แชร์

บทที่ 71 พยศเหมือนลา

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หลี่เต๋อฝูมาที่ประตูทันที ถลึงตามองและตำหนิว่า “บังอาจ ห้องหนังสือหาใช่สถานที่ที่เจ้าจะตะโกนโวยวายได้ไม่”

เซียงหลานผละตัวออกจากขันทีน้อยที่จับตัวนางไว้ คุกเข่าลงบนพื้นและโขกศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“หลี่กงกง ท่านช่วยรายงานฝ่าบาทให้ข้าทีเถิด ไทเฮากำลังสั่งสอนเจ้านายของข้า เจ้านายของข้าไม่ได้ทำผิดประการจริงๆ ฝ่าบาท โปรดช่วยเจ้านายหม่อมฉันด้วยเพคะ”

เย่ไห่ถังอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่จิ่งอวี้

“เสด็จพี่ใหญ่…”

เย่จิ่งอวี้เช็ดมือด้วยผ้าไหมและพูดอย่างใจเย็น “หลี่เต๋อฝู ตามไปดูซิ”

หลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและตอบว่า “พ่ะย่ะค่ะ”

เซียงหลานคำนับอย่างตื่นเต้น “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”

หลังจากที่ทั้งสองจากไปแล้ว เย่ไห่ถังก็ไม่รู้สึกอยากกินเปี๊ยะมันหมูอีก

“เสด็จพี่ใหญ่ น้องก็ต้องขอลาเช่นกัน”

“อืม เอาเปี๊ยะมันหมูพวกนี้ไปทั้งหมดด้วย อย่าลืมถวายให้ไท่เฟยบ้าง”

เย่จิ่งอวี้พยักหน้ากล่าวรับด้วยเสียงอ่อนโยน

เย่ไห่ถังคำนับเย่จิ่งอวี้และพูดอย่างมีความสุข “ขอบคุณเสด็จพี่ใหญ่ เช่นนั้นน้องก็ไม่เกรงใจแล้ว อวิ๋นเฟิง พวกเราไปกันเถอะ”

“เพคะ”

อวิ๋นเฟิงหยิบกล่องอาหารขึ้นมา แล้วเสี่ยวอานจื่อก็มองตาอว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
jing jai
อาหารฮ่องเต้เรียบง่ายมากกกก กินเหลือค่อยเอาไปแย่งไท่เฟ่ย บ่าวแอบกินค่อยให้ฮ่องเต้ อืมมมม..คนแต่งคนในวังกินเหมือนคนยากจนข้างนอกเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 72 ไปวังเย็น

    ยายหลี่พูดอย่างอ่อนใจ “ระยะนี้องค์ชายน้อยอารมณ์รุนแรงขึ้นมากเพคะ”“คงเป็นเหมือนพ่อสารเลวของเขานั่นแหละ”อินชิงเสวียนกินแตงโมไปสองชิ้น ในที่สุดก็รู้สึกเย็นลงไปบ้าง จากนั้นนางก็ถามด้วยความเป็นห่วง “พวกเจ้ายังมีของกินพอหรือไม่”อวิ๋นฉ่ายกล่าวด้วยใบหน้ามีความสุข “พระสนมไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างเพียงพอแล้ว สำหรับเนื้อ หม่อมฉันก็ทำเป็นเนื้อสับเก็บไว้ในน้ำเย็น เตรียมไว้สำหรับทำเกี๊ยวคืนนี้”อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ทำเกี๊ยวก็ดี ข้าก็อยากกินเกี๊ยวเหมือนกัน จริงสิ คืนนี้ข้าจะพักที่วังเย็น แล้วจะออกจากวังพรุ่งนี้เช้า”นางรับตัวเจ้าหมาน้อยมา เปิดปุ่มให้ตุ๊กตาดนตรีทำงาน แล้วตุ๊กตาดนตรีก็เปล่งเสียงเพลงและเริ่มเต้นรำเจ้าหมาน้อยถูกดึงดูดทันที ดวงตาสีเข้มของเขาเปิดกว้าง แพขนตาหนาราวกับพัดเล็กๆ ขยับไปมา ดูหนาฟูและน่ามองมากเขายื่นมือเล็กๆ ออกมา ชี้ไปที่ตุ๊กตาดนตรี แล้วเริ่มพูดอ้อแอ้ที่ไม่มีผู้ใดเข้าใจ จากนั้นโบกมือเล็กๆ อย่างมีความสุข ราวกับกำลังเต้นรำกับตุ๊กตาดนตรียายหลี่เองก็มองดูของเล่นด้วยความประหลาดใจ “พระสนมเก่งกาจจริงๆ”อวิ๋นฉ่ายก็เดินมาดู จ้องมองที่ตุ๊กตาดนตรี ไม่รู้ว่าสิ่งนี้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 73 ตกใจหมดเลย

