แชร์

3.สวามีช่างไร้ใจ (2)

ผู้เขียน: rasita_suin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 12:53:23

วังประดับประดาอย่างสวยงามทั้งโคมไฟและผ้าแดงมงคลทำให้หนิงเฟิ่งสังเกตได้ แม้ว่าเทพสงครามจะพานางมายังประตูสวรรค์แล้วเข้าวังทันที ทั้งยังตรงมายังตำหนักฮวาหรงอย่างไม่หยุดที่ใด

“ขอบใจท่านมาก เทพสงคราม”

“พระชายาพักผ่อนให้มาก ข้าต้องขอตัวก่อน”

เมื่อเทพสงครามไปแล้วหนิงเฟิ่งก็สั่งอิงอิงทันที โดยเก็บความแปลกใจเอาไว้ก่อน

“พาข้าไปที่อุทยาน”

อิงอิงโล่งใจขึ้นมาหน่อยที่พระชายาไม่ถามถึงความเปลี่ยนแปลง แม้คาดว่าไม่นานพระนางต้องรู้เป็นแน่ แต่นางก็อยากให้นายตนแข็งแรงพอที่จะทนรับความเจ็บปวดเสียใจได้

“ลูกแม่”

มาถึงต้นอวี้หลันน้อยร่างของหนิงเฟิ่งก็ทรุดลงนั่งใกล้ชิด

“เจ้ายังบอบบางนัก ยังไม่ทันได้เติบโต ก็ถูกสายฟ้าฟาดเสียแล้ว แม้จะให้พลังส่วนหนึ่งเสริมกายทิพย์ให้กับเจ้า เจ้าอาจต้องใช้เวลาบำเพ็ญตนประสานจิตกับกายทิพย์หลายพันปี แต่หากว่า...พ่อเจ้าได้รู้ เขา...เขาอาจช่วยเจ้า”

แม้ไม่อยากคร่ำครวญแต่น้ำตาก็ไหลออกมาเอง นางยังไม่แน่ใจว่าจะพูดกับไท่จื่ออย่างไร ในเมื่อแคลงใจแล้ว บอกไปเขาจะเชื่อหรือไม่ว่าอวี้หลันน้อยนี้คือลูกของเขา เหนืออื่นใด นางยังไม่อยากเห็นหน้าสวามีของตน

ไม่อยากเห็นหน้าคนใจดำ

“อิงเอ๋อร์ เจ้าพาอวี้หลันน้อยไปไว้ในตำหนักข้า”

บอกจบก็ได้ยินเสียงอึกทึกด้านนอกทำให้หนิงเฟิ่งเอ่ยถามจนได้

“ข้างนอกมีอะไร เหมือนมีงานมงคล”

“พระชายาเข้าไปพักข้างในก่อนเถิด”

“เจ้ายังไม่ตอบข้าเลย ว่าข้างนอกมีงานอะไร”

หนิงเฟิ่งยังไม่ยอมขยับแม้อิงอิงจะพยายามพยุงพาให้เข้าไปพักด้านในตำหนัก

“อิงเอ๋อร์ เจ้ามีอะไรปิดบังข้า พูดมา”

สีหน้าลำบากใจและราวจะร้องไห้ของคนสนิทมีหรือที่หนิงเฟิ่งจะดูไม่ออก

ร่างของอิงอิงรีบทรุดลงคุกเข่า จับมือพระชายาไว้อย่างร้องขอ

“อิงอิงผิดไปแล้ว ขอพระชายาอย่าเพิ่งโมโหไป ร่างกายท่านบาดเจ็บสาหัส ที่ปิดบังเพราะไม่อยากให้ท่านต้องเสียใจ”

“บอกมา”

หนิงเฟิ่งเสียงราบเรียบ คิดว่าไม่มีสิ่งใดที่จะทำร้ายตนได้ไปมากกว่าที่เจอมาอีกแล้ว

“องค์จักรพรรดิประทานอภิเษกไท่จื่อกับองค์หญิงเผ่าบาดาล”

เพียงได้ยินหัวใจก็เจ็บแปลบร้าวลึก มือบางสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างสะโอดสะองเซเล็กน้อยอิงอิงจึงลุกขึ้นประคอง

“เพราะเหตุใด”

“เผ่าบาดาลมีความชอบ องค์หญิงบาดาลช่วยชีวิตไท่จื่อและสูญเสียองค์ชายในการศึก”

“มีความชอบงั้นเหรอ”

เสียงพูดแทบไม่หลุดออกจากปากอิ่มสวยอันซีดเซียวของหนิงเฟิ่ง ภายในอกอัดแน่นด้วยความโกรธและเสียใจเหลือประมาณ นอกจากสวามีลงทัณฑ์จนนางเกือบจะสูญเสียลูกแล้วองค์จักรพรรดิสวรรค์ยังประทานความชอบเผ่าบาดาลที่ให้ร้ายนางอีกหรือ

นางดีใจและมีความสุขที่ตั้งครรภ์ไม่กี่วัน นับจากก้าวออกจากเผ่าวิหคทุกอย่างกลับพลิกผันเพียงแค่สามวัน

สวรรค์...เหตุใดช่างโหดร้ายกับข้านัก

หรือเพราะไท่จื่อแคลงใจในตัวนาง จึงรับสนมคนใหม่ด้วยความยินดี ไม่สนใจนางอีกต่อไปแล้ว

เป็นเช่นนี้นางแล้วจะทนอยู่ในวังนี้ต่อไปได้อย่างไร

หนิงเฟิ่งกำหนดจิตส่งพลังปราณที่ยังพอมีอยู่ของตนให้กับต้นอวี้หลัน ขณะที่อิงอิงได้แต่มองด้วยความไม่สบายใจ

“พระชายา”

หลังจากส่งพลังจนเหลือเพียงน้อยนิดหนิงเฟิ่งก็ทรุดลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง

“อิงเอ๋อร์ เจ้านำอวี้หลันน้อยไปยังดินแดนบุปผา ที่นั่นจะเสริมการบำเพ็ญตนช่วยให้ลูกข้าเติบโตได้อย่างดี รอข้า ห้ามละสายตาเช่นวันนี้อีกเด็ดขาด”

“แล้วท่าน...”

