Home / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 65 น้ำพุวิญญาณกลายเป็นสายฝน

Share

บทที่ 65 น้ำพุวิญญาณกลายเป็นสายฝน

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2023-12-16 16:00:01
เย่จิ่งอวี้วางพู่กันลงแล้วรีบไปที่ประตู

กลิ่นสดชื่นของพืชพรรณผสมกับดินลอยเข้ามาในจมูกของเขา ทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกสดชื่นทันที

เสี่ยวอานจื่อและผู้อื่นที่ยืนอยู่ที่กลางลานเรือน เมื่อพวกเขาเห็นฝน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ

“ฝนตกแล้ว ฝนตกแล้ว”

“สดชื่นจริงๆ!”

หลายคนเสียกิริยาของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อพวกเขาหันกลับมาและเห็นฮ่องเต้ก็ต่างก็ปิดปาก

แต่เย่จิ่งอวี้กลับไม่ได้ต่อว่าต่อขานพวกเขา ฝนไม่ตกมาเป็นเวลานาน ในใจของเขาก็มีความสุขไม่แพ้กัน

ในตอนนี้ หลี่เต๋อฝูก็พาคนขนน้ำแข็งยักษ์กลับมา ขณะที่วิ่งเขาก็พูดว่า “ฝ่าบาท ฝนกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า นี่เป็นลางดี ต้องเป็นเพราะฝ่าบาทอุทิศตนเพื่อประชาชน ทำให้สวรรค์ซาบซึ้ง ฝนจึงตกมาเช่นนี้”

อินชิงเสวียนยืนอยู่ข้างหลังเย่จิ่งอวี้ เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็เบะปาก ตาแก่นี่ประจบสอพลอเก่งจจริงๆ

สีหน้าของเย่จิ่งอวี้ราบเรียบ ดวงตาของเขายังคงมองดูเม็ดฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

การประชุมเช้าวันนี้ เขาได้ถามเรื่องฝนฟ้าอากาศกับโหราจารย์โดยเฉพาะ โหราจารย์ตอบว่าระยะนี้ยังไม่มีฝนตก แต่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม ฝนก็ตกลงมาจากฟ้าแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 66 เสียไปหนึ่งร้อยคะแนน

    หรือว่าที่ฝนตกเมื่อครู่เป็นนางที่ใช้คะแนนสะสมแลกมาบ้าเอ้ย!นี่เรื่องบ้าอะไรเนี่ยจู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่นางใช้คะแนนแลกนมผงให้เจ้าหมาน้อย ป้ายที่อยู่ถัดจากร้านค้าคะแนนสะสมได้อัปเดตคำบางคำ และดูเหมือนจะเขียนไว้ว่าน้ำพุวิญญาณอะไรสักอย่าง ตอนนั้นนางรีบมาก จึงไม่ได้อ่านอะไรมากนักหรือว่าน้ำพุวิญญาณได้อัพเกรดฟังก์ชั่นบางอย่างยิ่งอินชิงเสวียนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าใด นางก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น แล้วก็พูดกับทุกคนตรงนั้นทันที “ข้าอยากไปปลดทุกข์หน่อย พวกเจ้ารออยู่ที่นี่”ขันทีน้อยยิ้มแล้วพูดว่า “ไปเถอะ ถ้าฮ่องเต้ถามถึงเจ้า พวกเราจะช่วยแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้เจ้า”“ขอบใจนะ”อินชิงเสวียนเดินออกจากห้องหนังสือ ห่างออกไปสองร้อยเมตรมีห้องน้ำสำหรับนางกำนัลและขันทีที่รับใช้ฮ่องเต้อยู่เมื่อนึกได้ดังนี้ อินชิงเสวียนก็ค้นพบบางสิ่งบางอย่างผู้คนที่รับใช้เย่จิ่งอวี้ดูเหมือนจะเป็นขันทีทั้งหมด ไม่มีนางกำนัลเลยช่างเถอะ อยากใช้งานผู้ใดก็ใช้เถอะ ตอนนี้นางแค่อยากกลับไปดูที่มิติแล้วอินชิงเสวียนมาที่ประตูห้องน้ำ มองไปรอบๆ ไม่เห็นผู้ใด จึงรีบเข้าไปในมิติทันทีเมื่อตรวจสอบคะแ

