แชร์

บทที่ 796 หนอนหนังสือ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-01 16:00:00
ยิ่งเก่อหงยวนคิดมากเท่าใดก็ยิ่งไม่พอใจ พูดกับศิษย์ในสำนัก “พวกเจ้าน่ะ ใครจะไปดื่มกับข้าบ้าง”

ในสำนักเทียนหยวนนั้น เก่อหงยวนเป็นคนที่ได้รับการพะเน้าพะนอเอาใจในกลุ่มมาโดยตลอด แค่เรียกหนึ่งคำก็มีเสียงตอบรับมานับร้อย

เพียงครู่เดียวก็มีคนมามากกว่ายี่สิบคน เก่อหงยวนรีบทำมือบอกให้หยุด นางไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าสุรามากขนาดนั้น

“เจ้า เจ้า แค่เจ้าสองคน ส่วนคนที่เหลือมีงานอะไรก็ไปทำ”

หลังจากที่เก่อหงยวนชี้เรียกเสร็จ มือเล็กๆ ก็เอามือไพล่หลัง เดินหน้าเชิดไปที่เหลาสุราที่ชื่อว่าทะเลครามฟ้าใส

ในเวลานี้ มีคนจำนวนมากมารวมตัวกันที่เหลาสุรา ทุกคนต่างพูดถึงฝนประหลาดนี้ ใครก็ตามที่ได้เปียกฝน จะได้รับผลในทางที่ดีไม่มากก็น้อย

เมื่อเก่อหงยวนขึ้นไปชั้นบน ใบหน้าของนางก็บิดเบี้ยวทันที

ทุกโต๊ะเต็มไปหมด เท่าที่ตาเห็นดูไม่มีที่ว่างเลย

ศิษย์ที่อยู่ข้างๆ ชี้ไปที่มุมด้านขวาทันที

“คุณหนูใหญ่ ตรงนั้นมีโต๊ะ อยู่กันแค่สองคน พวกเราไปขอแบ่งโต๊ะได้”

ครั้นมองตามนิ้วของลูกศิษย์ เก่อหงยวนก็เห็นคุณชายน้อยสวมเสื้อคลุมตัวยามสีฟ้าเข้มทันที ผู้ที่นั่งถัดจากเขาก็เป็นเด็กรับใช้ที่ดูเฉลียวฉลาด

ทั้งสองกินข้าวไปพลาง มองออก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Auntie Oui
มีตัวละครใหม่เพิ่มมาตลอด
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 797 ความรู้สึกสนิทใจ

    เก่อหงยวนปรายตามอง อดไม่ได้ที่จะแอบถ่มน้ำลายออกมาไอ้หนอนหนังสือบ้านี้ ตัวเองพาเขามาที่นี่เพื่ออวด แต่เขากลับมองอย่างตะลึงเสียก่อน น่าขายหน้าจริงๆ“นี่ เจ้ามองอะไร คนเขามีสามีแล้ว”เก่อหงยวนใช้ข้อศอกกระทุ้งเขาแรงๆ อย่างไม่สบอารมณ์เฮ่อฉางเฟิงไอแห้งๆ รีบเบือนหน้าไปทางอื่นพูดจาด้วยภาษากวี “แม่นางอินเป็นเหมือนบุปผากลางธารา ดวงจันทราบนท้องฟ้า ช่างเหมือนกับนางฟ้า เป็นข้าน้อยที่ล่วงเกินแล้ว”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ คิดในใจว่า หรือว่าคนผู้นี้จะเป็นจอมยุทธ์เจ้าสำอาง ทำไมถึงดูเหมือนเป็นหนอนหนังสือเช่นนี้รอยยิ้มนี้เปรียบเสมือนดอกไม้บานสะพรั่ง ณ ขณะนั้นโลกดูเหมือนจะสูญสิ้นสีสันไป ดูสง่างาม บริสุทธิ์ มีเสน่ห์แต่ไม่ชั่วร้ายหัวใจของเฮ่ออวิ๋นเฟิงไม่เพียงรู้สึกปั่นป่วนเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยังรู้สึกถึงความสนิทใจที่อธิบายไม่ได้และต้องการใกล้ชิดกับนางมากขึ้น“คุณชายเฮ่อยกย่องเกินไปแล้ว อวี้จิ่น ไปชงชามาหน่อย แม่นางหงยวน คุณชายเฮ่อเชิญ”อินชิงเสวียนเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างเล็กน้อย แล้วผายเชิญทั้งสองขึ้นไปที่ศาลาจู่ๆ เก่อหงยวนก็หมดความสนใจในการเปรียบเทียบ ประกบมือคำนับแล้วพูดว่า “ข้าออกมาข้างนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 798 ไม่ ท่านไม่คิด

