"นิ! แกก็ฟังพี่เต เขาหน่อยสิ เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุ เราสองคนก็แค่บังเอิญเจอกัน แล้วก็..." คำพูดเหมือนจะอธิบายให้ฟังว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ แต่น้ำเสียงกับเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
เล่นเอาอารมณ์ที่คุกรุ่นมากอยู่แล้ว เริ่มปะทุขึ้นมาอีกรอบ ไม่อาจจะต้านทานโทสะที่ข่มไว้ได้ไหว หันหน้ากลับไปตวาดลั่นใส่หน้าเพื่อนสาวคนสนิท "เงียบทำไม มีอะไร มึงก็เล่ามาให้หมดสิ เล่ามาเลยนะ พวกมึงเจอกันยังไง เอากันท่าไหน มึงเล่าออกมา เล่าออกมาให้หมด เล่า!" น้ำเสียงเยือกเย็นตะคอกถามอย่างรุนแรง ทำเอาบีบีหายใจไม่ทั่วท้อง เงียบปากลงแทบทันที "บี๋" เตชินเรียกเสียงอ่อน พยายามจะเข้าไปใกล้นิรณาอีกครั้ง หวังใช้ไม้อ่อนเพื่อปลอบประโลม ทำท่าจะดึงตัวเธอมากอดไว้ แต่แล้วคนกำลังโมโหกลับหันหน้ามา มองเขาตาดุ นัยน์ตาฉายแววทั้งตำหนิ และผิดหวังในตัวของชายที่รัก "กูไม่ดีตรงไหนเหรอ..มึงถึงได้ทำแบบนี้ ห๊ะ! ตรงไหนที่กูสู้มันไม่ได้ หรือมันใสซื่อดูบริสุทธิ์ มึงถึงได้..เห้ออออ" นิรณาเอ่ยถามใจเจ็บปวด ความรู้สึกด้านในนั้นพังเละ ไม่เหลือชิ้นดี "เห็นมันซื่อ ๆ ใส ๆ อย่าหลงคิดว่าได้กินของดีซะล่ะ มึงมันก็เป็นแค่..อีกแต้มที่อดีตเพื่อนชั่ว ๆ กูเก็บได้" อดีตเพื่อนสนิทแฉยับ เล่นเอาบันนิดาหน้าถอดสี กลัวเตชินจะเข้าใจตัวเองผิด ๆ เร่งรีบเปล่งวาจาออกมา "มะ..ไม่จริงนะคะ" แล้วพอสิ้นคำ จึงส่ายหน้าไปอีกหลายครั้ง ยืนยันในคำตอบตัวเอง "เหอะ..อย่าคิดว่ากูไม่รู้ธาตุแท้ร่าน ๆ ของมึงนะ..บีบี เอากับอาจารย์ในห้องเรียน กูก็เคยเห็นมาแล้ว" "นิ!..แกอย่ามาพูดจามั่ว ๆ นะ!" เสียงเล็กแวดใส่หน้า "อยากจะให้กูร่ายรายชื่อบรรดาผัว ๆ มึงไหม เหอะ มีตั้งแต่….." ยังพูดไม่ทันจบประโยค นังเพื่อนรัก คนทรยศ ดันกล่าวแทรกขึ้นมาเสียก่อน "เตค่ะ บีบีไม่เคยทำอะไรแบบนั้น เตอย่าไปเชื่อมันนะ" คนบนเตียงพยายามปฏิเสธเสียงสั่นเครือ "นิ! เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ความผิดพลาด เตไม่ได้ตั้งใจ" เตชินอธิบายสุดฤทธิ์และทำท่าจะเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง "เต" บีบีเรียกเสียงอ่อน ทว่าเขากลับไม่ได้สนใจ ยังไงเสียผู้หญิงที่รักก็คือนิรณา แม้ว่าส่วนหนึ่งในนั้นจะเป็นเงินของเธอไปมากกว่าครึ่ง "เตสัญญา เตจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง นับแต่นี้ต่อไปเตจะมีแค่นิคนเดียว” ชายคนรักพูดพร้อม ชูนิ้วก้อยขึ้นมาทำท่าจะเกี่ยวก้อยสัญญา ทว่าสิ่งนั้น กลับยิ่งทำให้นิรณารู้สึกสิ้นหวังเหลือเกิน สิ้นหวังจนแทบอยากจะปล่อยโฮออกมา แต่กลับทำได้เพียงพยายามกล้ำกลืนฝืนทนไว้ ไม่อยากให้พวกมันทั้งสองได้เห็นด้านอ่อนแอของตัวเอง ตัดใจปฏิเสธหนักแน่น "ไม่! กูไม่นิยมใช้ของร่วมคนอื่น" ใช้ไม้อ่อนก็แล้ว ไม้แก่นั้น ยิ่งไปใหญ่ สุดท้ายปีศาจร้ายค่อย ๆ เผยด้านชั่วช้าออกมา ถามกลับน้ำเสียงยียวน "แล้วยังไง ในเมื่อมึงไม่ยอมให้กูเอาเองนี่หว่า กูก็แค่หาที่ระบาย มึงจะเรื่องมากทำไม ห๊ะ! เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ อย่าชวนทะเลาะได้ป่ะ!" ถ้อยคำผรุสวาทที่เล็ดลอด ออกจากปากชายคนรัก ทำให้นิรณาได้เห็นถึงธาตุแท้อันแสนดำมืดของเขา เล่นเอาเธอรู้สึกสิ้นหวัง หมดศรัทธาในตัวคนตรงหน้าลงเสียดื้อ ๆ จากตอนแรกที่รู้สึกขัดอกขัดใจมากอยู่แล้ว เกิดแปรเปลี่ยนเป็นชังน้ำหน้ายิ่งกว่าเดิม "เรื่องเล็ก ๆ เฮอะ..