    Last Updated : 2023-12-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 67 ความเข้าใจผิดของหลี่เต๋อฝู

    เย่จิ่งอวี้กดข้อมือของอินชิงเสวียนด้วยเข่าข้างหนึ่ง ใช้มือขวารัดคอของนาง ดวงตาของเขามืดมนและคมกริบ คมราวกับใบมีดเมื่อมองเห็นเงาดำใหญ่เหนือศีรษะ หัวใจของอินชิงเสวียนก็เต้นรัวราวกับเสียงกลอง“ฝ่าบาท กระหม่อมเอง...”อินชิงเสวียนพยายามอย่างเต็มที่ที่ส่งเสียงแหบแห้งเหมือนเป็ดที่ตายแล้วในความมืด ริมฝีปากสีชมพูของอินชิงเสวียนเผยอออกเล็กน้อย ออกแรงคว้ามือที่เหมือนเหล็กขนาดใหญ่ของเย่จิ่งอวี้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดของนางดวงตาของเย่จิ่งอวี้เยียบเย็น แล้วจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกเขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่”“วันนี้กระหม่อมกับเสี่ยวอานจื่อมาเฝ้ารับใช้ฝ่าบาท พอได้ยินเสียงของพระองค์ จึงคิดว่าฝ่าบาทประชวร จึงเข้ามาดู”อินชิงเสวียนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และไอหลายครั้งติดๆ กันดวงตาของเย่จิ่งอวี้หรี่ลงเล็กน้อย แววตาไหวระริกอินชิงเสวียนคุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว“ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินเสียงจึงเข้ามาจริงๆ กระหม่อมไม่มีวันกล้ามีเจตนาชั่วร้ายต่อฝ่าบาท กระหม่อมไม่มีอาวุธติดตัวมาด้วยซ้ำ”อินชิงเสวียนตบหน้าอกตัวเอง เกิดเสียงแสกสากเย่จิ่งอวี้เลิกคิ้วขึ้น “แล้วเจ้ามีอะไรติดตัวรึ”

    Last Updated : 2023-12-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 68 กระหม่อมเต็มใจอย่างยิ่ง

    “เจ้าก็ลุกขึ้นเถอะ”เสียงของเย่จิ่งอวี้แผ่วเบาและสิ้นหวังอย่างอธิบายไม่ถูก“ขอบพระทัยฝ่าบาท”อินชิงเสวียนยืนขึ้นจากพื้น สายตายังคงเหลือบมองตั๋วเงิน อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่หลี่เต๋อฝูเข้ามาจากด้านนอกห้องโถง และบังเอิญเห็นอินชิงเสวียนกลืนน้ำลายพอดี หูของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือกเมื่อเห็นหลี่เต๋อฝูจ้องมองนางด้วยสีหน้าแปลกๆ อินชิงเสวียนก็ประหลาดใจ และขยับเข้าไปใกล้โต๊ะมากขึ้นหลี่เต๋อฝูไม่กล้าเปิดเผยมากเกินไป รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดให้เย่จิ่งอวี้อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้หันหลังให้ตัวเอง อินชิงเสวียนก็รีบดึงตั๋วเงินสองใบออกมาอย่างรวดเร็ว พับและยัดกลับเข้าไปในแขนเสื้อแม้สองร้อยตำลึงก็ทำให้นางรู้สึกสบายใจขึ้นมากหลังจากนั้นไม่นาน เย่จิ่งอวี้ก็แต่งกายเต็มยศมงกุฎฮ่องเต้ที่ประดับด้วยหินโมราสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดของฮ่องเต้ มังกรทองห้าเล็บบนหน้าอกมีความสง่างามและทรงพลังเมื่อเย่จิ่งอวี้สวมฉลองพระองค์เสร็จ จู่ๆ ก็มีกลิ่นอายดุดันและทรงพลัง อากัปกิริยาของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าถูกภูเขาไท่ซานกดทับ แสดงถึงความสง่างามของเขาอินชิงเสวียนถูกกดไว้ด้วยกลิ่นอายนี้