“ไปเดี๋ยวนี้”

เมื่อถูกสั่งเสียงดังอิงอิงก็ต้องทำตาม

“พระชายาถนอมตัวด้วย”

นางเอ่ยเสียงเครือก่อนจะร่ายเวทย์พาต้นอวี้หลันหายไปในชั่วพริบตา

หนิงเฟิ่งเม้มปากด้วยความคับแค้นใจ เผ่าบาดาลมีความชอบอย่างนั้นหรือ อยากรู้นักว่าหากองค์จักรพรรดิได้ฟังในสิ่งที่เผ่าบาดาลให้ร้ายนาง เหยียบย่ำเกียรติไท่จื่อสวรรค์จะคิดเช่นไร ยังเห็นว่าเผ่าบาดาลสมควรได้รับความดีความชอบอีกหรือไม่

เมื่อสวามีไร้ใจ นางก็จะทวงหาความเป็นธรรมจากสวรรค์ด้วยตัวของนางเอง

==========

โดนลงทัณฑ์แล้วยังมาเจอแบบนี้อีก ใครจะไม่เคือง หนิงเฟิ่งสู้ๆ T^T

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   4.สวรรค์ไร้ใจ ไร้เมตตา (1)

    หนิงเฟิ่งปรากฏกายกลางท้องพระโรงตำนักสวรรค์ชั้นฟ้าในสภาพที่เสื้อผ้าร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากสายฟ้า นางรำที่กำลังโชว์ต่อหน้าธารกำนัลที่มาร่วมงานรื่นเริ่งมงคลสวรรค์ต่างก็หยุดลง เทพเซียนทั้งหมดต่างก็หันมาสนใจร่างบอบบางที่บาดเจ็บหนักของพระชายาไท่จื่อ“หนิงเฟิ่ง”ฮองเฮาสวรรค์ฮุ่ยเฟิ่งพึมพำแล้วรีบลงไปช่วยพยุง“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เหตุใดจึงบอบช้ำเช่นนี้”พระนางเอ็นดูสะใภ้อย่างมากด้วยเป็นเทพธิดาวิหค เป็นน้องสาวท่านปู่ของหนิงเฟิ่งจึงเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าบาดเจ็บ“หนิงเฟิ่งมีเรื่องทูลฝ่าบาทกับฮองเฮา”หนิงเฟิ่งเอ่ยโดยไม่ยอมให้เสียเวลา“มีเรื่องอะไรก็พูดมา”องค์จักรพรรดิสวรรค์จินหวงรู้สึกแปลกใจ เพราะวันนี้เป็นงานอภิเษกของไท่จื่อ แต่ชายากลับมาปรากฏเบื้องหน้าด้วยสภาพไม่ดีนัก ราวตั้งใจทำให้งานไม่เป็นมงคล และเวลานี้เกี้ยวเจ้าสาวน่าจะไปถึงวังไท่จื่อตามฤกษ์ยามแล้ว ไม่รู้ว่าที่นั่นเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นหรือไม่“ขอฝ่าบาทกับฮองเฮาเมตตา เผ่าบาดาลหลอกลวงเบื้องสูง หนิงเฟิ่งไม่อาจนิ่งเฉยได้”คำพูดของพระชายาไท่จื่อทำให้เทพเซียนต่างก็มองหน้ากันแล้วเริ่มซุบซิบด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าการณ์ภายในไม่ค่อยดีนัก องค์จัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   4.สวรรค์ไร้ใจ ไร้เมตตา (2)

    กรงจักรวัฎสงสารอยู่ตรงหน้า หนิงเฟิ่งยืนเคียงข้างเทพชะตา สำหรับนางแล้วไม่มีอะไรต้องห่วงอีก เวลานี้ลูกของนางปลอดภัยที่ดินแดนบุปผา หลังเผชิญวิบากกรรมนางก็จะได้ไปอุ้มชูลูกน้อยที่นั่น แม้ในโลกมนุษย์จะกินเวลาหลายสิบปี ทว่าดินแดนเทพเซียนก็เพียงไม่กี่วัน“พระชายา ลำบากท่านแล้ว”“ข้าจะไม่ใช่พระชายาอีกแล้ว”เทพชะตาหน้าเสีย เขาได้รู้เรื่องยังประหลาดใจทั้งยังเอ่ยทัดทานว่าไม่สมควรทำ แต่องค์จักรพรรดิรับสั่งอย่างเด็ดขาดตนจึงขัดไม่ได้“พระชายาดูแลตัวเองด้วย”เมื่อติดเรียกเช่นเดิมก็ถูกมองตาขุ่นแต่เทพชะตาไม่ยอมแก้ไข เขาผายมือเชิญให้หนิงเฟิ่งเตรียมพร้อม ก่อนจะเริ่มร่ายเวทย์หนิงเฟิ่งหลับตาลง บอกตัวเองว่านางทำถูกแล้ว เพื่อตนเองและลูกน้อย ผู้หญิงร้ายกาจเช่นองค์หญิงเผ่าบาดาลหรือจะยอมให้นางกับลูกอยู่ในวังอย่างสงบสุขสวรรค์ชั้นฟ้า ไม่ใช่สวรรค์อันสงบสุขสำหรับนางอีกแล้ว‘ท่านเป็นฝ่ายทอดทิ้งข้าและลูกเจิ้งหาน ลาก่อน’นางคิดอยู่ในใจ หากสวามีไม่คลางแคลงใจ หากเขาปกป้องนางบ้างแม้เพียงเล็กน้อย นางคงพร้อมสู้เพื่อยืนเคียงข้างเขาต่อไป แต่เขากลับสั่งลงทัณฑ์แล้วไปแต่งงานกับธิดาเจ้าบาดาลอย่างไม่แย่แสแม้แต่จะไปเยือนนางที่แท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   5.นางผู้เกิดมาพร้อมแผลเป็นอัปลักษณ์ (1)

