"กลับมาแล้วเหรอคะ?" นิรณาว่า พร้อมส่งยิ้มให้จาง ๆ
"พี่ควรต้องถามต่างหาก ว่า..นิเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง?" "พี่ดินลืมแล้วเหรอคะ..ว่านิเป็นใคร" นิรณาว่า แล้วฉีกยิ้มแหย ๆ พร้อมยกมือชูลวด ขึ้นมาหนึ่งเส้น "โจรสินะ" "ใช่ค่ะ นิเป็นโจรที่จะมาปล้นสวาท..พี่ดินไงคะ!" "เอาดี ๆ ครับ นิมาทำอะไรที่ห้องพี่" "ก็นิเบื่อนี่คะ! ช่างเป็นงานแต่ง..ที่โคตรของโคตรจะน่าเบื่อ" เสียงหวานบ่นอุบอิบ ใบหน้าสวยบึ้งตึงเล็กน้อย "เป็นยังไงบ้างครับ?" "หมายถึงอะไรเหรอคะ?" สาวเจ้าถามกลับ สีหน้าฉายแววงง ๆ ไม่รู้ว่าบดินทร์ต้องการจะสื่ออะไร "ตรงนี้เป็นยังไงบ้าง?" มือหนาจิ้มนิ้ว ลงกลางหัวใจเธอ นัยน์ตาแฝงด้วยความอบอุ่นและห่วงใย "ฮั่นแน่! คนลามก..อยากจะจิ้มนมเค้าก็ไม่บอก" ยัยคนปากแข็งพาเฉไฉไปเรื่อย คร้านจะวกเข้าเรื่องราวน่ารำคาญพวกนั้น "พี่จริงจังนะครับ" สิ้นน้ำเสียงดุ นิรณาจอมดื้อ เลยจำยอมตอบกลับออกมาเสียงแผ่ว "เรื่องก็ผ่านหลายเดือนแล้ว..พี่ดินอย่าไปสนใจเลยค่ะ!" เมื่อเห็นว่านิรณา น่าจะไม่อยากพูดถึงอดีตของตัวเอง บดินทร์เลยไม่เซ้าซี้ แล้วหยิบผ้าเปียกออกจากหน้าผากสาวตรงหน้า..ไม่อยากให้เธอต้องกลายเป็นไข้หวัดแทนปวดหัว "เป็นไง! พอจะหายเจ็บยัง?" "โอ้ยย ยังเจ็บอยู่เลยค่ะ สงสัยต้องโดนฉีดยาแล้วล่ะมั้งคะ..ถึงจะยอมหาย" คนเจ้าฉอเลาะหยอกเย้า สอดสายตาฉ่ำหวานประสานกัน กระตุกดึงเนกไทเส้นหนาให้เข้ามาใกล้ตัวเองเรื่อย ๆ "ไม่ร้อนเหรอคะ?" เธอถาม หลังจากเห็นบดินทร์ยังคงใส่สูทซะเต็มยศ ดูแล้วช่างน่าอึดอัด จนอยากจะปลดกระดุมพวกนั้นออกให้หมด เผื่อกล้ามแน่น ๆ จะได้ออกมาหายใจ ซึ่งร่างกายนั้น มักจะว่องไวกว่าสมอง เพียงพริบตา จึงเริ่มลงมือปลดกระดุมออก ให้ทีละเม็ด "ไว้ก่อนได้ไหม วันนี้พี่เหนื่อยมากเลย" บดินทร์ปฏิเสธ วันนี้มีหลายเรื่องราวให้น่าตกใจ ซ้ำยังคิดไม่ถึงว่า..โลกจะกลมได้มากขนาดนี้ ครุ่นคิดอยู่นานว่าตนควรจะทำอย่างไรดี หากยังคบหากับนิรณา บ้านคงจะอึดอัดมาก ๆ อีกอย่างเตชินก็เป็นเขยที่แต่งเข้ามา ซ้ำร้ายเธอกับลูกสาวอย่างบีบี ยังเป็นอริกันอีก แค่คิดถึงภาพที่จะเกิดขึ้น เขาก็เริ่มปวดหัวเสียแล้ว "แต่ว่า..นิหิวนี่น่า" นิรณากล่าวเสียงหงอย ดูแล้ว ก็น่าสงสาร ทำเอาบดินทร์ทนดูไม่ไหว เร่งถามไถ่ "แล้วนิอยากกินอะไรล่ะครับ เดี๋ยวพี่สั่ง แม่บ้านทำให้" คำถามของบดินทร์ ช็อตความรู้สึกนิรณาทันที แต่พอเขาชวนนึกถึงของกิน ท้องเธอก็ร้องโครกครากขึ้นมา..อย่างเลี่ยงไม่ได้ "หิวจริง ๆ ด้วย" เธอพูด พร้อมลูบท้องตัวเอง "แต่ว่านิ อยากจะทำอะไรสนุก ๆ กับพี่ดินก่อนนี่น่า" เสียงหวานเย้ายวน ไล่นิ้วไต่ไปตามบนแผงอกกว้าง สร้างความปั่นป่วนให้แก่บดินทร์ เวลานั้นทุกอย่าง ล้วนอยู่ในการควบคุมของนิรณา "แล้วนิ อยากจะทำอะไรล่ะครับ?" "พี่ดินจะถามเรื่องที่รู้อยู่แล้ว ไปทำไมกันคะ?" ว่าจบ เธอจึงผละออกจากตัวเขา ท่าทางแง่งอน "ถ้างั้นก็ไปกินข้าวกันก่อนเถอะ" บดินทร์ชักชวน และเขาเห็นนิรณายังไม่ทันได้ทานอะไรมาตั้งแต่เช้าแล้ว "แต่ว่านิอยากกินพี่นี่น่า..อืออออ" ยังพูดไม่ทันจบ ริมฝีปากบางดันถูกทาบทับด้วยฝีมือเขา ฝ่ามือหนาเอื้อมไปปลดซิปด้านหลัง ลงจนสุด เพียงแค่นั้นชุดเดรสก็ร่นมาติดกับเนินอกนุ่มนิ่ม ทว่านัยน์ตาคม..กลับสะดุดบางอย่าง และจับจ้องมองบางสิ่งที่ผิดแปลกไปจากเดิม "หนูไปสักมาตอนไหนเหรอครับ?" "คนเดียวในใจของนิคือ พี่ดินค่ะ" พอโดนไม้นี้เข้าไป อย่าว่าถึงเรื่อง..ขอจบความสัมพันธ์ แค่จะให้พูดจา ทำร้ายใจดวงน้อย ๆ ตรงหน้า เขายังทำไม่ลง พร้อมกันมือหนาพลันเผลอใช้นิ้วไปเกลี่ยรอยสักชื่อตัวเองตรงเนินนุ่มด้านซ้าย ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก "แค่เพนท์สีหรอกเหรอ?" "ความจริงนิก็อยากสักอยู่หรอกนะ แต่ว่าเจ้าของชื่อยังไม่อนุญาต ก็เลยไม่กล้าทำอะไรมาก" "ดีแล้วครับ" "ถึงแม้ว่ารอยสักจะปลอม แต่ของผู้หญิงที่ชื่อนิรณาคนนี้ ไม่ปลอมแน่นอนค่ะ" ว่าแล้วก็ทำท่าควักหัวใจออกมายื่นให้เขา ทำกะพริบตาปิ๊ง ๆ ใส่ เล่นเอาบดินทร์หลุดยิ้มเล็กน้อย ความเครียดความกังวลหายไปเป็นปลิดทิ้ง "รักนะคะ นิรักพี่ดินที่สุดเลย" เธอออดอ้อนบอกรัก ไม่เขินอาย แล้วเขย่งตัวมาจุ๊บปากเขาเบา ๆ หลังจากนั้นบดินทร์ก็ไม่พูดอะไรกลับเธออีก ทว่ากลับใช้วงแขนมาโอบอุ้ม ยกตัวเธอจนลอยจากพื้น พาดุ่ม ๆ ไปยังเตียงนอน หวังจัดการคนขี้ยั่ว ให้หายซ่า "อ๊ะ! พี่ดิน..