    Last Updated : 2023-12-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 69 แตงโม

    ทันทีที่คำสั่งทั้งสองนี้ออกมา ขุนนางทุกคนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกเย่จิ่งอวี้เหลือบมองทุกคนด้วยความพึงพอใจ กล่าวอย่างสงบ “หากมีสิ่งใดจะรายงานก็เชิญ หากไม่มีก็เลิกประชุมได้”พวกขุนนางก็ก้มศีรษะแล้วพูดว่า “กระหม่อมไม่มีสิ่งใดรายงาน”“เลิกประชุม”เย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นอย่างสง่างาม คร้านแล้วผู้คนก็ทยอยเดินออกจากตำหนักจินหลวนอินชิงเสวียนตามเสี่ยวอานจื่อมารอที่ห้องหนังสือแล้วเมื่อคิดถึงเงินมากกว่าสองพันตำลึง ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก และเมื่อคิดถึงเรื่องการเสียคะแนน 100 แต้มไปอย่างแปลกๆ ยิ่งทำให้หดหู่ใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่านางดูไม่มีความสุข เสี่ยวอานจื่อก็ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวเสวียนจื่อ เจ้าเป็นอะไรไป มีเรื่องกังวลใจหรือ”อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ“ไม่เป็นไร จู่ๆ ข้าก็คิดถึงท่านแม่และลูกๆ จึงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย”เสี่ยวอานจื่อถอนหายใจและพูดว่า “น่าเห็นใจนัก เป็นเหมือนข้าดีกว่า ข้าไม่ต้องกังวลใจอะไร กินผู้เดียวอิ่มผู้เดียว”เมื่อคิดว่าเสี่ยวอานจื่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่ของเขาคือผู้ใด อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าเงินนับพันตำลึงของตนนั้นไม่สำคัญเลยจริงๆเมื่อสะสมคะแนนเพียงพอแล้ว จะแลกของสิ่ง

    Last Updated : 2023-12-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 70 ฝ่าบาทช่วยด้วย

    ณ ตำหนักฉือหนิงไทเฮานั่งอยู่บนเก้าอี้นวมนุ่มๆ และข้างๆ นางก็มีลู่จิ้งเสียนที่กำลังร้องไห้อยู่“เสด็จแม่เพคะ ฝ่าบาทให้ท่านพ่อของหม่อมฉันไปทำไร่ทำนา เช่นนี้แล้วตระกูลลู่ของพวกเราจะเงยหน้ามองผู้คนได้อย่างไร”เวลาหนึ่งก้านธูปก่อนหน้านี้ เมื่อลู่จิ้งเสียนทราบข่าวก็รีบมาฟ้องไทเฮาทันทีสีพระพักตร์ของไทเฮาก็ดูไม่ดีเช่นกันนางรู้ข่าวแล้วว่าเย่จิ่งเย่าถูกกักบริเวณในจวน และตอนนี้ฮ่องเต้เริ่มหันเหความสนใจไปที่ตระกูลลู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้จริงๆหากรู้เช่นนี้แต่แรก วันนั้นนางไม่ควรจะมีความเมตตา ถ้ากำจัดเด็กเวรผู้นี้ไปด้วย บัลลังก์ก็จะเป็นของเย่าเอ๋อร์ครั้นนึกถึงตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังอยู่ พระองค์เคยตรัสว่าเย่จิ่งอวี้ที่ถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท ก็แค่ทำให้เหล่าขุนนางดูเท่านั้น เขาจะส่งต่อบัลลังก์ให้กับเย่าเอ๋อร์ที่เป็นโอรสสายตรงโดยไม่คาดคิดว่าก่อนตายตาเฒ่านั่นจะกลับคำ ส่งต่อบัลลังก์ให้กับเย่จิ่งอวี้โดยไม่มีเหตุผล เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาสองแม่ลูกรู้ตัว เย่จิ่งอวี้ก็ได้ขึ้นครองบัลลังก์ในฐานะฮ่องเต้แล้วก่อนหน้านี้ฮ่องเต้น้อยนี่ส่งเย่าเอ๋อร์ไปเฝ้าสุสานหลวง บัดนี้ก็เริ่มที่จะลงมือกับตร