    ร่างสูงสง่าปรากฏกายขึ้นทันควันขวางหน้าเทพชะตาที่เพิ่งลงมาจากแท่นกรงจักรวัฏสงสาร สีหน้าถมึงทึงของไท่จื่อจ้องเขม็งทำเอาเทพชะตาหน้าซีด“ไท่จื่อ”“หนิงเฟิ่งอยู่ไหน”“เอ่อ...”“ตอบมา!”ผู้ถูกสั่งเสียงดังใส่สะดุ้ง ขณะเดียวกันนั้นเทพสงครามก็ตามมาถึงเช่นกัน“โลกมนุษย์”“บังอาจ! ท่านส่งชายาข้าไปโลกมนุษย์ด้วยเหตุใด”ไท่จื่อยังเสียงเข้มไม่ยอมลดละ“ฝ่าบาทมีพระบัญชา”“พระบิดาอย่างนั้นหรือ”เอ่ยแล้วไท่จื่อก็หันไปสบตากับจิ่นลี่ อีกฝ่ายมีสีหน้าแปลกใจ ขณะที่เจิ้งหานรู้สึกราวใจหายวาบ“พระบิดาลงโทษหนิงเฟิ่ง?”“ขอไท่จื่อเมตตา...”ร่างสูงสง่าของไท่จื่อฉุดเทพชะตาขยับวูบเดียวก็ไปถึงหน้ากรงจักรโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ“ท่านส่งหนิงเฟิ่งไปที่ใด ส่งข้าไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”“ไท่จื่อ”แม้แต่จิ่นลี่ที่ตามติดมาก็ยังไม่เห็นด้วย“เทพชะตา!”เจิ้งหานไม่ฟังคำห้ามปราม เขาตวาดเสียงดังลั่น เทพชะตาเงอะงะตัวสั่นเกรงกลัว“ข้าว่าท่านไปถามพระบิดาก่อนไม่ดีกว่าหรือ ว่าเพราะเหตุใดต้องส่งพระชายาไปโลกมนุษย์ อีกอย่างท่านอยู่ข้างบนยังพอหาทางผ่อนหนักเป็นเบาให้พระนางได้ หากลงไปอาจช่วยได้ยากนัก”“นั่นเป็นหน้าที่เจ้า ยังไงข้าก็ต้องล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   5.นางผู้เกิดมาพร้อมแผลเป็นอัปลักษณ์ (2)

    “น้าเจียวเหมย”หนูน้อยวัยเจ็ดขวบในชุดสีอ่อนเรียบง่ายโผล่มาจากด้านหลังจวนที่เป็นส่วนซักล้างพร้อมกระต่ายตัวโตเมื่อเทียบกับมือผู้อุ้ม“ข้าเลี้ยงได้ไหม”“แอบออกไปข้างนอกอีกแล้วหรือเจ้าคะคุณหนู แล้วไปได้มันมาจากที่ไหน”“มีคนให้มา”เด็กหญิงใบหน้าหวานที่เห็นชัดว่ามีเค้าความสวยงามตั้งแต่ยังอายุน้อย ยิ้มแป้นอวดฟันเรียงสวย นางไม่ได้อยากออกไปบ่อยแต่เด็กชาวบ้านด้านหลังจวนมักแอบชวนไปเล่นด้วยเมื่อเห็นนางนั่งอย่างเหงาๆ แถวส่วนซักล้างไม่ห่างทางออกนัก“ข้าอยากเลี้ยงมันไว้ในห้องข้า เป็นเพื่อนข้า”“เอาไปเลี้ยงถึงในห้อง นายท่านอาจไม่ยอมนะเจ้าคะ”“แต่ข้าอยากมีเพื่อน”หนูน้อยเสียงเศร้าลง เจียวหมยคนสนิทฮูหยินคนก่อนของท่าน แม่ทัพมองคุณหนูของตนด้วยความสงสาร คุณหนูรองเฟยเซียงแทบไม่มีความสำคัญใดในจวนนี้ คุณหนูใหญ่เยว่ซินมีความสามารถเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ได้อย่างที่ใจแม่ทัพต้องการ แต่ก็ยังไม่ชื่นชอบเท่าบุตรชายคนเล็กลู่ปินซึ่งเกิดจากฮูหยินรองที่แต่งเข้ามาหลังฮูหยินจากไป และก็มีบุตรชายในทันใด แม่ทัพลู่จึงทั้งประคบประหงมให้ความรักบุตรชายคนเล็กกับภรรยาคนปัจจุบันอย่างมาก“น้าเลี้ยงให้ ยังไงคุณหนูก็มาเล่นกับมันทุกวันได้นี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   6.คุณหนูรองผู้น่าสงสาร (1)

