หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 978 มีคุณสมบัติที่จะอยู่ครองคู่กับนางไปตลอดชีวิต

แชร์

บทที่ 978 มีคุณสมบัติที่จะอยู่ครองคู่กับนางไปตลอดชีวิต

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“สิ่งที่ควรพูดข้าก็ได้ชี้แจงชัดเจนแล้ว พวกเจ้าออกจากวังตอนนี้เถอะ ข้าจะไปที่สวนบุปผาหลวง งานเลี้ยงวันนี้จัดขึ้นเพื่อข้า ในงานขาดข้าไม่ได้”

หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบก็ลุกขึ้นยืน มีความเจ็บปวดรวดร้าวในอกก็เกิดขึ้นอีกครั้ง นางต้องรีบเข้าไปในมิติ ดื่มน้ำพุวิญญาณบรรเทาอาการ

ทั้งสี่มองไปที่อินชิงเสวียนอีกครั้ง แววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์

ในความคิดของพวกเขา เจ้านายก็เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง ถึงขั้นใกล้ชิดกว่าพ่อแม่ด้วยซ้ำ และครั้งนี้ มันแตกต่างไปจากครั้งที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด

เกรงว่าพระนางคงไม่คิดที่จะกลับมาอีก!

นอกจากอวิ๋นฉ่ายผู้ไร้เดียงสาแล้ว อีกสามคนที่เหลือต่างรู้สึกอยู่รางๆ ว่าพระนางต้องเผชิญกับเรื่องร้ายแรงมาแน่ๆ ไม่เช่นนั้นนางจะไม่มีวันตัดสินใจเช่นนั้น

ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดอะไร อินชิงเสวียนโบกแขนเสื้อ ทั้งสี่คนก็ลอยออกจากประตูอย่างควบคุมไม่ได้ทันที ในวินาทีต่อมา ประตูก็ปิดลง

เมื่อมองไปยังประตูที่ปิดอยู่ น้ำตาของยายหลี่ที่นางกลั้นไว้มานานก็ไหลลงมาทันที

นางคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะไปทางประตูสามครั้ง

“ไม่ว่าภายหน้าพระนางจะไปไหน โปรดรำลึกไว้เสมอ ว่าในเมืองหลวงยังมีพวกเรารอท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 979 ค่ำคืนอันยืดเยื้อ

    งานเลี้ยงกินเวลาจนถึงยามสาม เมื่อขุนนางทั้งหมดลุกขึ้นขอตัวกลับไปเย่จิ่งอวี้หลุบตาลง แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “เหนื่อยแล้วใช่หรือไม่”อินชิงเสวียนรีบปรับอารมณ์ให้กระฉับกระเฉง แล้วพูดอย่างยิ้มแย้ม “เปล่า ข้านอนเต็มอิ่มแล้ว”เย่จิ่งอวี้เอื้อมมือไปช่วยพยุงอินชิงเสวียนให้ลุกขึ้น แล้วดีดหน้าผากเกลี้ยงเกลาของนางเบาๆ “ดึกป่านนี้แล้ว ปกติเจ้านอนไปนานแล้ว ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่ตำหนักจินหวู”“ไม่เอา”อินชิงเสวียนตกใจ รีบปฏิเสธเรียวตาหงส์ของเย่จิ่งอวี้เลิกขี้น ถามด้วยความประหลาดใจ “มีอะไรรึ”อินชิงเสวียนกัดริมฝีปากล่าง แล้วพูดเบาๆ “ข้า...วันนี้ข้าอยากอยู่ที่ตำหนักเฉิงเทียนกับอาอวี้ ไม่รู้ว่า...จะได้หรือไม่”จู่ๆ เย่จิ่งอวี้ก็ยิ้มออกมาเขารั้งจับเอวคอดของอินชิงเสวียน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงรักใคร่ลุ่มหลง “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตำหนักในวังหลวงทั้งหมดเป็นของเสวียนเอ๋อร์ เจ้าอยากอยู่ที่ไหนก็อยู่ที่นั่นได้”ขณะมองดูใบหน้าที่หล่อเหลานั้น ขอบตาของอินชิงเสวียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ“ขอบคุณนะ...อาอวี้!”ภายใต้แสงไฟสลัว เย่จิ่งอวี้ยังคงสังเกตเห็นความผิดปกติของอินชิงเสวียน เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย“มีอะไรห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 980 ความเจ็บปวดของวัยหนุ่มสาว