    หยวนเป่ากะพริบตาปริบๆ แล้วถามว่า “เป็นใครหรือ”ดวงตาของเฮ่อฉางเฟิงหรี่ลงเล็กน้อย“ไม่ต้องถามอะไรอีก ไปหาที่พักก่อน”เมื่อเห็นว่าสีหน้าของคุณชายเริ่มจริงจัง หยวนเป่าก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกสองนายบ่าวเจอโรงเตี๊ยมหลังหนึ่งจึงแวะพักอยู่ที่นั่นซึ่งบรรยากาศที่หนาวเย็นนั้น ก็หายไปเมื่อทั้งสองคนจากไปอินชิงเสวียนพ่นลมหายใจออกช้าๆในเวลานี้ มีมือข้างหนึ่งวางบนไหล่ของนาง ทำให้อินชิงเสวียนตกใจ นางหันขวับ ก็เห็นเรียวตาแคบคู่หนึ่ง“เป็นอะไรไปหรือ”เมื่อเห็นใบหน้าของอินชิงเสวียนซีดลงเล็กน้อย เย่จิ่งอวี้ก็โอบกอดนางทันทีอินชิงเสวียนกระตุกมุมปาก“ไม่มีอะไร”“เสวียนเอ๋อร์สังเกตพบอะไรงั้นหรือ”ดวงตาของเย่จิ่งอวี้ลึกล้ำ จ้องมองไปที่อินชิงเสวียนอย่างแน่วแน่เขารู้ความสามารถในการรับรู้ของหญิงสาวเป็นอย่างดี หากไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น นางจะไม่แสดงสีหน้าเช่นนี้ออกมาอินชิงเสวียนรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถปิดบังเย่จิ่งอวี้ได้ จึงพูดตามความจริง “เมื่อครู่มีกระแสที่เป็นเจตนาร้าย แต่ไม่นานก็หายไป ข้าไม่แน่ใจว่าเป็นคนนั้นหรือเปล่า แต่รู้สึกได้ถึงความเคียดแค้นอย่างที่สุด”เย่จิ่งอวี้ก้าวไปข้างหน้า แล้วเหาะขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 799 ข้ากับเจ้านัดกันใหม่ชาติหน้า

    ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดอินชิงเสวียนก็ผล็อยหลับไปก่อนนอนมีความคิดเดียวในใจ นิทานกล่อมนอนของเย่จิ่งอวี้ที่มุมานะทำอย่างตั้งใจนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าเรื่องเณรน้อยบนภูเขาเสียอีก...หลังจากนอนหลับจนถึงเที่ยง อินชิงเสวียนก็ลืมตาขึ้นด้วยความพึงพอใจเย่จิ่งอวี้กำลังนั่งข้างบ่อน้ำพุวิญญาณโดยที่เปลือยท่อนบนอยู่ แผ่นหลังแข็งแรง มีเส้นเลือดโผล่ออกมาจากแขน ดูมีพลังแข็งแกร่งยิ่งนักเมื่อคิดถึงพายุโหมรุนแรงเมื่อคืนนี้ อินชิงเสวียนรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงนางรีบไปที่บ่อน้ำพุ แล้วใช้มือวักน้ำขึ้นมาดื่ม หลังจากดื่มแล้ว ก็รู้สึกสดชื่นในลำคอ ร่างกายฟื้นฟูขึ้นในทันทีพอได้ยินเสียง เย่จิ่งอวี้ก็ลืมตาขึ้นเช่นกัน“นอนหลับเป็นอย่างไรบ้าง”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์“ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ”เย่จิ่งอวี้ยื่นมือออกไปรั้งตัวนางเข้ามาในอ้อมแขน แล้วถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “หรือว่านิทานของข้า ไม่ดีพองั้นหรือ”อินชิงเสวียนเหยียดกำปั้นออก ชกหน้าอกของเขาเบาๆ“ไม่ดี ครั้งหน้าท่านเล่าเรื่องกาลครั้งหนึ่งมีภูเขาลูกหนึ่งดีกว่า!”“เจ้าบอกเองนะ”เย่จิ่งอวี้ยิ้มอย่างมีความสุข ยกเข่าลุกขึ้นยืน“น่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 800 บ้านนอก

    เมื่ออินชิงเสวียนหันกลับมา ก็เห็นเฮ่อฉางเฟิงที่กำลังแสดงสีหน้ายินดีทันทีเขายืนอยู่ข้างเรือ โบกมือให้อินชิงเสวียนอย่างแรง ราวกับว่ากลัวว่าจะไม่มีใครเห็นหยวนเป่าที่อยู่ข้างๆ เขากระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา “แม้ว่าข้าจะพบกับเจ้าเมือง ก็ไม่เคยเห็นคุณชายแสดงท่าทางสนิทสนมแบบนี้มาก่อน”เฮ่อฉางเฟิงหันกลับมาและตบหน้าเขา“ขืนกล้าพูดไร้สาระอีก ข้าจะใช้เข็มเย็บปากเจ้าซะ”ชายคนนั้นได้หิ้วเสื้อคลุม และเดินข้ามโขดหินก้อนใหญ่ริมทะเลไปหาอินชิงเสวียนหยวนเป่าคลำศีรษะป้อย โชคดีที่คุณชายไม่ได้โกรธจริงๆ ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องถูกตบหัวดังเพียะเพราะความโง่เขลาของเขาเย่จิ่งหลานก็หยุดชะงัก และขมวดคิ้วเช่นกัน“คนป่านี่มาจากไหนอีก”อินชิงเสวียนเอื้อมมือไปหยิกเขา“คนป่าหมายความว่าอย่างไร สูบบุหรี่อยู่ก็ไม่สามารถอุดปากเจ้าได้!”หลังจากพูดจบก็หันไปหาเฮ่อฉางเฟิงด้วยรอยยิ้ม“ทำไมคุณชายถึงมาที่ชายหาดได้”“มาที่เป่ยไห่ทั้งที หากไม่ได้มาเห็นความยิ่งใหญ่และความงามของท้องทะเล จะต้องเสียใจอย่างยิ่ง คิดไม่ถึงว่าแม่นางอินก็อยู่ที่นี่ด้วย แม่นางอินและข้าน้อยมีชะตาต้องกันจริงๆ”มุมปากของเฮ่อฉางเฟิงยกขึ้นเล็กน้อย สีหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 801 ความคิดของฉุยอวี้