    “ปินปิน”ลู่ฮูหยินเอ่ยเรียกบุตรชายด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่สาวใช้พี่เลี้ยงอุ้มคุณชายเล็กให้ออกมายืนห่างจากสระน้ำ ส่วนคนในบ้านผู้ชายรีบกระโดดลงไปช่วยคุณหนูรอง“เกิดอะไรขึ้นกัน ปินปินเป็นอะไรหรือเปล่าลูก”“ท่านแม่ พี่รอง ตีข้า ฮือ...”หนูน้อยลู่ปินบอกพร้อมสะอึกสะอื้น วิ่งมากอดผู้เป็นแม่“ว่าไงนะ เจ้าถูกเฟยเซียงตีหรือ”ลู่ฮูหยินเสียงเข้ม หันมองสาวใช้ที่เป็นพี่เลี้ยงของลูกชายด้วยสายตาไม่พอใจ“พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่ ถึงปล่อยให้เฟยเซียงมาตีลูกชายข้าได้”“เอ่อ...”สาวใช้พี่เลี้ยงหลบสายตา นางเองก็ไม่รู้จะแยกสองพี่น้องอย่างไร เพราะทั้งคู่เพิ่งจะทะเลาะกันครั้งนี้ครั้งแรก คุณหนูรองไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณชายเล็กหรือฮูหยินนัก จะพูดคุยก็กับคุณหนูใหญ่เพียงเท่านั้นขณะนั้นคนช่วยร่างน้อยของเฟยเซียงที่หมดสติไปแล้วขึ้นมาได้ และพยายามอุ้มขึ้นพาดบ่าให้น้ำไหลออกมา ทำให้ลู่ฮูหยินเองต้องหันไปให้ความสนใจเพราะเกรงจะเกิดเรื่องร้ายแรงในจวนเช่นกันครู่หนึ่งเฟยเซียงน้อยก็สำลักน้ำออกมา ทำให้คนในบ้านต่างก็เบาใจ ลู่ฮูหยินเองก็ถอนหายใจแม้จะขัดใจที่ได้รู้ว่าลูกชายตนถูกทำร้ายแต่เรื่องนั้นค่อยจัดการทีหลัง“พวกเจ้ารีบพาคุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   6.คุณหนูรองผู้น่าสงสาร (2)

    เฟยเซียงรู้ว่ากระต่ายน้อยของตนตายไปแล้วหลังจากนั้นหลายวัน และแอบนอนร้องไห้คนเดียวหลายคืน แถมยังถูกบิดาสั่งห้ามไม่ให้ออกไปนอกบ้านเด็ดขาด หนูน้อยจึงเก็บตัวยิ่งกว่าเดิม ได้เรียนหนังสือจากที่พี่สาวสอน แต่ไม่ได้ออกไปฝึกอาวุธเช่นพี่สาวและน้องชาย เฟยเซียงอ่านหนังสือแต่งโคลงกลอน วาดภาพ หัดงานบ้านงานเรือนของสตรีจากเจียวเหมยจนเชี่ยวชาญ แม้ไม่ชอบนักแต่เจียวเหมยบังคับอย่างแนบเนียนเจ้าตัวจึงค่อยๆ ทำได้ดีโดยไม่รู้ตัวสิบปีต่อมาจากหนูน้อยเติบโตขึ้นเป็นสาวสะพรั่งวัยสิบเจ็ด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสออกไปไหนเช่นเคย“วันนี้มีคนมาพบท่านพ่อ”เฟยเซียงเปรยขึ้นขณะนั่งปักผ้าเช็ดหน้าในศาลาใกล้กับโรงครัว เป็นส่วนที่นางมักจะอยู่นอกจากห้องของตน โดยมีเจียวเหมยเอาขนมกับชามาวางให้ใกล้ๆ“ข้าได้ยินจากบ่าวว่ามาจากจวนใต้เท้าฉี มาคุยเรื่องพี่ซินซิน ส่งของหมั้นมามากมาย”“ใช่เจ้าค่ะ”เจียวเหมยตอบรับพร้อมรินชาให้คุณหนูของตน“พี่ซินซินควรแต่งงานตั้งนานแล้ว”เพราะก่อนใต้เท้าฉีจะส่งคนมาทาบทาบ ก็มีขุนนางคนอื่นเคยส่งมาแล้วแต่บิดาของนางและเยว่ซินปฏิเสธ เพิ่งตอบรับฝ่ายใต้เท้าฉีเมื่อสองเดือนก่อน“เจ้าค่ะคุณหนู”“เพราะข้าหรือเปล่าน้าเจียวเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   7.ดอกไม้งามที่ถูกซ่อนเร้น (1)

    “มันตายแล้ว”เฟยเซียงเอ่ยเสียงเครือ ขณะน้ำตารินไหลออกมาเอง นางไม่ได้โกรธเคืองใคร แต่สงสารกระต่ายจับใจที่มันต้องมาตายเพราะตน จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดไม่เสื่อมคลาย หากไม่ดื้อดึงยื้อยุดกับน้องชายมันอาจมีชีวิตยืนยาวกว่านั้น แม้จะไม่ใช่เพื่อนเล่นของตนแต่เป็นสัตว์เลี้ยงของน้องก็ตาม“หากข้าทำให้เจ้าเสียใจเพราะนึกถึงมันก็ต้องขออภัย”บุรุษหนุ่มบอกด้วยความรู้สึกเศร้าตามไปด้วยผู้ที่ร้องไห้ปาดน้ำตาโดยเร็ว ขณะที่เจียวเหมยกลับมาจับมือบางกระซิบบอก“อยู่ตรงนี้นานไม่ดีนะเจ้าคะคุณหนู”“ข้าต้องขอตัวก่อน”เฟยเซียงเชื่อฟังโดยง่าย แม้รู้ว่าบุรุษผู้นี้เป็นคนที่เคยใจดีกับตนเมื่อครั้งยังเด็ก แต่บิดาของนางไม่ค่อยอยากให้ใครเห็นนางนัก“เดี๋ยวแม่นาง”เสียงทุ้มทักท้วงก่อนที่ร่างอ้อนแอ้นจะขยับตัว“พบกันอีกครั้งนับเป็นวาสนา เจ้าจะบอกชื่อกับข้าได้หรือไม่”เจียวเหมยส่งสายตาพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อยว่าเป็นการไม่ควร เฟยเซียงจึงปฏิเสธออกไป“ชื่อข้าไม่น่าฟังนัก ต้องขออภัยคุณชาย”‘ใบหน้างดงามราวนางสวรรค์เช่นนี้หรือ จะชื่อไม่น่าฟัง’แม้จะคิดในใจอย่างนั้นเขาก็เอ่ยอย่างอารมณ์ดีไม่ขุ่นเคือง“เช่นนั้นข้าเรียกกระต่ายน้อยก็แล้วกัน เหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27
  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   7.ดอกไม้งามที่ถูกซ่อนเร้น (2)