กูถามหน่อยเถอะ มึงใช้สมองส่วนไหนคิด ห๊ะ! เตชิน ลองให้กูไปเอากับเพื่อนมึงสักครั้งดูไหม?" เสียงสั่นพร่าถามด้วยความเดือดดาลภายในใจสุด ๆ "เอ่อ แบบนั้นก็ดีสิวะ..เซ็กซ์หมู่ แม่ง! มันส์จะตาย" เตชินลอยหน้าลอยตาตอบไร้ซึ่งยางอาย ไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดเลยสักนิดกับสิ่งที่ตัวเขาได้ทำลงไปว่ามันร้ายแรงขนาดไหน สิ่งที่ได้ยิน ทำเอานิรณาจุก จนพูดอะไรไม่ออก คำด่ามากมายติดอยู่ในลำคอ นึกเสียดายที่เคยหลงใหลในความหล่อเหลา จนมองข้ามธาตุแท้อันดำมืดของคนหลายใจ ชอบเกาะผู้หญิงกินไปเป็นวัน ๆ แบบไอ้แมงดาชาติชั่วคนนี้ "เราเลิกกันเถอะ แล้วมึงจะไปเอากับใครก็เชิญ" "ฟังให้ดี ๆ นะ กูไม่เลิกเด็ดขาด ถ้ากูเลิก แล้วกูจะเอาอะไรกิน!" เขายังคงกวนประสาท "นั้นมันเป็นเรื่องของมึง แต่ถ้ามึงไม่เลิก กูยิง!" นิรณาขู่ มือเอื้อมไปเปิดลิ้นชักข้างหัวเตียง หยิบปืนพก ขึ้นมาจ่อหัวอดีตคนรักด้วยอารมณ์ไม่แน่นอน แววตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยกลั้นน้ำตาไว้นาน จนดูน่ากลัว พร้อมกดลั่นไกได้ตลอดเวลา ทำเอาคนปากดีเงียบกริบ "ออกไป!" เสียงตวาดไล่..ลั่นห้อง ทำให้ชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้น รีบยกมือขึ้นเหนือหัว เชิงว่ายอมแพ้และไม่ขัดขืน เร่งถอยตีนหลังออกไป ให้เร็วที่สุด ลืมหมดทั้งเสื้อทั้งกางเกง เปิดตูดโกยแนบไม่สนฟ้าสนผี ขอแค่ได้มีชีวิตรอดออกไปจากห้องนี้ก่อนก็เพียงพอ เพียงไม่นาน หลังจากที่ทั้งห้อง เงียบสงบ ไร้ซึ่งผู้อื่นนอกเหนือจากตัวเอง ความหมองเศร้าค่อย ๆ เข้าปกคลุมจิตใจทีละนิด ๆ เล่นเอาขาสั่น ถึงกับทรงตัวไม่อยู่ ไม่อาจทนกลั้นเก็บความเจ็บใจได้ไหว ปล่อยโฮออกมาด้วยความชอกช้ำใจ ภาพวันวานฉายชัดเจนเข้ามาในหัวสมอง ความทรงจำดี ๆ มากมายนับหมื่น นับแสนชั่วโมงกลับถูกทำลายลง..เพราะความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ช่างเป็นอะไรที่น่าอดสู เกินกว่าจะรับไหว ได้แต่ทรุดนั่งลงกับพื้นคร่ำครวญด้วยความทรมานจับจิต หมายมั่นปฏิญาณกับตัวเองไว้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใด ในเมื่อพวกมันกล้าสวมเขาให้ "ฉันจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ ทำให้พวกแกไม่มีความสุข"กระจกเงาบานเล็กตั้งอยู่ตรงบริเวณขอบโต๊ะทำงาน สะท้อนภาพนิรณาที่ดูแทบไม่ได้ ขอบตาดำคล้ำ ใบหน้าตอบซีดเซียวเพราะโหมงานหนัก ไม่ยอมพักผ่อนมาเป็นอาทิตย์ ทำให้ร่างกายผ่ายผอมซูบลงจนเห็นได้ชัดพิษรักจากการอกหักมากมายเหลือคณา มากเสียจนทำให้หญิงแกร่งดั่งเธอ ต้องใจสลาย ไม่เป็นอันทำอะไรแม้ว่าสำนวนคดีมากมาย ต่างวางรอให้สะสางจะกองอยู่เต็มโต๊ะ หญิงสาวยังคงนั่งควงปากกาเล่นไปมา เหลือบตามองดูแผ่นกระดาษสีขาว อยู่แบบนั้นอย่างเบื่อหน่าย"สารวัตรครับ!" เสียงเรียกจากหมวดอากร ลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ร่างสูงโปร่งหอบแฟ้มเอกสารมาอีกเป็นตั้ง อย่างทุลักทุเล พร้อมส่งมอบมันให้แก่ผู้เป็นเจ้านาย ทำให้คนเหม่อได้สติ มองดูชายตรงหน้า แล้วฝืนยิ้ม ทักทายออกไปเสียงแผ่ว"อ้าว! หมวดกร ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอคะ? ดึกแล้วนะ กลับไปพักผ่อนเถอะ""ยังครับ พอดีผมต้องเข้าเวรดึก แล้วสารวัตรยังไม่กลับอีกเหรอครับ ผมเห็นคุณนั่งทำงานที่นี่มาตั้งสองวันติดแล้วนะ""ไม่ค่ะ ฉันกลับไปอยู่คนเดียวก็ฟุ้งซ่านเปล่า ๆ ขออยู่ทำงานที่นี่ต่ออีกสักพักละกัน"เมื่อเจ้านายสาวบอกแบบนั้น ลูกน้องอย่างเขาก็คงจะพูดอะไรไม่ได้มาก จึงทำแค่เอ่