จะทำอะไรคะ?" นิรณาท้วงติง เมื่อคราวนี้ เขาไม่ได้เริ่มจากด้านบน แต่กลับแยกขาเธอออก แล้วใช้หัวมุดลงไป ส่วนมือทั้งสอง ใช้ขึงเข่ามนให้กางออก และแม้ว่าเธอจะพยายามหุบ เท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ในทุกครั้งยามโดนสัมผัสส่วนนั้น ทำให้เอวบางลอยจนแทบไม่ติดเตียง "อ่ะ..อย่าค่ะ..อย่าแกล้งนิ..อ่าา..ยะ..อย่า" สาวเจ้าใช้มือทึ้งหัวเขา ปากพร่ำเพ้อบอกอย่าทำ แต่พอเขาจะถอนออก กลับแอ่นสะโพกยกเข้าหา ส่ายเล็กน้อยเชิงยั่วยวน ปลายลิ้นอุ่นร้อนสุดร้ายกาจ ให้ตวัดขึ้นลง หลังจากลิ้มชิมน้ำสวาทหวานจนพอใจ เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา แล้วพรมจูบ มาหยุดตรงสะดือบุ๋ม ก็ไม่วายจะจุ๊บไปหนึ่งที สูดดมกลิ่นกายหอมละมุนจากเธอเข้าเต็มปอด มือหนาเคล้นคลึงอกอวบ ปลายนิ้วเรียวยาวบีบบี้ยอดปทุมสีหวาน ก้มหน้าซุกเนิ่มนุ่ม พ่นล้มหายใจผ่าวร้อน ใส่ผิวกายเนียนลออ ทำให้นิรณาสะท้านวาบ ไม่คิดว่าเขาจะเอาแต่เล้าโลม ราวกับว่าต้องการกลั่นแกล้งกัน "พี่ดินขา..ขอร้องล่ะ ช่วยใส่เข้ามาสักทีเถอะ" เธออ้อนวอนเสียงพร่าเลือน นัยน์ตาฉ่ำวาว สอดประสานสายตา เชิงขอร้อง ทานทนแทบไม่ไหว อยากให้เขาเติมเต็มความปารถนา พลันนั้นบดินทร์จึงล้มตัวลงไปนอนข้างเธอ แล้วยิ้มให้ พลางบอกว่า "รู้จัก women on top ไหมครับ?" "อย่าดูถูกกันสิคะ" เวลานั้น ริมฝีปากแดงเรื่อฉีกยิ้มเริงร่า เมื่อได้รับโอกาสเป็นฝ่ายควบคุมเกม พลิกตัวขึ้นไปคร่อมกลางกายเขา เร่งร้อนปลดกางเกง พร้อมชักมันลงไปกองตรงหัวเข่า จับแกนกายนุ่มนิ่มมาคลึงเคล้น พร้อมกันจึงก้มหน้าลงไปปรนเปรอให้เขา ลากลิ้นไล้เลียเอ็นอุ่นแล้วอมเข้าไปในปาก จนพรั่งพร้อมสำหรับประสานกัน "นิจะใส่มันเข้าไปแล้วนะคะ" เสียงสั่นบอก พร้อมกับตั้งท่านั่งยอง ๆ คร่อมกายเขา มือจับเอาส่วนหัวของตัวตนนั้นมาจ่อกลีบที่ฉ่ำแฉะของตัวเอง ปล่อยให้น้องชายและน้องสาวทักทายกันเพียงแป๊บ จึงออกแรงดันแกนกายอุ่น เข้าสู่ทางรัก แรกเริ่ม..เชื่องช้า นิรณากัดริมฝีปาก สะกดกลั้นเสียงร้องไว้ เมื่อร่างกายยังไม่สามารถรับกันได้พอดี ก่อนที่ทุกทางจะเข้าที่เข้าทาง จึงค่อย ๆ ร่อนเอวให้เร็วขึ้น ๆ เร็วขึ้น เรื่อย ๆ "อ๊า" เสียงสั่นพร่าครางออกมา ความเสียวซ่านจากบทรักที่เธอมอบให้ เขาจึงตอบแทนด้วยน้ำสีขุ่นขาว อัดฉีดเข้าไปด้านในโพรงนุ่ม เล่นเอาร่างบาง ผวาเฮือก เรือนกายกระตุกสองสามครั้ง หัวสมองขาวโพลน ปล่อยร่างไปซบแผงอกกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม โดยที่ยังคงเชื่อมประสานติดกันอยู่ "เป็นยังไงบ้างคะ..นิเก่งไหม?" นิรณารีบถาม ทันทีที่ ที่ได้สติ ทว่าคนที่กำลังสุขสมกลับเอาแต่เหม่อลอย ส่วนใช้มือลูบผมเธอด้วยความเอ็นดู แต่นิรณา..หาได้ยอมลดละ เธอต้องการคำวิจารณ์จากเขา จึงเขย่าตัวเขาเรียกสติ ถามซ้ำขึ้นมาอีกรอบ "พี่ดินคะ นิเก่งไหม?" "เก่งครับ เก่งที่สุดเลย" ฝ่ายบดินทร์ที่เพิ่งรู้สึกตัวรีบชมคนตัวเล็กทันที กลัวเธอจะงอนตุ๊บป่อง แล้วจะเกิด..เรื่องใหญ่ เมื่อบทเพลงรักอันร้อนแรงระอุ เดือดยิ่งกว่าน้ำร้อนห้าสิบองศาจบลง แต่ทั้งคู่ยังคงนอนตระกองกอดกัน..ไม่ห่างกาย "นิอยากอยู่กับพี่ที่นี่จังค่ะ" นิรณาอ้อนขอ โดยใบหน้ายังคงแนบชิดกับแผงอกกว้าง อันเป็นที่ชื่นชอบของเธอ "ว่ายังไงคะ..พี่ดิน?" "เอ่อ..คือว่า..คือ" เมื่อเห็นบดินทร์อ้ำอึ้งดูสับสน พลันนั้นนิรณาก็แสร้งทำบทโศก พร่ำเพ้อออกมาต่างต่างนานา "นิทำอะไรผิดเหรอคะ..ทั้งที่นิก็แค่อยากจะอยู่กับพี่เท่านั้นเอง" น้ำเสียงเศร้าสร้อยคนตัวเล็กที่ซบบนอก ทำให้เขานึกสงสาร แต่ก็จำใจตอบปฏิเสธ "พี่ขอโทษนะครับ แต่นิกับลูกสาวพี่.. มันคงจะไม่ดี ถ้าหนูสองคนต้องมาเจอหน้ากัน..ทุกวัน" "พี่ดิน นิเป็นฝ่ายถูกกระทำนะ สองคนนั้นแอบคบชู้กัน ตอนเตชินกำลังคบกับนิ แล้วทำไม..