หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 757 คนโง่ไม่มีความก้าวหน้าเลยจริงๆ

แชร์

บทที่ 757 คนโง่ไม่มีความก้าวหน้าเลยจริงๆ

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
กวนเซี่ยวสูดอากาศเข้าเต็มปอด มองดูทะเลอันมืดมิดที่ปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ แล้วอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ราวกับว่ามีสัตว์ร้ายตัวใหญ่กำลังนั่งปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์อยู่ตรงหน้าเขา เพียงเปิดปาก ก็สามารถกลืนเขาลงไปได้ ความกล้าหาญและแรงกระตุ้นเมื่อครู่นี้ หายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที

อาซือหลานยื่นมือออกไปกดไหล่เขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่มีอุปสรรคใดในโลกนี้ที่ไม่สามารถเอาชนะได้ เจ้ายังเด็ก ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรมากมาย หากเสียชีวิตไปเช่นนี้ มิต้องทำให้ผู้ที่รักต้องทนทุกข์ ศัตรูมีความสุขหรอกหรือ”

กวนเซี่ยวตัวสั่นอีกครั้ง เขาเช็ดน้ำบนใบหน้าอย่างแรง รู้สึกว่าสิ่งที่ชายชุดดำพูดนั้นมีเหตุผล

เขายังไม่ได้ฆ่าอาซือหลาน จะตายไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้

แม้ว่าฟางรั่วจะไม่ชอบเขา แต่เขาจะช่วยนางแก้แค้น สังหารปีศาจนั่นให้สิ้น

หลังจากพบเหตุผลที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่ จิตใจกวนเซี่ยวก็กระจ่างแจ้งทันที

ยืนขึ้นและพูดว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่สั่งสอน เมื่อครู่ผู้เยาว์คิดไม่ตก วู่วามไปแล้ว”

“ตอนนี้คิดได้แล้ว?”

อาซือหลานแสร้งถามอย่างเป็นมิตร

กวนเซี่ยวพยักหน้าอย่างแรง

“คิดได้แล้ว ผู้เยาว์คนนี้จะมีชีวิตอยู่ให้ดี ทำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 758 ปกป้องเป่ยไห่จนตาย

    เวลาผ่านไปอย่างเร่งรีบ พริบตาเดียวก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว อินชิงเสวียนหาว และวางพิณการเวกไว้ข้างๆ ตัว“ไม่ฝึกแล้ว ข้าง่วงจัง”เย่จิ่งอวี้อุ้มนางขึ้นมา แล้วพูดด้วยความรักว่า “เช่นนั้นไม่ต้องคิดอะไรแล้ว นอนกันเถอะ”อินชิงเสวียนกอดคอของเขาอย่างออดอ้อน“เช่นนั้นท่านต้องเล่านิทานให้ข้าฟัง”เย่จิ่งอวี้ยิ้มด้วยความรักเสน่หาและพูดว่า “ไม่มีปัญหา ข้ารู้แค่เรื่องเดียว ถ้าเจ้าไม่รำคาญก็ได้”เขาวางอินชิงเสวียนบนเตียงหลังใหญ่ ยื่นแขนออกไปให้นางหนุน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “กาลครั้งหนึ่งมีภูเขาลูกหนึ่ง บนภูเขามีวัดอยู่แห่งหนึ่ง ในวัดมีหลวงจีนเฒ่าและเณรน้อยคนหนึ่ง...”อินชิงเสวียนเอามือปิดปากของเขาทันที“ช่างเถอะ ฟังแล้วข้าเวียนหัว”เย่จิ่งอวี้ฉวยโอกาสคว้ามือเล็กนุ่มนิ่ม กดลงบนเตียง และโน้มร่างลงมาทับไว้เมื่อมองดูใบหน้าหล่อเหลาที่ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ใบหน้าของอินชิงเสวียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย“ท่าน...ท่านจะทำอะไร”“ชู่ว์!”เย่จิ่งอวี้พูดเบาๆอินชิงเสวียนคิดว่าเขาได้ยินเสียงบางอย่าง จึงเงี่ยหูฟังทันที วินาทีต่อมา ริมฝีปากบางเย็นชื้นก็ทาบทับลงมาปิดปากนางที่กำลังจะพูด“อื้อ...”อินชิงเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 759 จงนอนไปซะ