นิรณาลอบมองหน้าคนข้างกายที่กำลังขับรถอย่างตั้งใจ พลันได้แต่นึกในใจ บดินทร์น่ะ..ดูไม่แก่เลยสักนิดเดียว หากมองดี ๆ อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอด้วยซ้ำไป‘นี่สินะที่เขาเรียกว่าอำนาจเงิน คงเสียไปไม่ใช่น้อย ถึงยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ได้ขนาดนี้’ คิดพลางจ้องมองไม่วางตา ไม่ยอมหละสายตาไปทางอื่น..ชวนให้ใครบางคนรู้สึกอึดอัดใจ"ถ้าจะจ้องพี่ขนาดนี้ ทำไมนิไม่กลืนลงไปเลยล่ะครับ?" สารถีขับรถพูดกึ่งประชดประชัน ความจริงเขารู้ตัวนานแล้วว่าถูกจ้องมอง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอ กระทั่งยัยคนนี้ เริ่มหันมาจ้องหน้ากันด้วยสายตาประหลาด ปานว่าไปฆ่าใครตายมา เล่นเอารู้สึกเกร็ง จนทำตัวไม่ถูก..แทบไม่มีสติบังคับพวงมาลัย"กลืนได้ก็ดีสิคะ?" สิ้นคำ เอี๊ยดดดดดดดด เสียงล้อบดถนนดังกึกก้อง มาจากการที่บดินทร์เผลอตัวกดแรงไปเหยียบเบรกกะทันหัน ทำให้ศีรษะนิรณาแทบทิ่มกับคอนโซนหน้ารถโชคดีที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้เลยไม่เป็นอะไรมากนัก แค่ตกใจนิดหน่อยเพียงเท่านั้น"รู้ตัวบ้างไหมว่าพูดอะไรออกมา เป็นสาวเป็นนาง อย่าเที่ยวให้ท่าอ่อยผู้ชาย มันน่าเกลียด" คนข้างกายพร่ำบ่น สอนอย่างกับเป็นแม่เธอเล่นเอาฝ่ายถู
กว่านิรณาจะลากตัวบดินทร์ มาถึงโรงแรมได้ เล่นเอาเหงื่อตก หมดเรี่ยวแรง แขนขาเมื่อยล้า จนต้องรีบทิ้งร่างคนตัวสูงลงบนเตียง แล้วปล่อยตัวเอง ให้ล้มตัวลงนอนแผ่หลาอยู่ข้างคนไร้สติ ก่อนจะพลิกตัวตะแคงข้าง หันไปมองหน้าเขา"นี่! พี่..พี่ดิน" พยายามทั้งเรียกชื่อทั้งเขย่าตัว หวังปลุกสติคนเมาแอ๋ ซึ่งกำลังหลับเป็นตาย ให้ตื่นขึ้นมา ก็ได้แต่นึกสงสารตัวเองที่อุตส่าห์มอมเหล้าจนสำเร็จ หวังจะเผด็จศึกสักครั้ง เผื่อบางทีอาจจะได้กลายเป็นแม่เลี้ยงนังเพื่อนสนิทให้หายแค้น ทว่าฝ่ายชายดันหมดสติ จนทำอะไรไม่ได้แต่มีหรือคนอย่างนิรณาจะยอมแพ้ พอดีเธอน่ะ..เป็นพวกที่เชื่อว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นในเมื่อ เปิดห้องมาแล้ว ทั้งที..ทุกอย่างต้องไม่เสียเปล่า"เป็นไง! เป็นกัน" เสียงใสพูดให้กำลังใจตัวเอง พร้อมลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดทีละเม็ด ๆกระทั่งแผงอกหนาที่ปกคลุม ไปด้วยขนสีน้ำตาลอ่อน แสดงสู่สายตา มัดกล้ามเป็นลอนของเขามองดูแล้วชวนน่าหลงใหลซะจนนิรณาเริ่มเคลิบเคลิ้ม เผลอใช้มือนุ่ม ลูบไล้ สัมผัสหยอกเย้าเบา ๆ ก่อนจะรีบดึงสติ สะบัดหัวไปมา เพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านเอื้อมม
คนตัวเล็กเมื่อถูกเรียกชื่อ ดันเผลอลืมตา เป็นเหตุสองสายตาสอดประสานกัน เข้าอย่างจัง ทำเอาคนมากเลห์ต้องเปลี่ยนแผนเล่นบทเหยื่อสาว ผู้เคราะห์ร้าย จ้องมองเขากลับด้วยนัยน์ตาใสแป๋วใสซื่อบริสุทธิ์"พะ..พี่ดิน! นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?" นิรณาถามเสียงแผ่ว เแสร้งทำเป็นตื่นขึ้นมา ตีหน้าซื่อเสมือนว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนร่วมกับสิ่งเขาทำ ทั้งที่เมื่อตะกี้ก็ยังนอนบิดกายเร่า ระบายความซาบซ่านในตัวอยู่แท้ ๆบดินทร์แม้จะมองผ่านความมืดสลัว แต่ท่าทางตกใจกลัวจนตัวสั่นสะท้าน ทำให้คนตัวสูงต้องรีบถอนแกนกายออกจากร่างนิรณาแทบทันที เร่งละล่ำละลักกล่าวออกมา"พะ..พี่ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ!"'เฮอะ ปากบอกว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับกระแทกเอา ๆ จนระบมไปทั้งตัว มาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ มันน่าจะโดนจับตีนัก' นิรณาค่อนขอด อยู่ภายใน จิตใจรู้สึกขุ่นมัวไม่ใช่น้อย อยากจับบดินทร์กลับไปดูการกระทำของตัวเองเมื่อตะกี้ซะจริง ๆ"คิดซะว่าเป็นอุบัติเหตุเถอะค่ะ..อย่ามารับผิดชอบนิเลย นิมันโง่ นิมันง่ายเอง พี่ดินไม่ต้องมาสนใจหรอก" คนตัวเล็กกล่าวตัดพ้อเล็กน้อย ท่าทางดูแง่งอน ซะจนแก้มซาลาเปาป่องออกมาตามกิริยาเจ้าของร่
คนตื่นเช้าเป็นกิจวัตรลอบมองหน้าคนข้าง ๆ เห็นเขายังหลับตา เลยได้โอกาสแอบมองใบหน้าคมคายจังหวะนั้นริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย เอาคางไปเกยไว้บนแผงอกแกร่งตั้งใจจะอยู่แบบนี้ จนกว่าบดินทร์จะลืมตาตื่น แต่แล้วก็ต้องล้มเลิกไปกลางคัน เมื่อคิดได้ว่าเขาคงจะตกใจแน่ ๆถ้าได้เห็นสภาพหัวฟู ๆ หน้าตาซีดจางของตัวเองในยามเช้า เร่งรีบลุกขึ้นจากเตียงเดินลิ่ว ๆ ไปอาบน้ำแต่งตัวให้กลับมาสวยเช้งอีกครั้ง พลางบิดตัวไปมา ส่องกระจกอยู่นาน กว่าจะมั่นใจที่จะเดินออกไปเผชิญหน้าและถึงยังไง เมื่อเดินทางมาขั้นนี้แล้ว บดินทร์จะต้องหลงใหลเธอ หัวปักหัวปำก่อนจะค่อย ๆ เปิดแง้มประตูออกมานิดหน่อย ไม่เห็นเขานอนอยู่บนเตียง วินาทีนั้น..นิรณาใจหายวาบคิดในใจ ไม่ใช่ว่าถูกเขาทิ้งหรอกนะ แต่ยังไม่ทันจะได้ตีโพยตีพาย หางตาดันเหลือบเห็นอะไรแวบ ๆ อยู่ทางด้านซ้ายชายร่างสูงโปร่งกำลังยืนพิงหน้าต่าง คุยโทรศัพท์กับใครบางคน ช่วงเอวมีแค่ผ้าขนหนูพันรอบไว้หลวม ๆเล่นเอายัยคนหื่น ถึงกับต้องรีบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อได้เห็นร่างกายท่อนบน ไร้ซึ่งเครื่องนุ่งห่ม สะท้อนกับแสงอรุณยามเช้า มองดูแล้วช่
มือบางเลื่อนไล่ไถหน้าจอมือถือไปเรื่อย ๆ ระหว่างรอ บดินทร์กลับจากเข้าห้องน้ำ กระทั่งสายตามาหยุดตรงคำที่ว่า‘ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ร่วมเดินทางมาเที่ยวงานวัดประจำปี’ หลังจากอ่านข้อความบรรทัดนั้นจบ นัยน์ตาสวยเริ่มเป็นประกาย ในที่สุดก็หาสถานที่พาเขาไปเดทได้แล้ว“พี่ดินขาา ก่อนกลับ นิมีสถานที่หนึ่งที่อยากจะไปมาก ช่วยพาไปหน่อยได้ไหมคะ?” นิรณาอ้อนขอ เมื่อเห็นหน้า“ได้สิครับ นิอยากจะแวะที่ไหนล่ะ?”“งานวัดค่ะ เป็นทางผ่านกลับบ้านของนิพอดีด้วย ช่วยแวะหน่อยน้าาค้าา” บดินทร์พอโดนลูกอ้อนด้วยการกะพริบตาปริบ ๆ ของนิรณา ดันเกิดอาการอ่อนระทวยทำอะไรแทบไม่ถูก พยักหน้ายินยอม ทำตามคำขออย่างว่าง่าย ไม่ได้ฉุกคิด หรือเอะใจเลยสักนิดเดียวกระทั่ง..รถเก๋งทรงสปอร์ตสีดำ วิ่งด้วยระดับความเร็วคงที่มาตามทางด่วน นานสองนาน เป็นเหตุให้สารถีงงมาก ถ้าเอาตามความจริง เขาก็ขับมาเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงงานวัด หรือบ้านของคนข้าง ๆ สักกะที จนเริ่มรู้สึกท้อใจ แขนขาเมื่อยล้าไปหมด"ถ้าไม่ใช่นิ พี่คงคิดว่าถูกลวงมาฆ่าทิ้ง" บดินทร์บ่นอุบ เหลือบตามองไหล่ทาง ไร้ซึ่งแสงไฟซ้ำยังเป็นถนนเลี่ยงเมือง ยิ่งทำให้รู้ส