นิต้องเป็นฝ่ายยอมอยู่เรื่อย" บดินทร์เข้าใจนิรณาดี ถึงความรู้สึกเวลาถูกหักหลัง แต่เขาก็ไม่อยากฟังความฝ่ายเดียวเหมือนกัน "นิจะไม่บังคับให้พี่เลือกหรอกค่ะ และรู้ดีว่าระหว่างลูกกับคนนอกอย่างนิ สุดท้ายคนที่ถูกทิ้งก็คงเป็นนิ..สินะคะ?" คำตัดพ้อของนิรณา ทำให้บดินทร์รู้สึกผิด แต่เรื่องที่จะทิ้งเธอไว้ข้างหลัง เขาไม่เคยคิด และเร่งบอกไป "ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ" "จะแบบไหนก็ช่างเถอะค่ะ แต่นิอยากบอกให้พี่รู้ไว้ว่านิชอบพี่ดินนะคะ แล้วก็อยากอยู่กับพี่แบบที่คนรัก เขาทำกันด้วย" นิรณาบอกตรง ๆ เป็นความรู้สึกจริง ๆ ที่มีแก่บดินทร์ ไม่เสแสร้งขึ้นมา แล้วว่าต่อ "นิเลยอยากจะถามว่า..ความสัมพันธ์ของเราสองคน พอจะมีโอกาสไปถึงขั้นนั้นหรือเปล่าคะ?" "แต่พี่ยังไม่รู้จักนิดีพอเลยนะ" เสียตัวให้มา..ตั้งหลายครั้ง พอได้ฟังแบบนั้น เล่นเอาเธอเกือบปรี๊ดแตก แต่ฉุดตัวเองกลับมาได้ซะก่อน เลยฝืนข่มความโมโหเอาไว้ อธิบายออกไป "อายุยี่สิบเจ็ดปี สูงร้อยหกสิบห้า หนักห้าสิบสอง อกสามสิบหก เอวยี่สิบสี่ สะโพกสามสิบแปด กรุ๊ปเลือดเอ ราศีกุมภ์ พ่อชื่อทัศนัย เป็นทหารอากาศ แม่เป็นพยาบาล ชื่อ….." "พอครับ! พี่ไม่ได้หมายความถึงพวกเรื่องนั้น" บดินทร์ขัดจังหวะการรัวไล่เรียงข้อมูลส่วนตัว แล้วถามออกไปชัดเจน "ระหว่างนิ บีบีแล้วก็เตชิน เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?" "พี่ดินรับได้แน่เหรอคะ?" "พี่อยากรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับนิ" "เตชินกับนิคบกันมาแปดปีค่ะ..นิเคยรักเขามาก แต่สุดท้ายก็ถูกสวมเขาให้ เลยต้องเลิกรากันไป" "บีบีคือคนที่ทำให้นิเลิกกับเตชินเหรอครับ?" บดินทร์ถามอย่างหวั่นใจ ภาวนาขอให้นิรณาส่ายหน้าปฏิเสธ แม้จะรู้ดีว่าบีบีเป็นคนยังไง "เรื่องราวประมาณแหละค่ะ..แต่พี่ดิน ไม่ต้องไปเครียดหรอกนะ นิทำใจได้นานแล้ว สัญญาเลยจะไม่ให้..พี่ลำบากใจ" "ถ้างั้นพี่ขอถาม..เป็นข้อสุดท้าย" บดินทร์เงียบสักพักอย่างชั่งใจแล้วถามออกมาตรง ๆ "นิคงไม่ได้ตั้งใจจะเข้าหาพี่ เพื่อจะแก้แค้นสองคนนั้นใช่ไหม?" คำถามจี้ใจดำ ทำให้นิรณาสะอึก ตอนนี้เธอเสียทั้งตัว ทั้งใจไปให้เขาหมดแล้ว ถ้าเกิดโดนบดินทร์ทิ้ง เพราะถูกจับได้ มีหวังจิตใจด้านในคงเหี่ยวเฉาตาย เธอจึงรีบ..ส่ายหัวพัลวัล ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ได้รับ! "พี่เชื่อใจหนูนะครับ" เขาบอกพร้อมยิ้มให้สาวตรงหน้าบาง ๆ จะลองดูสักตั้ง เพื่อสานสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ชอบ"กลับมาแล้วเหรอคะ?" นิรณาว่า พร้อมส่งยิ้มให้จาง ๆ "พี่ควรต้องถามต่างหาก ว่า..นิเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง?" "พี่ดินลืมแล้วเหรอคะ..ว่านิเป็นใคร" นิรณาว่า แล้วฉีกยิ้มแหย ๆ พร้อมยกมือชูลวด ขึ้นมาหนึ่งเส้น "โจรสินะ" "ใช่ค่ะ นิเป็นโจรที่จะมาปล้นสวาท..พี่ดินไงคะ!" "เอาดี ๆ ครับ นิมาทำอะไรที่ห้องพี่" "ก็นิเบื่อนี่คะ! ช่างเป็นงานแต่ง..ที่โคตรของโคตรจะน่าเบื่อ" เสียงหวานบ่นอุบอิบ ใบหน้าสวยบึ้งตึงเล็กน้อย "เป็นยังไงบ้างครับ?" "หมายถึงอะไรเหรอคะ?" สาวเจ้าถามกลับ สีหน้าฉายแววงง ๆ ไม่รู้ว่าบดินทร์ต้องการจะสื่ออะไร "ตรงนี้เป็นยังไงบ้าง?" มือหนาจิ้มนิ้ว ลงกลางหัวใจเธอ นัยน์ตาแฝงด้วยความอบอุ่นและห่วงใย "ฮั่นแน่! คนลามก..อยากจะจิ้มนมเค้าก็ไม่บอก" ยัยคนปากแข็งพาเฉไฉไปเรื่อย คร้านจะวกเข้าเรื่องราวน่ารำคาญพวกนั้น "พี่จริงจังนะครับ" สิ้นน้ำเสียงดุ นิรณาจอมดื้อ เลยจำยอมตอบกลับออกมาเสียงแผ่ว "เรื่องก็ผ่านหลายเดือนแล้ว..พี่ดินอย่าไปสนใจเลยค่ะ!" เมื่อเห็นว่านิรณา น่าจะไม่อยากพูดถึงอดีตของตัวเอง บดินทร์เลยไม่เซ้าซี้ แล้วหยิบผ้าเปียกออกจากหน้าผากสาวตรงหน้า..ไม่อยากให้เธอต้องกลายเป็นไข้หวัดแทนปวดหัว "
