ซ่า……ซู่…..ฟิ๊ว…..
กระท่อมตีนเขา “ อ๊ะ อ๊ะ ฝนตก ฝนตก เห้อ……กำลังได้เยอะเลยรีบตกเร็วจริง “ ระหว่างที่แก้วกับหนูนาขุดหนอไม้กันอย่างขะมักเขม้นอยู่นั้น ฝนที่ตั้งเคร้าว่าจะตกก็ตกลงมาอย่างแรงซะงันดีที่ทั้งสองลงมาก่อนที่ฝนจะตกแรง แต่ทั้งคู่ก็ยังกลับไม่ถึงบ้านถึงแม้ว่าจะลงมาจากเขาแล้วก็ตามแต่ก็ยังไปไม่ถึงบ้านเพราะฝนตกอย่างกับฟ้ารั่วซะงัน ด้วยความที่หนูนากำลังจะได้หนอไม้มาเยอะ เมื่อฝนตกมาขัดจังหวะของการหาเงินของเธอ นั้นเลยทำให้หนูนาบ่นอุปออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็อดขำเพื่อนไ่ด้ก่อนจะพูดออกมาว่า “ เอานาพรุ่งนี้ค่อยมาก็ได้ ฮ่าๆฮ่าๆ” แก้วเธอ พูดปลอบใจเพื่อนพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างนึกขำคนเป็นเพื่อน หนูนาที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็ได้แต่ทำหน้าหมุ๋ยแล้วก็เดินมานั่งที่แคร่เท่านั้น “ อื้มก็คงเป็นอย่างนั้นแหละ จะทำยังไงได้ก็ท่านพระพิรุณปวดฉี่นี้หนา “ หนูนาเมื่อมานั่งที่แคร่เธอก็บ่นอุบออกมาอย่างคนไม่ได้คิดอะไร แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็เดินมานั่งข้างเพื่อนพร้อมกับยิ้มอย่างนึกเอ็นดูเพื่อนเท่านั้นโดยที่เธอไม่พูดอะไรเพราะเธอเป็นคนพูดน้อย เวลาต่อมา “ แก้วกลับกันเถอะฝนเริ่มซาแล้ว “ หลังจากที่ฝนตกอย่างกับฟ้ารั่วหนูนาก็ปลุกแก้วที่นั่งหลับด้วยความออ่นเพลียบวกกับบรรยากาศของฝนตกเล่นเอาเธอหลับไม่รู้เรื่องตอนไหนไม่รู้ เมื่อแก้วได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกว่าฝนซา เธอก็งัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความออ่นเพลีย “ จ๊ะ “ แก้วที่ขยี้ตาเพื่อให้สายตาชินกับแสงหลังจากที่หลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เธอก็เดินมาหยิบตะกร้าหนอไม้ขึ้นมาสะพายจากนั้นทั้งสองก็เดินออกมาจากกระท่อมตีนเขาเพื่อกลับบ้าน แต่ระหว่างทางที่ทั้งสองเดินกลับบ้านอยู่นั้นอยู่ๆสิ่งที่ไม่คลาดฝันก็เกิดขึ้น เปรี้ยง “ เอ๊ะ ที่นี้ที่ไหนละเนี่ย “ แก้วที่เดินมากลับหนูนาอยู่ๆเธอก็ไม่เห็นหนูนาเพื่อนที่เดินด้วยกันกลับเธอ นั้นเลบยทำให้แก้วแปลกใจเป็นอย่างมากบวกกับทางที่เธอเดินในตอนนี้ดูไม่ชินตาเอาซะเลย นั้นเลยทำให้แก้วตกใจหันซ้าย หันขวามองสิ่งรอบๆตัวด้วยความแปลกใจว่าที่นี้ที่ไหน “ หนูนา หนูนา หนูนาเธออยู่ที่ไหน หนูนา “ แก้วเมื่อมองไปรอบๆแล้วไม่เจอเพื่อนเธอก็ตะโกนเรียกเพื่อนด้วยความตื่นตกใจ ว่าอยู่ๆเพื่อนที่เดินมาด้วยกันหายไปไหนทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี้คนเดียว แต่ระหว่างที่แก้วตื่นตะหนกเรียกเพื่อนลั้นป่าอยู่นั้น ก็มีกลุ่มคนหลายๆคนเดินตรงมาทางที่เธอยืนดู “ พี่คะ พี่คะ ลุงคะ ป้าคะ ยายคะ ตาคะ เห็นเพื่อนหนูไหมคะ “ แก้ว เธอเดินเขาหากลุ่มคนที่เดินตรงมาทางเธอด้วยความเงียบ แก้วเธอถามคนพวกนั้นด้วยท่าทางตื่นตะหนกเพราะตอนนี้เธอกลัวแล้วก็รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนมากๆ แต่ดูท่าคนที่เธอถามนั้นจะไม่ได้ยินหรือว่าสนใจอะไรที่แก้วพูดเลย กลุ่มคนมากมายที่เดินผ่านหน้าเธออยู่ตอนนี้ แต่ละคนก็เดินต่อแถวกันไปอย่างเงียบๆโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรกับใครเลย แก้วที่เห็นว่าคนพวกนี้ไม่ตอบอะไรเธอเลยเธอก็แปลกใจเป็นอย่างมาก