หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 983 ขุนนางราชสำนักแปลกไป

แชร์

บทที่ 983 ขุนนางราชสำนักแปลกไป

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-14 16:00:00
ตำหนักจินหลวน

เย่จิ่งอวี้นั่งบนเก้าอี้มังกร สวมเสื้อคลุมมังกรสีเหลืองสดใส ดวงตาคมกริบจ้องมองไปที่ขุนนางผ่านลูกปัดโมราบนมาลามงกุฎ

“ขุนนางทุกท่านมีฎีกาถวายหรือไม่”

ขุนนางทุกคนก้มศีรษะลง ไม่มีใครพูดอะไร

เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าทุกคนเป็นใบ้หรือ ทำไมไม่พูดล่ะ ฉินไห่ฉิว การขุดบ่อน้ำเป็นอย่างไรบ้าง”

เสนาบดีกรมโยธาก้าวไปข้างหน้าด้วยความคิดที่ซับซ้อน

“ขุดเสร็จแล้ว กระหม่อม...กระหม่อม...”

เขาเอ่ยคำว่ากระหม่อมติดๆ กัน ในที่สุดก็เปลี่ยนคำพูด “ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ปัญหาเรื่องน้ำดื่มของราษฎรได้รับการแก้ไขแล้ว และทุกอย่าง...กำลังฟื้นตัว”

คิ้วของเย่จิ่งอวี้ขมวดขึ้นอีกเล็กน้อย

“ในเมื่อผลลัพธ์ออกมาดี เหตุใดถึงอึกอักเพียงนี้ หรือยังมีเรื่องปกปิดอะไรอีก?”

ฉินไห่ฉิวสะดุ้ง รีบคุกเข่าลงกับพื้นอย่างลนลาน

“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่เมื่อคืนกระหม่อมนอนไม่ค่อยหลับ เวียนหัวนิดหน่อย ขอทรงโปรดยกโทษให้กระหม่อมด้วย”

“ลุกขึ้นเถอะ”

เย่จิ่งอวี้กวาดสายตามองไปทั่ว ทันใดนั้นก็เห็นกวนฮั่นหลินที่ไม่ได้มาประชุมเช้านานแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะถามกระเซ้าว่า “วันนี้จอมพลเฒ่าแปลกนัก มาประชุมเช้าด้วย อาการ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 984 ใจไม่มีความสุข

    หลี่เต๋อฝูพลางบ่น พลางพยักหน้าให้กวนฮั่นหลิน เพื่อแสดงว่าตัวเองเข้าใจแล้ว จากนั้นเขาก็ก้มลงและช่วยประคองเย่จิ่งอวี้ออกจากตำหนักจินหลวงคณะขุนนางก็แยกย้ายกันออกจากห้องโถงในตำหนักจินหลวน ทุกคนก็ยืนนิ่งอยู่ที่ทางเข้าประตูจิ้งอันหานสือแทบรอไม่ไหวที่จะถาม “จอมพลเฒ่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฮองเฮานาง...ถูกขับไปยังวังเย็นอีกครั้งจริงๆ หรือ”กวนฮั่นหลินพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักใจ“เป็นข่าวที่หลี่เต๋อฝูส่งคนมาบอกเมื่อวานนี้ จริงแท้แน่นอน ไม่มีทางเป็นเท็จ ข้ารู้ว่าเจ้าเคารพเลื่อมใสฮองเฮาเป็นอย่างมาก เช่นนั้นจงเก็บความเคารพนี้ไว้ในใจก่อนเถิด อย่าพูดถึงนางต่อหน้าฝ่าบาท”ฉินไห่ฉิวขมวดคิ้วถามว่า “พิธีแต่งตั้งฮองเฮาเพิ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ เหตุใดเพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามก็ถูกส่งกลับวังเย็นแล้วล่ะ ระหว่างฮองเฮากับฮ่องเต้เกิดอะไรขึ้น ฮองเฮาทำเพื่อต้าโจวมากมาย ฮ่องเต้จะบุ่มบ่ามเช่นนี้ได้อย่างไร”เขาอยากจะพูดถึงโครงการผันน้ำจากใต้สู่เหนือหลายครั้งในการประชุม แต่เมื่อนึกถึงจดหมายที่ได้รับจากตระกูลกวนเมื่อเช้านี้ ก็กลืนลงท้องไป แต่ในใจยังรู้สึกไม่พอใจมาก นับหลายพันปีที่ผ่านมา ไม่มีใครคิดวิธีแก้ปัญหาภัยแล้งด้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 985 เพื่อนเก่าสองคนของเจ้า

