สำนักอื่นๆ ก็เริ่มนับจำนวนศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ ต่างทยอยออกจากชายฝั่งอินชิงเสวียนจับมือของเซี่ยวอิ๋นหวน แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “ท่านแม่ เราก็ไปกันเถอะ!”เซี่ยวอิ๋นหวนพยักหน้า หันไปหาเจ้าสำนักเซี่ยว ในใจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยชายชราคนนี้หัวแข็งมาก เสวียนเอ๋อร์พูดแทนเขาเช่นนี้ จะเดือดดาลขึ้นมาอีกหรือไม่แต่เห็นเจ้าสำนักเซี่ยวเอามือไพล่หลัง มีรอยยิ้มบนริมฝีปาก พูดแช่มช้า “กลับได้แล้ว”หลังจากพูดจบเขาก็ก้าวอาดๆ เดินจากไปเซี่ยวอิ๋นหวนรู้สึกประหลาดใจ นี่เป็นพ่อบุญธรรมที่ดื้อรั้นและฉุนเฉียวของนางอยู่หรือเปล่า?คนบนชายฝั่งแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงอาซือหลานเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมเขาหันศีรษะมองดูร่างอรชรพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายบนริมฝีปากได้สีชิงเสวียน เราจะได้พบกันเร็วๆ นี้ ถ้าเจ้ารู้ว่าฉุยอวี้คือข้า จะต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน!เขาหัวเราะเนิ่นนาน จากนั้นใช้วิชาตัวเบากลับไปที่สำนักเซียวเหยาหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ทุกคนกลับมาถึงหอแล้ว เจ้าสำนักเซี่ยวอารมณ์ดีมากทันทีที่เข้าไปในประตูก็พูดกับลูกศิษย์ว่า “ไปซื้อสุราให้ข้าสักไหสิ วันนี้ข้าอยากจะดื่มให้สะใจ”เมื่อเห็นรอย
เจ้าสำนักเซี่ยวนั่งลงบนเสาหินข้างๆ เย่จิ่งหลานรีบไปเทสุราให้ผู้เฒ่าเซี่ยวอย่างเอาใจใส่หวังซุ่นได้ดึงขาแกะออกแล้ว แล้วส่งให้กับเจ้าสำนักเซี่ยวด้วยความเคารพเจ้าสำนักเซี่ยวกัดเข้าไปคำหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะชม “อร่อย”เขามองไปรอบๆ แล้วถามว่า “แล้วเจ้าเด็กแซ่เย่นั่นล่ะ?”อินชิงเสวียนหัวเราะแห้งๆ และพูดว่า “เขา...ยังไม่กลับมา”เจ้าสำนักเซี่ยวเหลือบมองนาง“แม่หนู เจ้ากังวลเรื่องอะไรหรือ”ครั้นแล้วเย่จิ่งหลานกุลีกุจอยกจอกสุราขึ้น“ผู้เยาว์ก็มีเรื่องอยากจะถามผู้อาวุโสเซี่ยว”เจ้าสำนักเซี่ยวอารมณ์ดี จึงชนแก้วกับเด็กน้อยคนนี้เป็นครั้งแรก“อยากจะถามอะไร”เย่จิ่งหลานรีบพูดว่า “ผู้เยาว์ก็ชอบดนตรีมากเช่นกัน ไม่ทราบว่าจะเข้าร่วมหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่”เจ้าสำนักเซี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “การฝึกฝนไม่สามารถบรรลุได้ในชั่วข้ามคืน แต่ถ้าเจ้ามีพรสวรรค์จริงๆ ข้าสามารถยกเว้นให้เจ้าฝึกฝนพลังภายในของสำนักเราได้ หากเจ้าสามารถประสบความสำเร็จได้ภายในเจ็ดวัน ค่อยพิจารณาเรื่องการเข้าสำนัก”ขณที่พูดสิ่งนี้ เจ้าสำนักเซี่ยวก็เหลือบมองอินชิงเสวียนแวบหนึ่ง เห็นว่าหญิงสาวขมวดคิ้ว ดูเหมือนมีเรื่องกังวลใ