แต่เพราะความกลัวแล้วก็เป็นห่วงเพื่อนเธอที่ไม่ได้คำตอบอะไรจากคนพวกนี้เธอก็เลยหันมาซ้าย ที่เป็นเส้นทางว่างเปล่าไม่มีคนเดินเลยสักคนแถมยังเงียบดูแล้วช่างน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก แต่ทางขวาที่มีกลุ่มคนมากมายเดินต่อแถวกันไปอย่างเงียบๆมีคนเดินเยอะถึงแม้จะไม่มีเสียงพูดคุยกันเลยก็ตาม แก้วที่ชั่งใจอย่างตัดสินใจว่าเธอจะไปทางไหนดี และแล้วเธอก็ตัดสินใจได้ว่าเธอจะไปทางไหน “ เอาว่ะ อย่างน้อยก็มีคนแต่ถ้าเราไปทางนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ทางนี้ถึงแม้จะแปลกๆก็ช่างเถอะอย่างน้อยเราก็มีเพื่อนไป “ แก้วที่ยืนตัดสินใจอยู่นั้นเธอก็ตัดสินใจได้ว่าเธอจะเลือกเดินไปทางไหน ซวก……ซาก……..ซวก…….ซาก…… ระหว่างทางที่เธอเดินไป แก้วเธอก็เห็นใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างทางแต่ดูเหมือนว่าคนที่นั่งอยู่ข้างทางนั้นจะทำอะไรกับตัวเองบางอย่าง ด้วยความสงสัยว่าชายที่นั่งอยู่ทางทางคนเดียวนั้นทำอะไรเธอก็เลยมองการกระทำของเขาว่าเขาทำอะไร “ อี๊ด…..” แก้วที่มองการกระทำของชายข้างทางว่าเขาทำอะไรอยู่นั้น อยู่ๆสิ่งที่ไม่หน้าจะเกิดขึ้นได้ก็เกิดขึ้นนั้นก็คือ ชายคนนั้นเอาเลื่อยมาเลื่อยแขนของตัวเอง ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้แก้วถึงกับสติแตกกรีดร้องออกมา แต่เคราะห์ดี ที่อยู่ๆหนูนาโผล่มาจากที่ไหนไม่รู้เอามือมาอุดปากของเธอเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงบรรเทิงแน่ “ จุ๊ๆ อย่ากรี๊ดนะแก้ว “ หนูนาที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ เมื่อเธอเห็นแก้วที่ทำท่าทางตื่นกลัวอยู่นั้นเธอก็รีบเอามือมาปิดปากเพื่อนเอาไว้ได้ทัน พร้อมกับทำท่าเอามือปิดปากแก้วเอาไว้พร้อมกับจุ๊ปากสั่งเพื่อนห้ามกรี๊ดแก้ว ที่เห็นหนูนา ความรู้สึกตื่นกลัวเมื่อกี่ก็หายเป็นปิดทิ้งเพราะตอนนี้เธอรู้สึกดีใจมากกว่าที่เจอเพื่อนรักของเธอ อยู่ตรงนี้ “ หนูนา เธอหายไปไหนมาแล้วทำไมเรามาอยู่ที่นี้กันได้ แล้ว แล้ว “ แก้วที่เห็นหนูนามาอยู่ตรงหน้า เธอก็สาดคำถามหาเพื่อนเป็นชุดๆเลย เพราะตอนแรกเธอเรียกหาหนูนาแล้วก็มองไปที่ไหนก็ไม่เห็นเพื่อน แต่ว่าอยู่ๆหนูนามาอยู่ตรงหน้าเธอได้ยังไง แล้วเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นตรงนี้มันคืออะไรเธอก็เลยถามหนูนาออกมาเป็นชุดหนูนาเธอรู้ว่าเพื่อนอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นมากมาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถามเธอก็เลยดึงเพื่อนมาทางนี้ก่อน แล้วก็บอกเพื่อนว่า “ อย่าเพิ่งถามอะไรเลยนะแก้ว ตามฉันมานี้ก่อนถ้าแกเห็นอะไรแกก็อย่าทักหรือว่าพูดอะไรเด็ดขาดเข้าใจไหม “ หนูนาเธอดึงแก้วให้ตามเธอมา พร้อมกับสั่งให้เพื่อนห้ามทัก ห้ามถาม หรือว่าส่งเสียงดังเด็ดขาด แก้วที่มีแต่ความสงสัยแล้วก็คำถามต่างๆมากมายอยู่เต็มหัว แต่เธอก็ต้องหยุดอยู่แค่นั้นเพราะตอนนี้ดูเหมือนว่ากลุ่มคนที่เดินกันอย่างเงียบๆหันมามองทางของพวกเธอ พร้อมกับหยุดเดินกัน ท่าทางของคนกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้ดูเหมือนซอมบี้มากเลย นั้นเลยทำให้แก้วทำตามที่หนูนาบอกทันที แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินอย่างเงียบๆไปกับกลุ่มคนมากมายอยู่นั้น ระหว่างทางก็มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และก็สาวสอง