ในสายตาของหมวดอากร นิรณาเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก แต่ก็มีข้อเสียใหญ่ ๆ คือชอบหมกมุ่น ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เจ้านายสาวเลยกลายเป็นคนกัดไม่ปล่อย ถ้าเกิดว่าได้ทำงานชิ้นไหนแล้ว หรือสงสัยอะไร..ความสนใจทั้งหมดจะพุ่งไปรวมที่จุดเดียว ไม่ต่างจากตอนนี้สักเท่าไหร่..ที่เธอเอาแต่ขลุกตัวอ่านเอกสารสี่ร้อยกว่าหน้า จนเป็นเวลาติดต่อกันมาร่วมกว่าสิบชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีท่าทีจะลุกออกจากห้อง "สารวัตรครับ มีคนต้องการเข้าพบ" "ใครคะ?" เธอเงยหน้าขึ้นมาจากกองงาน ดูอ่อนระโหย "เขาบอกว่าชื่อบดินทร์ เป็นแฟนของคุณ" "ให้เขาเข้ามาค่ะ" "สารวัตรมีแฟนใหม่..แล้วจริง ๆ เหรอ?" "ฉันไม่เคยบอกหมวดเหรอคะ..นึกว่าบอกแล้วซะอีก!" สารวัตรสาว ทำหน้าสงสัย แล้วนึกขึ้นได้ ตั้งแต่กลับมาทำงาน สิ่งเดียวที่ทำอยู่ตอนนี้คือ..การสืบหาเบาะแสใหม่ จนลืมพูดลืมคุยกับเพื่อนร่วมงานมาเป็นอาทิตย์ "งั้นผมให้เขาเข้ามานะครับ" "ค่ะ" หลังจากนั้น เพียงไม่นาน บดินทร์จึงเดินมาหา สีหน้าบอกบุญไม่รับ ทำเอานิรณาได้แต้ยิ้มจืด ต้อนรับคุณสามี "เลยเวลาเลิกงาน มาหกชั่วโมงแล้ว นิไม่คิดจะกลับเหรอครับ?" เสียงทุ้มบ่นออกมาแทบจะทันทีที่ได้เห็นหน้า ความเป็นจริงก็ไม่อ
เช้าแสนสดใสเริ่มต้นขึ้น นิรณาตื่นมาด้วยความสดชื่น หลังจากพักผ่อนไม่เพียงพอ มาหลายวัน พร้อมกับเร่งรี่เข้าไปอาบน้ำ หวังจะทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้ไปทำงานต่อ "พี่ได้ยินมาว่านิจะไปเต้นเปลื้องผ้าที่ไนน์คลับ" บดินทร์ทักทายคำแรกด้วยคำถาม ทันทีที่ได้เห็นเธอสาวเท้า เดินเช็ดผมเปียกชุ่มออกมาจากห้องน้ำ คนถูกถามได้แต่ยิ้มรับบางๆ จำได้ว่าตัวเอง ทำอะไรไปเมื่อตีสอง จากมือที่เช็ดผม พลันแปรเปลี่ยนเป็นเกาหัวหาคำแถ ทว่าสุดท้ายก็จนปัญญา ยอมพยักหน้าให้เล็กน้อยเชิงว่าเป็นความจริง "ไม่ทำ..ไม่ได้เหรอครับ?" บดินทร์ถาม ถึงแม้รู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายชีวิตของเธอ แต่ใจมันคงทนไม่แน่ หากต้องเห็นผู้หญิงของตัวเองต้องไปเต้นโชว์เนื้อโชว์หนัง ให้ใครต่อใครก็ไม่รู้มองดู "มันเป็นงานค่ะ พี่ดินเข้าใจนิหน่อยสิ" คนตัวเล็กกล่าวออดอ้อน แล้วเข้าไปใกล้ตัวเขา พลางหย่อนก้นนั่งลงบนตักกว้าง สอดวงแขนไปคล้องคอสามี "งั้นก็อย่าทำเลยนะ เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้" "ไม่เอา ๆ ไม่พูดเรื่องงานแล้วดีกว่านะ ๆ นะ นะ" เธอไล่เสียงอ้อนขอ พร้อมจู่โจม จุ๊บแก้มเขาไปฟอดใหญ่ เพื่อเติมกำลังใจ "ก็ได้ แต่หนูต้องสัญญานะ ว่าจะกลับบ้านให้ตรงเวลา"
เมื่อได้บัตรผ่านมา อย่างไรก็ต้องใช้ให้คุ้ม นิรณาเลยไม่คิดจะทนรอ ให้ถึงอาทิตย์หน้าตามกำหนดของแผนการ ตั้งใจจะลอบเข้าไปสืบด้วยตัวเอง แต่สุดท้าย..กลับมีบดินทร์ติดสอยห้อยตาม มาจนได้ "ไม่ว่านิจะทำอะไร..พี่ดินห้ามขวางเด็ดขาด และอย่าให้พวกมันจับไต๋เราได้นะ เพราะนั้นหมายถึงชีวิต""เชื่อใจพี่เถอะครับ บดินทร์คนนี้จะไม่ทำให้สารวัตรที่แสนใจดีคนนี้ ต้องบาดเจ็บแน่นอน"นิรณายืนอึ้ง ผู้ชายตรงหน้าเคยรู้ตัวบ้างไหมว่าเป็นคนปากหวานมากแค่ไหน แถมยังชอบพูดให้ใจสั่นอยู่เรื่อย"ค่ะ" เธอตอบรับเพียงสั้น ๆ ทั้งที่ใจเต้นระรัวและจำใจเดินนำทาง พาเขามาด้วยจนได้ อันเนื่องมาจาก ตั๋วผ่านทางบดินทร์เป็นคนเก็บรักษาไว้ ไม่ยอมให้ถือเด็ดขาดจนกว่าจะมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งเมื่อการ์ดได้เห็นบัตรผ่านก็ไม่ซักไซ้อะไร ยอมปล่อยให้เข้ามาด้านในง่าย ๆ และสมคำร่ำลือ สถานที่แห่งนี้ เปิดโลกหนุ่มผู้ดีวัยกลางคน ชายที่ไม่เคยมาเหยียบย่ำ สถานที่อโคจร ให้ได้..มาพานพบ ประสบเรื่องราวแห่งโลกใต้ดินกลุ่มคนที่ดูเหมือนเป็นพนักงาน ต่างไม่ใส่อะไรทั้งนั้น ไม่ว่า..ชายหรือหญิง พวกเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อน มีเพียงหมายเลขห้อยไว