    Last Updated : 2023-12-18
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 71 พยศเหมือนลา

    หลี่เต๋อฝูมาที่ประตูทันที ถลึงตามองและตำหนิว่า “บังอาจ ห้องหนังสือหาใช่สถานที่ที่เจ้าจะตะโกนโวยวายได้ไม่”เซียงหลานผละตัวออกจากขันทีน้อยที่จับตัวนางไว้ คุกเข่าลงบนพื้นและโขกศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่า“หลี่กงกง ท่านช่วยรายงานฝ่าบาทให้ข้าทีเถิด ไทเฮากำลังสั่งสอนเจ้านายของข้า เจ้านายของข้าไม่ได้ทำผิดประการจริงๆ ฝ่าบาท โปรดช่วยเจ้านายหม่อมฉันด้วยเพคะ”เย่ไห่ถังอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่จิ่งอวี้“เสด็จพี่ใหญ่…”เย่จิ่งอวี้เช็ดมือด้วยผ้าไหมและพูดอย่างใจเย็น “หลี่เต๋อฝู ตามไปดูซิ”หลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและตอบว่า “พ่ะย่ะค่ะ”เซียงหลานคำนับอย่างตื่นเต้น “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”หลังจากที่ทั้งสองจากไปแล้ว เย่ไห่ถังก็ไม่รู้สึกอยากกินเปี๊ยะมันหมูอีก“เสด็จพี่ใหญ่ น้องก็ต้องขอลาเช่นกัน”“อืม เอาเปี๊ยะมันหมูพวกนี้ไปทั้งหมดด้วย อย่าลืมถวายให้ไท่เฟยบ้าง”เย่จิ่งอวี้พยักหน้ากล่าวรับด้วยเสียงอ่อนโยนเย่ไห่ถังคำนับเย่จิ่งอวี้และพูดอย่างมีความสุข “ขอบคุณเสด็จพี่ใหญ่ เช่นนั้นน้องก็ไม่เกรงใจแล้ว อวิ๋นเฟิง พวกเราไปกันเถอะ”“เพคะ”อวิ๋นเฟิงหยิบกล่องอาหารขึ้นมา แล้วเสี่ยวอานจื่อก็มองตาอว

    Last Updated : 2023-12-18
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 72 ไปวังเย็น