ที่ดูเหมือนกับว่าทำอะไรอยู่ข้างทางหน้าตาท่าทางของคนพวกนั้นดูทรมาน ดูเจ็บปวดแต่กลับไม่ได้ยินเสียงร้องเห็นเพียงแค่น้ำตาที่ไหลลงมาอาบทั้งสองแก้มเท่านั้น การกระทำของคนที่อยู่ข้างทางทำให้แก้วกับหนูนาแทบสติแตก คนหนึ่ง เอาค้อนปอนทุบมือตัวเองจนเละ พอมือเขาเละอย่างกับหมูบดจากนั้นมือนั้นก็ง้อกกลับมาใหม่จากนั้นเขาก็ทุบลงมาอีก ส่วนผู้หญิงอีกคน อยู่ๆเธอก็ใช้ช้อนตักดิน ตักทรายเข้าปากแล้วก็เขี้ยวกินอย่างกับว่าของตรงหน้าเป็นอาหาร แต่ระหว่างที่เธอตักกินทั้งน้ำตาอยู่นั้น อยู่ๆท้องของเธอก็ป้องขึ้นมาอย่างกับลูกโป่ง ก่อนจะระเบิดออกมาจน ตับไต ใส้ พุง ไหลออกมากองเต็มพื้น การกระทำของคนพวกนั้นทำให้แก้วกับหนูนาแทบสติหลุดออกมาโดยเฉพาะแก้ว ปึก “ กรี๊สสสสส หนูนาช่วยด้วย ช่วยเราด้วยหนูนา “ แก้วที่มองการกระทำของคนที่อยู่ข้างทางทั้งน้ำตาแห่งความกลัว อยู่ๆเธอก็เดินชนเข้ากับใครบางคนอย่างไม่ทันได้มอง แต่คนที่เธอชนนั้นเป็นชายตัวดำหน้าตาน่ากลัวนุ่งจงกระเบนสีแดง ตาของเขาที่มองมายังเธอดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก นั้นเลยทำให้แก้วที่เดินชนเข้าไปนั้นถึงกับกรีดร้องออกมาอย่างลืมตัวว่าสิ่งที่หนูนาบอกไปว่าห้ามทักหรือว่า ห้ามส่งเสียงดังนั้นได้หายไปหมดสิ้นแล้ว หนูนาที่เห็นเพื่อนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวอยู่นั้นเธอก็ได้วิ่งเข้ามากระชากแขนของแก้วเพื่อให้วิ่งหนีชายตัวดำโจงกระเบนแดงคนนี้ “ ไปแก้ว “ หนูนาดึงแขนของเพื่อนให้วิ่งตามมา ชายตัวดำจงกระเบนสีแดงเมื่อเห็นทั้งคนวิ่งหนีด้วยความตื่นกลัวเขาก็เดินตามทั้งคู่ทันทีด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่หน้าตากับดุดันน่ากลัวเป็นอย่างมาก “ หนูนา นี้ นี้มันเรื่องอะไรกันเนี่ยแล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันทำไมเขาเดินเร็วจังเราวิ่งกันนะเนี่ย “ แก้วที่ทั้งวิ่งอย่างทุลักทุเล เธอก็ถามเพื่อนออกมาอีกครั้ง หนูนาไม่มีเวลาที่จะตอบแก้วหรอกตอนนี้นอกจากพาเธอหนีผู้ชายคนนั้นให้ได้“ หนูนาเราจะหนีไปไหนได้ ดูสิผู้ชายน่ากลัวคนนั้นแค่เดินเฉยๆเขาก็เกือบทันเราแล้ว เอายังไงดีหนูนา “ แก้วที่วิ่งไปหันหลังมามองทางด้านหลังด้วยคามระแวงแล้วก็หวาดกลัวว่าผู้ชายคนนั้นตามมาถึงตรงไหนแล้ว แต่เมื่อเธอหันมาเจอเข้ากับชายโจงกระเบนแดงเธอก็ต้องตกใจ เพราะผู้ชายคนนั้นทั้งที่เดินเฉยๆก็ตามพวกเธอสองคนเกือบจะทันแล้ว ด้วยความหวาดกลัวแก้วเธอถามหนูนาว่าจะเอายังไงดี หนูนาที่วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเลย พอเธอได้ยินที่เพื่อนถามแบบนั้น สายตาของเธอก็มองเข้าไปเห็นทางแยกสองทาง ซึ่งทางหนึ่งเป็นทางมืด แต่คนเดินไปเยอะมาก แต่อีกทางสว่าง แต่มีคนเดินแยกออกไปน้อยเรียกว่าน้อยมาก เห็นแค่หลังไวๆเท่านั้น “ มึงจะหนีกูไปที่ใด กลับมารับโทษกับกูซะดีๆพวกมนุษย์บาป……ฮ่าๆฮ่าๆฮ่า “ ระหว่างที่หนูนาจับมือแก้วยืนมองทางแยกอยู่ว่าเธอจะไปทางไหนดี โจงกระเบนแดงที่ตามพวกเธอมานั้นก็พูดเสียงกังวารออกมาว่าพวกเธอจะหนีไปไหนกัน เสียงกังวารที่ดุดันแฝงไปด้วยพลังอำนาจบวกกับเสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาทำให้ความกลัว ที่มีอยู่เดิมทีอยู่แล้ว นั้นเลยทำให้หนูนาต้องรีบตัดสินใจในทันที “ หนูนาเอายังไงดี หนูนา เร็วเข้าหนูนา ผู้ชายคนนั้นตามเราจะทันอยู่แล้ว