"พี่ดิน แน่ใจเหรอ?" นิรณากระซิบถามเบา ๆ ระหว่างทางเดินมายังเวทีมวยใต้ดินที่อยู่อีกห้องหนึ่ง"ถามแบบนั้นออกมา เพื่ออะไรครับ ยังไงตอนนี้เราก็ให้ถอยไม่ได้อยู่ดี""ถ้านิไม่ใจร้อน บุ่มบ่าม เราสองคน คงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้" ว่าแล้ว มือกดขอกำลังเสริม ให้มาล้อมไว้ แต่พวกเขา ไม่สามารถเข้ามาด้านในได้ ทางเดียวที่เหลือคือบดินทร์ต้องชนะ แต่เพราะกลัวเขาเจ็บ ใบหน้างามยิ่งเคร่งเครียดขึ้น จนคนข้างกายสังเกตุเห็น"โทษตัวเองไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก นิเชื่อใจพี่เถอะ" คนตัวสูงว่า มือหนาเอื้อมไปคว้าเอามือเล็กมากอบกุมไว้ หวังให้เธอคลายความกังวล ซึ่งนิรณาก็พยายามเชื่อใจเพราะยังไงซะ..ผู้ชายตรงหน้าก็ได้ชื่อว่าเป็นครูมวยใช่ บดินทร์คือหนึ่งในผู้ฝึกสอนนักมวยให้ค่ายชื่อดัง ซึ่งเป็นสมบัติที่ตามอบให้เขาเป็นคนสานต่อ และอย่างน้อย ๆ การต่อสู้ คงไม่จบง่ายดาย"นิมีวิธีแล้ว..พี่ดินยื้อเวลาสักพักนะ" ยัยคนเก่งว่าเร็ว ๆ แล้วผลุบหายตัวไปในฝูงชน ใช้เทคนิคการสะกดรอยตามกลุ่มคนหน้าสงสัยไป ทิ้งให้บดินทร์เดินตามชายคนนั้นไปหลังจากเดินตามกลุ่มคนน่าสงสัยไป ในที่สุดสารวัตรสาวก็มาหยุดข้างเวทีประมูลที่กำ
"รีบ ๆ ปล่อยมือโสโครกออกจากตัว ผู้ชายของกู" คำพูดนั้นไม่ได้มาเปล่า แต่มาพร้อมกับปลายกระบอกสีเงิน ที่สร้างสัมผัสเย็น ๆ ตรงบริเวณ..ท้ายทอย ทำให้มันผู้นั้น สะดุ้งเฮือกนังนี้มันมาตอนไหนทำไมถึงไม่รู้ตัวแต่เพราะลูกตะกั่วที่เตรียมพร้อมลั่นไกวิสามัญ สองมือจึงปล่อยร่างกายที่เคืองแค้น ลงไปกับพื้น ก่อนจะค่อย ๆ ชูมือทั้งสองข้างขึ้นมาแต่แล้วช่วงจังหวะนั้น นิรณาดันทำพลาด เพียงคลาดสายตา มองร่างบดินทร์ เลยถูกมันใช้มือเอื้อมมาจับปืน แล้วพลิกร่างกลับมา เผชิญหน้ากัน"เห้อออ เป็นคนธรรมดาอยู่ดี ๆ ไม่ชอบ! มึงอยากเป็นสินค้าอยู่แถบชายแดนสินะ ถึงได้กล้ามายุ่งกับกู""โห..สารภาพออกมาแบบนี้ ฉันก็ไม่ต้องหาหลักฐานให้เหนื่อยเลยสิคะ" เสียงหวานยียวน ไม่ได้กลัวเลยสักนิดปั๊ก! แขนเล็กอีกข้างที่ว่างเว้นสับลงระหว่างข้อพับแขนจนมันหักงอ อ่อนแรงลง ต่อด้วยกระบวนท่า การต่อสู้ระยะประชิด ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา ซะจนเชี่ยวชาญถึงสามศาตร์ อันได้แก่ มวยไทย ยูยิตสูและเทควันโด ทำให้ร่างกายบอบบางดูไร้พิษสง นำศิลปะการต่อสู้ทุกศาสตร์ มาผสมผสาน จนได้อานุภาพร้ายแรง จับมันหักแขนมาไพล่หลังไว้จนได้"ป
บดินทร์ทำสำเร็จ เขาจับศัตรูคู่อาฆาต ทั้งสามคนแยกออกจากกัน โดยการส่งให้บีบีกับเตชิน ไปฮันนีมูนไกลถึงยุโรป แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..พักหลังมานี้นิรณามักจะอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ จนตามความคิดคนข้างกายไม่ทัน พอนัยน์ตาคมเห็นคนสวยกลับเข้าห้องมาคนตัวสูงเร่งรีบไปแอบหลบอยู่ในมุมมืด ได้โอกาสจึงค่อย ๆ แอบย่องไปปิดตาเธอจากด้านหลังคล้ายจะหยอกเล่น แต่ดันลืมไปว่ายัยเด็กดื้อเป็นพวกขี้ระแวง เลยโดนศอกมน ๆ กระทุ้งใส่ไปหนึ่งที"โอ๊ยยยย" บดินทร์คร่ำครวญ ทรุดลงไปนั่งกับพื้นทั้งที่อุตส่าห์..จะสร้างความประทับใจ แต่กลับต้องมาเจ็บตัว และพอฝ่ายคนกระทำรู้ตัว จึงรีบไปประคองร่างสามี แทบทันที แต่ปากก็ไม่วายจะบ่นอุบอิบออกมา"พี่ดินนะ พี่ดิน จู่โจมกัน ไม่ให้สุ้มให้เสียง คราวหน้าคราวหลัง อย่าทำอีกนะคะ!""พี่ก็แค่อยากจะกอดนิบ้าง ทำไมช่วงนี้ หนูถึงหวงเนื้อห่วงตัวนักล่ะครับ?" เขาอธิบายเสียงอ่อน ทั้งเจ็บใจทั้งน้อยใจ อาจเพราะหลังจากพาเขาออกจากโรงพยาบาลแทนที่นิรณาจะสนใจกัน เธอกลับกลายเป็นคนบ้างานสุด ๆ ทุกวันมักจะตื่นตั้งแต่เช้าไปขลุกตัวอยู่แต่ในโรงพักจนบางครั้ง..เขาก็ได้แต่นึกสงสัยว่
"เร็ว ๆ หน่อยสิเต เดี๋ยวคุณพ่อมาเจอ แผนเซอร์ไพรส์วันเกิดท่านคงพังหมด" บีบีบ่นอุบ มือเร่งกระชากร่างสามีที่กำลังอิดออด ให้ตามตัวเองเข้ามาในบ้านหลังโต"มันก็แค่วันเกิดไหม..บีจะรีบกลับมาทำไม เตยังเที่ยวไม่หนำใจเลย" คนตัวสูงเดินตาม ปากบ่นอย่างเซ็ง ๆ"เงินอ่ะ! อยากได้ไหม ถ้าอยากได้ก็เงียบปาก""มีแค่บัตรใบนั้น เราก็สบายไปทั้งชาติแล้ว จะกลับมาให้ยุ่งยาก น่ารำคาญทำไม? ""เศษเงินแค่นั้น บีไม่สนหรอก ขืนปล่อยให้คุณพ่ออยู่กับนังนิมันเรื่อย ๆ คงโดนปอกลอก ขโมยสมบัติไปหมด""ถ้าพ่อบีมันจะโง่ขนาดนั้น..ก็ปล่อยมันไปเถอะน่า""เต บีเคยสั่งไว้แล้วใช่ไหม ห้ามเรียกคุณพ่อว่ามัน""พ่อบีมันก็เป็นคน เตก็คือคน เลิกเทิดทูนมันสักที" เตชินว่าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ตั้งแต่แต่งงานกันมา บีบีมักเอาตัวเขาไปเปรียบเทียบกับบดินทร์ บอกว่าพ่อดีอย่างงั้น ดีอย่างงี้ แล้วเอานิสัยคนคนนั้น มาเหยียบย่ำ ให้เขาตกต่ำกว่าเสมอ"ยังไงซะ! พ่อบีท่านก็มีดีกว่าเตเยอะ ทั้งฐานะ หน้าตาและเงินทอง ท่านสูงกว่าเตทุกอย่าง""หึ ถ้าคนอย่างไอ้บดินทร์มันสูงส่งนักหนา คงไม่มั่วไปเอากับพี่เลี้ยง..ตั้งแต่อายุสิบสาม จนเกิดเป็
