หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 65 น้ำพุวิญญาณกลายเป็นสายฝน

แชร์

บทที่ 65 น้ำพุวิญญาณกลายเป็นสายฝน

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เย่จิ่งอวี้วางพู่กันลงแล้วรีบไปที่ประตู

กลิ่นสดชื่นของพืชพรรณผสมกับดินลอยเข้ามาในจมูกของเขา ทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกสดชื่นทันที

เสี่ยวอานจื่อและผู้อื่นที่ยืนอยู่ที่กลางลานเรือน เมื่อพวกเขาเห็นฝน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ

“ฝนตกแล้ว ฝนตกแล้ว”

“สดชื่นจริงๆ!”

หลายคนเสียกิริยาของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อพวกเขาหันกลับมาและเห็นฮ่องเต้ก็ต่างก็ปิดปาก

แต่เย่จิ่งอวี้กลับไม่ได้ต่อว่าต่อขานพวกเขา ฝนไม่ตกมาเป็นเวลานาน ในใจของเขาก็มีความสุขไม่แพ้กัน

ในตอนนี้ หลี่เต๋อฝูก็พาคนขนน้ำแข็งยักษ์กลับมา ขณะที่วิ่งเขาก็พูดว่า “ฝ่าบาท ฝนกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า นี่เป็นลางดี ต้องเป็นเพราะฝ่าบาทอุทิศตนเพื่อประชาชน ทำให้สวรรค์ซาบซึ้ง ฝนจึงตกมาเช่นนี้”

อินชิงเสวียนยืนอยู่ข้างหลังเย่จิ่งอวี้ เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็เบะปาก ตาแก่นี่ประจบสอพลอเก่งจจริงๆ

สีหน้าของเย่จิ่งอวี้ราบเรียบ ดวงตาของเขายังคงมองดูเม็ดฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

การประชุมเช้าวันนี้ เขาได้ถามเรื่องฝนฟ้าอากาศกับโหราจารย์โดยเฉพาะ โหราจารย์ตอบว่าระยะนี้ยังไม่มีฝนตก แต่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม ฝนก็ตกลงมาจากฟ้าแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 66 เสียไปหนึ่งร้อยคะแนน

    หรือว่าที่ฝนตกเมื่อครู่เป็นนางที่ใช้คะแนนสะสมแลกมาบ้าเอ้ย!นี่เรื่องบ้าอะไรเนี่ยจู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่นางใช้คะแนนแลกนมผงให้เจ้าหมาน้อย ป้ายที่อยู่ถัดจากร้านค้าคะแนนสะสมได้อัปเดตคำบางคำ และดูเหมือนจะเขียนไว้ว่าน้ำพุวิญญาณอะไรสักอย่าง ตอนนั้นนางรีบมาก จึงไม่ได้อ่านอะไรมากนักหรือว่าน้ำพุวิญญาณได้อัพเกรดฟังก์ชั่นบางอย่างยิ่งอินชิงเสวียนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าใด นางก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น แล้วก็พูดกับทุกคนตรงนั้นทันที “ข้าอยากไปปลดทุกข์หน่อย พวกเจ้ารออยู่ที่นี่”ขันทีน้อยยิ้มแล้วพูดว่า “ไปเถอะ ถ้าฮ่องเต้ถามถึงเจ้า พวกเราจะช่วยแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้เจ้า”“ขอบใจนะ”อินชิงเสวียนเดินออกจากห้องหนังสือ ห่างออกไปสองร้อยเมตรมีห้องน้ำสำหรับนางกำนัลและขันทีที่รับใช้ฮ่องเต้อยู่เมื่อนึกได้ดังนี้ อินชิงเสวียนก็ค้นพบบางสิ่งบางอย่างผู้คนที่รับใช้เย่จิ่งอวี้ดูเหมือนจะเป็นขันทีทั้งหมด ไม่มีนางกำนัลเลยช่างเถอะ อยากใช้งานผู้ใดก็ใช้เถอะ ตอนนี้นางแค่อยากกลับไปดูที่มิติแล้วอินชิงเสวียนมาที่ประตูห้องน้ำ มองไปรอบๆ ไม่เห็นผู้ใด จึงรีบเข้าไปในมิติทันทีเมื่อตรวจสอบคะแ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 67 ความเข้าใจผิดของหลี่เต๋อฝู