มือบางเลื่อนไล่ไถหน้าจอมือถือไปเรื่อย ๆ ระหว่างรอ บดินทร์กลับจากเข้าห้องน้ำ กระทั่งสายตามาหยุดตรงคำที่ว่า‘ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ร่วมเดินทางมาเที่ยวงานวัดประจำปี’ หลังจากอ่านข้อความบรรทัดนั้นจบ นัยน์ตาสวยเริ่มเป็นประกาย ในที่สุดก็หาสถานที่พาเขาไปเดทได้แล้ว“พี่ดินขาา ก่อนกลับ นิมีสถานที่หนึ่งที่อยากจะไปมาก ช่วยพาไปหน่อยได้ไหมคะ?” นิรณาอ้อนขอ เมื่อเห็นหน้า“ได้สิครับ นิอยากจะแวะที่ไหนล่ะ?”“งานวัดค่ะ เป็นทางผ่านกลับบ้านของนิพอดีด้วย ช่วยแวะหน่อยน้าาค้าา” บดินทร์พอโดนลูกอ้อนด้วยการกะพริบตาปริบ ๆ ของนิรณา ดันเกิดอาการอ่อนระทวยทำอะไรแทบไม่ถูก พยักหน้ายินยอม ทำตามคำขออย่างว่าง่าย ไม่ได้ฉุกคิด หรือเอะใจเลยสักนิดเดียวกระทั่ง..รถเก๋งทรงสปอร์ตสีดำ วิ่งด้วยระดับความเร็วคงที่มาตามทางด่วน นานสองนาน เป็นเหตุให้สารถีงงมาก ถ้าเอาตามความจริง เขาก็ขับมาเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงงานวัด หรือบ้านของคนข้าง ๆ สักกะที จนเริ่มรู้สึกท้อใจ แขนขาเมื่อยล้าไปหมด"ถ้าไม่ใช่นิ พี่คงคิดว่าถูกลวงมาฆ่าทิ้ง" บดินทร์บ่นอุบ เหลือบตามองไหล่ทาง ไร้ซึ่งแสงไฟซ้ำยังเป็นถนนเลี่ยงเมือง ยิ่งทำให้รู้ส
เสียงไก่ขันเซ็งแซ่ปลุกตอนเช้า บดินทร์ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น เขากะพริบตาถี่ ๆ สองสามครั้งเมื่อคืนนิรณาบอกว่าให้ตนมาอยู่ในห้องนี้ก่อนเพราะมืดค่ำแล้ว จึงไม่ได้ไปไหว้ทักทายคุณยายของเธอแต่พอเหลือบตามองข้าง ๆ ฟูกนอนที่ควรจะมีคนตัวเล็กนอนอยู่กลับไร้ซึ่งวี่แววจะก้าวเท้าออกจากห้องไปก็ดันกลัวเจ้าของเรือนจะตกใจคิดว่าเป็นขโมยขโจน เร่งสาวเท้าไปแง้มเปิดประตูสอดสายตามองหาตัว..ก็ไม่พบ นิรณาหายไปไหนก็ไม่รู้ คนตัวสูงเลยตัดสินใจ สูดลมหายใจลึก ๆ จะออกไปตามหา เคร้ง!เสียงขันเหล็กที่ใส่น้ำดอกมะลิ ตกกระทบพื้นเรือน ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดลันของสาวน้อยวัยละอ่อน"อร้ายยยยยย ยายจ๋า โจรจ้าโจร โจรขึ้นบ้านเราแล้ว""เอะอะ..อะไรแต่เช้าล่ะโว้ยย! นั้นคุณดิน ผัวพี่สาวเอ็งไง!" ยายแพร้วเอ่ยบอกหลานคนเล็ก เนื่องด้วยได้รู้เรื่องจากนิรณาตั้งแต่เช้าตรู่ ที่คนเป็นหลานสาวลุกไปเคาะห้องทักทาย"อ้าว! แล้วคนก่อนล่ะยาย?""ผีเจาะปากมาพูดหรือไง! รีบไปเลยนะ ไปเร็ว ๆ ไปหาน้ำหาท่ามาต้อนรับว่าที่พี่เขยเอ็ง" ยายแพร้วพูดรัว ๆหลานเขยคนนี้ หน้าตาท่าทางดูดีมีสกุล ต่างจากคนก่อนที่เจ้าสำอาง ซ้ำยังเกียจคร้
"ต่อไปนี้ เราสองคนจะทำยังไงต่อดี" บีบีว่าแล้วกัดเล็บตัวเอง ท่าทางกลัดกลุ้ม คิดไม่ตกกับเรื่องราวน่าปวดหัวชีวิตต่อไปนี้จะเดินไปต่อยังไง ตลอดมาบดินทร์คอยส่งเสียเลี้ยงดู ไม่เคยขาดตกบกพร่องทว่าตั้งแต่มีนิรณาเข้ามาอยู่ในชีวิต นับแต่นั้นมา กว่าจะได้เห็นหน้าพ่อแต่ละรอบ แทบนับครั้งได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดและโกรธ โกรธจนใบหน้างอง้ำลงเรื่อย ๆ"อย่าเครียดไปเลยน่า เดี๋ยวลูกเราก็พิการเอาหรอก" เตชินเตือนด้วยความห่วงใยเขาไม่อยากเห็นลูกของตัวเองออกมาไม่สมบูรณ์เพราะมีแม่เป็นประสาท อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แปรปรวนยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด"จริงด้วยสิ..ท้องได้ก็แท้งได้!""บีจะทำอะไร?""เมื่อเช้าไม่ได้ยินเหรอไง! คุณพ่อบอกว่าบีกำลังจะมีน้อง นั้นก็หมายความว่านังนิมันท้อง""ท้อง!" เตชินถามอย่างตกใจ เพราะไม่ได้ฟังสามคนนั้นคุยกัน ด้วยมึนจากการที่โดนนิรณาทั้งตบทั้งถีบ"ใช่ มันท้อง แล้วเราสองคนก็กำลังจะตกกระป๋อง" บีบีแวดใส่สามีอย่างเหลืออดเหลือทน วัน ๆ ไม่ยอมทำงานทำการอะไร เกาะติดเป็นภาระ จนน่าเบื่อหน่าย"แล้วเราจะทำยังไงต่อดี...""ก็ทำให้มันไอ้มารหัวขนนั้น มันเกิดไม่ได้ซะสิ!"