นิรณามองสามีด้วยแววตาอ่อนล้า หัวใจหนักอึ้งด้วยความเวทนา บดินทร์กลายเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่าห้าเดือนแล้ว ร่างกายที่เคยแข็งแรงบัดนี้นอนนิ่งไร้การตอบสนอง ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนสติ"ขอโทษนะคะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้านิไม่ก้าวมาในชีวิตของพี่ เรื่องราวก็คงไม่เป็นแบบนี้" เสียงแผ่วเบาแฝงความเศร้าหมอง คำพูดเดิมที่เธอพร่ำบอกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลาที่เขาหลับใหล เธอเอาแต่โทษตัวเอง วันแล้ววันเล่าที่จมดิ่งอยู่กับความรู้สึกผิด ไม่อาจปลดเปลื้องความทุกข์ในใจได้แต่เพราะเด็กชายที่อยู่ในท้อง คนเป็นแม่จำต้องพยายามไม่ให้ตัวเองเครียดมากนัก หาสิ่งต่าง ๆ ทำวนเวียนไป เพื่อไม่ให้มีเวลาครุ่นคิดจนเกินไป แต่สุดท้าย ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด ก็ไม่อาจลบเลือนความคิดถึงที่มีต่อสามีได้แม้แต่น้อยทุกลมหายใจเข้าออกยังคงเป็น...บดินทร์หากการอ้อนวอนต่อฟากฟ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ จะช่วยได้ นิรณาอยากจะร้องขอสักครั้ง..ขอให้คืนคนรักของเธอกลับมาขอเพียงให้ลูกน้อยที่ใกล้จะลืมตาขึ้นมาเผชิญโลกกว้าง ได้มีพ่อที่เป็นปกติเหมือนเช่นคนอื่นได้โปรดแต่คำอธิษฐานดูจะไม่มีวันได้รับคำตอบ เวลาผ่านล่วงเข้าสู่เดือนที่เจ็ดของการหล
จนเวลาล่วงเลยผ่านมาอีกสามวัน นิรณายังคงวนเวียนอยู่แถวบริเวณนี้ เพื่อติดตามการค้นหาบีบีและเตชินใช้เส้นสายที่มีให้ติดประกาศจับ แต่ยังไม่พบเจอว่าคนทั้งคู่ไปหลบเลี่ยงอยู่ในรูไหน ทุกอย่างเลยมืดแปดด้าน"พี่! พี่..เจอแล้วพี่" นราภพวิ่งเข้ามาในห้องพัก ก่อนจะหยุดยืนหอบต่อหน้านิรณา แล้วยื่นมือถือมาให้ดู"สายของผมถ่ายรูปคล้ายกับไอ้เตชินได้แถวท่าเรือร้างทางใต้ เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อน ผมเลยให้มันไล่ตามไปแต่ก็คลาดกันจนได้" เสียงสั่นด้วยความเหนื่อยอธิบายเร็ว ๆฝั่งนิรณาเพียงแค่กวาดสายตามองรูปก็จำได้แทบทันที ว่าชายในภาพคือเตชิน แม้ว่าสภาพจะเละเทะ เนื้อตัวเสื้อผ้าสกปรกเปรอะเปื้อนไปดินโคลนทว่าสำหรับบุคคลที่เคยอยู่ร่วมกันมาหลายปีย่อมจำได้ แม้แต่ปลายเส้นผม เธอก็จำได้..จำได้ว่าเขาคือ เตชิน!"รีบเตรียมรถ พี่จะรออยู่ด้านหน้า" เสียงจริงจังหันไปสั่งน้องชาย ก่อนจะเดินไปหยิบอาวุธ และเช็กดูกระสุนในที่สุดสองพี่น้อง..ก็เดินทางมาถึงท่าเรืออันเงียบสงบ จนน่าประหลาดใจ เวลานั้นสัญชาติ..บอกให้นิรณาระวังตัว เธอเร่งหันไปส่งสัญญาณให้น้องชายตามมา ก่อนจะลัดเลาะไปตามตู้คอนเทนเนอร์ที่เรียงราย ดั่งเขาวงกตจนมาถึงอีกฝั่ง
ฝั่งนิรณาในที่สุด..ก็สามารถตามตัวเจอ จากข้อความที่นราภพ สู้อุตส่าห์ไปตามสืบ จนพบว่าคนพวกนั้น ไปปรากฎตัว อยู่แถวท่าเรือ อันเป็นสถานที่..ที่พวกอาชญากรทั้งหลายมักจะใช้หลบหนีออกนอกประเทศยิ่งทำให้กลัวใจ..กลัวว่ามันจะทำการหลบหนีได้สำเร็จ สองเท้าก้าวฉับ ๆ คว้าเอากุญแจรถ เตรียมมุ่งหน้าไปตามหาพวกมัน หวังจะจับให้ได้ด้วยมือตัวเองจวบจนเวลาเข้าสู่ยามโพล้เพล้ใกล้ค่ำ นิรณาที่ขับรถวนรอบเกาะและท่าเรือที่คาดว่าพวกมันจะไปกลับไม่เจอเลยสักนิด จนรู้สึกท้อใจ ตัดสินใจแวะปั๊มทางข้าง ลงไปล้างหน้า ล้างตา ให้รู้สึกสดใส จะได้มีแรงฮึดต่อดวงตากลับเหลือบเห็นใครบางคนในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีดำ สวมแมส สวมหมวก ปิดบังใบหน้า แต่ออร่าความหล่อยังพุ่งกระจาย ยืนเคียงข้างกับหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ในชุดเดรสสีชมพู สวมปีกกว้างกำลังยืนลังเล..อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆทว่าหากเป็นคนนอกมองมา คงคิดว่าเป็นคู่รักดารา แอบมาเที่ยวสวีทหวาน ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแต่นั้นไม่ใช่กลับนิรณา เธอมองแค่ปราดเดียวก็จำได้ทันทีว่า..สองคนนั้นแหละ! คือคู่ผัวเมียที่ตัวเองมาตามจับแต่ขณะที่ค่อย ๆ ย่องเข้าไป มือกำลัง เตรียมปืนจะยกขึ้นเล็งขู
