กลับมาที่ปัจจุบัน
หลังจากที่ทั้งสองสาวจัดเก็บทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยตะวันก็ตกดินเป็นที่เรียบร้อย หนูนาที่หิวข้าวอย่างกับจะกินช้างทั้งตัวได้เธอก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาแก้ว แต่ระหว่างที่เธอจะเดินเข้ามาหาแก้วที่จัดเก็บห้องนอนอยู่นั้น อยู่ๆหนูนาก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเข้ามากระทบร่างเธอ วูบ……. “ เอะ ทำไมอยู่ๆขนลุกว่ะ “ หนูนาเมื่อมีลมอะไรบางอย่างมาประทะที่ร่างบางของเธอ เธอก็หยุดนิ่งพร้อมกับเอามือลูบที่แขนของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆขนถึงได้ลุกแบบนี้ “ หนูนาเธอเป็นอะไร รึเปล่า “ แก้วที่เก็บของเสร็จพอดี เธอก็ออกมาแต่ก็ต้องงงเพราะหนูนาที่ยืนเอามือลูบแขนตัวเองอย่างกับว่าเป็นอะไร หนูนาที่ได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกด้วยความหิวเธอก็เลยเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที “ แก้วเราหิวมากเลยอ๊ะ ฉันมาเราไปหาข้าวแถวๆนี้กินกันเถอะ “ หนูนาเมื่อเห็นเพื่อนออกมาจากห้องพอดี เธอก็เดินเเอามือลูบท้องเข้าหาแก้ว พร้อมกับทำหน้าตาน่ารักบอกกับเพื่อนว่าตัวเองหิว แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูเพื่อน จากนั้นทั้งสองก็ออกไปหาอะไรกินกัน เพราะแก้วก็หิวแล้วเหมือนกัน ร้านก๋วยเตี๊ยวข้างทาง “ ป้าจ๊ะเส้นเล็กสองจ๊ะ “ หนูนา เธอเดินเข้ามาสั่งก๋วยเต๊ยวที่ดูเหมือนว่าจะมีแค่ร้านเดียวเท่้านั้นที่อยู่ระแวกนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้งที่บ้านคนก็เยอะแต่กับไม่มีรถผุกผล่าน ส่วนร้านก๋วยเตี๊ยวนี้ก็เป็นหญิงวัยกลางคนกับสามี แก้วเธอนั่งรออยู่ที่โต๊ะเธอก็หันหน้ามองซ้าย มองขวา ไปเรื่อยเปื่อยตามประสาของเธอ “ ได้สิ // หนูสองคนมาจากไหนกันทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลยละจ๊ะ “ เจ๊เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๊ยว เอ้ยถามหนูนาออกมาพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตร จากนั้นเธอก็หยิบเอาเส้นก๋วยเตี๊ยวกับชามมาเพื่อทำก๋วยเต๊ยวให้สองสาว หนูนาเมื่อโดนถามแบบนั้นเธอก็ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวเช่นเดียวกันก่อนจะตอบเธอออกมาว่า “ สวัสดีจ๊ะพี่ หนูกับเพื่อนมาจากอีสานจ๊ะเราสองคนมาเรียนแล้วก็ว่าจะหาทำงานที่นี้จ๊ะ // ฝากเนื้อ ฝากตัวด้วยนะจ๊ะพี่ “ หนูนา เธอตอบเจ๊เจ้าของร้านก๋วยเต๊ยว อย่างเป็นมิตรแล้วก็สดใส เจ๊เจ้าของร้านเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอที่ลวกก๋วยเตี๊ยวอยู่ก็ส่งยิ้มตอบให้เธอตอบ เมื่อหนูนากับเจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวทำความรู้จักกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หนูนาก็มานั่งเพื่อรอก๋วยเตี๊ยว “ แก้วเป็นอะไรไป “ หนูนา ที่เพิ่งย่อนก้นลงเธอก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะแก้วเงียบพร้อมกับสายตาของเธอที่มองตรงไปยังถนน ด้วยสายตาที่ดูหวาดกลัว “ หนูนา หนูนา “ “ ก๋วยเต๊ยวมาแล้วจ๊ะ “ ระหว่างที่แก้วกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาด้วยสีหน้าตื่นกลัวอยู่นั้น เจ๊เจ้าของวร้านก๋วยเตี๊ยวก็เดินถือชามก๋วยเตี๊ยวเข้ามาเสริฟ นั้นเลยทำให้แก้วกับหนูนาหันมาสนใจสิ่งที่เข้ามาใหม่ “ เอ้อ หนูสองคนชื่อะไรเหรอจ๊ะ แล้วว่าแต่พวกหนูพักอยู่ที่ไหนกัน “ ด้วยความที่ซอยนี้ ไม่ค่อยมีคนมาอยู่ แล้วบ้านแตา่ระหลังก็อยู่ห่างกัน จะมีแค่พวกขี้ยาเท่านั้นที่จะผ่านเส้นทางนี้เพราะมันเปลี่ยว นั้นเลยทำให้เจ๊เจ้าของร้านสงสัยว่าเด็กสาวหน้าตาดีสองคนนี้จะมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เมียพวกขี้ยาเจ๊ก็เลยไม่เชื่อ หนูนา “ หนูชื่อหนูนา ส่วนนี้แก้วคะ เราสองคนเป็นเพื่อนกันแล้วเราสองคนก็พักอยู่ที่บ้านหัวโค้งนู่นอ๊ะคะ “ หนูนา เธอยิ้มหวานพร้อมกับแนะนำตัวเองแล้วก็แนะนำเพื่อน แก้วเธอก็ไหว้หญิงตรงหน้าอย่างมีมารยาท แต่ดูเหมือน ว่าเจ๊เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยว หน้าตาของเธอตอนนี้ดูตื่นตกใจเป็นอย่างมาก แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็รู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นแค่เธอได้ยินว่าเราสองคนพักที่ ทำไมต้องทำหน้าตาตื่นกลัวแบบนั้น “ เอ้อ เจ๊คะ เจ๊ เจ๊ เจ๊เป็นอะไรไปคะ “ แก้วที่เห็นเจ๊เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวอยู่ๆเธอก็เงียบไป แก้วก็เลยเรียกเจ๊คนนั้นอยู่นาน เจ๊เจ้าของร้านที่โดนเรียกย้ำๆเธอก็ตกใจจนสะดุ้งอย่างได้สติ แล้วก็ทำท่าจะพูดอะไรออกมา “ นี้หนูสองคนไม่รู้เหรอว่า…..” “ ว่าอะไร “ ระหว่างที่เจ๊เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวกำลังจะ พูดกับแก้วแล้วก็หนูนา อยู่ๆเจ๊เจ้าของบ้านเช่าที่แก้วกับหนูนาเช่าอยู่ก็เดินเข้ามา พร้อมกับพูดกับเจ๊ร้านก๋วยเตี๊ยวด้วยน้ำเสียงพร้อมกับสายตาที่ดุดัน เจ๊ร้านก๋วยเตี๊ยวเมื่อเห็นเจ๊เขียวเจ้าของบ้านที่หนูนากับแก้วเช่าอยู่ เธอก็ทำท่าหวาดกลัวแล้วก็พูดโบกไม้ อย่างกับว่าเรื่องที่เธอพูดเมื่อกี่ไม่ได้มีเรื่องอะไร จากนั้นเธอก็รีบหนีหน้าของเจ๊เจ้าของบ้าน แก้วกับหนูนา มองหน้าเจ๊เจ้าของบ้านที่เธอเช่าอยู่ด้วยสายตาแปลกประหลาดใจ เพราะตอนที่เธอเมื่อตอนเช้าป้าเขียวไม่ได้มีท่าทีแบบนี้ นั้นเลยทำให้ทั้งสองคนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เจ๊เขียวเธอมองหน้าหนูนา กับแก้วแป๊บเดียวจากนั้นป้าแกก็เดินหนีออกมาโดยที่ไม่พูดหรือว่ามองเธออีกครั้ง การกระทำของเจ๊เขียวทำเอาหนูนากับแก้วสงสัยเป้นอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น “ แก้วเธอคิดว่ายังไง “ หนูนา หันมาถามเพื่อนอย่างอยากรู้ว่าแก้วมีความคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น แก้วที่รู้และก็เห็นอยู่แล้วว่ามีเกิดอะไรขึ้น เพราะตั้งแต่ก้าวขามาเยียบซอยนี้ เธอเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่มีชีวิตอยู่ที่นี้เลย แต่เพราะหนูนากับเธอไม่มีเงินเพื่อที่จะไปเช่าบ้านดีๆเธอก็เลยเงียบหน้าจะดีกว่า แล้วอีกอย่างหนูนาเคยบอกกับเธอตั้งแต่ทั้งคู่กลับมาจากความตายว่า ห้ามแก้ว ทัก มหรือว่า พูดกับสิ่งที่มองไม่เห็นเด็ดขาด นั้นเลยทำให้แก้วแกล้งที่จะไม่รู้และก็แกล้งไม่เห็นทำตัวปกติ แต่บางทีเธอก็เผลอตัวไปบ้างด้วยความที่บางวิญญาณสภาพน่าสยดสยองแก้วก็มีบางทีที่เผลอตัว แต่เคราะห์ดีที่มีหนูนาคอยดึงสติเอาไว้ก็เลยไม่คอยเป็นเรื่องเท่าไหร่ “ อย่าถามเลย เธอก็รู้ว่าเรื่องอะไร “ ซูด…… แก้วเมื่อโดนเพื่อนถามแบบนั้นเธอก็แกล้งไม่สนใจพร้อมกับดูดเส้นก๋วยเตี๊ยวเข้าปากไปหนูนาที่ได้ยินแบบนั้น เธอก็มองเพื่อนอย่างรู้กันจากนั้นเธอก็ทำหน้าเหนื่อยหน่าย ก่อนจะดูดเส้นก๋วยเตี๊ยวเข้าปากตามเพื่อนไป ซูด……. “ เอ้อ นั้นสินะไม่หน้าถามเลย “ หนูนา เมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกบวกกับท่าทางของเพื่อนที่ไม่ปกติตั้งแต่เข้ามาเยียบที่นี้แล้ว หนูนาก็เลยเข้าใจ จากนั้นทั้งคู่ก็กินก๋วยเตี๊ยวไปอย่างเงียบๆเพราะทั้งคู่หิวมาก โดยที่มีสายตาของเจ๊เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวกับสามีมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัวแทน “ พี่ว่าเด็กสองคนนี้จะอยู่ที่นี้ได้กี่วัน “ เจ๊จิ๊ม เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวหันมาถามสามีเสียงเบาอย่างอยากรู้ว่า หนูนากับแก้ววจะอยู่ที่บ้านนี้ได้กี่วัน เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าใครที่มาอยู่ที่นี้ ไม่ตาย ก็สติหลุดเป็นบ้าไป “ กูว่าไม่เกิน อาทิตย์เชื่อกูเถอะ” สามีของเจ๊จิ๊ม พูดออกมาเสียงเบาจากนั้นทั้งคู่ก็มองสองเพื่อนรักที่นั่งกินก๋วยเตี๊ยวไปด้วยสายตาที่สงสารแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะเจ๊เขียวไม่ว่าใครต่างก็รู้ว่าแกเล่นของ คนแถวนี้ต่างก็กลัวแกกันทั้งนั้น กลัวว่าแกจะปล่อยของหรือว่าปล่อยผีออกมาหักคอ “ สงสารเนอะพี่ ยังเด็กอยู่เลย “ เจ๊จิ๊ม พูดออกมาด้วยความรู้สึกเวทนาเด็กสาวทั้งสองคนเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะเธอก็ไม่มีที่ไปเหมือนกันบลู๊………บลู๊……..บลู๊ แคว๊ก………แคว๊ก……..แคว๊กหลังจากที่แก้วกับหนูนากินก๋วยเตี๊ยวกันเสร็จเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นซอยเปลี่ยวบวกับเธอรู้สึกเหนื่อยล้ากับการเดินทางมาที่นี้ นั้นเยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เพราะ ทั้งคู่ตอนนี้ต่างก็แยกย้ายกันไปนอนห้งอของใครของมัน ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนหลับอยู่นั้น อยู่ๆเสียงหมาแล้วก็เสียงเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขูดที่พื้นไม้กระดาน แก้วกับหนูนาที่นอนกันคนละห้องอยู่ๆทั้งคู่ก็โดนเสียงของหมาและก็เสียงของอะไรบางอย่างขูดอยู่ที่พื้นบ้าน พอแก้วได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เธอเห็นตั้งแต่เข้ามาที่นี้แล้วเธอก็นั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ผิดกับหนูนาเธอไม่เห็นแต่เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็ลุกงัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตา ก่อนจะเดินมาเปิดประตูดูว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของอะไรกันแน่ทำไมมาดังรบกวนเวลาเธอนอน ขู๊ด……..แคร๊ก……..ขู๊ด…..แคว๊ก……..ขู๊ด บลู๊……..บลู๊………บลู๊“ เงียบหน่อยได้ไหมว่ะ ทั้งหมาทั้งผีเลย ไม่รู้เหรอว่าคนเหนื่อย แม่งเอ้ย…….” หนูนาที่นอนหลับอยู่ของเธอดีๆ พอเธอโดนรบกวนเวลานอนแบบน