“เจ้าค่ะ ชิงเสวียนจะปล่อยเขาออกมาเดี๋ยวนี้”เมื่อเห็นเจ้าสำนักเซี่ยวไปแล้ว อินชิงเสวียนก็หมดอารมณ์ที่จะกินต่อเพื่อไม่ให้เย่จิ่งอวี้หงุดหงิด อินชิงเสวียนจึงอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงเข้าไปด้วยในมิตินั้นเงียบสงบ แม้ว่าจะไม่มีดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์บนท้องฟ้า แต่ก็สดใสราวกับตอนกลางวัน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้และผลไม้ที่ปลายจมูก ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขข้างบ่อน้ำพุวิญญาณ เย่จิ่งอวี้เปลือยกายท่อนบนนั่งขัดสมาธิ หงายฝ่ามือทั้งสองข้างวางบนเข่าทั้งคู่ เรียวตาหงส์คู่นั้นปิดลงเบาๆ ราวกับว่าเขากำลังทำสมาธิเมื่อมองดูรูปร่างสูงตระหง่านของเขา กับกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ปรากฏเลือนราง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะแอบชื่นชมเขาถ้าเย่จิ่งอวี้เกิดในยุคปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นนักแสดงชื่อดัง แต่ก็ต้องเป็นเน็ตไอดอลที่มีแฟนคลับหลายล้านคนแน่นอน ถึงเขาจะไปเป็นนายแบบ แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเดิมเลย!ดวงตาของเสี่ยวหนานเฟิงเฉียบคมมาก เขามองเห็นพ่อของเขาแล้ว กางแขนเล็กๆ ออกทันที ตะโกนด้วยแจ๋วๆ “เด็จพ่อ คิดถึงเด็จพ่อ”เมื่อได้ยินเสียงของลูกชาย เย่จิ่งอวี้ก็ลืมตาขึ้น พร้อมกับความประหลาดใจเล็กน้
เย่จิ่งอวี้ถามอีกครั้ง “แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่”อินชิงเสวียนถอนหายใจและพูดว่า “ตอนที่ข้าเห็นท่าน ท่านกำลังฉีกร่างคนตงหลิวด้วยมือ แต่เหมือนจะยังไม่สาแก่ใจ หันไปโจมตีศิษย์สำนักอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ ข้าต้องพาอาอวี้เข้าไปในมิติก่อน”เย่จิ่งอวี้ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง“ข้าจะโจมตีศิษย์สำนักอื่นจริงหรือ”อินชิงเสวียนถอนหายใจและพูดว่า “นี่เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ในเวลานั้นเก่อหงยวนก็อยู่ที่นั่น”เย่จิ่งอวี้รู้ว่าอินชิงเสวียนไม่โกหกตัวเอง แต่เขาจำไม่ได้จริงๆ ว่าตัวเองได้กระทำสิ่งนั้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้นั่งสมาธิข้างน้ำพุวิญญาณ ภาพภูเขาซากศพฝนเลือดก็แวบขึ้นมาในจิตใจเป็นครั้งคราว ความปรารถนาในใจ ทำให้เย่จิ่งอวี้ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติโชคดีที่น้ำพุวิญญาณสามารถระงับความรู้สึกแปลกๆ ได้ จึงหายไปอย่างรวดเร็วนี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมช่วงนี้เขาถึงนั่งสมาธิข้างบ่อน้ำพุวิญญาณประการแรกก็เพื่อพัฒนากำลังภายใน และที่สำคัญที่สุดคือการระงับความคิดชั่วร้ายในใจ“เช่นนี้ ก็เลยมีปัญหาบางอย่างกับร่างกายของข้า”อินชิงเสวียนกลัวว่าเขาจะคิดมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ จึงย