    เย่จิ่งอวี้นั่งอยู่บนเตียง เรือนผมดำยาวตกลู่ลงบนไหล่ ใบหน้าหล่อเหลานั้นแดงระเรื่อเขามองไปที่อินชิงเสวียนด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม“ทำไมวันนี้เจ้าถึงนึกอยากเล่นดนตรีให้ข้าฟังล่ะ เสวียนเอ๋อร์ไม่เหนื่อยหรือ”อินชิงเสวียนโบกมือหยิบขวดน้ำพุวิญญาณออกมา แล้วดื่มด้วยอากัปกิริยาสง่างาม“แบบนี้ก็ไม่เหนื่อยแล้ว”นางวางขวดน้ำลงด้วยรอยยิ้ม ยกมือขึ้นลูบเรือนผมของเย่จิ่งอวี้ที่คลอเคลียอยู่บนไหล่“อาอวี้เหนื่อยแล้วหรือ”“ไม่เหนื่อย เสวียนเอ๋อร์อุตส่าห์อารมณ์ดีทั้งที ข้าย่อมอยากฟังอยู่แล้ว”เขายกมือขึ้นปลดเสื้อคลุมที่แขวนอยู่ข้างม่านออก แล้วสวมคลุมตัวอย่างง่ายๆ แล้วเดินเท้าเปล่าไปนั่งบนเก้าอี้นุ่มข้างๆเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางตั้งใจอยากฟังของเย่จิ่งอวี้ อินชิงเสวียนก็ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือกลุ้มใจดี ทั้งยังไม่แน่ใจด้วย เพลงลืมกลุ้มที่นางเคยบรรเลงเพียงครั้งเดียวนั้น จะได้ผลจริงหรือไม่ตอนนี้ยังไม่รู้อะไรสักอย่าง ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องยกให้เป็นเรื่องของสวรรค์แล้วนางรีบสวมชุดกระโปรง แล้วเอื้อมมือเรียกพิณการเวกออกมาเย่จิ่งอวี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“ทำไมเสวียนเอ๋อร์ถึงใช้พิณตัวนี้”อินชิงเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 981 อธิบาย

    “หลี่กงกง ตามข้ามาที่ห้องโถงด้านข้าง ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”ตอนที่อินชิงเสวียนออกมา แสงจางๆ ก็ปรากฏขึ้นบนขอบฟ้าแล้วนางรู้ว่าเย่จิ่งอวี้จะนอนหลับอีกไม่นาน นางต้องอธิบายทุกอย่างให้ชัดเจนโดยใช้เวลาอันสั้นที่สุดหลี่เต๋อฝูกำลังงีบหลับ เมื่อได้ยินอินชิงเสวียนเรียกตัวเองด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก็ตื่นขึ้นทันทีเขาโค้งตัว วิ่งเหยาะๆ ไปจนถึงห้องโถงด้านข้าง“ฮองเฮามีอะไรจะสั่งงานกระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ”“ข้ามีเวลาไม่มาก จะขอเล่าสั้นๆ ข้าเชื่อในความสามารถของหลี่กงกง เชื่อว่าหลี่กงกงจริงใจต่อฝ่าบาทอย่างแท้จริง ดังนั้น เจ้าต้องทำตามที่ข้าสั่งให้ได้”อินชิงเสวียนหันหลังให้เขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบผิดปกติหลี่เต๋อฝูรู้ว่าอินชิงเสวียนไม่ใช่คนประเภทเสแสร้งแกล้งทำ ใช้ตำแหน่งข่มเหงผู้อื่น ที่นางพูดแบบนี้ ต้องมีเรื่องเป็นแน่ เขาจึงรีบเงี่ยหูฟังอินชิงเสวียนสูดจมูกพูดว่า “หลี่กงกงเป็นคนฉลาด เกรงว่าคงสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของฝ่าบาทในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาแล้ว อันที่จริงเจ้าเดาถูก ฝ่าบาทองค์ก่อนหน้าคือเสด็จอาที่ปลอมตัว ฝ่าบาทตัวจริงไปที่เป่ยไห่กับข้า ตอนนี้เสด็จอาออกจากเมืองหลวงแล้ว เมืองหลวงจะอยู่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 982 ความยินดีและกลัดกลุ้มผสมปนเป

    เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของหลี่เต๋อฝู อินชิงเสวียนก็กัดริมฝีปากอย่างแรง นางรู้ว่าหลี่เต๋อฝูนั้นจงรักภักดีมาก จะยอมให้นางทำตามความปรารถนาอย่างแน่นอน“ขอบคุณ หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะได้พบกันอีก!”หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบก็ใช้ความเร็วของมิติ ในชั่วพริบตา ร่างที่สง่างามนั้นก็หายไปในแสงท้องฟ้าสีเงินเนิ่นนาน ในที่สุดหลี่เต๋อฝูก็เงยหน้าขึ้นราวกับตื่นจากความฝันการจะลบล้างการดำรงอยู่ของฮองเฮาโดยสิ้นเชิง ทำให้เขาต้องเปลืองสมองหลายส่วนบรรดาผู้ที่รู้จักฮองเฮา ไม่ได้มีแค่ขันทีและนางกำนัลในตำหนักจินหวูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์หญิงไห่ถังที่มีความสัมพันธ์อันดีกับนางด้วย เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ผลที่ตามมานั้นยากจะคาดเดาเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว เขาก็ทำได้เพียงพยายามรับมืออย่างเต็มที่หลี่เต๋อฝูอยู่ในวังมาทั้งชีวิต ไม่มีอะไรสามารถซ่อนเร้นจากสายตาของเขาได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นคนหรือผี ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในพริบตาเขารู้ดีว่าอินชิงเสวียนแตกต่างจากเจ้านายคนอื่น นางไม่เคยเรียกร้องรางวัลใดๆ ไม่เคยทำร้ายใครเพียงเพราะอยากอยู่ในตำแหน่งสูง ความคิดของนางอุทิศให้กับการดำรงชีวิตของราษฎรในต้าโจว และการพัฒน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 983 ขุนนางราชสำนักแปลกไป

    ตำหนักจินหลวนเย่จิ่งอวี้นั่งบนเก้าอี้มังกร สวมเสื้อคลุมมังกรสีเหลืองสดใส ดวงตาคมกริบจ้องมองไปที่ขุนนางผ่านลูกปัดโมราบนมาลามงกุฎ“ขุนนางทุกท่านมีฎีกาถวายหรือไม่”ขุนนางทุกคนก้มศีรษะลง ไม่มีใครพูดอะไรเย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าทุกคนเป็นใบ้หรือ ทำไมไม่พูดล่ะ ฉินไห่ฉิว การขุดบ่อน้ำเป็นอย่างไรบ้าง”เสนาบดีกรมโยธาก้าวไปข้างหน้าด้วยความคิดที่ซับซ้อน“ขุดเสร็จแล้ว กระหม่อม...กระหม่อม...”เขาเอ่ยคำว่ากระหม่อมติดๆ กัน ในที่สุดก็เปลี่ยนคำพูด “ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ปัญหาเรื่องน้ำดื่มของราษฎรได้รับการแก้ไขแล้ว และทุกอย่าง...กำลังฟื้นตัว”คิ้วของเย่จิ่งอวี้ขมวดขึ้นอีกเล็กน้อย“ในเมื่อผลลัพธ์ออกมาดี เหตุใดถึงอึกอักเพียงนี้ หรือยังมีเรื่องปกปิดอะไรอีก?”ฉินไห่ฉิวสะดุ้ง รีบคุกเข่าลงกับพื้นอย่างลนลาน“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่เมื่อคืนกระหม่อมนอนไม่ค่อยหลับ เวียนหัวนิดหน่อย ขอทรงโปรดยกโทษให้กระหม่อมด้วย”“ลุกขึ้นเถอะ”เย่จิ่งอวี้กวาดสายตามองไปทั่ว ทันใดนั้นก็เห็นกวนฮั่นหลินที่ไม่ได้มาประชุมเช้านานแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะถามกระเซ้าว่า “วันนี้จอมพลเฒ่าแปลกนัก มาประชุมเช้าด้วย อาการ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 984 ใจไม่มีความสุข

    หลี่เต๋อฝูพลางบ่น พลางพยักหน้าให้กวนฮั่นหลิน เพื่อแสดงว่าตัวเองเข้าใจแล้ว จากนั้นเขาก็ก้มลงและช่วยประคองเย่จิ่งอวี้ออกจากตำหนักจินหลวงคณะขุนนางก็แยกย้ายกันออกจากห้องโถงในตำหนักจินหลวน ทุกคนก็ยืนนิ่งอยู่ที่ทางเข้าประตูจิ้งอันหานสือแทบรอไม่ไหวที่จะถาม “จอมพลเฒ่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฮองเฮานาง...ถูกขับไปยังวังเย็นอีกครั้งจริงๆ หรือ”กวนฮั่นหลินพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักใจ“เป็นข่าวที่หลี่เต๋อฝูส่งคนมาบอกเมื่อวานนี้ จริงแท้แน่นอน ไม่มีทางเป็นเท็จ ข้ารู้ว่าเจ้าเคารพเลื่อมใสฮองเฮาเป็นอย่างมาก เช่นนั้นจงเก็บความเคารพนี้ไว้ในใจก่อนเถิด อย่าพูดถึงนางต่อหน้าฝ่าบาท”ฉินไห่ฉิวขมวดคิ้วถามว่า “พิธีแต่งตั้งฮองเฮาเพิ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ เหตุใดเพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามก็ถูกส่งกลับวังเย็นแล้วล่ะ ระหว่างฮองเฮากับฮ่องเต้เกิดอะไรขึ้น ฮองเฮาทำเพื่อต้าโจวมากมาย ฮ่องเต้จะบุ่มบ่ามเช่นนี้ได้อย่างไร”เขาอยากจะพูดถึงโครงการผันน้ำจากใต้สู่เหนือหลายครั้งในการประชุม แต่เมื่อนึกถึงจดหมายที่ได้รับจากตระกูลกวนเมื่อเช้านี้ ก็กลืนลงท้องไป แต่ในใจยังรู้สึกไม่พอใจมาก นับหลายพันปีที่ผ่านมา ไม่มีใครคิดวิธีแก้ปัญหาภัยแล้งด้วย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 985 เพื่อนเก่าสองคนของเจ้า