    “หา?”หลี่เต๋อฝูตกใจเล็กน้อย ฮ่องเต้นึกอย่างไรถึงจะเสด็จไปที่นั่นยิ่งพอนึกถึงเจ้านายในวังเย็นที่เหลือเพียงกระดูกไม่กี่ชิ้น กระดูกสันหลังของเขาก็เย็นวาบ“ฝ่าบาท สถานที่อย่างวังเย็นนั้นเป็นมลทิน พระองค์สูงศักดิ์บริสุทธิ์ อย่าไปเหยียบสถานที่เช่นนั้นดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้กล่าวเสียงเย็นเยียบ “โลกใบนี้มีคนตายไม่เพียงร้อยคนพันคน หากผีสางมีอยู่จริง คงมีอยู่เต็มทั่ววังหลวงแห่งนี้แล้ว” หลี่เต๋อฝูพอได้ยินวาจาของฮ่องเต้ ครานี้เย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง“ฝ่าบาท...”“มากความนัก!”เย่จิ่งอวี้แค่นเสียงต่อว่า แต่ตัวคนกลับขึ้นไปนั่งอยู่บนเกี้ยวแล้วขันทีน้อยเหล่านั้นแม้นจะกลัวจนตัวสั่ง แต่หากฮ่องเต้ต้องการเสด็จ พวกเขาก็ไม่กล้าขัดขวางพอมาถึงข้างกำแพงวังเย็น เสียงเห่าโฮ่งของไป๋เสวี่ยดังคราหนึ่ง แล้ววิ่งตรงไปที่ต้นไม้โบราณด้านล่าง เจ้าหมาตะกุยหญ้าบนพื้นแล้วมุดเข้าสวนไปเย่จิ่งอวี้คิ้วขมวดแน่น ตรัสกับหลี่เต๋อฝูว่า “เจ้าไปดูซิ” หลี่เต๋อฝูตามไปถึงข้างตัวไป๋เสวี่ย ทางไป๋เสวี่ยแยกเขี้ยวยิงฟันใส่หลี่เต๋อฝูจนเขาตกใจถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ทำให้เขาเห็นชัดขึ้นว่าตรงนั้นมีโพรงอยู่“ทูลฝ่าบาท ด้านหลั

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 74 แคว้นยิ่งใหญ่ที่ลึกลับจากดินแดนตะวันออก

    ได้ยินดังนั้น อินชิงเสวียนรู้สึกผิดเล็กน้อยไม่ใช่ว่าท่านโหราจารย์ทำนายผิดหรอก แต่เป็นเพราะนางเปิดใช้น้ำพุวิญญาณให้เทน้ำฝนลงมาอย่างไม่ได้ตั้งใจแม้ว่านางอยากทำเรื่องดีๆ เพื่อประชาชนบ้าง ให้มีฝนตกลงมาเยอะหน่อย แต่คะแนนสะสมน้อยเกินไปจริงๆ ทั้งหมดก็แค่สองสามร้อยคะแนน แถมยังต้องแลกด้วยของใช้จำเป็นไปอีกไม่น้อย หากได้สักหมื่นสักแสนคะแนน ตีให้ตายอินชิงเสวียนก็จะปล่อยให้ฝนตกในต้าโจวสามวันสามคืนไปเลย แต่ตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วโชคดีที่เย่จิ่งอวี้ก็ออกราชโองการให้ซ่อมแซ่มทางน้ำ ผันน้ำจากทางใต้ไปทางเหนือ หากภารกิจนี้สำเร็จ ต่อให้เกิดภัยแห้งแล้งขนานใหญ่ขึ้นอีก ก็คงไม่ย่ำแย่เท่าสถานการณ์ในปีนี้พออินชิงเสวียนนึกถึงประชาชนข้างถนนที่สวมเสื้อผ้าไม่ครบชิ้น และพวกเด็กเล็กที่ผอมกะหร่องจนโตแต่หัว นางก็พอเข้าใจเย่จิ่งอวี้ที่เร่งรีบอยากให้เกษตรกรปลูกเมล็ดพันธุ์ให้ได้ไวๆ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน อาหารเป็นปัจจัยพื้นฐานในการต่อชีวิตของประชาชน มีเพียงให้พวกเขาได้กินอิ่มท้องก่อนเท่านั้น ถึงจะพูดเรื่องทำบ้านเมืองมั่งคั่งได้นึกถึงตรงนี้ อินชิงเสวียนอดร้อนใจขึ้นมาไม่ได้ตรงประตูวังหลวงมีม้าเตรียมไว้ให้พวกเขาส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 75 ผู้มีพระคุณ