ดวงตาของเย่จิ่งอวี้แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา“เขามีชีวิตมานานพอแล้ว ครั้งนี้ต้องตัดหัวสุนัขของเขาให้ได้ ดูว่าจะงอกขึ้นมาใหม่ได้อย่างไร”อินชิงเสวียนตอบอืม พูดว่า “คนเลวทรามเช่นเขา แม้ว่าจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ นับพันครั้งก็ไม่เกินไป หากไม่มีเขา ทหารจำนวนมากในด่านถงกู่ก็ไม่ต้องตายเปล่ามากมายเพียงนั้น”พรุ่งนี้นางสามารถใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภได้อีก แต่นางไม่รู้ว่าทักษะนี้สามารถซ้อนทับได้หรือไม่ หากทำได้ หากได้เจอชายชุดดำอีก นางจะใช้ทักษะนี้ทั้งหมดกับเขา แม้ว่าเขาจะเป็นเทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถต้านทานอานุภาพของเทคโนโลยีชั้นสูงได้เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อินชิงเสวียนก็กระตุกริมฝีปากขึ้นเสี่ยวหนานเฟิงปีนลงมาจากบ้านลมปราสาท วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาเหมือนนกเพนกวินตัวน้อย“สวยแม่ เล่น เล่น”เด็กเล่นอยู่คนเดียวออกจะน่าเบื่อไปหน่อย เสียดายก็แต่ไป๋เสวี่ยที่ไม่สามารถเข้ามาในมิติได้ ถ้าทำได้ นางก็จะพาเข้ามาเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงแล้วเมื่อคิดถึงไป๋เสวี่ย อินชิงเสวียนก็คิดถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการค้นหาคน“เราอาจใช้ไป๋เสวี่ยค้นหาชายชุดดำที่ไม่ทราบตัวตนคนนั้นได้”เย่จิ่งอวี้ไม่ได้คัดค้านเร
อาซือหลานก็มองเห็นอินชิงเสวียนเช่นกันชุดกระโปรงพับกลีบสีชมพูเข้าคู่กับสาวน้อยที่มีความสวยบริสุทธิ์และอ่อนโยน สง่างามและมีเสน่ห์ ราวกับดอกลิลลี่ที่กำลังเบ่งบาน งดงามไม่ซ้ำใคร หยิ่งในศักดิ์ศรีจนยากจะเอื้อมถึงเขากระตุกมุมปากขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามใจได้ ในหัวใจก็ผุดความหวังลึกๆ ขึ้นมาเมื่อมองเย่จิ่งอวี้ที่อยู่ข้างกายของนาง รอยยิ้มของอาซือหลานก็หุบลง ดวงตาราวกับงูพิษที่แสดงความแค้นจนไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้เป็นเพียงแค่สุนัขฮ่องเต้ แทบไม่มีคู่ควรจะยืนข้างกายอินชิงเสวียนเลยด้วยซ้ำ เขาเหมาะสมที่จะเป็นคู่ครองของชิงเสวียนมากกว่าเสียอีก มีเพียงแค่เขาที่สามารถมอบความสุขอันยิ่งใหญ่ที่สุดให้แก่อินชิงเสวียนได้ในหัวสมองมีเค้าโครงภาพแบบนั้นแบบนี้ อาซือหลานรู้สึกถึงอาการร้อนวูบวาบในท้อง และนิ้วมือก็สั่นเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้เมื่อรู้สึกถึงดวงตาทั้งสองข้างที่จ้องมองมาที่ตัวเอง อินชิงเสวียนก็รู้สึกขนลุกทั่วทั้งตัวขึ้นมาในทันที สุนัขชั้นต่ำ วันนี้ก็คือวันตายของเจ้า!เจ้าสำนักเซี่ยวนั่งลงด้านข้างของเฮ่ออวิ๋นทง“เมื่อวานสำนักกระบี่สังหารเกิดการสูญเสียอะไรบ้าง?”เฮ่ออวิ๋นทงพูดด้วยจิตวิญญาณที