    ยายหลี่พูดอย่างอ่อนใจ “ระยะนี้องค์ชายน้อยอารมณ์รุนแรงขึ้นมากเพคะ”“คงเป็นเหมือนพ่อสารเลวของเขานั่นแหละ”อินชิงเสวียนกินแตงโมไปสองชิ้น ในที่สุดก็รู้สึกเย็นลงไปบ้าง จากนั้นนางก็ถามด้วยความเป็นห่วง “พวกเจ้ายังมีของกินพอหรือไม่”อวิ๋นฉ่ายกล่าวด้วยใบหน้ามีความสุข “พระสนมไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างเพียงพอแล้ว สำหรับเนื้อ หม่อมฉันก็ทำเป็นเนื้อสับเก็บไว้ในน้ำเย็น เตรียมไว้สำหรับทำเกี๊ยวคืนนี้”อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ทำเกี๊ยวก็ดี ข้าก็อยากกินเกี๊ยวเหมือนกัน จริงสิ คืนนี้ข้าจะพักที่วังเย็น แล้วจะออกจากวังพรุ่งนี้เช้า”นางรับตัวเจ้าหมาน้อยมา เปิดปุ่มให้ตุ๊กตาดนตรีทำงาน แล้วตุ๊กตาดนตรีก็เปล่งเสียงเพลงและเริ่มเต้นรำเจ้าหมาน้อยถูกดึงดูดทันที ดวงตาสีเข้มของเขาเปิดกว้าง แพขนตาหนาราวกับพัดเล็กๆ ขยับไปมา ดูหนาฟูและน่ามองมากเขายื่นมือเล็กๆ ออกมา ชี้ไปที่ตุ๊กตาดนตรี แล้วเริ่มพูดอ้อแอ้ที่ไม่มีผู้ใดเข้าใจ จากนั้นโบกมือเล็กๆ อย่างมีความสุข ราวกับกำลังเต้นรำกับตุ๊กตาดนตรียายหลี่เองก็มองดูของเล่นด้วยความประหลาดใจ “พระสนมเก่งกาจจริงๆ”อวิ๋นฉ่ายก็เดินมาดู จ้องมองที่ตุ๊กตาดนตรี ไม่รู้ว่าสิ่งนี้

    Last Updated : 2023-12-18
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 73 ตกใจหมดเลย

    “หา?”หลี่เต๋อฝูตกใจเล็กน้อย ฮ่องเต้นึกอย่างไรถึงจะเสด็จไปที่นั่นยิ่งพอนึกถึงเจ้านายในวังเย็นที่เหลือเพียงกระดูกไม่กี่ชิ้น กระดูกสันหลังของเขาก็เย็นวาบ“ฝ่าบาท สถานที่อย่างวังเย็นนั้นเป็นมลทิน พระองค์สูงศักดิ์บริสุทธิ์ อย่าไปเหยียบสถานที่เช่นนั้นดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้กล่าวเสียงเย็นเยียบ “โลกใบนี้มีคนตายไม่เพียงร้อยคนพันคน หากผีสางมีอยู่จริง คงมีอยู่เต็มทั่ววังหลวงแห่งนี้แล้ว” หลี่เต๋อฝูพอได้ยินวาจาของฮ่องเต้ ครานี้เย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง“ฝ่าบาท...”“มากความนัก!”เย่จิ่งอวี้แค่นเสียงต่อว่า แต่ตัวคนกลับขึ้นไปนั่งอยู่บนเกี้ยวแล้วขันทีน้อยเหล่านั้นแม้นจะกลัวจนตัวสั่ง แต่หากฮ่องเต้ต้องการเสด็จ พวกเขาก็ไม่กล้าขัดขวางพอมาถึงข้างกำแพงวังเย็น เสียงเห่าโฮ่งของไป๋เสวี่ยดังคราหนึ่ง แล้ววิ่งตรงไปที่ต้นไม้โบราณด้านล่าง เจ้าหมาตะกุยหญ้าบนพื้นแล้วมุดเข้าสวนไปเย่จิ่งอวี้คิ้วขมวดแน่น ตรัสกับหลี่เต๋อฝูว่า “เจ้าไปดูซิ” หลี่เต๋อฝูตามไปถึงข้างตัวไป๋เสวี่ย ทางไป๋เสวี่ยแยกเขี้ยวยิงฟันใส่หลี่เต๋อฝูจนเขาตกใจถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ทำให้เขาเห็นชัดขึ้นว่าตรงนั้นมีโพรงอยู่“ทูลฝ่าบาท ด้านหลั

    Last Updated : 2023-12-19

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1497 ตัดสินใจไม่ได้

    “ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1496 ความยึดติดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

    ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1495 อินชิงเสวียนข้าขอร้องเจ้า