    “คือว่า...ประการแรก ฮว๋าเซี่ยไกลเป็นพิเศษ ไปกลับหนึ่งหนอาจใช้เวลาตั้งหลายปี อีกอย่างก็คือ ฮว๋าเซี่ยตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกบนภูเขาเทพเซียน มีเพียงผู้มีวาสนาเท่านั้นที่จะไปถึง พี่ชายของข้าเองก็มิได้หาฮว๋าเซี่ยพบทุกครั้ง”อินชิงเสวียนเริ่มพูดไปเรื่อยอีกแล้ว ทว่าหานสือกลับเชื่อหากไม่เป็นเช่นนั้น ไม่มีทางที่เขาจะไม่เคยได้ยินอดไม่ได้พูดอุทาน “นึกไม่ถึงว่าบนโลกจะมีแดนสวรรค์เช่นนี้ หากยามนี้ข้าไม่ได้เป็นขุนนาง ข้าต้องไปทิศตะวันออกเพื่อค้นหาอย่างแน่นอน”อินชิงเสวียนมองดูสีหน้าโหยหาของผู้เฒ่าหานจึงรีบเอ่ยต่อ “ใต้เท้าหานดูแลการหาเลี้ยงชีพของราษฎร เป็นความหวังของราษฎรทุกคน นี่เป็นเรื่องใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด ท่านจะจากต้าโจวไปได้เช่นไร ฝ่าบาทต้องการใต้เท้า ชาวบ้านยิ่งต้องการท่าน”คำพูดของอินชิงเสวียนพลันทำให้รอยยิ้มเปื้อนเต็มใบหน้าของหานสือ“เสี่ยวเสวียนจื่อกงกงยกย่องเกินไปแล้ว นี่ล้วนเป็นหน้าที่ของข้า ต้องขอบคุณเมล็ดของเสี่ยวเสวียนจื่อกงกง เมื่อเป็นเช่นนี้ ราษฎรต้าโจวยิ่งไม่ต้องกังวลเรื่องท้องอิ่มร่างกายอุ่นแล้ว” อินชิงเสวียนเอ่ยด้วยใบหน้าถ่อมตน “ข้าน้อยเป็นส่วนเสี้ยวหนึ่งของต้าโจว ย่อมต้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 76 ร่างกายพิการแต่ปณิธานเด็ดเดี่ยว

    อินชิงเสวียนถือแตงโมเข้าห้องครัวใช้มีดตัดแบ่งเป็นหลายชิ้น แบ่งให้พวกเด็กๆ และฉินเทียนทั้งสามคนทุกคนล้วนไม่เคยเห็นแตงโมมาก่อน อดตะลึงไม่ได้เสี่ยวอานจื่อถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “นี่คือ...”“นี่คือแตงโมชองฮว๋าเซี่ย พวกเจ้ารีบชิมดูสิ ในบ้านเราเหลือไม่กี่ลูกแล้ว”พอทุกคนลองชิมไปหนึ่งคำ ดวงตาแต่ละคนเบิกกว้าง เพียงรู้สึกถึงรสชาติหวานเย็นไหลจากลำคอลงไป คล้ายกับทั้งร่างสดชื่นขึ้นไม่น้อยซานชิงอายุน้อย กินไปหนึ่งคำก็อดถามขึ้นไม่ได้ “ท่านพ่อ ทำไมข้าไม่เคยเห็นมันในบ้านเรามาก่อนขอรับ”ต้าฮวาลนลานรีบปิดปากซานชิง“อย่าพูดไร้สาระ พวกเราออกไปกินนอกบ้าน”อินชิงเสวียนเหลือบมองลูกสาวคนโตอย่างเห็นด้วย จากนั้นก็ยื่นแตงโมให้พวกเขาต้าฮวาใช้มือถือแตงโมไว้ เดินนำน้องชายทั้งสองคนไปยังกลางลานบ้านทั้งสามคนในห้องไม่ได้คิดอะไรมาก ที่สำคัญคือพวกเขาเองก็เคยได้ยินชื่อแคว้นฮว๋าเซี่ย ที่นั่นจะมีผลไม้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรฉินเทียนกินไปสองชิ้นแต่ก็ยังไม่หนำใจ เอ่ยขึ้นว่า “แตงโมนี้อร่อยมาก หากไม่ได้ตามเสี่ยวเสวียนจื่อมา จะไปกินแตงโมแสนอร่อยขนาดนี้ได้ที่ไหนกัน”เสี่ยวอานจื่อหัวเราะแห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 77 คำขู่ของเย่จิ่งเย่า