    เย่จิ่งอวี้กดข้อมือของอินชิงเสวียนด้วยเข่าข้างหนึ่ง ใช้มือขวารัดคอของนาง ดวงตาของเขามืดมนและคมกริบ คมราวกับใบมีดเมื่อมองเห็นเงาดำใหญ่เหนือศีรษะ หัวใจของอินชิงเสวียนก็เต้นรัวราวกับเสียงกลอง“ฝ่าบาท กระหม่อมเอง...”อินชิงเสวียนพยายามอย่างเต็มที่ที่ส่งเสียงแหบแห้งเหมือนเป็ดที่ตายแล้วในความมืด ริมฝีปากสีชมพูของอินชิงเสวียนเผยอออกเล็กน้อย ออกแรงคว้ามือที่เหมือนเหล็กขนาดใหญ่ของเย่จิ่งอวี้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดของนางดวงตาของเย่จิ่งอวี้เยียบเย็น แล้วจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกเขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่”“วันนี้กระหม่อมกับเสี่ยวอานจื่อมาเฝ้ารับใช้ฝ่าบาท พอได้ยินเสียงของพระองค์ จึงคิดว่าฝ่าบาทประชวร จึงเข้ามาดู”อินชิงเสวียนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และไอหลายครั้งติดๆ กันดวงตาของเย่จิ่งอวี้หรี่ลงเล็กน้อย แววตาไหวระริกอินชิงเสวียนคุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว“ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินเสียงจึงเข้ามาจริงๆ กระหม่อมไม่มีวันกล้ามีเจตนาชั่วร้ายต่อฝ่าบาท กระหม่อมไม่มีอาวุธติดตัวมาด้วยซ้ำ”อินชิงเสวียนตบหน้าอกตัวเอง เกิดเสียงแสกสากเย่จิ่งอวี้เลิกคิ้วขึ้น “แล้วเจ้ามีอะไรติดตัวรึ”

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 68 กระหม่อมเต็มใจอย่างยิ่ง

    “เจ้าก็ลุกขึ้นเถอะ”เสียงของเย่จิ่งอวี้แผ่วเบาและสิ้นหวังอย่างอธิบายไม่ถูก“ขอบพระทัยฝ่าบาท”อินชิงเสวียนยืนขึ้นจากพื้น สายตายังคงเหลือบมองตั๋วเงิน อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่หลี่เต๋อฝูเข้ามาจากด้านนอกห้องโถง และบังเอิญเห็นอินชิงเสวียนกลืนน้ำลายพอดี หูของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือกเมื่อเห็นหลี่เต๋อฝูจ้องมองนางด้วยสีหน้าแปลกๆ อินชิงเสวียนก็ประหลาดใจ และขยับเข้าไปใกล้โต๊ะมากขึ้นหลี่เต๋อฝูไม่กล้าเปิดเผยมากเกินไป รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดให้เย่จิ่งอวี้อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้หันหลังให้ตัวเอง อินชิงเสวียนก็รีบดึงตั๋วเงินสองใบออกมาอย่างรวดเร็ว พับและยัดกลับเข้าไปในแขนเสื้อแม้สองร้อยตำลึงก็ทำให้นางรู้สึกสบายใจขึ้นมากหลังจากนั้นไม่นาน เย่จิ่งอวี้ก็แต่งกายเต็มยศมงกุฎฮ่องเต้ที่ประดับด้วยหินโมราสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดของฮ่องเต้ มังกรทองห้าเล็บบนหน้าอกมีความสง่างามและทรงพลังเมื่อเย่จิ่งอวี้สวมฉลองพระองค์เสร็จ จู่ๆ ก็มีกลิ่นอายดุดันและทรงพลัง อากัปกิริยาของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าถูกภูเขาไท่ซานกดทับ แสดงถึงความสง่างามของเขาอินชิงเสวียนถูกกดไว้ด้วยกลิ่นอายนี้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 69 แตงโม