    ฉึก! ฉึก!เสียงดังแปลกๆ ดึงเฟยเซียงที่ตกอยู่ในภวังค์ให้รู้สึกตัว“เสียงอะไรเจ้าคะ”เจียวเหมยเอ่ยพร้อมจับมือคุณหนูทั้งสองแน่น“โจร...โจรขอรับคุณหนู”คนบังคับรถม้าร้องบอกเสียงดังเย่วซินจะขยับออกไปดูแต่เจียวเหมยห้ามไว้“อันตรายนะเจ้าคะคุณหนูใหญ่”“ข้าดูแลตัวเองได้”นางหันมาบอกอย่างไม่เกรงกลัว ห่วงเพียงแต่น้องสาวกับคนของตน“พวกเจ้าเป็นใคร”เสียงของคนบังคับรถม้าดังขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่มีการพูดจา มีเพียงเสียงชักดาบและเสียงร้อง ทำให้แม่นางทั้งสามยิ่งหวั่นวิตก“ข้าต้องออกไป ฝากเซียงเซียงด้วยนะน้าเจียวเหมย”“อย่าเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่”แม้เจียวเหมยจะห้ามแต่เยว่ซินออกไปแล้ว นางไม่อาจทำอะไรได้ พอเฟยเซียงจะขยับตามพี่สาวด้วยความเป็นห่วงนางจึงรีบผวากอดคุณหนูรองในทันใด“ข้างนอกต่อสู้กันนะเจ้าคะคุณหนู”“แต่พี่ซินซินล่ะ”“คุณหนูใหญ่มีฝีมือ แต่คุณหนูทำอะไรไม่ได้ ออกไปจะยิ่งทำให้คุณหนูใหญ่เป็นห่วงนะเจ้าคะ”“พี่ซินซิน ท่านเป็นยังไงบ้าง”เฟยเซียงห่วงพี่สาว เมื่อได้ยินเสียงต่อสู้ประชิดติดรถม้า“พี่ไม่เป็นไร เจ้าอย่าออกมาเด็ดขาด”เยว่ซินอยู่หน้ารถม้าไม่ได้ขยับห่างไปเพราะต้องการปกป้องคนด้านใน นางไม่ได้พกดาบติดตัวแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-27

บทล่าสุด

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   7.ดอกไม้งามที่ถูกซ่อนเร้น (2)

    ฉึก! ฉึก!เสียงดังแปลกๆ ดึงเฟยเซียงที่ตกอยู่ในภวังค์ให้รู้สึกตัว“เสียงอะไรเจ้าคะ”เจียวเหมยเอ่ยพร้อมจับมือคุณหนูทั้งสองแน่น“โจร...โจรขอรับคุณหนู”คนบังคับรถม้าร้องบอกเสียงดังเย่วซินจะขยับออกไปดูแต่เจียวเหมยห้ามไว้“อันตรายนะเจ้าคะคุณหนูใหญ่”“ข้าดูแลตัวเองได้”นางหันมาบอกอย่างไม่เกรงกลัว ห่วงเพียงแต่น้องสาวกับคนของตน“พวกเจ้าเป็นใคร”เสียงของคนบังคับรถม้าดังขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่มีการพูดจา มีเพียงเสียงชักดาบและเสียงร้อง ทำให้แม่นางทั้งสามยิ่งหวั่นวิตก“ข้าต้องออกไป ฝากเซียงเซียงด้วยนะน้าเจียวเหมย”“อย่าเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่”แม้เจียวเหมยจะห้ามแต่เยว่ซินออกไปแล้ว นางไม่อาจทำอะไรได้ พอเฟยเซียงจะขยับตามพี่สาวด้วยความเป็นห่วงนางจึงรีบผวากอดคุณหนูรองในทันใด“ข้างนอกต่อสู้กันนะเจ้าคะคุณหนู”“แต่พี่ซินซินล่ะ”“คุณหนูใหญ่มีฝีมือ แต่คุณหนูทำอะไรไม่ได้ ออกไปจะยิ่งทำให้คุณหนูใหญ่เป็นห่วงนะเจ้าคะ”“พี่ซินซิน ท่านเป็นยังไงบ้าง”เฟยเซียงห่วงพี่สาว เมื่อได้ยินเสียงต่อสู้ประชิดติดรถม้า“พี่ไม่เป็นไร เจ้าอย่าออกมาเด็ดขาด”เยว่ซินอยู่หน้ารถม้าไม่ได้ขยับห่างไปเพราะต้องการปกป้องคนด้านใน นางไม่ได้พกดาบติดตัวแ

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   7.ดอกไม้งามที่ถูกซ่อนเร้น (1)