แคร๊ก….แคร๊ก……แคร๊ก “ โอ๊ยยยยย อะไรกันเสียงดังแต่เช้าเลย….” หนูนาที่นอนหลับไ/ปหลังจากที่เธอจัดการกับผีและก็ของที่เธอย้ายเข้ามาด้วยความเหนื่อยล้าเธอก็นอนหลับสนิทอย่างกับซ้อมตายก็ว่าได้ แต่ระหว่างที่เธอนนอหลับโดยที่ไม่มีอะไรมารบกวนตลอดทั้งคืน แต่เธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงรบกวนที่อยู่ข้างบ้าน “ เจอแล้ว เจอแล้วครับสารวัตร “ เสียงของใครบางคนเรียกผู้เป็นเจ้านายให้มาดูบางบางที่พวกเขากำลังขุดอยู่ แก้วที่ตื่นมาเจอกับเหตุการณ์ทางนอกหน้าต่างเพราะเสียงรบกวนของกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ เธอก็เลยตื่นขึ้นมาเจอกับคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งและก็กองทัพตำรวจที่มาทำอะไรก็ไม่รู้ที่ใต้ต้นไทรที่อยู่ติดกับบ้านที่เธฮเช่าอยู่ ก๊อกๆ ก๊อกๆ “ หนูนาตื่นเร็วเข้า หนูนา “ เสียงเคาะประตูที่ดังอย่างกับจะพังเข้ามาในห้อง หนูนาเมื่อได้ยินเพื่อนรักเรียกเสียงดังและก็เคาะประตูเสียงดังอย่างกับว่ามีคนตายเธอก็เกาหัวด้วยความหงุดงิดก่อนจะเดินมาเปิดประตู ปัง ปัง ปัง “ โอ๊ยยยยยยย แก้วนี้มันอะไรกันห่ะ ฉันเพิ่งได้นอนตอนที่3เองนะ เธอจะมาเคาะปลุกฉันทำไมแต่เช้าเนี่ย “ หนูนา ที่นอนเมื่อตอนเช้ามืดนี้เองเมื่อโดนรบกวนการนอน เธอก็รู้สึกหงุด
“ สวัสดีคะ หนูชื่อหนูนาส่วนนี้เพื่อนหนูชื่อแก้วคะไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีเรื่องอะไรให้เราช่วยรึเปล่าคะ “ หนูนา เธอเชิญแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งที่ห้องรับแขก พร้อมกับแนะนำตัวกับแขกว่าตนกับเพื่อนชื่ออะไร สารวัตรดินแดนเมื่อได้ยินชื่อของสาวน้อยที่ชื่อแก้วเขาก็รู้สึกว่าเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้สายตาของเขาไม่สามารถละจากเธอได้เลย เมื่อแก้วเห็นสายตาของชายหนุ่มที่เอาแต่มองมาที่เธอสาวน้อยก็รู้สึกเขิลอายอย่างอธิบายไม่ถูกเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหัวใจสั่น เธอหัวใจสั่นไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าใจสั่นเพราะชายตรงหน้าหล่อก็ไม่รู้ “ เอ้อ…ครับ ครับ สวัสดีครับ “ สารวัตรแดนดินเมื่อสองสาวแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็มารู้สึกตัวเมื่อถูกสายตาของหนูนาที่มองมายังเขาอย่างแปลกใจว่าทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนของเธอ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกชอบใจ พอหมวดแดนเห็นแบบนั้นเขาก็รีบดึงสติกลับมาทันทีก่อนจะกล่าวสวัสดีตอบกลับด้วยท่าทางเสียอากรและก็พูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อทั้งหมดแนะนำตัวกันเสร็จตำรวจหล่อก็เริ่มสอบสัมภาษเด็กสาวทั้งสองคนทันที ด้านสารวัตรเอกสิทธิ์ “ นี้มันรอยอะไรว่ะ “ ระหว่างที่สารวัตรเอ
ณ เมืองหลวงของไทย “ สวัสดีคะ หนูนาคะที่โทรหาพี่เมื่อวานนี้คะ “ หนูนากับเพื่อนรักที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาตามหาฝัน หญิงวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าพี่ เธอก็ถึงกับยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ หนูนาที่เป็นคนฉลาดเธออยู่เป็นพอเธอเห็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เธอกับเพื่อนติดต่อขอเช่า หนูนาสวัสดีทักทายพร้อมกับเรียกเจ๊ตรงหน้าว่าพี่ นั้นก็ทำให้เจ๊เจ้าของบ้านรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “ สวัสดีจ๊ะ มาๆเข้ามาดูข้างในก่อนเลยจ๊ะดูสิว่าพอจะอยู่ได้ไหม “ เจ๊เจ้าของบ้านเรียกให้เด็กน้อยเข้ามาดูภายในบ้าน หนูนาแล้วก็แก้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกดีใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินตามเข้าไป แก๊ก แอ๊ด…… ผลึบ “ แค๊ก แค๊ก “ เมื่อเจ๊เจ้าของบ้านเปิดประตูไม้เก่าๆออกเท่านั้นแหละ หนูนา แก้ว แล้วก็เจ๊เจ้าของบ้านถึงกับสลักฝุ่นที่อยู่ภายในบ้าน ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์เลือกมากมายเพราะบ้านหลังนี้ราคาถูกแถมยังเป็นบ้านที่อยู่อย่างส่วนตัวอีกด้วย ต่อให้สกปรกแค่ไหนถ้ามันพักอาศัยแล้วก็ราคาถูกทั้งคู่ก็แฮปปี้แล้ว “ เป็นไงจ๊ะ พออยู่ได้ไหมทำความสะอาดหน่อย ก็หน้าอยู่แล้วละ “ เจ๊เจ้าของบ้านเอามือปัดฝุ่นตรงหน้าไปมาพร้อมกับถามเด็กสาวสองคนต
ซ่า……ซู่…..ฟิ๊ว…..กระท่อมตีนเขา “ อ๊ะ อ๊ะ ฝนตก ฝนตก เห้อ……กำลังได้เยอะเลยรีบตกเร็วจริง “ ระหว่างที่แก้วกับหนูนาขุดหนอไม้กันอย่างขะมักเขม้นอยู่นั้น ฝนที่ตั้งเคร้าว่าจะตกก็ตกลงมาอย่างแรงซะงันดีที่ทั้งสองลงมาก่อนที่ฝนจะตกแรง แต่ทั้งคู่ก็ยังกลับไม่ถึงบ้านถึงแม้ว่าจะลงมาจากเขาแล้วก็ตามแต่ก็ยังไปไม่ถึงบ้านเพราะฝนตกอย่างกับฟ้ารั่วซะงัน ด้วยความที่หนูนากำลังจะได้หนอไม้มาเยอะ เมื่อฝนตกมาขัดจังหวะของการหาเงินของเธอ นั้นเลยทำให้หนูนาบ่นอุปออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็อดขำเพื่อนไ่ด้ก่อนจะพูดออกมาว่า “ เอานาพรุ่งนี้ค่อยมาก็ได้ ฮ่าๆฮ่าๆ” แก้วเธอ พูดปลอบใจเพื่อนพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างนึกขำคนเป็นเพื่อน หนูนาที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็ได้แต่ทำหน้าหมุ๋ยแล้วก็เดินมานั่งที่แคร่เท่านั้น“ อื้มก็คงเป็นอย่างนั้นแหละ จะทำยังไงได้ก็ท่านพระพิรุณปวดฉี่นี้หนา “ หนูนาเมื่อมานั่งที่แคร่เธอก็บ่นอุบออกมาอย่างคนไม่ได้คิดอะไร แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็เดินมานั่งข้างเพื่อนพร้อมกับยิ้มอย่างนึกเอ็นดูเพื่อนเท่านั้นโดยที่เธอไม่พูดอะไรเพราะเธอเป็นคนพูดน้อย เวลาต่อมา “ แก้วกลับกันเถอะฝนเริ
“ หนูนาเราจะหนีไปไหนได้ ดูสิผู้ชายน่ากลัวคนนั้นแค่เดินเฉยๆเขาก็เกือบทันเราแล้ว เอายังไงดีหนูนา “ แก้วที่วิ่งไปหันหลังมามองทางด้านหลังด้วยคามระแวงแล้วก็หวาดกลัวว่าผู้ชายคนนั้นตามมาถึงตรงไหนแล้ว แต่เมื่อเธอหันมาเจอเข้ากับชายโจงกระเบนแดงเธอก็ต้องตกใจ เพราะผู้ชายคนนั้นทั้งที่เดินเฉยๆก็ตามพวกเธอสองคนเกือบจะทันแล้ว ด้วยความหวาดกลัวแก้วเธอถามหนูนาว่าจะเอายังไงดี หนูนาที่วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเลย พอเธอได้ยินที่เพื่อนถามแบบนั้น สายตาของเธอก็มองเข้าไปเห็นทางแยกสองทาง ซึ่งทางหนึ่งเป็นทางมืด แต่คนเดินไปเยอะมาก แต่อีกทางสว่าง แต่มีคนเดินแยกออกไปน้อยเรียกว่าน้อยมาก เห็นแค่หลังไวๆเท่านั้น “ มึงจะหนีกูไปที่ใด กลับมารับโทษกับกูซะดีๆพวกมนุษย์บาป……ฮ่าๆฮ่าๆฮ่า “ ระหว่างที่หนูนาจับมือแก้วยืนมองทางแยกอยู่ว่าเธอจะไปทางไหนดี โจงกระเบนแดงที่ตามพวกเธอมานั้นก็พูดเสียงกังวารออกมาว่าพวกเธอจะหนีไปไหนกัน เสียงกังวารที่ดุดันแฝงไปด้วยพลังอำนาจบวกกับเสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาทำให้ความกลัว ที่มีอยู่เดิมทีอยู่แล้ว นั้นเลยทำให้หนูนาต้องรีบตัดสินใจในทันที “ หนูนาเอายังไงดี หนูนา เร็วเข้าหนูนา ผู้ชายคนนั้นตามเราจะทันอยู่แล้ว