    ทันทีที่คำสั่งทั้งสองนี้ออกมา ขุนนางทุกคนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกเย่จิ่งอวี้เหลือบมองทุกคนด้วยความพึงพอใจ กล่าวอย่างสงบ “หากมีสิ่งใดจะรายงานก็เชิญ หากไม่มีก็เลิกประชุมได้”พวกขุนนางก็ก้มศีรษะแล้วพูดว่า “กระหม่อมไม่มีสิ่งใดรายงาน”“เลิกประชุม”เย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นอย่างสง่างาม คร้านแล้วผู้คนก็ทยอยเดินออกจากตำหนักจินหลวนอินชิงเสวียนตามเสี่ยวอานจื่อมารอที่ห้องหนังสือแล้วเมื่อคิดถึงเงินมากกว่าสองพันตำลึง ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก และเมื่อคิดถึงเรื่องการเสียคะแนน 100 แต้มไปอย่างแปลกๆ ยิ่งทำให้หดหู่ใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่านางดูไม่มีความสุข เสี่ยวอานจื่อก็ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวเสวียนจื่อ เจ้าเป็นอะไรไป มีเรื่องกังวลใจหรือ”อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ“ไม่เป็นไร จู่ๆ ข้าก็คิดถึงท่านแม่และลูกๆ จึงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย”เสี่ยวอานจื่อถอนหายใจและพูดว่า “น่าเห็นใจนัก เป็นเหมือนข้าดีกว่า ข้าไม่ต้องกังวลใจอะไร กินผู้เดียวอิ่มผู้เดียว”เมื่อคิดว่าเสี่ยวอานจื่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่ของเขาคือผู้ใด อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าเงินนับพันตำลึงของตนนั้นไม่สำคัญเลยจริงๆเมื่อสะสมคะแนนเพียงพอแล้ว จะแลกของสิ่ง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 70 ฝ่าบาทช่วยด้วย

    ณ ตำหนักฉือหนิงไทเฮานั่งอยู่บนเก้าอี้นวมนุ่มๆ และข้างๆ นางก็มีลู่จิ้งเสียนที่กำลังร้องไห้อยู่“เสด็จแม่เพคะ ฝ่าบาทให้ท่านพ่อของหม่อมฉันไปทำไร่ทำนา เช่นนี้แล้วตระกูลลู่ของพวกเราจะเงยหน้ามองผู้คนได้อย่างไร”เวลาหนึ่งก้านธูปก่อนหน้านี้ เมื่อลู่จิ้งเสียนทราบข่าวก็รีบมาฟ้องไทเฮาทันทีสีพระพักตร์ของไทเฮาก็ดูไม่ดีเช่นกันนางรู้ข่าวแล้วว่าเย่จิ่งเย่าถูกกักบริเวณในจวน และตอนนี้ฮ่องเต้เริ่มหันเหความสนใจไปที่ตระกูลลู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้จริงๆหากรู้เช่นนี้แต่แรก วันนั้นนางไม่ควรจะมีความเมตตา ถ้ากำจัดเด็กเวรผู้นี้ไปด้วย บัลลังก์ก็จะเป็นของเย่าเอ๋อร์ครั้นนึกถึงตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังอยู่ พระองค์เคยตรัสว่าเย่จิ่งอวี้ที่ถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท ก็แค่ทำให้เหล่าขุนนางดูเท่านั้น เขาจะส่งต่อบัลลังก์ให้กับเย่าเอ๋อร์ที่เป็นโอรสสายตรงโดยไม่คาดคิดว่าก่อนตายตาเฒ่านั่นจะกลับคำ ส่งต่อบัลลังก์ให้กับเย่จิ่งอวี้โดยไม่มีเหตุผล เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาสองแม่ลูกรู้ตัว เย่จิ่งอวี้ก็ได้ขึ้นครองบัลลังก์ในฐานะฮ่องเต้แล้วก่อนหน้านี้ฮ่องเต้น้อยนี่ส่งเย่าเอ๋อร์ไปเฝ้าสุสานหลวง บัดนี้ก็เริ่มที่จะลงมือกับตร