    เมื่อสบตากัน สีหน้าของฉุยอวี้ก็ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อยเพราะอยู่ห่างไกลกันเกินไป อินชิงเสวียนจึงไม่เห็นสีหน้าของฉุยอวี้ชัดเจน ทั้งยังไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับนางมากเกินไปจากนั้นก็นึกถึงหยกเย็นพันปีที่ตัวเองเก็บไว้ในมิติ นางได้มอบสิ่งล้ำค่าให้ หากทำเมินเฉยเหมือนมองไม่เห็นเช่นนี้ ก็ดูจะใจดำเกินไปหลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว อินชิงเสวียนยังรู้สึกว่าต้องไปทักทายนางยกกระโปรงขึ้น ก้าวข้ามก้อนหินใต้เท้า แล้วเดินไปทางฉุยอวี้“ทำไมเจ้าสำนักฉุยถึงมาที่ชายทะเลได้เล่า”อินชิงเสวียนยิ้มบางๆ น้ำเสียงเรียบๆ ไม่กระตือรือร้นหรือห่างเหิน ความมืดมนบนใบหน้าของฉุยอวี้หายไปทันที เผยรอยยิ้มอันใจดี“ได้ยินมาว่าระยะนี้หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์กำลังต่อเรือ ก็เลยอยากมาดู ว่าจะช่วยงานอะไรได้บ้าง”อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มใสกระจ่าง “เจ้าสำนักฉุยเกรงใจไปแล้ว สำนักเราได้จ้างช่างฝีมือ ตอนนี้กำลังคนก็ยังเพียงพอ หากมีความจำเป็น ชิงเสวียนจะไปรบกวนถึงประตูบ้านอย่างแน่นอน”“ดีแล้ว”ฉุยอวี้เหลือบมองที่ด้านข้างของเรือ แล้วพูดว่า “ใกล้จะถึงวันสิ้นปีแล้ว ไม่ทราบว่าแม่นางอินมีแผนอะไรหลังตรุษจีน”อินชิงเสวียนยิ้มเล็กน้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 802 ความร้อนรนของเย่จิ่งอวี้

    ความคิดหยุดอยู่แค่นี้ ฉุยอวี้กระตุกริมฝีปากยิ้ม “ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อข้า วันนั้นทำไมเจ้าถึงทิ้งตำหนักเทพแล้วจากมากับข้า”เฟิงเอ้อร์เหนียงพูดอย่างเย็นชา “นั่นเป็นเพราะข้าต้องการจับตาดูเจ้า ยิ่งอยากเห็นว่าคนเนรคุณเช่นเจ้า จะสามารถแสวงหาชื่อเสียงและโชคลาภได้ไกลแค่ไหน”ฉุยอวี้หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ แล้วถามอย่างสงบ “แล้วเจ้าเห็นอะไร”เฟิงเอ้อร์เหนียงตอบว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเจ้าทำอะไรไว้ ยังต้องให้ข้าอธิบายทุกเรื่องหรือไม่ในเวลาเพียงไม่กี่ปี เจ้าได้กลายเป็นหนึ่งในสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า วิธีการของเจ้า ร้ายกาจมากกว่าเด็กสาวใต้อาณัติข้าด้วยซ้ำ”สิ่งที่เฟิงเอ้อร์เหนียงพูดนั้นไม่น่าฟัง ไม่ว่าชื่อเสียงของสำนักเซียวเหยาจะเป็นอย่างไร ฉุยอวี้ก็เป็นเจ้าสำนัก แต่เฟิงเอ้อร์เหนียงเปรียบเทียบนางกับหญิงสาวในหอนางโลม หากคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากคนอื่น คนผู้นั้นคงไม่เหลือหัวแล้วฉุยอวี้ยังคงดูสงบ ไม่รู้สึกไม่พอใจนางยืนขึ้น เดินไปที่หน้าต่าง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “ผู้ชนะเป็นเจ้า ไม่จำเป็นต้องสนใจขั้นตอน ยิ่งไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรายละเอียด ตราบใดที่ผลลัพธ์ถูกต้อง เส้นทางนี้เลือกไม่ผิดแน่”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 803 ไม่ผิดต่อความจริงใจ