    อินสิงอวิ๋นพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว “ในเมื่อน้องหญิงใหญ่เลือกที่จะออกจากวังเพียงลำพัง ก็พิสูจน์ได้ว่าศัตรูในครั้งนี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่นางยังไม่มั่นใจว่าจะชนะ ขืนเราวิ่งหัวหกก้นขวิดไปมั่วซั่ว จะกลายเป็นว่าโดนคนอื่นจับตัวไป มิทำให้น้องหญิงใหญ่ร้อนใจมากกว่าเดิมหรอกหรือ”อินปู้อวี่กระทืบเท้าด้วยความโกรธ“แล้วเราจะทำอย่างไรดี หรือผู้ชายบ้านเราจะปล่อยให้น้องหญิงใหญ่เสี่ยงอันตรายโดยไม่สนใจ หดหัวอยู่ในเมืองเหมือนเต่าขี้ขลาดงั้นหรือ”อินจ้งหายใจยาว ขยำจดหมายในมือ หยิบตะบันไฟออกมา และเผาจดหมายจนเป็นเถ้าถ่านครั้นนึกถึงคำขอโทษที่ท้ายจดหมาย ดวงตาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อถึงวัยในปัจจุบันของเขา จะยังสนใจเรื่องเป็นขุนนางอยู่อย่างนั้นหรือ สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้ คือลูกชายหญิงของเขา บัดนี้ต้าโจวสงบสุขทั้วทั้งแคว้น ทั้งยังมีท่านอาจารย์เป็นที่ปรึกษานั่งอยู่ในเมืองหลวงด้วย แม้ไม่มีตระกูลอิน ก็ไม่สำคัญเรื่องหนทางการเลี้ยงชีพนั้น ยิ่งไม่ต้องกังวล ลำพังแค่ร้านค้านี้ของตระกูลอิน ก็สามารถทำเงินได้หลายแสนตำลึงต่อปี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่อินชิงเสวียนมอบให้ หากไม่มีนาง วันนี้ตระกูลอินทั้งตระกูลคงได้ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 986 รอยตราของตำหนักเทพ

    อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเฟิงเอ้อร์เหนียงจะอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ นางเป็นเจ้าของเรือนจุ้ยหงคนปัจจุบัน แต่ทำไมฉุยอวี้ถึงอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ“สองคนนี้เป็นศิษย์น้องของแม่เจ้า ถ้าอยากรู้ว่าแม่ของเจ้าตายอย่างไร ก็ให้พวกนางบอกเจ้าเถอะ”หลังจากที่ผู้อาวุโสหันพูดจบก็เหาะชุดปลิวออกไปอินชิงเสวียนตกตะลึงอีกครั้งแม่?ศิษย์น้อง?หรือว่าแม่ของเจ้าของร่างเดิมไม่ใช่ฮูหยินใหญ่ของตระกูลอิน?เกิดอะไรขึ้นกันแน่?เมื่อนึกถึงหยกเย็นที่ฉุยอวี้มอบให้ตัวเอง รวมถึงท่าทีของเฟิงเอ้อร์เหนียงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยอยู่ตงิดๆนางรีบเดินเข้าไปในห้องแล้วถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เกิดอะไรขึ้นกันแน่”ฉุยอวี้นอนราบลงบนเตียง เหม่อมองเพดาน ไม่ตอบคำถามของอินชิงเสวียน นางไม่มีการตอบสนองแม่แต่น้อย สีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกเฟิงเอ้อร์เหนียงเหลือบมองที่ฉุยอวี้ ขอบตาแดงเล็กน้อย นางเม้มริมฝีปากอย่างแรง หลุบตาลงแล้วพูดว่า “สิ่งที่ผู้อาวุโสหันพูดเป็นเรื่องจริง แม่ของเจ้าคือเหมยชิงเกอพี่หญิงใหญ่ของเรา ยังเป็นอดีตธิดาเทพแห่งตำหนักเทพหอทองคำ”“ลมปากไร้หลักฐาน เจ้ามีหลักฐ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 987 ความจนใจของเฟิงเอ้อร์เหนียง