กลับมาที่ปัจจุบันหลังจากที่ทั้งสองสาวจัดเก็บทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยตะวันก็ตกดินเป็นที่เรียบร้อย หนูนาที่หิวข้าวอย่างกับจะกินช้างทั้งตัวได้เธอก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาแก้ว แต่ระหว่างที่เธอจะเดินเข้ามาหาแก้วที่จัดเก็บห้องนอนอยู่นั้น อยู่ๆหนูนาก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเข้ามากระทบร่างเธอ วูบ…….“ เอะ ทำไมอยู่ๆขนลุกว่ะ “ หนูนาเมื่อมีลมอะไรบางอย่างมาประทะที่ร่างบางของเธอ เธอก็หยุดนิ่งพร้อมกับเอามือลูบที่แขนของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆขนถึงได้ลุกแบบนี้ “ หนูนาเธอเป็นอะไร รึเปล่า “ แก้วที่เก็บของเสร็จพอดี เธอก็ออกมาแต่ก็ต้องงงเพราะหนูนาที่ยืนเอามือลูบแขนตัวเองอย่างกับว่าเป็นอะไร หนูนาที่ได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกด้วยความหิวเธอก็เลยเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที “ แก้วเราหิวมากเลยอ๊ะ ฉันมาเราไปหาข้าวแถวๆนี้กินกันเถอะ “ หนูนาเมื่อเห็นเพื่อนออกมาจากห้องพอดี เธอก็เดินเเอามือลูบท้องเข้าหาแก้ว พร้อมกับทำหน้าตาน่ารักบอกกับเพื่อนว่าตัวเองหิว แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูเพื่อน จากนั้นทั้งสองก็ออกไปหาอะไรกินกัน เพราะแก้วก็หิวแล้วเหมือนกัน ร้านก๋วยเตี
บลู๊………บลู๊……..บลู๊ แคว๊ก………แคว๊ก……..แคว๊กหลังจากที่แก้วกับหนูนากินก๋วยเตี๊ยวกันเสร็จเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นซอยเปลี่ยวบวกับเธอรู้สึกเหนื่อยล้ากับการเดินทางมาที่นี้ นั้นเยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เพราะ ทั้งคู่ตอนนี้ต่างก็แยกย้ายกันไปนอนห้งอของใครของมัน ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนหลับอยู่นั้น อยู่ๆเสียงหมาแล้วก็เสียงเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขูดที่พื้นไม้กระดาน แก้วกับหนูนาที่นอนกันคนละห้องอยู่ๆทั้งคู่ก็โดนเสียงของหมาและก็เสียงของอะไรบางอย่างขูดอยู่ที่พื้นบ้าน พอแก้วได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เธอเห็นตั้งแต่เข้ามาที่นี้แล้วเธอก็นั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ผิดกับหนูนาเธอไม่เห็นแต่เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็ลุกงัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตา ก่อนจะเดินมาเปิดประตูดูว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของอะไรกันแน่ทำไมมาดังรบกวนเวลาเธอนอน ขู๊ด……..แคร๊ก……..ขู๊ด…..แคว๊ก……..ขู๊ด บลู๊……..บลู๊………บลู๊“ เงียบหน่อยได้ไหมว่ะ ทั้งหมาทั้งผีเลย ไม่รู้เหรอว่าคนเหนื่อย แม่งเอ้ย…….” หนูนาที่นอนหลับอยู่ของเธอดีๆ พอเธอโดนรบกวนเวลานอนแบบน
แคร๊ก….แคร๊ก……แคร๊ก “ โอ๊ยยยยย อะไรกันเสียงดังแต่เช้าเลย….” หนูนาที่นอนหลับไ/ปหลังจากที่เธอจัดการกับผีและก็ของที่เธอย้ายเข้ามาด้วยความเหนื่อยล้าเธอก็นอนหลับสนิทอย่างกับซ้อมตายก็ว่าได้ แต่ระหว่างที่เธอนนอหลับโดยที่ไม่มีอะไรมารบกวนตลอดทั้งคืน แต่เธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงรบกวนที่อยู่ข้างบ้าน “ เจอแล้ว เจอแล้วครับสารวัตร “ เสียงของใครบางคนเรียกผู้เป็นเจ้านายให้มาดูบางบางที่พวกเขากำลังขุดอยู่ แก้วที่ตื่นมาเจอกับเหตุการณ์ทางนอกหน้าต่างเพราะเสียงรบกวนของกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ เธอก็เลยตื่นขึ้นมาเจอกับคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งและก็กองทัพตำรวจที่มาทำอะไรก็ไม่รู้ที่ใต้ต้นไทรที่อยู่ติดกับบ้านที่เธฮเช่าอยู่ ก๊อกๆ ก๊อกๆ “ หนูนาตื่นเร็วเข้า หนูนา “ เสียงเคาะประตูที่ดังอย่างกับจะพังเข้ามาในห้อง หนูนาเมื่อได้ยินเพื่อนรักเรียกเสียงดังและก็เคาะประตูเสียงดังอย่างกับว่ามีคนตายเธอก็เกาหัวด้วยความหงุดงิดก่อนจะเดินมาเปิดประตู ปัง ปัง ปัง “ โอ๊ยยยยยยย แก้วนี้มันอะไรกันห่ะ ฉันเพิ่งได้นอนตอนที่3เองนะ เธอจะมาเคาะปลุกฉันทำไมแต่เช้าเนี่ย “ หนูนา ที่นอนเมื่อตอนเช้ามืดนี้เองเมื่อโดนรบกวนการนอน เธอก็รู้สึกหงุด
“ สวัสดีคะ หนูชื่อหนูนาส่วนนี้เพื่อนหนูชื่อแก้วคะไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีเรื่องอะไรให้เราช่วยรึเปล่าคะ “ หนูนา เธอเชิญแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งที่ห้องรับแขก พร้อมกับแนะนำตัวกับแขกว่าตนกับเพื่อนชื่ออะไร สารวัตรดินแดนเมื่อได้ยินชื่อของสาวน้อยที่ชื่อแก้วเขาก็รู้สึกว่าเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้สายตาของเขาไม่สามารถละจากเธอได้เลย เมื่อแก้วเห็นสายตาของชายหนุ่มที่เอาแต่มองมาที่เธอสาวน้อยก็รู้สึกเขิลอายอย่างอธิบายไม่ถูกเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหัวใจสั่น เธอหัวใจสั่นไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าใจสั่นเพราะชายตรงหน้าหล่อก็ไม่รู้ “ เอ้อ…ครับ ครับ สวัสดีครับ “ สารวัตรแดนดินเมื่อสองสาวแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็มารู้สึกตัวเมื่อถูกสายตาของหนูนาที่มองมายังเขาอย่างแปลกใจว่าทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนของเธอ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกชอบใจ พอหมวดแดนเห็นแบบนั้นเขาก็รีบดึงสติกลับมาทันทีก่อนจะกล่าวสวัสดีตอบกลับด้วยท่าทางเสียอากรและก็พูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อทั้งหมดแนะนำตัวกันเสร็จตำรวจหล่อก็เริ่มสอบสัมภาษเด็กสาวทั้งสองคนทันที ด้านสารวัตรเอกสิทธิ์ “ นี้มันรอยอะไรว่ะ “ ระหว่างที่สารวัตรเอ
ณ เมืองหลวงของไทย “ สวัสดีคะ หนูนาคะที่โทรหาพี่เมื่อวานนี้คะ “ หนูนากับเพื่อนรักที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาตามหาฝัน หญิงวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าพี่ เธอก็ถึงกับยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ หนูนาที่เป็นคนฉลาดเธออยู่เป็นพอเธอเห็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เธอกับเพื่อนติดต่อขอเช่า หนูนาสวัสดีทักทายพร้อมกับเรียกเจ๊ตรงหน้าว่าพี่ นั้นก็ทำให้เจ๊เจ้าของบ้านรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “ สวัสดีจ๊ะ มาๆเข้ามาดูข้างในก่อนเลยจ๊ะดูสิว่าพอจะอยู่ได้ไหม “ เจ๊เจ้าของบ้านเรียกให้เด็กน้อยเข้ามาดูภายในบ้าน หนูนาแล้วก็แก้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกดีใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินตามเข้าไป แก๊ก แอ๊ด…… ผลึบ “ แค๊ก แค๊ก “ เมื่อเจ๊เจ้าของบ้านเปิดประตูไม้เก่าๆออกเท่านั้นแหละ หนูนา แก้ว แล้วก็เจ๊เจ้าของบ้านถึงกับสลักฝุ่นที่อยู่ภายในบ้าน ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์เลือกมากมายเพราะบ้านหลังนี้ราคาถูกแถมยังเป็นบ้านที่อยู่อย่างส่วนตัวอีกด้วย ต่อให้สกปรกแค่ไหนถ้ามันพักอาศัยแล้วก็ราคาถูกทั้งคู่ก็แฮปปี้แล้ว “ เป็นไงจ๊ะ พออยู่ได้ไหมทำความสะอาดหน่อย ก็หน้าอยู่แล้วละ “ เจ๊เจ้าของบ้านเอามือปัดฝุ่นตรงหน้าไปมาพร้อมกับถามเด็กสาวสองคนต