    ทันทีที่อินชิงเสวียนเพิ่งหิ้วเย่จิ่งหลานไปถึงถนน ก็ได้พบกับคนตงหลิวที่แสยะยิ้มสองคน“สาวบุปผาแห่งจงหยวน สวยงาม”หนึ่งในนั้นตะโกนใส่อินชิงเสวียนด้วยภาษาจีนแปร่งๆรูปลักษณ์ที่น่าสมเพชประกอบกับเสียงฆ้องแตกๆ ทำให้อินชิงเสวียนขนลุกทันทีจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น ชายตงหลิวที่พูดก็ล้มลงกับพื้นอินชิงเสวียนหันกลับมา เห็นเย่จิ่งหลานถือปืนพก ใบหน้าที่อ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความโกรธ“โคตรพ่อเจ้าเถอะ สาวๆ จงหยวนเรา ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะจ้องตาเป็นมันได้”อินชิงเสวียนยกนิ้วให้ทันที“แม่นมาก!”เมื่อชายตงหลิวอีกคนเห็นเพื่อนของเขาถูกยิงตาย ก็รีบวิ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่งทันที“บากะ! (โง่เง่า)”“บากะบ้านพ่อเจ้าน่ะสิ”เย่จิ่งหลานยิงอีกนัด ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะรู้ถึงความร้ายกาจ เขารีบหลบ และพุ่งเข้าหาอินชิงเสวียนอีกครั้ง“ตายซะ!”อินชิงเสวียนคำรามเบาๆ และตบคนตงหลิวด้วยฝ่ามือเดียวนับตั้งแต่ได้รับพลังมิติ อินชิงเสวียนก็ผ่านการต่อสู้หลายครั้งหลายคราว ความขี้ขลาดในใจตอนแรกนั้นหายไปนานแล้ว คิดแค่ว่าจะกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ให้ตายโดยเร็วที่สุดเย่จิ่งหลานไม่กล้าบุ่มบ่ามยิง จึงหันไปสนใจที่อื่น ตราบใด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 760 ฝังโลหิต

    ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้กันมาก เย่จิ่งอวี้ก็ไม่มีที่ให้ซ่อนเช่นกัน เลือดสดๆ สาดกระเซ็นเต็มเสื้อผ้าของเขาเก่อหงยวนวิ่งเข้ามาใกล้ ยกมือกวัดแกว่งกระบี่ ปากก็พร่ำด่า “ทำให้เลือดกระเด็นโดนเต็มตัว เจ้าสุนัขไม่ถูกสุขอนามัย”แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โนจิริจูนิก็ยังคงคล่องแคล่วมาก เตะเก่อหงยวนที่ข้อมือ เก่อหงยวนรู้สึกชาที่ข้อมือ อาวุธในมือก็ลอยออกไปและตกลงไปบนพื้นเมื่อเห็นว่าการเคลื่อนไหวนี้ประสบความสำเร็จ โนจิริจูนิก็บุกตะลุยไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าวันนี้เขาจะตาย ก็ต้องลากคนไปตายด้วย คุ้มค่าแล้วที่จะมีแม่นางงดงามเพียงนี้ไปพบยมบาลกับเขา เก่อหงยวนหยิบอาวุธจากพื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วหันกลับมาสกัดไว้ แต่ยังคงช้ากว่าหนึ่งก้าว มืออ้วนของโนจิริจูนิได้พุ่งใส่หน้าอกของนางแล้วเก่อหงยวนทั้งอายทั้งโกรธ รีบปกป้องหน้าอก ในเวลานี้ แสงกระบี่ที่อยู่ข้างๆ เริ่มต้นส่งเสียงเบาๆ ครั้นแล้วกระบี่ยาวที่สว่างราวกับน้ำมรกตก็แทงเข้าที่คอของโนจิริจูนิขณะที่เย่จิ่งอวี้ชักดาบออกมา เลือดก็พุ่งออกมาราวกับน้ำพุโนจิริจูนิส่ายหน้าแรงๆ มองเย่จิ่งอวี้อย่างไม่เชื่อสายตาไม่ได้เจอกันมาหลายวัน ทำไมวรยุท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 761 ความดื้อรั้นของเก่อหงยวน