    “มันตายแล้ว”เฟยเซียงเอ่ยเสียงเครือ ขณะน้ำตารินไหลออกมาเอง นางไม่ได้โกรธเคืองใคร แต่สงสารกระต่ายจับใจที่มันต้องมาตายเพราะตน จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดไม่เสื่อมคลาย หากไม่ดื้อดึงยื้อยุดกับน้องชายมันอาจมีชีวิตยืนยาวกว่านั้น แม้จะไม่ใช่เพื่อนเล่นของตนแต่เป็นสัตว์เลี้ยงของน้องก็ตาม“หากข้าทำให้เจ้าเสียใจเพราะนึกถึงมันก็ต้องขออภัย”บุรุษหนุ่มบอกด้วยความรู้สึกเศร้าตามไปด้วยผู้ที่ร้องไห้ปาดน้ำตาโดยเร็ว ขณะที่เจียวเหมยกลับมาจับมือบางกระซิบบอก“อยู่ตรงนี้นานไม่ดีนะเจ้าคะคุณหนู”“ข้าต้องขอตัวก่อน”เฟยเซียงเชื่อฟังโดยง่าย แม้รู้ว่าบุรุษผู้นี้เป็นคนที่เคยใจดีกับตนเมื่อครั้งยังเด็ก แต่บิดาของนางไม่ค่อยอยากให้ใครเห็นนางนัก“เดี๋ยวแม่นาง”เสียงทุ้มทักท้วงก่อนที่ร่างอ้อนแอ้นจะขยับตัว“พบกันอีกครั้งนับเป็นวาสนา เจ้าจะบอกชื่อกับข้าได้หรือไม่”เจียวเหมยส่งสายตาพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อยว่าเป็นการไม่ควร เฟยเซียงจึงปฏิเสธออกไป“ชื่อข้าไม่น่าฟังนัก ต้องขออภัยคุณชาย”‘ใบหน้างดงามราวนางสวรรค์เช่นนี้หรือ จะชื่อไม่น่าฟัง’แม้จะคิดในใจอย่างนั้นเขาก็เอ่ยอย่างอารมณ์ดีไม่ขุ่นเคือง“เช่นนั้นข้าเรียกกระต่ายน้อยก็แล้วกัน เหม

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   6.คุณหนูรองผู้น่าสงสาร (2)

    เฟยเซียงรู้ว่ากระต่ายน้อยของตนตายไปแล้วหลังจากนั้นหลายวัน และแอบนอนร้องไห้คนเดียวหลายคืน แถมยังถูกบิดาสั่งห้ามไม่ให้ออกไปนอกบ้านเด็ดขาด หนูน้อยจึงเก็บตัวยิ่งกว่าเดิม ได้เรียนหนังสือจากที่พี่สาวสอน แต่ไม่ได้ออกไปฝึกอาวุธเช่นพี่สาวและน้องชาย เฟยเซียงอ่านหนังสือแต่งโคลงกลอน วาดภาพ หัดงานบ้านงานเรือนของสตรีจากเจียวเหมยจนเชี่ยวชาญ แม้ไม่ชอบนักแต่เจียวเหมยบังคับอย่างแนบเนียนเจ้าตัวจึงค่อยๆ ทำได้ดีโดยไม่รู้ตัวสิบปีต่อมาจากหนูน้อยเติบโตขึ้นเป็นสาวสะพรั่งวัยสิบเจ็ด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสออกไปไหนเช่นเคย“วันนี้มีคนมาพบท่านพ่อ”เฟยเซียงเปรยขึ้นขณะนั่งปักผ้าเช็ดหน้าในศาลาใกล้กับโรงครัว เป็นส่วนที่นางมักจะอยู่นอกจากห้องของตน โดยมีเจียวเหมยเอาขนมกับชามาวางให้ใกล้ๆ“ข้าได้ยินจากบ่าวว่ามาจากจวนใต้เท้าฉี มาคุยเรื่องพี่ซินซิน ส่งของหมั้นมามากมาย”“ใช่เจ้าค่ะ”เจียวเหมยตอบรับพร้อมรินชาให้คุณหนูของตน“พี่ซินซินควรแต่งงานตั้งนานแล้ว”เพราะก่อนใต้เท้าฉีจะส่งคนมาทาบทาบ ก็มีขุนนางคนอื่นเคยส่งมาแล้วแต่บิดาของนางและเยว่ซินปฏิเสธ เพิ่งตอบรับฝ่ายใต้เท้าฉีเมื่อสองเดือนก่อน“เจ้าค่ะคุณหนู”“เพราะข้าหรือเปล่าน้าเจียวเ

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   6.คุณหนูรองผู้น่าสงสาร (1)

    “ปินปิน”ลู่ฮูหยินเอ่ยเรียกบุตรชายด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่สาวใช้พี่เลี้ยงอุ้มคุณชายเล็กให้ออกมายืนห่างจากสระน้ำ ส่วนคนในบ้านผู้ชายรีบกระโดดลงไปช่วยคุณหนูรอง“เกิดอะไรขึ้นกัน ปินปินเป็นอะไรหรือเปล่าลูก”“ท่านแม่ พี่รอง ตีข้า ฮือ...”หนูน้อยลู่ปินบอกพร้อมสะอึกสะอื้น วิ่งมากอดผู้เป็นแม่“ว่าไงนะ เจ้าถูกเฟยเซียงตีหรือ”ลู่ฮูหยินเสียงเข้ม หันมองสาวใช้ที่เป็นพี่เลี้ยงของลูกชายด้วยสายตาไม่พอใจ“พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่ ถึงปล่อยให้เฟยเซียงมาตีลูกชายข้าได้”“เอ่อ...”สาวใช้พี่เลี้ยงหลบสายตา นางเองก็ไม่รู้จะแยกสองพี่น้องอย่างไร เพราะทั้งคู่เพิ่งจะทะเลาะกันครั้งนี้ครั้งแรก คุณหนูรองไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณชายเล็กหรือฮูหยินนัก จะพูดคุยก็กับคุณหนูใหญ่เพียงเท่านั้นขณะนั้นคนช่วยร่างน้อยของเฟยเซียงที่หมดสติไปแล้วขึ้นมาได้ และพยายามอุ้มขึ้นพาดบ่าให้น้ำไหลออกมา ทำให้ลู่ฮูหยินเองต้องหันไปให้ความสนใจเพราะเกรงจะเกิดเรื่องร้ายแรงในจวนเช่นกันครู่หนึ่งเฟยเซียงน้อยก็สำลักน้ำออกมา ทำให้คนในบ้านต่างก็เบาใจ ลู่ฮูหยินเองก็ถอนหายใจแม้จะขัดใจที่ได้รู้ว่าลูกชายตนถูกทำร้ายแต่เรื่องนั้นค่อยจัดการทีหลัง“พวกเจ้ารีบพาคุ