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 71 พยศเหมือนลา

    หลี่เต๋อฝูมาที่ประตูทันที ถลึงตามองและตำหนิว่า “บังอาจ ห้องหนังสือหาใช่สถานที่ที่เจ้าจะตะโกนโวยวายได้ไม่”เซียงหลานผละตัวออกจากขันทีน้อยที่จับตัวนางไว้ คุกเข่าลงบนพื้นและโขกศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่า“หลี่กงกง ท่านช่วยรายงานฝ่าบาทให้ข้าทีเถิด ไทเฮากำลังสั่งสอนเจ้านายของข้า เจ้านายของข้าไม่ได้ทำผิดประการจริงๆ ฝ่าบาท โปรดช่วยเจ้านายหม่อมฉันด้วยเพคะ”เย่ไห่ถังอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่จิ่งอวี้“เสด็จพี่ใหญ่…”เย่จิ่งอวี้เช็ดมือด้วยผ้าไหมและพูดอย่างใจเย็น “หลี่เต๋อฝู ตามไปดูซิ”หลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและตอบว่า “พ่ะย่ะค่ะ”เซียงหลานคำนับอย่างตื่นเต้น “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”หลังจากที่ทั้งสองจากไปแล้ว เย่ไห่ถังก็ไม่รู้สึกอยากกินเปี๊ยะมันหมูอีก“เสด็จพี่ใหญ่ น้องก็ต้องขอลาเช่นกัน”“อืม เอาเปี๊ยะมันหมูพวกนี้ไปทั้งหมดด้วย อย่าลืมถวายให้ไท่เฟยบ้าง”เย่จิ่งอวี้พยักหน้ากล่าวรับด้วยเสียงอ่อนโยนเย่ไห่ถังคำนับเย่จิ่งอวี้และพูดอย่างมีความสุข “ขอบคุณเสด็จพี่ใหญ่ เช่นนั้นน้องก็ไม่เกรงใจแล้ว อวิ๋นเฟิง พวกเราไปกันเถอะ”“เพคะ”อวิ๋นเฟิงหยิบกล่องอาหารขึ้นมา แล้วเสี่ยวอานจื่อก็มองตาอว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 72 ไปวังเย็น

    ยายหลี่พูดอย่างอ่อนใจ “ระยะนี้องค์ชายน้อยอารมณ์รุนแรงขึ้นมากเพคะ”“คงเป็นเหมือนพ่อสารเลวของเขานั่นแหละ”อินชิงเสวียนกินแตงโมไปสองชิ้น ในที่สุดก็รู้สึกเย็นลงไปบ้าง จากนั้นนางก็ถามด้วยความเป็นห่วง “พวกเจ้ายังมีของกินพอหรือไม่”อวิ๋นฉ่ายกล่าวด้วยใบหน้ามีความสุข “พระสนมไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างเพียงพอแล้ว สำหรับเนื้อ หม่อมฉันก็ทำเป็นเนื้อสับเก็บไว้ในน้ำเย็น เตรียมไว้สำหรับทำเกี๊ยวคืนนี้”อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ทำเกี๊ยวก็ดี ข้าก็อยากกินเกี๊ยวเหมือนกัน จริงสิ คืนนี้ข้าจะพักที่วังเย็น แล้วจะออกจากวังพรุ่งนี้เช้า”นางรับตัวเจ้าหมาน้อยมา เปิดปุ่มให้ตุ๊กตาดนตรีทำงาน แล้วตุ๊กตาดนตรีก็เปล่งเสียงเพลงและเริ่มเต้นรำเจ้าหมาน้อยถูกดึงดูดทันที ดวงตาสีเข้มของเขาเปิดกว้าง แพขนตาหนาราวกับพัดเล็กๆ ขยับไปมา ดูหนาฟูและน่ามองมากเขายื่นมือเล็กๆ ออกมา ชี้ไปที่ตุ๊กตาดนตรี แล้วเริ่มพูดอ้อแอ้ที่ไม่มีผู้ใดเข้าใจ จากนั้นโบกมือเล็กๆ อย่างมีความสุข ราวกับกำลังเต้นรำกับตุ๊กตาดนตรียายหลี่เองก็มองดูของเล่นด้วยความประหลาดใจ “พระสนมเก่งกาจจริงๆ”อวิ๋นฉ่ายก็เดินมาดู จ้องมองที่ตุ๊กตาดนตรี ไม่รู้ว่าสิ่งนี้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 73 ตกใจหมดเลย