“ สวัสดีคะ หนูชื่อหนูนาส่วนนี้เพื่อนหนูชื่อแก้วคะไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีเรื่องอะไรให้เราช่วยรึเปล่าคะ “ หนูนา เธอเชิญแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งที่ห้องรับแขก พร้อมกับแนะนำตัวกับแขกว่าตนกับเพื่อนชื่ออะไร สารวัตรดินแดนเมื่อได้ยินชื่อของสาวน้อยที่ชื่อแก้วเขาก็รู้สึกว่าเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้สายตาของเขาไม่สามารถละจากเธอได้เลย เมื่อแก้วเห็นสายตาของชายหนุ่มที่เอาแต่มองมาที่เธอสาวน้อยก็รู้สึกเขิลอายอย่างอธิบายไม่ถูกเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหัวใจสั่น เธอหัวใจสั่นไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าใจสั่นเพราะชายตรงหน้าหล่อก็ไม่รู้ “ เอ้อ…ครับ ครับ สวัสดีครับ “ สารวัตรแดนดินเมื่อสองสาวแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็มารู้สึกตัวเมื่อถูกสายตาของหนูนาที่มองมายังเขาอย่างแปลกใจว่าทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนของเธอ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกชอบใจ พอหมวดแดนเห็นแบบนั้นเขาก็รีบดึงสติกลับมาทันทีก่อนจะกล่าวสวัสดีตอบกลับด้วยท่าทางเสียอากรและก็พูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อทั้งหมดแนะนำตัวกันเสร็จตำรวจหล่อก็เริ่มสอบสัมภาษเด็กสาวทั้งสองคนทันที ด้านสารวัตรเอกสิทธิ์ “ นี้มันรอยอะไรว่ะ “ ระหว่างที่สารวัตรเอ
แคร๊ก….แคร๊ก……แคร๊ก “ โอ๊ยยยยย อะไรกันเสียงดังแต่เช้าเลย….” หนูนาที่นอนหลับไ/ปหลังจากที่เธอจัดการกับผีและก็ของที่เธอย้ายเข้ามาด้วยความเหนื่อยล้าเธอก็นอนหลับสนิทอย่างกับซ้อมตายก็ว่าได้ แต่ระหว่างที่เธอนนอหลับโดยที่ไม่มีอะไรมารบกวนตลอดทั้งคืน แต่เธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงรบกวนที่อยู่ข้างบ้าน “ เจอแล้ว เจอแล้วครับสารวัตร “ เสียงของใครบางคนเรียกผู้เป็นเจ้านายให้มาดูบางบางที่พวกเขากำลังขุดอยู่ แก้วที่ตื่นมาเจอกับเหตุการณ์ทางนอกหน้าต่างเพราะเสียงรบกวนของกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ เธอก็เลยตื่นขึ้นมาเจอกับคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งและก็กองทัพตำรวจที่มาทำอะไรก็ไม่รู้ที่ใต้ต้นไทรที่อยู่ติดกับบ้านที่เธฮเช่าอยู่ ก๊อกๆ ก๊อกๆ “ หนูนาตื่นเร็วเข้า หนูนา “ เสียงเคาะประตูที่ดังอย่างกับจะพังเข้ามาในห้อง หนูนาเมื่อได้ยินเพื่อนรักเรียกเสียงดังและก็เคาะประตูเสียงดังอย่างกับว่ามีคนตายเธอก็เกาหัวด้วยความหงุดงิดก่อนจะเดินมาเปิดประตู ปัง ปัง ปัง “ โอ๊ยยยยยยย แก้วนี้มันอะไรกันห่ะ ฉันเพิ่งได้นอนตอนที่3เองนะ เธอจะมาเคาะปลุกฉันทำไมแต่เช้าเนี่ย “ หนูนา ที่นอนเมื่อตอนเช้ามืดนี้เองเมื่อโดนรบกวนการนอน เธอก็รู้สึกหงุด