    อินชิงเสวียนพูดยิ้มแย้ม “วิธีการทำอาหารจากแป้งยังมีอีกมากมาย สามารถนึ่งเป็นซาลาเปา ห่อเกี๊ยว ทำเส้นบะหมี่ รอให้ข้าวสาลีสุก ข้าจะออกตำราเรียน สอนประชากรต้าโจวทำอาหารจากแป้ง”หานสือพยักหน้าหงึกๆ “เช่นนั้นก็ดีเสียจริง”ระหว่างพูดคุยก็กินเปี๊ยะหมดไปหนึ่งแผ่น เขาห่อที่เหลือในกระดาษอย่างระมัดระวัง เก็บซ่อนไว้ในอกเสื้อ เตรียมนำกลับไปให้ภรรยาและลูกชายลู่ทงหันหน้ามา เห็นหานสือรับของจากมืออินชิงเสวียนแล้วเก็บไว้ในหน้าอก เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ คิดว่าขันทีน้อยคนนี้กำลังติดสินบนหานสือ พรุ่งนี้เขามีฎีกาให้ถวายแล้วชั่วพริบตา ดวงอาทิตย์เคลื่อนย้ายไปทางตะวันตก ชาวนาลุกขึ้นมาหว่านเมล็ดพันธุ์หานสือตะโกนจากที่ไกลๆ “ใต้เท้าลู่ รีบลุกขึ้นเถอะ ทำงานเสร็จเร็วก็กลับบ้านเร็ว”ลู่ทงทำเสียงฮึดฮัดลุกขึ้นจากพื้น เด็กรับใช้สองคนตามข้าหลังเขาด้วยความกระตือรือร้น ทำงานกันจนดวงอาทิตย์ตกดิน หานสือถึงให้ทุกคนเลิกงานพักผ่อน“หมดวันแล้ว เสี่ยวเสวียนจื่อกงกงรีบกลับไปเถอะ”อินชิงเสวียนประสานมือคารวะ“ใต้เท้าหานทำงานหนักมาทั้งวันก็พักผ่อนเถอะ พวกเรากลับวังไปรายงานผลปฏิบัติงาน”หานสือหัวเราะเหอะๆ “ได้ หากมีวาสนาพว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่78 ป้ายทองอภัยโทษ

    อินชิงเสวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และตอนนี้เองเสี่ยวอานจื่อก็กลับมาจากข้างนอกแล้ว“มีเรื่องอันใดรึ”เสี่ยวอานจื่อกล่าวเสียงแหลมว่า “ไม่มีอะไร พวกเขาแค่คันไม้คันมืออยากลองเล่นสักตาสองตา แต่ข้าไม่เห็นด้วย เงินข้ายังต้องเก็บไว้ใช้ในยามแก่เฒ่านะ”อินชิงเสวียนทำเสียงจิ๊เย้ยหยัน เป็นถึงขุนนางของฮ่องเต้ แต่กลับกล้าเล่นพนันเช่นนี้ พวกขันทีน้อยเหล่านี้ช่างใจกล้ายิ่งนัก“คนที่มาหาเจ้าเมื่อครู่เป็นใครน่ะ”เสี่ยวอานจื่อทิ้งตัวลงบนเตียง กล่าวด้วยสีหน้าเพลิดเพลินว่า “เขาชื่อเสี่ยวฮว๋ายจื่อ เห็นเขาอายุยังน้อยเช่นนั้น แต่เขาก็เป็นคนเก่าแก่ในจวนรัชทายาทนะ”อินชิงเสวียนได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงเล็กน้อย หากเสี่ยวฮว๋ายจื่อผู้นั้นเป็นคนเก่าแก่ในจวนรัชทายาท นั่นก็หมายความว่าเย่จิ่งเย่าได้ซื้อตัวคนข้างกายของเย่จิ่วอวี้มาตั้งนานแล้วเช่นนั้นหรือหรือไม่ เขาก็เป็นหนอนบ่อนไส้ของเย่จิ่งเย่าความสัมพันธ์ในวังหลวงนั้นช่างซับซ้อนยิ่งนักในขณะเดียวกันก็ค่อนข้างกลัดกลุ้มใจเช่นกัน หากเขาเป็นคนเก่าแก่จริง เหตุใดถึงไม่ติดตามหลี่เต๋อฝูล่ะ“เมื่อก่อนเจ้าเองก็อยู่ในจวนรัชทายาทล่ะสิ ไม่เช่นนั้นหัวหน้าหลี่ก็คงไม่เลือกเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่79 ไม่เสแสร้งแล้ว ขอเปิดไพ่เลยแล้วกัน