เสียงเอะอะโวยวาย ทำให้บดินทร์ที่กำลังจะออกไปจัดการเรื่องงานแต่งงานที่วางไว้ ต้องเดินย้อนมาอีกทางจนได้เห็นคนทั้งสามกำลังฟัดกันนัวเนียอย่างกับว่าจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งอารมณ์ดีของยามเช้าเหือดหายไปหมด ทานทนไม่ไหว ตะเบ็งเสียงโพล่งออกไปอย่างเหลือทน"ทำอะไรกัน!"เสียงทรงอำนาจของผู้เป็นใหญ่ในบ้าน ทักขึ้นมา เล่นเอาทั้งบีบี และเตชินสะดุ้งโหยง เร่งผละตัวออกจากร่างนิรณา"พวกเราแค่แวะมาทักทายคุณแม่คนใหม่ คุณพ่อจะเดือดร้อนทำไมล่ะคะ?" เสียงแหว๋ว ๆ เค้นลอดไรฟัน แสร้งทำท่าทางเหมือนคนไร้พิษสงยิ่งทำให้บดินทร์เอือมระอา ไม่เข้าใจว่า ทำไมสามคนนี้ ถึงได้เอาแต่สร้างเรื่อง ทะเลาะกัน ทุกครั้งที่เจอหน้า"ขอเถอะนะ..ทั้งสามคนเลย ช่วยเลิกสร้างเรื่องให้ปวดหัวสักทีได้ไหม? ก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกันอีก ต่างคน..ต่างอยู่ไปสิ ทำตัวเป็นเด็ก ๆ กันไปได้!""บีบีไม่ได้ทำนะคะ..นังนิมันหาเรื่องก่อนต่างหาก""นิไม่ได้หาเรื่องก่อนนะคะ พี่ดินดูหน้านิก่อนสิ ดูสิ บีบีมันตบนิเป็นสิบ ๆ รอบ พี่ดินจะให้อยู่เฉย ๆ เหรอคะ?" นิรณาว่า แล้วเอียงแก้มแดง ๆ ปรากฏรอยฝ่ามือให้สามีดู
"เร็ว ๆ หน่อยสิเต เดี๋ยวคุณพ่อมาเจอ แผนเซอร์ไพรส์วันเกิดท่านคงพังหมด" บีบีบ่นอุบ มือเร่งกระชากร่างสามีที่กำลังอิดออด ให้ตามตัวเองเข้ามาในบ้านหลังโต"มันก็แค่วันเกิดไหม..บีจะรีบกลับมาทำไม เตยังเที่ยวไม่หนำใจเลย" คนตัวสูงเดินตาม ปากบ่นอย่างเซ็ง ๆ"เงินอ่ะ! อยากได้ไหม ถ้าอยากได้ก็เงียบปาก""มีแค่บัตรใบนั้น เราก็สบายไปทั้งชาติแล้ว จะกลับมาให้ยุ่งยาก น่ารำคาญทำไม? ""เศษเงินแค่นั้น บีไม่สนหรอก ขืนปล่อยให้คุณพ่ออยู่กับนังนิมันเรื่อย ๆ คงโดนปอกลอก ขโมยสมบัติไปหมด""ถ้าพ่อบีมันจะโง่ขนาดนั้น..ก็ปล่อยมันไปเถอะน่า""เต บีเคยสั่งไว้แล้วใช่ไหม ห้ามเรียกคุณพ่อว่ามัน""พ่อบีมันก็เป็นคน เตก็คือคน เลิกเทิดทูนมันสักที" เตชินว่าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ตั้งแต่แต่งงานกันมา บีบีมักเอาตัวเขาไปเปรียบเทียบกับบดินทร์ บอกว่าพ่อดีอย่างงั้น ดีอย่างงี้ แล้วเอานิสัยคนคนนั้น มาเหยียบย่ำ ให้เขาตกต่ำกว่าเสมอ"ยังไงซะ! พ่อบีท่านก็มีดีกว่าเตเยอะ ทั้งฐานะ หน้าตาและเงินทอง ท่านสูงกว่าเตทุกอย่าง""หึ ถ้าคนอย่างไอ้บดินทร์มันสูงส่งนักหนา คงไม่มั่วไปเอากับพี่เลี้ยง..ตั้งแต่อายุสิบสาม จนเกิดเป็
บดินทร์ทำสำเร็จ เขาจับศัตรูคู่อาฆาต ทั้งสามคนแยกออกจากกัน โดยการส่งให้บีบีกับเตชิน ไปฮันนีมูนไกลถึงยุโรป แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..พักหลังมานี้นิรณามักจะอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ จนตามความคิดคนข้างกายไม่ทัน พอนัยน์ตาคมเห็นคนสวยกลับเข้าห้องมาคนตัวสูงเร่งรีบไปแอบหลบอยู่ในมุมมืด ได้โอกาสจึงค่อย ๆ แอบย่องไปปิดตาเธอจากด้านหลังคล้ายจะหยอกเล่น แต่ดันลืมไปว่ายัยเด็กดื้อเป็นพวกขี้ระแวง เลยโดนศอกมน ๆ กระทุ้งใส่ไปหนึ่งที"โอ๊ยยยย" บดินทร์คร่ำครวญ ทรุดลงไปนั่งกับพื้นทั้งที่อุตส่าห์..จะสร้างความประทับใจ แต่กลับต้องมาเจ็บตัว และพอฝ่ายคนกระทำรู้ตัว จึงรีบไปประคองร่างสามี แทบทันที แต่ปากก็ไม่วายจะบ่นอุบอิบออกมา"พี่ดินนะ พี่ดิน จู่โจมกัน ไม่ให้สุ้มให้เสียง คราวหน้าคราวหลัง อย่าทำอีกนะคะ!""พี่ก็แค่อยากจะกอดนิบ้าง ทำไมช่วงนี้ หนูถึงหวงเนื้อห่วงตัวนักล่ะครับ?" เขาอธิบายเสียงอ่อน ทั้งเจ็บใจทั้งน้อยใจ อาจเพราะหลังจากพาเขาออกจากโรงพยาบาลแทนที่นิรณาจะสนใจกัน เธอกลับกลายเป็นคนบ้างานสุด ๆ ทุกวันมักจะตื่นตั้งแต่เช้าไปขลุกตัวอยู่แต่ในโรงพักจนบางครั้ง..เขาก็ได้แต่นึกสงสัยว่