    อินสิงอวิ๋นพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว “ในเมื่อน้องหญิงใหญ่เลือกที่จะออกจากวังเพียงลำพัง ก็พิสูจน์ได้ว่าศัตรูในครั้งนี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่นางยังไม่มั่นใจว่าจะชนะ ขืนเราวิ่งหัวหกก้นขวิดไปมั่วซั่ว จะกลายเป็นว่าโดนคนอื่นจับตัวไป มิทำให้น้องหญิงใหญ่ร้อนใจมากกว่าเดิมหรอกหรือ”อินปู้อวี่กระทืบเท้าด้วยความโกรธ“แล้วเราจะทำอย่างไรดี หรือผู้ชายบ้านเราจะปล่อยให้น้องหญิงใหญ่เสี่ยงอันตรายโดยไม่สนใจ หดหัวอยู่ในเมืองเหมือนเต่าขี้ขลาดงั้นหรือ”อินจ้งหายใจยาว ขยำจดหมายในมือ หยิบตะบันไฟออกมา และเผาจดหมายจนเป็นเถ้าถ่านครั้นนึกถึงคำขอโทษที่ท้ายจดหมาย ดวงตาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อถึงวัยในปัจจุบันของเขา จะยังสนใจเรื่องเป็นขุนนางอยู่อย่างนั้นหรือ สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้ คือลูกชายหญิงของเขา บัดนี้ต้าโจวสงบสุขทั้วทั้งแคว้น ทั้งยังมีท่านอาจารย์เป็นที่ปรึกษานั่งอยู่ในเมืองหลวงด้วย แม้ไม่มีตระกูลอิน ก็ไม่สำคัญเรื่องหนทางการเลี้ยงชีพนั้น ยิ่งไม่ต้องกังวล ลำพังแค่ร้านค้านี้ของตระกูลอิน ก็สามารถทำเงินได้หลายแสนตำลึงต่อปี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่อินชิงเสวียนมอบให้ หากไม่มีนาง วันนี้ตระกูลอินทั้งตระกูลคงได้ทำ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 986 รอยตราของตำหนักเทพ

    อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเฟิงเอ้อร์เหนียงจะอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ นางเป็นเจ้าของเรือนจุ้ยหงคนปัจจุบัน แต่ทำไมฉุยอวี้ถึงอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ“สองคนนี้เป็นศิษย์น้องของแม่เจ้า ถ้าอยากรู้ว่าแม่ของเจ้าตายอย่างไร ก็ให้พวกนางบอกเจ้าเถอะ”หลังจากที่ผู้อาวุโสหันพูดจบก็เหาะชุดปลิวออกไปอินชิงเสวียนตกตะลึงอีกครั้งแม่?ศิษย์น้อง?หรือว่าแม่ของเจ้าของร่างเดิมไม่ใช่ฮูหยินใหญ่ของตระกูลอิน?เกิดอะไรขึ้นกันแน่?เมื่อนึกถึงหยกเย็นที่ฉุยอวี้มอบให้ตัวเอง รวมถึงท่าทีของเฟิงเอ้อร์เหนียงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยอยู่ตงิดๆนางรีบเดินเข้าไปในห้องแล้วถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เกิดอะไรขึ้นกันแน่”ฉุยอวี้นอนราบลงบนเตียง เหม่อมองเพดาน ไม่ตอบคำถามของอินชิงเสวียน นางไม่มีการตอบสนองแม่แต่น้อย สีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกเฟิงเอ้อร์เหนียงเหลือบมองที่ฉุยอวี้ ขอบตาแดงเล็กน้อย นางเม้มริมฝีปากอย่างแรง หลุบตาลงแล้วพูดว่า “สิ่งที่ผู้อาวุโสหันพูดเป็นเรื่องจริง แม่ของเจ้าคือเหมยชิงเกอพี่หญิงใหญ่ของเรา ยังเป็นอดีตธิดาเทพแห่งตำหนักเทพหอทองคำ”“ลมปากไร้หลักฐาน เจ้ามีหลักฐ

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

DMCA.com Protection Status