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1494 ฆ่าข้าซะ

    “โอ๊ย พ่องเอ๊ย ตกลงมาเกือบตาย”ชายคนหนึ่งสวมกางเกงยีน เสื้อยืดสีขาว กำลังนวดหลังตัวเองอยู่ จากนั้นก็คลานลุกขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด“เย่จิ่งหลาน...เจ้าจะกลับไปจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานปีนขึ้นมาจากหลุม ตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า “อย่าเพิ่งฆ่าคน นางคือลั่วสุ่ยชิงจริงๆ”อินชิงเสวียนหยุดทันที นางไม่ไว้ใจคนอื่น แต่กลับไม่สงสัยในตัวเย่จิ่งหลานแม้แต่น้อย“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”เย่จิ่งหลานก็เดินตามหลังลั่วสุ่ยชิง ช่วยนางรักษาอาการบาดเจ็บของนาง“เรื่องมันยาวนะ ยัยบ้า เจ้ายังมีน้ำอีกไหม รีบเอาน้ำมาให้จอมยุทธ์หญิงลั่วดื่มเร็ว”“อ้อ”อินชิงเสวียนหยิบขวดพุวิญญาณออกมาหนึ่งขวด เย่จิ่งหลานก็เอื้อมมือไปหยิบมัน และส่งให้ลั่วสุ่ยชิงดื่มลั่วสุ่ยชิงนั่งขัดสมาธิทันที ปรับลมปราณ หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าของนางก็ดีขึ้นลิ่นเซียวกางนิ้ว กิ่งไม้ก็กลับมาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง“แม่หนูน้อย ข้าให้เวลาเจ้าพักแล้ว มาสู้กันใหม่!”เมื่อเห็นกิ่งไม้หลอมรวมเป็นปราณกระบี่ในมือของเขา อินชิงเสวียนก็รีบคว้าเขาไว้“อาจารย์ นี่คือมิตร”ลิ่นเซียวส่ายผมสีขาว แล้วมองดูนาง “มิตร?”อินชิงเสวียนดึงเขาออกไป“ก็คือพวกเราเอง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1493 วิธีคิดของลิ่นเซียว

    ในช่วงที่เกิดวิกฤติในต้าโจว ฝ่ายของเย่จิ่งหลานก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกันหลังอาหารเย็น เขาได้พูดคุยกับชิงผิงชิงอาน แต่กลับไม่สามารถหาสาเหตุได้ จึงเข้าสู่สมาธิอีกครั้งเข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิต แต่ก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าทั่วทั้งห้วงทะเลแห่งจิตเต็มไปด้วยหมอกสีดำ ลั่วสุ่ยชิงร่างเปลือยเปล่า นั่งขัดสมาธิอยู่ในค่ายกล ขยับมืออยู่ตลอดเวลา ลมปราณแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าในทันที!“แม่นาง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”เย่จิ่งหลานถามอย่างครอบงำมากลั่วสุ่ยชิงยังคงหลับตาแน่น มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก“นี่ ลั่วสุ่ยชิง เจ้าไม่เป็นไรนะ?”เมื่อเห็นนางมีท่าทางแบบนี้ เย่จิ่งหลานก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยในเวลานี้ เสียงสะท้อนที่ชัดเจนฟังดูเหมือนน้ำใสในห้วงทะเลแห่งจิตก็ตอบกลับมา“เย่จิ่งหลาน มาช่วยข้าที ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในต้าโจว แต่รู้สึกได้ว่าร่างกายของชิงฮุยอ่อนแอ แก่นวิญญาณของข้าได้กลับมาควบคุมร่างกายบางส่วนแล้ว เสี้ยววิญญาณนี้คือกุญแจสำคัญ ว่าเจ้าและข้าจะสามารถกลับไปได้หรือไม่”เย่จิ่งหลานได้ยินเสียงของลั่วสุ่ยชิงเป็นครั้งแรก จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น“เจ้าพูดได้แล้ว?”ลั่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1492 เขาเป็นคนบ้า