"รีบ ๆ ปล่อยมือโสโครกออกจากตัว ผู้ชายของกู" คำพูดนั้นไม่ได้มาเปล่า แต่มาพร้อมกับปลายกระบอกสีเงิน ที่สร้างสัมผัสเย็น ๆ ตรงบริเวณ..ท้ายทอย ทำให้มันผู้นั้น สะดุ้งเฮือกนังนี้มันมาตอนไหนทำไมถึงไม่รู้ตัวแต่เพราะลูกตะกั่วที่เตรียมพร้อมลั่นไกวิสามัญ สองมือจึงปล่อยร่างกายที่เคืองแค้น ลงไปกับพื้น ก่อนจะค่อย ๆ ชูมือทั้งสองข้างขึ้นมาแต่แล้วช่วงจังหวะนั้น นิรณาดันทำพลาด เพียงคลาดสายตา มองร่างบดินทร์ เลยถูกมันใช้มือเอื้อมมาจับปืน แล้วพลิกร่างกลับมา เผชิญหน้ากัน"เห้อออ เป็นคนธรรมดาอยู่ดี ๆ ไม่ชอบ! มึงอยากเป็นสินค้าอยู่แถบชายแดนสินะ ถึงได้กล้ามายุ่งกับกู""โห..สารภาพออกมาแบบนี้ ฉันก็ไม่ต้องหาหลักฐานให้เหนื่อยเลยสิคะ" เสียงหวานยียวน ไม่ได้กลัวเลยสักนิดปั๊ก! แขนเล็กอีกข้างที่ว่างเว้นสับลงระหว่างข้อพับแขนจนมันหักงอ อ่อนแรงลง ต่อด้วยกระบวนท่า การต่อสู้ระยะประชิด ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา ซะจนเชี่ยวชาญถึงสามศาตร์ อันได้แก่ มวยไทย ยูยิตสูและเทควันโด ทำให้ร่างกายบอบบางดูไร้พิษสง นำศิลปะการต่อสู้ทุกศาสตร์ มาผสมผสาน จนได้อานุภาพร้ายแรง จับมันหักแขนมาไพล่หลังไว้จนได้"ป
"พี่ดิน แน่ใจเหรอ?" นิรณากระซิบถามเบา ๆ ระหว่างทางเดินมายังเวทีมวยใต้ดินที่อยู่อีกห้องหนึ่ง"ถามแบบนั้นออกมา เพื่ออะไรครับ ยังไงตอนนี้เราก็ให้ถอยไม่ได้อยู่ดี""ถ้านิไม่ใจร้อน บุ่มบ่าม เราสองคน คงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้" ว่าแล้ว มือกดขอกำลังเสริม ให้มาล้อมไว้ แต่พวกเขา ไม่สามารถเข้ามาด้านในได้ ทางเดียวที่เหลือคือบดินทร์ต้องชนะ แต่เพราะกลัวเขาเจ็บ ใบหน้างามยิ่งเคร่งเครียดขึ้น จนคนข้างกายสังเกตุเห็น"โทษตัวเองไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก นิเชื่อใจพี่เถอะ" คนตัวสูงว่า มือหนาเอื้อมไปคว้าเอามือเล็กมากอบกุมไว้ หวังให้เธอคลายความกังวล ซึ่งนิรณาก็พยายามเชื่อใจเพราะยังไงซะ..ผู้ชายตรงหน้าก็ได้ชื่อว่าเป็นครูมวยใช่ บดินทร์คือหนึ่งในผู้ฝึกสอนนักมวยให้ค่ายชื่อดัง ซึ่งเป็นสมบัติที่ตามอบให้เขาเป็นคนสานต่อ และอย่างน้อย ๆ การต่อสู้ คงไม่จบง่ายดาย"นิมีวิธีแล้ว..พี่ดินยื้อเวลาสักพักนะ" ยัยคนเก่งว่าเร็ว ๆ แล้วผลุบหายตัวไปในฝูงชน ใช้เทคนิคการสะกดรอยตามกลุ่มคนหน้าสงสัยไป ทิ้งให้บดินทร์เดินตามชายคนนั้นไปหลังจากเดินตามกลุ่มคนน่าสงสัยไป ในที่สุดสารวัตรสาวก็มาหยุดข้างเวทีประมูลที่กำ
เมื่อได้บัตรผ่านมา อย่างไรก็ต้องใช้ให้คุ้ม นิรณาเลยไม่คิดจะทนรอ ให้ถึงอาทิตย์หน้าตามกำหนดของแผนการ ตั้งใจจะลอบเข้าไปสืบด้วยตัวเอง แต่สุดท้าย..กลับมีบดินทร์ติดสอยห้อยตาม มาจนได้ "ไม่ว่านิจะทำอะไร..