    เย่จิ่งอวี้ตัวแข็งทื่อนี่คือเสียงของอาจารย์งั้นหรือเขารู้แล้วว่าอาจารย์ที่สอนวรยุทธ์ให้เขาในวังวันนั้นคือตู้เยี่ยน คุณชายขลุ่ยหยกของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ผู้มีชื่อเสียงเย่จิ่งอวี้เคยถามเจ้าสำนักเซี่ยวหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเอ่ยถึงมากกว่านี้ บอกแค่ว่าเขาตายแล้วเท่านั้นท่านแม่ข้าก็เก็บงำความลับเรื่องนี้เช่นกัน แต่ตอนนี้ได้ยินเสียงจริงๆ จึงอดไม่ได้ที่จะตกใจเสียงเหมือนยุงที่อยู่ใกล้หู ไม่ดัง แต่ชัดเจนมาก“เจ้าไม่อยากรู้ว่าทำไมอาจารย์จึงออกจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์”เย่จิ่งอวี้สะกดลมหายใจทันที รีบหันไปมองไปรอบๆ ตัว แต่ไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนของคนแปลกหน้าเสียงนั้นพูดอีกครั้ง “ถ้าต้องการพบอาจารย์ ให้มาที่ป่าไผ่ด้านเหนือของเมือง”ในเวลานี้ ประตูก็เปิดออกอินชิงเสวียนเดินออกจากห้อง เห็นเย่จิ่งอวี้ยืนอยู่ที่ประตู จึงพูดอย่างงอนๆ “หรือว่าที่ท่านดื่มมากเกินไป จนจำห้องของตัวเองไม่ได้แล้ว?”เย่จิ่งอวี้ยิ้มแล้วพูดว่า “กำลังจะเข้าไป ทำไมเสวียนเอ๋อร์ยังไม่หลับอีกล่ะ หรือรอให้ข้าเล่านิทานให้ฟัง”ใบหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย และนางก็ถ่มน้ำลาย “ใครอยากฟังนิทานข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 804 คุยกันถึงเรื่องในอดีต

    หลังจากผ่านไปสามสิบนาที เย่จิ่งอวี้ก็มาถึงป่าไผ่ทางตอนเหนือของเมืองป่าแห่งนี้เงียบสงบ ยกเว้นจะมีเสียงใบไผ่ที่ปลิวตามแรงลมเย่จิ่งอวี้หยุดอยู่ที่ชายป่า ลมปราณอยู่ในจุดตันเถียน ตะโกนไปที่ป่า “มีใครอยู่หรือไม่”เสียงนั้นถูกกระตุ้นด้วยกำลังภายใน เป็นเหมือนระลอกคลื่นที่กลิ้งไปตามป่าไผ่เสียงหัวเราะดังมาจากป่า“ไม่ได้เจอกันหลายปี กำลังภายในของฝ่าบาทก้าวหน้าขึ้นมากขนาดนี้ อาจารย์ยินดีจริงๆ”เมื่อฟังเสียงที่คุ้นเคยนี้ เย่จิ่งอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น“อาจารย์ เป็นท่านจริงๆ!”ฮ่องเต้ผู้ล่วงลับหาคนมาเติมเต็มวังหลัง จนหวนไท่เฟยหมดความโปรดปรานภายในสองปีหลังให้กำเนิดเย่จิ่งอวี้เสด็จแม่ไม่ได้รับความโปรดปราน เป็นเรื่องยากสำหรับลูกชายที่จะทำให้ฮ่องเต้พอใจบางทีมันอาจจะเป็นเพราะการขาดความรักของพ่อ ถึงทำให้เย่จิ่งอวี้เอาความรู้สึกไปใช้กับตู้เยี่ยน มักจะมีความรู้สึกลึกซึ้งต่ออาจารย์ที่สอนวรยุทธ์ให้เขาเย่จิ่งอวี้รู้สึกภูมิใจที่รู้ว่าอาจารย์ของเขาคือคุณชายขลุ่ยหยกผู้เลื่องชื่อ แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะเสียชีวิตไปนานแล้ว คนในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ต่างไม่ปริปากเล่าถึงสาเหตุการตายของเขา แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-03

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status