    ลิ่นเซียวตะโกนเสียงดัง ปราณกระบี่บนท้องฟ้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ปราณกระบี่นับพันรวมตัวกันในที่จุดเดียวอีก และปราณกระบี่สีทองก็เปล่งประกายด้วยแสงสีทองพร่างพราว เทียบเคียงกับความรุ่งโรจน์ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ปราณกระบี่อันทรงพลังสามารถสะเทือนขุนเขา สะท้านสวรรค์!ช่างเป็นกระบี่ที่น่าตกใจจริงๆ!ใบหน้าของชิงฮุยแสดงสีหน้าเคร่งขรึมเป็นครั้งแรกคนผู้นี้สมแล้วที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา!ปราณโคจรไปทั่วร่าง มีหมอกสีดำลอยขึ้นมาทั่วตัว ร่างนั้นปรากฏขึ้นในหมอกรางๆ ดวงตาทั้งคู่เกือบจะเสียตาขาวไปทั้งหมด ทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยชั้นสีดำ ซึ่งทั้งแปลกและน่าสะพรึงกลัว!เพียงชั่วพริบตา กระบี่ก็ร่วงหล่นและหมอกก็หายไปอากาศเงียบสงบอย่างน่าขนลุก ไม่มีเสียงใดๆ แม้แต่เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ที่โจมตีอินชิงเสวียนก็ยืนนิ่งในเหตุการณ์ ชิงฮุยค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากลิ่นเซียววางมือข้างหนึ่งไพล่หลัง ยืนตระหง่านต้านสายลมอินชิงเสวียนดีใจ สำเร็จแล้ว!นางรีบวิ่งไปหาลิ่นเซียว“อา...”“อาจารย์!”วินาทีต่อมา ความประหลาดใจของอินชิงเสวียนกลายเป็นความตกใจหน้าอกของลิ่นเซียวกลายเป็นสีแดงเลือด มีเล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1491 เทพกระบี่ลิ่นเซียว

    “อย่างเจ้าน่ะรึ?”ชิงฮุยขยับมือทำท่ามุทรา ครั้นแล้วนักพรตเทียนชิง เฮ่อยวน และเหมยชิงเกอก็ตีล้อมลิ่นเซียวทันที“อาจารย์ ท่านระวังด้วย พวกเขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว”ลิ่นเซียวแค่นเสียงอย่างเย็นชา ยกกิ่งไม้ในมือขึ้นสู่ท้องฟ้า มันได้กลายเป็นปราณกระบี่ขนาดใหญ่ ดูเหมือนว่าทั้งสามจะรู้ว่าสิ่งนั้นทรงพลังเพียงใด ท่าทางการโจมตีก็ช้าลงดวงตาทั้งคู่ของอินชิงเสวียนเบิกกว้าง ฉายแววปีติยินดีในใจ สมแล้วที่เป็นเทพกระบี่ ไม่ได้พบนานหลายเดือน ดูเหมือนทักษะกระบี่ของลิ่นเซียวจะก้าวหน้าขึ้นมากชิงฮุยเลิกคิ้วขึ้น“คิดไม่ถึงว่าในต้าโจวจะมีคนที่มีความสามารถเช่นนี้”เขาขยับนิ้วเล็กน้อย ทำท่ามุทราอีกครั้ง จากนั้นก็ส่งอีกหลายคนออกไปโจมตีลิ่นเซียว แรงกดดันของอินชิงเสวียนลดลงอย่างกะทันหัน ในใจรู้สึกเสียใจอย่างมากหากอดทนรออีกหน่อย คงไม่ต้องใช้รีบเรียกใบมีดทะมึนออกมา ตอนนี้ไม่สามารถเรียกมันออกมาได้แล้ว ได้แต่หวังว่าสหายชาวยุทธ์จะมาช่วยเหลือเขาในใจย่อมตระหนักดี ความคิดนี้เป็นไปไม่ได้ ชาวยุทธ์จำนวนมากมารวมตัวกันในเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง ยกเว้นลิ่นเซียวแล้ว จะหากำลังคนได้จากที่ไหนอีก จากนั้นก็เริ่มเป็นห่วง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1490 ผู้ช่วยที่คาดไม่ถึง