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   5.นางผู้เกิดมาพร้อมแผลเป็นอัปลักษณ์ (2)

    “น้าเจียวเหมย”หนูน้อยวัยเจ็ดขวบในชุดสีอ่อนเรียบง่ายโผล่มาจากด้านหลังจวนที่เป็นส่วนซักล้างพร้อมกระต่ายตัวโตเมื่อเทียบกับมือผู้อุ้ม“ข้าเลี้ยงได้ไหม”“แอบออกไปข้างนอกอีกแล้วหรือเจ้าคะคุณหนู แล้วไปได้มันมาจากที่ไหน”“มีคนให้มา”เด็กหญิงใบหน้าหวานที่เห็นชัดว่ามีเค้าความสวยงามตั้งแต่ยังอายุน้อย ยิ้มแป้นอวดฟันเรียงสวย นางไม่ได้อยากออกไปบ่อยแต่เด็กชาวบ้านด้านหลังจวนมักแอบชวนไปเล่นด้วยเมื่อเห็นนางนั่งอย่างเหงาๆ แถวส่วนซักล้างไม่ห่างทางออกนัก“ข้าอยากเลี้ยงมันไว้ในห้องข้า เป็นเพื่อนข้า”“เอาไปเลี้ยงถึงในห้อง นายท่านอาจไม่ยอมนะเจ้าคะ”“แต่ข้าอยากมีเพื่อน”หนูน้อยเสียงเศร้าลง เจียวหมยคนสนิทฮูหยินคนก่อนของท่าน แม่ทัพมองคุณหนูของตนด้วยความสงสาร คุณหนูรองเฟยเซียงแทบไม่มีความสำคัญใดในจวนนี้ คุณหนูใหญ่เยว่ซินมีความสามารถเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ได้อย่างที่ใจแม่ทัพต้องการ แต่ก็ยังไม่ชื่นชอบเท่าบุตรชายคนเล็กลู่ปินซึ่งเกิดจากฮูหยินรองที่แต่งเข้ามาหลังฮูหยินจากไป และก็มีบุตรชายในทันใด แม่ทัพลู่จึงทั้งประคบประหงมให้ความรักบุตรชายคนเล็กกับภรรยาคนปัจจุบันอย่างมาก“น้าเลี้ยงให้ ยังไงคุณหนูก็มาเล่นกับมันทุกวันได้นี

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   5.นางผู้เกิดมาพร้อมแผลเป็นอัปลักษณ์ (1)

    ร่างสูงสง่าปรากฏกายขึ้นทันควันขวางหน้าเทพชะตาที่เพิ่งลงมาจากแท่นกรงจักรวัฏสงสาร สีหน้าถมึงทึงของไท่จื่อจ้องเขม็งทำเอาเทพชะตาหน้าซีด“ไท่จื่อ”“หนิงเฟิ่งอยู่ไหน”“เอ่อ...”“ตอบมา!”ผู้ถูกสั่งเสียงดังใส่สะดุ้ง ขณะเดียวกันนั้นเทพสงครามก็ตามมาถึงเช่นกัน“โลกมนุษย์”“บังอาจ! ท่านส่งชายาข้าไปโลกมนุษย์ด้วยเหตุใด”ไท่จื่อยังเสียงเข้มไม่ยอมลดละ“ฝ่าบาทมีพระบัญชา”“พระบิดาอย่างนั้นหรือ”เอ่ยแล้วไท่จื่อก็หันไปสบตากับจิ่นลี่ อีกฝ่ายมีสีหน้าแปลกใจ ขณะที่เจิ้งหานรู้สึกราวใจหายวาบ“พระบิดาลงโทษหนิงเฟิ่ง?”“ขอไท่จื่อเมตตา...”ร่างสูงสง่าของไท่จื่อฉุดเทพชะตาขยับวูบเดียวก็ไปถึงหน้ากรงจักรโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ“ท่านส่งหนิงเฟิ่งไปที่ใด ส่งข้าไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”“ไท่จื่อ”แม้แต่จิ่นลี่ที่ตามติดมาก็ยังไม่เห็นด้วย“เทพชะตา!”เจิ้งหานไม่ฟังคำห้ามปราม เขาตวาดเสียงดังลั่น เทพชะตาเงอะงะตัวสั่นเกรงกลัว“ข้าว่าท่านไปถามพระบิดาก่อนไม่ดีกว่าหรือ ว่าเพราะเหตุใดต้องส่งพระชายาไปโลกมนุษย์ อีกอย่างท่านอยู่ข้างบนยังพอหาทางผ่อนหนักเป็นเบาให้พระนางได้ หากลงไปอาจช่วยได้ยากนัก”“นั่นเป็นหน้าที่เจ้า ยังไงข้าก็ต้องล

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   4.สวรรค์ไร้ใจ ไร้เมตตา (2)