“ สวัสดีคะ หนูชื่อหนูนาส่วนนี้เพื่อนหนูชื่อแก้วคะไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีเรื่องอะไรให้เราช่วยรึเปล่าคะ “ หนูนา เธอเชิญแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งที่ห้องรับแขก พร้อมกับแนะนำตัวกับแขกว่าตนกับเพื่อนชื่ออะไร สารวัตรดินแดนเมื่อได้ยินชื่อของสาวน้อยที่ชื่อแก้วเขาก็รู้สึกว่าเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้สายตาของเขาไม่สามารถละจากเธอได้เลย เมื่อแก้วเห็นสายตาของชายหนุ่มที่เอาแต่มองมาที่เธอสาวน้อยก็รู้สึกเขิลอายอย่างอธิบายไม่ถูกเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหัวใจสั่น เธอหัวใจสั่นไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าใจสั่นเพราะชายตรงหน้าหล่อก็ไม่รู้ “ เอ้อ…ครับ ครับ สวัสดีครับ “ สารวัตรแดนดินเมื่อสองสาวแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็มารู้สึกตัวเมื่อถูกสายตาของหนูนาที่มองมายังเขาอย่างแปลกใจว่าทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนของเธอ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกชอบใจ พอหมวดแดนเห็นแบบนั้นเขาก็รีบดึงสติกลับมาทันทีก่อนจะกล่าวสวัสดีตอบกลับด้วยท่าทางเสียอากรและก็พูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อทั้งหมดแนะนำตัวกันเสร็จตำรวจหล่อก็เริ่มสอบสัมภาษเด็กสาวทั้งสองคนทันที ด้านสารวัตรเอกสิทธิ์ “ นี้มันรอยอะไรว่ะ “ ระหว่างที่สารวัตรเอ
แคร๊ก….แคร๊ก……แคร๊ก “ โอ๊ยยยยย อะไรกันเสียงดังแต่เช้าเลย….” หนูนาที่นอนหลับไ/ปหลังจากที่เธอจัดการกับผีและก็ของที่เธอย้ายเข้ามาด้วยความเหนื่อยล้าเธอก็นอนหลับสนิทอย่างกับซ้อมตายก็ว่าได้ แต่ระหว่างที่เธอนนอหลับโดยที่ไม่มีอะไรมารบกวนตลอดทั้งคืน แต่เธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงรบกวนที่อยู่ข้างบ้าน “ เจอแล้ว เจอแล้วครับสารวัตร “ เสียงของใครบางคนเรียกผู้เป็นเจ้านายให้มาดูบางบางที่พวกเขากำลังขุดอยู่ แก้วที่ตื่นมาเจอกับเหตุการณ์ทางนอกหน้าต่างเพราะเสียงรบกวนของกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ เธอก็เลยตื่นขึ้นมาเจอกับคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งและก็กองทัพตำรวจที่มาทำอะไรก็ไม่รู้ที่ใต้ต้นไทรที่อยู่ติดกับบ้านที่เธฮเช่าอยู่ ก๊อกๆ ก๊อกๆ “ หนูนาตื่นเร็วเข้า หนูนา “ เสียงเคาะประตูที่ดังอย่างกับจะพังเข้ามาในห้อง หนูนาเมื่อได้ยินเพื่อนรักเรียกเสียงดังและก็เคาะประตูเสียงดังอย่างกับว่ามีคนตายเธอก็เกาหัวด้วยความหงุดงิดก่อนจะเดินมาเปิดประตู ปัง ปัง ปัง “ โอ๊ยยยยยยย แก้วนี้มันอะไรกันห่ะ ฉันเพิ่งได้นอนตอนที่3เองนะ เธอจะมาเคาะปลุกฉันทำไมแต่เช้าเนี่ย “ หนูนา ที่นอนเมื่อตอนเช้ามืดนี้เองเมื่อโดนรบกวนการนอน เธอก็รู้สึกหงุด
