆก็ตามพวกเธอสองคนเกือบจะทันแล้ว ด้วยความหวาดกลัวแก้วเธอถามหนูนาว่าจะเอายังไงดี หนูนาที่วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเลย พอเธอได้ยินที่เพื่อนถามแบบนั้น สายตาของเธอก็มองเข้าไปเห็นทางแยกสองทาง ซึ่งทางหนึ่งเป็นทางมืด แต่คนเดินไปเยอะมาก แต่อีกทางสว่าง แต่มีคนเดินแยกออกไปน้อยเรียกว่าน้อยมาก เห็นแค่หลังไวๆเท่านั้น “ มึงจะหนีกูไปที่ใด กลับมารับโทษกับกูซะดีๆพวกมนุษย์บาป……ฮ่าๆฮ่าๆฮ่า “ ระหว่างที่หนูนาจับมือแก้วยืนมองทางแยกอยู่ว่าเธอจะไปทางไหนดี โจงกระเบนแดงที่ตามพวกเธอมานั้นก็พูดเสียงกังวารออกมาว่าพวกเธอจะหนีไปไหนกัน เสียงกังวารที่ดุดันแฝงไปด้วยพลังอำนาจบวกกับเสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาทำให้ความกลัว ที่มีอยู่เดิมทีอยู่แล้ว นั้นเลยทำให้หนูนาต้องรีบตัดสินใจในทันที “ หนูนาเอายังไงดี หนูนา เร็วเข้าหนูนา ผู้ชายคนนั้นตามเราจะทันอยู่แล้ว
ซ่า……ซู่…..ฟิ๊ว…..กระท่อมตีนเขา “ อ๊ะ อ๊ะ ฝนตก ฝนตก เห้อ……กำลังได้เยอะเลยรีบตกเร็วจริง “ ระหว่างที่แก้วกับหนูนาขุดหนอไม้กันอย่างขะมักเขม้นอยู่นั้น ฝนที่ตั้งเคร้าว่าจะตกก็ตกลงมาอย่างแรงซะงันดีที่ทั้งสองลงมาก่อนที่ฝนจะตกแรง แต่ทั้งคู่ก็ยังกลับไม่ถึงบ้านถึงแม้ว่าจะลงมาจากเขาแล้วก็ตามแต่ก็ยังไปไม่ถึงบ้านเพราะฝนตกอย่างกับฟ้ารั่วซะงัน ด้วยความที่หนูนากำลังจะได้หนอไม้มาเยอะ เมื่อฝนตกมาขัดจังหวะของการหาเงินของเธอ นั้นเลยทำให้หนูนาบ่นอุปออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็อดขำเพื่อนไ่ด้ก่อนจะพูดออกมาว่า “ เอานาพรุ่งนี้ค่อยมาก็ได้ ฮ่าๆฮ่าๆ” แก้วเธอ พูดปลอบใจเพื่อนพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างนึกขำคนเป็นเพื่อน หนูนาที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็ได้แต่ทำหน้าหมุ๋ยแล้วก็เดินมานั่งที่แคร่เท่านั้น“ อื้มก็คงเป็นอย่างนั้นแหละ จะทำยังไงได้ก็ท่านพระพิรุณปวดฉี่นี้หนา “ หนูนาเมื่อมานั่งที่แคร่เธอก็บ่นอุบออกมาอย่างคนไม่ได้คิดอะไร แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็เดินมานั่งข้างเพื่อนพร้อมกับยิ้มอย่างนึกเอ็นดูเพื่อนเท่านั้นโดยที่เธอไม่พูดอะไรเพราะเธอเป็นคนพูดน้อย เวลาต่อมา “ แก้วกลับกันเถอะฝนเริ
ณ เมืองหลวงของไทย “ สวัสดีคะ หนูนาคะที่โทรหาพี่เมื่อวานนี้คะ “ หนูนากับเพื่อนรักที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาตามหาฝัน หญิงวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าพี่ เธอก็ถึงกับยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ หนูนาที่เป็นคนฉลาดเธออยู่เป็นพอเธอเห็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เธอกับเพื่อนติดต่อขอเช่า หนูนาสวัสดีทักทายพร้อมกับเรียกเจ๊ตรงหน้าว่าพี่ นั้นก็ทำให้เจ๊เจ้าของบ้านรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “ สวัสดีจ๊ะ มาๆเข้ามาดูข้างในก่อนเลยจ๊ะดูสิว่าพอจะอยู่ได้ไหม “ เจ๊เจ้าของบ้านเรียกให้เด็กน้อยเข้ามาดูภายในบ้าน หนูนาแล้วก็แก้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกดีใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินตามเข้าไป แก๊ก แอ๊ด…… ผลึบ “ แค๊ก แค๊ก “ เมื่อเจ๊เจ้าของบ้านเปิดประตูไม้เก่าๆออกเท่านั้นแหละ หนูนา แก้ว แล้วก็เจ๊เจ้าของบ้านถึงกับสลักฝุ่นที่อยู่ภายในบ้าน ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์เลือกมากมายเพราะบ้านหลังนี้ราคาถูกแถมยังเป็นบ้านที่อยู่อย่างส่วนตัวอีกด้วย ต่อให้สกปรกแค่ไหนถ้ามันพักอาศัยแล้วก็ราคาถูกทั้งคู่ก็แฮปปี้แล้ว “ เป็นไงจ๊ะ พออยู่ได้ไหมทำความสะอาดหน่อย ก็หน้าอยู่แล้วละ “ เจ๊เจ้าของบ้านเอามือปัดฝุ่นตรงหน้าไปมาพร้อมกับถามเด็กสาวสองคนต