แชร์

บทที่ 755 คิดร้าย

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-21 19:05:12
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนสู้กันสูสี มุมปากของอาซือหลานก็ยกขึ้นเล็กน้อย

ไม่ได้เจอกันหลายวัน กวนเซี่ยวก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลย

เพียงแต่ เหตุใดเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่

หรือว่าจะมากับฟางรั่ว?

อาซือหลานมองดูใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยนั้น ทันใดนั้นก็จำได้ว่าตอนที่ออกจากประตู เหมือนจะเจอเขาข้างๆ เขายังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง

หรือว่า...ผู้หญิงคนนั้น...คือนางแพศยาฟางรั่ว?

ถ้านางมาที่นี่จริงๆ ต้องร่วมมือกับอินชิงเสวียนแน่นอน...

หากตัวตนของเขาถูกเปิดโปง ก็ไม่สามารถตั้งหลักในเป่ยไห่ได้อย่างแน่นอน

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาก็ดีดปลายเท้าขึ้น แล้วมาปรากฏอยู่ตรงหน้าของคนเมาแล้ว และตบเขาออกไปด้วยฝ่ามือข้างเดียว

ส่วนมือขวาได้ยื่นออกไปพยุงกวนเซี่ยว ถามด้วยเสียงแหบห้าว “พี่ชายคนนี้ เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”

กวนเซี่ยวหันกลับมา จู่ๆ ก็ตกใจกับการแต่งกายของอาซือหลาน

เขาสะบัดมืออาซือหลานออก แล้วถามอย่างระมัดระวัง “เจ้าเป็นใคร”

ศิษย์ที่อยู่ด้านหลังอาซือหลานตะโกนทันที “บังอาจ เห็นเจ้าสำนักเซียวเหยาแล้ว บังอาจไม่ทำความเคารพเช่นนี้”

เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าสำนัก ความโกรธของกวนเซี่ยวก็สงบลงอย่างมากในทันที

“ขอบคุณเจ้าสำนักที่ช
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Katsara Kanla
กวนเซี่ยวโง่ยีงไงก็โง่อย่างนั้นไม่พัฒนาเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 756 ปล้นเงินนอนกับผู้หญิง

    โมริตะคาวาสึบาเมะกระโดดขึ้นฝั่ง กำลังภายในไหลเวียนไปทั่วร่างกายทันที ไอน้ำบนเสื้อผ้าระเหยแห้งไปในพริบตา ทำให้รู้สึกสดชื่นเขาเอามือไพล่หลัง มองดูหน่วยลาดตระเวนด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด“ท่านอ๋องโมริตะกับแม่ทัพโนจิริอยู่ที่ใด”ทั้งหมดโค้งคำนับทันทีและพูดว่า “น่าจะอยู่ในห้องประชุม”โมริตะคาวาสึบาเมะตอบอืม จากนั้นใช้วิชาตัวเบาตรงไปที่หอไม้ไผ่ที่อยู่ไกลออกไปณ ห้องประชุมท่านอ๋องโมริตะกำลังหารือเรื่องเป่ยไห่กับโนจิริและแม่ทัพคนอื่นๆ ในระหว่างการถกเถียง ประตูก็เปิดออก และโมริตะคาวาสึบาเมะก็เดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยสีหน้าสงบแม่ทัพโนจิริมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นทันที“ท่านอ๋องน้อยกลับมาแล้ว!”ท่านอ๋องโมริตะเป็นคนรูปร่างอ้วนเตี้ย เขามีหนวดเล็กๆ ที่ส่วนบน โกนศีรษะจนล้านเลี่ยนแค่ครึ่งหัว ท่าทางน่าขบขันยิ่งนักท่าทีที่เขามีต่อโมริตะคาวาสึบาเมะก็ชวนขบคิดเช่นกัน ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก แต่กลับเหมือนลูกน้องที่ได้พบกับผู้บังคับบัญชา ผุดลุกขึ้นยืนทันที“เจ้ากลับมาแล้วหรือ”ท่านอ๋องโมริตะมีรอยยิ้มบนใบหน้า ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูประจบสอพลอในสายตาของแม่ทัพคนอื่นๆ ท่านอ๋องน้อยมีความสามารถโด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 757 คนโง่ไม่มีความก้าวหน้าเลยจริงๆ