สามอาทิตย์..ก่อนหน้านั้น"หมอขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ทางเราสามารถยื้อชีวิตคุณบดินทร์ได้แล้ว แต่เขาถูกสารเสพติดประเภทหลอนประสาท ทำลายสมองมากเกินไป ฝั่งการรับรู้เลยไม่ทำงาน" แพทย์วัยกลางคนอธิบายเสียงเศร้า อับจนปัญญาที่จะช่วยเหลือได้นอกจากรอเวลา ให้ร่างกายคนไข้ ฟื้นตัวเอง ซึ่งแทบจะไม่มีปาฏิหาริย์ เพราะสมอง ส่วนการรับรู้โดนฤทธิ์ของยานรกที่เกินขนาดเล่นงานให้"หมายความว่าพี่ดินจะต้องนอนเป็นผักอยู่แบบนี้เหรอคะ?" สิ้นคำถาม แพทย์เจ้าของไข้พยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวไปตรวจอาการคนอื่นต่อนิรณาเลยได้แต่มองตามหมอจนลับสายตา ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาใส่ตัว เธอไม่น่าใช้บดินทร์เพื่อเป็น..เครื่องมือแก้แค้น ไม่น่าทำแบบนั้นเลยสักนิดมันความคิด..ที่ผิดพลาด ตั้งแต่เริ่ม ถ้าวันนั้นตัดสินใจ ไม่เข้าหา ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เขาก็คงไม่ต้องมานอนหลับไม่รู้สติอยู่แบบนี้พอยิ่งคิดถึงความหลัง นิรณายิ่งโทษตัวเอง ได้แต่ถามว่าทำไม ๆ ทำไมบดินทร์ต้องเป็นคนรับกรรมที่ตัวที่เขาไม่ได้สร้าง ทำไม ไม่เป็นเธอที่ต้องนอนอยู่ตรงนี้ทำไมทุกอย่างมันเลวร้าย แย่ลงไปหมด ทั้งที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร ทั้งที่เขาทำดีทุกอย่างแต่สุดท้าย คนใจดีคนนั
"อโหสิกรรมให้กันเถอะนะ แล้วชาติฉันท์ใด อย่าได้มาเจอะมาเจอกันอีกเลย" สิ้นเสียงพูด นิรณายกมือไหว้ พร้อมปักธูปลงลงบนกระถาง ใบหน้าราบเรียบ ไร้ซึ่งชีวิตชีวา"ป้าเสียใจด้วยนะคะ..คุณนิ" หญิงวัยกลางเดินมาหาคนเป็นเจ้าภาพงานขาวดำครั้งนี้ แล้วยื่นมือไปรับธูป นำไปเคารพคนจากไป สีหน้าที่เศร้าสร้อย"หนูเสียใจด้วยนะคะ" หญิงสาวอีกคนที่ตามเข้ามาเอ่ยด้วยเสียงซึมเล็กน้อย นิรณาก็ไม่ได้พูดอะไร และยังคงตีสีหน้าเฉยเมย พร้อมยื่นธูปให้คนคนนั้นไป ดั่งหุ่นยนต์นัยน์ตาสีหวานว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรู้สึก ตอนนี้ชีวิตเคว้งคว้าง มองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยเถิด จนทำให้เธออยากจะเป็นบ้าอีกด้านหนึ่ง พวกคุณหญิงต่างพากัน หันหน้ามาซุบซิบ"เห้ออ..สงสารคุณนิเนอะ ท้องตั้งหลายเดือนขนาดนั้น ยังต้องมาคอยจัดการงานตัวคนเดียวอีก""ฉันได้ข่าวมาว่าเขาไม่มีญาติเหลือเลยสักคน""แบบนั้นก็น่าสงสารแย่เลย" หญิงอีกคนพูด รู้สึกเห็นใจ ทั้งนิรณาและคนเสียชีวิต"นั้นสินะ! ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ ๆ ทำไมถึงมาด่วนจากไปเร็วก็ไม่รู้""เมื่อเช้าฉัน..ก็ลองถามหาสาเหตุนะ แต่ว่าคุณนิไม่ยอมพูดอะไรเลย" อีกคนกล่าวสมทบ"เธอก็คงช็อกมากแ
นิรณากลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน ไม่ว่าจะทำยังไง..คนเห็นแก่ตัวก็ไม่หมดไปสักทีทำเอางานในมือเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากคนปฏิบัติงานที่มีเพียงเพียงน้อยนิด ไม่สัมพันธ์กันแต่แล้วเมื่อเปิดประตูห้องนอนออก บดินทร์กลับไม่อยู่พอลองโทรหา ก็ไม่ติด ทำให้คนเป็นภรรยาเริ่มกังวลใจตั้งแต่คบกันมาเวลาเขาจะไปไหน มักจะส่งข้อความบอกตลอด แต่วันนี้กลับไม่มีปฏิบัติการตามหาสามีจึงเริ่มต้นขึ้น เธอออกสำรวจไปทั่วบ้าน จนถึงโรงรถพบว่ายังมีรถบดินทร์จอดอยู่ ไม่ได้ไปไหน"สวัสดีค่ะ คุณนิ" แม่บ้านคนหนึ่งเดินปะหน้ากับนิรณาพอดี ยกมือขึ้นไหว้ทักทาย เธอจึงส่งมอบรอยยิ้มกลับไป"ฉันมาตามหาพี่ดินค่ะ พี่พอจะรู้ว่าเขา อยู่ที่ไหนหรือเปล่าคะ?" เสียงหวานถามออกไปอย่างเป็นมิตร"คิดว่าน่าจะบ้านคุณบีบีนะคะ เห็นพวกแม่บ้านฝั่งนั้น วุ่นวายออกไปซื้ออาหารตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว""พวกเขามีนัดทานข้าวกันตอนเย็นเหรอคะ?" นิรณาถามอย่างงุนงง บดินทร์ก็นะ ไม่ยอมบอกอะไรเธอสักอย่าง"ค่ะ ฉันเห็นว่าคุณดิน ไปบ้านหลังนั้น ตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วนะคะ" แม่บ้านรายงานทุกอย่างตามความจริง"ขอบคุณที่บอกค่ะ""แล้วคุณนิจะไปบ้านคุณบีบีไหมคะ?""เกรงว่าถ้าไปแล้วระเบิ
