แชร์

บทที่ 810 เจ้าเด็กเปรต

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-05 16:00:00
เย่จิ่งหลานรีบไปชายหาด ไม่สนใจสีหน้าของหวังซุ่น

สิบห้านาทีต่อมา ทั้งสองก็มาถึงชายหาด

เมื่อมองดูสิ่งของขนาดใหญ่ที่นอนอยู่บนท่าเรือ โมริตะคาวาสึบาเมะก็อดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเย็นๆ เข้าปอด

หากสามารถสร้างเรือขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ การบรรทุกคนหลายร้อยคนก็ไม่ใช่ปัญหา

โชคดีที่เขามาที่เป่ยไห่ หากปล่อยให้พวกเขาสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาจริงๆ พวกเขาอาจจะโจมตีเกาะตงหลิวได้ในคราวเดียว

ชาวจงหยวนเหล่านี้ จะมองข้ามง่ายๆ ไม่ได้เด็ดขาด

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ คนที่ต่อเรือเป็นเด็กเปรตนี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาจริงๆ

ไม่คาดคิดว่าเขามีที่อายุยังน้อย จะมีความสามารถเพียงนี้ ถ้าโตขึ้น จะเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน

เมื่อมองไปที่เย่จิ่งหลานซึ่งเป็นผู้คุมงานก่อสร้าง ดวงตาของโมริตะคาวาสึบาเมะก็เป็นประกายเยือกเย็น

เย่จิ่งหลานดูเหมือนจะรู้สึกได้ เขามองย้อนกลับไปก็เห็นพวกเขากำลังช่วยขนของ จึงหันความสนใจไปที่แบบแปลนอีกครั้ง

วันทั้งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในชั่วพริบตา พระอาทิตย์ก็เคลื่อนคล้อยไปทางทิศตะวันตกแล้ว

เมื่อคิดว่าพรุ่งนี้เป็นตรุษจีน เย่จิ่งหลานก็แจ้งให้ทุกคนเลิกงานเร็ว รอวันตรุษจีนพรุ่งนี้

จากน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Auntie Oui
15นาทีตลอดทั้งเรื่อง...
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 811 ชื่นชมซึ่งกันและกัน

    เจ้าของมือเป็นคุณชายรูปงาม อายุประมาณยี่สิบปีต้นๆ ใบหน้าราวกับหยก และหล่อเหลาอย่างยิ่ง ด้านหลังเขาเป็นเด็กรับใช้อายุสิบห้าสิบหกปีทั้งสองหยิบเชือกปมผูกรักขึ้นมาพร้อมกัน คุณชายผู้นั้นผลิยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “สุภาพบุรุษไม่พรากของชอบของผู้ใด ในเมื่อพี่ชายก็ชอบเช่นกัน ข้าจะไปดูอย่างอื่น”เย่จิ่งอวี้ก็ไม่ชอบเป็นพิเศษ แค่รู้สึกว่าอุตส่าห์ได้ออกมาทั้งที อย่างไรก็ต้องซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ให้หญิงสาวบ้าง เพื่อจะได้แสดงถึงความในใจขณะที่กำลังจะปล่อยมือไปเลือกของอย่างอื่น ก็ได้ยินคุณชายผู้นั้นพูดอย่างดีใจ “แม่นางอิน เจ้าก็ออกมาเดินตลาดกลางคืนเหมือนกันงั้นหรือ”อินชิงเสวียนไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับเฮ่อฉางเฟิงที่นี่ นางพูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฮ่อนี่เอง ข้ากับสามีกำลังจะไปเยี่ยมเจ้าที่โรงเตี๊ยม”เมื่อเห็นหญิงสาวยิ้มสดใสราวกับดอกไม้ เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกหึงอยู่หน่อยๆ หลังจากได้ยินนางแนะนำเช่นนี้ ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเขาประกบมือคำนับแล้วพูดว่า “ที่แท้ผู้นี้คือคุณชายเฮ่อที่ภรรยาข้าเอ่ยถึงมาตลอด ขอคำนับแล้ว”เฮ่อฉางเฟิงเหลือบมองเย่จิ่งอวี้ แม้ว่าจะเป็นบุรุษเช่นกัน แต่เฮ่อฉางเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะแอบชื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 812 มารวมตัวกันที่เหลาสุรา