    กวนเซี่ยวสูดอากาศเข้าเต็มปอด มองดูทะเลอันมืดมิดที่ปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ แล้วอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ราวกับว่ามีสัตว์ร้ายตัวใหญ่กำลังนั่งปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์อยู่ตรงหน้าเขา เพียงเปิดปาก ก็สามารถกลืนเขาลงไปได้ ความกล้าหาญและแรงกระตุ้นเมื่อครู่นี้ หายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีอาซือหลานยื่นมือออกไปกดไหล่เขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่มีอุปสรรคใดในโลกนี้ที่ไม่สามารถเอาชนะได้ เจ้ายังเด็ก ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรมากมาย หากเสียชีวิตไปเช่นนี้ มิต้องทำให้ผู้ที่รักต้องทนทุกข์ ศัตรูมีความสุขหรอกหรือ”กวนเซี่ยวตัวสั่นอีกครั้ง เขาเช็ดน้ำบนใบหน้าอย่างแรง รู้สึกว่าสิ่งที่ชายชุดดำพูดนั้นมีเหตุผลเขายังไม่ได้ฆ่าอาซือหลาน จะตายไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้แม้ว่าฟางรั่วจะไม่ชอบเขา แต่เขาจะช่วยนางแก้แค้น สังหารปีศาจนั่นให้สิ้นหลังจากพบเหตุผลที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่ จิตใจกวนเซี่ยวก็กระจ่างแจ้งทันทียืนขึ้นและพูดว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่สั่งสอน เมื่อครู่ผู้เยาว์คิดไม่ตก วู่วามไปแล้ว”“ตอนนี้คิดได้แล้ว?”อาซือหลานแสร้งถามอย่างเป็นมิตรกวนเซี่ยวพยักหน้าอย่างแรง“คิดได้แล้ว ผู้เยาว์คนนี้จะมีชีวิตอยู่ให้ดี ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 758 ปกป้องเป่ยไห่จนตาย

    เวลาผ่านไปอย่างเร่งรีบ พริบตาเดียวก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว อินชิงเสวียนหาว และวางพิณการเวกไว้ข้างๆ ตัว“ไม่ฝึกแล้ว ข้าง่วงจัง”เย่จิ่งอวี้อุ้มนางขึ้นมา แล้วพูดด้วยความรักว่า “เช่นนั้นไม่ต้องคิดอะไรแล้ว นอนกันเถอะ”อินชิงเสวียนกอดคอของเขาอย่างออดอ้อน“เช่นนั้นท่านต้องเล่านิทานให้ข้าฟัง”เย่จิ่งอวี้ยิ้มด้วยความรักเสน่หาและพูดว่า “ไม่มีปัญหา ข้ารู้แค่เรื่องเดียว ถ้าเจ้าไม่รำคาญก็ได้”เขาวางอินชิงเสวียนบนเตียงหลังใหญ่ ยื่นแขนออกไปให้นางหนุน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “กาลครั้งหนึ่งมีภูเขาลูกหนึ่ง บนภูเขามีวัดอยู่แห่งหนึ่ง ในวัดมีหลวงจีนเฒ่าและเณรน้อยคนหนึ่ง...”อินชิงเสวียนเอามือปิดปากของเขาทันที“ช่างเถอะ ฟังแล้วข้าเวียนหัว”เย่จิ่งอวี้ฉวยโอกาสคว้ามือเล็กนุ่มนิ่ม กดลงบนเตียง และโน้มร่างลงมาทับไว้เมื่อมองดูใบหน้าหล่อเหลาที่ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ใบหน้าของอินชิงเสวียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย“ท่าน...ท่านจะทำอะไร”“ชู่ว์!”เย่จิ่งอวี้พูดเบาๆอินชิงเสวียนคิดว่าเขาได้ยินเสียงบางอย่าง จึงเงี่ยหูฟังทันที วินาทีต่อมา ริมฝีปากบางเย็นชื้นก็ทาบทับลงมาปิดปากนางที่กำลังจะพูด“อื้อ...”อินชิงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 759 จงนอนไปซะ