    เฟิงเอ้อร์เหนียงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น น้ำตาไหลอาบหน้าดวงตาของอินชิงเสวียนยังคงเย็นชา“เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมถึงไม่บอกแต่ตอนที่อยู่เป่ยไห่ ตอนนี้กลับลักพาตัวลูกชายข้ามาเป็นข้อแลกเปลี่ยน หรือนี่คือวิธีการทำงานของคนจากสำนักใหญ่โตอย่างพวกเจ้า”“นี้...”เฟิงเอ้อร์เหนียงก้มศีรษะลงอีกครั้งทันที หลังจากนั้นอีกหลายอึดใจจึงพูดว่า “พวกเรา...มีความลำบากใจที่บอกไม่ได้เหมือนกัน”อินชิงเสวียนยิ้มเยาะว่า “ความลำบากใจ? สิ่งที่พวกเจ้าต้องการ สร้างขึ้นจากความเจ็บปวดของผู้อื่น นี่เป็นความลำบากใจงั้นหรือ เป็นถึงตำหนักเทพหอทองคำ แต่กลับใช้วิธีที่น่ารังเกียจขนาดนี้ ช่างน่าขยะแขยงจริงๆ ท่านแม่ข้าจะไปเข้าร่วมสำนักไก่ขันหมาขโมยเช่นนี้ได้อย่างไร ตาบอดจริงๆ”“ชิงเสวียน!”เฟิงเอ้อร์เหนียงที่สะอื้นอยู่ร้องลั่นออกมาอินชิงเสวียนขัดจังหวะอย่างเย็นชา“หุบปาก เจ้าไม่มีสิทธิ์เรียกชื่อของข้า หากพวกเจ้าต้องการน้ำพุวิญญาณ ข้าจะให้พวกเจ้าก็ได้ ในเมื่อแม่ของข้าตายแล้ว ตำหนักเทพกับข้า ก็ไม่ความเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป”หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบก็เดินออกจากห้อง นั่งขัดสมาธิบนก้อนหินในลานบ้าน ไม่อยากมองทั้งสองคนแม้แต่น้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 988 ข่มขู่คนตัวเปล่า