    ครั้นดวงตาทั้งสองคู่สบกัน ชายวัยกลางคนก็รีบหลบสายตาอินชิงเสวียนไม่สนใจ ในเหลาสุรามีผู้คนมากมาย จะมีคนสอดส่ายสายตามองไปทั่วก็เป็นเรื่องปกติ แต่แล้วทันใดนั้นก็เห็นลูกค้าจอมยุทธ์หญิงสองคนนั่งดื่มสุราอยู่ที่ประตู ท่าทางใจกล้า ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาในใจในยุคศักดินาแบบนี้ มักไม่ค่อยได้เห็นภาพเช่นนี้นักในขณะที่ชื่นชมอยู่นั้น ก็มีสตรีอีกสองคนเดินขึ้นไปบนชั้นสองเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของพวกนางอย่างชัดเจน อินชิงเสวียนก็ตะลึงงันไปชั่วขณะเป็นฉุยอวี้กับเฟิงเอ้อร์เหนียง!หญิงผู้นี้เปิดกิจการเรือนจุ้ยหงในเมืองหลวงไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงปรากฏตัวที่เป่ยไห่ และทำไมถึงอยู่กับฉุยอวี้?หรือว่าสองคนรู้จักกันอยู่แล้ว?เมื่อพิจารณาว่าสำนักเซียวเหยามุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณ การที่เฟิงเอ้อร์เหนียงผู้เป็นเถ้าแก่หอนางโลมจะรู้จักกับฉุยอวี้ก็ไม่แปลกฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงหาที่นั่งริมหน้าต่าง สองคนสั่งเนื้อวัวสองจิน และสุรารสแรงสองกา แล้วต่างคนก็ต่างกินข้าวเมื่อเห็นฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงสองคน สีหน้าของชายวัยกลางคนที่มองอินชิงเสวียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็นพวกนางจริงๆ พอจะมาก็ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 813 การตายของตู้เยี่ยน

    “ฮะ คุณชายรู้จักเขาด้วย?”หยวนเป่าชะโงกหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ แล้วก็ร้องตกใจออกมาทันทีผู้ชายคนนี้ดูเหมือนโครงกระดูก น่ากลัวจริงๆ เฮ่อฉางเฟิงไม่สนใจหยวนเป่า เขาก้มลง ดึงผ้าสีดำบนร่างของชายคนนั้นออก เผยให้เห็นหน้าอกที่แนบเนื้อถึงกระดูก บริเวณกลางอกยังมีรอยประทับสีเขียวของนิ้วโป้งยาวหยวนเป่าเข้ามาดู อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความประหลาดใจ “นี่...นี่คือเจ็ดสิ่งต้องห้ามของเจ้าเมือง! คุณชาย หรือว่า...เขาจะคือรองเจ้าเมืองตู้?”เฮ่อฉางเฟิงปล่อยมือ นัยน์ตาทั้งคู่ปรากฏเมฆดำเคลือบคลุม“คิดไม่ถึงว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ข้ากลัวว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ในอนาคต”หยวนเป่ามองไปที่เฮ่อฉางเฟิงด้วยสีหน้าประหลาดใจ“คุณชายหมายความว่าอย่างไร รองเจ้าเมืองตู้เขา...เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมยังมีชีวิตอยู่”หยวนเป่าเหลือบมองไปมาหลายครั้ง แล้วถามว่า “รองเจ้าเมืองตู้เลื่องชื่อเรื่องหล่อเหลา เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้”เฮ่อฉางเฟิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “เจ้าก็พูดถึงเจ็ดสิ่งต้องห้ามแล้ว ทำไมยังถึงถามโง่ๆ อีก”แล้วจึงพึมพำต่อว่า “แผนจักจั่นลอกคราบ ตายเพื่อเกิดใหม่...”เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง เขาก็หันกลับมา หยวนเป่าที่มีสีหน้าหว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 814 วิ่งหนี

    เมื่อผ้าสีดำหล่นลง ใบหน้าซูบตอบก็โผล่ออกมาจากผ้า ริมฝีปากอ้าออกเล็กน้อย ดวงตาถลน สภาพการตายนั้นเป็นที่น่าสังเวชมากเจ้าสำนักเซี่ยวผงะ“นี่คือ...วางคนลงเดี๋ยวนี้”เขาซัดฝ่ามือใส่เสี่ยวหยวนเป่า เสี่ยวหยวนเป่าร้องว้ากออกมา รีบหลบจากมือทันทีแต่เจ้าสำนักเซี่ยวได้จับตัวคนไว้แล้วเมื่อเห็นสีหน้าไร้ปรานีของชายชรา เสี่ยวหยวนเป่าก็รู้ว่าคนผู้นี้หาเรื่องไม่ได้ จึงตะโกนไปด้านหลังเจ้าสำนักเซี่ยวว่า “อาจารย์ เหตุใดท่านถึงเพิ่งมาขอรับ”ยอดฝีมืออย่างเจ้าสำนักเซี่ยวจะถูกหลอกด้วยการโกหกง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไร เขาคำรามเสียงเย็น“อุบายของเด็กสามขวบ ยังกล้านำมาเล่นต่อหน้าข้า มาให้ข้าดูหน่อย ว่าเจ้าเป็นใครกันแน่”เมื่อเห็นชายชราพยายามดึงผ้าปิดหน้าออก เสี่ยวหยวนเป่าดีดเท้าเหาะถอยกลับ แล้วตะโกนเสียงดังอีก “อาจารย์หยุดแอบได้แล้ว รีบมาช่วยข้าทีขอรับ”เจ้าสำนักเซี่ยวอุทานเอ๊ะอย่างอดไม่ได้ วิชาตัวเบานี้มาจากสำนักใด ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนขณะที่กำลังลังเล เสี่ยวหยวนเป่าก็แอบย่องหนีไปแล้วเจ้าสำนักเซี่ยวหัวเราะเพราะโมโห สะบัดเสื้อคลุมพรึบ แล้วร่างนั้นก็ติดตามไปเหมือนเงา“เด็กน้อย คิดหรือว่าเจ้าจะรอดพ้นเง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 815 ปีใหม่บรรยากาศใหม่