    ทันทีที่อินชิงเสวียนเพิ่งหิ้วเย่จิ่งหลานไปถึงถนน ก็ได้พบกับคนตงหลิวที่แสยะยิ้มสองคน“สาวบุปผาแห่งจงหยวน สวยงาม”หนึ่งในนั้นตะโกนใส่อินชิงเสวียนด้วยภาษาจีนแปร่งๆรูปลักษณ์ที่น่าสมเพชประกอบกับเสียงฆ้องแตกๆ ทำให้อินชิงเสวียนขนลุกทันทีจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น ชายตงหลิวที่พูดก็ล้มลงกับพื้นอินชิงเสวียนหันกลับมา เห็นเย่จิ่งหลานถือปืนพก ใบหน้าที่อ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความโกรธ“โคตรพ่อเจ้าเถอะ สาวๆ จงหยวนเรา ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะจ้องตาเป็นมันได้”อินชิงเสวียนยกนิ้วให้ทันที“แม่นมาก!”เมื่อชายตงหลิวอีกคนเห็นเพื่อนของเขาถูกยิงตาย ก็รีบวิ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่งทันที“บากะ! (โง่เง่า)”“บากะบ้านพ่อเจ้าน่ะสิ”เย่จิ่งหลานยิงอีกนัด ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะรู้ถึงความร้ายกาจ เขารีบหลบ และพุ่งเข้าหาอินชิงเสวียนอีกครั้ง“ตายซะ!”อินชิงเสวียนคำรามเบาๆ และตบคนตงหลิวด้วยฝ่ามือเดียวนับตั้งแต่ได้รับพลังมิติ อินชิงเสวียนก็ผ่านการต่อสู้หลายครั้งหลายคราว ความขี้ขลาดในใจตอนแรกนั้นหายไปนานแล้ว คิดแค่ว่าจะกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ให้ตายโดยเร็วที่สุดเย่จิ่งหลานไม่กล้าบุ่มบ่ามยิง จึงหันไปสนใจที่อื่น ตราบใด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 760 ฝังโลหิต

    ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้กันมาก เย่จิ่งอวี้ก็ไม่มีที่ให้ซ่อนเช่นกัน เลือดสดๆ สาดกระเซ็นเต็มเสื้อผ้าของเขาเก่อหงยวนวิ่งเข้ามาใกล้ ยกมือกวัดแกว่งกระบี่ ปากก็พร่ำด่า “ทำให้เลือดกระเด็นโดนเต็มตัว เจ้าสุนัขไม่ถูกสุขอนามัย”แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โนจิริจูนิก็ยังคงคล่องแคล่วมาก เตะเก่อหงยวนที่ข้อมือ เก่อหงยวนรู้สึกชาที่ข้อมือ อาวุธในมือก็ลอยออกไปและตกลงไปบนพื้นเมื่อเห็นว่าการเคลื่อนไหวนี้ประสบความสำเร็จ โนจิริจูนิก็บุกตะลุยไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าวันนี้เขาจะตาย ก็ต้องลากคนไปตายด้วย คุ้มค่าแล้วที่จะมีแม่นางงดงามเพียงนี้ไปพบยมบาลกับเขา เก่อหงยวนหยิบอาวุธจากพื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วหันกลับมาสกัดไว้ แต่ยังคงช้ากว่าหนึ่งก้าว มืออ้วนของโนจิริจูนิได้พุ่งใส่หน้าอกของนางแล้วเก่อหงยวนทั้งอายทั้งโกรธ รีบปกป้องหน้าอก ในเวลานี้ แสงกระบี่ที่อยู่ข้างๆ เริ่มต้นส่งเสียงเบาๆ ครั้นแล้วกระบี่ยาวที่สว่างราวกับน้ำมรกตก็แทงเข้าที่คอของโนจิริจูนิขณะที่เย่จิ่งอวี้ชักดาบออกมา เลือดก็พุ่งออกมาราวกับน้ำพุโนจิริจูนิส่ายหน้าแรงๆ มองเย่จิ่งอวี้อย่างไม่เชื่อสายตาไม่ได้เจอกันมาหลายวัน ทำไมวรยุท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 761 ความดื้อรั้นของเก่อหงยวน

    ในสนามรบ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปไม่มีใครสังเกตเห็นร่างแปลกๆ ที่ยืนอยู่เหนือพวกเขาอินชิงเสวียนหยิบพิณการเวกขึ้นมา เมื่อเทียบกับคุณธรรมแห่งปวงประชา ความรักส่วนตัวนั้นไม่นับเป็นอะไรเลย และเย่จิ่งอวี้ก็ไม่สามารถออกจากมิติได้ ดังนั้นนางจึงไม่กังวลเสียงดังกังวานดังขึ้นจากการกรีดปลายนิ้ว ทันใดนั้นชาวตงหลิวก็มีสีหน้าหวาดหวั่น“พิณการเวก เป็นพิณการเวก”อินชิงเสวียนยกมุมปากขึ้น เป็นรอยยิ้มที่เจือความเย็นชาหลายส่วน“นับว่าพวกเจ้ารู้จักดี จะต้องตายภายใต้พลังของพิณการเวก ถือเป็นวาสนาของพวกเจ้าแล้ว”ชาวตงหลิวคนหนึ่งตะโกนด้วยความไม่เชื่อ “อย่าไปกลัวนาง พวกเราไปแย่งพิณนางมา ดูซิว่านางจะเล่นอะไรได้”กระบี่ยาวของเก่อหงยวนเหวี่ยงขึ้น ขวางอยู่เบื้องหน้าของอินชิงเสวียน พูดอย่างชัดเจน “คนแซ่อินเจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”“ไปพวกเราลุย”คนตงหลิวตะโกนด้วยความเดือดดาล พุ่งไปหาอินชิงเสวียนอย่างบ้าคลั่งครั้นแล้วสายฟ้าฟาดหลายลูกพุ่งออกมาเหมือนใบมีดคม ตัดเข้าที่คอของคนตงหลิวชาวตงหลิวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ล่าถอยอย่างลนลาน แต่ยังช้าไปหนึ่งก้าวรู้สึกราวกับว่าแก้มถูกมีดกรีด ความเจ็บปวด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 762 พวกเจ้าทุกคนต้องตาย