    ในสนามรบ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปไม่มีใครสังเกตเห็นร่างแปลกๆ ที่ยืนอยู่เหนือพวกเขาอินชิงเสวียนหยิบพิณการเวกขึ้นมา เมื่อเทียบกับคุณธรรมแห่งปวงประชา ความรักส่วนตัวนั้นไม่นับเป็นอะไรเลย และเย่จิ่งอวี้ก็ไม่สามารถออกจากมิติได้ ดังนั้นนางจึงไม่กังวลเสียงดังกังวานดังขึ้นจากการกรีดปลายนิ้ว ทันใดนั้นชาวตงหลิวก็มีสีหน้าหวาดหวั่น“พิณการเวก เป็นพิณการเวก”อินชิงเสวียนยกมุมปากขึ้น เป็นรอยยิ้มที่เจือความเย็นชาหลายส่วน“นับว่าพวกเจ้ารู้จักดี จะต้องตายภายใต้พลังของพิณการเวก ถือเป็นวาสนาของพวกเจ้าแล้ว”ชาวตงหลิวคนหนึ่งตะโกนด้วยความไม่เชื่อ “อย่าไปกลัวนาง พวกเราไปแย่งพิณนางมา ดูซิว่านางจะเล่นอะไรได้”กระบี่ยาวของเก่อหงยวนเหวี่ยงขึ้น ขวางอยู่เบื้องหน้าของอินชิงเสวียน พูดอย่างชัดเจน “คนแซ่อินเจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”“ไปพวกเราลุย”คนตงหลิวตะโกนด้วยความเดือดดาล พุ่งไปหาอินชิงเสวียนอย่างบ้าคลั่งครั้นแล้วสายฟ้าฟาดหลายลูกพุ่งออกมาเหมือนใบมีดคม ตัดเข้าที่คอของคนตงหลิวชาวตงหลิวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ล่าถอยอย่างลนลาน แต่ยังช้าไปหนึ่งก้าวรู้สึกราวกับว่าแก้มถูกมีดกรีด ความเจ็บปวด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 762 พวกเจ้าทุกคนต้องตาย

    เมื่อเห็นเก่อหงยวนยื้อยุดไม่ยอมเลิก ชายชุดดำก็อดโกรธไม่ได้เขาพูดเสียงอ้างว้างเย็นชา “ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง ข้าจะช่วยเจ้า”ทันใดนั้นเขาก็ลงมา ซัดฝ่ามือใส่กระหม่อมของเก่อหงยวนเมื่อเห็นว่าเก่อหงยวนกำลังจะตายด้วยน้ำมือของศัตรู เหล่าศิษย์ทั้งหมดก็ตื่นจากภวังค์ ต่างวิ่งไปปกป้องเก่อหงยวนศิษย์คนหนึ่งที่แอบชอบเก่อหงยวนรวบรวมความกล้ามายืนอยู่ตรงหน้านาง แต่กลับถูกโจมตีอย่างแรงจนสมองระเบิด และตายไปโดยที่ไม่ทันได้ร้องด้วยความเจ็บปวดด้วยซ้ำเก่อหงยวนอดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง“ศิษย์น้องหลิว!”ชายคนนั้นจับอินชิงเสวียนด้วยมือข้างเดียว มองด้วยสายตาราวกับมองฝูงมด“วันนี้ พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”เขาโบกมือขวา ลูกพลังงานที่ไร้ร่างก็โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา เหมือนแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ ที่ซัดใส่ทุกคนอย่างแรงทุกคนตกตะลึง ใช้วิชาตัวเบาเหาะหลบไปข้างๆ ทันที ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่า เท้าของตัวเองเหมือนจะถูกตอกตะปูติดกับพื้น จนขยับไม่ได้เลยดวงตาของทุกคนฉายแววสิ้นหวังอย่างลึกซึ้งเจ้าสำนักและผู้อาวุโสก็กำลังเผชิญหน้ากับคนระดับแม่ทัพ ไม่มีเวลามาช่วยพวกเขาด้วยซ้ำ คราวนี้พวกเขาต้องตายแล้วจริงๆในขณะนี้ ก็ได้ยิน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 763 ช่วงชิงโชคลาภ

    หลังจากที่ทั้งสองจากไป ร่างสีดำเหมือนผีก็เดินออกมาจากโพรงไม้ เขามองด้านหลังของผู้คุมตราเซี่ยวนิ่งๆ สายตาค่อนข้างซับซ้อนแต่เพียงชั่วครู่ ดวงตาก็กลับคืนสู่ความดุร้ายและดุดันดังเดิมในเวลานี้ อินชิงเสวียนที่ถูกโยนเข้าไปในถ้ำก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน มือยังจับพิณการเวกอยู่ไม่ปล่อย “เย่จิ่งอวี้อยู่ไหน”ชายในชุดคลุมสีดำมีหูตาว่องไว เมื่อได้ยินการหายใจที่แตกต่างของอินชิงเสวียน ก็เดินเข้ามาทันทีอินชิงเสวียนคิดในใจ หมายจะเข้าสู่มิติ ดูเหมือนว่าชายผู้นี้จะรู้ความคิดของนาง กำลังภายในที่แข็งกร้าวไร้เหตุผลก็เข้ามาเติมมิติที่คับแคบให้เต็มในทันทีอินชิงเสวียนไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ หัวใจชาวาบ ไม่คาดคิดว่าคนผู้นี้จะมีพลังมากขนาดนี้ นอกจากเจ้าสำนักเซี่ยวแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่อินชิงเสวียนเผชิญหน้ากับคนที่สามารถปิดมิติของนางได้เมื่อเห็นชายคนนั้นเดินบีบเข้ามาใกล้ทีละก้าว อินชิงเสวียนก็ผงะถอยหลัง แต่ในไม่ช้า นางก็รวบรวมจิตใจให้สงบอีกครั้งความกลัวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และนางก็อยากรู้ว่าดวงตาของเย่จิ่งอวี้และพฤติกรรมที่สูญเสียการควบคุมอย่างกะทันหันนั้น เกี่ยวข้องกับคนผู้นี้หรือไม่“ข้าไม่รู้”อิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 764 ความยินดีและกลัดกลุ้มผสมปนเป