    เย่จิ่งอวี้ก้าวไปข้างหน้า มองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน“เขาตายแล้วจริงๆ หรือ”จากประสบการณ์เรื่องของอาซือหลาน ทำให้เย่จิ่งอวี้ไม่กล้ายืนยันใดๆ เจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้ากล่าวว่า “ตายแล้วจริงๆ”“ท่านตาฆ่าเขาหรือขอรับ”เย่จิ่งอวี้จ้องเขม็งที่ศพ รู้สึกว่าการตายของตู้เยี่ยนนั้นออกจะปุบปับไปหน่อย“มิได้”เจ้าสำนักเซี่ยวจึงค่อยๆ เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้“หรือเป็นคนที่พาตู้เยี่ยนออกไป?”เย่จิ่งอวี้สับสนอยู่ครู่หนึ่งอยู่ที่นี่ตู้เยี่ยนคงไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิด แล้วคนผู้นั้นเป็นใครเจ้าสำนักเซี่ยวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คิดว่าคงไม่ใช่ คนที่ต่อสู้กับข้ามีวรยุทธ์ไม่เลวเลยทีเดียว เป่ยไห่เล็กๆ แห่งนี้ เป็นที่ที่เสือหมอบมังกรซ่อนจริงๆ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้ากล่าวว่า “ในเป่ยไห่มีสำนักต่างๆ หลายสำนัก จะต้องมียอดฝีมือเร้นกายในหมู่พวกเขาอยู่มากแน่ ในเมื่อตู้เยี่ยนตายไปแล้ว ทุกอย่างก็ยุติลง พวกเราจะได้มีความสุขในปีใหม่ได้ เสวียนเอ๋อร์ยังเตรียมเสื้อคลุมตัวใหม่ไว้ให้ท่านตาด้วย กำลังรอให้ท่านตาไปลองสวมใส่อยู่ขอรับ”ครั้นได้ยินดังนี้ ใบหน้าของเจ้าสำนักเซี่ยวก็แสดงรอยยิ้มขึ้นมาทันทีนี่เป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 816 มงคลปีใหม่

    อินชิงเสวียนใช้คะแนนแลกของกินจากมิติ มีบัวลอยไส้งาดำ รวมถึงบัวลอยไส้ถั่วลิสงและไส้ซานจาด้วย และยังแลกเค้กสำเร็จรูปและข้าวเหนียวแปดสมบัติด้วยศิษย์ในสำนักมาจากทั่วทุกหนทุกแห่ง มีพฤติกรรมการกินที่แตกต่างกัน จะเอาตามความชอบของตนเองอย่างเดียวไม่ได้นอกจากนี้ อินชิงเสวียนยังแลกสินค้าสำเร็จรูปจากที่ต่างๆ มาด้วย เช่นสินค้าประเภทเมล็ดแตงโมและลูกอมถั่วลิสง คะแนนสะสมจึงถูกใช้ไปเหมือนน้ำแม้ว่าของพวกนี้ราคาไม่แพง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะซื้อมาเยอะๆ ดังนั้น 500 คะแนนจึงใช้หมดอย่างรวดเร็วอวิ๋นฉ่ายอยู่กับอินชิงเสวียนมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นอาหารหรือของกินเล่นที่เลิศรสเช่นนี้มาก่อน จึงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย แทบอยากให้เริ่มมื้ออาหารเย็นเดี๋ยวนี้เลยเหล่าศิษย์คนอื่นได้สับไม้ไผ่จำนวนมาก เพื่อใช้ทำเป็นประทัดเฉลิมฉลองตรุษจีน เดิมทีอินชิงเสวียนอยากแลกประทัดมาบ้าง แต่คิดแล้วก็ตัดสินใจปล่อยผ่านดีกว่าเพราะของโบราณแบบนี้มีเสน่ห์มากกว่าในชั่วพริบตาก็ถึงเวลาจุดตะเกียง เฮ่ออวิ๋นทงพาต่งจื่ออวี๋มางานเลี้ยง“แม่นางอิน สวัสดีปีใหม่!”เมื่อเห็นอินชิงเสวียน ต่งจื่ออวี๋ก็มีสีหน้าชื่นมื่น รีบเอ่ยทักทายถ้อยคำมงคลทัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 817 ของขวัญพิเศษ