    “แล้วเรื่องอื่นล่ะ”เย่จิ่งอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไร้ซึ่งอารมณ์และความรู้สึกคนผู้นั้นกล่าวเสียงต่ำว่า “ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้อันผิงอ๋องได้เจอกับเสนากวนเมิ่งถิง ตอนนี้ปลอมตัวเป็นขันทีไปที่ตำหนักฉือหนิง นอกจากนี้ กระหม่อมยังยึดจดหมายมาได้หนึ่งฉบับ เป็นจดหมายที่ตำหนักฉือหนิงส่งออกไปพ่ะย่ะค่ะ”เขาควักจดหมายนั้นออกมาจากหน้าอก ยื่นทูลเหนือหัวให้กับเย่จิ่งอวี้ด้วยความเคารพเป็นอย่างเย่จิ่งอวี้รับจดหมายนั้นมา แต่กลับไม่ได้ร้อนใจที่จะเปิดอ่านเขาใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางลูบเล่นอักษรที่ปิดผนึกอยู่บนจดหมายนั้น นัยน์ตาหงส์แคบยาวคู่นั้นเผยความเย้ยหยันเล็กน้อยคนผู้นั้นกล่าวถามว่า “จะให้กระหม่อมนำคนไปขับไล่อันผิงอ๋องออกจากวังหลวงหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”ดวงตาของเย่จิ่งอวี่เปล่งประกายขึ้น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่จำเป็น จับตาดูให้ดีก็พอ”“พ่ะย่ะค่ะ”รับสั่งเสร็จคนผู้นั้นก็ถอยไปก้าวหนึ่ง ก่อนจะอันตรธานหายไปจากตำหนักเฉิงเทียน เย่จิ่งอวี้ลุกจากตั่งฟูกนุ่ม ชุดคลุมยาวไหมสีขาวราวหิมะลากพื้น ขับให้ร่างของเขาดูสูงโปร่งเขาเดินไปที่โต๊ะทรงพระอักษร เปิดผนึกจดหมายฉบับนั้นออก ก่อนจะอ่านข้อความ

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1456 ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้

    “ได้ เช่นนั้นข้าจะทำนายดูอีกครั้ง”นักพรตเทียนชิงหยิบเหรียญอีแปะและกระดองเต่าออกมา เขย่าหกครั้ง ค่อยๆ จัดเรียงเหรียญทีละเหรียญ เขามองดูพวกมันอยู่ครู่หนึ่ง ลูบหนวดเคราแล้วพูดว่า “ภาพทำนายไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย คุณชายน้อยเย่...”“เป็นอย่างไรบ้าง เขากลับมาไม่ได้กระนั้นหรือ”อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจ“พูดยาก ทุกสิ่งในตัวเขาไม่แน่นอนมาก ดอกไม้ไม่ใช่ดอกไม้ หมอกก็ไม่ใช่หมอก เหมือนมองดอกไม้ในสายหมอก ยากที่จะเห็นภาพที่แท้จริง ข้าไม่เคยเห็นภาพทำนายเช่นนี้มาก่อน”นักพรตเทียนชิงมองดูเหรียญอีแปะด้วยสีหน้าประหลาดใจมากอินชิงเสวียนถอนหายใจ“เอาเถอะ ถ้าเขาสามารถกลับไปยังที่ที่เขาอยู่ได้จริงๆ ก็คงจะดี”เดิมทีเย่จิ่งหลานไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของยุคนี้มากนัก แทนที่จะเป็นแบบนี้ ไม่สู้ปล่อยให้เขาไปในที่ที่เขาต้องการไปดีกว่าเขาเป็นคนดี ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสร้างประโยชน์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้นักพรตเทียนชิงไม่ได้พูด บรรยากาศอึมครึมอยู่พักหนึ่งอินชิงเสวียนรู้สึกเศร้า จากนั้นทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาและถามว่า “ท่านนักพรตสามารถทำนายได้หรือไม่ว่าชิงฮุยอยู่ที่ไหน”นัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1455 การทดสอบของพ่อหนุ่มน้อย