    ฉางเฮิ่นเทียนกล่าวด้วยความเคารพ “ผู้อาวุโสหันโปรดวางใจ ข้าสัญญาว่าจะดูแลเด็กคนนี้อย่างดี”ผู้อาวุโสหันพยักหน้า“ตามคำอธิบายของฮั่วเทียนเฉิง อาจมีมิติอื่นอยู่ในตัวของอินชิงเสวียน ต้องเฝ้าไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว หากมิตินั้นสามารถเอาคนเข้าไปอยู่ได้ เช่นนั้นคนที่ข้าจะสามารถข่มขู่นางได้คือสามีของนาง มีเพียงเย่จิ่งอวี้คนเดียวแล้ว”ฉางเฮิ่นเทียนกอดเสี่ยวหนานเฟิงในอ้อมแขนแน่นกระชับ ถามหยั่งเชิงดูว่า “เช่นนี้แล้ว เหตุใดไม่จับตัวเย่จิ่งอวี้มาด้วยเลยล่ะขอรับ จะไม่เกลี้ยกล่อมง่ายกว่าหรอกหรือ”ผู้อาวุโสหันแค่นเสียงหึพูดว่า “ในโลกนี้มีคำกล่าวที่ว่าปลาตายตาข่ายขาด ไม่ว่าเรื่องใดก็ไม่สามารถทำเกินไปได้ เบื้องหลังของเย่จิ่งอวี้ไม่ได้มีแค่ราชสำนักเท่านั้น แต่ยังมีหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ด้วย ข้าแค่อยากได้สิทธิ์ถือครองวิถีแห่งสวรรค์ห้าสิบปีโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องการทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนที่ไม่จำเป็น”เขาหันกลับมา จ้องมองไปที่ฉางเฮิ่นเทียนด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม“ในเมื่อเจ้าเกิดที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง น่าจะไม่รู้จักฮ่องเต้น้อย ทำไมข้าถึงรู้สึกว่า เจ้าสนใจเขาขนาดนี้?”ฉางเฮิ่นเทียนพูดโดยเร็ว “ผู้เยาว์ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 989 ละโมบ

    อินชิงเสวียนเงียบไปครู่หนึ่งนางรู้ดีว่าชายชราหน้าตาใจดีตรงหน้านางไม่ใช่คนดี ถ้าทำให้เขาโกรธ ไม่แน่ว่าจะกลายเป็นเหมือนสุนัขจนตรอกจริงๆ ก็ได้ ทหารองครักษ์ในวังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับโจรเฒ่าคนนี้ หากเขาฆ่าเสี่ยวหนานเฟิงและเย่จิ่งอวี้ การวางแผนของนาง จะไม่เสียเปล่าแย่หรอกหรืออินชิงเสวียนถอนหายใจเฮือก สะกดอารมณ์โกรธในใจอีกครั้ง“เอาเถอะ ในเมื่อข้าเลือกที่จะเชื่อใจผู้อาวุโส ก็จะเชื่อใจจนถึงที่สุด ตอนนี้มืดแล้ว ถึงเวลาออกจากเมืองแล้วไม่ใช่หรือ”ผู้อาวุโสหันลูบเคราแล้วยิ้ม “แบบนี้สิถึงจะถูกต้อง สักวันหนึ่ง เจ้าจะเข้าใจความทุ่มเทของข้า”อินชิงเสวียนยิ้มเยาะ ไม่พูดอะไรอีกผู้อาวุโสหันพูดกับคนข้างหลัง “เฮิ่นเทียน ถึงเวลาไปแล้ว”เฟิงเอ้อร์เหนียงก็เปิดประตู นางเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสหัน พวกเราเช่ารถม้าคันหนึ่งได้หรือไม่ ศิษย์พี่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เหมาะที่จะขี่ม้าจริงๆ”ผู้อาวุโสหันพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “เราต่างเป็นลูกหลานในยุทธภพ เหตุใดสนใจอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยด้วยเล่า หากเจ้าไม่สบายใจ ก็นั่งไปกับนาง”เฟิงเอ้อร์เหนียงอ้าปาก แล้วเม้มปิด โค้งคำนับพูดว่า “ศิษย์น้อมรับคำสั่ง”เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 990 เขาเป็นคนเลว