บลู๊………บลู๊……..บลู๊ แคว๊ก………แคว๊ก……..แคว๊กหลังจากที่แก้วกับหนูนากินก๋วยเตี๊ยวกันเสร็จเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นซอยเปลี่ยวบวกับเธอรู้สึกเหนื่อยล้ากับการเดินทางมาที่นี้ นั้นเยทำให้ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เพราะ ทั้งคู่ตอนนี้ต่างก็แยกย้ายกันไปนอนห้งอของใครของมัน ด้วยความเหนื่อยล้า แต่ระหว่างที่ทั้งสองคนหลับอยู่นั้น อยู่ๆเสียงหมาแล้วก็เสียงเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขูดที่พื้นไม้กระดาน แก้วกับหนูนาที่นอนกันคนละห้องอยู่ๆทั้งคู่ก็โดนเสียงของหมาและก็เสียงของอะไรบางอย่างขูดอยู่ที่พื้นบ้าน พอแก้วได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เธอเห็นตั้งแต่เข้ามาที่นี้แล้วเธอก็นั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ผิดกับหนูนาเธอไม่เห็นแต่เธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็ลุกงัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตา ก่อนจะเดินมาเปิดประตูดูว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของอะไรกันแน่ทำไมมาดังรบกวนเวลาเธอนอน ขู๊ด……..แคร๊ก……..ขู๊ด…..แคว๊ก……..ขู๊ด บลู๊……..บลู๊………บลู๊“ เงียบหน่อยได้ไหมว่ะ ทั้งหมาทั้งผีเลย ไม่รู้เหรอว่าคนเหนื่อย แม่งเอ้ย…….” หนูนาที่นอนหลับอยู่ของเธอดีๆ พอเธอโดนรบกวนเวลานอนแบบน
กลับมาที่ปัจจุบันหลังจากที่ทั้งสองสาวจัดเก็บทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยตะวันก็ตกดินเป็นที่เรียบร้อย หนูนาที่หิวข้าวอย่างกับจะกินช้างทั้งตัวได้เธอก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาแก้ว แต่ระหว่างที่เธอจะเดินเข้ามาหาแก้วที่จัดเก็บห้องนอนอยู่นั้น อยู่ๆหนูนาก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเข้ามากระทบร่างเธอ วูบ…….“ เอะ ทำไมอยู่ๆขนลุกว่ะ “ หนูนาเมื่อมีลมอะไรบางอย่างมาประทะที่ร่างบางของเธอ เธอก็หยุดนิ่งพร้อมกับเอามือลูบที่แขนของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆขนถึงได้ลุกแบบนี้ “ หนูนาเธอเป็นอะไร รึเปล่า “ แก้วที่เก็บของเสร็จพอดี เธอก็ออกมาแต่ก็ต้องงงเพราะหนูนาที่ยืนเอามือลูบแขนตัวเองอย่างกับว่าเป็นอะไร หนูนาที่ได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกด้วยความหิวเธอก็เลยเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที “ แก้วเราหิวมากเลยอ๊ะ ฉันมาเราไปหาข้าวแถวๆนี้กินกันเถอะ “ หนูนาเมื่อเห็นเพื่อนออกมาจากห้องพอดี เธอก็เดินเเอามือลูบท้องเข้าหาแก้ว พร้อมกับทำหน้าตาน่ารักบอกกับเพื่อนว่าตัวเองหิว แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูเพื่อน จากนั้นทั้งสองก็ออกไปหาอะไรกินกัน เพราะแก้วก็หิวแล้วเหมือนกัน ร้านก๋วยเตี
“ หนูนาเราจะหนีไปไหนได้ ดูสิผู้ชายน่ากลัวคนนั้นแค่เดินเฉยๆเขาก็เกือบทันเราแล้ว เอายังไงดีหนูนา “ แก้วที่วิ่งไปหันหลังมามองทางด้านหลังด้วยคามระแวงแล้วก็หวาดกลัวว่าผู้ชายคนนั้นตามมาถึงตรงไหนแล้ว แต่เมื่อเธอหันมาเจอเข้ากับชายโจงกระเบนแดงเธอก็ต้องตกใจ เพราะผู้ชายคนนั้นทั้งที่เดินเฉยๆก็ตามพวกเธอสองคนเกือบจะทันแล้ว ด้วยความหวาดกลัวแก้วเธอถามหนูนาว่าจะเอายังไงดี หนูนาที่วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเลย พอเธอได้ยินที่เพื่อนถามแบบนั้น สายตาของเธอก็มองเข้าไปเห็นทางแยกสองทาง ซึ่งทางหนึ่งเป็นทางมืด แต่คนเดินไปเยอะมาก แต่อีกทางสว่าง แต่มีคนเดินแยกออกไปน้อยเรียกว่าน้อยมาก