    “หา?”หลี่เต๋อฝูตกใจเล็กน้อย ฮ่องเต้นึกอย่างไรถึงจะเสด็จไปที่นั่นยิ่งพอนึกถึงเจ้านายในวังเย็นที่เหลือเพียงกระดูกไม่กี่ชิ้น กระดูกสันหลังของเขาก็เย็นวาบ“ฝ่าบาท สถานที่อย่างวังเย็นนั้นเป็นมลทิน พระองค์สูงศักดิ์บริสุทธิ์ อย่าไปเหยียบสถานที่เช่นนั้นดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้กล่าวเสียงเย็นเยียบ “โลกใบนี้มีคนตายไม่เพียงร้อยคนพันคน หากผีสางมีอยู่จริง คงมีอยู่เต็มทั่ววังหลวงแห่งนี้แล้ว” หลี่เต๋อฝูพอได้ยินวาจาของฮ่องเต้ ครานี้เย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง“ฝ่าบาท...”“มากความนัก!”เย่จิ่งอวี้แค่นเสียงต่อว่า แต่ตัวคนกลับขึ้นไปนั่งอยู่บนเกี้ยวแล้วขันทีน้อยเหล่านั้นแม้นจะกลัวจนตัวสั่ง แต่หากฮ่องเต้ต้องการเสด็จ พวกเขาก็ไม่กล้าขัดขวางพอมาถึงข้างกำแพงวังเย็น เสียงเห่าโฮ่งของไป๋เสวี่ยดังคราหนึ่ง แล้ววิ่งตรงไปที่ต้นไม้โบราณด้านล่าง เจ้าหมาตะกุยหญ้าบนพื้นแล้วมุดเข้าสวนไปเย่จิ่งอวี้คิ้วขมวดแน่น ตรัสกับหลี่เต๋อฝูว่า “เจ้าไปดูซิ” หลี่เต๋อฝูตามไปถึงข้างตัวไป๋เสวี่ย ทางไป๋เสวี่ยแยกเขี้ยวยิงฟันใส่หลี่เต๋อฝูจนเขาตกใจถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ทำให้เขาเห็นชัดขึ้นว่าตรงนั้นมีโพรงอยู่“ทูลฝ่าบาท ด้านหลั

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1456 ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้

    “ได้ เช่นนั้นข้าจะทำนายดูอีกครั้ง”นักพรตเทียนชิงหยิบเหรียญอีแปะและกระดองเต่าออกมา เขย่าหกครั้ง ค่อยๆ จัดเรียงเหรียญทีละเหรียญ เขามองดูพวกมันอยู่ครู่หนึ่ง ลูบหนวดเคราแล้วพูดว่า “ภาพทำนายไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย คุณชายน้อยเย่...”“เป็นอย่างไรบ้าง เขากลับมาไม่ได้กระนั้นหรือ”อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจ“พูดยาก ทุกสิ่งในตัวเขาไม่แน่นอนมาก ดอกไม้ไม่ใช่ดอกไม้ หมอกก็ไม่ใช่หมอก เหมือนมองดอกไม้ในสายหมอก ยากที่จะเห็นภาพที่แท้จริง ข้าไม่เคยเห็นภาพทำนายเช่นนี้มาก่อน”นักพรตเทียนชิงมองดูเหรียญอีแปะด้วยสีหน้าประหลาดใจมากอินชิงเสวียนถอนหายใจ“เอาเถอะ ถ้าเขาสามารถกลับไปยังที่ที่เขาอยู่ได้จริงๆ ก็คงจะดี”เดิมทีเย่จิ่งหลานไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของยุคนี้มากนัก แทนที่จะเป็นแบบนี้ ไม่สู้ปล่อยให้เขาไปในที่ที่เขาต้องการไปดีกว่าเขาเป็นคนดี ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสร้างประโยชน์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้นักพรตเทียนชิงไม่ได้พูด บรรยากาศอึมครึมอยู่พักหนึ่งอินชิงเสวียนรู้สึกเศร้า จากนั้นทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาและถามว่า “ท่านนักพรตสามารถทำนายได้หรือไม่ว่าชิงฮุยอยู่ที่ไหน”นัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1455 การทดสอบของพ่อหนุ่มน้อย