กวนเซี่ยวตกใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรในเวลาสั้นๆ อีกทั้งเขายังไม่เชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนี้หญิงสาวเห็นว่าเขาไม่พูดจา จึงค่อยๆ พูดโน้มน้าว “เจ้าคงจะเป็นลูกศิษย์ของสำนักใดสำนักหนึ่งสินะ ในเมื่อเป็นชาวยุทธภพ ก็ไม่มีผู้ใดที่ไม่ปรารถนาในอำนาจ ขอเพียงมีอำนาจคับฟ้า ผู้หญิงทุกคนต่างแย่งกรูกันเข้าไป ผู้ที่เคยเหยียบย่ำเจ้าไว้ใต้ฝ่าเท้าในอดีต จะเงยหน้าขึ้นและมองดูเจ้าซึ่งอยู่เหนือกว่า เจ้ามีความเห็นอย่างไรบ้าง?”แม้ว่าผู้นี้จะเป็นคนที่สุนัขชั้นต่ำส่งมาก็ไม่เป็นไร ขอเพียงสามารถช่วยนางปลดจากโซ่เหล็กได้ นางก็จะได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้งเมื่อนึกถึงฟางรั่ว กวนเซี่ยวก็รู้สึกใจเต้นเล็กน้อยแต่กลับถามออกมาอย่างอดไม่ได้“ผู้ใดจับท่านมาขังไว้ที่นี่ และผู้ที่สวมรอยเป็นท่านคือผู้ใดกัน?”หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นว่า “มันคือสัตว์เดรัจฉานที่แฝงตัวเข้ามาในสำนักเซียวเหยา เขามีนิสัยดุร้ายและเจ้าเล่ห์ มีไฝน้ำตาอยู่ที่มุมตาของเขา สิ่งที่ข้ารู้เกี่ยวกับเขาก็มีเพียงเท่านี้”เมื่อได้ยินคำว่าไฝน้ำตา กวนเซี่ยวก็หายใจถี่ขึ้น“เขามีอายุราวยี่สิบกว่าปี หน้าตาหล่อเหลา ไฝน้ำตาอยู่ที่มุมตาซ้ายใ
อินชิงเสวียนจึงทำการแลกทักษะห้าสิบห้าสิบ ไม่ว่าอย่างไรวันนี้จะต้องฆ่าตัวหายนะนี่ให้ตายเมื่อเห็นอินชิงเสวียนโจมตีตัวเอง อาซือหลานก็ดีใจมากในการรับรู้ของเขา อินชิงเสวียนเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุดท่ามกลางคนเหล่านี้อย่างไม่ต้องสงสัย ตราบใดที่สามารถจัดการนางได้ ก็จะสามารถใช้นางกดดันเจ้าสำนักเซี่ยว เพื่อหนีไปจากที่นี่จากนั้นก็รีบรวบรวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือขวา และพูดเสียงเหยาะแหยะว่า “หากชิงเสวียนยอมฝังร่างไปพร้อมกับข้า ข้าจะยอมตายเพื่อเจ้าในทันที”เมื่อสิ้นเสียงลง ก็รู้สึกว่ากำลังที่ทรงพลังยิ่งใหญ่โจมตีมาจากฝ่ามือของอินชิงเสวียน อาซือหลานรู้สึกเจ็บหน่วงที่หน้าอก แม้ว่าเขาจะพยายามที่จะอดกลั้นเอาไว้ แต่เลือดสดก็ยังไหลออกมาจากมุมปากสีหน้าก็ซีดขาวในทันทีเหตุใดแม้แต่อินชิงเสวียนก็มีศักยภาพมากพอที่จะต่อสู้กับเขาได้ พวกเขาแอบทำกลอุบายอะไรใส่ตัวเองกันแน่? อินชิงเสวียนก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากเช่นกัน ความสามารถทักษะห้าสิบห้าสิบของนางทักษะนี้ เมื่อเจอศัตรูที่มีความแข็งแกร่ง ตัวเองก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน หากศัตรูได้รับความบาดเจ็บอย่างไร นางก็จะได้รับเช่นกันแต่