เห็นแค่หลังไวๆเท่านั้น “ มึงจะหนีกูไปที่ใด กลับมารับโทษกับกูซะดีๆพวกมนุษย์บาป……ฮ่าๆฮ่าๆฮ่า “ ระหว่างที่หนูนาจับมือแก้วยืนมองทางแยกอยู่ว่าเธอจะไปทางไหนดี โจงกระเบนแดงที่ตามพวกเธอมานั้นก็พูดเสียงกังวารออกมาว่าพวกเธอจะหนีไปไหนกัน เสียงกังวารที่ดุดันแฝงไปด้วยพลังอำนาจบวกกับเสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาทำให้ความกลัว ที่มีอยู่เดิมทีอยู่แล้ว นั้นเลยทำให้หนูนาต้องรีบตัดสินใจในทันที “ หนูนาเอายังไงดี หนูนา เร็วเข้าหนูนา ผู้ชายคนนั้นตามเราจะทันอยู่แล้ว
ซ่า……ซู่…..ฟิ๊ว…..กระท่อมตีนเขา “ อ๊ะ อ๊ะ ฝนตก ฝนตก เห้อ……กำลังได้เยอะเลยรีบตกเร็วจริง “ ระหว่างที่แก้วกับหนูนาขุดหนอไม้กันอย่างขะมักเขม้นอยู่นั้น ฝนที่ตั้งเคร้าว่าจะตกก็ตกลงมาอย่างแรงซะงันดีที่ทั้งสองลงมาก่อนที่ฝนจะตกแรง แต่ทั้งคู่ก็ยังกลับไม่ถึงบ้านถึงแม้ว่าจะลงมาจากเขาแล้วก็ตามแต่ก็ยังไปไม่ถึงบ้านเพราะฝนตกอย่างกับฟ้ารั่วซะงัน ด้วยความที่หนูนากำลังจะได้หนอไม้มาเยอะ เมื่อฝนตกมาขัดจังหวะของการหาเงินของเธอ นั้นเลยทำให้หนูนาบ่นอุปออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็อดขำเพื่อนไ่ด้ก่อนจะพูดออกมาว่า “ เอานาพรุ่งนี้ค่อยมาก็ได้ ฮ่าๆฮ่าๆ” แก้วเธอ พูดปลอบใจเพื่อนพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างนึกขำคนเป็นเพื่อน หนูนาที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็ได้แต่ทำหน้าหมุ๋ยแล้วก็เดินมานั่งที่แคร่เท่านั้น“ อื้มก็คงเป็นอย่างนั้นแหละ จะทำยังไงได้ก็ท่านพระพิรุณปวดฉี่นี้หนา “ หนูนาเมื่อมานั่งที่แคร่เธอก็บ่นอุบออกมาอย่างคนไม่ได้คิดอะไร แก้วที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็เดินมานั่งข้างเพื่อนพร้อมกับยิ้มอย่างนึกเอ็นดูเพื่อนเท่านั้นโดยที่เธอไม่พูดอะไรเพราะเธอเป็นคนพูดน้อย เวลาต่อมา “ แก้วกลับกันเถอะฝนเริ
ณ เมืองหลวงของไทย “ สวัสดีคะ หนูนาคะที่โทรหาพี่เมื่อวานนี้คะ “ หนูนากับเพื่อนรักที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาตามหาฝัน หญิงวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าพี่ เธอก็ถึงกับยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ หนูนาที่เป็นคนฉลาดเธออยู่เป็นพอเธอเห็นเจ๊เจ้าของบ้านที่เธอกับเพื่อนติดต่อขอเช่า หนูนาสวัสดีทักทายพร้อมกับเรียกเจ๊ตรงหน้าว่าพี่ นั้นก็ทำให้เจ๊เจ้าของบ้านรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “ สวัสดีจ๊ะ มาๆเข้ามาดูข้างในก่อนเลยจ๊ะดูสิว่าพอจะอยู่ได้ไหม “ เจ๊เจ้าของบ้านเรียกให้เด็กน้อยเข้ามาดูภายในบ้าน หนูนาแล้วก็แก้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกดีใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินตามเข้าไป แก๊ก แอ๊ด…… ผลึบ “ แค๊ก แค๊ก “ เมื่อเจ๊เจ้าของบ้านเปิดประตูไม้เก่าๆออกเท่านั้นแหละ หนูนา แก้ว แล้วก็เจ๊เจ้าของบ้านถึงกับสลักฝุ่นที่อยู่ภายในบ้าน ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์เลือกมากมายเพราะบ้านหลังนี้ราคาถูกแถมยังเป็นบ้านที่อยู่อย่างส่วนตัวอีกด้วย ต่อให้สกปรกแค่ไหนถ้ามันพักอาศัยแล้วก็ราคาถูกทั้งคู่ก็แฮปปี้แล้ว “ เป็นไงจ๊ะ พออยู่ได้ไหมทำความสะอาดหน่อย ก็หน้าอยู่แล้วละ “ เจ๊เจ้าของบ้านเอามือปัดฝุ่นตรงหน้าไปมาพร้อมกับถามเด็กสาวสองคนต