    เซี่ยวอิ๋นหวนขานตอบ และกระโดดเข้าสู่วงการต่อสู้อินชิงเสวียนนำพิณการเวกออกจากมิติทันที และจัดการช่วงชิงโชคลาภของพวกเขาในไม่ช้า อินชิงเสวียนก็ได้รับการแจ้งเตือนจากมิติ“ครั้งแรกที่ใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภ ได้รับรางวัล 1,000 คะแนน จำกัดการใช้อยู่ที่ห้าคนต่อวัน”ครั้นได้ยินดังนี้ อินชิงเสวียนมีทั้งความยินดีและกลัดกลุ้มผสมปนเปแน่นอนว่าทุกสิ่งที่ใช้เป็นครั้งแรกสามารถได้รับรางวัลจากมิติได้ แต่สิ่งนี้มีข้อจำกัดจริงๆ“ช่วงชิงโชคลาภคือการช่วงชิงอะไรกันแน่?”เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่มิติจะเป็นฝ่ายพูดก่อน อินชิงเสวียนจึงถามอย่างรวดเร็ว“โชคลาภ สุขภาพ อำนาจ ตลอดจนความสามารถและวรยุทธ์ทั้งหมด”อินชิงเสวียนค่อนข้างประหลาดใจ ทักษะนี้ยอดเยี่ยมขนาดนี้เลย!ขณะที่กำลังเหม่อ เจ้าสำนักหานเตาก็ถูกแทงหนึ่งกระบี่ อินชิงเสวียนรีบนั่งขัดสมาธิบนพื้น รวบรวมลมหายใจและสมาธิ เล่นเพลงหมื่นกระบี่เศษดาราในใจก็นึกถึงความสิ้นหวังที่เกือบจะถูกบีบคอตายเมื่อครู่ และความเดือดดาลที่เย่จิ่งอวี้สูญเสียการควบคุม ความรู้สึกก็พุ่งขึ้นมาแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัสในทันทีหลังจากการต่อสู้จริงมาหลายสนาม อินชิงเสวียนก็ค้นพบปัญหาหน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 765 สุนัขถ่อยยังจะเสแสร้งอยู่อีก

    เมื่อเห็นร่างที่ปกคลุมไปด้วยผ้าโปร่งสีดำ อินชิงเสวียนก็กำนิ้วโดยไม่รู้ตัวสุนัขถ่อยนี่ ยังจะเสแสร้งอยู่อีกน่าเสียดายที่นางใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภหมดแล้ว หากต้องการใช้อีกครั้ง ก็ทำได้เพียงรอจนถึงวันพรุ่งนี้เท่านั้นผู้อาวุโสหลายคนก็เหนื่อยกับการต่อสู้กับคนในระดับแม่ทัพตงหลิวมากแล้ว อินชิงเสวียนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ สุดท้ายก็กลืนคำพูดลงลำคอไม่ว่าจะเร่งด่วนแค่ไหนจะรออีกวันก็ได้ วันพรุ่งนี้ช่วงชิงโชคลาภของอาซือหลานก่อน แล้วค่อยฆ่าเขาก็ได้เพื่อไม่ให้เจตนาฆ่าในดวงตาแสดงออกไป อินชิงเสวียนหลับตาลง หันไปจ้องมองที่พิณการเวกบนตักเมื่อเห็นอินชิงเสวียนเลิกคิ้วก้มศีรษะ ถือพิณไว้ในมือทั้งสองข้าง ดูสงบและละเมียดละไมโดยไม่สูญเสียความสง่างามและความอ่อนโยนของสตรี อาซือหลานรู้สึกได้ถึงคลื่นที่ซัดสาดในหัวใจ ความปรารถนาดั้งเดิมก็พุ่งสูงขึ้นในทันใดอีกครั้งเขาเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ระงับความปรารถนาในใจวันนี้เจ้าสำนักหลายคนอยู่ที่นี่ หากเขาทำตัวสนิทสนมกับอินชิงเสวียนมากเกินไปในเวลานี้ จะทำให้เกิดความสงสัยอย่างแน่นอนถึงอย่างไรกวนเซี่ยวก็อยู่ในมือของเขาแล้ว ไม่ว่าจะเร่งด่วนแค่ไหนจะรออีกวันก็ได้“พ

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

DMCA.com Protection Status