    “ของขวัญอะไร”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งคู่เป็นประกายระยิบระยับคิดในใจว่าเป็นเงื่อนปมผูกรักที่เห็นเมื่อวานนี้หรือเปล่าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม การรับของขวัญ ย่อมทำให้คนรู้สึกดีเสมอเย่จิ่งอวี้เม้มริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “ของสิ่งนี้ข้าใช้เวลาหาคนมาแกะสลักอยู่ตั้งนาน เสวียนเอ๋อร์ต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ”เมื่อได้ยินเย่จิ่งอวี้พูดถึงขนาดนี้ อินชิงเสวียนก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น“เป็นอะไรหรือ”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยสีหน้าลึกลับ “เสวียนเอ๋อร์หลับตาก่อน”อินชิงเสวียนปิดตาทันที กลับรู้สึกถึงความอบอุ่นบนริมฝีปาก จากนั้นก็ได้กลิ่นหอมเย็นที่คุ้นเคยนางลืมตาขึ้น มองเย่จิ่งอวี้ด้วยความโกรธ“อาอวี้ทำไมถึงกะล่อนแบบนี้”“ที่ไหนกัน”เย่จิ่งอวี้ถอนริมฝีปากออก หัวเราะเบาๆ แบมือออกเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในฝ่ามือของเขา อินชิงเสวียนก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจในฝ่ามือของเขาคือหยกขนาดเท่าหัวแม่มือ ส่วนสีขาวแกะสลักเป็นรูปคนเล็กๆ สวมชุดสีฟ้าอ่อน มองเห็นเสื้อผ้าและผ้าคาดเอวได้ชัดเจน บนศีรษะยังสวมหมวกสีกรม มีจมูกมีลูกตา เหมือนจริงมากคนตัวเล็กมือทั้งสองข้างประสานกัน ถือของบางอย่างที่เป็นสีขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-07
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 818 บอกช้าเกินไป

    อีกประเดี๋ยวต้องออกลาดตระเวนกลางคืน ทั้งสองจึงไม่ได้ไปที่โต๊ะหลักของเจ้าสำนักเซี่ยวฮวาเชียนเตรียมโต๊ะสุราอาหารให้สองพี่น้องตระกูลเย่ อินชิงเสวียนกับสาวใช้ รวมถึงโมริตะคาวาสึบาเมะและคนอื่นๆ ไว้โดยเฉพาะเมื่อมองไปที่สุราอาหารบนโต๊ะใหญ่นี้ เย่จิ่งหลานก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายยัยเด็กบ้านี่มีน้ำใจทีเดียว ทุกสิ่งที่เขาต้องการก็ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยนอกจากนี้ยังมีอาหารบางจานที่เขาไม่เคยชิมมาก่อน มองแวบแรกก็รู้ว่าอาหารสมัยใหม่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลองชิมทุกอย่าง เขาจึงหยิบตะเกียบขึ้นมา และลงมือกินทันทีแม้ว่าโมริตะคาวาสึบาเมะจะอยู่ในจงหยวนมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นอาหารที่ซับซ้อนมากมายขนาดนี้มาก่อน เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารในตงหลิว มันต่างกันราวฟ้ากับเหวเดิมทีสิ่งเหล่านี้ควรจะเป็นของพวกเขา แต่ชาวจงหยวนเหล่านี้หาข้ออ้างขึ้นมาส่งเดช ขับไล่ไสส่งพวกเขาไปที่เกาะ ปล่อยให้ใช้ชีวิตตามยถากรรมโมริตะคาวาสึบาเมะยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น คีบไก่ผักพริกเข้าปาก แล้วเคี้ยวหยับๆ หวังซุ่นนั่งอยู่ข้างโมริตะคาวาสึบาเมะ กลิ่นหญ้าเทียนเหลี่ยวก็โชยเข้าจมูก จึงอดไม่ได้ที่จัมองโมริตะอีกโมริตะคาวาสึบาเมะถือจอกสุรา พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-07

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status