พี่ดินห้ามขวางเด็ดขาด และอย่าให้พวกมันจับไต๋เราได้นะ เพราะนั้นหมายถึงชีวิต""เชื่อใจพี่เถอะครับ บดินทร์คนนี้จะไม่ทำให้สารวัตรที่แสนใจดีคนนี้ ต้องบาดเจ็บแน่นอน"นิรณายืนอึ้ง ผู้ชายตรงหน้าเคยรู้ตัวบ้างไหมว่าเป็นคนปากหวานมากแค่ไหน แถมยังชอบพูดให้ใจสั่นอยู่เรื่อย"ค่ะ" เธอตอบรับเพียงสั้น ๆ ทั้งที่ใจเต้นระรัวและจำใจเดินนำทาง พาเขามาด้วยจนได้ อันเนื่องมาจาก ตั๋วผ่านทางบดินทร์เป็นคนเก็บรักษาไว้ ไม่ยอมให้ถือเด็ดขาดจนกว่าจะมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งเมื่อการ์ดได้เห็นบัตรผ่านก็ไม่ซักไซ้อะไร ยอมปล่อยให้เข้ามาด้านในง่าย ๆ และสมคำร่ำลือ สถานที่แห่งนี้ เปิดโลกหนุ่มผู้ดีวัยกลางคน ชายที่ไม่เคยมาเหยียบย่ำ สถานที่อโคจร ให้ได้..มาพานพบ ประสบเรื่องราวแห่งโลกใต้ดินกลุ่มคนที่ดูเหมือนเป็นพนักงาน ต่างไม่ใส่อะไรทั้งนั้น ไม่ว่า..ชายหรือหญิง พวกเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อน มีเพียงหมายเลขห้อยไว
เช้าแสนสดใสเริ่มต้นขึ้น นิรณาตื่นมาด้วยความสดชื่น หลังจากพักผ่อนไม่เพียงพอ มาหลายวัน พร้อมกับเร่งรี่เข้าไปอาบน้ำ หวังจะทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้ไปทำงานต่อ "พี่ได้ยินมาว่านิจะไปเต้นเปลื้องผ้าที่ไนน์คลับ" บดินทร์ทักทายคำแรกด้วยคำถาม ทันทีที่ได้เห็นเธอสาวเท้า เดินเช็ดผมเปียกชุ่มออกมาจากห้องน้ำ คนถูกถามได้แต่ยิ้มรับบางๆ จำได้ว่าตัวเอง ทำอะไรไปเมื่อตีสอง จากมือที่เช็ดผม พลันแปรเปลี่ยนเป็นเกาหัวหาคำแถ ทว่าสุดท้ายก็จนปัญญา ยอมพยักหน้าให้เล็กน้อยเชิงว่าเป็นความจริง "ไม่ทำ..ไม่ได้เหรอครับ?" บดินทร์ถาม ถึงแม้รู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายชีวิตของเธอ แต่ใจมันคงทนไม่แน่ หากต้องเห็นผู้หญิงของตัวเองต้องไปเต้นโชว์เนื้อโชว์หนัง ให้ใครต่อใครก็ไม่รู้มองดู "มันเป็นงานค่ะ พี่ดินเข้าใจนิหน่อยสิ" คนตัวเล็กกล่าวออดอ้อน แล้วเข้าไปใกล้ตัวเขา พลางหย่อนก้นนั่งลงบนตักกว้าง สอดวงแขนไปคล้องคอสามี "งั้นก็อย่าทำเลยนะ เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้" "ไม่เอา ๆ ไม่พูดเรื่องงานแล้วดีกว่านะ ๆ นะ นะ" เธอไล่เสียงอ้อนขอ พร้อมจู่โจม จุ๊บแก้มเขาไปฟอดใหญ่ เพื่อเติมกำลังใจ "ก็ได้ แต่หนูต้องสัญญานะ ว่าจะกลับบ้านให้ตรงเวลา"
ในสายตาของหมวดอากร นิรณาเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก แต่ก็มีข้อเสียใหญ่ ๆ คือชอบหมกมุ่น ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เจ้านายสาวเลยกลายเป็นคนกัดไม่ปล่อย ถ้าเกิดว่าได้ทำงานชิ้นไหนแล้ว หรือสงสัยอะไร..ความสนใจทั้งหมดจะพุ่งไปรวมที่จุดเดียว ไม่ต่างจากตอนนี้สักเท่าไหร่..ที่เธอเอาแต่ขลุกตัวอ่านเอกสารสี่ร้อยกว่าหน้า จนเป็นเวลาติดต่อกันมาร่วมกว่าสิบชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีท่าทีจะลุกออกจากห้อง "สารวัตรครับ มีคนต้องการเข้าพบ" "ใครคะ?" เธอเงยหน้าขึ้นมาจากกองงาน ดูอ่อนระโหย "เขาบอกว่าชื่อบดินทร์ เป็นแฟนของคุณ" "ให้เขาเข้ามาค่ะ" "สารวัตรมีแฟนใหม่..แล้วจริง ๆ เหรอ?" "ฉันไม่เคยบอกหมวดเหรอคะ..นึกว่าบอกแล้วซะอีก!" สารวัตรสาว ทำหน้าสงสัย แล้วนึกขึ้นได้ ตั้งแต่กลับมาทำงาน สิ่งเดียวที่ทำอยู่ตอนนี้คือ..การสืบหาเบาะแสใหม่ จนลืมพูดลืมคุยกับเพื่อนร่วมงานมาเป็นอาทิตย์ "งั้นผมให้เขาเข้ามานะครับ" "ค่ะ" หลังจากนั้น เพียงไม่นาน บดินทร์จึงเดินมาหา สีหน้าบอกบุญไม่รับ ทำเอานิรณาได้แต้ยิ้มจืด ต้อนรับคุณสามี "เลยเวลาเลิกงาน มาหกชั่วโมงแล้ว นิไม่คิดจะกลับเหรอครับ?" เสียงทุ้มบ่นออกมาแทบจะทันทีที่ได้เห็นหน้า ความเป็นจริงก็ไม่อ