บลู๊………บลู๊……..บลู๊ แคว๊ก………แคว๊ก……..แคว๊กหลังจากที่แก้วกับหนูนากินก๋วยเตี๊ยวกันเสร็จเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นซอยเปลี่ยวบวกับเธอรู้สึกเหนื่อยล้ากับการเดินทางมาที่นี้ นั้นเยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เพราะ ทั้งคู่ตอนนี้ต่างก็แยกย้ายกันไปนอนห้งอของใครของมัน ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนหลับอยู่นั้น อยู่ๆเสียงหมาแล้วก็เสียงเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขูดที่พื้นไม้กระดาน แก้วกับหนูนาที่นอนกันคนละห้องอยู่ๆทั้งคู่ก็โดนเสียงของหมาและก็เสียงของอะไรบางอย่างขูดอยู่ที่พื้นบ้าน พอแก้วได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เธอเห็นตั้งแต่เข้ามาที่นี้แล้วเธอก็นั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ผิดกับหนูนาเธอไม่เห็นแต่เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็ลุกงัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตา ก่อนจะเดินมาเปิดประตูดูว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของอะไรกันแน่ทำไมมาดังรบกวนเวลาเธอนอน ขู๊ด……..แคร๊ก……..ขู๊ด…..แคว๊ก……..ขู๊ด บลู๊……..บลู๊………บลู๊“ เงียบหน่อยได้ไหมว่ะ ทั้งหมาทั้งผีเลย ไม่รู้เหรอว่าคนเหนื่อย แม่งเอ้ย…….” หนูนาที่นอนหลับอยู่ของเธอดีๆ พอเธอโดนรบกวนเวลานอนแบบน
กลับมาที่ปัจจุบันหลังจากที่ทั้งสองสาวจัดเก็บทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยตะวันก็ตกดินเป็นที่เรียบร้อย หนูนาที่หิวข้าวอย่างกับจะกินช้างทั้งตัวได้เธอก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาแก้ว แต่ระหว่างที่เธอจะเดินเข้ามาหาแก้วที่จัดเก็บห้องนอนอยู่นั้น อยู่ๆหนูนาก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเข้ามากระทบร่างเธอ วูบ…….“ เอะ ทำไมอยู่ๆขนลุกว่ะ “ หนูนาเมื่อมีลมอะไรบางอย่างมาประทะที่ร่างบางของเธอ เธอก็หยุดนิ่งพร้อมกับเอามือลูบที่แขนของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆขนถึงได้ลุกแบบนี้ “ หนูนาเธอเป็นอะไร รึเปล่า “ แก้วที่เก็บของเสร็จพอดี เธอก็ออกมาแต่ก็ต้องงงเพราะหนูนาที่ยืนเอามือลูบแขนตัวเองอย่างกับว่าเป็นอะไร หนูนาที่ได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกด้วยความหิวเธอก็เลยเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที “ แก้วเราหิวมากเลยอ๊ะ ฉันมาเราไปหาข้าวแถวๆนี้กินกันเถอะ “ หนูนาเมื่อเห็นเพื่อนออกมาจากห้องพอดี เธอก็เดินเเอามือลูบท้องเข้าหาแก้ว พร้อมกับทำหน้าตาน่ารักบอกกับเพื่อนว่าตัวเองหิว แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูเพื่อน จากนั้นทั้งสองก็ออกไปหาอะไรกินกัน เพราะแก้วก็หิวแล้วเหมือนกัน ร้านก๋วยเตี
“ หนูนาเราจะหนีไปไหนได้ ดูสิผู้ชายน่ากลัวคนนั้นแค่เดินเฉยๆเขาก็เกือบทันเราแล้ว เอายังไงดีหนูนา “ แก้วที่วิ่งไปหันหลังมามองทางด้านหลังด้วยคามระแวงแล้วก็หวาดกลัวว่าผู้ชายคนนั้นตามมาถึงตรงไหนแล้ว แต่เมื่อเธอหันมาเจอเข้ากับชายโจงกระเบนแดงเธอก็ต้องตกใจ เพราะผู้ชายคนนั้นทั้งที่เดินเฉยๆก็ตามพวกเธอสองคนเกือบจะทันแล้ว ด้วยความหวาดกลัวแก้วเธอถามหนูนาว่าจะเอายังไงดี หนูนาที่วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเลย พอเธอได้ยินที่เพื่อนถามแบบนั้น สายตาของเธอก็มองเข้าไปเห็นทางแยกสองทาง ซึ่งทางหนึ่งเป็นทางมืด แต่คนเดินไปเยอะมาก แต่อีกทางสว่าง แต่มีคนเดินแยกออกไปน้อยเรียกว่าน้อยมาก เห็นแค่หลังไวๆเท่านั้น “ มึงจะหนีกูไปที่ใด กลับมารับโทษกับกูซะดีๆพวกมนุษย์บาป……ฮ่าๆฮ่าๆฮ่า “ ระหว่างที่หนูนาจับมือแก้วยืนมองทางแยกอยู่ว่าเธอจะไปทางไหนดี โจงกระเบนแดงที่ตามพวกเธอมานั้นก็พูดเสียงกังวารออกมาว่าพวกเธอจะหนีไปไหนกัน เสียงกังวารที่ดุดันแฝงไปด้วยพลังอำนาจบวกกับเสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาทำให้ความกลัว ที่มีอยู่เดิมทีอยู่แล้ว นั้นเลยทำให้หนูนาต้องรีบตัดสินใจในทันที “ หนูนาเอายังไงดี หนูนา เร็วเข้าหนูนา ผู้ชายคนนั้นตามเราจะทันอยู่แล้ว