    เมื่อเห็นชายคนนั้นอารมณ์ดีขึ้นมาทันที อินชิงเสวียนก็ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว“คุณบอกว่า...คุณชื่อเย่จิ่งหลานไม่ใช่เหรอ”ชายคนนั้นพูดเหมือนกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา “ใช่น่ะสิ ผมชื่อเย่จิ่งหลานแล้วมันขัดแย้งอะไรกับเรื่องที่ผมเป็นหมอล่ะ”เสี่ยวหลานหลานที่อยู่ข้างๆ สั่นศีรษะ พูดอย่างน่ารัก “ก็ไม่ขัดแย้ง”เย่จิ่งหลานยักไหล่“งั้นก็โอเคแล้วไม่ใช่หรือไง ในช่วงสองวันที่ผ่านมาผมอาจเกิดภาวะขาดสารอาหาร ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ขอบคุณสาวสวยคนนี้ที่ช่วยเหลือ เพิ่มเพื่อนในไลน์ได้ไหม”เย่จิ่งหลานสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แต่มันก็ว่างเปล่าเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง โทรศัพท์หายไปไหน“แล้วคุณรู้ไหมว่าคุณมาจากโรงพยาบาลไหน”“รู้...”เย่จิ่งหลานพูดขึ้นมาคำหนึ่ง และทันใดนั้นก็รู้สึกปวดหัวอีกครั้งเขาจำได้ว่าตัวเองถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล เหมือนจะไปคลินิกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ต่อมาก็ฝันอะไรตั้งมากมาย ในฝันเหมือนเขาจะกลายเป็นอ๋อง แล้วต่อมาก็ได้เป็นจอมยุทธ์เมื่อมองดูเตียงในโรงพยาบาลตรงหน้า จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริงขึ้นมาทันทีเขายกนิ้วขึ้นแตะหัวเตียง ผิวสัมผัสเย็นๆ บอกเขาว่าทุกสิ่งตรงหน้าเป็นเรื่องจริง แต

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1454 คนสวย คุณเป็นใคร

    เสี่ยวหลานหลานตะโกนอย่างตื่นเต้น “นั่นเขา!”อินชิงเสวียนพยักหน้า“ดูเหมือนเขาจะก่อเรื่องนะ”“ไม่เป็นไร ครอบครัวเราเป็นหุ้นส่วนกับคลับนี้”ในขณะที่เสี่ยวหลานหลานกำลังพูด ชายคนนั้นก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูหยุดไว้ข้างหลังเขาเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยสองหรือสามคน นอกเหนือจากการสวมใส่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงแล้ว คนเหล่านี้ยังมีใบหน้าที่บวมเป่งคล้ายหมูเหมือนกันด้วย“หยุดนะไอ้บ้านั่นให้ฉันที”“ไอ้พวกโง่ มัวยืนมองอยู่ข้างหลังทำไม เข้าไปเลย สั่งสอนบทเรียนให้กับไอ้หนุ่มหน้าขาวเนรคุณนี่หน่อยสิ”“ถอดขามัน แล้วทุบตีให้ตาย”มีบอดี้การ์ดหลายคนตามมาด้วย แต่ไม่มีใครกล้าขยับ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ประตูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกระแทกกระจกแตก ก็เข้าไปรุมทันทีชายคนนั้นยกมือขึ้นเนือยๆ บีบคอของคนหนึ่งในนั้นจนปลิว ไฝสีแดงระหว่างคิ้วยิ่งเด่นชัดและเป็นสีแดงสดใสมากขึ้นเรื่อยๆเขากดนิ้วอย่างแรง แต่คลับคล้ายคลับคลาจะได้ยินเสียงใครบางคนพูดว่า “เย่จิ่งหลาน เจ้าต้องไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ ตราบใดที่เจ้าไม่ผิด เราจะยืนหยัดเคียงข้างเจ้าเสมอ!เราคือใคร...?ชายคนนั้นเ

DMCA.com Protection Status