บีบีและเตชินร่วมมือ ช่วยกันพาร่างไร้สติของบดินทร์ขึ้นมา จนถึงห้องนอน ยังเห็นว่าเขายังหลับสนิท คนเป็นสามีจึงเริ่มตั้งกล้องตรงปลายเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากปิดประตูดัง..ปึงงง ไม่สนใจ หรือหึงหวงบันนิดา เลยแม้แต่น้อยฝ่ายภรรยาก็ได้แต่มองตามเตชินหน้าจ๋อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ถึงขนาดยอมให้เธอใช้ร่างกายร่วมหลับนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง สลับกับเลื่อนสายตามองดูบดินทร์ ใจนั้นไม่อยากทำกับเขาแบบนี้เลยทว่าต้องทำอย่างไรล่ะ..หากว่าถอยตอนนี้ผลเสียย่อมมากกว่า เธอลงมือทุกอย่างไปอย่างชัดเจน เขาเห็นทั้งหน้า และรู้ตัวว่าโดนวางยา ความรู้สึกหลังจากนี้ บดินทร์คงมองตัวเธอเปลี่ยนไปแน่นอนยังไงซะ ตอนนี้ก็ไม่อาจถอยได้ ต้องเดินตามแผนต่อไปจวบจนเวลาผ่านไป รู้สึกตัวอีกที บดินทร์กลับพบว่าตัวเองกำลังนอนเปลือยเปล่า อยู่ข้างบีบีที่ไม่ได้สวมใส่อะไร เวลานั้นความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาใส่ ทั้งช็อก ทั้งโกรธ ทั้งโมโหและเศร้าใจ เร่งสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้คืนกลับ พร้อมยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง หวังจะเช็กดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่พบเจอ ไม่ใช่ความฝันและนั้น! ไม่ใช่ความฝ
หลังจากเริ่มรับประทานอาหาร ทำให้ทั่วทั้งห้อง ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ น่าอึดอัดใจ บดินทร์ที่ทานไปได้ สองสามคำ ค่อย ๆ ตัดสินเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"พ่อจะให้เวลาหนูกับเตชินพิสูจน์ตัวเอง เลิกยุ่งกับยาเสพติด แล้วไปหางานทำให้ได้ภายในเดือนนี้""บีเลิกยุ่งกับยาพวกนั้น..นานแล้วค่ะ" บันนิดาปฏิเสธเสียงแข็ง คราวก่อนที่บดินทร์ส่งไปบำบัด เธอจำได้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน และไม่อยากกลับไปเหยียบอีก..เป็นหนที่สอง ทว่าร่างกายกลับเสพติดของพวกนั้น จนไม่อาจทนต่อความต้องการไหว"หนูทำหรือไม่ทำ บีบีรู้อยู่แก่ใจตัวเอง พ่อจะไม่เข้ายุ่ง แต่ถ้าเดือนหน้า หนูกับเตชินยังมีสภาพแบบนี้อยู่ พ่อคงจะให้อยู่ที่นี่ไม่ได้""ผมเข้าไม่เข้าใจ พวกเราสองคนทำอะไรผิด ทำไมคุณพ่อ ถึงต้องไล่ผมกับบีออกไปด้วย" คนเป็นลูกเขยกล่าวเสียงสั่นเครือ แสร้งทำน้ำเสียงเศร้าซึมตามมาแต่นั้นกลับเป็น การเล่นละครที่น่าสะอิดสะเอียน ในสายตาบดินทร์ ทำเอากลืนอาหารลงคอด้วยความยากลำบากไม่คิดว่าการมาทานข้าวร่วมกับลูกสาวครั้งนี้ รสชาติกับข้าวราคาแพงจะฝืดคอได้มากขนาดนี้ พร้อมกันจึงยกน้ำเปล่าจิบนิด ๆ หวังให้ละเลียดลงกระเพาะไปให้จบ ๆ จ
บดินทร์เดินเตร่มาตามเส้นทางสวนสวย ๆ ดวงตามองแสงตะวันยามโพล้เพล้ หวังให้ความงดงามของธรรมชาติช่วยบรรเทาอาการเครียดที่มีตอนนี้เขารู้แล้วว่าบันนิดากลับไปใช้สารเสพติดอีกครั้ง หลังจากให้แม่บ้าน นำผมลูกสาวไปส่งตรวจความทรงจำแย่ ๆ เริ่มไหลย้อนกลับมา และนั้นคงเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของบีบีคนเป็นพ่ออย่างเขา ย่อมจำได้ดี บันนิดาในวัยเด็กนั้นน่ารักและร่าเริง แต่พอช่วงอายุได้ประมาณสิบหกปีเด็กคนนั้นก็เข้ามาถาม เรื่องที่ตัวเอง ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา ซึ่งบดินทร์ก็ยอมรับไปแต่ใครจะคิดว่า เบื้องหน้าสาวน้อยสดใสจะถูกความน้อยเนื้อต่ำใจกลืนกิน แถมเขายังไม่เคยมีเวลาให้กว่าจะรู้ตัวบีบี ดันถลำลึกเกินฉุดรั้ง เคราะห์ร้ายเธอยังไปหลงรักผู้ชายเลว ๆ และหนีไปอยู่ด้วยกัน เชื่อมาตลอดว่านั้นคือความรักที่แท้จริง สุดท้ายบดินทร์จึงส่งบีบีไปลองตรวจอาการทางจิต ปรากฏว่าเธอป่วยเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ ทั้งบดินทร์และบุษบาเลยส่งบีบีไปรักษา พอออกมาได้ ทั้งสองคนก็พยายามช่วยกันกลบปมด้อยภายในใจของลูกสาว ทำให้บันนิดามีอาการดีขึ้นแต่ความสุขดันมีได้ไม่นาน หลังจากที่ทั้งคู่สูญเสียคนกลางไป ความสัมพันธ์ระหว