ซ่า……ซู่…..ฟิ๊ว…..กระท่อมตีนเขา “ อ๊ะ อ๊ะ ฝนตก ฝนตก เห้อ……กำลังได้เยอะเลยรีบตกเร็วจริง “ ระหว่างที่แก้วกับหนูนาขุดหนอไม้กันอย่างขะมักเขม้นอยู่นั้น ฝนที่ตั้งเคร้าว่าจะตกก็ตกลงมาอย่างแรงซะงันดีที่ทั้งสองลงมาก่อนที่ฝนจะตกแรง แต่ทั้งคู่ก็ยังกลับไม่ถึงบ้านถึงแม้ว่าจะลงมาจากเขาแล้วก็ตามแต่ก็ยังไปไม่ถึงบ้านเพราะฝนตกอย่างกับฟ้ารั่วซะงัน ด้วยความที่หนูนากำลังจะได้หนอไม้มาเยอะ เมื่อฝนตกมาขัดจังหวะของการหาเงินของเธอ นั้นเลยทำให้หนูนาบ่นอุปออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็อดขำเพื่อนไ่ด้ก่อนจะพูดออกมาว่า “ เอานาพรุ่งนี้ค่อยมาก็ได้ ฮ่าๆฮ่าๆ” แก้วเธอ พูดปลอบใจเพื่อนพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างนึกขำคนเป็นเพื่อน หนูนาที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็ได้แต่ทำหน้าหมุ๋ยแล้วก็เดินมานั่งที่แคร่เท่านั้น“ อื้มก็คงเป็นอย่างนั้นแหละ จะทำยังไงได้ก็ท่านพระพิรุณปวดฉี่นี้หนา “ หนูนาเมื่อมานั่งที่แคร่เธอก็บ่นอุบออกมาอย่างคนไม่ได้คิดอะไร แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็เดินมานั่งข้างเพื่อนพร้อมกับยิ้มอย่างนึกเอ็นดูเพื่อนเท่านั้นโดยที่เธอไม่พูดอะไรเพราะเธอเป็นคนพูดน้อย เวลาต่อมา “ แก้วกลับกันเถอะฝนเริ
ณ เมืองหลวงของไทย “ สวัสดีคะ หนูนาคะที่โทรหาพี่เมื่อวานนี้คะ “ หนูนากับเพื่อนรักที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาตามหาฝัน หญิงวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าพี่ เธอก็ถึงกับยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ หนูนาที่เป็นคนฉลาดเธออยู่เป็นพอเธอเห็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เธอกับเพื่อนติดต่อขอเช่า หนูนาสวัสดีทักทายพร้อมกับเรียกเจ๊ตรงหน้าว่าพี่ นั้นก็ทำให้เจ๊เจ้าของบ้านรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “ สวัสดีจ๊ะ มาๆเข้ามาดูข้างในก่อนเลยจ๊ะดูสิว่าพอจะอยู่ได้ไหม “ เจ๊เจ้าของบ้านเรียกให้เด็กน้อยเข้ามาดูภายในบ้าน หนูนาแล้วก็แก้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกดีใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินตามเข้าไป แก๊ก แอ๊ด…… ผลึบ “ แค๊ก แค๊ก “ เมื่อเจ๊เจ้าของบ้านเปิดประตูไม้เก่าๆออกเท่านั้นแหละ หนูนา แก้ว แล้วก็เจ๊เจ้าของบ้านถึงกับสลักฝุ่นที่อยู่ภายในบ้าน ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์เลือกมากมายเพราะบ้านหลังนี้ราคาถูกแถมยังเป็นบ้านที่อยู่อย่างส่วนตัวอีกด้วย ต่อให้สกปรกแค่ไหนถ้ามันพักอาศัยแล้วก็ราคาถูกทั้งคู่ก็แฮปปี้แล้ว “ เป็นไงจ๊ะ พออยู่ได้ไหมทำความสะอาดหน่อย ก็หน้าอยู่แล้วละ “ เจ๊เจ้าของบ้านเอามือปัดฝุ่นตรงหน้าไปมาพร้อมกับถามเด็กสาวสองคนต