    กรงจักรวัฎสงสารอยู่ตรงหน้า หนิงเฟิ่งยืนเคียงข้างเทพชะตา สำหรับนางแล้วไม่มีอะไรต้องห่วงอีก เวลานี้ลูกของนางปลอดภัยที่ดินแดนบุปผา หลังเผชิญวิบากกรรมนางก็จะได้ไปอุ้มชูลูกน้อยที่นั่น แม้ในโลกมนุษย์จะกินเวลาหลายสิบปี ทว่าดินแดนเทพเซียนก็เพียงไม่กี่วัน“พระชายา ลำบากท่านแล้ว”“ข้าจะไม่ใช่พระชายาอีกแล้ว”เทพชะตาหน้าเสีย เขาได้รู้เรื่องยังประหลาดใจทั้งยังเอ่ยทัดทานว่าไม่สมควรทำ แต่องค์จักรพรรดิรับสั่งอย่างเด็ดขาดตนจึงขัดไม่ได้“พระชายาดูแลตัวเองด้วย”เมื่อติดเรียกเช่นเดิมก็ถูกมองตาขุ่นแต่เทพชะตาไม่ยอมแก้ไข เขาผายมือเชิญให้หนิงเฟิ่งเตรียมพร้อม ก่อนจะเริ่มร่ายเวทย์หนิงเฟิ่งหลับตาลง บอกตัวเองว่านางทำถูกแล้ว เพื่อตนเองและลูกน้อย ผู้หญิงร้ายกาจเช่นองค์หญิงเผ่าบาดาลหรือจะยอมให้นางกับลูกอยู่ในวังอย่างสงบสุขสวรรค์ชั้นฟ้า ไม่ใช่สวรรค์อันสงบสุขสำหรับนางอีกแล้ว‘ท่านเป็นฝ่ายทอดทิ้งข้าและลูกเจิ้งหาน ลาก่อน’นางคิดอยู่ในใจ หากสวามีไม่คลางแคลงใจ หากเขาปกป้องนางบ้างแม้เพียงเล็กน้อย นางคงพร้อมสู้เพื่อยืนเคียงข้างเขาต่อไป แต่เขากลับสั่งลงทัณฑ์แล้วไปแต่งงานกับธิดาเจ้าบาดาลอย่างไม่แย่แสแม้แต่จะไปเยือนนางที่แท

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   4.สวรรค์ไร้ใจ ไร้เมตตา (1)

    หนิงเฟิ่งปรากฏกายกลางท้องพระโรงตำนักสวรรค์ชั้นฟ้าในสภาพที่เสื้อผ้าร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากสายฟ้า นางรำที่กำลังโชว์ต่อหน้าธารกำนัลที่มาร่วมงานรื่นเริ่งมงคลสวรรค์ต่างก็หยุดลง เทพเซียนทั้งหมดต่างก็หันมาสนใจร่างบอบบางที่บาดเจ็บหนักของพระชายาไท่จื่อ“หนิงเฟิ่ง”ฮองเฮาสวรรค์ฮุ่ยเฟิ่งพึมพำแล้วรีบลงไปช่วยพยุง“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เหตุใดจึงบอบช้ำเช่นนี้”พระนางเอ็นดูสะใภ้อย่างมากด้วยเป็นเทพธิดาวิหค เป็นน้องสาวท่านปู่ของหนิงเฟิ่งจึงเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าบาดเจ็บ“หนิงเฟิ่งมีเรื่องทูลฝ่าบาทกับฮองเฮา”หนิงเฟิ่งเอ่ยโดยไม่ยอมให้เสียเวลา“มีเรื่องอะไรก็พูดมา”องค์จักรพรรดิสวรรค์จินหวงรู้สึกแปลกใจ เพราะวันนี้เป็นงานอภิเษกของไท่จื่อ แต่ชายากลับมาปรากฏเบื้องหน้าด้วยสภาพไม่ดีนัก ราวตั้งใจทำให้งานไม่เป็นมงคล และเวลานี้เกี้ยวเจ้าสาวน่าจะไปถึงวังไท่จื่อตามฤกษ์ยามแล้ว ไม่รู้ว่าที่นั่นเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นหรือไม่“ขอฝ่าบาทกับฮองเฮาเมตตา เผ่าบาดาลหลอกลวงเบื้องสูง หนิงเฟิ่งไม่อาจนิ่งเฉยได้”คำพูดของพระชายาไท่จื่อทำให้เทพเซียนต่างก็มองหน้ากันแล้วเริ่มซุบซิบด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าการณ์ภายในไม่ค่อยดีนัก องค์จัก

  • สวรรค์ไร้ใจ ข้าขอไร้วาสนา   3.สวามีช่างไร้ใจ (2)

    วังประดับประดาอย่างสวยงามทั้งโคมไฟและผ้าแดงมงคลทำให้หนิงเฟิ่งสังเกตได้ แม้ว่าเทพสงครามจะพานางมายังประตูสวรรค์แล้วเข้าวังทันที ทั้งยังตรงมายังตำหนักฮวาหรงอย่างไม่หยุดที่ใด“ขอบใจท่านมาก เทพสงคราม”“พระชายาพักผ่อนให้มาก ข้าต้องขอตัวก่อน”เมื่อเทพสงครามไปแล้วหนิงเฟิ่งก็สั่งอิงอิงทันที โดยเก็บความแปลกใจเอาไว้ก่อน“พาข้าไปที่อุทยาน”อิงอิงโล่งใจขึ้นมาหน่อยที่พระชายาไม่ถามถึงความเปลี่ยนแปลง แม้คาดว่าไม่นานพระนางต้องรู้เป็นแน่ แต่นางก็อยากให้นายตนแข็งแรงพอที่จะทนรับความเจ็บปวดเสียใจได้“ลูกแม่”มาถึงต้นอวี้หลันน้อยร่างของหนิงเฟิ่งก็ทรุดลงนั่งใกล้ชิด“เจ้ายังบอบบางนัก ยังไม่ทันได้เติบโต ก็ถูกสายฟ้าฟาดเสียแล้ว แม้จะให้พลังส่วนหนึ่งเสริมกายทิพย์ให้กับเจ้า เจ้าอาจต้องใช้เวลาบำเพ็ญตนประสานจิตกับกายทิพย์หลายพันปี แต่หากว่า...พ่อเจ้าได้รู้ เขา...เขาอาจช่วยเจ้า”แม้ไม่อยากคร่ำครวญแต่น้ำตาก็ไหลออกมาเอง นางยังไม่แน่ใจว่าจะพูดกับไท่จื่ออย่างไร ในเมื่อแคลงใจแล้ว บอกไปเขาจะเชื่อหรือไม่ว่าอวี้หลันน้อยนี้คือลูกของเขา เหนืออื่นใด นางยังไม่อยากเห็นหน้าสวามีของตนไม่อยากเห็นหน้าคนใจดำ“อิงเอ๋อร์ เจ้าพาอวี้หลั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status