    เมื่อเห็นว่าเสี่ยวหนานเฟิงไม่มีอะไรผิดปกติ ใบหน้าของอินชิงเสวียนก็อ่อนโยนลงทันที“จ้าวเอ๋อร์อย่ากลัว เสด็จแม่กับท่านปู่คนนี้จะพาเจ้าไปเที่ยวข้างนอกไม่กี่วัน แล้วเราค่อยกลับมาใหม่”ทันใดนั้นเสี่ยวหนานเฟิงก็ลืมตาดำขลับคู่โต มือเล็กป้อมชี้ไปที่ผู้อาวุโสหัน แล้วพูดว่า “เขาไม่ใช่ท่านปู่ เขาเป็นคนเลว”ผู้อาวุโสหันสุขุมเยือกเย็น ยังคงมีรอยยิ้มระบายอยู่ทั่วใบหน้า“เด็กน้อย เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ต่อไปนี้เจ้าต้องไปกับอาฉางไป เขาจะเล่นกับเจ้าอย่างดี”เสี่ยวหนานเฟิงไม่ติดกับดัก เตะฉางเฮิ่นเทียนทันที เสียงเล็กไร้เดียงสาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ไม่เอา ปล่อยข้านะ ข้าอยากไปหาเสด็จแม่”อินชิงเสวียนมองลูกด้วยความทุกข์ใจ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “จ้าวเอ๋อร์เด็กดี แม่มีธุระต้องทำ ช่วงนี้เจ้าก็เล่นกับอาคนนี้ไปก่อน แม่เสร็จธุระแล้วค่อยมาเล่นกับเจ้านะ”ฉางเฮิ่นเทียนหยิบกลองป๋องแป๋งที่ซื้อจากตลาดออกมาอย่างทันที แล้วเขย่าต่อหน้าเสี่ยวหนานเฟิงเสี่ยวหนานเฟิงไม่ชอบของสิ่งนี้เลย แต่เขาก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง เสด็จแม่ติดธุระ ไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้จริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ในวังหรือในเป่ยไห่ เสด็จแม่กับเสด็จพ่อก็ยุ่งมาก ปก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 991 ต่างคนต่างครุ่นคิด

    เฟิงเอ้อร์เหนียงได้จูงม้ามาทั้งหมดสี่ตัว ขณะที่ผู้อาวุโสหันกำลังจะขึ้นม้า จู่ๆ อินชิงเสวียนก็พูดว่า “ไม่ได้ จ้าวเอ๋อร์ยังเด็กเกินไป ทนรับแรงกระแทกระยะเวลานานไม่ได้ ผู้อาวุโสโปรดใจกว้าง จ้างวานรถม้าด้วยเถิด”เฟิงเอ้อร์เหนียงมองนางด้วยความรู้สึกขอบคุณทันทีผู้อาวุโสหันพูดอย่างอบอุ่น “เรื่องนี้เจ้าวางใจได้ ข้าอุ้มเขาอยู่ รับรองว่าเขาจะรู้สึกราวกับเดินบนพื้นราบ”อินชิงเสวียนพูดเสียงแข็ง “แบบนั้นก็ไม่ได้ผล เด็กยังต้องนอน ยังต้องเล่น อยู่บนหลังม้าไม่มีพื้นที่ว่างจริงๆ ถ้าผู้อาวุโสยืนกรานที่จะปฏิเสธ เช่นนั้นผู้เยาว์ก็จะไม่ไป น้ำนี้ เกรงว่าผู้อาวุโสจะไม่ได้ดื่มอีกแล้ว”ผู้อาวุโสหันพูดด้วยสีหน้าจนปัญญา “ชิงเสวียน เจ้าเป็นถึงฮองเฮาแห่งแคว้น ควรรู้ว่าทุกอย่างต้องเห็นแก่สถานการณ์โดยรวม เหตุผลที่เรามาที่นี่อย่างเร่งรีบขนาดนี้ ก็เพราะตำหนักเทพกำลังเดือดร้อน เราต้องรีบกลับโดยเร็วที่สุด”“นั่นเป็นเรื่องของผู้อาวุโส ไม่เกี่ยวข้องกับผู้เยาว์ ผู้เยาว์เพียงต้องการรับรองความปลอดภัยของลูก หากผู้อาวุโสยืนกรานที่จะปฏิเสธ เช่นนั้นผู้เยาว์ต้องล่วงเกินแล้ว”อินชิงเสวียนยกมือขึ้นเรียกพิณการเวก เฟิงเอ้อร์เหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-16

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status