    อินชิงเสวียนยื่นมือออกไปเรียกพิณการเวก ใช้คลื่นเสียงหยุดการโจมตีของยอดฝีมือทั้งหลาย ชิงฮุยไม่ได้ลงมือใดๆ แต่กลับนั่งมองดูอย่างสงบอินชิงเสวียนรู้สึกกังวลและหงุดหงิด แต่คนที่อยู่ตรงหน้าล้วนเป็นเพื่อนสนิทและญาติของตัวเอง จึงไม่สามารถลงมือรุนแรงได้ แม้ว่าการใช้งานทักษะห้าสิบห้าสิบจะขยายเวลาออกไป แต่อย่างไรก็มีขีดจำกัด เมื่อหมดเวลาใช้งาน นางก็จะได้รับผลสะท้อนกลับเช่นกันนางต้องทำลายสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อตัวเองมากขึ้นเท่านั้นวินาทีถัดมา อินชิงเสวียนสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิงนางเห็นเฮ่อยวน เหมยชิงเกอ และนักพรตเทียนชิงทะยานเข้ามาหาตัวเอง โดยใช้เคล็ดวิชาลับของแต่ละสำนักในการโจมตีแสงสีขาวและสีม่วงสองดวงเกาะเกี่ยวพันกัน อินชิงเสวียนก็ถูกโจมตีบนไหล่ทั้งสองข้าง กระอักเลือดออกมา หน้าซีดเผือดเหมือนคนตายนับตั้งแต่ที่ข้ามภพมาถึงตอนนี้ นางต้องเผชิญกับอันตรายมากมาย แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่นางไม่มีความหวังที่จะมีชีวิตรอดเหมือนตอนนี้แม้ว่าตอนนี้นางจะเข้าไปในมิติได้ แต่จะมีประโยชน์อะไรล่ะ คนรักและญาติของนางล้วนกลายเป็นหุ่นเชิดของชิงฮุย หากนางถู

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1489 ใช้ไพ่ตายทั้งหมด

    หลังจากที่ชิงฮุยพูดจบ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านนอกลานบ้าน เจ้าสำนักเฮ่อ เซี่ยวอิ่นหวน ผู้อาวุโสสวี และเจ้าสำนักคนอื่นๆ ต่างก็ปรากฏตัวขึ้นที่ลานบ้าน“คารวะนายท่าน!”ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของอินชิงเสวียน ทุกคนโค้งคำนับ ซึ่งเป็นการคำนับที่ถ่อมตัวและให้ความเคารพสูงสุดชิงฮุยเป่าปากเป็นเสียงแหลมยาวอีกครั้ง ผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือ เย่จิ่งอวี้ เฮ่อฉางเฟิง ต่งจื่ออวี๋ และศิษย์รุ่นเยาว์เหมือนกับเก่อหงยวนอินชิงเสวียนแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เย่จิ่งอวี้สามีของนางกำลังโค้งคำนับให้ชิงฮุยแม้แต่อินชิงเสวียนเองก็รู้สึกเวียนหัว อยากจะคุกเข่าลงคำนับเขาเช่นกัน“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ชิงฮุยหัวเราะร่วนอย่างดุเดือด นี่เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของเขาเสียการควบคุม“ทุกสิ่งที่ข้าต้องการ จะเป็นของข้าในที่สุด ผลลัพธ์นี้ แม่นางอินพอใจหรือไม่”อินชิงเสวียนทั้งตกใจและโกรธ“วิกลจริต เจ้าควบคุมพวกเขาเหมือนหุ่นเชิดไร้อารมณ์ บ้านเมืองเช่นนี้ เจ้าได้ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร”ชิงฮุยยิ้มช้าๆ“ใครบอกเจ้าว่าข้าต้องการบ้านเมือง สิ่งที่ข้าต้องการนั้นมันสูงส่งและยิ่งใหญ่กว่านั้น”อินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “เจ้าต้องการอะไร หรือว่

DMCA.com Protection Status