    เมื่อเห็นเก่อหงยวนยื้อยุดไม่ยอมเลิก ชายชุดดำก็อดโกรธไม่ได้เขาพูดเสียงอ้างว้างเย็นชา “ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง ข้าจะช่วยเจ้า”ทันใดนั้นเขาก็ลงมา ซัดฝ่ามือใส่กระหม่อมของเก่อหงยวนเมื่อเห็นว่าเก่อหงยวนกำลังจะตายด้วยน้ำมือของศัตรู เหล่าศิษย์ทั้งหมดก็ตื่นจากภวังค์ ต่างวิ่งไปปกป้องเก่อหงยวนศิษย์คนหนึ่งที่แอบชอบเก่อหงยวนรวบรวมความกล้ามายืนอยู่ตรงหน้านาง แต่กลับถูกโจมตีอย่างแรงจนสมองระเบิด และตายไปโดยที่ไม่ทันได้ร้องด้วยความเจ็บปวดด้วยซ้ำเก่อหงยวนอดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง“ศิษย์น้องหลิว!”ชายคนนั้นจับอินชิงเสวียนด้วยมือข้างเดียว มองด้วยสายตาราวกับมองฝูงมด“วันนี้ พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”เขาโบกมือขวา ลูกพลังงานที่ไร้ร่างก็โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา เหมือนแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ ที่ซัดใส่ทุกคนอย่างแรงทุกคนตกตะลึง ใช้วิชาตัวเบาเหาะหลบไปข้างๆ ทันที ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่า เท้าของตัวเองเหมือนจะถูกตอกตะปูติดกับพื้น จนขยับไม่ได้เลยดวงตาของทุกคนฉายแววสิ้นหวังอย่างลึกซึ้งเจ้าสำนักและผู้อาวุโสก็กำลังเผชิญหน้ากับคนระดับแม่ทัพ ไม่มีเวลามาช่วยพวกเขาด้วยซ้ำ คราวนี้พวกเขาต้องตายแล้วจริงๆในขณะนี้ ก็ได้ยิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 763 ช่วงชิงโชคลาภ

    หลังจากที่ทั้งสองจากไป ร่างสีดำเหมือนผีก็เดินออกมาจากโพรงไม้ เขามองด้านหลังของผู้คุมตราเซี่ยวนิ่งๆ สายตาค่อนข้างซับซ้อนแต่เพียงชั่วครู่ ดวงตาก็กลับคืนสู่ความดุร้ายและดุดันดังเดิมในเวลานี้ อินชิงเสวียนที่ถูกโยนเข้าไปในถ้ำก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน มือยังจับพิณการเวกอยู่ไม่ปล่อย “เย่จิ่งอวี้อยู่ไหน”ชายในชุดคลุมสีดำมีหูตาว่องไว เมื่อได้ยินการหายใจที่แตกต่างของอินชิงเสวียน ก็เดินเข้ามาทันทีอินชิงเสวียนคิดในใจ หมายจะเข้าสู่มิติ ดูเหมือนว่าชายผู้นี้จะรู้ความคิดของนาง กำลังภายในที่แข็งกร้าวไร้เหตุผลก็เข้ามาเติมมิติที่คับแคบให้เต็มในทันทีอินชิงเสวียนไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ หัวใจชาวาบ ไม่คาดคิดว่าคนผู้นี้จะมีพลังมากขนาดนี้ นอกจากเจ้าสำนักเซี่ยวแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่อินชิงเสวียนเผชิญหน้ากับคนที่สามารถปิดมิติของนางได้เมื่อเห็นชายคนนั้นเดินบีบเข้ามาใกล้ทีละก้าว อินชิงเสวียนก็ผงะถอยหลัง แต่ในไม่ช้า นางก็รวบรวมจิตใจให้สงบอีกครั้งความกลัวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และนางก็อยากรู้ว่าดวงตาของเย่จิ่งอวี้และพฤติกรรมที่สูญเสียการควบคุมอย่างกะทันหันนั้น เกี่ยวข้องกับคนผู้นี้หรือไม่“ข้าไม่รู้”อิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-23

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status