    เมื่อเห็นชายคนนั้นอารมณ์ดีขึ้นมาทันที อินชิงเสวียนก็ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว“คุณบอกว่า...คุณชื่อเย่จิ่งหลานไม่ใช่เหรอ”ชายคนนั้นพูดเหมือนกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา “ใช่น่ะสิ ผมชื่อเย่จิ่งหลานแล้วมันขัดแย้งอะไรกับเรื่องที่ผมเป็นหมอล่ะ”เสี่ยวหลานหลานที่อยู่ข้างๆ สั่นศีรษะ พูดอย่างน่ารัก “ก็ไม่ขัดแย้ง”เย่จิ่งหลานยักไหล่“งั้นก็โอเคแล้วไม่ใช่หรือไง ในช่วงสองวันที่ผ่านมาผมอาจเกิดภาวะขาดสารอาหาร ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ขอบคุณสาวสวยคนนี้ที่ช่วยเหลือ เพิ่มเพื่อนในไลน์ได้ไหม”เย่จิ่งหลานสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แต่มันก็ว่างเปล่าเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง โทรศัพท์หายไปไหน“แล้วคุณรู้ไหมว่าคุณมาจากโรงพยาบาลไหน”“รู้...”เย่จิ่งหลานพูดขึ้นมาคำหนึ่ง และทันใดนั้นก็รู้สึกปวดหัวอีกครั้งเขาจำได้ว่าตัวเองถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล เหมือนจะไปคลินิกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ต่อมาก็ฝันอะไรตั้งมากมาย ในฝันเหมือนเขาจะกลายเป็นอ๋อง แล้วต่อมาก็ได้เป็นจอมยุทธ์เมื่อมองดูเตียงในโรงพยาบาลตรงหน้า จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริงขึ้นมาทันทีเขายกนิ้วขึ้นแตะหัวเตียง ผิวสัมผัสเย็นๆ บอกเขาว่าทุกสิ่งตรงหน้าเป็นเรื่องจริง แต

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1454 คนสวย คุณเป็นใคร

    เสี่ยวหลานหลานตะโกนอย่างตื่นเต้น “นั่นเขา!”อินชิงเสวียนพยักหน้า“ดูเหมือนเขาจะก่อเรื่องนะ”“ไม่เป็นไร ครอบครัวเราเป็นหุ้นส่วนกับคลับนี้”ในขณะที่เสี่ยวหลานหลานกำลังพูด ชายคนนั้นก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูหยุดไว้ข้างหลังเขาเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยสองหรือสามคน นอกเหนือจากการสวมใส่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงแล้ว คนเหล่านี้ยังมีใบหน้าที่บวมเป่งคล้ายหมูเหมือนกันด้วย“หยุดนะไอ้บ้านั่นให้ฉันที”“ไอ้พวกโง่ มัวยืนมองอยู่ข้างหลังทำไม เข้าไปเลย สั่งสอนบทเรียนให้กับไอ้หนุ่มหน้าขาวเนรคุณนี่หน่อยสิ”“ถอดขามัน แล้วทุบตีให้ตาย”มีบอดี้การ์ดหลายคนตามมาด้วย แต่ไม่มีใครกล้าขยับ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ประตูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกระแทกกระจกแตก ก็เข้าไปรุมทันทีชายคนนั้นยกมือขึ้นเนือยๆ บีบคอของคนหนึ่งในนั้นจนปลิว ไฝสีแดงระหว่างคิ้วยิ่งเด่นชัดและเป็นสีแดงสดใสมากขึ้นเรื่อยๆเขากดนิ้วอย่างแรง แต่คลับคล้ายคลับคลาจะได้ยินเสียงใครบางคนพูดว่า “เย่จิ่งหลาน เจ้าต้องไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ ตราบใดที่เจ้าไม่ผิด เราจะยืนหยัดเคียงข้างเจ้าเสมอ!เราคือใคร...?ชายคนนั้นเ

DMCA.com Protection Status